ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic : Harry Potter & Fantastic Beasts │Moon of Destiny.

    ลำดับตอนที่ #8 : 06 | Found Again

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.32K
      363
      3 ต.ค. 64







    06

    Found Again









    “อะแฮ่ม!” ดัมเบิลดอร์กระแอมไอ กลอกตาไปด้านข้าง “เราปล่อยให้คุณวิสลีย์กับมิสมัลฟอยได้พักผ่อนเถอะ” ชายชราส่งยิ้มละไมให้แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่และเลื่อนฉากมากั้นกลางระหว่างเตียงของซินเซียและรอนบดบังซึ่งการมองของเด็กผมแดง มือเหี่ยวย่นผลักหลังแฮร์รี่เบาๆเพื่อไล่ให้เด็กหนุ่มออกไปนอกห้องพร้อมกัน


    “เซเวอร์รัสเชิญคุณตามสบายเลย” ดัมเบิลดอร์ผายมือ ซึ่งการกระทำของชายชราทำให้สเนปฉุกนึกบางอย่างได้ เขาจึงรีบผละออกจากลูกทูนหัวทันที


    “อ้าว อ้าว ทำไมถึงทำแบบนั้นเล่า” ชายชราเลิกคิ้วถาม “ไม่ต้องห่วงเซเวอร์รัส ผมจะปล่อยให้คุณคุยอะไรๆกับเด็กในบ้านของคุณ” น้ำเสียงของดัมเบิลดอร์แฝงไปด้วยความทะเล้นปนหยอกเย้า


    สำหรับซินเซียดูอย่างไรก็เหมือนศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์จงใจแหย่อาเซปเล่น แม้เขาจะแสดงทีท่าไม่อยากเป็นตัวเกะกะขัดบทสนทนาระหว่างเธอกับอาเซปก็ตาม “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์คะ หนูมีเรื่องอยากถามเป็นการส่วนตัวค่ะ และแค่สองคน” เธอเอ่ยรั้งดัมเบิลดอร์ไว้ ถึงเธอจะดีใจที่ศาสตราจารย์วิชาปรุงยาเป็นห่วงเธอ แต่จากการระลึกถึงกิริยาก่อนหน้าของเขาหลายอย่าง คิดว่าจิตใจเธอไม่อยากเสวนากับอาเซปด้วยในตอนนี้และเธอมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับดัมเบิลดอร์


    “ได้มิสมัลฟอย” ชายชราพยักหน้ารับ เอ่ยปากสั่งให้ทุกคนออกจากห้องยกเว้นรอนที่ต้องนอนติดเตียง “ทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะนี่ก็ดึกมากแล้ว คุณด้วยเซเวอร์รัส—ขอบคุณที่ช่วยรักษามิสมัลฟอย” 


    เมื่อไม่มีใครอยู่ในห้อง ดัมเบิลดอร์ก็รีบดึงเด็กสาวเข้าบทสนทนาทันที “จะถามเรื่องซีเรียส แบล็คใช่หรือเปล่ามิสมัลฟอย”


    ซินเซียผงกศีรษะ ยิงคำถามใส่อีกฝ่ายรัวๆ “ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างคะ ศาสตราจารย์จับเขาคุมขังชั่วคราวบนหอคอยฮอกวอตส์รึเปล่า  แล้วเพ็ตติกรูว์ที่ต้องคาถาละคะ และพวกผู้คุมวิญญาณอีก ซีเรียสจะโดนกระทรวงไต่สวนหรือรื้อคดีความเพื่อความเป็นธรรมให้เขาใหม่ไหมคะ?”


    ชายชรานั่งลงบนเตียง ตบบ่าเด็กสาวเบาๆ “ใจเย็นก่อนนะมิสมัลฟอย” เขาตอบอย่างนุ่มนวล “เราคุมขังซีเรียสกับเพ็ตติกรูว์ไว้สำหรับการไต่สวนของกระทรวงเวทมนตร์ในเช้าพรุ่งนี้ และคืนนี้ฉันจะส่งตัวเพ็ตติกรูว์ให้กับผู้คุมวิญญาณ ส่วนซีเรียส—จะได้รับอิสระภาพ หากแต่ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลต่อไป”


    เธอถอนหายใจโล่งอกแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอหมดห่วงสักทีเดียว “รู้สึกยังไม่ค่อยเป็นธรรมกับซีเรียสเท่าไหร่เลย”


    “อ่าห์สาวน้อย—ฉันก็ช่วยได้เท่านี้ ฉันไม่ได้มีอำนาจมากพอที่จะอยู่เหนือรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์” 


