ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic The Avengers | The Angle ' s . นางฟ้าตัวน้อยป่วนหัวใจดิอเวนเจอร์

    ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER 01 | Evaporated.

    • อัปเดตล่าสุด 10 ม.ค. 65



    CHAPTER 01 : EVAPORATED.





    “เราขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ เซโน วอลโด้

    ชายผู้กล้าหาญและชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เราเคยพบ เรื่องราวของเขา

    จะถูกจารึกในใจของพวกเราตลอดไป ขอให้คุณหลับอย่างสงบ...”

     

     

                เธอฟังสุนทรพจน์ไว้อาลัยอย่างเลื่อนลอย  มือเล็กสองข้างกอบกุมธงชาติอเมริกันนิ่ง  ดวงตาสีฟ้าสุกใสจดจ้องรูปภาพประดับว่างเปล่า  ชายในรูปคนนั้นเคยส่งมอบรอยยิ้มแสนอบอุ่น  ชายผู้เป็นคุณพ่อแสนน่ารักและเก่งกาจ  เซโน วอลโด้  บิดาผู้อาจหาญมิเกรงกลัวใคร แต่เขากลับหายสาบสูญ หน่วยค้นหาออกตามหาเขาแรมเดือน สุดท้ายได้ข้อมติว่าเขาตายระหว่างทำภารกิจ มันช่างน่าเศร้าที่แม้แต่ศพยังไม่ได้เห็น  


               ท่ามกลางความเสียใจของอดีตสหายร่วมเป็นร่วมตายและสายนํ้าตาไหลสะอื้นดังแว่วกระทบหู แองเจล่าเอาแต่คิดว่าต่อไปตนจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะเธอมีพ่อเป็นญาติเพียงคนเดียว  เธอเพิ่งอายุสิบห้าคงจัดการเรื่องมรดกทรัพย์สินหลายอย่างของพ่อไม่ได้ แล้วตัวเธอเองก็ไม่ต้องการถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำ มันแย่มากหากต้องอยู่ในกฎข้อบังคับที่ไร้ซึ่งอิสระ โรงเรียนประจำนั้นไม่ต่างอะไรจากคุกกินนอนเสร็จสรรพ

     

                พ่อคะ...หนูควรทำยังไงต่อไปดี

     

                แองเจล่านั่งอยู่เช่นนั้นจวบจนที่พิธีศพจบสิ้น  แขกเหรื่อต่างทยอยกลับจนเหลือเด็กสาวคนเดียวภายในโบสถ์ใหญ่อันโออ่า  เธอนั่งสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า อ้อนวอนขออย่าให้พ่อเป็นกังวลอะไรและหนทางชีวิตข้างหน้าเธอขอพบเจอแต่ความสงบสุขแม้จะลำบาก

     

                การจากไปของพ่อแน่นอนมันทำให้เธอรู้สึกเคว้ง ตอนรู้ข่าวเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรไปชั่วขณะ แต่นํ้าตาของแองเจล่าเหือดแห้งเกินกว่าที่จะไหลริน  มันหายไปพร้อมกับช่วงเวลาที่ผ่านมายามที่เธอต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีพ่อ  เธอเกลียดความอ่อนแอ เธอเกลียดนํ้าตาและเธอเหนื่อยมากพอแล้วกับการนั่งเสียใจ

     

                “ขอนั่งด้วยได้รึเปล่า?

     

                เสียงทุ้มแสนอบอุ่นพร้อมรอยยิ้มส่งมอบแก่เด็กสาวร่างเล็กบนเก้าอี้ยาว  สตีฟ โรเจอร์  นั่งข้างกายแองเจล่าหลังจากที่เขาซุ่มดูเงียบๆตั้งแต่เริ่มพิธีศพ  เขาขอนับถือในความเข้มแข็งของเธอที่ไม่ร้องไห้ฟูมฟายดั่งเช่นเด็กสาวทั่วไปในวัยเดียวกัน

     

                แองเจล่ามองชายหนุ่มข้างกาย การปรากฏตัวของเขาไม่ใช่เรื่องแปลกมากเท่าไหร่ อดีตพ่อเคยทำงานกับหน่วยชิลด์และหลายๆครั้งที่พ่อต้องคอยซับพอร์ตเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ดั่งเช่นกัปตันอเมริกาขวัญใจมหาชนและสาวๆหลายคน แองเจล่าหันหน้าเข้าหาสตีฟ จะเอ่ยปากอนุญาตให้เขานั่งก็คงไม่ทันเพราะเขาดันนั่งข้างเธอเรียบร้อยแล้ว

     

