STILL THE ONE - STILL THE ONE นิยาย STILL THE ONE : Dek-D.com - Writer

    STILL THE ONE

    Shup up!! Before you reading it when I wanna kill you.

    ผู้เข้าชมรวม

    49

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    49

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 มี.ค. 58 / 14:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    GMinor!
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






      เมื่อไหร่จะเลิกดูแลฉันสักที

      เมื่อไหร่นายจะเลิกห่วงคนแบบฉัน

      รู้ไหมมันทำให้ฉันคลั่งนายจนแทบบ้า

          

        “อิเซนตุ๊ดเด็ก! อิเซนตุ๊ดเด็ก!”  เสียงล้อยังคงดังไม่หยุดจากปากเด็กชายที่ขึ้นชื่อเป็นเด็กแสบที่สุดในย่านนี้ เด็กชายตัวน้อยยังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นโดยไม่มีใครสนใจ เขาเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังคงแบเบาะไม่มีใครรู้สาเหตุการหายไปของพ่อและแม่ของเด็กน้อย รู้แค่เพียงว่าตอนนี้เขาอยู่เพียงลำพังกับบ้านพักอันสกปรกโสโคก ไม่มีคนอุปถัมภ์และไม่มีคนดูแล

            หยุดแกล้งเซนสักทีเถอะลูอี ไสหัวไปซะ!” ไนออลเด็กชายผิวขาวหัวทองผู้เป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวตวาด ลูอิส ทอมลินสันเป็นรอบที่ล้านของวัน ไนออลเบื่อหน่ายจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว

            “กลับบ้านกันเถอะเซน แล้วหยุดร้องไห้สักทีเถอะมันน่ารำคาญเซนในชุดเปรอะเปื้อนลุกขึ้นยืนพร้อมกับแผลตามตัวที่ตอนนี้เลือดไหลซึมๆเขาได้แผลมาทุกวันจนไม่รู้ว่าความเจ็บปวดของแผลนี่มันรู้สึกยังไง กลับไปทำแผลเถอะนะเซน

            “ขอบคุณนะไนออล ขอบคุณจริงๆ เด็กชายยิ้มตาหยี่ทั้งน้ำตาในใจปลื้มปริ่มทุกครั้งที่เห็นไนออลช่วยเขาในทุกๆเรื่องและทุกๆครั้งเซนจะคอยมองไนออลจากบ้านของตนข้ามฝั่งไปถึงหน้าต่างห้องของเด็กชายผิวขาว เซนไม่เคยรู้เลยว่าความรู้สึกนี่มันคืออะไรกันแน่และทำไมถึงเกิดขึ้นกับเขา...

       

      I remember all the time and all the words we said
      I can’t get it out of my head

             หายใจไม่ออก

             แน่นที่หน้าอก

             หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ

             หน้าแดงอย่างไม่รู้ตัว

            ผมเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งแต่ช่วงหลังมานี้รู้สึกได้ถึงอาการเริ่มหนักขึ้นก็ตั้งแต่เซนโตเป็นหนุ่มนี่แหละ เขามีผิวสีน้ำผึ้งหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อหน่อยๆหนวดเคราที่เริ่มยาวขึ้นมาตามการเจริญเติมโต หน้าท้องที่ตอนนี้มีหยดน้ำเม็ดเล็กเม็ดน้อยเกาะตามซิกแพ็คมันทำให้ผมน้ำลายไหลเยิ้ม อืม...

            ไนออล!! คิดอะไรอยู่ว่ะจะไปร้านหนังสือไหม

            เอ่อ ไปสิ ไปสิ

             ผมรีบตอบอย่างทันควัน ผมมักจะมารอเซนที่สระว่ายน้ำของโรงเรียนเป็นประจำ ทุกๆเย็นหลังจากเขาว่ายน้ำเสร็จเราจะไปนั่งเล่นกันที่ร้านโดนัทใกล้ๆบ้านจนดึกก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ตอนนี้เซนมีพ่อแม่อุปถัมภ์แล้ว พวกท่านเป็นเศรษฐีจากธุรกิจร้านขายหนังสือที่ผมชอบไปซื้อและมักจะได้ส่วนลดพิเศษอยู่เสมอ มันดีจนบอกไม่ถูกลดทีนี่สักครึ่งราคาได้เลยนะซึ่งมันดีต่อการเงินผมมากด้วย

                “พรุ่งนี้ว่างไหม

                “ฉันไม่ว่าง

                มีนัด?ผมขมวดคิ้ว

                 อืม มีนัดกับลูอีน่ะ

                   ลูอีอีกแล้วสินะ ลูอีคนที่ล้อเซนตอนเด็กไงล่ะตอนนี้เขาสองคนเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกเลย ผมบอกได้เลยผมอิจฉาลูอี ผมอิจฉาที่ลูอีได้สัมผัสนั้นของเขา สัมผัสที่ผมไม่มีโอกาสจะได้รับมัน

       

