NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารัก พยัคฆ์ร้าย (ฉบับปรับปรุงใหม่)

    ลำดับตอนที่ #5 : บัญชารัก พยัคฆ์ร้าย EP.05 หัวใจหวั่นไหวเพราะ (เจอ) เธอ (2) 100%

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 67


    กชกรชะงักเท้าลงฉับพลันเมื่อเห็นใบหน้าคุ้นเคยของใครบางคน นั่งอยู่ไม่ไกลจากประตูทางออก จากที่สังเกตดูเหมือนคนที่เธอคุ้นหน้าสภาพไม่ค่อยดีนัก แล้วยังมีผู้หญิงสองคนยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วย

    ธีรเดชหยุดเดิน แล้วมองไปยังตำแหน่งที่กชกรให้ความสนใจ เขาก็เห็นผู้ชายต่างชาติคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ แล้วมีผู้หญิงสองคนกำลังยืนคุยกัน จึงตัดสินใจถามออกไปด้วยความสงสัย

    หยุดเดินทำไมหยก” 

    หยกเจอคนรู้จักนะธี” 

    หยกมีเพื่อนคนอื่นนอกจากพวกเราด้วยเหรอ” 

    ไม่ใช่เพื่อนหรอกธี” กชกรตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งน้อยใจเล็กน้อย สี่ปีก่อนเขาพูดออกมาเองแท้ๆ ว่าจะดูแลปกป้องเธอ เขาจะเป็นพี่ชายให้เธอ หากเธอมีปัญหาอะไรก็ให้ติดต่อเขาทันที แล้วเธอก็ดันเชื่อในคำพูดนั้น สุดท้ายเธอก็ถูกเขาหลอก สิ่งที่เขาพูดมันเชื่อถือไม่ได้เลย เธอไม่มีทางเป็นเพื่อนกับเขาได้ อย่างมากก็เป็นได้แค่คนรู้จักกันธรรมดาเท่านั้น

    ไม่ใช่เพื่อน แล้วเป็นใคร” ธีรเดชถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

    หยกเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียว หยกเลยไม่แน่ใจว่าเขากับหยกเป็นเพื่อนกันไหม” 

    หยกพูดเหมือนน้อยใจเขาเลยนะ” 

    หยกไม่ได้น้อยใจ หยกก็แค่...” 

    ก็แค่...แค่อะไรล่ะหยก ยอมรับมาเถอะว่าหยกน้อยใจ” ธีรเดชพูดออกมาตรงๆ และดูเหมือนคำพูดเขาจะทำให้กชกรหน้าบูดขึ้นมาทันที คำพูดเขาคงจะกระแทกใจกชกรเข้าอย่างจัง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสัมผัสได้ถึงอารมณ์ขุ่นมัวในน้ำเสียงเธอด้วย เขามั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นต้องมีความหมายกับกชกร ถ้าไม่มีอะไรกันจริงๆ แล้วอารมณ์น้อยใจกับท่าทางไม่พอใจที่แสดงออกมาในขณะนี้ มันคืออะไร

    ปิ่นมณีมองเพื่อนสนิทอย่างพิจารณาพร้อมกับคิดทบทวนคำพูดของแฟนหนุ่มไปด้วย แล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่แฟนหนุ่มของเธอพูดจริงๆ เสียด้วย สีหน้าและน้ำเสียงแสดงออกถึงความน้อยใจสุดๆ หรือว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นจะเป็นคนที่เพื่อนสนิทของเธอเคยเล่าให้เธอฟังเมื่อหลายเดือนก่อน

    อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นคือ...พี่อเล็กซ์ของหยก’ ประภาวดีมองไปยังโต๊ะที่เพื่อนสนิทของน้องชายให้ความสนใจ แล้วสายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับฝรั่งหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง ด้านหน้าโต๊ะมีผู้หญิงสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่ เธอไม่รู้หรอกว่าสองสาวกำลังคุยเรื่องอะไรกันแน่ แต่ถ้าให้เธอเดาก็คงหนีไม่พ้นหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั่นแน่นอน

    กชกรนิ่งไปเมื่อเจอคำพูดแทงใจดำจากเพื่อนสนิท ถึงจะบอกว่าไม่ได้คิดอะไร แต่ลึกๆ แล้ว เธอก็น้อยใจเขาจริง หลอกให้เชื่อใจแล้วกลับมาทอดทิ้งกัน แล้วจะไม่ให้เธอเสียใจและน้อยใจได้อย่างไร

    ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่น้องหยกรู้จัก พี่ว่าน้องหยกควรพาเขากลับบ้านนะ ขืนปล่อยเขาทิ้งเอาไว้ที่นี่ เขาคงถูกผู้หญิงสองคนนั้นพาออกไปทำเรื่องไม่ดีแน่ๆ” 

    ไม่มีใครทำร้ายเขาได้หรอกค่ะพี่วดี ยิ่งใหญ่ซะขนาดนั้น แล้วเขาก็มีลูกน้องคอยตามประกบตลอดด้วย” 

    แต่พี่ไม่เห็นลูกน้องของเขาที่น้องหยกว่าเลยสักคนนะ” 

    ปิ่นว่าพวกเราอย่าเถียงกันดีกว่า หยกรีบเข้าไปช่วยเขาเถอะ ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้ เขาอาจถูกผู้หญิงสองคนนั้นลากออกไปจากผับเสียก่อน แล้วจะตามหาลำบากนะ” 

    ธีเห็นด้วยกับคำพูดของปิ่นนะหยก เลิกน้อยใจแล้วไปช่วยเขาก่อนดีกว่า” 

    หยกไม่ได้น้อยใจพี่อเล็กซ์นะธี” 

    พี่อเล็กซ์เหรอ?” ธีรเดชถามอย่างสงสัย สีหน้าแสดงออกถึงความอยากรู้ เพราะกชกรไม่เคยให้เกียรติผู้ชายคนไหนเลยสักคน แต่ผู้ชายต่างชาติหน้าตาดีคนนั้นกลับได้รับเกียรตินี้เป็นคนแรก การที่กชกรเรียกชื่ออย่างสนิทสนม เขามั่นใจว่า พี่อเล็กซ์’ คนนี้ต้องมีความสำคัญต่อหัวใจของกชกรไม่น้อยเลย

    พี่อเล็กซ์” ประภาวดีเลิกคิ้วมุ่นกับสรรพนามที่เพื่อนสนิทของน้องชายเอ่ยขึ้นมา แปลกมากๆ แปลกจริงๆ ซะด้วย สาวน้อยหน้าหวานคนนี้เรียกชื่อผู้ชายอย่างสนิทสนมเป็นครั้งแรก เห็นทีหนุ่มหล่อต่างชาติคนนั้นคงเป็นคนสำคัญสินะ สีหน้าและท่าทางลุกลี้ลุกลนของกชกร ยิ่งทำให้ปิ่นมณีมั่นใจว่าหนุ่มหล่อชาวต่างชาติคนนั้นคือคนที่เพื่อนเคยเล่าให้เธอฟังอย่างแน่นอน ว่าแต่เขามาทำอะไรที่เมืองไทยหรือว่าเขามาหาเพื่อนสนิทของเธอ จึงพึมพำเบาๆ ออกมาด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าและไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มล้อเลียนให้คนข้างๆ

    พี่อเล็กซ์ของหยก จริงๆ สินะ” กชกรถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเจอคำพูดและรอยยิ้มล้อเลียนของปิ่นมณี เรื่องที่เธอกับเขาเจอกัน มันก็ผ่านมานานแล้ว บางทีเขาคงลืมเธอไปแล้วก็ได้

    เขาไม่ใช่พี่อเล็กซ์ของหยกนะปิ่น พวกเราแค่คนรู้จักกันธรรมดาเท่านั้น หยกเคยบอกปิ่นแล้วไง หยกกับเขาเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เขาไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับหยก” 

    จะสำคัญหรือไม่สำคัญ พี่ว่าน้องหยกพาพี่อเล็กซ์ของน้องหยกกลับบ้านก่อนดีกว่า มีปัญหาอะไรกันก็เอาไว้ค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้ พี่ง่วงแล้ว ยังไงพี่ขอกลับก่อนก็แล้วกัน” ประภาวดีตัดบท หันกายเดินออกจากผับเป็นคนแรก เรื่องส่วนตัวของน้องๆ เธอไม่อยากเข้าไปยุ่ง ใครมีปัญหาอะไรกับใคร ก็ให้ไปเคลียร์กันเอาเองก็แล้วกัน