                “สวัสดีค่ะคุณโรเจอร์ ขอบคุณนะคะที่คุณมาร่วมงานของพ่อ”

     

                เธอฝืนยิ้ม แต่มันเป็นสิ่งเดียวเพื่อขอบคุณความมีนํ้าใจและสู้อุตส่าห์สละเวลายุ่งแสนยุ่งของสตีฟ โรเจอร์ เพียงเพราะมางานศพของอดีตเจ้าหน้าที่ธรรมดาคนหนึ่ง

     

                “อันที่จริงนอกเหนือจากร่วมงาน ฉันมีใครคนนึงอยากให้เธอพบ”

     

                เขายิ้มส่งและเสมองไปด้านหลัง  แองเจล่าพอเข้าใจเลยว่าทำไมสาวๆกว่าครึ่งรัฐถึงเทใจให้เขา เพราะกัปตันอเมริกาคนนี้เป็นสุภาพบุรุษแบบที่หาได้ยากในหมู่คนอเมริกัน  เธอมองตามองศาสายตาของชายหนุ่ม ที่หน้าประตูโบสถ์มีอีกบุคคลกำลังมาหาและการมาของเขาทำให้เธอแทบช็อก

     

                แองเจล่ายกมือขยี้ตาทั้งสองข้างเพื่อความแน่ใจ เกิดตั้งคำถามกับตนเองว่าสิ่งเธอเห็นเป็นคนหรือผี  อ่า—ให้ตายสิเขาช่างตายยากอย่างที่พ่อเปรยไว้ไม่มีผิด แต่ก็ดีที่เขายังมีชีวิตอยู่  แองเจล่ารีบลุกพรวดวิ่งเข้ากอดชายที่เธอรู้จักดี  ใบหน้าหม่นหมองในคราแรกถูกปัดทิ้งไปไกล

     

                “ลุงนิค—ให้ตายสิลุงนี่มันหนังเหนียวตายยากจริงๆด้วย”

     

                นิค ฟิวรี่แอบทำหน้ายู่ คำพูดของเด็กสาวช่างบาดใจเหมือนพ่อของเธอไม่มีผิด เขานึกว่าเป็นเซโน วอลโด้เบอร์สองเสียอีก  หากลองนึกดีๆแองเจล่าไม่ค่อยต่างจากพ่อของเธอมากนัก ทั้งความฉลาดและเหนือสิ่งอื่นใดคือการพูดที่คมพอๆกับใบมีดโกน

     

                “หนูโตขึ้นเยอะเลยนะแองเจล่า”    จำได้ว่าเมื่อครั้งล่าสุดที่พบเธอ แองเจล่ายังสูงเท่าเอวของเขาและชอบเล่นวุ่นอยู่ในฐานหน่วยชิลด์ ไม่ว่าบาร์ตันหรือโรมานอฟต่างต้องปวดหัวกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กจำเป็น แต่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสาวเต็มตัวและไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าเซโนจะหวง

     

                “ลุงนิคคงมีธุระอะไรกับหนูใช่ไหมคะ— เพราะการที่คนตายมาเดินเล่นบนโลกของคนเป็นแบบนี้แสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญมาก

     

                “อ่า....ใช่ฉันมีและมันสำคัญมากอย่างที่หนูพูด

     

                แองเจล่าตั้งใจฟังสิ่งที่นิค ฟิวรี่อธิบายถึงแผนชีวิตของเธอ  แน่นอนมันทำให้เธอสบายใจไปเปราะนึงเรื่องไม่ต้องเข้าโรงเรียนประจำหรือต้องลำบากอะไรมาก และเธอยังได้สิทธิ์การคุ้มครองกับผู้ดูแลทรัพย์สินหรือที่เรียกได้ว่าผู้ปกครองดีๆนี่เองด้วย  พ่อทำนิติกรรมเผื่อเอาไว้ว่าวันหนึ่งต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้

     

                พ่อโอนกรรมสิทธิ์การเลี้ยงดูให้กับหน่วยชิลด์ แต่ปัจจุบันหน่วยชิลด์ล่มไปแล้ว สิทธิ์นี้จึงขึ้นตรงกับทีมอเวนเจอร์  จนกว่าเธอจะอายุสิบแปดปีหรือบรรลุนิติภาวะ แองเจล่าต้องอยู่ในการดูแลของโทนี่ สตาร์ค!!   ใช่—ที่เธอบอกว่าสบายใจไปเปราะนึงคือเรื่องการเป็นอยู่ แต่เธอไม่โอเคที่ต้องไปอยู่กับเขา  รู้อะไรไหม ตลอดสามปีตั้งแต่เธอเรียนอยู่เกรดหกถึงแปด เธอต้องทนฟังพี่สาวข้างบ้านอย่างยัยรีเบคก้าสปอยล์ถึงความฮ็อตของไอร่อนแมน

