★ Closer than the Star ★ ใกล้กว่าดาว ★
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ นิยายวาย Tags : ใกล้กว่าดาว, พี่ธันน่ารัก
ผู้แต่ง : Lady-n
My.iD :
https://my.dek-d.com/Lady-n/writer/
ตอนที่ 16 : บทที่ 16 ความจริงเปิดเผย
#ใกล้กว่าดาว
“เราต้องตายแน่ๆ”
“ใกล้พูดแบบนี้มาเป็นรอบที่ล้านแล้ว ปล่อยหมีใหญ่ด้วยครับ เดี๋ยวแมวตาย ใกล้!”
“ไม่ หมีใหญ่จะอยู่กับเราตลอดไป”
ผมกอดหมีใหญ่แนบอก ขืนตัวจากแรงดึงของคณิต ซุกเข้ามุมโซฟา ผมจะผสานร่างกับโซฟาไปกับหมีใหญ่ อย่ามายุ่งกับผม
ตอนนี้ก็ผ่านมาสามวันแล้วหลังจากที่ผมลงมาจากดอย
คืนนั้น พอกระทำผมเสร็จ พี่ธันก็ลุกเดินไปเลย ปล่อยให้ผมนอนตาค้างมองดาวอยู่หลายชั่วโมง ก่อนจะกลับไปนอนตาค้างในเต๊นท์ต่อ
สมองกับหัวใจผมพังทลายกลายเป็นฝุ่นธุลีไปแล้ว เรียนไม่รู้เรื่อง พูดกับเพื่อนก็ไม่รู้เรื่อง ไปเดินตอนเช้าก็ไม่ได้ไป ชมรมก็ไม่ได้ไป ทำได้แต่รีบกลับจากมหาวิทยาลัยมากอดหมีใหญ่แล้วพยายามรวมร่างกับโซฟา ผมจะกลายเป็นเบาะนุ่มนิ่มหุ้มหนังแมว จะได้ไม่ต้องเขินอีกต่อไป ไม่อยากเขินแล้ว แก้มจะระเบิด ฮือ
ตึง!
“แง้ว!”
ผมสะดุ้ง เผลอคลายอ้อมแขน หมีใหญ่ได้จังหวะ กระโดดหนีไปหาคณิต แต่ก็ถูกต้าอุ้มไปแทน อย่าอุ้มแมวผมแบบนั้นนะ!
เสียงตึงตังเมื่อสักครู่เกิดขึ้นเพราะต้าเอามือทุบโต๊ะอย่างแรง...แล้วยังจับแมวผมไปเป็นตัวประกันอีก ทำหน้าเหมือนจะกินหัวผมด้วย
“เล่า มา ไม่ งั้น ไอ้ อ้วน นี่ ตาย”
ผมเบะปากทำท่าเหมือนจะร้องใส่ แต่ต้าไม่ใจอ่อน ยกมือจะขย้ำคอหมีใหญ่ จนผมต้องเอามือกุมแก้มไปเล่าไปในที่สุด ถ้าคณิตไม่ชงเฮลส์บลูบอยมาให้ดื่มคงร้องไห้ไปแล้ว คนใจร้าย
“สรุปคือเปรมเขาบอกว่าชอบใกล้เหรอครับ?”
“อือ...” ผมพยักหน้า จิบน้ำแดง
“แต่ไอ้ผู้ชายลอยแก้วก็ชอบมึงเหมือนกัน?”
“เขา...เขาไม่ได้พูด” ผมยกมือปิดตา
แล้วถ้าจะนอนไม่หลับ ก็ต้องนอนไม่หลับเพราะเรื่องของพี่ ไม่ใช่คนอื่น จำไว้
ฮือ!! นอนไม่หลับมาสามวันแล้วเนี่ย คนบ้า
“แรด! ปล่อยให้มันทำขนาดนั้นยังไม่รู้อีกว่ามันชอบ แรดแล้วยังโง่”
“ก็...ก็เราไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง ฮือ ทำไมต้าต้องว่าเรา คานี๊ด ใจเราบอบบางแล้วดูต้าว่าเราดิ เอาแมวเราไปอีก เอาคืนมา!”
