ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    creative การกลับมาของความรัก

    ลำดับตอนที่ #10 : CHAPTER10 : อีเกิ้ล ความลับ หญิงปริศนา

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 48


    CHAPTER10 : อีเกิ้ล ความลับ หญิงปริศนา



            อีเกิ้ลยืนอยู่หน้ารูปปั้นสีขาวที่เป็นป้ายหลุมศพของคนสองคนที่เค้ารู้จักเป็นอย่างดี เค้าก้มลงพรางหยิบดอกไม้สีขาวที่มันเฉาไปแล้วโยนทิ้งไปข้างทาง และวางดอกไม้ช่อใหม่ลงไปแทน



            “มาเร็วจังนะ”เสียงใสๆของหญิงสาวพูดขึ้น อีเกิ้ลหันไปมองตามเสียงและพบว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เจอกันบนรถเมย์



            “สลัดพวกเด็กๆหลุดไปแล้วเหรอ”อีเกิ้ลพูดขึ้น หญิงสาวคนนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อยเป็นคำตอบ



            “แต่ทางนายตางหาก ทั้งๆที่เก่งขนาดนั้นแต่ก็ยังมีคนตามมาได้เลยนะ”หญิงสาววางดอกไม้อีกช่อลงข้างๆดอกไม้ของอีเกิ้ล โดยไม่สนใจท่าทีตกใจของอีเกิ้ลเลยแม้แต่น้อย



            “หา.. คนตาม เหรอ”อีเกิ้ลอุทานอย่างตกใจพรางหันไปมองรอบๆ



            วีนัสเดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้ตรงไปยืนข้างๆอีเกิ้ลที่ทำหน้าตาเหลอหลาอย่างเหลือเชื่อ



            “เธอ..”อีเกิ้ลชี้ไปที่วีนัส “ฮะ ๆ ๆ ๆ เก่งจริงๆเลยนะ”อีเกิ้ลเสยผมพรางหัวเราะออกมาเสียงดัง



            วีนัสเหล่ไปที่สาวน้อยข้างกายของอีเกิ้ล หมวกสีดำและแว่นตาที่ปิดอยู่มิดทำให้ไม่สามารถเห็นสีผมและสีตาได้ทำให้ยิ่งดูลึกลับ และการเมคอัพซะหนาเตอะที่ดูเหมือนจงใจไม่ให้ใครจำได้นั่นยิ่งทำให้วีนัสอยากรู้ถึงใบหน้าภายไต้แว่นดำนั้น



            “จะไม่แนะนำให้รู้จักหน่อยเหรอ”วีนัสโพล่งขึ้นมาแต่สายตายังมองไปที่หญิงคนนั้นไม่วางตา



            “หือ...เธอน่ะ”หญิงคนนั้นชี้ไปที่วีนัส และมันทำให้วีนัสรู้สึกแย่ๆกับหล่อน “อยากจะรู้จักฉันจริงๆเหรอ สายตาเธอน่ะมันเหมือนอยากจะฆ่าฉันซะมากกว่านะ”หล่อนจิ้มไปที่อกวีนัสอย่างไม่กลัวเกรง



            “ไม่เอาน่า อย่ามาแกล้งลูกศิษย์ฉันสิ”



            “โห นี่แกกล้าสั่งฉันเหรอ”หญิงคนนั้นโพล่งออกมา “อย่างนี้มันต้องลงโทษ” หญิงคนนั้นกระโดดล็อกคออีเกิ้ลพรางขยี้หัวอย่างสนุกสนาน



            “อย่ามาแตะต้องอีเกิ้ลนะ”วีนัสโพล่งออกมาเสียงดัง พรางมองไปที่หญิงคนนั้นด้วยสายตาอาฆาตรแค้น หญิงคนนั้นหยุดมือมองวีนัสด้วยสายตางงๆ อีเกิ้ลก็ทำสายตางง ไม่แพ้หล่อน



            “อ้อ อย่างนี้นี่เอง”หญิงคนนั้นยิ้มออกมาพรางมองตรงไปที่วีนัสโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวต่อสายตาอาฆาตรของวีนัสเลย ซึ่งมันทำให้วีนัสอดตกใจไม่ได้



            “อย่างนี้ อะไร เธอหมายความว่าอะไร”วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงฉุนขาด



            “อ๊ะ...เปล่านี่ ไม่มีอะไร จริงมั้ยจ๊ะอีเกิ้ล”หญิงคนนั้นหันไปลูบตรงอกของอีเกิ้ลพรางพูดด้วยน้ำเสียงอันเซ็กซี่ “เราอุตส่าห์แอบมาพบกัน ดันมีตัวมารออกมาขวางได้ซะนี่”



            “หนอย ใครเป็นตัวมาร”วีนัสไม่รอช้าคว้าปืนประจำตัวยิงไม่เลี้ยง หญิงสาวยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยโดยไม่มีท่าทีจะหลบ