     

                โอ้วแองจี้คุณสตาร์คเขาน่ารักมาก  โอ้ว—แองจี้คุณสตาร์คเขาทำให้ฉันถึงสวรรค์ได้สุดยอดเว่อร์  ให้ตายสิเธอรู้ว่าเจ้าหล่อนอยากอวดแต่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดให้เด็กวัยสิบกว่าได้ยิน ไหนจะนิตยสารซุบซิบเรื่องวีรกรรมสุดฉาวกับเรื่องปาร์ตี้บันนี่เกิร์ลช่วงสุดสัปดาห์ที่เขาควงสาวนางแบบนับสิบคนไปเปิดตี้ฮาเร็มบนหอคอยสุดไฮเทคของเขา

     

                ขอทีเถอะเธอต้องอยู่กับโทนี่ สตาร์คจริงๆน่ะเหรอ?   แองเจล่าเบะปากเธอทำสีหน้าเหมือนคนโดนยาขม  เธอไม่ปกปิดเลยว่าไม่ชอบมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้และเธอโคตรไม่ชอบผู้ชายเพลย์บอยเลย

     

                “ฟิวรี่ผมว่าเธอไม่โอเคที่จะอยู่กับโทนี่นะ”   สตีฟแอบเห็นแองเจล่ากลอกตาไม่พอใจ  “ให้แนตดูแลแองเจล่าไม่ดีกว่าเหรอ

     

                ฟิวรี่ส่ายหัวพลางโบกมือไปมา การให้โรมานอฟดูแลเด็กสาวแรกรุ่นเขากลัวว่าเจ้าหล่อนจะปลูกฝังอะไรแปลกๆให้แองเจล่ามากกว่า   “ไม่....ให้สตาร์คจัดการถือว่าดีที่สุดแล้ว

     

                “แต่ที่ฐานอเวนเจอร์เรายังมีห้องอยู่เยอะแยะ แล้ววันด้าก็อยู่ที่นั่นด้วย ผมเล็งเห็นว่าการเอาแองเจล่าส่งให้โทนี่ดูแลมันก็เหมือนคุณฝากปลาย่างไว้ที่แมว

     

                “ลุงนิคหนูเห็นด้วยกับคุณโรเจอร์นะคะ”   เมื่อมีคนเห็นด้วยแองเจล่าไม่รีรอหาพรรคพวกเข้ากลุ่ม

     

                ฟิวรี่เลิกคิ้วมองเด็กสาวเกาะแขนของสตีฟนิ่ง  ส่วนตัวเขาคิดว่าไม่ว่าแองเจล่าอยู่ที่ไหนล้วนอันตรายทั้งสิ้น ฝากที่โรมานอฟก็กลัวว่าจะทำอะไรแปลกๆ  บาร์ตันเองก็ลูกเต็มบ้าน  วิชชั่นคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี  ตัวสตีฟเองก็หนุ่มพรหมจรรย์ตั้งแต่ร้อยปีที่แล้ว  เพราะฉะนั้นสตาร์คจึงเหมาะสมที่สุด  อย่างน้อยสตาร์คก็เลือกกินแต่สาวเอ๊าะๆ คงไม่หันมากินเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรอก

     

                ก็ได้แต่หวังนะ

     

                “ลุงว่าเราอย่ามัวเถียงกันดีกว่า สตีฟฉันรบกวนส่งแองเจล่าที่ตึกอเวนเจอร์ด้วย”   ฟิวรี่เลือกตัดจบบทสนทนายืดยาว

     

                “แล้วข้าวของของหนูล่ะคะ”  

     

                “ลุงจัดการขนย้ายเรียบร้อยหมดแล้ว

     

                พระเจ้า— เขาเอาเวลาขนข้าวของของเธอตอนไหน สุดท้ายเธอก็ต้องไปอยู่กับโทนี่ สตาร์คจริงๆใช่มั้ย?  เอาเถอะแองเจล่าคิดในแง่ดีไว้ อย่างน้อยมหาเศรษฐีคนนี้ก็ใจดี  มีไวไฟฮายสปีตที่เร็วที่สุดในเมือง อาหารพร้อมที่นอนอุ่นๆและแฮ้งค์เอาท์ปาร์ตี้ทุกสุดสัปดาห์ที่เธอไม่ต้องเข้าร่วม และ.....เธออาจได้เจอเซเลบริตี้คนดังอวดบนอินสตาแกรมก็ได้

     