    กชกรถอนหายใจเล็กน้อย ขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่โต๊ะของอเล็กซิส ในใจก็คิดทบทวนคำพูดของพี่สาวเพื่อนสนิทไปด้วย ใจจริงเธออยากจะทิ้งเขาเอาไว้กับผู้หญิงสองคนนี้ด้วยซ้ำ แต่พอนึกถึงเรื่องที่ธีรเดชกับปิ่นมณีบอกก่อนหน้านี้ เธอก็อดเป็นห่วงความปลอดภัยของเขาไม่ได้

    เดี๋ยวหยกมานะ ปิ่นกับธีก็รอหยกอยู่ตรงนี้แหละ” 

    ได้สิ” ปิ่นมณีตอบ

    ถ้ามีปัญหาอะไรก็เรียกธีได้เลยนะหยก” ธีรเดชบอกกชกรอย่างเป็นห่วง

    อืม” กชกรตอบ พร้อมกับขาทั้งสองข้างก้าวเดินตรงไปยังโต๊ะที่อเล็กซิสและผู้หญิงอีกสองคนกำลังยืนสนทนากันอยู่ ทำให้เธอไม่รู้เลยว่าปิ่นมณีลากแฟนหนุ่มของตัวเองเดินออกไปจากผับแล้ว ทิ้งภาระเอาไว้ให้เธอจัดการด้วยตัวเอง

    อเล็กซิสเลิกสนใจสองสาวที่ยืนสนทนาตรงหน้าเขา ใบหน้าที่เคยเย็นชาเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง ขณะที่นัยน์ตาคู่คมกล้าพราวระยับเมื่อเห็นอดีตสาวน้อยหน้าหวานในความทรงจำเดินตรงเข้ามายังโต๊ะที่เขานั่งอยู่ ผ่านไปแค่สี่ปี กลับเปลี่ยนสาวน้อยคนนั้นให้กลายเป็นสาวสวย และน่าหลงใหลได้ขนาดนี้ได้อย่างไรกัน 

    ตอนที่สาวใช้ส่งรูปถ่ายของหญิงสาวมาให้เขา เพียงแวบแรกที่ได้เห็นรูปถ่าย หัวใจเขาก็พลันเต้นไม่เป็นจังหวะ กี่ปีแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกหวั่นไหว แค่รอยยิ้มอ่อนหวานและดวงตาคู่งามพราวระยับคู่นั้น เขาก็ตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง นึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่เขายกเบอร์ส่วนตัวให้หลานชาย ไม่อย่างนั้นเขาคงมาช่วยเหลือหญิงสาวได้เร็วกว่านี้

    กชกรเดินมาหยุดตรงหน้าอเล็กซิส นัยน์ตาคู่งามสังเกตสีหน้าและท่าทางที่ไม่ปกติของเขาอย่างเป็นห่วง เรื่องที่พี่สาวเพื่อนสนิทบอกก่อนหน้านี้เป็นจริงเกือบทุกอย่าง คนที่ส่งยิ้มมาให้เธออยู่ในสภาพมึนเมาจริงๆ แล้วเธอก็ไม่เห็นลูกน้องหรือบอดี้การ์ดของเขาเลยสักคน

    ทำไมถึงมาเที่ยวคนเดียวล่ะค่ะคุณอเล็กซ์ ลูกน้อง...เอ่อ...บอดี้การ์ดของคุณ หายไปไหนหมด” 

    พี่มาคนเดียวครับ” 

    คุณอเล็กซ์มาทำอะไรที่เมืองไทยค่ะ” 

    พี่อเล็กซ์ครับ ไม่ใช่...คุณอเล็กซ์ หนูหยกอย่าเรียกพี่ซะห่างเหินแบบนั้นสิครับ” บทสนทนาที่ดังแทรกขึ้นกลางคัน สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่นาลินกับพรเพ็ญอย่างมาก ทั้งสองมองหนุ่มหล่อชาวต่างชาติด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ความกลัวแล่นพล่านไปทั่วกาย เมื่อนึกถึงเรื่องที่พวกเธอคุยกันก่อนหน้านี้ พวกเธอมั่นใจว่าผู้ชายที่ยิ้มหวานให้กับผู้หญิงที่เดินเข้ามาหยุดบทสนทนาของพวกเธอคงได้ยินและเข้าใจเรื่องที่เธอคุยกันเกือบทั้งหมด ถ้าเป็นอย่างที่พวกเธอคิด คราวนี้พวกเธอคงตายแน่ๆ