คณิตถอนหายใจพอผมหันไปฟ้อง “แล้วใกล้ปฏิเสธเปรมไปหรือยังครับ”
“ยัง...คือ เรากะว่าจะคิดคำพูดให้เปรมเจ็บน้อยที่สุด แต่พอมีเรื่องพี่ธัน เราก็คิดอย่างอื่นไม่ออกเลย”
“จะไปยากอะไร ก็บอกมันไปดิว่าไม่เอาแม่ง ชอบคนอื่น ชอบจนอยากแดกเข้าไปทั้งตัว”
“ต้า! ใจร้าย เราจะพูดอย่างนั้นได้ยังไง” ผมหน้าแดง นึกถึงตอนถูก...จูบ ดีนะที่ผมไม่เผลอกินปากเขาเข้าไป แง ดีกว่าเฮลส์บลูบอยอีก
“ใกล้ พรุ่งนี้ไปบอกเปรมนะครับ ไม่ต้องสวยหรูหรอก ยังไงเขาก็เจ็บ” คณิตพูดช้าๆ มองหน้าผมอย่างจริงจัง
“ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องเสียใจเหรอ...”
“ครับ ยกเว้นใกล้จะคบกับเขา อยากทำแบบนั้นหรือเปล่า”
ผมก้มหน้า เม้มปากก่อนจะส่ายหัว
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ไปบอกเขานะครับ”
“เสร็จแล้วก็ต่อด้วยไอ้ลอยนั่น ไปคุยกับมันให้เคลียร์ๆ จะเอายังไง มาทำยึกๆ ยักๆ เดี๋ยวกูต่อยให้” ผมถลึงตาใส่ต้า ห้ามทำพี่ธัน
วันต่อมา พอเลิกเรียนปุ๊บผมรีบไปที่ห้องสมุด อยากจะหาหนังสือรวบรวมรูปประโยคภาษาไทยมาอ่าน เผื่อว่าเวลาไปคุยกับเปรมหรือพี่ธันแล้วสติหาย จะได้พอนึกถึงอะไรที่อ่านมาได้บ้าง
พอได้หนังสือที่ต้องการ ผมก็หามุมสงบหลบลี้สายตาผู้คน เอาสมุดขึ้นมานั่งคัดประโยคในหนังสือไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น ผมก็เก็บข้าวของเตรียมกลับคอนโด
ทันใดนั้นเอง
“อ้าว ธัน! ไงมึง หาหนังสือเหรอ”
พี่ธัน! ผมคว้ากระเป๋าแล้วรีบหลบใต้โต๊ะ โชคดีที่อยู่ในมุมอับ เขาก็เลยมองไม่เห็นผม คนที่ทักเขารู้สึกว่าจะชื่อพี่ฟิว เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของพี่ธัน แต่ว่าอยู่คนละคณะ เลยไม่ค่อยเห็นเขาอยู่ด้วยกันครับ
“อืม ทำรายงานวิชาไฟแนนซ์”
“ขยัน นึกภาพมึงสมัยก่อนแล้วไม่อยากจะเชื่อ”
“กวนตีน”
“ฮ่าๆๆ”
ผมแอบชะโงกหน้าออกไปดูอย่างสนใจ ไม่ค่อยเห็นพี่ธันพูดจาหงุดหงิดแบบนี้ใส่ใครนะครับ แสดงว่าพี่ฟิวต้องเคยรู้จักพี่ธันมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วแน่เลย
“เออ แล้วเรื่องนั้นเป็นไงบ้าง” พี่ฟิวเลิกคิ้วอย่างสนใจ
“เรื่องไหน”
“ไอ้น้องคนนั้นอ่ะ คนที่อยู่ห้องข้างๆ ห้องกูที่คอนโด X”
“อ้อ”
“ลีลาว่ะไอ้ธัน กูอยากรู้แล้ว สรุปเป็นไง มึงรวบรวมหลักฐานได้เยอะหรือยัง จริงๆ คลิปเสียงที่กูอัดก็ชัดแล้วนะว่าน้องเขาแอบสตอล์กมึงอ่ะ ใช้กล้องส่องทางไกลด้วยนะโว้ย ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ เห็นอย่างนั้น ชื่ออะไรนะ อยู่คณะวิทย์ใช่ปะ”
“ใช่”
“เออ แล้วมึงเอาไงต่อ แจ้งตำรวจเลยหรือจะลองเข้าไปคุยก่อน กูว่าสงสารเด็กมัน มึงไปไกล่เกลี่ยดูก่อนสิ อย่าเพิ่งแจ้งตำรวจ เด็กนั่นโชคดีนะ ถ้าเป็นมึงเมื่อก่อน แม่งโดนต่อยคว่ำไปแล้วมั้ง”
หัวสมองผมขาวโพลน
โป๊ก!
