บัญชารัก พยัคฆ์ร้าย (ฉบับปรับปรุงใหม่)

ลำดับตอนที่ #4 : บัญชารัก พยัคฆ์ร้าย EP.04 หัวใจหวั่นไหวเพราะ (เจอ) เธอ (1) 100%

“ไม่มีหรอกธี” 

“แต่เราว่ามีนะ” เขามั่นใจว่าแฟนสาวต้องมีเรื่องไม่สบายใจ และเรื่องที่ทำให้เธอไม่สบายใจ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของโยธกา “ปิ่นมีปัญหากับโยใช่ไหม” เมื่อช่วงเย็นโยธกาก็โทรศัพท์มาหาเขา แล้วก็โวยวาย คร่ำครวญเรื่องที่ปิ่นมณีไม่ยอมรับสายของตน เขาจึงโดนลูกหลงไปด้วย กว่าจะฟังเรื่องที่โยธกาคร่ำครวญจบ ก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมง

“ธีรู้ได้ยังไง” 

“โยโทรมาโวยวายกับเราเมื่อตอนเย็นน่ะสิ ปิ่นทะเลาะกับโยเหรอ?”

“ไม่ได้ทะเลาะกันหรอก แต่ทุกครั้งที่คุยกัน โยก็คุยแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น ที่น่าเบื่อไปกว่านั้นคือโยชอบพูดจาใส่ร้ายหยกตลอด เลยทำให้ปิ่นไม่อยากคุยกับโยอีก อีกอย่างโยเอาแต่ใส่ร้ายหยก หาว่าหยกหน้าด้าน คิดไม่ซื่อ คิดจะแย่งตรีไปจากตัวเอง ทั้งที่ความจริง หยกไม่ได้แย่งตรีไปจากโยเสียหน่อย ถ้าหยกชอบตรีจริงๆ หยกคงคบกับตรีไปนานแล้ว” 

ปิ่นมณีอธิบายถึงสาเหตุที่เธอไม่อยากคุยกับโยธกา ถึงมนตรีจะรักกชกร แต่กชกรก็ไม่ได้ชอบหรือพิศวาสมนตรีเลยแม้แต่น้อย ที่ผ่านมาเธอเห็นกชกรแสดงออกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว เธอเลยไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรโยธกาถึงพยายามหาเรื่องกชกรไม่หยุดเสียที

ธีรเดชหน้าเครียดขึ้นมาทันที เมื่อฟังเรื่องที่แฟนสาว เขาก็อดคล้อยตามคำพูดของเธอไม่ได้ ที่ผ่านมาเขาก็เห็นอยู่ตลอดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนตรี กชกรและโยธกา ความจริงแล้วโยธกาควรตัดใจตั้งแต่รู้ว่ามนตรีรักกชกร แต่นอกจากไม่ตัดใจแล้ว ยังพยายามเป็นศัตรูกับกชกรอีก ทั้งที่เป็นเพื่อนรักกันแท้ๆ ไม่น่าจะมาเลิกคบกันเพราะเรื่องผู้ชาย

“ขอโทษทีช้าไปหน่อย” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ธีรเดชกับปิ่นมณีต้องชะงักบทสนทนาลง แล้วหันไปมองเจ้าของเสียงที่เดินออกมาจากห้องนอน ธีรเดชเลิกคิ้ว มองชุดที่เพื่อนสาวใส่

“คิดยังไงถึงใส่ชุดแบบนี้นะหยก” 

“ชุดไม่สวยเหรอธี” 

“สวยแล้วก็เซ็กซี่มากเลยหยก แล้วก็โป๊ด้วย...ว่าแต่หยกคิดยังไงถึงใส่ชุดนี้” 

“พี่วดีเป็นคนเตรียมชุดให้หยกนะธี แล้วพี่วดีก็โทรศัพท์กำชับให้หยกใส่ชุดนี้ให้ได้ด้วย” 

“พี่วดีนะเหรอ?” ธีรเดชถามเพื่อความมั่นใจ อดสงสัยไม่ได้ว่าพี่สาวกำลังคิดอะไรอยู่ ก็รู้ๆ อยู่ว่ากชกรไม่เคยแต่งตัวล่อแหลมแบบนี้ แล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมพี่สาวถึงส่งชุดเกาะอกชุดนี้มาให้กชกรใส่ในคืนนี้