            เซนจอดรถสปอร์ตออดี้อาร์แปด ในโรงจอดรถส่วนตัวของร้านหนังสือ ทางเข้ามีป้ายภาษาอังกฤษสไตลส์โรมันเขียนว่า ‘ONEBOOK’ ร้านหนังสือที่รวบรวมหนังสือเก่าตั้งแต่ปี 1985 จนถึงหนังสือปี 2014  ร้านของป้าแฮร์รี่และลุงเลียมจึงเป็นที่นิยมของอากงอาม่าจนถึงเด็กๆ ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต ส่วนมากพวกวัยรุ่นจะมีแต่พวกเนิร์ดจนน่ากลัววิ่งเข้าออกที่ร้านพร้อมหนังสือเก่าๆกองโต กับใบหน้าสยองๆนั่น พวกเขาน่ากลัวจริงๆ

       

           เสียงกระดิ่งดังเมื่อยามเปิดประตูพร้อมเสียงพนักงานฝ่ายบริการดังเจื้อยแจ้ว ผมเดินไปหยิบหนังสือวรรณกรรมสองเล่ม

      จริงๆมันน่าอ่านมากนะถ้าสำนักพิมพ์จะทำปกใหม่ขึ้นมามั่งน่ะซึ่งเล่มที่ผมถืออยู่มันช่างเก่าเกินทน ผมวางมันลงตรงเคาน์เตอร์และควักกระเป๋าตังหยิบเงินออกมาจ่ายพนักงาน

       

           ฝนตกลงมาอย่างกระหน่ำเหมือนมีลางสังหรณ์แปลกๆเกินขึ้นทันทีที่ผมเดินออกจากร้าน  ผมรีบกระโดดขึ้นรถอย่างรวดเร็ว ฝนที่ตกลงมาดูท่าจะไม่มีทางหยุดตก ท้องฟ้ายามมืดมันดูหดหู่เฉกเช่นปกติแต่เมื่อมีลมฝนมาประกอบทำให้ยิ่งดูหดหู่มากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า

       

             เซนจอดรถเทียบฟุตบาตรหน้าบ้านผมตอนนี้มีเพียงเสียงสายฝนกับแอร์ดิคอนชันเนอร์ที่ยังคงดังออกมา บรรยากาศภายในรถเงียบเหมือนกับไม่มีใครอยู่ วันนี้น่ากลัวแปลกๆแหะหรือเป็นเพราะหนังสือ 2 เล่มนี้กันนะ  มันเงียบเฉียบเสียเกินไปจริงๆ

               จะเข้าไปข้างในไหมผมถามออกไปท่ามกลางความเงียบสงัด

               ก็รอชวนอยู่เนี่ยแหละ

              เซนดับเครื่องรถก่อนเปิดประตูรถและเดินเข้าบ้านอย่างสบายใจเฉิ่ม ให้ตายเถอะนี่บ้านใครกันแน่เนี่ย ผมว่าผมควรพิจารณาได้แล้วว่าบ้านหลังนี้ของผมหรือเปล่าแต่ก็เพียงทำได้แค่ส่ายหน้าไปมาเท่านั้นคงทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ

      พวกเรานั่งดูรายการ X-factor จนจบ เซนก็ขอตัวกลับบ้านเพราะเริ่มดึกแล้ว ผมเดินไปส่งเซนหน้าบ้านที่ตอนนี้แฉะไปหมดเพราะฝนที่ตกมาอย่างไม่มีทางเหน็ดเหนื่อย ยิ่งฝนตกและท้องฟ้ามืดๆแบบนี้มันทำให้ผมยิ่งคิด คิดว่า...

             ผมอยากบอกสิ่งที่ค้างคามานาน

             ผมอยากจะพูดความในใจ

             ผมอยากจะถามเซนออกไป

             แต่ผมกลัวคำตอบ

             กลัวที่จะเสียคนที่ผมรักไป

             กลัวที่จะเสียเพื่อน

             และกลัวที่ไม่ได้แม้แต่คำว่า เพื่อนกลับมา

             อาจจะมีแค่ผมเท่านั้นที่คิด เซนมีลูอีอยู่แล้วนะผมทำตัวเป็นโรคจิตตามเซนไปทุกๆครั้งที่เขามีนัดกับลูอี ผมได้ยินเสียงหัวเราะจากเขาทั้งสอง เสียงแห่งความสุข ผมแค่อยากมีช่วงเวลานั้น      

              ไว้เจอกัน ฝากทักทายลูอีด้วยนะ

              อื้อ ระวังเป็นหวัดเข้าบ้านแล้วอาบน้ำนอนเลยนะผมพยักหน้าหงึกๆ

                ความห่วงใยนี่อีกแล้ว

                ความใส่ใจนี่อีกแล้ว

                มันทำให้ผมตัดใจจากเขาไม่ได้

           ผมวิ่งผ่าสายฝนที่ยังคงตกมาอย่างหนักเฉกเช่นเดียวกับตอนอยู่ร้านหนังสือ ผมเดินขึ้นชั้นสองแต่ก็ไม่วายหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนตากอยู่หน้าบันได  นี่ผมเป็นอะไรนะทำตามคำแนะนำเซนเสมอมันอยากจะปฏิเสธแต่ร่างกายกับทำตามแบบไม่รู้ตัว

