ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KHR : Reborn] The Lust Prince | all27 (omegaverse)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 02 - รีบอร์น

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 63


     

     

     

              การปรากฏตัวขององค์ชายแปดผู้แทบจะไม่ออกงานสังคมมาเกือบ 10 ปีกลายเป็นเรื่องฮือฮาของบรรดาชนชั้นสูงเป็นอย่างมาก หลายๆคนจำหน้าขององค์ชายแปดไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ที่อีกฝ่ายถูกเนรเทศ ดังนั้นภาพลักษณ์องค์ชายแปดในความคิดของพวกเขาจึงมีลักษณะแตกต่างกันไป

     

              แต่คงไม่มีใครคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นโอเมก้ารูปงามเช่นนี้แน่

     

              สึนะโยชิมีใบหน้าที่ดูสวยหวานราวกับผู้หญิง โครงหน้าเรียวเล็กประกอบด้วยนัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกายคล้ายอัญมณี ริมฝีปากบางเฉียบสีชมพูธรรมชาติ จมูกโด่งเรียว และคิ้วโก่งแบบคันศร ผิวของสึนะขาวราวกับหิมะ และมันดูโดดเด่นขึ้นมายามเมื่อใส่ชุดผ้าไหมสีทึบนั่น

     

              “สึนะ..โยชิ?” ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก่อนไล่สายตามองตั้งแต่พระสวามีหลวงไปจนถึงสนมเอกทั้ง 4

     

              ในวังหลัง นอกจากพระสวามีหลวงแล้ว ตำแหน่งสนมเอกถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญและมีอิทธิพลมาก เพราะนั่นหมายความว่าได้รับการไว้เนื้อเชื่อใจจากองค์จักรพรรดินีพอสมควร จึงกลายเป็นที่ยำเกรงจนแม้กระทั่งเหล่าขุนนางยังต้องเกรงใจ ซึ่งต่างจากสนมธรรมดาๆที่มีฐานะไม่ต่างอะไรกับนายบำเรอ

     

              โดยปกติสนมเอกจะมีได้ไม่เกิน 5 คน แต่ในวังหลังของ ซาวาดะ นานะ เธอมีสนมเอกเพียง 4 คนเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะแต่งตั้งคนที่ 5 หากสนมเอกคนใดคนหนึ่งเสียชีวิตไป (เช่นในกรณีของอิเอมิสึ) เธอก็จะแต่งตั้งสนมคนใหม่ขึ้นมาอุดช่องว่างนั้น

     

              “ข้าต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ไม่เข้าเฝ้าเสด็จแม่ให้เร็วกว่านี้ เนื่องจากสุขภาพของข้าไม่ค่อยแข็งแรงเพราะพึ่งผ่านช่วงฮีทมาไม่นาน หวังว่าท่านจะไม่ถือโทษโกรธเคืองข้า”

     

              นานะเหลือบมองบุตรชายที่เธอแทบจะลืมหน้าไปแล้วด้วยหางตา “ช่างมันเถอะ แล้วนั่นใครล่ะ”

     

              “เขามีนามว่า ฟง พ่ะย่ะค่ะ เป็นนายสนมของข้าเอง”

     

              จักรพรรดินีไล่มองชายผู้เป็นนายสนมของสึนะตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างพินิจ ก่อนที่นัยน์ตากลมสีน้ำตาลจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย “เจ้ามัน— “

     

              นานะตวัดสายตามอง รีบอร์น 1 ในนายสนมเอกของเธอแทบจะในทันที

     

             ฟง เพื่อนสนิทของรีบอร์น

     

              จักรพรรดินีนานะเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง รีบอร์นเงยหน้าขึ้นมองเธอซึ่งนั่งอยู่ที่สูงกว่าก่อนคลี่ยิ้มมุมปาก ไม่ผิดแน่ ฟง— หมอนั่นคือคนที่รีบอร์นส่งให้ไปอยู่ข้างกายสึนะโยชิ แต่เดิมรีบอร์นก็เป็นคนที่เข้าใจยากอยู่แล้ว อยากรู้นักว่าการส่งฟงไปนั้นมีเจตนาอะไรแอบแฝงอยู่กันแน่

     

              เพื่อไปสังเกตการณ์และสอดแนมสึนะโยชิหรือ?

     

              หรือเพื่อคอยปกป้องสึนะโยชิกันแน่?