            วีนัสตกใจแทบช็อกเมื่อหญิงคนนั้นรับลูกปืนของเธอได้ด้วยมือเปล่า “เธอเป็นพวกอีทีเรียสเหรอ”



            “จุ๊ ๆ ๆ เธอพูดอะไรกันน่ะ ไอ้อีทีรง อีทีเรียสอะไรนั่นน่ะ ฉันก็ไม่เห็นจะเคยเป็นเลยนะ”หญิงคนนั้นหัวเราะออกมาเสียงดัง



            “ไม่เอาน่า อย่ามาแกล้งลูกศิษย์ฉันหน่อยเลย”อีเกิ้ลพูดขึ้นเพื่อห้ามทัพ



            “ฉันน่ะก็ไม่อยากจะสู้ต่อหรอกนะ แต่ดูเหมือนหล่อนน่ะจะไม่หยุดน๊า”หญิงคนนั้นชี้ไปที่วีนัสซึ่งมีท่าทางเดือดปุดๆ



            “ไม่เอาน่าวีนัส ทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อย ยังไงเธอก็สู้เค้าไม่ได้หรอก”วีนัสกระตุกคิ้วอย่างหัวเสีย พรางลมรอบๆตัวก็มารวมกันที่มือทั้งสองข้างของเธอ



            “โอโฮแฮะ ดูเหมือนจะไม่ยอมหยุดสินะ”อีเกิ้ลถอยออกมาจากวีนัส พรางหันไปมองหญิงสาวอีกคน “ออมมือหน่อยนะ อย่าให้ถึงกับบาจเจ็บล่ะ”



            “อีเกิ้ลคำพูดนั้นน่ะ สมควรจะมาบอกฉันต่างหากล่ะ”วีนัสหันไปตะคอกอีเกิ้ล เค้าไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะหลีกทางไห้



            “ฮื่อ ฮือ ฮื่อ” หญิงลึกลับฮัมเพลงออกมาอย่างสบายใจเย็น พร้อมทั้งยืนด้วยท่าทางสบายๆ พรางยิ้มออกมาอย่างสดใส และมันทำให้วีนัสฉุดขาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



            “ย๊า”วีนัสพุ่งตรงพร้อมหมัดในมือที่มีลมหมุนหมายจะกระแทกเข้าที่ข้างแก้มหนาเตอะนั้น



            “โอ๊ะ โอ๋ เก่งนิ”หล่อนยกมือด้านขวาคืนปัดมือวีนัสออกอย่างเบามือ



            วีนัสกระแทกมือทั้งสองข้างเร็วรัว แต่หล่อนกลับปัดออกไปอย่างไม่ยากเย็นนัก รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงอยู่เหมือนเดิม



            “วีนัสอย่าฉุนเฉียวสิ โจมตีสะเปะสะปะอย่างนั้นไม่มีทางโดนหรอกนะ”อีเกิ้ลส่ายศรีษะพรางทรุดตัวลงนั่งข้างๆป้ายหินนั้น



            “รู้แล้วล่ะน่า”วีนัสหยุดการโจมตีพรางจ้องเขม็งไปที่หญิงที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า



            หญิงคนนั้นรู้สึกถึงความผิดปกติจึงก้มลงมองที่ขาของตัวเอง และพบว่าหญ้ารอบๆขึ้นมาพันเท้าเธอจนแน่นหนาทำให้ขยับหนีไม่ได้



            “เล่นแรงจริงนะ”หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงขบขัน แต่ยังไม่มีท่าทีวิตกเลยแม้แต่น้อย



            แรงลมของวีนัสค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นลักษณะคล้ายดาบสองด้าม วีนัสพุ่งตรงเข้าโจมตีอีกครั้งด้วยความเร็วและแม่นยำที่มากกว่าเดิม แต่ก็ยังคงเป็นการโจมตีที่สูญเปล่าเหมือนเดิม เพราะไม่มีแม้แต่จะสัมผัสโดนวีนัสเลยแม้แต่น้อย



            “นี่ ๆ ๆ เธอน่ะเคลื่อนไหวมากไปรึเปล่าเดี๋ยวจะเหนื่อยเอานะ”หญิงคนนั้นหัวเราะออกมาเล็กน้อย ตอนนี้คงไม่ต้องบรรยายถึงอารมณ์ของวีนัสหรอกเพราะมันแทบจะระเบิดออกมาจะแย่อยู่แล้ว



            “โอโฮแฮะ แต่ต้องยอมรับเลยนะ ว่าเธอเนี่ยเก่งจริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะฉันคงจะเอาเธอเข้าพวกไปด้วยแล้วนะเนี่ย”หญิงคนนั้นก้มตัวหลบดาบลม