              ผมเปิดทีวีนั่งกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆมันน่าเบื่อมากยิ่งตอนฝนตกเป็นอะไรที่แย่มาก ผมกลัวฟ้าร้องฟ้าผ่ายิ่งกว่าอะไรมันน่ากลัวจริงๆนะ ตอนที่มันแลบเหมือนจะผ่าลงมากลางหัวเลยล่ะ ยิ่งตอนนี้มีผมอยู่ในบ้านคนเดียวยิ่งสยองเข้าไปใหญ่ พ่อกับแม่ผมต้องบินไปทำงานที่ดูไบ 3 เดือนเป็นช่วงเวลาที่นานมาๆเพราะไม่มีคนคอยปลุกผมไปโรงเรียน ไม่มีคนคอยหากับข้าวให้กิน ผมคิดถึงท่านจริงๆนะคิดถึงพายแอปเปิ้ล กว่าพ่อแม่จะกลับก็อีก 2 เดือนกับอีก 4 วัน 

              ผมอยากจะบ้าตายผมหิวจังเลย หิวมากๆเลยแต่ตอนนี้คือตู้เย็นมีแค่มะเขือเทศ 2 ลูกกับไข่อีก 1 กระบะ  ผมเกลียดมะเขืออย่างกับอะไรดี ตอนนี้คืออยากไปแมคฯมากร่างกายผมตอนนี้ต้องการแฮมเบอร์เกอร์และเฟรนฟรายอย่างแรง  จริงๆแล้วร้านแมคฯก็ไม่ได้ไกลจากบ้านผมมากนะแต่ฝนนี่สิยังคงตกไม่มีท่าทีที่จะหยุด

       

       โอเคผมยอมแล้วถึงจะกลัวเปียกกับฟ้าร้องฟ้าแลบแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจต้านทานความปั่นป่วนในท้องได้

       

            ผมเดินไปหยิบสเก็ตบอร์ดอันเก่งของตัวเอง มันเป็นสเก็ตบอร์ดอันแรกที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อตอนอายุ 9 ขวบ จำได้ว่าตอนนั้นผมนั่งดูสเก็ตบอร์ดทั้งวันผ่านยูทูป มันเป็นอารมณ์ที่ปลื้มปริ่มมากเวลาที่เราคลั่งไคล้อะไรสักอย่างแบบหัวปักหัวปรำ แล้วจู่ๆประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ กลิ่นเทียนนี่ตลบอบอวลไปทั่วห้อง เค้กน่ากินมากมันเป็นรูปคนเล่นสเก็ตบอร์ดและพร้อมกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่นัก ผมเดินไปแกะของขวัญก่อนเป็นอย่างแรก พอเปิดออกเท่านั้นล่ะเป็นสเก็ตบอร์ด ให้ตายเถอะตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกสักอย่างมือไม้สั่นไปหมด ผมกอดของขวัญและวิ่งกรี๊ดรอบบ้าน  เพื่อนบ้านวิ่งออกมาดูกันใหญ่นึกว่าผมเป็นอะไรไป มันช่างน่าอายจริงๆเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินตัวเอง

       

             ผมไถ่สเก็ตไปตามทางตอนนี้ถนนแฉะและโล่งมาก มืดสลัวบรรยากาศพาสยองแต่มิวายมีผู้คนออกมานั่งเล่นกันหน้าบ้านเพราะอากาศตอนนี้ไม่ได้เย็นจัดแต่กลับสบายเนื้อสบายตัวมาก

             เอ้ะ!!นั่นไงแมคฯร้านที่ผมใฝ่ฝันหามาเนิ่นนาน ผมหยุดสเก็ตและถือมันไว้ก่อนจะเดินเข้าร้านที่ผู้คนยังคงตรึมเหมือนเคย ผมสั่งแฮมเบอร์เกอร์ที่ไม่เอามะเขือเทศไปและสั่งเฟรนฟรายแมคฯที่ตอนนี้มันลด 50% ตอนนี้อะไรลดๆผมตุ่นไว้หมดแหละ ตอนแรกว่าจะนั่งกินที่ร้านนะแต่ไหงคนเต็มทุกโต๊ะเลย กุส่าเปียกฝนมาซื้อให้ได้บรรยากาศการนั่งกินในร้านนี้สรุปต้องห่อกับบ้านไม่เข้าใจเลย การกินที่ร้านมันทำให้อาหารอร่อยขึ้นมา 30% เลยนะแต่ถ้ากินกับคนที่เรารักจะอร่อยขึ้นเป็น 70% แล้วผมมาพูดเรื่องเกี่ยวกับคนรักทำไมเนี่ย พอๆหยุดเพ้อเจ้อได้แล้วไนออล!

