ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER4: โรเจอร์
CHAPTER4: โรเจอร์
        “ไปถนนไคลเวท42”วีนัสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทกับแท็กซี่ที่ดูมีท่าทีสนใจเธอไม่น้อย
        “คุณผู้หญิงครับ มืดๆค่ำๆอย่างนี้จะไปที่ไครเวททำไมเหรอครับ คุณไม่ทราบเหรอครับว่าที่นั่นโจรมันชุม”ชายที่ขับแท็กซี่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย หลังจากที่เคลื่อนรถออกมาได้ซักพัก
        “ไปเยี่ยมเพื่อน”วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงสงบพรางหยิบแว่นตาสีดำสนิทขี้นสวม “อย่าถามมาก”
        ชายขับแท๊กซี่ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นมีก็แต่เหลือบมองท่าทีแปลกๆของวีนัสแต่ก็ไม่นึกอยากถามเพราะแค่ตอนกลางวัลยังไม่มีใครคิดจะไปไคลเวทเลยที่สำคัญเธอก็ดูเหมือนไม่ใช่นักท่องเที่ยวคงไม่มีทางไม่รู้กิตติศัพท์ของซอยไครเวทแน่นอน
        วีนัสยื่นแบงค์พันให้คนขับอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งโบกมือเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนขับจะทอนเงินให้เธอ ชายคนนั้นพงกหัวเล็กน้อยก่อนที่จะรีบเร่งขับออกจากซอยนี้ทันที
        กลิ่นบางอย่างเน่าๆส่งกลิ่นฉุนไปทั่ว ก็เป็นธรรมดาล่ะที่จะไม่มีใครอยากมาที่นี่เพราะที่นี่ก็ถือเป็นสถานที่ทิ้งศพดีๆนี่เอง หากแต่คนเหล่านั้นถูกสังคมเรียกว่าแม่มดปีศาจ แต่สำหรับพวกเธอพวกเค้าคือคนที่น่าสงสารซึ่งตกเป็นเหยื่อของความทารุนและเหยียดหยาม วีนัสเพ่งมองกองศพกองใหม่ที่พึ่งถูกนำมาทิ้ง ใบหน้าของคนเหล่านั้นบิดเบี้ยวและแสดงสีหน้าเจ็บปวดดวงตายังคงลุกโพรงด้วยความกลัว
        น้ำเหนียวๆตามพื้นติดหนืดไปที่รองเท้าดำขลับของวีนัส หล่อนเดินโดยไม่สนใจน้ำหนองและเลือดที่เต็มไปทั่วทั้งพื้น พรางนึงถึงคำพูดที่บอสเคยบอกเธอไว้ คุกไครเวทก็เหมือนกับนรกสำหรับพวกเธอ จงอย่าแม้แต่จะคิดเข้าไปใกล้เด็ดขาด แต่สำหรับไครเวท42แล้วมันคือที่สำหรับทิ้งปีศาจที่ไม่มีแม้ความผิด ผิดก็แค่ผู้คนที่มีอำนาจมากกว่าเกรงกลัว ทำให้พวกเค้าต้องตาย
        วันัสหยุดฝีเท้าลงเพ่งมองไปยังจุดหมายของเธอตึกโทรมๆสีเทาที่ดูเหมือนจะเคยมีไฟไหม้มาก่อนก็แน่นอนล่ะเพราะที่นี่คือแหล่งรวมคนที่มีพลังพิเศษเรียกอีกอย่างว่าหมู่บ้านสำหรับพวกเค้า วีนัสเดินผ่านทางเข้าเข้าไปโดยไม่สนใจรายละเดียดและกลิ่นฉุนๆของแก๊ซพิษ วีนัสเป็นผู้หญิงที่ถือได้ว่ามีร่างกายที่อดทนต่อพิษได้มากที่สุด
        วีนัสเดินออกไปตรงเฉลียงด้านนอกในชั้น15 เพ่งมองตึกสูงทำด้วยกระจกทั้งตึกด้วยสายตาที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รอยยิ้มเย็นยะเยือกผุดขึ้นบนริมฝีปากของเธอ เธอผิวปากอย่างใจเย็นราวกับกำลังรอเวลา
        ฉับพลันดวงตาของเธอก็เห็นถึงเป้าหมายรถสีดำสนิทติดฟิมส์รอบด้านประมาณสี่ถึงห้าคันขับตรงออกจากตึกกระจกนั้น
        ---------------------------------------------------------------