    อยู่เหนือกระทรวงเวทมนตร์? ซินเซียครุ่นคิด—วนลูปกับประโยคนี้ซ้ำๆในหัว ถ้าดัมเบิลดอร์ไม่มีอำนาจแทรกแซงมากพอ งั้นก็มีอยู่คนหนึ่งที่สามารถช่วยซีเรียสได้ในตอนนี้ นั่นคือพ่อของเธอ ตระกูลมัลฟอยมีอำนาจเก่าที่สั่งสมมานานต่อภายในกระทรวงเวทมนตร์ แค่การคำเอ่ยปากของพ่อลูซ มันต้องช่วยซีเรียสได้อย่างแน่นอน “ศาสตราจารย์คะ ถ้างั้น.....”


    “คุณทำมามากพอแล้วมิสมัลฟอย” ดัมเบิลดอร์ยกมือขึ้นหยุดยั้งความคิดของเด็กสาว “คุณแก้ไขอะไรหลายๆอย่างให้มันเป็นไปอย่างถูกต้องจนไม่สนว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร หากคุณจะใช้วิธีนั้นช่วยซีเรียส ฉันจะไม่สามารถปกป้องคุณให้อยู่ในฐานะนักเรียนปกติได้ดังพวกแฮร์รี่ พวกนักข่าวจะมารายล้อมเอาข่าวจากเธอรวมถึงเจ้าหน้าที่จากกระทรวงก็จะสอบปากคำเธอด้วย เธอจะอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ มิสมัลฟอย.....ฉันคิดว่าคุณเป็นเด็กฉลาดมากพอที่จะไม่เสี่ยงอะไรไปมากกว่านี้นะ”


    ซินเซียงุดหน้าลง เก็บปากเงียบไม่แสดงความเห็นอะไร มันก็จริง—อย่างที่ดัมเบิลดอร์กล่าว แต่ทำไม? คำพูดของเขามันเหมือนว่าเธอได้เสี่ยงอันตรายมาหลายอย่างเลยล่ะ หรือเธอคิดมากไปเอง


    ดัมเบิลดอร์ส่ายหน้า เลื่อนดวงตาสีฟ้าใสจดจ้องใบหน้าคมเศร้าสร้อย มือเหี่ยวย่นของเขาประคองเด็กสาวให้นอนลงกับเตียง “อย่าคิดมากเลย......พักผ่อนเถอะมิสมัลฟอย” 


    เธอนอนลงอย่างว่าง่าย “ศาสตราจารย์คะ” และถามอีกคำถามกับชายชรา “หนูจำได้ว่าหนูโดนศาสตราจารย์ลูปินงับ นั่นหมายความว่าหนูต้องติดเชื้อมนุษย์หมาป่าด้วยนี่คะ?”


    “อ๋อ.....เรื่องนั้น” ชายชรากล่าวค่อยๆ “เรื่องนั้นเพราะเธอแค่โดนเขางับเพียงเล็กน้อย เขี้ยวของรีมัสเลยยังไม่ฝังไปถึงเนื้อใน พิษจึงยังไม่แทรกเข้าไปในร่างกายมาก และโชคดีที่เซเวอร์รัสคิดยาต้านทัน เธอถึงยังได้เป็นแม่มดน้อยปกติเหมือนในตอนนี้ไง เธอรู้ไหม? พ่อทูนหัวของเธอนั้นร้อนรนมากในการทำยารักษาให้ทันเวลาก่อนที่เชื้อจะลุกลาม”


    “เหรอคะ” เธอรับรู้ทุกถ้อยคำ แต่ก็มิได้ออกความเห็นใดใด “ขอบคุณค่ะศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” กล่าวขอบคุณชายชราและหลับพักผ่อนไปทั้งแบบนั้น


    ซินเซียตื่นมาที่เที่ยงของอีกวัน ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ให้เธอกับรอนได้หยุดเรียนเพื่อพักฟื้นร่างกายเป็นกรณีพิเศษ นับตั้งแต่เที่ยงจนถึงช่วงบ่ายไม่มีใครเข้าออกห้องพยาบาลเลยนอกจากพวกอาจารย์กับมาดามพอมฟรีย์ เพราะนักเรียนทุกคนถูกกันออกจากผู้รู้เห็นเหตุการณ์ที่กลายเป็นข่าวใหญ่เพียงชั่วข้ามคืน ซินเซียได้แต่นั่งๆนอนๆบนเตียง เธออยากเจอเดรกแทบใจจะขาดและคิดว่าแฝดพี่คงกำลังอกแตกตายอยากเจอเธอไม่แพ้กัน สุดท้าย—ศาสตราจารย์ลูปินก็โดนไล่ออกจากฮอกวอตส์ เพราะอาเซปเอาเรื่องของเขาไปแพล่งพรายให้เด็กบ้านสลิธีรินรู้


