ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KHR : Reborn] The Lust Prince | all27 (omegaverse)

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 01 - องค์ชายแปด

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 63


     

    Chapter 01 - องค์ชายแปด

     

     

     

              ประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน เผ่าพันธุ์มนุษย์ล่มสลาย ด้วยเทคโนโลยีและอำนาจที่มากเกินไปในมือ พวกเขาโจมตีประเทศที่ด้อยกว่า สร้างอาวุธชีวภาพที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล จนในที่สุดสารเคมีอันตรายและพิษร้ายก็ได้แพร่กระจายทั่วผืนแผ่นดิน โลกล่มสลาย เหลือเพียงซากหักปรักพังของอาคารเท่านั้นที่แสดงให้เห็นว่าผืนแผ่นดินนี้เคยมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ อาศัยอยู่

     

              จนกระทั่งผ่านไปหลายร้อยล้านปี สัตว์เทพทั้ง 4อันได้แก่ หงส์แดง พยัคฆ์ขาว มังกรฟ้า และเต่าดำ ได้ร่วมมือกันอัญเชิญ มังกรทองเทพผู้มีอำนาจสูงสุดบนสวรรค์ลงมาจุติยังโลกมนุษย์ ด้วยอำนาจของเหล่าปวงเทพ พวกเขาเนรมิตโลกใบนี้ขึ้นใหม่ ลบล้างประวัติศาสตร์อันเน่าเหม็นที่มนุษย์ก่อทิ้งไป สร้างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายขึ้นมาเติมเต็มโลกของพวกเขา

     

              นั่นคือยุคใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งที่มนุษย์ในยุคที่ถูกสร้างขึ้นใหม่นี้เรียกว่า เทพเจ้า

     

              แต่ด้วยเหตุอันใดไม่อาจทราบ เหล่าบรรดามนุษย์ผู้ถูกสร้างขึ้นโดยเทพทั้งหลายจึงได้มีสิ่งที่เรียกว่า เพศรองขึ้นมา ซึ่งก็คือ อัลฟ่า เบต้า และโอเมก้า ซึ่งนั่นอาจจะเป็นผลพวงจากความบกพร่องบางอย่างในขณะที่สร้างโลกใบนี้ขึ้น

     

    และเพื่อชดเชยในจุดนั้น เหล่าเทพเจ้าจึงได้มอบพลังส่วนหนึ่งให้แก่มนุษย์ที่พวกเขาสร้างขึ้น โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ธาตุหลัก คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่างเปล่า เมื่อเป็นเช่นนี้ มนุษย์จึงได้ถูกแบ่งออกเป็น 5 เผ่า และเมื่อเวลาผ่านไปทั้ง 5 เผ่าก็ได้ขยายใหญ่จนกลายเป็นอาณาจักรและจักรวรรดิตามลำดับ

     

              แต่เดิมจักรวรรดิที่มีอำนาจมากที่สุดก็คือจักรวรรดิที่ถูกเรียกขานว่าเป็นลูกหลานของเทพมังกรทอง จักรวรรดิโอริว แต่เพราะพลังอำนาจของพวกเขาที่มากจนเกินไป ทำให้ในที่สุดจักรวรรดิโอริวก็ล่มสลายเนื่องจากการการชิงอำนาจและสงครามกลางเมือง เหล่าเชื้อพระวงศ์กระจายตัวไปตั้งหลักปักฐานอยู่ในอาณาจักรต่างๆ

     

              และเมื่อจักรวรรดิโอริวล่มสลาย

     

             จักรวรรดิซูซาคุ จึงได้ขึ้นเป็นมหาอำนาจแทน

     

     

     

              เมื่อเกือบพันปีก่อนโลกนี้เคยถูกปกครองโดยอัลฟ่า ตามกฎของธรรมชาติที่ผู้แข็งแกร่งต้องปกครองผู้อ่อนแอกว่า แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องเมื่อเกือบพันปีมาแล้ว มันใช้ไม่ได้กับยุคสมัยนี้ ยุคที่โอเมก้าเป็นใหญ่ ยุคที่อัลฟ่าคือชนชั้นต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร

     