            จังหวะที่วีนัสหลบไปทางซ้ายอยู่ๆลักษณะของดาบก็เปลี่ยนไปพุ่งเข้าหาใบหน้าของหล่อยโดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัว



            แกร๊ก



            แฮ่ก ๆ ๆ ๆ



            แว่นตาดำหลุดหล่นลงกระทบพื้น พร้อมๆกับเสียงหอบเหนื่อยของวีนัส และกระแสลมที่ค่อยๆหายไป หญิงลึกลับยกมือขึ้นกุมใบหน้าของตนเอง ก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนมือออกเผยให้เห็นใบหน้าสีขาวปากสีชมพูจากเครื่องสำอาง และที่สำคัญที่สุดคือนัยตาสีแดงที่ดูเด่นที่สุด เพราะมันไม่ใช่สีของคอนแทกเลนส์มันคือสีตาจริงๆแต่รอยยิ้มก็ยังคงไม่หายไปจากใบหน้า



            “เก่งจริงๆเลยนะ”หญิงคนนั้นพูดขึ้นพรางถอดหมวกกำมะหยี่สีดำออก เผยให้เห็นผมสีแดงเพลิงที่ดูเค้มกว่าของวีนัส ช่างเป็นสีตาและสีผมที่ดูเซ็กซี่ แต่หน้าตาของหญิงสาวกับดูอ่อนซะยิ่งกว่าวีนัส “ถูกใจฉันจริงๆเลยนะเนี่ย”หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงสดใส



            “เธอน่ะฝีมือตก หรือว่าประมาทเนี่ย”อีเกิ้ลถามพรางเพ่งมองด้วยใบหน้าเบื่อหน่ายไปที่หญิงลึกลับ



            “แหม ๆ ๆ อย่าทำเหมือนฉันเป็นลูกศิษย์นะ”หญิงลึกลับพูดขึ้นพรางโบกมือเล็กน้อยเป็นเชิงขอไปที



            “เอาล่ะวีนัสเธอพอใจรึยังล่ะ”อีเกิ้ลหันไปถามลูกศิษย์สาว



            วีนัสทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน “อย่ามาพูดจา...ดูถูกฉันอีกนะ”



            “อะไรกัน ฉันพูดอย่างนั้นเหรอ”หญิงลึกลับอุทานเสียงดัง



            “ทั้งคู่นั่นแหละ”



            “เอาล่ะ ๆ จบการต่อสู้ไว้แค่นี้ดีกว่านะ”หญิงลึกลับพูด พรางเดินออกมาจากหญ้าที่พันเท้าอยู่อย่างง่ายดาย “คันเหมือนกันนะเนี่ย”



            “อะไรกัน”วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ



            “รู้ไว้นะวีนัสถ้าเพื่อนฉันเอาจริงเธอน่ะไม่รอดแล้ว จะสู้กับใครก็หัดประเมินเค้าเอาไว้ก่อนจะดีกว่านะ”อีเกิ้ลทำท่าทางสั่งสอน พร้อมๆกับที่หญิงลึกลับทรุดตัวลงนั่งข้างๆ



            “เธอน่ะ”วีนัสพูดขึ้นพรางหันไปมองหญิงที่นั่งข้างๆอีเกิ้ล “เป็นใคร และเป็นอะไรกับอีเกิ้ลกันแน่”



            หญิงลึกลับยิ้มออกมาเล็กน้อย “แหม ๆ ๆ เป็นอะไรกันงั้นเหรอ เอาเป็นว่าที่ต้นขาอ่อนด้านในของอีเกิ้ลน่ะมีไฝเม็ดใหญ่อยู่เม็ดนึงนะ... เธอเป็นภรรยาไม่รู้เรื่องนี้เหรอ” วีนัสหันไปมองอีเกิ้ลที่มีสีหน้าฉงน ด้วยสายตาเคืองๆ



            “ไม่เอาน่าเธอจะแกล้งวีนัสไปถึงไหน”



            “โธ่อีเกิ้ลล่ะก็ เราเคยอาบน้ำด้วยกันบ่อยๆไม่ใช่เหรอ นอนก็นอนห้องเดียวกันเตียงเดียวกัน”หญิงลึกลับทำท่าทางเขินอาย แต่วีนัสกลับทำสีหน้าโมโหสุดขีด



