ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Holy สงครามแห่งแผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #14 : CHAPTER 14 : ฟอลค่อน

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 50


    ฟอลค่อน

            “อืม.... แค่กๆๆ

            “ที่นี่ที่ไหนคารินพูดพร้อมมองไปรอบๆ ห้องที่เธออยู่ดูคล้ายห้องขัง ข้างๆเธอมีพี่โฟร์นอนสลบอยู่ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย แล้ว...... เดี๋ยวก่อน ฉันโดนทรายดูดนี่นา แล้วทำไมคารินพยายามนึกเหตุการณ์ทั้งหมด

            “พี่โฟร์ ตื่นเถอะคารินเมื่อได้สติจึงพยายามปลุกโฟร์
       
            “อืม ที่นี่ที่ไหนโฟร์พูดแต่น้ำเสียงยังสลึมสลือ

            “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับพี่ แต่ดูเหมือนคุกนะครับเสียงใสๆของคารินพูดขึ้น แต่คำพูดของมันดูจะไม่เข้ากับหน้าตามันซะเลย

            “แล้วทุกคนล่ะพี่โฟร์พูดเมื่อเห็นว่ามีแค่พวกเค้าสองคนที่อยู่ในห้องขัง

            แอ๊ด

            เสียงของประตูชั้นนอกเปิดออกมา แสงจากด้านนอกเพียงเล็กน้อยเผยให้เห็นชายนัยตาสีน้ำตาลเหมือนเหยี่ยว ที่มีผิวขีเข้มแต่งกายด้วยชุดของคนพื้นเมืองที่ข้างตัวมีดาบที่ลักษณะเหมือนจันทร์เสี้ยว แต่โดยรวมจัดว่าหล่อทีเดียวแต่อายุคงไม่ต่างจากพวกเค้าซักเท่าไหร่ เค้าลากเก้าอี้เข้ามานั่งประจันหน้ากับโฟร์และคาริน

            “พวกเธอชื่ออะไรเสียงของชายคนนั้นพูดขึ้น

            “เพื่อนๆของฉันอยู่ที่ไหนคารินไม่ตอบคำถามแต่ยิงคำถามกลับแทน

            “เพื่อนๆ ของเธออยู่ห้องข้างๆชายคนนั้นพูดพร้อมชี้ไปที่กำแพงทางขวาแต่พวกเธออย่าหวังเลยว่าพวกเค้าจะมาช่วยพวกเธอได้ชายคนนั้นพูดราวกับรู้ถึงความคิดของพวกคาริน

            “รอบนี้มีผู้หญิงสองคน คงขายเอาไปเป็นทาสได้

            “หือ สองคนคารินพูดพร้อมทั้งหันไปมองพี่โฟร์ โฟร์ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ขยิบตาเล็กน้อย

            “ผู้ชายผมสีน้ำเงินคารินหันมามองชายคนนั้นเพราะเค้าพูดถึงอองรี ชายที่เธออยากพบมากที่สุด เค้าคงรักเธอมาก ขนาดจะตายอยู่แล้วยังร่ายเวทย์เพื่อช่วยชีวิตเธอคารินเมื่อฟังดังนั้นถึงกับหน้าขั้นสีทั้งอายและตื้นตันอืม.... น่าเสียดาย ถ้าต้องเอาไปเป็นทาสชายคนนั้นพูดพร้อมทั้งเดินออกไป

            “พี่โฟร์ พี่เป็นผู้หญิงเหรอคารินรีบเปิดบทสนทนาทันที

            “จะบ้าเหรอ ฉันเป็นผู้ชาย แต่คงเป็นเพราะหน้าฉันเหมือนผู้หญิงล่ะมั้งมันก็เลยคิดอย่างนั้นโฟร์ไขข้อค่อยใจให้กับคาริน คารินไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้าอย่างเหลือเชื่อ