              ทั้งจักรพรรดิ จักรพรรดินี เชื้อพระวงศ์ ขุนนาง และชนชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรหรือจักรวรรดิใด ก็จะมีเพียงโอเมก้าเท่านั้นที่ได้ผู้นำตระกูล มีเพียงเชื้อพระวงศ์ที่เป็นโอเมก้าเท่านั้นที่มีสิทธิขึ้นครองราชย์ 

     

              “ฝ่าบาท ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ”

     

              นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยท่าทางเด่นเป็นสง่าด้วยหางตา ก่อนที่จะเบนสายตามามองเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงผู้นั่งเรียงรายกันอยู่ที่โต๊ะเตี้ยๆ ซึ่งถูกจัดไว้เพื่อต้อนรับแขกสำหรับงานเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปีของจักรพรรดินีคนปัจจุบันของจักรวรรดิซูซาคุ

     

              คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็คือ ซาวาดะ นานะ ผู้ปกครองคนปัจจุบันของจักรวรรดิซูซาคุอันทรงเกียรติ ข้างๆเธอก็คือ ทิโมธีโอ หรือที่รู้จักกันในนาม โนโน่ พระสวามีหลวงขององค์จักรพรรดินี เรียกให้เข้าใจง่ายก็คือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ชั้นถัดลงมาก็คือ ‘4 นายสนมเอกของเธอ ถัดลงมาอีกก็คือที่นั่งสำหรับเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย และชั้นสุดท้ายซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเหล่าขุนนางก็คือ นายสนมทั่วไปหรือ นายบำเรอที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งหรือเลื่อนขั้น

     

              สนม ก็คือเหล่าอนุของจักรพรรดิหรือจักรพรรดินี จะเป็นบุรุษหรือสตรีก็ได้ อย่างที่เคยกล่าวไปว่าจักรพรรดิหรือจักรพรรดินีที่จะมาปกครองจักรวรรดิได้นั้นจะต้องเป็นโอเมก้าเท่านั้น พวกอัลฟ่าที่ต้องตาต้องใจหรือถูกครอบครัวส่งมารับใช้เพื่อเกี่ยวดองกับราชวงศ์จะถูกพาเข้าวังหลังมาเป็นสนม ได้รับสิทธิมากมาย มีลาภยศ มีเงินทอง ได้รับการดูแล ครอบครัวก็จะมีอำนาจเพิ่มขึ้น หากตนได้รับการโปรดปราน

     

              เรียกได้ว่าเป็นการเสริมอำนาจของตระกูลอย่างหนึ่ง

     

              นั่นก็คือสิ่งที่ผู้เป็นอัลฟ่าจะต้องยอมรับ หน้าที่ของอัลฟ่า..มีเพียงถูกแต่งออกไปตระกูลอื่นเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเท่านั้น

     

              พูดง่ายๆ มันคือโลกที่โอเมก้ามีอำนาจเหนืออัลฟ่า สตรีมีอำนาจเหนือบุรุษ และภรรยามีอำนาจเหนือสามี

     

              เหล่าขุนนางต่างมองบรรดาองค์ชายและองค์หญิงที่นั่งเรียงรายกันอยู่ แม้จะมีการยิ้มหรือพูดคุยกันอยู่บ้าง แต่ก็พอดูออกว่าสถานการณ์ตรงนั้นคงอึดอัดมิใช่น้อย

     

              ตำแหน่งองค์รัชทายาทของ องค์ชายสิบไม่ได้เข้มแข็งนัก

     

              ไม่ใครก็ใครในหมู่พี่น้อง คงหมายตาบัลลังก์เอาไว้เป็นแน่

     

              เพราะ ซาวาดะ นานะ จักรพรรดินีองค์ปัจจุบันของจักรวรรดิซูซาคุเองก็เคยเป็นองค์หญิงผู้ซึ่งเข่นฆ่าพี่น้องและญาติสนิทมิตรสหายเพื่อชิงบัลลังก์มาเป็นของตัวเอง เธอคือผู้มีอำนาจ เต็มไปด้วยผู้คนสนับสนุน มีพระสวามีหลวงเป็นชายจากตระกูลชนชั้นสูงเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง มีนายสนมที่มากไปด้วยความสามารถและมาจากตระกูลขุนนางมหาอำนาจ นอกจากนั้นก็ยังมีข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์และฝีมือดีอยู่หลายคน