“ใช่สิ ถ้าไม่เพราะพี่วดีสั่ง หยกไม่มีทางใส่ชุดแบบนี้หรอก” กชกรพยักหน้าตอบ ขณะก้มมองชุดเกาะอกที่อยู่บนตัวของเธอ จะว่าไปแล้วชุดนี้ก็ดูโป๊อย่างที่ธีรเดชบอกจริงๆ นั่นแหละ แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อพี่วดีเป็นคนสั่งแกมบังคับให้เธอใส่ขุดนี้

“ปิ่นว่าพวกเราไปกันได้แล้ว ป่านนี้พี่วดีคงไปถึงที่ผับแล้ว” 

“ธีกับปิ่นไปรอที่รถก่อนนะ เดี๋ยวหยกตามไป” 

“ได้” ธีรเดชตอบ “ไปกันเถอะปิ่น” แล้วหันมาชวนแฟนสาว

“...” ปิ่นมณีไม่ตอบ แต่เดินออกมาจากบ้านเพื่อนสนิท ไม่ลืมที่จะลากแฟนหนุ่มให้เดินตามเธอออกมาด้วย

กชกรเดินกลับไปปิดไฟ ตรวจความเรียบร้อยภายในบ้านอีกครั้ง ก่อนล๊อคบ้านแล้วรีบเดินมาขึ้นรถ ซึ่งธีรเดชกับปิ่นมณีนั่งรออยู่ในรถแล้ว ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็ขับออกมาจากบ้านเช่า

//////////////////

ณ ผับชื่อดังย่านรัชดาฯ

ประภาวดีนั่งจิบเบียร์สดอย่างเซ็งๆ เพราะเริ่มหงุดหงิดกับการมาช้าของน้องชายและกชกร เธอจึงตัดสินใจที่จะโทรศัพท์ไปหาทั้งสอง แต่ก็ต้องหยุดความคิดนั่นเมื่อเห็นน้องชายกับปิ่นมณีและกชกรเดินเข้ามาในผับ กชกรเดินเข้ามาในผับเป็นคนแรก แล้วตามมาด้วยธีรเดชที่เดินจูงมือแฟนสาวเข้ามาในผับติดๆ แล้วกวาดสายตามองหาโต๊ะที่ประภาวดีนั่ง เมื่อเห็นประภาวดีนั่งอยู่ที่โต๊ะไหน ทั้งสามก็รีบเดินตรงเข้าไปหาทันที

“ขอโทษที่มาช้านะครับพี่วดี พอดีผมขับรถหาที่จอดรถอยู่นะครับ” 

“พี่นึกว่าธีจะไม่มาเสียแล้ว พี่คิดจะโทรไปหาธีอยู่พอดี” 

“ขอโทษนะคะพี่วดีที่หยกมาช้า” 

“ช่างเถอะ จะดื่มอะไรก็สั่งได้เลย คืนนี้พี่เลี้ยงเอง” 

“สวัสดีค่ะพี่วดี” ปิ่นมณีเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม ขณะที่สายตาก้มมองชุดที่พี่สาวของแฟนหนุ่มใส่มาเที่ยวในคืนนี้ เธอไม่แปลกใจแล้วว่าเพราะอะไรชุดที่กชกรใส่ถึงได้โป๊นัก ในเมื่อเจ้าของชุดตัวจริงก็แต่งตัวโป๊เหมือนกัน แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกสงสัยก็คือ พี่สาวของแฟนหนุ่มคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงสั่งให้กชกรแต่งตัวโป๊ออกมาเที่ยวในคืนนี้

“สวัสดีจ้ะน้องปิ่น หายไปนานเลย ไม่แวะมาคุยกับพี่บ้างเลย” ประภาวดีถามแฟนของน้องชายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนหันมาสนใจเพื่อนสนิทของน้องชายพร้อมกับมองสำรวจชุดที่เธอสั่งให้กชกรใส่มาในคืนนี้ ต้องยอมรับเลยว่าพอชุดที่เธอซื้อมาอยู่บนตัวของกชกรแล้ว ดูเซ็กซี่และยั่วยวนกว่าอยู่บนตัวเธอหลายเท่าทีเดียว

“ปิ่นยุ่งๆ อยู่กับงานที่ร้านนะคะพี่วดี” 