        “งานที่สั่งให้ไปทำเสร็จแล้วใช่มั้ย”เสียงทุ่มต่ำของชายแก่ในชุดสูทสีดำใบหน้ามีร่องรอยแห่งความยินดี เค้าหยิบซิก้าออกมาสูบเพ่งมองไปยังชายที่เค้ากำลังพูดคุยด้วยซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเค้าเนื่องจากในรถมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเบาะรอบด้าน
        “จะไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของเราแน่นอนครับ”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เค้ารับซิก้าที่ชายแก่ยื่นให้อย่างนอบน้อม
        “คงต้องฉลองกันหน่อย”ชายแก่พูดขึ้นอีกครั้งหลังจากหยิบขวดไวน์สีดำสนิทที่มีป้ายติดไว้ว่า ปี1580 หลังจากรินลงแก้วไวน์สองใบเค้าก็ยื่นแก้วนั้นให้กับชายหนุ่ม ทั้งสองกินเหล้าด้วยสีหน้าปิติยินดีเป็นที่สุด
        “ของเก๊นี่นา”เสียงของหญิงสาวทำให้ชายที่อยู่ในรถผงะออกอย่างตกใจ วีนัสโยนขวดไวน์ลงออกจากหน้าต่างโดยที่ไม่สนใจสีหน้าตกอกตกใจของชายในรถ
        “แกเป็นใครน่ะ”ชายหนุ่มหยิบปืนขึ้นจ่อขมับวีนัสด้วยท่าทางตกใจ
        วีนัสไม่แม้แต่จะมองผู้ถามหล่อนหยิบซองสีน้ำตาลที่บอสให้ออกมาจากเสื้อนอก “นาย”วีนัสชี้นิ้วไปที่ชายแก่ “ชื่อโรเจอร์ใช่มั้ย”คารินเหลือบสายตาขึ้นมองเล็กน้อยพอเห็นใบหน้าที่สั่นหงึกๆเป็นคำตอบ  “ดี”วีนัสเก็บกระดาษพร้อมทั้งยัดมันกลับเข้าเสื้อนอกอีกครั้ง
        “แล้วเธอล่ะเป็นใคร”ชายหนุ่มยิงคำถามทันทีแต่วีนัสไม่มีท่าทีจะสนใจแม้แต่น้อย หล่อนก้มหน้าก้มตาเพ่งมองไปที่นาฬิกาด้วยสายตาเพ่งพินิจ “เธอมาทำอะไร และเข้ามาได้ไง” วีนัสเหลือบสายตาเย็นชาขึ้นมองชายคนนั้น
        “มาทำงาน”วีนัสตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
        “งานอะไร ไม่รู้เหรอว่าคุณโรเจอร์เป็นใคร”ชายคนนั้นเริ่มตะคอกเธอ
        “ฉันรู้ดีกว่านายก็แล้วกัน”วีนัสโบกมือขึ้นลงเล็กน้อยโดยไม่สนใจชายผู้ถาม
        “แก”ชายคนนั้นเหนี่ยวไกปืนด้วยโทสะแต่ก็ต้องพบว่าปืนของเค้าไม่มีไกปืนแล้ว วีนัสแย้มรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมเพ่งมองใบหน้าตกใจของชายหนุ่มหล่อนชี้ไปที่ชายแก่ทางด้านหลัง ชายหนุ่มหันมองตามนิ้วมือของวีนัส และพบว่าไกปืนของตนไปเสียบอยู่บนลูกกระเดือกของชายแก่ หน้าตาของชายแก่แสดงให้เห็นว่าเค้าตายอย่างไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
        อ๊อก
        ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงช่วงคอเมื่อหันมามองวีนัส หล่อนกำลังเช็ดเล็บที่เปลื้อนเลือดอยู่ด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมและเสียงหัวเราะอมสุข
        แก๊ก...ปัง
        เลือดสีแดงไหลพุ่งกระชูดจากคอเค้าไปทั่วทั้งคันทันทีที่วีนัสเดินออกมาจากรถ วีนัสผิวปากอบาๆเดินเยื้องย่างห่างออกจากรถ เพ่งมองสภาพของชายชุดดำนับสิบที่ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามโรเจอร์ แต่ตอนนี้พวกเค้านอนตายเกลื่อนด้วยสีหน้าเจ็บปวดและบิดเบี้ยว
   