     

             เชื้อคงไม่ทิ้งแถวนัก ยิ่งมีบุตรเยอะขนาดนั้น..การแก่งแย่งบัลลังก์กันคงนองเลือดน่าดู

     

              นานะมีบุตรและธิดาทั้งหมด 17 คน เป็นองค์ชาย 13 คน องค์หญิง 4 คน แม้จะมีเธอเป็นมารดาเพียงผู้เดียว แต่พวกเขาล้วนมาจากต่างบิดากัน และ 4 คนจาก 17 คนนั้นได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว

     

              องค์ชายแปด หรือก็คือ ซาวาดะ สึนะโยชิ คือหนึ่งในบุตรที่ยังคงมีชีวิตอยู่

     

              “อ เอ่อ องค์ชายแปด ไม่เข้าไปในงานหรือเจ้าคะ?” นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบมองนางกำนัลรับใช้ของตำหนักใหญ่ด้วยสายตาว่างเปล่า มารดาของเขาที่กำลังสนุกสนานอยู่กับงานรื่นเริงและเหล่านางรำนายรำเหล่านั้นจะทำหน้าอย่างไรกันตอนที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในงาน

     

              สึนะแค่นหัวเราะในลำคอ พึมพำกับตัวเอง

     

              “คิดว่าท่านแม่จะอยากเจอข้ารึไง”

     

              “เอ๊ะ..?

     

              “หึ ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าข้าจะค่อยไปเข้าร่วมในงานเลี้ยงช่วงค่ำละกัน”

     

              “บ่าวรับทราบ” สาวใช้โค้งตัวลงจนศีรษะแทบจะติดพื้น จนเมื่อองค์ชายแปดแห่งราชวงศ์ซาวาดะเดินจากไปเธอจึงได้เงยหน้าขึ้นมา มองตามแผ่นหลังนั้นไปเงียบๆ

     

             ช่วงเวลา 10 ปีนั้นช่างผ่านไปไวเสียเหลือเกิน

     

             ไม่ทันไร เด็กหนุ่มวัย 17 ในตอนนั้น ก็โตขึ้นเท่านี้เสียแล้ว

     

              ซาวาดะ สึนะโยชิคือองค์ชายลำดับที่แปดแห่งราชวงศ์ซาวาดะ และเป็นโอเมก้า นั่นหมายความว่าเขาคือหนึ่งในผู้ที่มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ น่าเสียดายที่ตอนนี้ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นตกอยู่ในมือขององค์ชายสิบ ซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวที่เป็นโอเมก้าของจักพรรดินีและพระสวามีหลวง

     

              หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน สึนะโยชิคงเป็นผู้ที่เหมาะสมกับบัลลังก์นั้นมากกว่าใคร บิดาของเขาเป็นผู้มีความสามารถและมีอำนาจทางการทหารเพราะมาจากตระกูลนักรบ ซ้ำยังเป็นผู้ที่ทำให้มารดาได้ขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ และยังครอบตำแหน่ง 1 ใน 4 สนมเอกขององค์จักพรรดินี ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่สูงกว่าบรรดาองค์ชายและองค์หญิงเสียอีก ซ้ำแล้ว สึนะโยชิยังมีคู่หมั้นที่เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของจักรวรรดิโอริวในตำนาน

     

              แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องก่อนที่บิดาของเขาจะถูกฆ่าตายและถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เป็นเรื่องก่อนที่คู่หมั้นของเขาจะต้องไปแต่งงานกับองค์ชายคนอื่น และเป็นเรื่องก่อนที่เขาจะถูกเนรเทศไปยังอาณาจักรเบียคโกะที่อยู่ใกล้เคียง

     

              “น่าเสียดายจริงๆ” สาวรับใช้พึมพำกับตัวเอง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสมแท้ๆ แต่ภายในคืนเดียวทุกสิ่งก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

     

