คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1 บ้านใหม่
“แม่คะดูนั่นสิ ทุ่งดอกไม้!” เส้นผมสีน้ำตาลแดงสนิมถูกลมพัดจนหน้าม้าเปิด เผยให้เห็นหน้าผากสีขาวนวลเนียนเหมือนตุ๊กตากระเบื้อง เด็กสาวตัวน้อยแทบจะยื่นตัวออกไปนอกหน้าต่างรถอยู่แล้ว แม่ของเธอเห็นท่าไม่ดีก็ทำหน้าเสีย รีบดึงตัวยัยเด็กซนพลังงานสูงที่กำลังตื่นเต้นให้กลับเข้ามานั่งชมวิวดีๆอย่างที่ผู้โดยสารดีๆควรจะทำ
“ถ้าแม่จะต้องคอยจับตัวลูกเอาไว้แบบนี้ทุกๆครั้งที่เราผ่านทุ่งหญ้าทุ่งดอกไม้หรือฟาร์มเลี้ยงสัตว์ล่ะก็นะเรย์อาร์ กว่าจะถึงบ้านใหม่ของพวกเราแม่คงได้กลายเป็นคนเกลียดธรรมชาติไปเลยแน่ๆ”
พอเห็นแม่บ่น เด็กสาวก็พูดขอโทษอย่างขอไปทีโดยไม่รู้สึกผิดเลยอย่างเห็นได้ชัด เธอมองออกไปข้างนอก ท้องฟ้าฤดูใบไม้ร่วงสีน้ำเงินเข้มสวยงาม เมฆขาวบางเบาลอยแขวนนิ่งราวกับภาพวาด อากาศเย็นสบายแต่ว่าแดดจัด พงดอกไม้สีเหลืองเหมือนเหรียญทองช็อกโกแลตที่ขายตามร้านมินิมาร์ททอดตัวยาวตามริมข้างทางถูกลมพัดพลิ้วไสว ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนเร่งร้อนวิ่งสวนทางผ่านไปเมื่อมองจากบนรถที่กำลังวิ่ง
“มันคือดอกอะไรเหรอคะพ่อ หนูไม่เคยเห็นดอกไม้แบบนี้มาก่อนเลย” ดวงตากลมโตสีเหลืองอำพันของเด็กสาวเปิดกว้างเป็นประกายระยิบระยับจ้องมองเหล่าดอกไม้ข้างนอกอย่างไม่วางตา
ดอกไม้สีเหลืองทองขึ้นแทรกตัวอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้ร่มไม้ที่มีแสงแดดน้อยกว่าบริเวณรอบข้าง หรือแม้แต่ตามรอยร้าวบนพื้นสนามเด็กเล่นข้างทาง สีสันสดใสจนทำให้ดอกไม้อื่นๆที่ขึ้นอยู่ในบริเวณใกล้เคียงดูหมองไปเลย
“พ่อไม่รู้หรอก ก็คงจะเป็นพวกดอกหญ้าหรือวัชพืชทั่วไปนั่นแหละ” แม้ว่าจะตั้งสมาธิกับการขับรถ แต่พ่อของเรย์อาร์ก็ยังชำเลืองสายตาไปพิจารณาดอกไม้ข้างทางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะให้คำตอบ
“แต่หนูว่ามันสวยเกินกว่าจะเป็นดอกหญ้านะคะ”
“จริงๆแล้วจะเรียกว่าดอกไม้ป่าก็ได้นะถ้าลูกไม่อยากเรียกว่าดอกหญ้า” พ่อตอบยิ้มๆขณะที่ขับรถผ่านป้ายต้อนรับเข้าเมือง ใช้เวลาไม่นานทุกคนก็เดินทางมาถึงบ้านใหม่พร้อมกับรถบรรทุกจากบริษัทขนย้ายอีกสองคัน
บ้านใหม่ของเรย์อาร์เป็นบ้านสองชั้นสร้างจากอิฐสีน้ำตาลแดงสลับกับกรอบหน้าต่างกรอบประตูสีขาวหน้าตาน่าอยู่ ร่มรื่นด้วยต้นโอ๊คใหญ่ รายล้อมด้วยบ้านหน้าตาคล้ายกันอีกหลายหลังที่จัดสวนหน้าบ้านด้วยดอกไม้ต้นไม้หลากหลายชนิด บ้างสวยเรียบร้อย บ้างรกรุงรัง บางหลังก็มีดอกไม้สีเหลืองทองที่เรย์อาร์เห็นระหว่างทางซึ่งทำให้เธอเกิดความคิดที่จะไปขุดดอกไม้พวกนั้นมาปลูกในสวนบ้างเช่นกัน