       

      ‘Zayn’ Talk

             วันนี้ผมมีนัดกับลูอีตอน 9 โมง เมื่อสองปีก่อนผมเริ่มคบกับลูอีตอนนั้นความสัมพันธ์ของผมกับเขากำลังไปได้สวยแค่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกเหมือนเก่า ผมรักไนออล ต้องเรียกว่าผมรักมาตลอดแต่ปิดกั้นตัวเองไว้ผมคิดว่ามันผิดมากผิดที่รักเพื่อนตัวเอง ผมไม่สามารถเลิกกับลูอีได้ เขาป่วยและเริ่มอาการหนักขึ้นทุกวัน เขามีอาการนอนไม่หลับและมักจะพูดคนเดียว ผมไปปรึกษามีหมอเพียงคำตอบที่ไม่น่าฟังนักคงไม่มีคนป่วยที่ไหนอยากจะพบจิตแพทย์ ผมสงสารลูอี ผมรู้ว่าเขารักผม ตอนนี้ผมคงทำได้แค่ให้ช่วงเวลาที่เหลือของเขาให้มีเขามีความสุข

             “ลูอี รอนานไหมเซนถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

            มารอตั้งแต่ตีห้า กลัวร้านปิดน่ะ

                 ลูอีเริ่มมีอาการนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมพยายามบอกลูอีหลายครั้งแล้วว่าร้านนี้เค้าเปิดทั้งวันทั้งคืนแต่ลูอีไม่เคยจะเชื่อผมหรอกพอผมพูดไปก็เอาแต่ร้องไห้และทุบตีผมบอกว่าผมไม่เข้าใจหรอก ผมบอกเลยว่าไม่เข้าใจจริงๆนั่นแหละ ลูอีดูปกติทุกอย่างยกเว้นแค่บางช่วงเท่านั้นที่เขาดูเหมือนไม่คนทั่วไปแต่จะมีอาการจิตตกตอนช่วงสถานการณ์ที่ประทุเข้ามาแบบที่ไม่ทันตั้งตัว เหตุการณ์ที่เสียงดังนั่นก็ทำให้เขาตกใจและทำอะไรไม่ถูก

            เดี๋ยวเลี้ยงเค้ก โอเคไหม”   เซนประทับจูบบางๆลงบนริมฝีปากแดงสดนั้นเนิ่นนานก่อนจะถอดจูบอันหอมหวานนั้น

                 ลูอีไม่อยากถอดจูบนั้นออกแม้แต่น้อย มันหอมหวานดั่งกลิ่นกาแฟยามเช้าที่กลิ่นหอมตีขึ้นสมองและมีคาเฟอิน

              ลูอีรู้อยู่เต็มอกว่าเซนไม่ได้รักเขาเลย เซนรักไนออลเพื่อนสนิทตัวเองแต่ลูอีเลือกจะยื้อเขาไว้ เขารู้ว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายคุมเกม เขาคิดอยู่อย่างเดียวอะไรที่ทำให้เซนไม่ไปจากเขา ลูอีพร้อมที่แลกกับมันแม้กระทั่งต้องแลกกับความฝัน ความสุขและความทรมานที่หลังจากนี้จะต้องได้รับก็ตาม

               พวกเขานั่งอยู่ในร้านตลอดทั้งวันเซนได้หนังสือเล่มใหม่มาจากที่ร้านหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับความรักที่เป็นความแค้นของคนสองคน ถึงฉากจะไม่กดอารมณ์นักแต่เนื้อหาแน่นไปด้วยความที่ทั้งสองรักกันมากแต่กลับมีอุปสรรคของความรักที่เข้ามาช่วง 2 ปีให้หลังทำให้ทุกอย่างๆดูแย่กว่าเก่า

              เซนขอตัวกลับเพราะมีธุระ เขามักจะไปส่งลูอีที่บ้านก่อนที่จะไปทำธุระปล่อยให้ลูอีคุ้มคลั่งอยู่ที่เตียงนอน ลูอีนึกอะไรบางอย่าง บางอย่างที่คิดว่ามันผิด ผิดมากแต่มันคือทางเลือกสุดท้าย ทางเลือกที่เขาสามารถทำให้เซนเป็นของเขาเพียงผู้เดียวและมั่นคงตลอดไป...

              ธุระของเซนคือการมาดูไนออลเพราะเขารู้ว่าไนออลต้องป่วยแน่ๆเพราะถ้าไนออลสบายดีจะโทรเช็คตลอดว่าอาการ

      ลูอีเป็นยังไงบ้าง เขาดีขึ้นไหม? ประโยคเดิมแต่ถามทุกครั้งที่เขามีนัด เซนเปิดประตูรถและเดินเข้าบ้านอย่างง่ายดายเขามีกุญแจสำรองของบ้านไนออลเพราะเขาจะได้มาเข้าบ้านได้ถ้ามีเหตุด่วนเหตุร้าย ตอนนี้ในบ้านเงียบสงบไม่มีแม้แต่เสียงทีวี เซนเปิดประตูห้องเห็นไนออลนอนขดอยู่ในผ้าห่มหนาเซนแตะที่หน้าผากไนออลรับรู้ได้ถึงความร้อนบนหน้าผากขาวซีดได้ทันตา  

             หนาวเสียงแหบพร่างบ่นเบาๆ

          เซนนอนลงข้างเตียงพร้อมสวดกอดเขาไว้ใต้แผนอกกว้างหน้าไนออลซุกไซ้อยู่ตรงหน้าอกคนตัวสูงเซนเสยคางไนออลขึ้นมาพร้อมประทับจูบบางๆก่อนจะกอดไนออลแน่นที่สุดเท่าทีทำได้ให้คนตัวขาวได้หายหนาว ถึงจะเป็นจูบที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวมันทำให้เซนมีความสุขที่สุดเขารอโอกาสนี้มานานมากพอที่จะไม่ยอมทนอีกต่อไป

             ฉันรักนายเซนกระซิบข้างหูไนออลอย่างแพ้วเบา

                                       พวกเขาจะรู้หรือไม่ว่ามันอาจจะเป็นจูบสุดท้ายตลอดกาล...