              “แต่องค์ชายก็ถูกเรียกตัวกลับมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนแล้วนี่” นางกำนัลอีกคนหนึ่งซึ่งเดินมาทีหลังว่าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หลังจากตรากตรำและใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนเกือบ 7 ปี องค์ชายแปดก็ได้รับการอภัยโทษและได้รับ เมืองนภามาดูแล

     

              มันเป็นเรื่องปกติที่เหล่าบรรดาองค์ชายและองค์หญิงที่ไม่ใช่รัชทายาทและไม่ใช่บุตรที่เกิดจากพระสวามีหลวงจะถูกส่งไปปกครองตามหัวเมืองต่างๆ หากเป็นโอเมก้า ก็จะได้เมืองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงหน่อย แต่หากเป็นเบต้า ก็อาจจะถูกส่งไปยังเมืองที่ไกลหน่อย และหากเป็นอัลฟ่า..ไม่ถูกจับแต่งงานกับโอเมก้าที่เป็นชนชั้นสูงก็จะถูกส่งไปยังเมืองที่ไกลยิ่งขึ้น

     

              “แล้วเจ้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับองค์ชายแปดในกลุ่มชาวบ้านหรือไม่?

     

              “เอ๋? ข่าวลือ? ข่าวลืออะไร”

     

              นางกำนัลสาวหรี่ตาลง ก่อนกระซิบเสียงเบา

     

              “ก็ข่าวลือที่ว่า องค์ชายแปดจะเดินตามรอยองค์จักรพรรดินีไงเล่า”

     

     

     

              นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ไร้ประกายราวกับอัญมณีด้านๆเหม่อมองออกไปยังท้องนภาสีฟ้าครามผ่านหน้าต่างในเรือนรับรองซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์ที่นานๆทีจะกลับมาเมืองหลวงได้พักผ่อน

     

              แต่เดิมสึนะไม่เคยคิดจะกลับมาเมืองหลวง

     

              เขาเกลียดที่นี่เหลือเกิน อีกอย่างความทรงจำที่มีต่อครอบครัวและญาติพี่น้องก็ใช่ว่าจะดีนัก

     

              แต่มันถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว

     

              ร่างเล็กนึกย้อนไปถึงคำพูดของ รีบอร์น ผู้ที่ช่วยชีวิตตนเอาไว้เมื่อ 10 ปีก่อน และเป็นผู้ที่รับตนกับพี่ชายเพียงคนเดียวเป็นบุตรบุญธรรม

     

    ชะตากรรมขององค์หญิงและองค์ชายแห่งราชวงศ์ซาวาดะ หากไร้ซึ่งอำนาจ ซึ่งที่รอคอยเจ้าอยู่ที่ปลายทาง ก็มีเพียงความตายอันหนาวเหน็บเท่านั้น”

     

    “....”

     

    เลือกมาสิ เจ้าจะอยู่..หรือจะตาย”

     

              องค์ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะ ทว่าเสียงนั้นกลับดูขมขื่นเสียจนน่าเวทนา นัยน์ตากลมดูตายด้านไร้ชีวิตชีวา แม้แต่ท้องนภาสีแสนสวยงามหรือมวลบุปผาตามทางก็ไม่อาจทำให้แก้วตาคู่นั้นมีประกายขึ้นมาได้ มิอุระ ฮารุ นางกำนัลคนสนิทลอบมองนายเหนือหัวของตนด้วยความเป็นห่วง

     

              “จะเข้าร่วมเพียงงานเลี้ยงช่วงค่ำจริงหรือเจ้าคะองค์ชาย”

     

              สึนะมองนางกำนัลสาวก่อนพยักหน้า “พวกเขาควรได้มีความสุข”

     

              “...”