เวลาที่ครอบครัวนี้เดินทางมาถึงบ้านใหม่คือบ่ายโมงวันอาทิตย์ พวกผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่แถวนั้นบางคนก็เข้ามาทักทายตามมารยาทในระหว่างที่พนักงานบริษัทขนย้ายกำลังช่วยกันขนของ ส่วนพวกเด็กๆแถวบ้านกำลังเล่นกัน พ่อแม่ของเรย์อาร์จึงไล่ลูกสาวออกไปเล่นข้างนอกเพื่อที่จะได้เจอเพื่อนใหม่…และอีกประการหนึ่งก็คือไม่อยากให้เธอเล่นในบ้านจนเกะกะการจัดบ้าน
เธอออกสำรวจบริเวณละแวกบ้านใหม่ มีบ้านอยู่สองฟากสองถนน ทุกหลังล้วนมีโรงเก็บรถหรือโรงเก็บของอยู่ข้างตัวบ้าน ทางเท้ากับพื้นที่หน้าบ้านคนที่ไม่ล้อมรั้วซึ่งกว้างขวางพอที่เด็กๆจะวิ่งเล่นกันได้อย่างสบายใจ มีแป้นบาสติดอยู่บนผนังบ้านหลังหนึ่งในตำแหน่งที่ใกล้กับหน้าต่างกระจกมากจนน่าหวาดเสียว เด็กหลายคนกำลังเล่นขี่หลังต่อตัวกันให้สูงถึงแป้นบาสเพื่อที่จะหย่อนลูกบาสลอดห่วงลงมา เลยไม่ค่อยสนใจเด็กสาวที่มาใหม่ เรย์อาร์คิดว่าเด็กพวกนั้นเล่นอะไรแปลกๆและไม่ค่อยมีประโยชน์กับการเล่นบาสจริงๆสักเท่าไหร่ แต่ก็หวังว่าพวกเขาจะสนุก
เธอยังพบพวกสัตว์ตัวเล็กๆด้วย เรย์อาร์เจอแรคคูนกำลังคุ้ยถังขยะ กระรอกที่น่ารัก นกสีฟ้าสดใสจนแทบจะดูเหมือนตุ๊กตาตกแต่งสวนไม่มีผิด และตุ๊กตาตกแต่งสวนที่แทบจะดูเหมือนนกจริงๆ
มีร้านมินิมาร์ทกับร้านกาแฟอยู่แถวนั้นอย่างละหนึ่งแห่ง ที่กำแพงร้านกาแฟมีภาพกราฟฟิตี้ที่เหมือนจะมีคนมือบอนมาวาดเอาไว้ เป็นภาพตัวการ์ตูนของใครบางคนที่สวมฮูดปิดหน้าปิดตาสีดำ กับข้อความที่เขียนเอาไว้ว่าDreamerfall ส่วนบนเสาไฟหน้ามินิมาร์ทก็มีโปสเตอร์โฆษณากับใบประกาศตามหาเด็กหายแปะอยู่
เรย์อาร์ดื่มน้ำอัดลมกระป๋องที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทพลางอ่านข้อความบนกระดาษเหล่านั้น เด็กในภาพประกาศตามหาคนหายไว้ผมหน้าม้าตัดสั้นสีน้ำตาล ผิวขาว แก้มชมพูระเรื่อน่ารัก น่าเสียดายที่รายละเอียดชื่อที่อยู่ และข้อความอื่นๆในแผ่นป้ายประกาศโดนความชื้นหรืออะไรสักอย่างทำให้หมึกเลือนไปหมดแล้ว เรย์อาร์ได้แต่พยายามจดจำใบหน้าของเด็กที่หายไปเอาไว้ในใจก่อนที่จะเดินสำรวจต่อไป
เรย์อาร์เดินตัดลานจอดรถหลังร้านกาแฟไปยังพื้นที่อีกซอยของชุมชน เธอยเจอลำห้วยตื้นๆที่ไหลผ่านหลังบ้านหลังหนึ่งที่สวยมากเป็นพิเศษ มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนวาดรูปบนผืนผ้าใบอยู่หน้าเพิงข้างตัวบ้าน...ในนั้นมีเฟรมผ้าใบบนขาตั้งวางระเกะระกะไปหมด เด็กสาวเห็นแบบนั้นก็อดใจไม่ไหวแอบเข้าไปดูใกล้ๆตามประสาเด็กที่ย่อมอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเข้าไปใกล้ๆแล้วเรย์อาร์ก็สังเกตเห็นว่าแววตาของหญิงสาววาดรูปดูล่องลอยชอบกล...น่ากลัวว่าเธอจะสติไม่ค่อยดี บนผืนผ้าใบทุกอันก็ล้วนมีรูปวาดคนสวมฮูดสีดำปิดหน้าปิดตาเหมือนภาพกราฟฟิตี้บนกำแพงร้านกาแฟไม่มีผิด เพียงแต่ว่าต่างอิริยาบท เรย์อาร์ไม่เคยเห็นตัวละครนี้ในการ์ตูนหรือเกมส์หรือภาพยนตร์...มันเป็นมาสคอตอะไรสักอย่างของเมืองนี้หรือเปล่านะ