            “อีเกิ้ล”วีนัสหันไปตะคอกเสียงแข็ง



            “ไม่เอาน่าวีนัส นี่เธอเชื่อด้วยเหรอ”อีเกิ้ลโบกมือเล็กน้อย



            “นี่ ๆ ๆ หนูวีนัสจ๊ะ อีเกิ้ลน่ะเค้าไม่เคยนอนกับเธอเลยใช่มั้ย ก็เพราะว่าเค้ายังลืมผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ยังไงล่ะ”หญิงคนนั้นยังยั่วต่อไม่หยุด “แต่ถึงเธอจะโกรธจนอยากจะกระโจนเข้าชกหน้าของอีเกิ้ล เธอก็คงไม่มีแรงพอสินะ ฉันบอกแล้วว่าอย่าออกแรงให้มันมากนักเดี๋ยวจะหมดแรงซะก่อน” แต่ดูเหมือนคนที่วีนัสอยากจะกระโจนเข้าตะบันหน้าจะเป็นหญิงคนนั้นมากกว่า



            “เอาเถอะไหนๆก็มาเจอแล้วนี่ เห็นแก่ที่เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันมาช่วยมาเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้มั้ย”อีเกิ้ลหันไปพูดกับหญิงลึกลับเพื่อหยุดทัพ



            “แหม ๆ ๆ เห็นแก่ที่เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่หรอกนะ”หญิงคนนั้นพูดพรางมองไปที่วีนัสด้วยสายตาที่เหมือนกับได้ของเล่นชิ้นใหม่

            ........................................................



            อีเกิ้ลหยิบกุญแจไขประตูพร้อมทั้งฮัมเพลงออกมาเสียงเบาๆ



            วีนัสมองหญิงลึกลับที่วางมือแขนอยู่บนไหล่ของอีเกิ้ลอย่างถือวิสาสะด้วยแววตาอาฆาตร



            “กลับมาแล้วเหรอ”วาคิวลี่วิ่งตรงออกมาแต่ก็ต้องผงะอย่างตกใจ เพราะหญิงลึกลับคนนี้คือคนเดียวกับที่เธอสะกดรอยตาม    



            “สวัสดีจ๊ะ แม่หนูวาคิวลี่ อีเกิ้ลเล่าถึงเธอให้ฟังบ่อย”เธอยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ขอเข้าไปก่อนแล้วนะ”เธอเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาราวกับรู้เส้นทางในบ้านดี



            “อีเกิ้ล ทำไมเค้าถึงได้รู้จักเส้นทางในบ้านเราดีเหลือเกิน”วีนัสหันไปตะโกนใส่อีเกิ้ล



            “แหม ๆ ๆ ก็ฉันเป็นคนช่วยอีเกิ้ลเลือกบ้านนี้นี่นา”หญิงลึกลับหยิบรีโมทเปิดดูข่าวอย่างถือวิสาสะ “เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ฉันก็เป็นคนเลือกให้ และไม่ต้องพูดถึงเตียงนอนนั่นก็เป็นเตียงในแบบรสนิยมของฉัน และคืนนี้ฉันก็ต้องการจะนอนห้องที่ฉันเลือกและตบแต่งเองด้วย ได้มั้ยอีเกิ้ล”หญิงคนนั้นหันไปถามอีเกิ้ล วีนัสเองก็มองมาที่อีเกิ้ลเช่นเดียวกัน



            “ตามใจก็แล้วกัน”



            “ฉันจะนอนด้วย”วีนัสโพล่งขึ้นมาเสียงดัง    

            .................................



            “ฉันอาบน้ำก่อนนะ”หญิงลึกลับหยิบผ้าขนหนูตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ พร้อมกับชุดนอนที่อีเกิ้ลเตรียมเอาไว้ให้



            วีนัสมองตามหลังของหญิงคนนั้นไปเมื่อเห็นว่าหล่อนเข้าไปแล้วจังเริ่มเปิดบทสนทนากับอีเกิ้ล “อีเกิ้ลผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”



            อีเกิ้ลฝุบหน้าลงกับหมอนอย่างเหนื่อยอ่อน “เพื่อน”



            “เป็นเพื่อนที่รู้แม้กระทั่ง ที่อยู่ของไฝด้านในต้นขาอ่อนเนี่ยนะ”



            “ก็เป็นเพื่อนที่เคยอาบน้ำด้วยกันมาก่อนไงล่ะ ยัยนั่นก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ”



            “เพื่อนประเภทไหนเค้าอาบน้ำด้วยกันเล่า”



            “แต่ถึงจะอาบน้ำด้วยกันก็เป็นแค่เพื่อนแหละน่า”



            “อีเกิ้ลลุกขึ้นมาพูดกันก่อนสิ”วีนัสตีบนหลังอีเกิ้ลอย่างหัวเสีย



            “เอางี้แล้วกัน ยัยนี่เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งคู่ต่อสู้ที่เคี้ยวยากที่สุด เป็นเจ้านาย เป็นหัวหน้า เป็นพี่น้อง เป็นมันทุกอย่างในชีวิตฉันเลย บางเวลาทำตัวเหมือนเป็นเมียซะด้วยซ้ำ พอใจรึยัง”เสียงสุดท้ายของอีเกิ้ลฟังดูแผ่วเบา และตามมาด้วยเสียงหายใจเบาๆที่แสดงให้เห็นว่าเค้าหลับแล้ว