               เซน มาหาหน่อย ฉันกลัวมาก เสียงลูอีลอดออกมาจากโทรศัพท์ตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่มบรรยากาศที่เงียบสงัดทำให้ลูอีหวาดระแวงทั่วทุกทิศ

                อีก 10 นาที รอผมก่อนนะ

       

              ไนออลตื่นมาพร้อมกับหัวที่เหมือนจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ มันปวดหนึบๆปวดจนอย่างจะเอาหัวไปกระแทกพื้นให้รู้แล้วรู้รอด การเป็นไข้นี่นอกจากจะทำให้ปวดหัวเมื่อยตัวแล้วยังเอาเสียงแหบมาให้ด้วยมันไม่เคยมีข้อดีเลยจริงๆมีแต่ข้อเสีย เสียและก็เสียแต่มันยังข้อดีสำหรับผมอยู่บ้างเหมือนกันนะ เมื่อคืนผมจำได้ทุกอย่างจำกอดที่แสนอบอุ่นที่เซนมอบให้ จำจูบบางๆที่รสชาติอ่อนหวานชวนฝัน  ผมเคยคิดว่าวันนึงถ้าผมตื่นมาไม่ได้รับข้อความทักทายสั้นๆบนหน้าจอโทรศัพท์ที่เซนส่งมา ถ้าวันนึงผมต้องไปโรงเรียนและเดินกลับบ้านคนเดียวโดยปราศจากคนข้างๆ ถ้าวันนึงผมต้องเจอกับเสียงฟ้าร้อง ถ้าวันนึงผมต้องการอ้อมกอดที่แสนคุ้นเคยและถ้าวันนึงวันที่ผมไม่มีเซน วันนั้นผมจะเป็นยังไงกันนะ ความทรงจำของผมคือมีเซนตลอดมาไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่เขาไม่อยู่กับผม มันต้องทำให้ผมคลั่งมากแน่ๆแค่คิดผมก็ทำให้ปวดหัวขึ้นไปอีก ผมไม่อยากจากเซนไปไหนและก็ไม่อยากให้เซนออกไปจากชีวิตผมด้วย

       

                    ก่อนไปเซนทิ้งโน้ตเล็กๆไว้ให้ไนออล เผื่อไนออลตื่นมาแล้วไม่เห็นเขาจะได้รู้ว่าเขาไปไหน เซนจูบลงบนหน้าผากเนียนๆก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถแล้วสตาร์ตเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว

                     รถที่ตอนนี้ขับด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้ผมต้องคิด คิดว่าผมต้องปล่อยเขาไป ต้องปล่อยไนออลไปมีคนที่รัก ผมไม่ควรจะรั้งเขาไว้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทั้งๆที่ไม่อยากให้เขารักใครคนที่ไม่ใช่ผมด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ผมทำบาป บาปต่อตัวเองที่มีลูอีอยู่แล้ว บาปที่คิดจะรั้งไนออลไว้อีกคน บาปที่ไม่คิดจะปล่อยเขา ผมต้องเลือกระหว่างปล่อยเขาไปกับปล่อยให้ทำตามหัวใจตัวเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวมันเป็นตัวเลือกที่ปวดร้าวพอๆกัน

                    อีกด้านหนึ่ง ลูอีรู้สึกได้ถึงความสับสนและรู้สึกดีใจเสียจนไม่เป็นอันนอนไปพร้อมกัน บางครั้งก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน แต่เพราะหัวใจที่ด้านชาเริ่มก่อตัวเป็นน้ำแข็ง วิญญาณที่ตอนนี้ต้องการความรัก,คนรักและการได้ครอบครอง ทุกๆอย่างต้องเป็นไปตามแผน แผนที่เขาสร้างขึ้นมาเหมือนมันเป็นเกมล่า เกมที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน!

                       เมื่อลูอีเห็นเซนก็โผเข้ากอดอย่างเร็วตอนนี้เซนรับรู้ได้ถึงความเย็นเฉียบของบรรยากาศบ่งบอกให้รู้ว่าเครื่องฮีตเตอร์ไม่ได้เปิดทำงานเหมือนเช่นเดิม ตอนนี้ลูอีตัวเย็นและซีดมากมันเหมือนเขากลัวอะไรบางอย่างอยู่  เซนกอดลูอีแน่นและเอามือลูบหัวคนตัวเตี้ยที่อยู่ในอ้อมอกแต่แล้วลูอีกับใช้เข็มฉีดยานอนหลับปักเข้าที่เอวเซน มันทำให้เซนตกใจและผลักลูอีกระเด็นไปติดผนังห้อง เขาดึงเข็มออกมาแล้วปาลงไปที่พื้น ตอนนี้ภาพเบลอไปหมดหนังตาหนักอึ้งพยายามจะลืมตาขึ้นให้ได้ โลกตอนนี้ดูหนักยังไงก็ไม่รู้ ภาพสุดท้ายที่เห็นคือใบหน้าของลูอีที่แซะยิ้มอย่างโหดเหี้ยม