“ใครวะ เฮ้ย!” พี่ฟิวร้องลั่นตอนหันมาเจอผมที่รีบร้อนลุกจนหัวโขกใต้โต๊ะ หางตาผมมองเห็นพี่ธันทำหน้าตกใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเรียกชื่อผมเสียงดัง “ใกล้!”
ผมเปลี่ยนใจเอาหนังสือที่หยิบมาจากชั้นติดมือมาด้วย ต่อให้ต้องโดนปรับก็เถอะ...แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว ผมรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งไล่หลังมา รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ออกกำลังกายบ่อยขึ้น ไม่อย่างนั้นคงโดนจับแล้ว โชคดีที่มีรถแท็กซี่ผ่านมาพอดี
ผมยัดตัวเองเข้าไปในรถแล้วบอกคนขับเสียงแผ่ว
“ไป...ไปที่ไหนก็ได้ครับ แต่ขับออกไปก่อน” ผมสะดุ้งเพราะได้ยินเสียงของเขาที่เรียกชื่อผมดังลั่น ขนาดนั่งอยู่ในรถยังได้ยิน แต่ก็ไม่กล้าหันไปมอง ผมยกสองมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้ รู้สึกดวงตาร้อนผ่าว
“น้อง...สรุปให้พี่ไปส่งไหน เป็นอะไร ไม่สบายเปล่า ไปโรงบาลไหม” พี่แท็กซี่หันมาถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ผมเม้มปาก อยากกลับคอนโดไปกอดหมีใหญ่ แต่ผมกลัวว่าพี่ธันจะไปดักรอ อยากไปหาเพื่อน แต่ตอนนี้เล่าอะไรไม่ไหวเลย ถ้าเจอหน้าเพื่อนผมต้องปล่อยโฮแน่ๆ
ไม่สิ ไม่ทันแล้ว...
ผมมือสั่น ควานหาทิชชู่ในกระเป๋าขึ้นมาเช็ดน้ำตา แล้วบอกพี่แท็กซี่ทั้งที่ยังสะอื้นว่าให้เขาไปส่งที่ห้างที่ใกล้ที่สุด เดินเข้าร้านหนังสือด้วยดวงตาแดงช้ำ พนักงานเหลือบมองมาเป็นระยะ โชคดีที่วันนี้เป็นวันธรรมดา คนก็เลยไม่เยอะ
ผมพุ่งตรงดิ่งไปยังชั้นที่ต้องการ แต่พอมองสันปกแล้วภาพก็เบลอไปหมดจนต้องยกมือเช็ดน้ำตาอีกครั้ง
“ใกล้? ใกล้ใช่ไหม บังเอิญจังเลย!...ใกล้ เป็นอะไร”
ผมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะพบกับเปรม
“เป็นอะไรครับ”
“ฮือออ!!”