“ชุดนี้เหมาะกับน้องหยกมาเลย พี่นี่สายตาดีจริงๆ เซ็กซี่มากน้องหยก” 

“แต่ผมว่ามันโป๊ไปครับพี่วดี หยกไม่เหมาะกับการแต่งตัวโป๊หรอกครับ” 

“เหมาะจะตาย สวยแล้วก็เซ็กซี่มากด้วย พี่เห็นแล้วใจสั่นเลยนะ หรือธีคิดว่าน้องหยกไม่สวย” 

“มันก็สวยและเซ็กซี่อยู่หรอกครับพี่วดี แต่หยกไม่เหมาะกับการแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้” 

“แต่ปิ่นว่าสวยดีนะธี” ปิ่นมณีเอ่ยขึ้นมา ขณะมองเพื่อนสนิท เธอต้องยอมรับว่ากชกรแต่งตัวแบบนี้แล้วดูดีและเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ ลบภาพสาวน้อยเรียบร้อยไปเลย แต่เอาเข้าจริงๆ เธอชอบกชกรแบบเก่ามากกว่า เรียบร้อยและดูน่ารักกว่าเยอะ เธอไม่ชินกับลุคใหม่ของกชกรสักเท่าไร

ธีรเดชหันมามองแฟนสาว ใบหน้าหล่อคมสันฉายแววเยียบเย็นเล็กน้อย ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของพี่สาว สำหรับเขาผู้หญิงคนไหนจะแต่งตัวโป๊หรือล่อแหลมแค่ไหน เขาก็ไม่แคร์ แต่คนใกล้ตัวของเขาต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยและสุภาพ เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงที่แต่งตัวเปิดเผยเกินไป

“ปิ่นอย่าคิดแต่งตัวโป๊เลย เพราะมันไม่เหมาะกับปิ่น อ้อ แล้วมันก็ไม่เหมาะกับหยกด้วย” 

“...” ปิ่นมณีไม่ตอบ แต่พยักหน้ายิ้มให้แฟนหนุ่ม เธอไม่เคยคิดที่จะแต่งตัวอย่างที่แฟนหนุ่มบอกเลย เพราะตัวเธอเองก็ไม่ชอบอยู่แล้ว เธอคิดเสมอว่าเวลาออกไปเที่ยว ควรแต่งตัวให้มิดชิดเรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเสมอ

“น้องปิ่นยังเห็นด้วยกับพี่เลยธี นานๆ แต่งตัวแบบนี้สักที ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย พี่ไม่ได้ให้หยกแต่งตัวแบบนี้ทุกวันเสียหน่อย น้องปิ่นก็จะน่าจะแต่งตัวแบบพี่กับน้องหยกบ้างนะ นานๆ ที ก็แต่งตัวเซ็กซี่บ้าง” 

“ปิ่นแต่งตัวแบบนี้ดีแล้วล่ะครับพี่วดี ผมชอบอะไรที่ดูเรียบร้อยและน่ารักมากกว่า” 

“ไอ้คนหัวโบราณเอ๊ย” ประภาวดีสัพยอกน้องชายเบาๆ ก่อนจะยกแก้วเบียร์สดขึ้นมาจิบ สายตามองชุดที่แฟนน้องชายใส่มาเที่ยวผับ แล้วก็ต้องส่ายหัวเพราะชุดที่แฟนน้องชายใส่มา ไม่เหมาะกับการเที่ยวผับเอาเสียเลย

“ผมไม่ได้หัวโบราณครับพี่วดี แต่เพื่อความของคนที่ผมรักต่างหาก” ธีรเดชปฏิเสธคำพูดที่พี่สาวกล่าวออกมา เรื่องการแต่งตัวของแฟนสาวกับเพื่อนสนิท เขาไม่ได้เข้าไปวุ่นวายหรือเจ้ากี้เจ้าการอย่างที่ใครๆ คิด ขอแค่ไม่แต่งตัวโป๊หรือล่อแหลมเกินไปก็พอ แต่ที่เขาบ่นเรื่องชุดที่พี่สาวให้เพื่อนสนิทใส่มาเที่ยวผับในคืนนี้ มันโป๊จริงๆ

