คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER 01 | Evaporated.
“เราขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ เซโน วอลโด้
ชายผู้กล้าหาญและชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เราเคยพบ เรื่องราวของเขา
จะถูกจารึกในใจของพวกเราตลอดไป ขอให้คุณหลับอย่างสงบ...”
เธอฟังสุนทรพจน์ไว้อาลัยอย่างเลื่อนลอย มือเล็กสองข้างกอบกุมธงชาติอเมริกันนิ่ง ดวงตาสีฟ้าสุกใสจดจ้องรูปภาพประดับว่างเปล่า ชายในรูปคนนั้นเคยส่งมอบรอยยิ้มแสนอบอุ่น ชายผู้เป็นคุณพ่อแสนน่ารักและเก่งกาจ เซโน วอลโด้ บิดาผู้อาจหาญมิเกรงกลัวใคร แต่เขากลับหายสาบสูญ หน่วยค้นหาออกตามหาเขาแรมเดือน สุดท้ายได้ข้อมติว่าเขาตายระหว่างทำภารกิจ มันช่างน่าเศร้าที่แม้แต่ศพยังไม่ได้เห็น
ท่ามกลางความเสียใจของอดีตสหายร่วมเป็นร่วมตายและสายนํ้าตาไหลสะอื้นดังแว่วกระทบหู แองเจล่าเอาแต่คิดว่าต่อไปตนจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะเธอมีพ่อเป็นญาติเพียงคนเดียว เธอเพิ่งอายุสิบห้าคงจัดการเรื่องมรดกทรัพย์สินหลายอย่างของพ่อไม่ได้ แล้วตัวเธอเองก็ไม่ต้องการถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำ มันแย่มากหากต้องอยู่ในกฎข้อบังคับที่ไร้ซึ่งอิสระ โรงเรียนประจำนั้นไม่ต่างอะไรจากคุกกินนอนเสร็จสรรพ
พ่อคะ...หนูควรทำยังไงต่อไปดี
แองเจล่านั่งอยู่เช่นนั้นจวบจนที่พิธีศพจบสิ้น
แขกเหรื่อต่างทยอยกลับจนเหลือเด็กสาวคนเดียวภายในโบสถ์ใหญ่อันโออ่า
เธอนั่งสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า
อ้อนวอนขออย่าให้พ่อเป็นกังวลอะไรและหนทางชีวิตข้างหน้าเธอขอพบเจอแต่ความสงบสุขแม้จะลำบาก
การจากไปของพ่อแน่นอนมันทำให้เธอรู้สึกเคว้ง
ตอนรู้ข่าวเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรไปชั่วขณะ แต่นํ้าตาของแองเจล่าเหือดแห้งเกินกว่าที่จะไหลริน
มันหายไปพร้อมกับช่วงเวลาที่ผ่านมายามที่เธอต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีพ่อ
เธอเกลียดความอ่อนแอ เธอเกลียดนํ้าตาและเธอเหนื่อยมากพอแล้วกับการนั่งเสียใจ
“ขอนั่งด้วยได้รึเปล่า?”
เสียงทุ้มแสนอบอุ่นพร้อมรอยยิ้มส่งมอบแก่เด็กสาวร่างเล็กบนเก้าอี้ยาว
สตีฟ โรเจอร์ นั่งข้างกายแองเจล่าหลังจากที่เขาซุ่มดูเงียบๆตั้งแต่เริ่มพิธีศพ
เขาขอนับถือในความเข้มแข็งของเธอที่ไม่ร้องไห้ฟูมฟายดั่งเช่นเด็กสาวทั่วไปในวัยเดียวกัน
แองเจล่ามองชายหนุ่มข้างกาย
การปรากฏตัวของเขาไม่ใช่เรื่องแปลกมากเท่าไหร่ อดีตพ่อเคยทำงานกับหน่วยชิลด์และหลายๆครั้งที่พ่อต้องคอยซับพอร์ตเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ดั่งเช่นกัปตันอเมริกาขวัญใจมหาชนและสาวๆหลายคน