    /////////////////

    อเล็กซิสฉีกยิ้มกว้าง มองใบหน้าสวยหวานซึ่งเต็มไปด้วยเย็นชา แต่นัยน์ตาคู่งามของเธอกลับมีแววน้อยใจเขาอยู่ไม่น้อย เขาเป็นคนผิดเองที่ไม่รักษาสัญญา หากตอนนั้นเขาเก็บเบอร์ส่วนตัวที่เคยให้เธอไว้ เรื่องคงไม่วุ่นวายถึงเพียงนี้

    หนูหยกกำลังน้อยใจพี่อยู่ ใช่ไหมครับ” 

    ฉันไม่ได้น้อยใจ” 

    แต่น้ำเสียงกับแววตาของหนูหยก มันแสดงออกมาชัดเจนเลยนะครับ” 

    ก็บอกแล้วไงคะ ฉันไม่ได้น้อยใจ...ว่าแต่คุณเถอะ...มาทำอะไรที่เมืองไทยกันแน่ แล้วสภาพน่าสังเวชนี่มันอะไรกัน นี่อย่าบอกนะคะว่าถูกสาวมอมเหล้าเพื่อลากคุณขึ้นเตียง” คำพูดของกชกร ไม่เพียงแต่ทำให้อเล็กซิสชะงักไป แต่ยังทำให้สองสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลอ้าปากค้างด้วยความตื่นตระหนก เพราะไม่คิดว่าผู้หญิงหน้าตาสวยหวานคนนี้พูดจาขวานผ่าซากขนาดนี้

    อเล็กซิสมองสาวน้อยที่น่าสงสารในอดีตด้วยแววตาเป็นประกาย สี่ปีที่ไม่ได้เจอกันทำให้สาวน้อยผู้น่ารักและอ่อนหวานของเขาเปลี่ยนเป็นคนเย็นชาได้อย่างไรกัน บางทีเขาคงต้องเริ่มสั่งสอนสองแม่ลูกนั่นจริงๆ จังๆ เสียที ขืนปล่อยเอาไว้ พวกหล่อนอาจกลับมาทำร้ายผู้หญิงของเขาอีกก็ได้

    พี่ขอตอบหนูหยกที่ล่ะเรื่องนะครับ เรื่องที่หนูหยกถามว่าพี่มาทำไมที่เมืองไทย พี่มาหาหนูหยก ส่วนเรื่องสภาพของพี่ในตอนนี้ หนูหยกคิดถูกแล้วครับ พี่ถูกสองสาวนี่มอมเหล้าจริงๆ พวกเธอกำลังจะลากพี่ขึ้นเตียง อ้อ...แล้วผู้หญิงสองคนนี้ก็ถูกจ้างมาเพื่อทำลายพี่ด้วย” คำตอบของอเล็กซิสทำให้กชกรต้องเลิกคิ้วมุ่นพร้อมกับหันมองสองสาวที่เขาเอ่ยถึง ก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องโดนมอมเหล้า ที่คิดไม่ถึงก็คือผู้หญิงสองคนนี้ถูกจ้างมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของเขา แต่ใครจะวางแผนทำลายเขาก็ไม่เกี่ยวกับเธอ สิ่งที่เธอควรตอนนี้ก็คือพาเขากลับบ้าน นี่ก็ใครเวลาผับปิดแล้ว

    พวกคุณมีปัญหาไหม ถ้าฉันจะพาผู้ชายคนนี้กลับบ้าน” 

    เอ่อ...ไม่มี/ไม่มี” สองสาวพูดออกมาพร้อมกันอย่างหวาดกลัว พวกเธอไม่ได้กลัวผู้หญิงหน้าหวานคนนี้ แต่พวกเธอกลัวผู้ชายที่นั่งฉีกยิ้มกว้างอยู่ในตอนนี้มากกว่า ถึงน้ำเสียงของเขาฟังดูนุ่มนวล หากแต่แววตาที่เหลือบมองพวกเธอกลับดุดันและเยียบเย็นจนทำให้ขนลุกชันไปทั้งตัว