    เฮ้อ......ไม่เข้าใจพวกผู้ใหญ่เลยจริงๆ บางทีเขามีความคิดราวเด็กน้อยมากกว่าอายุจริง


    “มิสมัลฟอย” สักพักดัมเบิลดอร์ก็เปิดประตู ชะโงกหัวเล็กน้อย สอดส่องสายตาเข้ามาด้านใน เข้าๆออกๆทำท่าราวกับระวังตัวตลอดเวลา “มีคนอยากพบเธอ”


    “ใครเหรอคะ?” เธอถาม 


    “เข้ามาสิ” ชายชราพูดเสียงดัง


    “ซีเรียส!!” ทันทีที่ดัมเบิลดอร์เอ่ยปากเรียก ซีเรียสที่ดูสะอาดสะอ้านแต่งตัวแลดูภูมิฐานก็เดินมาหาซินเซีย “โอ้ว—ขอบคุณเมอร์ลิน” เธอร้องด้วยความดีใจ การที่เขามาอยู่ที่นี่ในสภาพที่ดูดีขึ้น นั่นหมายความว่าเขาได้รับความเป็นธรรมอย่างที่สมควรได้รับแล้ว


    “ไม่สาวน้อย” ซีเรียสส่ายหน้าทั้งรอยยิ้ม “ที่ต้องขอบคุณเป็นเธอมากกว่า” 


    “ถ้าไม่ได้เธอช่วยสนับสนุน ฉันคงไม่มีวันนี้ ขอบคุณมากสาวน้อยผู้วิเศษของฉัน” เขาอ้าแขนกอดเด็กสาวด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขเคล้าซาบซึ้ง “ขอบคุณจริงๆ”


    “ไม่เป็นไรค่ะซีเรียส” เธอตบบ่าเขาเบาๆ “แล้วเพ็ตติกรูว์เป็นยังไงบ้างคะ?” และถามถึงชะตาของปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ ณ ตอนนี้ แต่เพียงสิ้นประโยค ผู้ใหญ่สองคนในห้องทำสีหน้ากระอักระอ่วน บรรยากาศรอบตัวตึงเครียดขึ้นมาทันที


    “เธอฟังฉันนะ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟังทั้งหมดเอง” ซีเรียสกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง


    ผ่านไปห้านาที หลังจากที่ซินเซียได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดรวมถึงคำตัดสินของกระทรวงเวทมนตร์จากปากซีเรียส เขานั้นได้รับอิสระภาพกับชื่อเสียงคืนมา อีกทั้งยังได้รับการคุ้มครองจากกระทรวงเผื่อในกรณีที่ผู้เสพความตายตามล่าซีเรียส ซึ่งเขาปฏิเสธไป ส่วนเพ็ตติกรูว์—คราแรกนั้นไม่ยอมสารภาพ จึงต้องใช้วิธีดูความทรงจำจนได้รับคำตัดสินให้ไปอยู่คุกอัซคาบันตลอดชีวิต แต่สาเหตุที่ซีเรียสและดัมเบิลดอร์เป็นกังวลก็คือคำกล่าวแกมสาปแช่งของหางหนอนนั่นมากกว่า 


    “นายท่านของฉันมิได้มลายสาบสูญหรือแพ้ให้กับผู้ใด ท่านเพียงแค่อยู่ในเงามืดรอวันเวลาที่เหมาะสมเพื่ออชักพาความมืดให้รุ่งเรืองสู่โลกใบนี้อีกครั้ง จำไว้!! ลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่เคยหายไปไหน เตรียมใจไว้ให้ดีพวกกระทรวงเวทมนตร์ทั้งหลาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” 