แองเจล่าหันหน้าเข้าหาสตีฟ
จะเอ่ยปากอนุญาตให้เขานั่งก็คงไม่ทันเพราะเขาดันนั่งข้างเธอเรียบร้อยแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณโรเจอร์ ขอบคุณนะคะที่คุณมาร่วมงานของพ่อ”
เธอฝืนยิ้ม
แต่มันเป็นสิ่งเดียวเพื่อขอบคุณความมีนํ้าใจและสู้อุตส่าห์สละเวลายุ่งแสนยุ่งของสตีฟ
โรเจอร์ เพียงเพราะมางานศพของอดีตเจ้าหน้าที่ธรรมดาคนหนึ่ง
“อันที่จริงนอกเหนือจากร่วมงาน
ฉันมีใครคนนึงอยากให้เธอพบ”
เขายิ้มส่งและเสมองไปด้านหลัง
แองเจล่าพอเข้าใจเลยว่าทำไมสาวๆกว่าครึ่งรัฐถึงเทใจให้เขา
เพราะกัปตันอเมริกาคนนี้เป็นสุภาพบุรุษแบบที่หาได้ยากในหมู่คนอเมริกัน
เธอมองตามองศาสายตาของชายหนุ่ม
ที่หน้าประตูโบสถ์มีอีกบุคคลกำลังมาหาและการมาของเขาทำให้เธอแทบช็อก
แองเจล่ายกมือขยี้ตาทั้งสองข้างเพื่อความแน่ใจ
เกิดตั้งคำถามกับตนเองว่าสิ่งเธอเห็นเป็นคนหรือผี อ่า—ให้ตายสิเขาช่างตายยากอย่างที่พ่อเปรยไว้ไม่มีผิด
แต่ก็ดีที่เขายังมีชีวิตอยู่
แองเจล่ารีบลุกพรวดวิ่งเข้ากอดชายที่เธอรู้จักดี
ใบหน้าหม่นหมองในคราแรกถูกปัดทิ้งไปไกล
“ลุงนิค—ให้ตายสิลุงนี่มันหนังเหนียวตายยากจริงๆด้วย”
นิค ฟิวรี่แอบทำหน้ายู่
คำพูดของเด็กสาวช่างบาดใจเหมือนพ่อของเธอไม่มีผิด เขานึกว่าเป็นเซโน
วอลโด้เบอร์สองเสียอีก หากลองนึกดีๆแองเจล่าไม่ค่อยต่างจากพ่อของเธอมากนัก ทั้งความฉลาดและเหนือสิ่งอื่นใดคือการพูดที่คมพอๆกับใบมีดโกน
“หนูโตขึ้นเยอะเลยนะแองเจล่า” จำได้ว่าเมื่อครั้งล่าสุดที่พบเธอ
แองเจล่ายังสูงเท่าเอวของเขาและชอบเล่นวุ่นอยู่ในฐานหน่วยชิลด์
ไม่ว่าบาร์ตันหรือโรมานอฟต่างต้องปวดหัวกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กจำเป็น แต่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสาวเต็มตัวและไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าเซโนจะหวง
“ลุงนิคคงมีธุระอะไรกับหนูใช่ไหมคะ—
เพราะการที่คนตายมาเดินเล่นบนโลกของคนเป็นแบบนี้แสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญมาก”
“อ่า....ใช่ฉันมีและมันสำคัญมากอย่างที่หนูพูด”
แองเจล่าตั้งใจฟังสิ่งที่นิค ฟิวรี่อธิบายถึงแผนชีวิตของเธอ
แน่นอนมันทำให้เธอสบายใจไปเปราะนึงเรื่องไม่ต้องเข้าโรงเรียนประจำหรือต้องลำบากอะไรมาก
และเธอยังได้สิทธิ์การคุ้มครองกับผู้ดูแลทรัพย์สินหรือที่เรียกได้ว่าผู้ปกครองดีๆนี่เองด้วย
พ่อทำนิติกรรมเผื่อเอาไว้ว่าวันหนึ่งต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้
พ่อโอนกรรมสิทธิ์การเลี้ยงดูให้กับหน่วยชิลด์
แต่ปัจจุบันหน่วยชิลด์ล่มไปแล้ว สิทธิ์นี้จึงขึ้นตรงกับทีมอเวนเจอร์ จนกว่าเธอจะอายุสิบแปดปีหรือบรรลุนิติภาวะ
