ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    creative การกลับมาของความรัก

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER11 : ความลับของวีนัส ความจริงอันแสนเศร้า

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 48


            นางฟ้าก้มหน้าเพ่งมองไปที่กล่องมันสีดำขนาด30*10ซม ขนาดไม่ใหญ่มาก พอที่จะถือไว้บนมือได้ นางฟ้าค่อยๆหมุนไปรอบๆจ้องตาเขม็งและก็พบรอยต่อรอบๆกล่องแต่เมื่อดึงแกะยังไงก็เอาไม่ออกทั้งยังไม่มีจุดไหนที่ดูเหมือนที่เสียบกุญแจได้เลย



            “อืมมม”นางฟ้าครางออกมาเล็กน้อย พร้อมทั้งหันมามองหน้าสีซีดของวีนัส “ไม่ยาก ๆ ๆ”



            “หือ”วีนัสครางอย่างฉงน



            “เห็นมุมทั้งสี่ด้านนี่มั้ย”นางฟ้าชี้ที่ไปที่มุมของกล่อง ซึ่งถ้าเกตุดีๆจะมีรอยขูดขีดเพียงเล็กน้อย



            “อืม”วีนัสตอบ



            “รอยประเภทนี้คงเกิดจากการที่ทำสร้างกล่องแน่นหนาเกินไป ทำให้เวลาเปิดและปิดมีการเสียดสีกัน แล้ว..ดูจากรอยคงจะไม่ใช่การเสียดสีแบบดึงเปิดแน่นอน”นางฟ้ายกกล่องขึ้นระดับสายตาและค่อยๆหมุนช้า เสียงกริ๊กดังออกทันทีที่กล่องขยับ นางฟ้ายิ้มยิงฟันเล็กน้อยก่อนที่จะลงมือหมุนต่อ ซึ่งภายในคือน็อตขนาดใหญ่ที่เชื่อมฐานกับตัวกล่องเอาไว้ นางฟ้าโยนฐานที่เป็นรูใหญ่ตรงกลางทิ้งไป และเริ่มมาสนใจตัวกล่องที่มีน็อตตัวใหญ่ติดอยู่ นางฟ้าเพ่งมองเล็กน้อยก่อนจะดึงน็อตพร้อมฐานไม้ออกอย่างง่ายดาย “เอาล่ะ ไหนดูสิว่ามีอะไรอยู่ด้านใน” ภายในกล่องมีกระดาษสีขาวถูกพับวางเอาไว้เพียงแผ่นเดียว



            วีนัสหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา เมื่อสัมผัสก็พบว่า มันไม่ใช่กระดาษมันเป็นผ้าที่มีรูเล็กๆเต็มไปหมด นางฟ้ารับผ้าผืนนั้นขึ้นมาดูเล็กน้อยก่อนจะหยิบปากกาออกจากกระเป๋า



            “ขอฉันดูหน่อยนะ”นางฟ้าพูดพร้อมทั้งขึงผ้าบนโต๊ะ นำปากกากดตามรอยผ้าที่ขาด ซักพักก็ได้แผนที่แสดงสถานที่ ที่คิวเรียกว่าบ้าน



            ……………………………..



            พวกเค้าทั้งห้ารีบตรงไปยังสถานที่แห่งนั้นทันที แต่ในใจของวีนัสก็ยังคงพะว้าพะวัง เพราะสถานที่แห่งนั้นเธอได้เผาทิ้งไปแล้วพร้อมกับร่างของคิว



            เมื่อมาถึงก็พบกับซากไม้ดำๆที่ดูแล้วไม่เหมือนร้านเหล้าหรือบ้านเลยแม้แต่น้อย วีนัสเดินเข้าไปเขี่ยกองไม้ดำๆผุๆนั้นซักพักในใจก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว



            นางฟ้ามองไปรอบๆเล็กน้อยพลันนัยตาก็ไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็น “วีนัสดูนั่น” วีนัสหันไปมองตามที่นางฟ้าชี้และพบแผ่นเหล็กสีดำที่มันเคยติดอยู่บนฝาผนังในร้านของคิว ด้านหลังมีข้อความบางอย่างซึ่งมีชื่อของเธออยู่



            ถึงวีนัส



            ถ้าเธอได้อ่านข้อความนี้ก็หมายความว่าฉันไม่ได้มีโอกาศได้บอกเธอด้วยตัวเอง ไปที่บ้านของเธอและจะพบแผ่นดิสก์สีน้ำเงินค้างอยู่เครื่องคอมที่ฉันเคยยกไปให้เธอเมื่อสามปีก่อน ภายในมีทุกอย่างที่เธออยากจะรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชาติกำเหนิด และสิ่งสุดท้ายที่พ่อแม่ของเธอเหลือเอาไว้ จำไว้ว่าอย่าไว้ใจใครนอกจากอีเกิ้ล



    ป.ล. สุดท้ายนี้ พ่อก็ยังรักลูกเสมอแม้ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร



            จากพ่อที่รักลูกเสมอ



            วีนัสกำกระดานสีดำนั้นแน่น เธออยากจะร้องไห้ออกมาเสียงดังๆ แต่น้ำตากลับแห้งเหือด



            นางฟ้ามองไปอีกด้านหนึ่งของท้องฟ้า “ฉันกลับก่อนนะ” นางฟ้าพูดขึ้นพร้อมทั้งโบกมือเป็นเชิงลา



            “ขอบคุณ”วีนัสหันมาพูดกับนางฟ้าที่ค่อยๆวิ่งหายลับตาไป “ขอบคุณค่ะ”



            “ไปกันเถอะ”อีเกิ้ลหันไปแตะบ่าวีนัส วีนัสพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมทำท่าจะเดิน



            RRRRRRRRRRRRRRRRRRRR



            โทรศัพน์ของวีนัสดังขึ้นทำให้พวกเค้าหยุดชะงักฝีเท้าลง แต่เมื่อก้มลงมองก็พบกับเมสเสจน์ของบอส ซึ่งเรียกตัวเธอให้เข้าไปในองค์กรเป็นการด่วน



            “เดี๋ยวฉันไปเอาแผ่นให้เองก็ได้ เธอเข้าไปก่อนเถอะ”อีเกิ้ลเดินออกไปทันทีที่พูดจบพร้อมกับโคและวาคิวลี่



            …………………………………….



            “บอสมีอะไรเหรอคะ”วีนัสพูดขึ้นทันทีที่ไปถึงทำให้บอสที่วันนี้ดูเนี้ยบมากกว่าทุกวัน บอสหันมายิ้มเล็กน้อย



            “มีพนักงานของเราคนนึงต้องการอัพเกรดระดับขั้นการทำงาน อยากให้เธอเป็นคนทดสอบ”วีนัสพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินออกไปโดยไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมที่วีนัสไม่เคยเห็น



            วีนัสหยิบปืนขึ้นมาวางข้างลำตัวขณะที่รออยู่ในห้องทดสอบการทดสอบคือ ถ้ารอดก็ผ่าน ถ้าตายก็จบ วีนัสไม่คิดอะไรอีกแล้วนอกจากต้องการให้มันจบลงให้เร็วที่สุด เธอค่อยๆหยิบหน้ากากแฟนท่อมขึ้นสวมตามธรรมเนียม



            คู่ต่อสู้เดินออกมาจากห้องฝั่งตรงกันข้ามใบหน้าถูกปิดมิดชิดแล้วยิ่งความมืดทำให้มองไม่เห็นหน้าฝ่ายตรงกันข้ามเลย แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกจากจะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด



            วีนัสหยิบปืนขึ้นและยิงมันออกไปอย่างรวดเร็ว ลูกปืนกระทบโดนบางอย่างทำให้มีเสียงแกร๊กแต่ไม่ใช่เนื้อมนุษย์แน่นอน มีไม่กี่คนที่หลบกระสุนของเธอได้ วีนัสหลี่ตามองไปรอบๆก่อนที่จะค่อยๆเก็บปืน