            วีนัสก้มหน้ามองพื้นราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง



            ผลั่ก



            โอ๊ย



            เสียงอีเกิ้ลร้องทำให้วีนัสหลุดออกจากพวังหันไปมองชายข้างกาย แต่พบเพียงแค่ท่อนขาขาวเนียนของสาวน้อยลึกลับทีสวนเสื้อเชิ๊ตยาวเพียงตัวเดียวทำให้เห็นสัดส่วยที่แลดูสวยงาม หน้าที่ถูกลบเมคอัพออกแลดูเนียนละเอียดสีขาวอมชมพู ปากแดงระเรื่อง



            “ทำอะไรน่ะ”อีเกิ้ลเกาะเตียงพยายามพยุงตัวขึ้นมา



            “เป็นผู้ชายก็ไปนอนพื้นสิ”หญิงลึกลับแย้งขึ้นมา “ไม่เห็นเหรอว่าเตียงมันพอสำหรับนอนสองคน”



            “แต่...”



            “ไปนอนที่พื้น”หญิงลึกลับยืนเท้าเอวเหลือบสายตามองด้านล่างมาที่อีเกิ้ล ด้วยท่าทางแล้วน้ำเสียงมีอำนาจ



            “เออ ๆ ๆ”อีเกิ้ลขดตัวนอนกับพื้นด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์



            “เอาล่ะมานอนตรงนี้สิจ๊ะ แม่วีนัสน้อยๆ”เสียงที่ทำให้ขนลุกของหญิงลึกลับทำให้วีนัสรีบวิ่งพรวดเพื่อไปอาบน้ำ



            วีนัสนึกถึงเรื่องต่างๆเกี่ยวกับอีเกิ้ลและหญิงคนนั้น อย่างเงียบๆในห้องน้ำ ปล่อยใจให้ไหลไปตามสายน้ำ แต่เมื่อเห็นว่ายิ่งคิดก็มีแต่จะวนอยู่ที่เดิม จึงตัดสินใจออกมาจากห้องน้ำ



            “เฮ้ออ”วีนัสถอนหายใจออกมาเสียงดังเมื่อนึกอยากจะถามคนทั้งคู่ที่รู้คำตอบก็ดันหลับกันไปหมดแล้ว จึงค่อยๆทรุดตัวลงนอนบนเตียงข้างๆหญิงลึกลับคนนั้น



            ............................................................



            แสงที่รอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้วีนัสพอจะรู้สึกตัวแล้วว่านี่มันเช้ามากแล้ว ร่างของชายหญิงทั้งสองที่มันควรจะอยู่ข้างๆเธอก็หายไปแล้วด้วย บางทีอาจจะตื่นก่อนเธอนานแล้วก็เป็นได้



            วีนัสเดินลงมาจากห้องด้วยท่าทางเหมือนคนยังไม่ตื่นดี หัวก็ยังฟูอยู่ แต่เมื่อลงและพบเท้าของใครบางคนวางอยู่บนโต๊ะรับแขก เมื่อเพ่งมองดูดีๆก็พบว่าอีเกิ้ลนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ส่วนพวกลูกศิษย์ทั้งสองดูเหมือนจะยังไม่ตื่น เสียงหม้อกระทบกันในครัวทำให้วีนัสหันไปสนใจ



            “หรือว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้น”วีนัสรีบเดินไปแอบด้านหลังกำแพง พร้อมทั้งหยิบมีดเล่มเล็กที่มักพกติดตัวเสมอออกมา วีนัสถอนหายใจเฮือกใหญ่เล็กน้อยก่อนที่จะปามันเข้าไปในห้องครัว



            ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาจากครัวจนทำให้วีนัสคิดว่าตนเองคิดไปเองเรื่องเสียง ผู้หญิงคนนั้นคงไม่อยู่หรือไม่ก็กลับไปแล้ว เธอเดินออกมาจากจุดซ่อนตัวแต่ก็ต้องตกใจเมื่อมีดเล่มเดิมพุ่งตรงเข้ามาถ้าไม่ใช่ว่าวีนัสได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีเธอคงโดนมีดเจอะหัวไปพบยมบาลก่อนแล้ว



            “บ้านนี้มีวิธีการทักทายตอนเช้ากันอย่างนี้เหรอ”เสียงทุ้มต่ำที่ฟังไม่คุ้นหูพูดขึ้น



            ชายในห้องครัวเดินออกมาผมสีน้ำเงินดูเตะตาเอามากๆและตาสีเขียวน้ำทะเลที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เธอเคยคิดว่าอีเกิ้ลมีร่างกายที่สูงและสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว แต่เมื่อมาเจอชายคนนี้ต้องยอมรับเลยว่า อีเกิ้ลไม่ใช่ที่สุด