     

              “เอาเถอะ” นานะไหวไหล่อย่างไม่แยแส จะเป็นการชิงอำนาจกันระหว่างบุตรของเธอก็ดี หรือการชิงอำนาจระหว่างนายสนมก็ดี เธอไม่แคร์เรื่องพรรค์นี้อยู่แล้ว เหมือนกับเมื่อ 10 ปีก่อนที่เธอเนรเทศสึนะโยชิเพราะเรื่องที่พวกขุนนางกล่าวหาอิเอมิสึ เธอรู้ว่านั่นเป็นแค่การกล่าวหาเพื่อกำจัดอำนาจของขุนนางฝั่งตรงข้ามเท่านั้น แต่แล้วไงล่ะ ใครแคร์? อิเอมิสึตายไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปกป้องตำแหน่งสนมเอกของคนที่ไร้ลมหายใจ

     

              เพื่อบัลลังก์ของเธอ

     

              เธอไม่สนอะไรทั้งนั้น แม้ว่านั่นจะเป็นคนรักหรือบุตรของเธอเองก็ตาม

     

              ริมฝีปากสีแดงสดของนานะคลี่ยิ้ม เธอหันหน้าไปหาบุตรชายที่ไม่ได้เจอกันนานเป็น 10 ปี “เจ้าก็ไปนั่งที่ของเจ้าเสียสิ ให้นายสนมของเจ้าไปนั่งที่ด้วย”

     

              “พ่ะย่ะค่ะ” สึนะรับคำ เขาเดินไปยังที่นั่งซึ่งอยู่ระหว่างที่ขององค์ชายเจ็ดและองค์ชายสิบผู้เป็นองค์รัชทายาท ฟงซึ่งนั่งรวมกับพวกนายสนมของจักรพรรดินีและนายสนมของบรรดาองค์ชายคนอื่นๆเหลือบมองสึนะด้วยความเป็นห่วง

     

              ปฏิกิริยาของบรรดาองค์ชายและองค์หญิงที่มีต่อการปรากฏตัวของสึนะไม่ผิดไปจากที่พวกเขาคิดเอาไว้ มันเต็มไปด้วยความระแวงและ..สายตาอาฆาต?

     

              รีบอร์นก็เคยเล่าให้ฟังว่าสึนะโยชิเป็นองค์ชายที่มีศัตรูมากกว่ามิตร คงเพราะตอนที่อิเอมิสึยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นนายสนมเอกที่ได้รับการยกย่องและมีอำนาจมากที่สุดคนหนึ่ง ทำให้องค์ชายที่เกิดจากเขาและนานะมีผู้คนนับหน้าถือตามากตามไปด้วย ไม่แปลกที่เชื้อพระวงศ์คนอื่นๆจะรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา

     

              ยิ่งหลังจากเหตุการณ์นั้น

     

              เหตุการณ์ที่ทำให้สึนะโยชิแปดเปื้อน

     

              สำหรับพวกเชื้อพระวงศ์ที่หวังบัลลังก์อยู่ มันคงเป็น โอกาสทองที่จะได้กำจัดก้างชิ้นโตออกไป ไม่แปลกที่พวกเขาจะร่วมมือกับขุนนางเพื่อเนรเทศสึนะโยชิออกจากจักรวรรดิ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะต้องผิดหวังเพราะนานะเรียกตัวสึนะโยชิกลับมาเช่นเดิมก็ตาม

     

              ตีงูต้องตีให้ตาย

     

              ถ้าจะโทษใคร คนพวกนั้นก็คงต้องโทษตัวเองที่ไม่จัดการสึนะโยชิให้เด็ดขาด

     

              “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะองค์หญิง ชิชิชิ” สึนะเหลือบมอง องค์ชายเจ็ด ที่นั่งอยู่ข้างกัน อีกฝ่ายคือพี่ชายต่างมารดาที่อายุมากกว่าเขาเพียงปีกว่า ไม่ได้เป็นศัตรูกันก็จริง แต่ยังไม่มีอะไรยืนยันว่าเป็นมิตร อีกฝ่ายเริ่มตามติดเขาแจตั้งแต่เมื่อ 8 ปีก่อน

     

    อย่างไรก็ตาม..อีกฝ่ายเป็นอัลฟ่า ย่อมไม่มีสิทธิ์ในบัลลังก์อยู่แล้ว เพราะงั้นจะเป็นมิตรหรือศัตรูก็ไม่ต่างกัน

     

              “เบล ต้องให้ข้าเตือนอีกกี่ครั้ง ท่านถึงจะยอมเรียกข้าว่าองค์ชาย ไม่ใช่องค์หญิง” ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงเรียกอีกฝ่ายว่า พี่เจ็ดแต่เพราะอีกฝ่ายชอบมากวนประสาทเขาอยู่บ่อยๆ สุดท้ายจึงติดเรียกว่า เบลเฉยๆไป

     

              อ้อ เมื่อก่อนที่ว่าน่ะ หมายถึงเมื่อ 10 ปีที่แล้วนะ

     

              “ก็เจ้าน่ารักนี่”

     

              “แล้วท่านเรียกองค์รัชทายาทและองค์ชายสิบเอ็ดว่าองค์หญิงด้วยหรือ? เพราะพวกเขาก็เป็นโอเมก้า หน้าตาน่ารักมันก็เป็นเรื่องปกติ”

     

              “ไม่มีทาง ถ้าข้าเรียกรัชทายาทว่า องค์หญิง ข้าก็ถูกตัดหัวน่ะสิ ชิชิชิ ส่วนน้องสิบเอ็ด อืม ไม่มีทาง ให้ตายข้าก็ไม่เรียกว่า องค์หญิง แน่ๆ”

     

              “ท่านไม่ถูกกับน้องสิบเอ็ดหรือ?