     

              “ก่อนที่ข้าจะพรากมันไป”

     

              ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่เคยใส่ใจการชิงอำนาจระหว่างองค์ชาย ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะเริ่มต้น ความฝันของเขามีเพียงการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และแต่งงานกับอัลฟ่าที่รักเขาด้วยใจจริง ใช้ชีวิตกับสามีที่ตนรักและลูกของตนโดยไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวาย

     

              แต่มันก็พังลงเพราะเหตุการณ์ในคืนนั้น

     

              คิดเรื่อยเปื่อยได้ไม่นานนัก ดวงตะวันก็ใกล้จะลาลับขอบฟ้าเสียแล้ว ร่างเล็กกอดแขนตัวเองหลวมๆ แม้จะเป็นถึงองค์ชาย แม้จะเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ แต่เขากลับหนาวเหน็บยิ่งนัก

     

             หมับ

     

              มือแกร่งที่สัมผัสลงบนไหล่ทำให้กายบางเริ่มสงบลง ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของธรรมชาติก็พอจะเดาได้ว่าคนด้านหลังเป็นใคร มีอัลฟ่าเพียงไม่กี่คนที่จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวชวนให้รู้สึกสบายใจเช่นนี้

     

              ฟง

     

              ชายหนุ่มผู้ยืนซ้อนหลังอยู่คลี่ยิ้มอ่อนโยน เส้นผมสีดำขลับที่ถูกมัดเป็นเปียถูกนำมาม้วนเล่นโดยเจ้าของร่างเอง สึนะมองนายสนมที่ตนไว้ใจที่สุดและอยู่กับตนมานานที่สุดด้วยสายตาอ่านยาก ฟงนำชุดผ้าไหมราคาแพงดูสง่ามาพาดไว้บนเตียง มือขาวซีดช่วยปลดอาภรณ์ของเขาลงทีละชิ้นด้วยสัมผัสแผ่วเบาราวกับลม

     

              เป็นคนมือเบาจนน่าเหลือเชื่อ และใจเย็นมากเช่นกัน

     

              “ข้าน้อยมาช่วยเปลี่ยนชุดให้ขอรับ” สึนะมองคนตรงหน้า รู้สึกเหนื่อยใจ

     

              “เจ้าไม่ต้องทำก็ได้ มันเป็นหน้าที่ของฮารุ” โดยปกติแล้วการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและการดูแลเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันล้วนเป็นหน้าที่ของนางกำนัล โดยเฉพาะนางกำนัลคนสนิท มันไม่ใช่หน้าที่ของนายสนมเลยแม้แต่น้อย แต่ฟงคือนายสนมเพียงคนเดียวของเขาที่แย่งหน้าที่ของนางกำนัลพวกนั้นมาทำ

     

              “ท่านพูดแบบนี้มาเป็นล้านรอบแล้ว นึกว่าข้าจะยอมทำตามหรือ”

     

             ไม่อยู่แล้ว

     

             ใจเย็น เป็นผู้ใหญ่ สงบนิ่ง แต่ในบางเรื่องก็ดื้อรั้นจนน่าเหลือเชื่อ

     

              ที่จวนของสึนะโยชิในเมืองนภานั้นมีนายสนมมากมาย แต่เขากลับเลือกให้ตามมาที่เมืองหลวงเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็เพราะเขาคิดว่าพามาหลายคนก็วุ่นวายเสียเปล่า อีกอย่าง หากจะพูดถึงนายสนมที่รู้กาลเทศะ รู้วิธีการเข้าสังคม รู้มารยาทในวัง และที่สำคัญคือเป็นคนใจเย็นไม่สร้างปัญหา คนที่ตรงกับคุณสมบัติเหล่านี้ทุกประการก็มีเพียงฟงเท่านั้น

     

              การแต่งกายของสึนะโยชินั้นไม่เน้นเครื่องประดับอะไรมากมายนัก มีเพียงชุดผ้าไหมราคาแพงสีทึบที่ช่วยขลับผิวให้ดูขาวยิ่งขึ้นพร้อมปักด้วยลวดลายเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าแม้มันจะไม่ได้ดูหรูหราอลังการมากนัก แต่กลับดูดีไม่น้อยยามที่อยู่บนเรือนร่างบางขององค์ชายร่างเล็ก

     

              ดูสง่างาม และน่าจับตามอง

     

              “ถึงเวลาแล้ว เราไปร่วมงานเลี้ยงกันเถอะขอรับ”

     

     

     