    ประโยคที่เต็มไปด้วยความเสียสตินั่น สร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างมากและเพิ่มความวุ่นวายให้กับกระทรวงเวทมนตร์ แต่ข่าวนี้ยังไม่ได้แพร่ออกไปสู่ชุมชนผู้วิเศษ มีแค่คนที่อยู่ในห้องพิพากษาเท่านั้นที่รู้และซินเซียอีกคน อาจจะมีแฮร์รี่กับเสหายของเขาด้วย ลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่เคยหายไปไหน ไม่เคยแพ้ให้ผู้ใด มันหมายความว่าไง? มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว คำกล่าวจากปากคนที่จนตรอก มักจะจริงเสมอ นั่นหมายความว่าโวลเดอมอร์ยังมีชีวิตอยู่และไม่ได้อ่อนแออย่างที่ควรจะเป็น ซินเซียนิ่วหน้าครุ่นคิดถึงความผิดปกติทั้งหมด จวบจนที่ซีเรียสเอื้อมมือมาจับหัวเธอ


    “ไม่ต้องกังวลหรอก” เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ปีเตอร์อาจแค่โพล่งคำโกหกคำโตออกมาตามนิสัยของหนูจนตรอก มันอาจแค่อยากสร้างความระส่ำระส่ายให้พวกเราแค่นั้น” 


    “ถ้ามันเป็นแบบนั้นก็ดีค่ะ” ซินเซียตอบและพยายามเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นเพื่อขจัดความกังวลที่ค้างคา “วันนี้คุณมาที่นี่ก็เพื่อจะบอกหนูเท่านี้สินะคะ”


    “อืม ก็ใช่แต่ฉันอยากดูอาการเธอด้วยหลังจากที่ต้องกลับไปจัดการเรื่องวุ่นวายหลายอย่าง เฮ้อ....แค่เห็นเธอแข็งแรงก็โล่งอกแล้ว” ซีเรียสพ่นลมหายใจ “ฉันลาล่ะสาวน้อย”

     

    ขณะที่ซีเรียสกำลังปลีกตัวออกจากเตียงผู้ป่วยที่เธออยู่ “ซีเรียส” ซินเซียได้ถามบางอย่างออกมา “เราจะได้เจอกันอีกไหมคะ” เพราะซีเรียสนั้นค่อนข้างจะปลีกวิเวกและไม่ค่อยอยากคบค้าสมาคมกับตระกูลมัลฟอยของเธอเท่าใดนัก โอกาสที่จะเจอหน้าก็แทบไม่มี เธอยังอยากคุยอะไรหลายๆอย่างกับซีเรียส เพราะการที่ทำให้ซีเรียสรอดพ้นจากคำกล่าวหาโดยไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆก็ถือว่าบรรลุแล้ว เธออยากสะสมความสนิทสนมก่อนที่จะถึงเหตุการณ์ที่พรากชีวิตเขา


    แต่เรื่องนั้นเองเธอก็จะไม่มีวันปล่อยให้มันเกิดขึ้นเหมือนกัน


    “ไว้ปิดเทอม—ถ้าเธอว่างๆหรือเบื่อ มาดื่มชาที่อพาร์ทเมนต์ของฉันสิ แล้วฉันจะเตรียมขนมให้ พอถึงวันนั้นมาคุยกันอีกนะสาวน้อย” ซีเรียสพูดพร้อมรอยยิ้ม


    “ค่ะ.......แต่หนูขออิงลิชเบรคฟาสต์ด้วยนะคะ” เธอตอบและโบกมือลาต่อมิตรภาพที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างซินเซียกับซีเรียส








    สัปดาห์แรกของเดือนมิถุนาผ่านไปอย่างรวดเร็วและกำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่สามที่รถไฟสายด่วนฮอกวอตส์จะเคลื่อนขบวนอีกครั้ง เพื่อพานักเรียนกลับบ้านของพวกเขา เด็กสาวรู้สึกโล่งอกที่การลงทุนลงแรงอ่านหนังสือแบบไม่ได้นอนนั้น ส่งผลให้เธอได้รับเกรด (ก)เกินความคาดหมาย ได้อย่างสวยงาม ตอนนี้ซินเซียกับเด็กผู้หญิงหลายคนกำลังง่วนอยู่กับการเก็บข้าวของลงกระเป๋าสัมภาระก่อนที่จะลงไปรวมตัวที่โถงและฉลองงานเลี้ยงปิดภาคเรียน


    ขณะนั้นเอง ซินเซียพลันเหลือบมองซองจดหมายสีคาราเมลที่โต๊ะข้างเตียง เธอเอื้อมหยิบมันขึ้นมาอ่านอีกครั้ง เนื้อความด้านในคือข่าวดีจากซีเรียสที่ชวนให้อมยิ้ม