แองเจล่าต้องอยู่ในการดูแลของโทนี่ สตาร์ค!! ใช่—ที่เธอบอกว่าสบายใจไปเปราะนึงคือเรื่องการเป็นอยู่
แต่เธอไม่โอเคที่ต้องไปอยู่กับเขา รู้อะไรไหม ตลอดสามปีตั้งแต่เธอเรียนอยู่เกรดหกถึงแปด
เธอต้องทนฟังพี่สาวข้างบ้านอย่างยัยรีเบคก้าสปอยล์ถึงความฮ็อตของไอร่อนแมน
โอ้ว! แองจี้คุณสตาร์คเขาน่ารักมาก
โอ้ว—แองจี้คุณสตาร์คเขาทำให้ฉันถึงสวรรค์ได้สุดยอดเว่อร์
ให้ตายสิ! เธอรู้ว่าเจ้าหล่อนอยากอวดแต่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดให้เด็กวัยสิบกว่าได้ยิน
ไหนจะนิตยสารซุบซิบเรื่องวีรกรรมสุดฉาวกับเรื่องปาร์ตี้บันนี่เกิร์ลช่วงสุดสัปดาห์ที่เขาควงสาวนางแบบนับสิบคนไปเปิดตี้ฮาเร็มบนหอคอยสุดไฮเทคของเขา
ขอทีเถอะเธอต้องอยู่กับโทนี่ สตาร์คจริงๆน่ะเหรอ? แองเจล่าเบะปากเธอทำสีหน้าเหมือนคนโดนยาขม เธอไม่ปกปิดเลยว่าไม่ชอบมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้และเธอโคตรไม่ชอบผู้ชายเพลย์บอยเลย
“ฟิวรี่ผมว่าเธอไม่โอเคที่จะอยู่กับโทนี่นะ” สตีฟแอบเห็นแองเจล่ากลอกตาไม่พอใจ “ให้แนตดูแลแองเจล่าไม่ดีกว่าเหรอ”
ฟิวรี่ส่ายหัวพลางโบกมือไปมา
การให้โรมานอฟดูแลเด็กสาวแรกรุ่นเขากลัวว่าเจ้าหล่อนจะปลูกฝังอะไรแปลกๆให้แองเจล่ามากกว่า “ไม่....ให้สตาร์คจัดการถือว่าดีที่สุดแล้ว”
“แต่ที่ฐานอเวนเจอร์เรายังมีห้องอยู่เยอะแยะ
แล้ววันด้าก็อยู่ที่นั่นด้วย
ผมเล็งเห็นว่าการเอาแองเจล่าส่งให้โทนี่ดูแลมันก็เหมือนคุณฝากปลาย่างไว้ที่แมว”
“ลุงนิคหนูเห็นด้วยกับคุณโรเจอร์นะคะ” เมื่อมีคนเห็นด้วยแองเจล่าไม่รีรอหาพรรคพวกเข้ากลุ่ม
ฟิวรี่เลิกคิ้วมองเด็กสาวเกาะแขนของสตีฟนิ่ง ส่วนตัวเขาคิดว่าไม่ว่าแองเจล่าอยู่ที่ไหนล้วนอันตรายทั้งสิ้น
ฝากที่โรมานอฟก็กลัวว่าจะทำอะไรแปลกๆ บาร์ตันเองก็ลูกเต็มบ้าน
วิชชั่น? คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี
ตัวสตีฟเองก็หนุ่มพรหมจรรย์ตั้งแต่ร้อยปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นสตาร์คจึงเหมาะสมที่สุด อย่างน้อยสตาร์คก็เลือกกินแต่สาวเอ๊าะๆ
คงไม่หันมากินเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรอก
ก็ได้แต่หวังนะ
“ลุงว่าเราอย่ามัวเถียงกันดีกว่า
สตีฟฉันรบกวนส่งแองเจล่าที่ตึกอเวนเจอร์ด้วย” ฟิวรี่เลือกตัดจบบทสนทนายืดยาว
“แล้วข้าวของของหนูล่ะคะ”
“ลุงจัดการขนย้ายเรียบร้อยหมดแล้ว”
พระเจ้า— เขาเอาเวลาขนข้าวของของเธอตอนไหน สุดท้ายเธอก็ต้องไปอยู่กับโทนี่
สตาร์คจริงๆใช่มั้ย? เอาเถอะแองเจล่าคิดในแง่ดีไว้
อย่างน้อยมหาเศรษฐีคนนี้ก็ใจดี มีไวไฟฮายสปีตที่เร็วที่สุดในเมือง