                โลกสวยเข้าไว้ เห็นไหมล่ะ มันไม่ได้แย่สักนิด

     

                ฟิวรี่กลับไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่แองเจล่ากับสตีฟหน้าโบสถ์ชาเปลเซนต์พอล ท้องฟ้าด้านนอกขุ่นมัวจนได้กลิ่นดินจากสนามหญ้าชื้นแฉะ หยาดน้ำฝนเริ่มโปรยปรายกระทบกับพื้นหินอ่อน  สตีฟเหลือบมองเด็กสาวร่างเล็กข้างกาย เธอยังคงใบหน้าสงบนิ่งดั่งคราแรกที่ได้เห็น  ชายหนุ่มบรรจงถอดสูทตัวนอกออก แล้วนำมาคลุมหัวเด็กสาว

     

                “ขอบคุณค่ะ  ซึ่งเธอแค่ตอบขอบคุณสั้นๆ

     

                “ทนเปียกหน่อยนะ”   เขาไม่สันทัดกับรถสมัยใหม่จึงมีแต่ฮาร์ลีย์ เดวิดสันสมัยสงครามคู่กาย  ระยะทางของโบสถ์ก็ไม่ไกลมากนัก เธออาจจะไม่เปียกถ้าฝนไม่กระหน่ำลงมาก่อน

     

                “เธอ.....อยากจะร้องก็ร้องออกมาเลย”   ตั้งแต่เริ่มพิธีศพเขายังไม่เห็นน้ำตาของเด็กสาวคนนี้เลยสักหยด  ไม่ร้องไห้ ไม่มีแม้แต่หยาดน้ำใสใด มีแต่ความสงบนิ่งฉาบบนใบหน้าของแองเจล่า  เขาพอจะเข้าใจว่าเธอคงไม่อยากเสียใจให้คนอื่นเห็น  “มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย

     

                ความเงียบเข้าปกคลุม แองเจล่ากระชับเสื้อนอกของสตีฟแน่นขึ้น   “สิ่งที่เรียกน้ำตามันหายไปแล้ว มันเหือดแห้งเกินกว่าที่หนูจะร้องออกมา”   พูดจบแองเจล่าเดินดุ่มๆฝ่าสายฝนไปยังถนนที่มีมอเตอร์ไซค์ของสตีฟจอดอยู่

     

                น้ำตามันเหือดแห้ง?  คำคำนั้นก้องอยู่ในสมองของสตีฟ เด็กสาววัยสิบห้าต้องเจออะไรหนักหนาสาหัสขนาดไหนถึงกับไม่สามารถหลั่งน้ำตาได้ สงสัยเขาคงต้องเชื่อในคำพูดก่อนหน้าที่แนตกับฟิวรี่พูดเอาไว้แล้วล่ะ ว่าแองเจล่าเป็นเด็กแปลก

     

                แต่ถึงจะแปลกขนาดไหน ก็คงไม่เท่ากับตัวตนของเธอ หากแองเจล่าเป็นเด็กธรรมดาทั่วไปเธอคงได้ไปอยู่ในความดูแลของสำนักกฎหมาย แต่ฟิวรี่กลับให้เธออยู่ภายใต้การคุ้มครองของอเวนเจอร์ เขาไม่อยากนึกว่าเด็กสาวตัวเท่านี้จะเป็นภัยคุกคามของโลกดั่งรายงานที่เขาได้อ่าน

     

                การสูญเสียพ่อนับว่าน่าสงสารพอแล้ว แต่การที่เธอไม่รู้อะไรเลยมันน่าสงสารยิ่งกว่า






    อุ้ย อุ้ย อุ้ย อุ้ย อุ้ย  มีคนโดนน้องเกลียดตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าอ่ะ


    โทนี่ : ฉันผิดอะไร อุตส่าห์เป็นป๋าใจดีอุปถัมภ์รับเด็กมาเลี้ยง

    ไรท์ : เลี้ยงต้อยไว้สอยเองรึเปล่าคะคุณสตาร์ค?

    โทนี่ : ฉันไม่มีรสนิยมกินเด็กตํ่ากว่า 18 ปีและฉันไม่ชอบเด็กแห้งๆ

    ไรท์ : ( หึๆ จะคอยดู )


    เรื่องนี้อยากให้คนละอารมณ์กับน้องซิน ถามว่าจะมีความฮามั้ย

    มีแน่นอนค่ะและขอสปอยล์ ตอนหน้าจะมีคนเจ็บตัวเยอะมาก

    และ และ และ น้องแองสตรอง ไม่เป็นโรคภูมิแพ้ผู้ชายค่ะ 55555

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ


    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×