    4 มิ.ย. 1994

    ถึงสาวน้อยนำโชคของฉัน

    เข้าสู่เดือนมิถุนายนแล้ว อากาศเริ่มอุ่นและร้อนขึ้นจนน่าตกใจ หลังจากที่ฉันจัดการอะไรหลายๆอย่างจนลงตัว ก็เลยมีเวลาไปเดินเล่นด้านนอกบ้างเป็นครั้งคราวและบังเอิญพบกับอุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ฤดูกาลนี้ดอกวิสทีเรียกำลังขึ้นได้งามทีเดียว บางทีเธออาจสนใจมาดูและจิบชาด้วยกันตามสัญญานะ ฉันจะเตรียมอิงลิชเบรคฟาสต์ตามที่เธอขอไว้ ซึ่งฉันก็ไม่ได้เคร่งครัดกับธรรมเนียมการดื่มชาตามเวลาอะไร อันที่จริงจะชาอะไรก็ดื่มได้ทุกเวลาทั้งนั้น

    อ้อ....เกือบลืม ไม่ใช่แค่เราสองคนแน่นอน เพราะตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะรับแฮร์รี่ไปอุปการะต่อ คิดว่ามันน่ายินดีใช่ไหมล่ะ? ต้องจัดการเรื่องเอกสารชวนปวดหัวด้วยละนะ แต่ฉันคิดว่ามันอาจราบรื่น ใครต่างก็รู้ดีว่าฉันคือพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ ดังนั้นฉันจึงมีสิทธิ์ได้ดูแลเขา นอกจากนั้นหากฉันจะรับเขามาเลี้ยงดูละก็ คงต้องใส่ใจเรื่องมาตราการในการปกป้องเขาให้มากที่สุด เธอก็รู้ใช่ไหมว่าสถานะของแฮร์รี่ไม่ใช่เด็กปกติทั่วไป  ฉันก็ได้แต่หวังอีกสิ่งว่า ครอบครัวมักเกิ้ลพวกนั้นจะยินยอมโดยง่ายนะ

    และสุดท้ายนี้ฉันรอแทบไม่ไหวเลย ที่จะได้ร่วมจิบชากันสามคนท่ามกลางดอกวิสทีเรีย โปรดเก็บความซุกซนของเธอไว้นะสาวน้อย รักษาสุขภาพร่างกายของเธอให้แข็งแรงล่ะ ฉันจะรอ…..


    จากซีเรียส แบล็ค


    ซินเซียอ่านจบ เธอก็พับจดหมายเก็บเข้าซองลงกระเป๋า รีบลงจากหอหญิงตามเสียงเรียกของแพนซี่เพื่อรวมตัวกับเด็กในบ้านงูและเตรียมตัวกลับบ้านในวันพรุ่งนี้



    งานเลี้ยงปิดภาคเรียนผ่านไปได้ด้วยดี ปีนี้เป็นอีกครั้งที่บ้านกริฟฟินดอร์ได้ถ้วยนักเรียนดีเด่น ถึงแม้เดรกจะดูไม่พอใจและกลั่นแกล้งแฮร์รี่มากกว่าเก่า แต่เขาก็ลืมทุกสิ่งทันทีหลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์มัลฟอย พวกเราสองพี่น้องฝาแฝดเปลี่ยนเสื้อผ้าและใช้เวลาด้วยกันทั้งวันไปกับการเล่นไพ่พ่อมดสำหรับปิดเทอมวันแรกในตอนกลางดึก


    “ฉันแพ้อีกแล้ว!!” เดรโกโวยวาย ส่งยื่นคุกกี้ทั้งหมดจากฝีมือแม่ให้แฝดน้อง เขาแพ้สามตาติด ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะแพ้เกมไพ่ที่ตัวเองชำนาญ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเซียนโป๊กเกอร์พ่อมดแท้ๆ “เล่นอีกตาเถอะ” 


    “เล่นไปผลก็เหมือนเดิมอยู่ดี แถมตอนนี้นายไม่มีอะไรมาพนันแล้วนะเดรก” ซินเซียแอบเยาะเย้ยแฝดพี่เล่น


    เด็กหนุ่มได้แต่เก็บปากเจ็บใจและนึกหมั่นไส้แฝดน้องเนืองๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ผู้แพ้อย่างเขากำลังก้มเก็บสำรับไพ่ พ่อก็เดินเข้ามา “แพ้อีกแล้วหรือเดรโก”


    เดรโกถอนหายใจ “ทำไงได้ครับ ก็ซินเล่นเก่งขนาดนั้น”


