คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue - อารัมภบท
Prologue
:: อารัมภบท
ภาพแรกที่เขาเห็นคือภาพของตำหนักที่วุ่นวายและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดฉุนจมูก
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!”
“ไม่นะ! อย่าฆ่าข้า ปล่อยข้าไปเถอะ!”
“อย่าเข้ามานะ!”
“ใครก็ได้ช่วยด้วย!!”
“อย่าให้พวกมันเข้าไปทำร้ายองค์ชายในตำหนักได้!!”
ร่างโปร่งบางของเด็กหนุ่มในชุดผ้าไหมราคาแพงยืนมองภาพตรงหน้าด้วยนัยน์ตาสั่นระริก
มือเรียวที่กำลังเกาะต้นไม้อยู่สั่นและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตำหนักที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในนั้นมาตลอด
17 ปีกำลังถูกละเลงไปด้วยหยาดโลหิต เหล่าชายฉกรรจ์มากมายในชุดสีดำกลมกลืนไปกับความมืดตวัดแกว่งดาบปลิดชีพเหล่านางกำนัลและทหารที่ดูแลเขามาตั้งแต่เกิด
“ไม่นะ”
ขาเรียวขยับเข้าไปข้างหน้า หวังจะวิ่งไปช่วยแม่นมที่กำลังถูกแทงจากด้านหลัง ความว่องไวของฝีดาบเหล่านั้นเหนือการคาดเดา
เพียงแค่ดาบเดียว..ก็สามารถชิงวิญญาณของหญิงวัยกลางคนไปได้อย่างง่ายดาย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้
เขาเพียงแค่เดินออกมารับลมเล่นข้างนอกแท้ๆ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้
ทุกอย่างยังปกติดีอยู่แท้ๆ
เพียงแค่ชั่วยามเดียว
มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง
ภาพที่สองที่เขาเห็น
เป็นร่างไร้ชีวิตของผู้เป็นบิดาที่ล้มลงต่อหน้าต่อตาพร้อมหยาดโลหิตที่สาดกระเซ็นไปทั่ว
ภาพของน้องชายฝาแฝดที่ถูกแทงจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ ร่างของพี่ชายร่วมบิดาที่บาดเจ็บสาหัส
นัยน์ตาทั้งสองข้างมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
เขาได้ยินเสียงหัวเราะที่น่ารังเกียจ
ได้เห็นรอยยิ้มที่น่าขนลุกและช่างน่าขยะแขยงสิ้นดี
ได้เห็นร่างกายของตัวเองที่ถูกกระทำย่ำยีราวกับเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน
ต้องรองรับความมักมากในตัณหาของพวกคนน่ารังเกียจด้วยความไม่เต็มใจ
สกปรก
กลิ่นคาวชวนแหวะปะปนกับกลิ่นคละคลุ้งของโลหิตที่อบอวลไปทั่วตำหนักทำให้เขารู้สึกอยากจะอาเจียน
อยากจะขัดขืน แต่กลับมีแรงไม่มากพอ ทั้งมือใหญ่ที่บีบคอเขาราวกับอยากจะให้ขาดอากาศหายใจตายนั่นก็ดี
อวัยวะโสมมที่เข้ารุกรานร่างกายเขานั่นก็ดี เสียงกรีดร้องของพี่ชาย
ครอบครัวเพียงคนเดียวที่ยังคงมีชีวิตอยู่นั่นก็ดี
ทรมาน
อยากตายเสียเหลือเกิน
ภาพที่สามคือชายฉกรรจ์น่ารังเกียจที่ถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตา
ดาบญี่ปุ่นสีเงินอาบไปด้วยโลหิตสีแดงดำน่าสะอิดสะเอียน ศีรษะของพวกมันถูกตัดภายในดาบเดียวให้สาสมกับโทษที่ได้กระทำลงไป
ชายร่างสูงใหญ่ผู้ช่วยให้หลุดพ้นจากการตักตวงอันน่ารังเกียจที่แสนยาวนานเกือบสองชั่วยามคุกเข่าลงตรงหน้า
นัยน์ตาสีดำขลับเหม่อมองกายบอบบางที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงด้วยสายตายากจะคาดเดาความคิด
หากแต่บรรยากาศรอบตัวกลับยิ่งแผ่กลิ่นอายน่าขนลุก
ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะเบนไปมองร่างไร้ชีวิตของบิดาและน้องชายฝาแฝดของเขา
และมองไปยังพี่ชายของเขาผู้สูญเสียความสามารถในการมองเห็นไป
นัยน์ตาคู่นั้นเริ่มฉายแววแข็งกร้าว เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่ยากจะหยั่งถึง
มือที่กำลังจับไหล่ของเขาอยู่บีบแน่นจนรู้สึกเจ็บไปหมด
“พวกมันกล้าดียังไง..”