     

              บรรยากาศรอบตัวของเบลเฟกอลดูอึกครึมขึ้นมาแทบจะในทันที

     

              “ข้าจะเอาอะไรไปเกลียดชังเด็กอายุ 14 เล่า อายุของข้าเป็น 2 เท่าของเด็กนั่นเชียวนะ ชิชิชิ” นัยน์ตาคมภายใต้ผมที่ปรกลงมาปิดหน้าปิดตาเหลือบมอง 1 ใน 4 นายสนมเอกซึ่งนั่งอยู่เหนือพวกเขาไปเล็กน้อย

     

    ”คนที่ข้าไม่ถูกชะตาน่ะ คือพ่อของเด็กนั่นต่างหาก”  

     

     

     

              งานเลี้ยงดำเนินผ่านไปอย่างราบรื่น สึนะโยชิเดินกลับมายังตำหนักชั่วคราวของตนพร้อมกับฟงและเหล่านางกำนัล เขาบอกให้พวกนางไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ในขณะที่ตัวเองก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน

     

              “ท่านยังไม่เปลี่ยนชุดเลยนะขอรับ”

     

              “ข้าบอกให้เจ้ากับพวกฮารุไปพักผ่อนไง”

     

              “พวกนางไปพักผ่อนตามที่ท่านบอกแล้ว” สึนะโยชิเม้มริมฝีปาก มาอีกแล้ว นิสัยดื้อด้านของฟง เขาฟุบหน้าลงกับหมอน ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่า

     

              ฟงมองร่างบางด้วยสายตาอ่อนใจ เขาอุ้มอีกฝ่ายขึ้นโดยไม่รอขออนุญาต ร่างเล็กที่เหนื่อยเกินกว่าจะดิ้นหรือขยับเขยื้อนเอียงคอซบลงบนไหล่ของคนที่อุ้มตัวเองอยู่ ในบรรดานายสนมของสึนะโยชิ ดูเหมือนว่าฟงจะเป็นคนเดียวที่สึนะยอมแสดงมุมเด็กๆให้เห็น

     

              อาจจะเพราะในใจของร่างบาง ฟงดูเหมือนพ่อหรือพี่ชายมากกว่าคนรักล่ะมั้ง

     

              “อ เอ่อ ท่านฟง” ฮารุ นางกำนัลคนที่สนิทของสึนะชะโงกหน้าออกมาจากบานประตู ฟงหันไปยิ้มให้เธอเป็นการอนุญาตให้พูดธุระ

     

              “ท่านรีบอร์นมาที่นี่เจ้าค่ะ”

     

              “อา..เข้าใจแล้ว บอกเขาว่ารอข้าเปลี่ยนชุดให้องค์ชายซักครู่แล้วค่อยเข้ามา”

     

              “ไม่ต้องหรอก” เสียงทุ้มดังขึ้นที่บานประตู ร่างสูงของ 1 ใน 4 นายสนมเอกปรากฎตัวขึ้นแทนนางกำนัลคนสนิทของสึนะที่ถูกสั่งให้ไปพักผ่อนตามเดิม ฟงวางสึนะโยชิที่เปลี่ยนเป็นชุดคลุมเตรียมพาไปอาบน้ำไว้บนเตียง ก่อนค้อมศีรษะลงเป็นการทำความเคารพผู้มีศักดิ์สูงกว่า

     

              “ท่านรีบอร์น”

     

              “ข้าขอ— อยู่กับเด็กนี่ซักเดี๋ยว”

     

              “ขอรับ”

     

              หลังจากที่ฟงเดินออกจากห้องไปแล้ว รีบอร์นหย่อนตัวนั่งลงบนเตียงของสึนะโยชิ มือกร้านลูบไล้ใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างเบามือ นัยน์ตาสีรัตติกาลไล่สายตามองร่างเล็กก่อนหยักยิ้มมุมปาก

     

              “น่ากิน”

     

              “พ่อเลี้ยงไม่ควรกินลูกตัวเอง ลุงไม่กลัวบาปเหรอ” คนที่ควรจะฟุบหลับไปพร้อมความเหนื่อยอ่อนกล่าวเสียงใส รีบอร์นหัวเราะเสียงต่ำ มองร่างเล็กตรงหน้าที่ปีนมานั่งตักตัวเองอย่างถือวิสาสะ