            “พวกแกออกมาได้แล้วชายสองคนเดินเข้ามาดึงโฟร์และคารินออกจากห้องขัง

            “พวกแกจะพาเราไปไหนคารินพูดพร้อมพยายามขัดขืน

            “พวกเธอน่าจะดีใจนะท่านฟอลค่อนไม่ได้เรียกผู้หญิงเข้าห้องมาตั้งนานแล้วชายที่ดึงตัวคารินพูดพร้อมหัวเราะ และดึงคารินไปคนละทางกับพี่โฟร์ ถึงเธอจะพยายามขัดขืนแต่ก็ทำใม่ได้ เพราะคารินเองก็ยังไม่ฟื้นกำลัง

            จากที่เดินออกมาทำให้พอคาดการณ์ได้ว่าพวกเค้าคงอยู่ไต้ดิน เพราะรอบๆมีแต่ทราย คารินไม่ขัดขืนเท่าไหร่เพราะต้องการออมกำลังไว้สำหรับหนี พวกเค้าเดินมาถึงประตูห้องสีน้ำตาล ชายคนนั้นไม่พูดอะไรเพียงแต่เปิดประตูและดันคารินเข้าไปพร้อมทั้งปิดประตูทันที

            “อูย อะไรอีกล่ะเนี่ยคารินพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมองไปรอบๆ และพอจะคาดการณ์ได้ว่าเป็นห้องนอน แต่ของใครล่ะ

            “มาแล้วเหรอเสียงของชายหนุ่มที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ทำเอาร่างบางสะดุ้งตกใจ

            “อะ นายคารินพูดพร้อมชี้ไปที่ชายคนนั้น เพราะมันเป็นคนเดียวกับคนที่เข้ามาที่ห้องขังตอนแรก

            “ฉันชื่อฟอลค่อนฟอลค่อนเดินไปนั่งลงบนเตียง

            “แกจะทำอะไรฉันคารินเดินไปที่ประตู เมื่อลองบิดดูก็พบว่ามันล็อก

            “อย่าคิดหนีเลยดีกว่า ที่นี่อยู่ไต้ดิน ไม่มีหน้าต่างให้เธอหนีหรอกฟอลค่อนพูด พร้อมมองไปที่คารินเอาล่ะมานี่สิฟอลค่อนตบไปที่เตียงเป็นเชิงชวน

            “ไม่คารินตอบ เพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ามันไปนั่งตรงนั้น

            “มานั่งตรงนี้ ถ้าฉันไม่บังเอิญไปเจอเธอล่ะก็ พวกเธอคงกลายเป็นผีเฝ้าทะเลทรายไปแล้วฟอลค่อนพูดอีกครั้งคราวนี้เป็นเชิงสั่ง

            “ไม่เจ้าตัวดียังยืนกราน

            “เหรอฟอลค่อนหยิบแส้สีดำออกมา และสลัดไปรัดร่างของคารินมานอนบนเตียง

            “อ๊ากกก ปล่อยๆๆ ปล่อยน้าคารินตะโกนเสียงดัง

            “เงียบ

            “ไม่ ช่วยด้วยๆ

            “ใครจะมาช่วยเธอได้ฟอลค่อนพูดพร้อมขึ้นคร่อมบนตัวของคาริน

            “อย่านะๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะกัดลิ้นตายคารินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

            “แย่จังฟอลค่อนพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย และหยิบผ้าขึ้นมาอุดปากคาริน

            “อื้อ อื้อ อือ ออ

            “อย่างนี้ค่อยยังชั่วฟอลค่อนพูด พร้อมทั้งเริ่มดึงเอาเสื้อนอกของตัวเองออก และก้มลงประทับรอยจูบที่ซอกคอของคาริน ไล่ลงมาจนเกือบถึงเนินอก

            “อื้อ อื้อเสียงของคารินที่ไม่อาจรอดผ่านผ้าที่ปิดปากได้ ส่วนเจ้าคนถือดีที่มันคร่อมเธออยู่ก็เริ่มโรมเลียไปที่ร่างเธอ ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดียังไงแต่มันก็ไม่เอา

            อุแว้ อุแว้

            “หือ เสียงเด็กที่ไหนร้องฟอลค่อนพูดพร้อมทั้งลุกไปจากร่างของคาริน เค้าเดินออกไปจากห้องทิ้งให้คารินอยู่บนเตียงแต่ก็ยังถูกมัดอยู่