    งั้นเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว แล้วคุณมาที่ผับได้ยังไง นั่งรถแท็กซี่หรือเช่ารถมาขับ” 

    ไม่ใช่ทั้งสองอย่างครับ พี่เอารถของนายพยัคฆ์มาขับ” 

    คุณมีเพื่อนที่เมืองไทยด้วยหรือคะ” 

    มีสิครับ แต่ตอนนี้หนูหยกช่วยพยุงพี่หน่อยสิครับ พี่เดินไม่ไหว” 

    ไม่ต้องมาสำออยเลยค่ะ หยก...เอ่อ...ฉันไม่ช่วยคุณหรอก” 

    พี่ไม่ได้สำออย แต่พี่ลุกไม่ไหวจริงๆ พี่โดนผู้หญิงสองคนนี้มอมเหล้านะครับ แค่พี่พยายามครองสติเอาไว้ ก็แทบแย่แล้ว ถ้าให้เดินออกไปจากผับคนเดียว คงไม่ไหว” 

    คุณนี่มัน...” กชกรพูดพลางส่ายหน้ากับท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงของอีกฝ่าย ดวงตาคู่งามมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาคู่อ่อนเชื่อมอย่างค้นคว้า ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปพยุงร่างสูงใหญ่ “ถ้างั้นพวกเราก็กลับกันเถอะค่ะ” เธอตัดบท แล้วเดินประคองอเล็กซิสออกมาจากผับ ขณะที่กชกรพยุงเขาออกไปจากผับ อเล็กซิสก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมามองสองสาวที่ถูกจ้างมาทำร้ายเขาแวบหนึ่ง และไม่ลืมที่จะแสยะยิ้มเหี้ยมให้ทั้งสองสาวอีกครั้ง แล้วหันหน้ากลับมาซบไหล่สาวน้อยที่ช่วยพยุงเขาออกจากผับ กชกรเดินประคองอเล็กซิสออกมาจากผับ เดินตรงไปยังลานจอดรถ กวาดสายตามองหารถที่อเล็กซิสขับมา รถของคุณจอดไว้ตรงไหนหรือคะ” เธอถามออกไป เมื่อคนที่เธอพยุงอยู่ เอาแต่เงียบ

    จอดเอาไว้ตรงโน้น” อเล็กซิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ไปยังจุดที่เขาจอดรถเอาไว้

    กชกรมองตามนิ้วที่ชายหนุ่มชี้ไป แล้วเธอก็พบรถสปอร์ตคันสีเหลืองจอดอยู่ไม่ไกล จากที่เธอยืนมากนัก รถสปอร์ตคันสีเหลืองใช่ไหมคะคุณอเล็กซ์” เธอถามย้ำเขาอีกครั้ง

    พี่อเล็กซ์ครับหนูหยก” อเล็กซิสเตือนความจำด้วยน้ำเสียงสั่นน้อยๆ ความร้อนรุ่มประหลาดเริ่มแผดเผาอยู่ในกาย ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันควัน เมื่อรู้ว่าตัวเองเจอเรื่องยุ่งยากให้เข้าแล้ว จึงเอ่ยอีกครั้ง “พี่ว่าพวกเรารีบกลับกันเถอะ” ผู้หญิงสองคนนั้นไม่ได้มอมเหล้าเขาอย่างเดียว แต่พวกหล่อนอาจวางยาเขาด้วย

    ก็รีบเดินสิคะ แล้วก็เลิกบ่นเสียที” 

    ครับๆ พี่ผิดเองที่บ่น พี่คงขับรถกลับไม่ไหว หนูหยกมีใบขับขี่หรือเปล่าครับ” 

    มีค่ะ” 

    นี่กุญแจรถครับ” แล้วยื่นกุญแจรถสปอร์ตให้กชกรทันที

    กชกรไม่ตอบ เพียงแต่ชะงักเท้าลง รับกุญแจรถสปอร์ตจากมาถือเอาไว้ ก่อนจะพยุงคนเมาเดินตรงไปที่รถ เธอปลดล๊อคเปิดประตูรถ ดันร่างสูงใหญ่เข้าไปในตัวรถ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จสรรพ ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกจากสถานบันเทิง 

    //////////

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×