     

              “งั้นข้าก็คงตกนรกไปนานแล้ว”

     

              “...” ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้ม

     

              “เพราะที่ผ่านมา ข้าก็กินเจ้าไปทั้งตัวแล้วนี่”

     

     

     

              อีกไม่กี่ชั่วยามต่อจากนี้เขาก็จะต้องออกจากเมืองหลวงแล้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมมองไปยังตำหนักใหญ่ ซึ่งเป็นตำหนักที่พักขององค์จักรพรรดิหรือจักรพรรดินีของจักรวรรดิ ตอนนี้มารดาของเขาเองก็คงเล่นสนุกกับพวกนายสนมของเธออยู่ในนั้นกระมั้ง

     

              “เมื่อคืนท่านรีบอร์นกล่าวอะไรกับท่านหรือเจ้าคะ?” นางกำนัลสาวคนสนิทถาม

     

              “ก็เปล่าหรอก มาเยี่ยมเยียนตามประสาพ่อลูกน่ะ”

     

              พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมา นัยน์ตาสีน้ำตาลก็แพรวพราวระยิบระยับ คงต้องยอมรับเลยว่ารีบอร์นเป็นคนเก่ง หมอนั่นมีความคิดที่เหนือสามัญสำนึกของมนุษย์ ถ้าไม่ใช่เพราะรีบอร์นรับสึนะและพี่ชายมาเป็นบุตรบุญธรรม ตอนนี้ทั้งคู่ก็คงไม่เหลือคำว่า องค์ชายเป็นคำนำหน้าแล้ว อีกทั้งรีบอร์นยังเป็นคนที่สอนสึนะในหลายๆเรื่อง

     

             ย้ำ หลายเรื่องจริงๆ

     

              10 ปีที่ผ่านมา ก็คงต้องยอมรับว่าพวกเขาทั้งคู่ผูกพันกันด้วยสายใยแปลกๆ มันไม่ใช่ความผูกพันแบบพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง และไม่ใช่แบบอาจารย์กับศิษย์ มันก้ำกึ่ง และพวกเขาก็ไม่เคยคิดจะไปตั้งชื่อสถานะเหล่านั้น

     

              “องค์หญิง~” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ สึนะกลอกตา

     

             หมับ!

     

              ร่างของพี่ชายต่างมารดาที่อายุมากกว่าเพียงปีเดียวกระโดดกอดเขาจนใบหน้าของเขาจมอกเจ้าตัว มือสากข้างหนึ่งลูบศีรษะของเขาไปมา ในขณะที่อีกข้างก็กอดรัดเอวเขาราวกับงูตัวใหญ่ๆ

     

              “เบล ปล่อยข้าเถอะ”

              “ทำไมข้าต้องปล่อยล่ะ ชิชิชิ ข้าคิดถึงเจ้านี่”

              “เราพึ่งเจอกันเมื่อคืน”

              “แต่เดี๋ยวเราจะไม่ได้เจอกันอีกนานเลยนะ”

              “ข้าจะดีใจมากถ้ามันเป็นแบบนั้น”

              “งั้นข้าจะไปหาเจ้าที่เมืองนภาทุกวันเลย!

     

             ไอหมอนี่..

     

              “เบล เมืองของเจ้ากับเมืองนภาของข้ามันใกล้กันซะที่ไหนล่ะ”

              “งั้นข้าจะย้ายไปอยู่กับเจ้าที่เมืองนภา ชิชิชิ”

              “.....”

              “งั้นข้าไปขอเสด็จแม่ก่อนนะ!

              “เดี๋ยว เบล— “

     

              อา..

     

              ร่างของพี่ชายต่างมารดาก้าวฉับๆไปยังตำหนักของมารดาโดยไม่รีรอ สึนะโยชิกุมขมับ มีฟงและฮารุยืนอยู่ข้างๆเหมือนกำลังบอกเป็นนัยว่าพวกเขายังอยู่ตรงนี้ ร่างบางเดินนำไปที่รถม้า

     

              “องค์ชายจะกลับเลยหรือขอรับ?

     

              “อือ คิดไปคิดมายิ่งกลับเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบมองไปยังตำหนักเล็กๆที่อยู่ไม่ไกล เงาของใครบางคนที่เขาเห็นเพียงชั่วครู่นั้นช่างน่าหงุดหงิด

     

              ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม

     

              “อากาศที่นี่น่าสะอิดสะเอียนซะจริงๆ”

     

             ซักวัน— ข้าจะกำจัดอากาศส่วนที่เป็นมลพิษนั่นออกให้หมด

             

               

     

     

    ----------|----------|----------|----------|----------

    ยังไม่แก้คำผิดค่า

     

     

     

     

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×