            “ฉันถามเธออยู่นะ”เสียงของชายคนนั้นเรียกสตีของวีนัสให้กลับมาอีกครั้ง



            “ขอโทษ ฉันนึกว่า”



            “นึกว่าเป็นผู้หญิงเหรอ”อีเกิ้ลหันมาพูดด้วยน้ำเสียงขบขัน แต่ดูเหมือนชายอีกคนจะไม่นึกขำไปกับเค้าด้วย



            “แล้ว นายเป็นใคร”วีนัสพูดขึ้นอีกครั้ง



            “เพื่อนฉันเอง”อีเกิ้ลตอบแทน “อ้อ แล้วก็เป็นสามีของผู้หญิงที่เธอเกือบจะฆ่าด้วยมืดเล่มนั้นด้วยนะ”อีเกิ้ลหัวเราะออกมาน้อยๆ



            “สามี”วีนัสแทบไม่เชื่อสายตา หญิงสวยชายก็หล่อช่ายเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเหลือเกิน



            “ฮึ”ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเล็กน้อย “คนก่อนสวยกว่าเยอะนะอีเกิ้ล”วีนัสคิ้วกระตุกกับคำสบประมาทของชายที่เจอกันครั้บแรก “แถมยังมีมารยามมากกว่าด้วย”



            “ไม่เอาน่า อย่าเปรียบเทียบกันสิ อีกอย่างวีนัสไม่ใช่ภรรยาจริงๆซักหน่อย”อีเกิ้ลโบกมือแบบขอไปที



            “ก็ว่าอยู่”ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลน



            วีนัสมองอย่างเคืองๆพรางคิดในใจ ขอกลับความคิดที่บอกว่าสาวสวยกับหนุ่มหล่อ ช่างเป็นคนที่ปากเสียทั้งคู่ซะเหลือเกิน



            “นายเป็นอะไรไป”อีเกิ้ลหันไปถามชายแปลกหน้า “ปกติไม่เคยเป็นอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ”



            “นายคิดว่าจะให้ฉันญาติดีกับคนที่คิดจะปามีใส่ภรรยาฉันเนี่ยนะ”ชายหนุ่มไขข้อข้องใจ



            “ไม่เอาน่า วีนัสเค้าก็ขอโทษแล้วไงล่ะ อย่าถือสาเด็กมันเลยน่า”



            “ใครเด็ก”วีนัสตะคอกเสียงดัง “ดูๆ ไปนายก็น่าจะอายุพอๆกับฉัน”



            ชายแปลกหน้ายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย “ฉันอายุพอๆกับอีเกิ้ล ไม่ใช่เธอ”



            “แล้วพวกนายอายุเท่าไหร่กันเล่า”วีนัสอารมณ์ขาดผึงเธอไม่เคยเลยที่จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้อย่างนี้



            “2500 ปี”ชายหนุ่มวางแก้วกาแฟลงพร้อมๆกับทรุดตัวลงนั่งข้างๆอีเกิ้ล



            วีนัสคิ้วกระตุกอย่างหยุดไม่อยู่ “อย่ามาล้อเล่นนะ”



            “ฉันไม่เคยล้อเล่น และก็ไม่เข้าใจความหมายของมันด้วย”



            “เอาน่าๆ ๆ”อีเกิ้ลทำท่าจะห้ามทัพ “วีนัสเธอนี่จ้องจะทะเลาะกับเพื่อนฉันทุกคนเลยหรือไง”



            “ก็...”วีนัสหยุดฝีปากลงพรางทรุดตัวลงนั่งข้างๆอีเกิ้ลอีกด้านนึง



            “นี่เหรอที่ยัยนั่นบอกว่าน่าสนใจ ก็แค่ผู้หญิงจอมโวยวาย”ยัยนั่นที่ชายหนุ่มพูดถึงคงเป็นหญิงเมื่อคืน แต่นั่นไม่สำคัญเมื่อวีนัสถูกสบประมาทมันน่าโมโหยิ่งกว่า



            “แก..”วีนัสทำท่าจะลุกขึ้น



            “คราทานิ การติอุส”ชายแปลกหน้าพูดพำอะไรบางอย่างทำให้วีนัสไม่สามารถขยับได้



            วีนัสพยายามขยับตัวแต่ต่อให้ขัดขืนมากเท่าไหร่ก็รู้สึกว่าร่างกายมันไม่ขยับตามใจคิด



            “ไม่เอาน่า แกอย่ามาแกล้งลูกศิษย์ฉันสิเว้ย”



            “ถ้าหล่อนยอมอยู่เฉยๆ เงียบๆ ฉันจะปล่อย”อีเกิ้ลหันไปมองวีนัสราวกับต้องการคำตอบ



            “ก็ได้”ทันทีที่วีนัสพูดจบร่างกายของเธอก็ขยับเขยื้อนได้อีกครั้ง

            “ขอโทษ”วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆหลังจากที่นั่งเงียบกันมาสิบนาทีได้



            “อนุมัติ”ชายลึกลับพูดขึ้น



            “ถามอะไรหน่อยได้มั้ย”



            “อนุมัติ”



            “นายเป็นใคร”



            “เพื่อนอีเกิ้ล”



            “โอเค เปลี่ยนคำถาม มาทำอะไรที่นี่”



            “ฉันก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาก็อยู่ที่นี่แล้ว”



            “อ้าว????”