            คู่ต่อสู้กระโจนออกมาจากทางด้านหลังเธอแต่วีนัสเอี้ยวตัวหลบทัน ร่างของคู่ต่อสู้หายเข้าไปในความมืดอีกครั้ง วีนัสรู้สึกได้ถึงเลือดอุ่นๆที่ไหลออกมาจากข้างแก้มเธอ แต่ยังไม่ทันจะได้ยกมือขึ้นเช็ดคู่ต่อสู้ก็กระโจนออกมาด้วยความเร็วกวาดมือไปทางซ้ายทีขวาทีหมายจะโจมตีที่วีนัสแต่เธอก็เอี้ยวตัวหลบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่แล้วอยู่ๆร่างกายของเธอก็ขยับไม่ได้ ทำให้วีนัสรู้ตัวแล้วว่านี่คิดกับดัก วีนัสพยายามจะขยับให้หลุดจากอะไรบางอย่างที่หยุดเธอเอาไว้



            เหล็กแหลมพุ่งตรงออกมาจากความมือแทงเข้าที่หน้าท้องของวีนัส เลือดสีแดงไหลทะลักออกมาเธอรู้สึกได้ว่าเหล็กนั้นพุ่งทะลุท้องเธอไป และศัตรูไม่ได้มีคนเดียว คู่ต่อสู้อีกคนกระโจนใช้เล็กจิกไปที่หลังเธอและเกาะไว้อย่างนั้น



            วีนัสหอบหายใจอย่างเนื่อยอ่อน พรางก้มลงมองร่างตัวเองที่ไม่มีท่าทีว่าจะขยับ ศัตรูทั้งสองเดินไปรอบๆเธอเหมือนหยั่งเชิงแต่ก็ยังไม่ลงมือ



            วีนัสยิ้มออกมาเล็กน้อยซึ่งทำให้คู่ต่อสู้ทั้งสองชะงักอย่างตกใจเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ทำอะไร เลือดรอบๆตัวของวีนัสก็ค่อยๆรวมตัวพุ่งตรงปักอกของทั้งสองค้างเติ่งอยู่บนกำแพง ร่างทั้งสองดิ้นทุรนทุรายเล็กน้อยก่อนจะหยุดลงพร้อมกับลมหายใจ ร่างของวีนัสทรุดลงกับพื้นเธอค่อยๆดึงหน้ากากออกอย่าเหนื่อยอ่อน มองไปที่ร่างไร้วิญญาณทั้งสอง และพบว่าร่างนั้นยังเด็กอยู่เลยแต่ก็ต้องยอมรับในความสามารถ



            วีนัสเดินออกจากห้องไปโดยไม่ทันสังเกตุเห็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของชายที่เธอมันเรียกเค้าว่าบอส



            “ฮัลโหลอีเกิ้ลเหรอ มาหาฉันที่นี่นะ”วีนัสวางโทรศัพน์ลงทันทีที่พูดจบ พรางเพ่งมองบางอย่างที่อยู่ภายไต้ผิวของเธอ สายไฟระโยงระยางอยู่ไต้ก้อนเนื้อในร่างของเธอ สารเคมีสีเหลืองที่ปะปนอยู่กับเลือดสีแดง มันทำให้เธอแทบช๊อก ความเจ็บหายไปหมดเหลือเพียงความสงสัย เธอคือตัวอะไรกันแน่



            “วีนัส”อีเกิ้ลเปิดประตูเข้ามาแต่ก็ต้องตกใจกับสภาพของวีนัส และสายไฟที่อยู่ในร่างเธอ



            “นี่มันคืออะไรกันแน่”วีนัสตะโกนออกมาเสียงดัง แต่เมื่อสายตามาสะดุดกับแผ่นดิสก์สีน้ำเงินเธอก็รีบคว้ามันเสียบเข้าเครื่องคอมทันที