พอได้เจอหน้าเพื่อน ผมก็ปล่อยโฮลั่นกลางร้านหนังสือทันที
เปรมอุทานอย่างตกใจ เขามองซ้ายมองขวาแล้วมองหน้าผมอย่างลำบากใจเหมือนไม่รู้จะทำอย่างไรดี สุดท้ายเขาเลยคว้ามือผมแล้วดึงให้ออกจากร้านหนังสือ แต่ผมขืนตัวไว้
รีบหยิบหนังสือที่เมื่อกี้ดูอยู่ไปจ่ายเงิน เปรมดูงงๆ แต่พอจ่ายเงินเสร็จ ผมก็โฮต่ออีกรอบ คราวนี้เปรมเลยลากผมไปเข้าสตาร์บัค ซื้อคาราเมลปั่นแก้วใหญ่เพิ่มวิปครีมให้ด้วย ผมดูดไปตาแดงไป พอได้ของหวานๆ สติเลยเริ่มกลับมา
“เปรม”
“ครับ” เขาสะดุ้งตอนผมเรียก เหมือนกำลังเหม่อแล้วตกใจ
“เปรมเรียนนิติใช่ไหม”
“ครับ”
“คนไม่ดีนี่ต้องติดคุกใช่ไหม”
“ก็...ถ้าจะพูดอย่างเข้าใจง่าย ก็คงแบบนั้นแหละครับ”
“โฮ!!!” เปรมทำหน้าเหมือนโลกแตกพอผมร้องไห้ขึ้นมากลางสตาร์บัคอีกครั้ง เขาวิ่งไปเคาน์เตอร์แล้วซื้อเค้กมะพร้าวมาให้อีกหนึ่งชิ้น ผมก็เลยร้องเบาๆ แล้วตักกิน กินไปกินมาก็เลยหยุดร้องเพราะกินไม่ถนัด
เปรมไม่กล้าถามอะไรผมอีกเลย เดาว่าคงกลัวผมปล่อยโฮ สุดท้ายผมเลยขอให้เขามาส่งที่คอนโดต้า
“ขอบคุณนะเปรม เดี๋ยวค่าขนมเราคืนวันหลังนะ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอกใกล้ เปรมเลี้ยงเอง” เขาว่าแล้วจ้องหน้าผมนิ่ง ผมเอียงคอเป็นเชิงถามว่ามีอะไรหรือเปล่า
“หืม”
“ถ้าเป็นเปรมจะไม่ทำให้ใกล้ร้องไห้แบบนี้หรอก”
“เปรม...” อีกฝ่ายยิ้มบางๆ แล้วลูบหัวผม
“คุยกับเปรมได้นะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ เปรมอยู่ข้างใกล้เสมอ”
ผมมองตามหลังเขาแล้วรู้สึกสะท้อนใจ
เปรมหวังดีกับผมขนาดนี้ ทำไมผมถึงยังทำตัวไม่ชัดเจนอีก แบบนี้มีแต่จะทำให้เขาเสียใจมากขึ้นเท่านั้น
“เปรม! เดี๋ยวก่อน” เขาชะงักแล้วหันกลับมา “คือ...คือว่าเรา”
“ใกล้ อย่าเพิ่ง”
“เปรม...”
“อย่าเพิ่งนะครับ เปรมขอ นะ” เขาส่งยิ้มเศร้าๆ มาให้จนผมพูดไม่ออก ได้แต่เม้มปากแน่นแล้วมองเขาด้วยสายตารู้สึกผิดจนกระทั่งอีกฝ่ายขับรถออกไป
ผมลืมคีย์การ์ดห้องต้าทิ้งไว้ที่ห้องตัวเองเลยต้องกดออดแทน จิ้มอย่างเหม่อๆ ไปหลายจึกเพราะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“กดทีเดียวก็รู้เรื่อ...เฮ้ย!” ต้าที่กำลังด่าผงะเกือบหงายเพราะโดนผมกระโดดกอดเป็นลูกลิง
“ต้า! ฮืออออออ” พอเจอเพื่อนสนิท คราวนี้ผมปล่อยโฮเต็มลิมิต พอต้าตั้งตัวได้ก็รีบกระเตงผมเข้าห้องก่อนจะพยายามเอาผมหย่อนลงไปบนโซฟา แต่ผมไม่ปล่อย ต้าเลยต้องพยุงให้ผมเกาะตัวเองไว้อย่างยากลำบากแล้วโทรตามคณิต
“คณิต! มึงรีบมาห้องกูเดี๋ยวนี้ เอาเสื้อผ้ามาด้วย เออ ได้ยินใช่มั้ย ลูกมึงอ่ะ เกาะกูเป็นตังเมเลยโว้ย”