            “ฮะๆๆๆ”อีเกิ้ลหัวเราะออกมาเสียงดังฟังดูแล้วเหมือนกรบเกลื่อนซะมากกว่า “แกลืมไปแล้วเหรอว่า เมื่อวานนี้แกเดินมาเยี่ยมฉันอ่ะ” อีเกิ้ลยกมือขึ้นวางบนบ่าชายแปลกหน้า



            “อ้อ เหรอ แกช่างเป็นเพื่อนที่น่ามาเยี่ยมเหลือเกินนะ”ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น “แล้วมีเรื่องอะไรมาขอร้องอีกล่ะ”



            “ฮะ ๆ ๆ แกนี่รู้ทันฉันไปหมดเลยนะ”อีเกิ้ลหัวเราะออกมาเสียงดัง “แต่ที่ฉันอยากจะขอร้องน่ะไม่ใช่แกแต่เป็นเมียแก”



            “เหรอ”ชายหนุ่มพูดพรางหมุนแก้วกาแฟไปมา



            วีนัสเพ่งมองทั้งสองพูดคุยกันเธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นเด็กเมื่ออยู่กับชายหนุ่มสองคนนี้ รวมทั้งผู้หญิงคนเมื่อวานด้วย



            “เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละ”ชายหนุ่มพนักหน้าเล็กน้อยหลังจากที่อีเกิ้ลเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง



            “งั้นต้องรอแล้วล่ะ เพราะฉันเองก็ไม่คิดอยากจะช่วย”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง



            “วีนัสวันนี้เธอไม่ทำงานเหรอ”อีเกิ้ลหันไปถาม



            “ทำ…. แต่ตอนนี้ก็ห้าโมงแล้ว ขี้เกรียจไป”



            “งั้นฉันเข้าไปทำกับข้าวก่อนนะ”อีเกิ้ลพละลุกออกไปจากเตียง



            “ฉันก็ไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน”



            “ฉันไปล่ะ ง่วงนอน”ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมทั้งผละเดินออกไปก่อนวีนัส



            “เฮ้ออออ ทำไมมันเหนื่อบอย่างนี้นะ”



            “รุนหวัดพี่วีนัส”โคเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางง่วงงุน เสื้อผ้ายับยู่ยี่ พรางขยี้ตาไปมา



            “เออ”วีนัสเดินเข้าห้องไปอย่างฉุนเฉียว

            

            หือ มีบางอย่างผิดปกติ ทำไมโคเดินออกมาจากห้องวาคิวลี่ล่ะ หรือว่า…. ช่างเหอะ



            วีนัสใช้เวลาเล็กน้อยอาบน้ำแต่งตัวตามแบบที่เธอชอบคือชุดสีดำมันทั้งชุด



            “เสร็จแล้วเหรอ”อีเกิ้ลวางจากอาหารลงพรางเงยหน้ามองวีนัส

            “แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ”วีนัสถามพรางทรุดตัวลงนั่งตรงโต๊ะกินข้าว



            “กลับไปแล้วล่ะ เดี๋ยวเมียมันก็คงมาแทนเองแหละ”



            “แปลก”วีนัสมองผู้ตอบด้วยความฉงน “เป็นสามีภรรยากันแท้ๆ แต่ไม่เคยเห็นอยู่ด้วยกันเลย”



            “ผมก็คิดอย่างนั้นนะครับ”โคเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมจากข้าวที่เตรียมเอาไว้



            “ไม่มีอะไรหรอกน่า”อีเกิ้ลตอบแบบปัดๆ



            “อีกอย่างนะคะ”วาคิวลี่เดินตามโคออกมาพร้อมแก้วน้ำห้าใบ “พวกเราเองก็ยังไม่เคยรู้ชื่อนามสกุลของพวกเค้าเลย”



            “อืมมม อีเกิ้ล แล้วพวกนั้นน่ะชื่ออะไรกันแน่”วีนัสเอ่ยปากถามแต่ก่อนที่อีเกิ้ลจะได้มีโอกาศตอบเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น