            ตัวหนังสือตัวเลขมากมายวิ่งลงมาเรื่อยๆ ความหมายของตัวหนังสือที่เธอกำลังอ่านอยู่มันแทบจะทำให้เธอแทบอ้วก เธอไม่ใช่มนุษย์แต่เธอเป็นหุ่นยนต์วีนัสก้มมองที่หน้าท้องตัวเองและพบว่าแผลเริ่มสมานกันจนผิดมนุษย์ วีนัสเพ่งมองมือตัวเองแล้วอะไรบางอย่างที่เธอลืมไปแล้วก็ค่อยๆหวนคืนมา



            “เรนดูแลน้องให้ดีๆนะ”เสียงของชายหนุ่มพูดขึ้น



            “พี่จ๋า ๆ ๆ”เด็กน้อยวิ่งเข้าหาร่างที่อยู่ในแคปซูล ร่างนั้นดูเด็กมากแต่ผมสีแดงนั้นคือวีนัสแน่นอน



            ภาพทั้งหมดวิ่งวนอยู่ในหัวของวีนัส ทันทีที่วีนัสนึกออกทั้งหมดน้ำตามากมายก็ร่วงพลูลงมาอย่างหยุดไม่อยู่



            “อีเกิ้ล วาคิวลี่อยู่ที่ไหน”วีนัสหันไปถามอีเกิ้ล

            “หือ วาคิวลี่เหรอ ก็กลับเข้ามาองค์กรก่อนฉันอีกนะ เพราะรู้สึกว่าบอสจะเรียกตัวเขามา” วีนัสก้มหน้าเล็กน้อยเหมือนคิดอะไรบางอย่างและรีบวิ่งออกไปทันที



            “วีนัส เดี๋ยวก่อนจะไปไหน”อีเกิ้ลวิ่งตามวีนัสออกไป



            วีนัสเปิดประตูเข้าไปและพบว่าห้องมืดสว่างเพราะแสงไฟแล้วรอยเลือดที่พื้นแสดงให้เห็นถึงการกำจัดศพของเด็กน้อยทั้งสองไปแล้ว วีนัสไม่รอช้าวิ่งตามรอยเลือดไปพบซุยสองคนกำลังลากศพของเด็กน้อยไปตามพื้น วีนัสวิ่งเข้าชกซุยทั้ยสอง



            “ไปซะ”เธอตะคอกออกมาเสียงดัง พร้อมทั้งทรุดตัวลงข้างๆร่างไร้วิญญาณทั้งสอง



            “นี่มันอะไรกัน”อีเกิ้ลถามด้วยความสงสัย



            “ได้โปรดเถอะขออย่าให้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลย”วีนัสยื่นมืออันสั่นเทาเข้าไปเปิดหน้ากากของเด็กน้อยทั้งสอง ภาพเบื้องหน้าหน้าของเธอทำให้ตัวเธอแทบช๊อก คนทั้งสองที่เธอฆ่าไปกับมือก็คือโคและวาคิวลี่



            “โค วาคิวลี่”อีเกิ้ลอุทานออกมาเสียงดัง “มันเกิดอะไรกันขึ้น”



            “ฉันฆ่าพวกเค้าเอง”น้ำตาของวีนัสไหลออกมาอย่างไม่หยุด ภาพเบื้องหน้าของเธอคือฝันร้ายฝันร้ายที่ตัวเธอเองจะไม่มีวันลืม ว่าวันนึงตนเองได้ฆ่าน้องสาวของตนเองที่ต้องการปกป้องด้วยมือของตัวเอง



            วีนัสเดินโซเซออกจากร่างไร้วิญญาณนั้นด้วยสายตาเหม่อลอย



            “วีนัสจะไปไหน”อีเกิ้ลพูดแย้งขึ้น “แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”