ชายแก่ที่อยู่ในบ้านริมห้วยอีกหลังก็ดูท่าทางสติไม่ดีเหมือนกัน บริเวณบ้านหลังนั้นมีขวดแก้วเขรอะๆที่ใส่อะไรบางอย่างที่เรย์อาร์ดูไม่ออกเอาไว้ข้างในแขวนอยู่ตามต้นไม้ด้วยเชือก กับวงกลมที่เหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาด้วยการโรยเกลือเป็นรูปวงกลมวงใหญ่ล้อมรอบบ้าน เขากระแทกใบหน้ากับฝ่ามือกับกระจกแล้วจ้องเขม็งมาที่เรย์อาร์ตอนที่เธอเดินเข้าไปใกล้ๆตัวบ้าน ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยเส้นเลือด เล่นเอาเด็กสาวผู้ย้ายมาใหม่กรี๊ดเสียงแหลมก่อนจะวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนจากมา
มีพี่น้องคู่หนึ่งชวนเธอเข้าไปเล่นวีดีโอเกมที่บ้าน พวกเขามีชื่อว่าไอรีนกับเจมส์ เรย์อาร์ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมอะไรกับการเล่นของสองคนนั้นสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อสองคนนั้นได้นั่งลงตรงหน้าจอแล้ว ทั้งสองคนก็เอาแต่กดจอยฝั่งของตัวเองเพื่อแข่งกันทำแต้มโชว์เพื่อนใหม่ แต่ดูสองคนนี้เล่นก็สนุกดีเหมือนกัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนท้องฟ้าเริ่มมืด แม่ของสองพี่น้องต้องเข้ามาเตือนพวกเขาว่าเรย์อาร์ควรจะกลับบ้านได้แล้ว
เรย์อาร์แอบเดินสำรวจต่ออีกนิดหน่อย เธอพบสนามเด็กเล่นกับสวนส่วนกลางของเมืองที่มีแปลงปลูกดอกไม้สีเหลืองทองที่เธอชอบตั้งแต่แรกเห็นขนาดใหญ่หลายแปลง เด็กสาวมองมันแล้วยิ้ม หมายมั่นตั้งใจว่าจะกลับมาเดินเล่นที่นี่ในวันพรุ่งนี้
"แม่ของไอรีนกับเจมส์มาหาพ่อกับแม่ที่บ้าน บอกว่าลูกไปเล่นที่บ้านพวกเขา แต่ถึงยังงั้นลูกก็ควรจะโทรมาบอกแม่ก่อนนะว่าจะกลับค่ำ"
แม่ของเด็กสาวบ่น ก่อนที่จะกลับไปจัดอาหารใส่จานต่อ อาหารเย็นวันนี้คือของกินที่สั่งซื้อจากร้านอาหารผ่านทางโทรศัพท์จำพวกพิซซ่าและไก่ เพราะว่าครอบครัวของเรย์อาร์เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆวันนี้ ห้องครัวจึงยังไม่พร้อมใช้งาน
"ผมคิดไว้ว่าจะขายรถคันเก่า" พ่อเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นระหว่างรับประทานอาหาร หลังจากที่เรย์อาร์เล่าเรื่องเกมส์ที่สองพี่น้องเล่นให้ดูเมื่อตอนกลางวันจบ "สภาพมันไม่ค่อยจะดีแล้ว แถมยังเก่าตกรุ่น...ก็นะ รถคันนี้ผมขับมาเป็นสิบๆปีแล้ว ดีไม่ดีเจ้ารถคันนี้มันจะแก่กว่าเรย์ซะอีก"
"เอ๊ะ พ่อจะขายจริงๆเหรอคะ...หนูว่ามันก็ยังดีอยู่เลยนะ ตอนย้ายมาที่นี่พ่อขับมันมาตั้งไกล ก็แทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลยนี่คะ"
นอกจากเรื่องที่เหมือนจะมีเครื่องยนต์บางส่วนเสียนิดหน่อย จนได้เข็นรถอยู่รอบหนึ่งระหว่างทาง…นอกนั้นก็เดินทางได้ราบรื่นดีนะ!