            “อัลโลฮ่า”เสียงใสๆของหญิงสาวพูดขึ้น วันนี้เธอมาในชุดวันพีชสีขาวมีระบายรอบๆกระโปรง ด้านบนเป็นสายเดี่ยวเผยให้เห็นผิวขาวเนียน ผมสีแดงถูกรวบเป็นหางม้าไว้ทางด้านหลัง มือขวาของเธอถืออะไรบางอย่างที่ดูเหมือนถุงพลาสติกของร้านเสื้อผ้า



            “มาพอดีกินเลยนะ”อีเกิ้ลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน



            “แน่นอน”หญิงสาวเดินมาคว้าแขนของวีนัสอย่างถือวิสาสะ “เราไปด้วยกันหน่อยสิจ๊ะ แม่วีนัสน้อยๆ” หญิงลึกลับดึงวีนัสขึ้นบันไดไปโดยที่เธอไม่มีทางขัดขืนได้



            “พวกเค้าทำอะไรกันคะ”วาคิวลี่หันไปถามอีเกิ้ล เค้าไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยักไหล่เล็กน้อยเป็นคำตอบ



            “ยัยนั่นน่ะมันเผด็จการ”อีเกิ้ลตอบ



            “แต่ก็น่ารักมากๆเลยนะ”ทั้งอีเกิ้ลและวาคิวลี่หันไปมองใบหน้าเคลิบเคลิ้มของโค



            อีเกิ้ลหันหน้าไปอีกทางอย่างเอือมระอา ส่วนวาคิวลี่ล็อกคอโคพร้อมทั้งหมุนโดยมีโคทำสีหน้าเจ็บปวด “แกตาย น่ารักใช่มั้ย”



            “มาแล้ว”หญิงลึกลับวิ่บลงมาจากด้านบนพร้อมทั้งวีนัสในชุดสายเดี่ยวสีขาวและแจ๊กเกตบางๆทับอีกชั้น กระโปรงสั้นสีชมพูพริ้วไปมา เผยขาเนียนขาว ผมสีแดงถูกรวดครึ่งหัวไปไว้ทางด้านหลัง หน้าของเธอถูกตบแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆขับให้หน้าเธอเปร่งปรั่งมากขึ้นถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่าใบหน้านั้นบูดสนิท



            “น่ารัก”โคพูดขึ้นอีกครั้งในขณะที่มือของวาคิวลี่ยังล็อกคออยู่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แค่วาคิวลี่คนเดียวแล้วที่ทารุนร่างกายโค แต่รวมกับวีนัสด้วยที่พากันช่วยกระทืบโค



            “ไม่เอาน่าอุตส่าห์แต่งตัวน่ารัก อย่าทำอย่างนี้สิ”อีเกิ้ลพูดขึ้นเพื่อนห้ามทัพก่อนที่ลูกศิษย์หนุ่มของเค้าจะตายคาตีนของสองสาว



            วีนัสหยุดฝีเท้าลงเพ่งมองอีเกิ้ลที่หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานกับหญิงลึกลับที่กำลังหมุนตัวให้อีเกิ้ลดู หญิงลึกลับหันไปจ๊ะกับสายตาของวีนัสพอดีจนทำให้เธอต้องรีบหันหน้าหนี



            “กินข้าวกันดีกว่า”อีเกิ้ลพูดขึ้น



            การกินข้าวบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเรื่องเล่าที่ฟังดูเหลือเชื่อเช่นการพบกันครั้งแรกของอีเกิ้ลและหญิงลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือว่าโรงเรียนฟังดูแล้วเหมือนเรื่องที่แต่งขึ้นซะมากกว่า



            “แล้วเธอน่ะ จะบอกชื่อตัวเองได้มั้ย”วีนัสเปิดคำถามซึ่งเป็นคำถามเดียวกับที่โคและวาคิวลี่กำลังคิด



            “อืม ๆ ๆ เรียกฉันว่านางฟ้าก็แล้วกันนะ”นางฟ้าตอบอย่างขำขัน



            “นางฟ้า???” วีนัสขมวดคิ้วแทบจะชนกัน



            “ถ้าอยากรู้ชื่อจริงฉันเธอก็บอกชื่อจริงเธอมาก่อนสิ”นางฟ้าพูดขึ้น



            “ไม่รู้”คำตอบสั้นๆของวีนัสหยุดการสนทนาลง



            “อะ ขอโทษ ฉันลืมไป”นางฟ้าทำน้ำเสียงสำนึกผิด



            “เอางี้นะ เธอชอบใครมากกว่ากันล่ะ ระหว่างจอมเทพคาริน กับจอมปีศาจอองรี”นางฟ้ายิงคำตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส



            “ฉันเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้”วีนัสตอบพรางยกน้ำขึ้นดื่ม “อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่พวกแม่มด”



            “งั้น……เหรอ”นางฟ้ายิ้มออกมาเล็กน้อย



            ……………………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×