            “ฉันคือไซบอร์ตที่ได้รับการพัฒนาจากฝีมือของดอกเตอร์สองสามีภรรยา ลิเบอร์หนาด กับโจเซฟ ผู้คิดค้นพลังงานทดแทน วาคิวลี่หรือรินคือลูกสาวเพียงคนเดียวของเค้า เหตุผลที่พวกเค้าสร้างฉันก็เพื่อให้เป็นพี่เล็กเด็กของลูกสาวเค้า แต่คืนหนึ่งลิเบอร์หนาดถูกฆ่าตายด้วยพวกที่มีพลังอีทีเรียส โจเซฟจึงทำการทดลองสร้างอาวุทที่สามารถล้มล้างพลังงานของอีทีเรียสออกมา องค์กรต่างๆมากมายที่รู้ข่าวรีบตามล่าโจเซฟเพราะกำลังของอาวุทชนิดนี้จะทำให้อะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป เงินในตลาดหุ้นจะลดฮวบ การฆ่า การจ้างฆ่าจะจบลง พลังทั้งหมดจะหายไป แล้วนายคิดว่าองค์กรไหนจะเป็นเดือดเป็นร้อนมากที่สุด”

            อีเกิ้ลเหลือบสายตามองต่ำเล็กน้อยราวกับคิดอะไรบางอย่าง “องค์กรของเราเป็นศูนย์รวมพวกมีพลังอีทีเรียสแหล่งใหญ่ที่สุดในโลก”



            “ใช่แล้วล่ะ พวกนั้นส่งคนเข้ากวาดล้างอย่างเร่งด่วนโดยที่ไม่รู้ว่าอาวุธชนิดนั้นเป็นอาวุธประเภทไหนและลักษณะเป็นอย่างไร ข้อมูลก็โดนทำลายหมด โจเซฟก็ไม่ยอมปริปากบอก หัวหน้าหน่วยนั้นจึงตัดสินใจทำลายทั้งหมดแทนที่จะรู้เรื่องทั้งหมด แต่ก่อนหน้านั้นฉันกับรินหนีการจับกุมออกไปได้ แต่ด้วยกำลังของฉันในร่างที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ไม่สามารถช่วยโจเซฟไว้ได้แค่รักษาชีวิตรินก็เต็มกลืนแล้ว ฉันเลยตัดสินใจแยกไปคนละทางกับริน โดยใช้ตัวเองเป็นตัวล่อ และรินเองก็ไม่รู้ถึงการทดลองของโจเซฟจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ปัญหาคือข้อมูลทั้งหมดอยู่ภายในตัวฉันเอง ตอนแรกฉันก็กะไว้ว่าจะตั้งวงจรทำลายตัวเอง แต่ยังต้องดูแลรินในอนาคตอีกจึงจำเป็นต้องมีร่างกายต่อไป ฉันจึงตั้งวงจรลบความทรงจำของตัวเองทิ้ง โดยจะอาศัยระยะเวลาในการฟื้นและจะค่อยๆฟื้นมาในรูปแบบของความฝัน แต่ก็มีผลเสียอยู่ที่ความทรงจำในช่วงที่ลบความทรงจำอยู่จะขาดหาย และฉันก็ฆ่าคนที่ฉันต้องปกป้องด้วยมือของตัวเอง”วีนัสยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าเล็บสีแดงของเธอจิกลงไปบนเนื้อหน้า เลือดสีแดงไหลซิบราวกับต้องการลงโทษตัวเอง



            อีเกิ้ลเลื่อนมือสัมผัสมือของวีนัส “วีนั…เรน อย่าเสียใจไปเลย ฉันว่านะยังมีเรื่องอื่นที่เธอควรทำนอกจากทำร้ายตัวเองอีก”



            วีนัสหันมองหน้าอีเกิ้ลด้วยใบหน้าเปลื้อนน้ำตา ที่ปะปนกับเลือด “อะไร”



            “ทำความฝันสุดท้ายของโจเซฟให้เป็นความจริง”

                                 ...............................................................................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×