                      ลูอีจับเซนขึงกับเตียง มัดแขนและขาล่ำสันนั้นไว้อย่างแน่น หัวใจของลูอีชุ่มช่ำเมื่อนึกถึงตอนที่เขาจะได้อยู่กับเซนเพียงสองคนในบ้านหลังนี้ไม่มีไนออลเป็นก้างขวางคอความรัก ไม่มีอุปสรรคใดๆที่จ้องจะเล่นงาน มีเพียงกลิ่นไอหอมหวานที่แผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ

                      เซนลืมตาขึ้นมาภาพตรงหน้ายังเลือนราง เขาใช้เวลาโฟกัสไปที่ใบหน้าลูอีจากเลือนรางเริ่มชัดขึ้น ตอนนี้ใบหน้าอันสวยหวานไม่เป็นดังเช่นเดิมอีกแล้วมันเหมือนกับลูอีต้องการเขามากเกินกว่าจะหยุดอยู่ เหมือนหมาผ่าที่กำลังจะกระหายเลือดไม่เหมือนหมาน้อยผู้สมยอมอีกแล้ว

                       เจ็บข้อมือ เขาเจ็บข้อมือมาก ข้อมือที่ถูกรัดกุมด้วยเชื่อเส้นใหญ่หนามันติดกับเตียงนอนที่อ่อนนุ่ม สก็อตเทปที่ปิดปากทำให้เสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ

                       เจ็บนิดเดียว เซน เจ็บแค่นิดเดียวนะ

                        “อื้ออออออออออออ

                        “ว่ายังไงนะเซน อยากจะพูดอะไรก่อนไหม

                   เขาค่อยๆดึกสก็อตเทปออกอย่างเบามือ ใบที่ที่ตอนนี้ยิ้มเยาะ การแซะยิ้มกลับมาทำงานดังเก่ามันช่างน่ากลัวสายตาที่มองเซนเหมือนเหยื่อที่พึ่งตะครุบมาได้

                  ลูอีค่อยไล่มีดลงบนซอกคอนั้นลงอย่างเบามือ กรีดไปที่ขอมือเซนทำให้เลือดไหลออกมาเตียงที่เป็นสีขาวตอนนี้มีสีเลือดที่ค่อยไหลทีละหยดๆ เขายิ้มออกอย่างมีความสุขเห็นเลือดนั่นเป็นตัวแทนของเทพเจ้าผู้เป็นพยานของความรักครั้งนี้

      ลูอีกำมีดเล็กๆไว้ในมืออย่างแน่นก่อนจะเลือกแทงเข้าไปที่หัวใจของเซน มีดปักที่อก น้ำสีแดงทะลักออกมาอย่างไม่มีวันไหลกลับ เซนตาค้างสติไม่อยู่กับตัวตอนนี้เหมือนภาพทุกอย่างมันดูช้าลงในหัวคิดแต่เรื่องไนออลโน้ตที่แปะไว้นั้น เซนไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดครั้งสุดท้ายที่จะได้พูดกับเพื่อนสนิทที่สุดของเค้าจะเป็นคำว่า รักเพียงแค่คำว่า ฉันรักนาย

                  ลูอีทำแบบนี้ทำไม

                  หลอกให้เซนไว้ใจไปเพื่ออะไร

                  ลมหายใจเริ่มแผ่วเข้าไปเรื่อยๆ

                  มันเหมือนคนเอาถุงพลาสติกมาดักจมูก

                  ตาที่ค่อยเริ่มดับสนิทลงไป

                  ค่อยๆมืดสนิทก่อนทุกอย่างจะหายลับไปกับตา

                  ชีวิตที่เคยมีตอนนี้กลับไม่ได้สัมผัสอีกแล้ว

                  ยังไม่ได้สมัผัสใบหน้าขาวใสแก้มสีชมพูนั้นเลย

                  ยังไม่ทันได้บอกรักดังให้เจ้าตัวได้ยินเลย

                 ลูอีต้องการอะไรจากเขาอีกไหม

                 ผมไม่มีอะไรจะให้เขาอีกแล้วนอกจากชีวิต!! 

                 ที่เขาพรากมันไปจากผมแล้ว...

                  ลูอีน้ำตาไหลพรากเอื้อมมือน้อยๆที่สั้นระริกจับใบหน้าผู้ชายที่เขารักที่สุด ลูบไล้ก่อนวินาทีสุดท้ายที่เซนจะหลับไป

                 หลับไปตลอดกาล

                อยู่กับเขาไปตลอดกาล

                มีเขาแค่เพียงคนเดียว

                ไม่สินะ!! ไม่ใช่เพียงเขาแต่มีไนออลอีกคน

                           “ไนออล ฮอแรน

               “ไนออล ฮึกๆ เซนอยู่ไหน เซนอยู่ไหนลูอีจับโทรศัพท์พร้อมคร่ำครวญราวกับทุกอย่างคือเรื่องจริง