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คณิตก็มาถึงห้องต้า ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปกระโดดเกาะคณิตแทน
ผมร้องไห้จนตาบวมเป็นนกกะปูด หยิบกระเป๋ามาเทแล้วส่งหนังสือกฎหมายที่เพิ่งซื้อมาใหม่ให้เพื่อนคนละเล่ม
“ฮึก ช่วยดูหน่อย ประกันตัวใช้เงินเท่าไร...แล้ว แล้วค่าปรับอีกล่ะ ฮือออ”
“เดี๋ยวนะครับใกล้ มันไม่ใช่แล้ว” คณิตเอามือกุมขมับ
“ไม่ได้เหรอ ฮือออ งั้น...งั้นคุกมีข้าวไรซ์เบอร์รี่ไหม อกไก่อีก นมเมจิด้วย แล้วแมวล่ะ คุกมีแมวไหม แงงงง คณิต เราอยู่ไม่ได้หรอก” ผมนั่งซุกคณิตแล้วร้องไห้งอแงอยู่นานสองนาน จนต้าต้องลงไปซื้อขนมกับสติกเกอร์ให้
“นี่ไง สติกเกอร์ลายดาว ดาวพฤหัสไม่มี กูพยายามแล้ว แต่ดาวเสาร์คล้ายๆ กัน มีวงแหวน” ผมผละจากไหล่คณิต เหลือบมองของในมือต้า อ๊ะ ดาวพลูโต
ต้าชวนผมดูสติกเกอร์จนลืมเกาะคณิตต่อ เจ้าตัวเลยใช้จังหวะนั้นไปชงน้ำแดงอุ่นให้ผมแก้วหนึ่ง ผมเอาสติกเกอร์มาแปะสมุดเล่น กินขนมดื่มน้ำแดงจนรู้สึกใจเย็นขึ้นมาก ก็เลยเปิดปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองคนฟัง
“ถ้า...ถ้าเราติดคุก เราขอเอาหมีใหญ่ไปด้วยได้ไหม หรือต้องให้แมวทำผิดกฎหมายก่อน บอกเขาได้ไหมว่าหมีใหญ่ก็ส่องพี่ธันเหมือนกัน เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด” ผมพูดเสียงอ่อย ไม่อยากอยู่ในคุกคนเดียวนะครับ มันเหงา
“ใกล้ครับ ไม่ติดคุกหรอก พี่ธันบอกจะจับใกล้เหรอ”
“ก็เขาบอกว่าจะหาหลักฐาน...เพื่อนเขาอัดเสียงเราด้วย”
“แต่ยังไม่ได้คุยกันใช่ไหม?”
“ยัง...”
“แล้วที่ร้องไห้เป็นเผาเต่าอย่างงี้เพราะกลัวติดคุกหรือเพราะอะไร” ต้ากอดอกแล้วพูดอย่างรู้ทัน เล่นเอาผมสลดหดหู่ไปหมด
“ก็กลัวคุกด้วย กลัว...ไม่ได้กลัว แต่ ไม่รู้ คือ...ถ้าอย่างนั้นแล้ว ที่ผ่านมา มันฮึก ...คืออะไรอ่ะ”
“ไอ้เหี้ยต้า! เพิ่งหยุดร้องนะโว้ย”
“เออๆ กูผิด มานี่ๆ เล่นสติกเกอร์” ต้าลอกสติกเกอร์ให้ผมแปะสมุดเพิ่ม แปะก็แปะ
“แล้วเราจะทำยังไงต่อ ไม่รู้จะมองหน้าเขายังไงแล้ว...” ผมลอกแปะ ลอกแปะไปเรื่อยๆ พอหมดหน้าก็เปลี่ยน
ต้ากับคณิตแอบไปคุยกันหน้าเครียด แต่อยู่ในระยะสายตาของผม ถึงแม้จะไม่ได้ยินก็ตาม
สติกเกอร์เกือบหมดแล้ว ทั้งคู่จึงกลับมา
“ช่วงนี้อย่าเพิ่งยุ่งกับมัน รอดูท่าที เข้าใจไหม ห้ามยุ่งเด็ดขาด” ต้าบอก
“เจอหน้าให้วิ่งหลบ ไม่ต้องไปเดินตอนเช้า ชมรมก็งดไปก่อน โภชนาก็ไม่ต้องห่วง เขาไม่เช็กชื่อ เดี๋ยวผมเลคเชอร์มาให้ เข้าใจไหมครับ” คณิตเสริม
ผมพยักหน้าแต่ในใจรู้สึกแย่มาก