"เอ่อ...ก็เรื่องนั้นนั่นแหละลูก พ่อคิดว่ามันคงพยายามจะบอกเราว่ามันแก่มากแล้ว ควรจะถึงเวลาพักผ่อนของมันสักที" พ่อตอบด้วยท่าทางอึ้งเล็กน้อย ปกติแล้วถ้าเด็กๆต้องลงไปเข็นรถแบบนั้น คงจะต้องโวยวายอยากให้พ่อแม่ซื้อคันใหม่มาขับมันถึงจะถูก เขาไม่แน่ใจว่าควรจะดีใจที่ลูกเป็นคนพอใจในสิ่งที่มี ไม่ทุกข์ร้อนที่ต้องใช้ข้าวของเก่าๆ หรือควรจะกลุ้มใจที่ลูกเป็นคนได้รับความเดือดร้อนลำบากแล้วไม่รู้ร้อนรู้หนาวกันแน่
"หนูคงจะคิดถึงมัน พ่อขับรถคันนี้มาตั้งแต่ที่หนูเพิ่งจำความได้" เด็กสาวพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาในที่สุด เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองเป็นคนละเอียดอ่อนให้ความสำคัญต่อความทรงจำเป็นที่หนึ่ง เรย์อาร์มักจะรู้สึกผูกพันกับผู้คนและสิ่งของต่างๆที่อยู่ร่วมกับเธอมานาน แม้ว่าจะเป็นเพียงรถคันหนึ่ง แต่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน เธอก็ยังคงเห็นความทรงจำเก่าๆที่เคยนั่งรถคันนั้นไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกับครอบครัว ตอนที่ไปเที่ยวทะเล ตอนที่ไปขึ้นรถโรงเรียนไม่ทันจนพ่อต้องขับรถพาเธอไปส่งเอง ตอนที่พ่อพาเธอไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเพราะถูกหมากัด...ไปจนถึงหมากฝรั่งเคี้ยวแล้วที่เธอเคยแอบแปะเอาไว้ใต้เบาะรถ เธอรู้สึกว่าหัวใจเบาโหวงแปลกๆ ใกล้เคียงกับความรู้สึกเสียใจเมื่อคิดว่าต่อไปจะไม่ได้เห็นรถคันนี้อีก
"ไว้ซื้อคันใหม่มาแล้วพวกเราก็สร้างความทรงจำใหม่ๆกับมันก็ได้นี่ลูก รถคันใหม่ที่พ่อคิดจะซื้อน่ะมีทั้งระบบเล่นDVD มีTVขนาดเล็กเอาไว้ให้ลูกดูหนังเวลาเดินทางไปเที่ยวไกลๆ แล้วยังมีระบบลำโพงที่ดีมากๆด้วยนะ" พ่อหยิบพิซซ่าเข้าปาก อีกมือหนึ่งเลื่อนแคทตาล็อครถยนต์ไปทางลูกสาว
"ให้โอกาสรถคันใหม่หน่อยเถอะนะเรย์ ต่อไปในอนาคต ลูกยังจะต้องพบสิ่งใหม่ๆ คนใหม่ๆอีกมาก แล้วลูกก็จะไม่มีทางมีความสุขได้เลยถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ" ฝ่ายคุณแม่ก็ถือโอกาสนี้สั่งสอนลูกด้วยซะเลย
"ค่ะ" เรย์อาร์ได้แต่ยอมรับเสียงแผ่ว เธอเข้าใจดีว่าของมันเก่าก็ต้องเปลี่ยน แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่ค่อยอยากจะยอมรับเรื่องนี้สักเท่าไหร่
"วันนี้ลูกก็ยอมไปเล่นเกมส์กับเพื่อนใหม่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ ที่ลูกต้องทำก็แค่ยอมให้โอกาสกับรถคันใหม่เหมือนที่ลูกยอมให้โอกาสเพื่อนใหม่ของลูกเท่านั้นเอง"
"อันที่จริงแล้วหนูก็ไม่ค่อยชอบสองคนนั้นนักหรอกค่ะ เอาแต่เล่นเกมอวดอยู่ได้...แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก หนูยังมีเพื่อนที่โรงเรียนเก่าอีกเยอะแยะที่หนูส่งข้อความหรือโทรไปหาได้"
ผู้เป็นลูกสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะดูเหมือนเถียง
“ถ้าอย่างนั้นวันหลังลูกก็ควรจะขอให้สองคนนั้นสอนลูกเล่นเกมบ้าง” ดูเหมือนว่าแม่ของเรย์อาร์จะจับบางอย่างในน้ำเสียงของลูกสาวได้ “ติดต่อกับเพื่อนเก่ามันก็ดี แต่ลูกก็ต้องเข้าหาเพื่อนใหม่ด้วย”
“หนูอิ่มแล้ว ขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนนะคะ” ทั้งที่ไม่มีเหตุผลอันสมควร แต่ว่าเด็กสาวก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ เธอกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนจนลืมเวลา กว่าเธอจะได้เข้านอนจริงๆก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนครึ่ง ผมยาวระต้นคอกระจายตัวรอบหัวดูเหมือนไจไหมที่ส่องประกาย
…แล้วคืนนั้นเรย์อาร์ก็ฝัน
ความคิดเห็น