               เซนออกไปหานายไงลู

               “เซนมาหาแล้วแต่ออกไปไหนก็ไม่รู้

               “เดี๋ยวฉันไปดูเซนที่ร้านโดนัทเอง

               “ไม่ๆๆ มารับฉันก่อนเราจะไปหาด้วยกัน

                “เอางั้นก็ได้ แค่นี้นะ

               ผมโทรหาเซนหลายครั้งกับไม่มีวี่แววการรับสายแถมยังติดต่อไม่ได้ด้วยซ้ำ พยายาม โทร โทร โทร แต่ก็ทำได้แค่โทร ผมนั่งแท็กซี่ไปหาลูอีเวลานี้รถติดยาวเหยียด รีบผมก็รีบรถยังมาติดอีก ผมติดไฟแดงอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ป่านี้เซนจะเป็นยังไง?เขาหายไปไหน?ก็ยังเป็นคำถามที่ค้างคาในใจตลอดการเดินทาง เซนไม่เคยหายแบบไม่บอกมาก่อนแต่จู่ๆกลับหายตัวไปแบบไม่มีใครรู้เรื่องแม้กระทั่งคนที่เขาอยู่ด้วยตลอดทั้งวัน เรื่องนี้มันทะแม่งๆแต่ก็คงได้แต่เก็บไว้ในใจ

                ลูอีเห็นรถแท็กซี่ที่ข้างในมีชายหัวทองตาฟ้านั่งอยู่ผ่านกระจกในบ้าน ลูอีแสะยิ้มอย่างร้ายกาจ เขาไม่คิดจะทรมานไนออลหรอก เขาแค่อยากให้ไนออลตายไป แค่นั้น  แค่นั้นเอง... ลูอีเลือกที่จะเก็บอาวุธที่จะใช่ฆ่าไนออลไว้ที่สะโพกด้านหลัง ดึงเสื้อยืดให้ปิดที่อาวุธพอดี

               ลูอี เซนล่ะ เซนไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม หาทั่วแล้วหรือยัง?

               “เซนอยู่ในห้อง คงหลับไปอีกนานเลยและนายกำลังจะหลับไปพร้อมเซนไงล่ะ หึๆ

                “....” ตอนนี้เขางงและเรียบเรียงเรื่องราวไม่ถูกเลยสักนิดทุกๆอย่างดูสับสนเรื่องราวทุกอย่างตีกันยุ่งไปหมด

                ลูอีหยิบปืนเบเร็ตต้า ตั้งฉากและหันปืนไปทางไนออล เหนี่ยวไกด้วยความคล่องแคล้วเหมือนถูกฝึกหัดมาอย่างชินมือ ลูกปืนขนาด 9 มม.วิ่งต้านลมกำลังจะวิ่งเข้ากระทบผิวหนังเขาเข้าอย่างจังแต่ โชคดีที่ไนออลหลบกระสุนลูกนั้นได้ทัน ลูกปืนทะลุกระจกทำให้กระจกแตกออกเป็นเสี่ยงๆและกระจายเป็นเศษๆกระจกทิ่มแทงผิวหนังขาวซีดนั้นเป็นจุดๆ  ลูอีเหนี่ยวไกอีกครั้งและจ่อยิงไปที่หลังของไนออลที่กำลังวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง กระสุนปืนลูกนี้วิ่งเข้ากระแทกหลังเขาอย่างจัง

                ร่างกายทรุด

                รู้สึกเหนื่อยขึ้น

                หายใจไม่ถนัด

               รู้สึกจุกอกอย่างบอกไม่ถูก

                ถึงจะไม่ได้โดนส่วนสำคัญมากนักแต่บวกกับการวิ่งหนีที่ไม่น่าจะมีทางหนีรอดทำให้เหนื่อยจนอยากจะล้มลงนั่งสักพักและหลับตาซัก 3 นาที

                ลูอีเล็งไปที่ขาไนออลก่อนจะยิงไปอีกนัดจากระยะที่ไม่เกิน 10 เมตร ไนออลทรุดลงจับขาข้างซ้ายของตัวเองที่ตอนนี้เลือดได้ค่อยไหลลงมาช้าๆตามแรงน้มถ่วงโลก ลูอีเดินใกล้เข้ามาทุกที ทุกทีและทุกที 

                พยายามจะคลานหนีแต่ยิ่งไปเท่าไหร่รู้สึกเหมือนระยะทางยิ่งไกลเข้าไปทุกที

              เขาเหยียบไปขาข้างที่ถูกยิงกดให้แรงขึ้นเหยียบย้ำซ้ำเติมแผลให้ปวดมากหนักขึ้นไปอีก  ไนออลรู้สึกจุกจนพูดไม่ออกเสียงแหบพร่างกว่าเดิม ร่างกายที่ป่วยอยู่แล้วยิ่งทรุดโทรมมากกว่าเดิมเพราะเครียดเรื่องเซนตั้งแต่ลูอีโทรมาหาและตอนนี้ เวลานี้ มีแต่ความสับสนว่าเขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร? ต้องการอะไร? ทุกๆอย่างรุมเร้าอย่างรวดเร็วมากเกินจะรับไหว

              “ทำอย่างนี้ทำไม ลู...ลูอี

              “ฉันต้องการเซน!! ไม่อยากให้เซนยุ่งกับนาย!”

               “แล้วฆ่าเซนทำไม!!”