            คารินพยายามดิ้นขลุกขลักจนมันตกลงมาที่พื้นหวังจะหนีไปให้ได้ก่อนที่ฟอลค่อนจะกลับมา

            แอ๊ด

            เสียงเปิดประตูดังขึ้นซึ่งแสดงว่าฟอลค่อนกลับมาแล้ว เธอพยายามคลานออกไปจากเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ มันเป็นความกลัว ความกลัวที่มากกว่าความตาย

            “ไปทำอะไรอยู่ตรงพื้นเสียงของชายที่เธออยากพบมากที่สุด เสียงของคนที่เธออยากได้ยินมากที่สุด อองรี

            “มานี่ เดี๋ยวแก้เชือกให้อองรีแก้เชีอกออกจากมือและแกะผ้าที่ปิดปากออกมันทำอะไรเธอเมื่อแก้เชือกเสร็จอองรีก็ยิงคำถามทันที

            “เปล่าคารินพูดพร้อมทั้งลุกขึ้นมาแต่ก็ทำให้หน้าขาวๆของอองรีแดงขึ้นมา เพราะเสื้อของคารินมันถูกชีกขาดจนเห็นร่องอก

            “เฮ้ย  หันไปคารินรีบตะโกนไล่ ชายหนุ่มรีบหันไปทันที พร้อมหยิบเสื้อนอกของเค้ายื่นให้คาริน

            “ไอ้บ้านั่นอองรีสบทในลำคอไม่รู้ว่าหน้าแดงๆของเค้ามันแดงเพราะโกรธ หรือว่าเพราะอาย

            “เสร็จแล้ว เออ แล้วพวกแกหนีออกมาได้ยังไงน่ะคารินหันไปถามอองรี

            “ไปดูเองแล้วกันอองรีพูดพร้อมทั้งเดินนำออกไปจากห้อง

            สภาพที่คารินเห็นก็คือ ทารก...!!?? เต็มห้องไปหมด                                                             

            “นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นเนื่ยคารินหันไปถามอองรี แต่เค้าไม่ได้พูดอะไรเพียงชี้ไปที่โฟร์

            “พี่โฟร์คารินหันไปยังบุคคลที่สามที่นั่งอยู่ด้านบนโดยมีร่างของฟอลค่อนนอนสลบเลือดไหลอยู่

            “แหม อย่ามองพี่อย่างนี้ซิ แค่กลเม็ดเล็กๆน้อยๆ ใครจะไปนึกล่ะว่าพวกมันจะพาพี่มาคอยเสิร์ฟเหล้า พี่ก็เลยเอาน้ำในสายน้ำแห่งการเริ่มต้นผสมเข้าไปนิดหน่อย แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นแหละพี่โฟร์พูดด้วยรอยยิ้ม แต่ก็พอดีอีกล่ะที่พวกอองรี หนีจากการถูกขังออกมาได้และก็จัดการฟอลค่อนคนนี้พี่โฟร์ชี้ไปที่ฟอลค่อน

            รู้สึกว่าทีมของเราเนี่ยจะอันตรายทุกคนเลยแฮะ ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของคาริน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรอองรีก็เดินไปที่ร่างของฟอลค่อน

            “จะทำอะไรน่ะ สอบปากคำเหรอดันเต้เดินเข้ามาคุยกับอองรีที่ข้างตัวอองรี

            “ดีนะเนี่ยที่มันไม่พกอาวุทมาด้วย ไม่อย่างนั้นสงสัยจะจัดการยากกว่านี้นิโคไลท์พูดขึ้น

            “เฮ้ย นั่นแกจะทำอะไรน่ะดันเต้ตะโกนเสียงดังกับการกระทำของอองรี เพราะตอนนี้เค้ายกฟอลค่อนขึ้นมา และทำท่าจะซัดต่อ

            “พอแล้วล่ะอองรี ช่างมันเหอะคารินรีบพูดก่อนที่ฟอลค่อนจะไปพบยมบาลโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัว อองรีเมื่อได้ยินดังนั้นจึงปล่อยฟอลค่อนลงอย่างไม่เต็มใจนัก