ระหว่างติดคุกกับห้ามตัวเองไม่ให้มองเขา อย่างแรกอาจจะง่ายกว่า อย่างน้อยผมก็ขอให้เพื่อนเอาอกไก่กับน้ำแดงไปส่งให้ได้บ้าง
แต่ผมก็เข้าใจว่าเพื่อนเป็นห่วง กลัวผมติดคุกแล้วจะไม่มีอนาคต
“ช่วงนี้มาอยู่ห้องกูก่อน คณิต เดี๋ยวมึงไปเอาแมวมันมาให้หน่อย”
“เออ ได้”
“เลิกซึมได้แล้ว แม่ง กูซื้อสติกเกอร์มาเป็นโหล จะแปะเหี้ยไรนักหนา หมดแล้วเนี่ย” พอคณิตไม่อยู่ ต้าก็เริ่มใจร้ายกับผมอีกแล้ว
“ต้า ที่ผ่านมาเขาทำเพราะว่าอยากเอาผิดเราเหรอ...เป็นแบบนั้นเหรอ”
ทุกเรื่องเลย ทั้งเรื่องที่เราพาหมีใหญ่ไปเดินด้วยกัน
เขายอมกินอาหารของผม
พาไปหาหมอ...กอดเอาไว้ตอนฉีดยา
และจูบคราวนั้น
ทุกเรื่องเลยเหรอ
“คิดว่ายังไงล่ะ” ต้าเท้าคาง มองเศษกระดาษที่เหลือจากการลอกสติกเกอร์แล้วทำหน้าเหนื่อยใจ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น เดี๋ยวเก็บไปทิ้งให้
“เราไม่รู้...เราไม่รู้เลยต้า”
แต่ลึกๆ ในใจผมอยากจะเชื่อเขา พี่ธันคนที่ผมมองอยู่ตลอด ไม่ใช่คนที่จะยอมฝืนตัวเองเพื่ออะไรแบบนี้
ผมอยากจะเชื่อสิ่งที่เขาพูด เชื่อในการกระทำของเขา
แต่ถ้าสุดท้ายผมเข้าใจผิดไปเองทุกอย่างล่ะ ผมอาจไม่เคยรู้จักเขาจริงๆ เลยก็ได้
“พอ ไม่ต้องเบะ กูไม่ซื้อแล้วนะไอ้สติกเกอร์เวรนี่ แดกน้ำแดงไปเลย”
ผมนั่งเล่นสติกเกอร์ไปเรื่อยๆ จนคณิตพาหมีใหญ่มา
“หมีใหญ่ หมีใหญ่” ผมต้อนแมวเข้าแขนแล้วกอดหมับ
“เมี้ยวว” ผมเอาหน้าซุกพุงแมว ซุกไปซุกมาเพื่อนหาย ผมมองซ้ายมองขวา คณิตกับต้าหายไปไหน อ้าว กลับมาแล้ว ไปคุยอะไรกันตรงระเบียง แอบดูดาวเหรอ ทำไมไม่เรียกผม แล้วหน้าเครียดกันจัง
“ต้า คณิต? หือออ อะไร” ผมหลับตาเมื่อถูกรุมขยี้หัว
“ชอบใครไม่ชอบนะมึง!”
--TBC--
TALK
เอาแล้วไง นังใกล้ ติดคุกหัวโตแน่ๆเรยค่ะ ดราม่ามาก จะอดแดร่กนมเมจิกับข้าวไรซเบอร์รี่ ดราม่าสุดไรสุด
เปรมน่าสงสารเนาะ พอมีซีนก็ออกมาเป็นคนคอยปลอบ สรุปตอนนี้คือเดือดร้อนกันหมดทุกคน เปรมก็นก ต้ากับคณิตก็ต้องดูแลลูก พี่ธันก็ยังไม่ได้พูดไรสักแอะ หมีใหญ่ก็โดนกอดแน่น ทุกคนน่าสงสาร แง มาช่วยกันตามติดชีวิตหนูตะเภานะคะ เป็นกำลังใจให้นังน้องหน่อย ร้องไห้จนซีด แต่ปากแดงมุบมิบเพราะกินน้ำแดงเยอะ อยากโอ๋แต่ก็อยากตี ไม่รุจะพุดยังไง เป็นกำลังใจให้ต้าคณิตหนักสุด พี่ธันอีกคน ฮือออ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ทุกกำลังใจมากค่ะ ♥
เลย์
#ใกล้กว่าดาว
แง สงสารเปรมมาก บทพระรองเวอร์
ล่าสุดหาคุกให้แมวแล้วน้องใกล้กู วงวารแมวหรือวงวารคนเลี้ยงแมวดี55555555
พี่ธันต้องรีบมาอธิบายแล้ว รู้กตามไม่ทัน ฮือ