              งานเลี้ยงรื่นเริงในช่วงค่ำนั้นต่างจากช่วงบ่ายมากนัก อย่างแรกคือเน้นสุราและอาหารการกินที่หรูหราขึ้น อย่างที่สองคือการร่ายรำของเหล่านางงามและบุรุษที่อลังการและเล่นกับแสงสีมากขึ้น และอย่างที่สาม— คือการแต่งกายของบรรดาเชื้อพระวงศ์และนางสนมที่สวยงามตระการตายิ่งขึ้น

     

              ซาวาดะ นานะ นั่งอยู่บนที่ประทับซึ่งอยู่สูงสุดพร้อมกับแก้วสุราในมือ นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ไล่สายตามองเหล่าบุรุษที่กำลังทำการแสดงด้วยนัยน์ตาพราวระยับ

     

              แม้จะอายุปาเข้าไป 55 ปีแล้ว แต่ใบหน้าและร่างกายของเธอก็ยังดูคล้ายกับหญิงวัย 40 ต้นๆเท่านั้น คงเป็นเพราะการดูแลรูปร่างหน้าตาที่เธอพิถีพิถันมากเป็นพิเศษกระมั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่รู้ทำไมเธอถึงยังมีแรง ออกกำลังกายในร่มกับบรรดานายสนมที่เข้ามาใหม่ ทั้งที่สังขารก็น่าจะไม่ให้แล้วแท้ๆ

     

              เหล่าขุนนางมองบรรดานายสนมของจักรพรรดินีแห่งอาณาจักรอันทรงเกียรติด้วยสายตาที่เอือมระอาเล็กน้อย หากไม่นับสนมเอกทั้ง 4 มีสนมกี่คนกันที่ได้รับการโปรดปรานจนมีชื่อเสียง? ส่วนมากก็ถูกเห่อเป็นพักๆแล้วก็ถูกลืมไปในที่สุดเท่านั้น

     

              “ฝ ฝ่าบาท” นางกำนัลคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ผู้ปกครองจักรวรรดิแห่งนี้ด้วยสีหน้ากล้าๆกลัวๆ นานะเลิกคิ้วขึ้น เช่นเดียวกับบรรดาเชื้อพระวงศ์ สนม และขุนนางที่รู้สึกสนใจปฏิกิริยาเช่นนั้นขึ้นมา

     

              โดยเฉพาะเมื่อคำพูดของนางกำนัลทำให้องค์จักรพรรดินีของพวกเขามีสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูกได้เสียขนาดนั้น

     

              “องค์ชายแปดตั้งใจจะมาร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วยเพคะ”

     

              ทันใดนั้นเอง

     

              “องค์ชายแปดเสด็จ!” ขันทีที่ยืนคุมงานอยู่หน้าประตูกล่าวเสียงดัง เหล่าขุนนางและนายสนมส่งเสียงฮือฮาด้วยความแปลกใจ เช่นเดียวกับเหล่าองค์ชายและองค์หญิงที่มองไปยังประตูบานนั้นด้วยสีหน้าเหมือนโลกใกล้จะแตก มันแน่อยู่แล้ว นับวันพันปีไม่เคยก้าวขาเข้ามาในเมืองหลวงซักก้าวแท้ๆ ทำไมถึงคิดจะมาปรากฏตัวเอาป่านนี้กัน?

     

              “ถวายบังคมเสด็จแม่ สิบปีที่ไม่ได้เจอกัน หวังว่าท่านจะสบายดีนะพ่ะย่ะค่ะ”

     

              10 ปีที่ผ่านมาเขาทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมโตเหมือนเจ้าป่าไร้เขี้ยวเล็บก็จริง

     

              แต่เคยมีใครคิดที่จะพิสูจน์หรือไม่

     

    ว่าเจ้าป่าที่ว่านี้ไร้เขี้ยวเล็บจริงๆ

     

    หรือแค่ซ่อนมันเอาไว้เพื่อขย้ำเหยื่อในคราวเดียวกันแน่

     

             

               

     

     

    ----------|----------|----------|----------|----------

    ขอเปิดตัวนายสนมคนแรกก่อนแล้วกันค่ะ (ฮา)

    ไม่ค่อยว่างนะคะ นานๆจะมีเวลาแต่งที เนื่องจากติดสอบ ติดงาน บลาๆๆๆๆ

    ปล.เม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยน๊า

     

     

     

     

     

     

     

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×