            “อืมเสียงครางเบาๆของฟอลค่อนที่แสดงว่าเค้าตื่นแล้วอะไรกันเนี่ยฟอลค่อนตะโกนออกมาเสียงดังเพราะตอนนี้ถูกมัดและมีคนที่เค้าเคยจับไว้เป็นนักโทษนั่งมองเค้าอยู่

            “นี่ฟอลค่อน ฉันมีข้อเสนอให้นายคารินพูดเสียงใส ฉันปล่อยนายก็ได้ แต่นายต้องร่วมเดินทางไปกับฉันคำชวนของคารินถึงกับทำให้เพื่อนผงะออกทันที

            “เฮ้ย แกจะบ้าเหรอดันเต้อุทานเสียงดัง

            “ไม่กลัวว่าฉันจะหักหลังพวกเธอเหรอฟอลค่อนพูด

            “แต่มันน่าเสียดายนี่นา ฝีมืออย่างนายน่ะ ฉันยินดีจะเสี่ยงคารินพูดด้วยรอยยิ้ม

            “ฮะๆๆๆๆ ก็ได้ ข้าจะเดินทางไปกับพวกเจ้าฟอลค่อนระเบิดเสียงหัวเราะ

            “ว้าว ดีๆคารินอุทานเสียงดังด้วยความดีใจ

            “แต่... ขอเตือนไว้ก่อนนะ ถ้าแกทำอย่างวันนี้อีกฉันไม่เอาแกไว้แน่อองรีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ก็เป็นน้ำเสียงที่แสดงให้รู้ว่าเค้าไม่ได้ล้อเล่น อย่าลองดีถึงกับทำให้ฟอลค่อนขนลุกซู่

            “เออฟอลค่อนตอบเสียงฮ้วนๆ

            \"เฮ้ย\"ดันเต้ที่เดินไปดูโรงเก็บของอุทานเสียงดัง \"ลูกพ่อ\" ดันเต้หยิบดาบผ่ามิติออกมาจากกองผ้า

            \"ไหนแกบอกว่าบังเอิญไปเจอพวกเราไง\"คารินหันมาพูดกับมิทอส

            \"ที่บังเอิญน่ะ คือบังเอิญว่าพวกนายโดนฉันหมายตาตังหากล่ะ\"ฟอลค่อนรีบพูดเมื่อนิโคไลท์เปิดผ้าด้านในออก และเจอสกอร์เปี้ยนตัวเมียตัวนั้น \"อีกอย่างฉันก็ต้องไปเอายาที่ดินแดนนอกรีตเพื่อมารักษาลูกน้องฉันด้วย\"

            จะไว้ใจได้มั้ยเนี่ย สิ่งแรกที่อองรีคิด แต่ก็ไม่อยากขัดใจคาริน ก็อีกแหละต้องยอมรับในฝีมือมันเหมือนกัน เพราะถึงขนาดทำให้อองรีมีแผลอยู่ที่แก้มขวาได้ แต่การรักษาของพี่โฟร์ก็ถือว่าเนี้ยบมากเพราะไม่เหลือรอยแผลไว้เลย

            \"ฉันจะปล่อยนายล่ะนะ\"คารินพูด พร้อมถือมีดเดินไปต้ดเชือกที่ข้อมือของฟอลค่อน โดยที่มีอองรีมองอยู่อย่างระแวง

            \"เฮ้อ ค่อยยังชั่ว\"ฟอลค่อนลุกขึ้นยืนพลางบิดขี้เกรียจ

    \"แล้วพวกเธอจะไปที่ไหนกันล่ะ\"ฟอลค่อนเปิดประเด็นถามเมื่อนั่งลงบนสกอร์เปี้ยน

            คารินจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟอลค่อนฟังระหว่างที่เดินทางไปเมืองต่อไป ทั้งเรื่องที่ตนเองโดนพิษและเรื่องเวลาที่ต้องเดินทาง ซึ่งตอนนี้มันเหลือน้อยลงทุกที

        ....................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×