               “เพื่อให้เขาอยู่กับฉันคนเดียว อยู่กับฉันตลอดไปจะไม่มีใครมาแทรกกลางระหว่างเราได้!! ลูอีตอนนี้มีแต่ความบ้าคลั่งความริษยาและความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุด ความโกรธ ความอยากที่จะฆ่าไนออลให้พ้นๆไป ยิ่งไนออลรู้สึกทรมานมากเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกดีมากเท่านั้น

               ลูอีเหนี่ยวไกไปที่กลางอกของไนออลแต่ยังไม่ยิงแค่ต้องการให้ไนออลกลัวกับปืนที่จ่ออยู่ตรงหน้า แต่กลับมีเพียงแววตาของความหมดอาลัย ความผิดหวัง แต่ก็หารู้ไม่ว่ายิ่งทำแบบนี้ยิ่งทำให้ลูอีทวีความโกธรขึ้นไปอีก

               ลูกกระสุนขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่วิ่งผ่าเข้ากลางอก 2 นัดและเฉียดเข้าไปทางหัวใจอีก 1 นัดไม่เกินนาทีหัวใจของไนออลเริ่มเต้นช้าลง มือไม้หมดแรงที่จะตั้งฉากพยุงตัวเองได้อีก

      Now I’m back at your door

      ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะเซน

      I should’ve seen it before

      ฉันควรจะเห็นมันก่อนหน้านี้

      But I know you’re still the one

      แต่ฉันรู้...นายยังเป็นที่รักของฉันเสมอ

      I tried to start again and find somebody

      ฉันพยายามแล้วที่จะเริ่มต้นมองหาใครสักคน
      But I remember all the time

      แต่ฉันก็จำนายได้ตลอดเวลา

       and all the words

      และทุกๆคำ

      I can’t get it out of my head

      ฉันไม่สามารถเอามันออกจากหัวฉันได้เลย

                ลูอี...จำไว้นะถึงนายจะทำแบบนี้ก็ไม่ได้หัวใจคนอย่างเซนหรอก....

       

              ประโยคสุดท้ายที่ลูอีได้ยินก่อนที่ไนออลจะสิ้นลม ผู้ชายที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและคนรักของเซน รองเท้าที่เปรอะเลือดสีแดงสดขึ้นบันไดไปยังห้องของตนเอง มือสั่นระริกจับลูกบิดก่อนจะปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา เขาเดินไปนั่งที่เตียง เตียงที่มีผู้ชายหน้าคมเข้มนอนอยู่ คนที่แต่ก่อนเคยสดใสร่าเริง คนที่ยิ้มง่าย คนที่ดูแลเขามาตลอด ตอนนี้เป็นเพียงร่างไร้วิญญาณเป็นเรือนร่างที่ไม่มีความรู้สึก

       

      เราจะได้อยู่ด้วยกันและนะเซน เราได้อยู่ด้วยกันและนะ

      ผมหวังจริงๆนะว่าเซนจะยกโทษให้

      และผมยังคงพูดอยู่

      ที่รักแค่เพียงบอกฉันว่าฉันได้ยินอะไร

      “You’re still the one ”

               น้ำจากดวงตาที่ไหลอาบแก้มคนตัวเล็ก มือเรียวเล็กลูบไล้ที่ใบหน้าหล่อที่นิ่งสะนิดมีแค่คราบเลือดแห้งติดอยู่บนใบหน้า ณ เวลานี้ไม่ว่าเซนจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ เขาเป็นทุกๆอย่างของลูอี ในเมื่อเซนเลือกที่จะรักคนอื่นจุดจบของความรักที่ ลูอิส ทอมลินสันมีให้ก็คงมีแค่ความรักที่ต้องแลกด้วยชีวิตที่มีความตายเป็นเดิมพัน!!

       

      รู้ไหมบางครั้งความรักก็คือการล่าแม้ต้องแลกกับโชคชะตาก็ตาม...

      Louis Tomlinson

              

      ‘LONDONEYES’

                    สวัสดีผู้อ่านทุกๆคนนะคะ ฟิคนี้แต่งไว้นานมาก นานตั้งแต่มิวสิคชีทเลยก็ว่าได้แถมยังเป็นฟิคเรื่องแรกอีกด้วย ถ้ามีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมานะที่นี้ (จำมาจากคำนำในรายงานคะ5555) ใครผ่านอ่านเรื่องนี้ที่ถูกแปะลิ้งค์ไว้ในทวิตเตอร์แล้วไม่รีโหวตนะจะโกรธมากเลย ฝากอ่านฝากรีฝากบอกต่อๆกันไปเนอะ

                     ที่จริงมันก็ไม่ถึงกับเป็นไซออลและซูอิสเท่าไหร่เพราะอายส์แต่งแบบไม่ให้มีคู่นั่นเอง ทำร้ายรีดเดอร์ใช่ไหมล่ะ นั่นแหละคะ สะใจมาก 55555 พร้อมรับคำด่าที่ @LONDONEYESS_ มาด่ากันเยอะๆ มาพูดคุยกันได้ที่ #StillTheOneOnKill  เนอะจะได้ไม่ซ้ำกับแท็กชื่อเพลงและอีกอย่าง ฝากโหวต #KCA #VoteUK ด้วยละ

                       ขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกๆคนนะคะที่หลงและตั้งใจเข้ามาอ่านและมาวิจารณ์ให้ ขอบคุณจริงๆคะ J

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×