ประภาวดีได้แต่ส่ายหน้ากับพฤติกรรมของน้องชาย ก่อนจะเหลือบไปมองชุดที่ปิ่นมณีใส่มาเที่ยวผับในคืนนี้แวบหนึ่ง รอยยิ้มแบบอับจนปัญญาก็ปรากฏบนใบหน้าสวยเฉี่ยวทันที น้องชายของเธอนอกจากหัวโบราณแล้วยังหวงแฟนของตัวเองสุดๆ ไม่เพียงแต่หวงแฟนตัวเองยังเผื่อแผ่ความหวงไปถึงเพื่อนสาวอีกคนด้วย

ปิ่นมณีกับกชกรได้แต่อมยิ้มกับบทสนทนาระหว่างพี่สาวขี้แกล้งกับน้องชายขี้หวงแห่งตระกูลรัตนกร พวกเธอก็พอรู้อยู่ว่านิสัยของสองพี่น้องคู่นี้แตกต่างกันสุดขั้ว แต่ไม่นึกว่าจะมากขนาดนี้

///////////////

ห่างออกไปจากโต๊ะที่กชกรนั่งดื่มอยู่ไม่มากนัก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นั่งดื่มเหล้าอยู่เพียงลำพัง จึงเป็นที่สนใจของสาวๆ ที่เข้ามาเที่ยวผับในคืนนี้ได้ไม่น้อย เนื่องจากเขาไม่ใช่คนไทยและยังหน้าตาดี ท่าทางกระเป๋าหนัก สาวนักเที่ยวจึงหมายตาที่จะได้ออกไปสนุกต่อกับหนุ่มหล่อผู้นี้

เกือบสามชั่วโมงที่อเล็กซิสนั่งดื่มเหล้าอยู่ในคลับ พบเจอนักท่องราตรีสาวสวยหลายนาง พยายามเดินเข้ามาทักเขาไม่ขาดสาย แต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดก็คงจะเป็นสองสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ พวกเธอเดินแวะเวียนเข้ามาหาเขาหลายครั้งเหลือเกิน

ยิ่งเห็นสายตาที่ทั้งสองส่งมาให้เขา นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ชอบมาพากล แต่ก็ไม่ได้ถามในสิ่งที่สงสัยออกไป จนกระทั่งใกล้เวลาผับปิด สองสาวที่พยายามเข้ามาทำความรู้จักกับเขา เดินตรงเข้ามาทักทายเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“คุณสนใจที่จะออกไปเที่ยวต่อกับพวกเราสองคนไหมคะ” 

สาวสวยในชุดเกาะอกสีดำถามเสียงหวานเยิ้ม สายตาจ้องมองชายที่เธอหมายจะลากขึ้นเตียงในคืนนี้เชิญชวน ถึงไม่ถูกจ้างมาทำลายชื่อเสียงผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็คิดจะชวนเขาขึ้นเตียงอยู่แล้ว ได้เงินแถมยังได้ผู้ชายหน้าตาดีขึ้นเตียงด้วย แบบนี้เรียกว่าโชคสองชั้น

“ไม่ล่ะครับ ผมอยากนอนพักมากกว่า” 

อเล็กซิสตอบอย่างนุ่มนวล เขาแค่อยากมาพักผ่อนและคลายเครียด ไม่ได้คิดจะพาผู้หญิงขึ้นเตียง ตอนนี้เขามีเรื่องให้กังวลมากกว่า

สาวน้อยที่เขาบินมาหากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คงต้องส่งลูกน้องออกไปสืบหาที่อยู่ของเธอให้เร็วที่สุด เขากลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีกับกชกร

“ถ้าคุณไม่อยากไปเที่ยวต่อ คุณอยากไปสนุกต่อกับพวกเราที่โรงแรมไหมล่ะค่ะ” 

อีกหนึ่งสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วยวน ขณะส่งสายตาเชิญชวนหนุ่มหล่อ ถึงเธอกับเพื่อนจะถูกจ้างมาทำลายชื่อเสียงของผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็หลงเสน่ห์เขาจริงๆ ฝรั่งหน้าตาหล่อเหลาและดูดีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ได้เจอกันง่ายๆ ในสถานบันเทิงแบบนี้ ถึงไม่ได้ถูกจ้างมา เธอก็คิดที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อผู้นี้อยู่แล้ว

“ขอบคุณ แต่ไม่ล่ะครับ ผมไม่สนใจ พวกคุณมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย ผมแค่มาคลายเครียด ไม่ได้คิดจะลากผู้หญิงขึ้นเตียงด้วยในคืนนี้” เขาตัดบทอย่างไร้เยื่อใย