        “ไปถนนไคลเวท42”วีนัสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทกับแท็กซี่ที่ดูมีท่าทีสนใจเธอไม่น้อย
        “คุณผู้หญิงครับ มืดๆค่ำๆอย่างนี้จะไปที่ไครเวททำไมเหรอครับ คุณไม่ทราบเหรอครับว่าที่นั่นโจรมันชุม”ชายที่ขับแท็กซี่พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย หลังจากที่เคลื่อนรถออกมาได้ซักพัก
        “ไปเยี่ยมเพื่อน”วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงสงบพรางหยิบแว่นตาสีดำสนิทขี้นสวม “อย่าถามมาก”
        ชายขับแท๊กซี่ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นมีก็แต่เหลือบมองท่าทีแปลกๆของวีนัสแต่ก็ไม่นึกอยากถามเพราะแค่ตอนกลางวัลยังไม่มีใครคิดจะไปไคลเวทเลยที่สำคัญเธอก็ดูเหมือนไม่ใช่นักท่องเที่ยวคงไม่มีทางไม่รู้กิตติศัพท์ของซอยไครเวทแน่นอน
        วีนัสยื่นแบงค์พันให้คนขับอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งโบกมือเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนขับจะทอนเงินให้เธอ ชายคนนั้นพงกหัวเล็กน้อยก่อนที่จะรีบเร่งขับออกจากซอยนี้ทันที
        กลิ่นบางอย่างเน่าๆส่งกลิ่นฉุนไปทั่ว ก็เป็นธรรมดาล่ะที่จะไม่มีใครอยากมาที่นี่เพราะที่นี่ก็ถือเป็นสถานที่ทิ้งศพดีๆนี่เอง หากแต่คนเหล่านั้นถูกสังคมเรียกว่าแม่มดปีศาจ แต่สำหรับพวกเธอพวกเค้าคือคนที่น่าสงสารซึ่งตกเป็นเหยื่อของความทารุนและเหยียดหยาม วีนัสเพ่งมองกองศพกองใหม่ที่พึ่งถูกนำมาทิ้ง ใบหน้าของคนเหล่านั้นบิดเบี้ยวและแสดงสีหน้าเจ็บปวดดวงตายังคงลุกโพรงด้วยความกลัว
        น้ำเหนียวๆตามพื้นติดหนืดไปที่รองเท้าดำขลับของวีนัส หล่อนเดินโดยไม่สนใจน้ำหนองและเลือดที่เต็มไปทั่วทั้งพื้น พรางนึงถึงคำพูดที่บอสเคยบอกเธอไว้ คุกไครเวทก็เหมือนกับนรกสำหรับพวกเธอ จงอย่าแม้แต่จะคิดเข้าไปใกล้เด็ดขาด แต่สำหรับไครเวท42แล้วมันคือที่สำหรับทิ้งปีศาจที่ไม่มีแม้ความผิด ผิดก็แค่ผู้คนที่มีอำนาจมากกว่าเกรงกลัว ทำให้พวกเค้าต้องตาย
        วันัสหยุดฝีเท้าลงเพ่งมองไปยังจุดหมายของเธอตึกโทรมๆสีเทาที่ดูเหมือนจะเคยมีไฟไหม้มาก่อนก็แน่นอนล่ะเพราะที่นี่คือแหล่งรวมคนที่มีพลังพิเศษเรียกอีกอย่างว่าหมู่บ้านสำหรับพวกเค้า วีนัสเดินผ่านทางเข้าเข้าไปโดยไม่สนใจรายละเดียดและกลิ่นฉุนๆของแก๊ซพิษ วีนัสเป็นผู้หญิงที่ถือได้ว่ามีร่างกายที่อดทนต่อพิษได้มากที่สุด
        วีนัสเดินออกไปตรงเฉลียงด้านนอกในชั้น15 เพ่งมองตึกสูงทำด้วยกระจกทั้งตึกด้วยสายตาที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รอยยิ้มเย็นยะเยือกผุดขึ้นบนริมฝีปากของเธอ เธอผิวปากอย่างใจเย็นราวกับกำลังรอเวลา
        ฉับพลันดวงตาของเธอก็เห็นถึงเป้าหมายรถสีดำสนิทติดฟิมส์รอบด้านประมาณสี่ถึงห้าคันขับตรงออกจากตึกกระจกนั้น
        ---------------------------------------------------------------