อาหารพร้อมที่นอนอุ่นๆและแฮ้งค์เอาท์ปาร์ตี้ทุกสุดสัปดาห์ที่เธอไม่ต้องเข้าร่วม
และ.....เธออาจได้เจอเซเลบริตี้คนดังอวดบนอินสตาแกรมก็ได้
โลกสวยเข้าไว้ เห็นไหมล่ะ มันไม่ได้แย่สักนิด
ฟิวรี่กลับไปแล้ว
ตอนนี้เหลือแค่แองเจล่ากับสตีฟหน้าโบสถ์ชาเปลเซนต์พอล
ท้องฟ้าด้านนอกขุ่นมัวจนได้กลิ่นดินจากสนามหญ้าชื้นแฉะ
หยาดน้ำฝนเริ่มโปรยปรายกระทบกับพื้นหินอ่อน
สตีฟเหลือบมองเด็กสาวร่างเล็กข้างกาย
เธอยังคงใบหน้าสงบนิ่งดั่งคราแรกที่ได้เห็น ชายหนุ่มบรรจงถอดสูทตัวนอกออก
แล้วนำมาคลุมหัวเด็กสาว
“ขอบคุณค่ะ” ซึ่งเธอแค่ตอบขอบคุณสั้นๆ
“ทนเปียกหน่อยนะ” เขาไม่สันทัดกับรถสมัยใหม่จึงมีแต่ฮาร์ลีย์
เดวิดสันสมัยสงครามคู่กาย ระยะทางของโบสถ์ก็ไม่ไกลมากนัก
เธออาจจะไม่เปียกถ้าฝนไม่กระหน่ำลงมาก่อน
“เธอ.....อยากจะร้องก็ร้องออกมาเลย” ตั้งแต่เริ่มพิธีศพเขายังไม่เห็นน้ำตาของเด็กสาวคนนี้เลยสักหยด
ไม่ร้องไห้ ไม่มีแม้แต่หยาดน้ำใสใด
มีแต่ความสงบนิ่งฉาบบนใบหน้าของแองเจล่า เขาพอจะเข้าใจว่าเธอคงไม่อยากเสียใจให้คนอื่นเห็น “มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย”
ความเงียบเข้าปกคลุม แองเจล่ากระชับเสื้อนอกของสตีฟแน่นขึ้น “สิ่งที่เรียกน้ำตามันหายไปแล้ว มันเหือดแห้งเกินกว่าที่หนูจะร้องออกมา” พูดจบแองเจล่าเดินดุ่มๆฝ่าสายฝนไปยังถนนที่มีมอเตอร์ไซค์ของสตีฟจอดอยู่
น้ำตามันเหือดแห้ง? คำคำนั้นก้องอยู่ในสมองของสตีฟ
เด็กสาววัยสิบห้าต้องเจออะไรหนักหนาสาหัสขนาดไหนถึงกับไม่สามารถหลั่งน้ำตาได้
สงสัยเขาคงต้องเชื่อในคำพูดก่อนหน้าที่แนตกับฟิวรี่พูดเอาไว้แล้วล่ะ ว่าแองเจล่าเป็นเด็กแปลก
แต่ถึงจะแปลกขนาดไหน
ก็คงไม่เท่ากับตัวตนของเธอ หากแองเจล่าเป็นเด็กธรรมดาทั่วไปเธอคงได้ไปอยู่ในความดูแลของสำนักกฎหมาย
แต่ฟิวรี่กลับให้เธออยู่ภายใต้การคุ้มครองของอเวนเจอร์
เขาไม่อยากนึกว่าเด็กสาวตัวเท่านี้จะเป็นภัยคุกคามของโลกดั่งรายงานที่เขาได้อ่าน
การสูญเสียพ่อนับว่าน่าสงสารพอแล้ว แต่การที่เธอไม่รู้อะไรเลยมันน่าสงสารยิ่งกว่า
อุ้ย อุ้ย อุ้ย อุ้ย อุ้ย มีคนโดนน้องเกลียดตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าอ่ะ
โทนี่ : ฉันผิดอะไร อุตส่าห์เป็นป๋าใจดีอุปถัมภ์รับเด็กมาเลี้ยง
ไรท์ : เลี้ยงต้อยไว้สอยเองรึเปล่าคะคุณสตาร์ค?
โทนี่ : ฉันไม่มีรสนิยมกินเด็กตํ่ากว่า 18 ปีและฉันไม่ชอบเด็กแห้งๆ
ไรท์ : ( หึๆ จะคอยดู )
เรื่องนี้อยากให้คนละอารมณ์กับน้องซิน ถามว่าจะมีความฮามั้ย
มีแน่นอนค่ะและขอสปอยล์ ตอนหน้าจะมีคนเจ็บตัวเยอะมาก
และ และ และ น้องแองสตรอง ไม่เป็นโรคภูมิแพ้ผู้ชายค่ะ 55555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
ความคิดเห็น