สองสาวรู้สึกอับอายไม่น้อยกับคำปฏิเสธอันไร้เยื่อใยของหนุ่มหล่อ ทั้งสองหันหน้ามามองกัน ก่อนที่หนึ่งในสองสาวจะเอ่ยขึ้นมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดปนหัวเสียนิดๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเข้าใจบทสนทนาระหว่างเธอกับเพื่อนทุกประโยคเลยทีเดียว

“จะเอายังไงดีนังเพ็ญ ผู้ชายคนนี้ไม่ยอมไปกับพวกเรา” 

“แกไม่ต้องห่วง อีกเดี๋ยวยาก็ออกฤทธิ์แล้ว ยังไงผู้ชายคนนี้ก็อยู่ในกำมือของพวกเรา” 

“แล้วเมื่อไรยาที่ผู้ชายคนนี้กินไป ถึงจะได้ผล นี่มันก็นานมากแล้วนะ” 

“น่าจะอีกไม่นานนี่แหละ แกก็เลิกบ่นเสียที ฉันรำคาญ” 

“ก็ฉันกังวลนี่นา เกิดแผนล้มเหลวขึ้นมา แล้วจะทำยังไง เธอแน่ใจใช่ไหมเพ็ญว่าเรื่องที่เกิดหลังจากนั้น จะไม่เป็นปัญหาต่อชีวิตของเธอกับฉัน” 

“แกเลิกกังวลไม่เข้าเรื่องเสียทีนังลิน ยังไงผู้ชายคนนี้ก็ต้องเป็นของฉัน ถึงผู้หญิงคนนั้นไม่จ้างฉันให้พาผู้ชายคนนี้ขึ้นเตียง คืนนี้ฉันก็คิดจะชวนผู้ชายคนนี้ไปนอนด้วยอยู่แล้ว” 

“แต่เขาก็ปฏิเสธเธอแล้วนะเพ็ญ ฉันว่าพวกเรากลับกันเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว” หญิงสาวบอกอย่างกังวล เธอรู้สึกไม่ดีกับแผนการของผู้หญิงคนนั้นเลยจริงๆ ผู้หญิงที่จ้างเพื่อนเธอมาทำลายผู้ชายคนนี้ มีปัญหาอะไรกัน ทำไมถึงต้องใช้วิธีที่ต่ำช้าแบบนั้น ในการแก้แค้นกันด้วย 

“ถ้าแกกลัวก็กลับไปซะ แล้วเงินค่าจ้างก็ต้องเป็นของฉันทั้งหมด ยังไงผู้ชายคนนี้ก็ต้องไปกับฉัน ยาที่ฉันใส่แก้วเหล้าให้ผู้ชายคนนี้กิน คงจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว” สภาพของผู้ชายตรงหน้าเธอแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วด้วยซ้ำ ยาที่เธอผสมลงในแก้วเหล้าคงจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ผู้ชายทุกคนที่กินยาตัวนี้เข้าไป รับรองเสร็จทุกราย

“เห็นไหมนังลิน ยาที่ฉันให้ผู้ชายคนนี้กินมันเริ่มได้ผลแล้ว” 

“ฉันไม่เอาด้วยแล้ว ฉันกลับไปนอนบ้านดีกว่า เธออยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ” ถึงผู้ชายคนนี้จะดูไม่ค่อยปกติแล้ว เพราะยาที่เพื่อนเธอให้เขาดื่มไปเริ่มออกฤทธิ์ แต่สายตาที่ผู้ชายคนนี้เอาแต่มองพวกเธอน่ากลัวมาก แล้วเธอก็ไม่อยากเสี่ยงถูกลากเข้าคุกด้วย 

อเล็กซิสยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่เริ่มไหลซึมออกมาจากหน้าผาก สายตาจ้องมองสองสาวที่ยังคงยืนสนทนากันด้วยแววตาเยียบเย็น ใครกันที่กล้าจ้างผู้หญิงคู่นี้มาทำร้ายเขา จับได้เมื่อไรเขาจะเอาคืนให้สาสม แต่ก่อนอื่นเขาควรออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ร่างกายของเขาเริ่มรู้สึกร้อนแปลกๆ และเริ่มควบคุมสติไม่ได้แล้ว

////////////////