        “งานที่สั่งให้ไปทำเสร็จแล้วใช่มั้ย”เสียงทุ่มต่ำของชายแก่ในชุดสูทสีดำใบหน้ามีร่องรอยแห่งความยินดี เค้าหยิบซิก้าออกมาสูบเพ่งมองไปยังชายที่เค้ากำลังพูดคุยด้วยซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเค้าเนื่องจากในรถมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเบาะรอบด้าน
        “จะไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของเราแน่นอนครับ”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เค้ารับซิก้าที่ชายแก่ยื่นให้อย่างนอบน้อม
        “คงต้องฉลองกันหน่อย”ชายแก่พูดขึ้นอีกครั้งหลังจากหยิบขวดไวน์สีดำสนิทที่มีป้ายติดไว้ว่า ปี1580 หลังจากรินลงแก้วไวน์สองใบเค้าก็ยื่นแก้วนั้นให้กับชายหนุ่ม ทั้งสองกินเหล้าด้วยสีหน้าปิติยินดีเป็นที่สุด
        “ของเก๊นี่นา”เสียงของหญิงสาวทำให้ชายที่อยู่ในรถผงะออกอย่างตกใจ วีนัสโยนขวดไวน์ลงออกจากหน้าต่างโดยที่ไม่สนใจสีหน้าตกอกตกใจของชายในรถ
        “แกเป็นใครน่ะ”ชายหนุ่มหยิบปืนขึ้นจ่อขมับวีนัสด้วยท่าทางตกใจ
        วีนัสไม่แม้แต่จะมองผู้ถามหล่อนหยิบซองสีน้ำตาลที่บอสให้ออกมาจากเสื้อนอก “นาย”วีนัสชี้นิ้วไปที่ชายแก่ “ชื่อโรเจอร์ใช่มั้ย”คารินเหลือบสายตาขึ้นมองเล็กน้อยพอเห็นใบหน้าที่สั่นหงึกๆเป็นคำตอบ  “ดี”วีนัสเก็บกระดาษพร้อมทั้งยัดมันกลับเข้าเสื้อนอกอีกครั้ง
        “แล้วเธอล่ะเป็นใคร”ชายหนุ่มยิงคำถามทันทีแต่วีนัสไม่มีท่าทีจะสนใจแม้แต่น้อย หล่อนก้มหน้าก้มตาเพ่งมองไปที่นาฬิกาด้วยสายตาเพ่งพินิจ “เธอมาทำอะไร และเข้ามาได้ไง” วีนัสเหลือบสายตาเย็นชาขึ้นมองชายคนนั้น
        “มาทำงาน”วีนัสตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
        “งานอะไร ไม่รู้เหรอว่าคุณโรเจอร์เป็นใคร”ชายคนนั้นเริ่มตะคอกเธอ
        “ฉันรู้ดีกว่านายก็แล้วกัน”วีนัสโบกมือขึ้นลงเล็กน้อยโดยไม่สนใจชายผู้ถาม
        “แก”ชายคนนั้นเหนี่ยวไกปืนด้วยโทสะแต่ก็ต้องพบว่าปืนของเค้าไม่มีไกปืนแล้ว วีนัสแย้มรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมเพ่งมองใบหน้าตกใจของชายหนุ่มหล่อนชี้ไปที่ชายแก่ทางด้านหลัง ชายหนุ่มหันมองตามนิ้วมือของวีนัส และพบว่าไกปืนของตนไปเสียบอยู่บนลูกกระเดือกของชายแก่ หน้าตาของชายแก่แสดงให้เห็นว่าเค้าตายอย่างไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
        อ๊อก
        ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงช่วงคอเมื่อหันมามองวีนัส หล่อนกำลังเช็ดเล็บที่เปลื้อนเลือดอยู่ด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมและเสียงหัวเราะอมสุข
        แก๊ก...ปัง
        เลือดสีแดงไหลพุ่งกระชูดจากคอเค้าไปทั่วทั้งคันทันทีที่วีนัสเดินออกมาจากรถ วีนัสผิวปากอบาๆเดินเยื้องย่างห่างออกจากรถ เพ่งมองสภาพของชายชุดดำนับสิบที่ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามโรเจอร์ แต่ตอนนี้พวกเค้านอนตายเกลื่อนด้วยสีหน้าเจ็บปวดและบิดเบี้ยว
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น