    “ไหนพ่อของลองหน่อยซิ” ลูเซียสนั่งลงแทนที่ลูกชาย หนุ่มใหญ่ดึงสำรับไพ่มาสับและท้าทายลูกสาว “เจ้าซาเล็มน้อยเก่งขนาดไหนกันหนอ? ลูกกล้าเล่นกับพ่อรึเปล่าเอ่ย”


    “อู้ว—มีเหรอว่าหนูจะไม่กล้า แต่ต้องมีอะไรมาพนันนะคะ”


    “ได้สิ ถ้าลูกชนะพ่อจะยอมให้ลูกไปดื่มชาที่บ้านเพื่อนใหม่ของลูกพร้อมชาดีๆ สักกระป๋อง แต่ถ้าลูกแพ้ลูกจะไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นตลอดปิดภาคเรียนและลูกต้องบอกด้วยว่าเพื่อนใหม่ของลูกคือใคร” 


    “พ่อขี้โกงมาเลยนะคะ” เธอบุ้ยหน้า อย่างนี้เธอจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!! ขอเอาประสบการณ์ก่อนตายที่เป็นเจ้ามือวงไพ่เป็นเดิมพันเลย


    ผ่านไปประมาณยี่สิบนาที ลูเซียสแทบหมอบราบกับโต๊ะ “พะ......พ่อแพ้แล้ว” เขาแพ้ราบคาบให้กับเจ้าซาเล็มน้อย ไม่ยักรู้เลยว่าลูกสาวของเขาจะเป็นเซียนไพ่ทั้งที่เดรโกเพิ่งสอนตอนที่เล่นครั้งแรกด้วยกันแท้ๆ แถมชนะขาดลอยด้วยรอยัลสเตจฟลัชที่ทำได้ยากอีกตังหาก


    ร้ายกาจนัก!!


    “คุณพ่อลูซช่วยทำตามสัญญาด้วยนะคะ” 


    “พ่อไม่โกงลูกหรอก เอาล่ะ—ลูกไปนอนได้แล้ว พ่อยังมีอะไรที่ต้องคุยกับพี่ชายของลูกอีก” ลูเซียสยืนขึ้นและลูบหัวลูกสาว “ฝันดีเจ้าซาเล็มน้อย”  พลางพรมจูบแก้มยุ้ยส่งซินเซียเข้านอน


    “ฝันดีค่ะพ่อ นายด้วยเดรก ฝันดีนะ” แม้ซินเซียจะสงสัยว่าพ่อจะคุยอะไรกับเดรก แต่เธอก็ทำทีว่ายอมกลับห้องไปนอน เพราะอย่างไรเดี๋ยวเธอค่อยบังคับแฝดพี่บอกความจริงอีกที


    เธอก้าวขาขึ้นเตียงนุ่ม อ้าปากหาวฟอดใหญ่ พอหัวถึงหมอนเธอก็ผล็อยหลับอย่างรวดเร็วและเป็นอีกครั้งที่เจ้านาฬิกาพกเรือนเก่า ฉายแสงกลืนกินร่างเธอหายไปจากห้องนอน


    “เหวอ!!”


    ตื่นขึ้นมาอีกที ก็ตอนที่ได้ยินเสียงร้อง ซินเซียรีบดีดตัวตื่นจากที่นอนด้วยความตกใจจนหัวเผลอกระแทกกับของแข็ง เธอตาสว่างทันทีแล้วเพิ่งเห็นความผิดปกติ นี่ไม่ใช่ห้องของเธอนี่?  รอบตัวเป็นเพียงห้องแคบๆ บนหัวเธอคือโครงเหล็กที่ท่าทางเหมือนเตียงสองชั้น เด็กสาวหันเหศีรษะหาเงาที่อยู่หางตา 


    “พี่นิวท์!!?” เขานั่งกองกับพื้นมองตรงมาที่เธอ ซินเซียรู้ได้ทันทีว่าเธอถูกส่งกลับมาที่อดีตอันแสนไกลอีกแล้ว และครั้งนี้ก็ชอบส่งมาแบบแปลกๆดังเคย


    นิวท์ยืนขึ้นเต็มความสูง เกาะขอบเตียงยื่นหน้าหาเด็กสาว เพิ่งสงบสติทำใจให้เย็นลงได้ “พบกันอีกแล้วนะซินเซีย”


    มาแต่ละทีชอบทำให้เขาตกใจอยู่เรื่อยโดยเฉพาะตอนตื่นนอนเสมอเลย


    และครั้งนี้ยังนอนด้วยกันตั้งนานเท่าไหร่ไม่รู้



    *แก้ไขคำผิด





    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×