“...”
“แม้แต่ความตายที่ข้ามอบให้พวกมัน
ยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่พวกมันพรากไปจากเจ้า”
ภาพที่สี่คือภาพภายในท้องพระโรงที่ใหญ่โตโออ่า
ภาพของมารดาผู้มีตำแหน่งเป็น ‘องค์จักพรรดินี’ ผู้นำสูงสุดของอาณาจักรนั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยท่าทางสวยสง่าสมกับฐานะ
นัยน์ตาคู่นั้นหรี่ลงมองเขาที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสายตาอ่านยาก สายตาทุกคู่ของเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงกำลังจับจ้องมายังเขา
มองร่างกายของเขาราวกับเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจ ราวกับเขาเป็นสิ่งสกปรกโสมม
เรื่องที่องค์ชายแปดแห่งราชวงศ์ซาวาดะกลายเป็น
‘ของมีตำหนิ’ กลายเป็นข่าวดังในแวดวงชนชั้นสูงและเหล่านางกำนัลในวังหลัง
“จากหลักฐานที่พวกกระหม่อมได้มา
ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ อิเอมิสึ วางแผนก่อกบฏพะยะค่ะ” ขุนนางชราผู้หนึ่งก้าวขาออกมาข้างหน้า
พูดด้วยน้ำเสียงฉะฉาน
“โชคดีจริงๆเลยที่โจรพวกนั้นมันบุกมาฆ่าสุนัขเลี้ยงไม่เชื่องนั่นไปซะก่อน”
“นั่นสิ
ไม่งั้นอาณาจักรของเราคงตกไปอยู่ในมือมันหมด”
“สมควรแล้ว”
“ตายๆไปซะได้ก็ดี”
“ชูคออยู่ตั้งนานในฐานะ
1 ใน 4 นายสนมเอกของฝ่าบาท กลับเลี้ยงไม่เชื่อง คิดทรยศแบบนี้ก็สาสมแล้ว”
เขาเกลียดเสียงนินทาพวกนั้น
เกลียดเสียงนกเสียงกาพวกนั้น
และที่เกลียดที่สุด
คือมารดาของเขาที่สั่งเนรเทศเขาและพี่ชายไปอยู่อาณาจักรอื่นเพราะคำพูดพวกนั้น
นึกชิงชังพวกโจรเหล่านั้นที่พรากครอบครัวไปจากเขา
นึกชิงชังโชคชะตาที่เล่นตลกทำให้เขาต้องกลายมาเป็นของมีตำหนิ
นึกชิงชังพวกขุนนางน่ารังเกียจที่จ้องจะฮุบอำนาจของพวกเขาไปจนหมด
และนึกชิงชัง..มารดาที่พรากแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของเขาไป
พรากคนรักของเขา
ทำให้คนรักของเขาต้องเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับคนอื่น
เขาชิงชังทุกอย่าง
ชิงชังพวกมันทั้งหมด และชิงชังโลกใบนี้
และภาพสุดท้าย..คือภาพของชายคนนั้นที่ช่วยเขาเอาไว้
‘รีบอร์น’ หยุดอยู่ตรงหน้าเขา ก้มหน้าลงต่ำจนริมฝีปากแนบชิดกับใบหูของเขา
“ชะตากรรมขององค์หญิงและองค์ชายแห่งราชวงศ์ซาวาดะ
หากไร้ซึ่งอำนาจ ซึ่งที่รอคอยเจ้าอยู่ที่ปลายทาง ก็มีเพียงความตายอันหนาวเหน็บเท่านั้น”
“....”
“เลือกมาสิ
เจ้าจะอยู่..หรือจะตาย”
ความคิดเห็น