NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เขาคือฮีโร่ !! (หยุดอัพ)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่6|อนาคต

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 66


    "ในสมุดนั่นมีอะไร"


     

    เอเลี่ยนยื่นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งให้เรกะ ซึ่งเขาก็รับมันมาและมองอย่างสงสัย ซึ่งเอเลี่ยนคนนั้นก็พูดขึ้น


     

    "นี่เป็นฉบับคัดลอก"


     

     เรกะที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเปิดอ่านจนไปถึงหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า ในบันทึกมาริโดนกระทำต่างๆนาๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องเด็กสาวไม่สมควรที่จะได้เจออะไรแบบนี้ เรกะเงยหน้าขึ้นมองเอเลี่ยนตรงหน้า 


     

    "เกิดอะไรขึ้นกับเขา" 


     

    "ถูกจับไปแล้ว" 


     

    ทุกคนที่ไม่ได้ใสซื่อก็สามารถเดาได้ทันทีและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่พวกเขาหารู้ไม่ว่ามาริโดนหนักกว่าที่พวกเขาคิด

     

    "อะไรใครโดนจับ" 

     

    ทุกสายตาจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มคนหนึ่งอย่างประหลาดและคนที่นั่งข้างเขายกมือขึ้นมาแตะไหล่สองสามที 

     

    "ไม่รู้นั่นแหละดีแล้ว"

     

    [ใช่เลยฟังเพื่อไว้ ไม่รู้นั่นแหละดีแล้ว] 

     

    [น่าสงสารทั้งคู่เลยนะ] 

     

    [อานั่นสิ] 

     

    เรกะมองไปยังเอเลี่ยนตรงหน้าอีกครั้ง 


     

    "ไปเอาข้อมูลที่ละเอียดขนาดนี้มาจากไหน" 


     

    "พวกเรามีจุดเด่นทางด้านเทคโนโลยีนะการแกะรอยแค่นี้ทำได้ไม่ยาก" 


     

    เรกะที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วและลุกขึ้นเดินไปที่ประตูหน้าร้านเขาหันกลับมาก่อนที่จะพูดขึ้นและจากไป 


     

    "ถ้าฉันยังไม่อนุญาตอย่าเข้าไปที่โลกชั้นในอีก" 


     

    "ได้" 


     

    พวกเขามองไปที่จอพร้อมกับหลับตาปริบๆ ให้สมองประมวลผลและในที่สุด 

     

    "เย้ย พวกมันเข้ามาสืบเรื่องของโทเรเกียร์ที่โลกชั้นในหรือที่ที่พวกเราอยู่งั้นเรอะ" 

     

    "แบบนั้นมันไม่ใช่ว่าในที่ไหนสักแห่งบนโลกมีเอเลี่ยนอาศัยอยู่นะ" 

     

    [มีความเป็นไปได้ที่สูงมาก] 

     

    [ทำไมถึงได้รู้สึกไม่ปลอดภัยแบบนี้นะ] 

     

    [นั่นสิหลังจากที่เห็นสัตว์ประหลาดนั่นแล้วพวกเอเลี่ยนน่ากลัว!!] 

     

    [เห็นด้วย!!] 

     

    กลับมาที่จอเรกะลืมตาขึ้นมาและมองไปยังโทเรเกียร์ที่ดูเหมือนกำลังสับสนอยู่ เรกะที่นอนราบอยู่บนพื้นค่อยๆลุกขึ้นมา 


     

    โทเรเกียร์เองก็สัมผัสได้เขาเลยหันกลับมาสนใจเรกะอีกครั้งแต่เขาไม่ได้ขยับอะไรทั้งสองจ้องกันสีกพักก่อนที่เรกะจะพูดขึ้น 


     

    "เธอคนนั้นคาดหวังให้นายมีความสุขนะ ถึงแม้เธอจะเกลียดมนุษย์และโลกใบนี้ขนาดไหนแต่เธอก็อยากให้นายมีชีวิตที่ดี" 


     

    "ผม..." 


     

    โทเรเกียร์ที่กำลังคิดไตร่ตรองสิ่งต่างๆจู่ๆเขาก็ทรุดตัวคุกเข่ากับพื้นและนำมือขึ้นมากุุมหัว 


     

    "อ้ากกกก!!!" 


     

    โทเรเกียร์กรีดร้องออกมาอย่างทรมานและกลุ่มควัญสีดำน้ำเงินก็เข้าปกคลุมตัวเขาเหลือเพียงดวงตาสีแดงสดกับกลุ่มก้อนสีดำน้ำเงิน 


     

    ที่กำลังขยายขนาดขึ้นไปและในที่สุดก็หยุดลงปรากฏปีศาจขนาดใหญ่มากตรงหน้าเรกะเขายืนมองไปที่อีกฝ่าย 

     

     

    (ผมหารูปมาได้แค่นี้ ขอโทษงับ) 

     

    ทุกคนมองไปยังปีศาจที่มาใหม่อย่างหวาดกลัว ความน่าขนลุกหน้าตาและรูปลักษณ์แบบนั้น 

     

    "นะ น่ากลัวโคตร" 

     

    "รู้สึกไม่ชอบเลย" 

     

    "ถ้าได้เห็นไอ้ตัวนั้นก็ไม่มีใครชอบทั้งนั้นแหละ" 

     

    [แล้วโทเรเกียร์ล่ะ??] 

     

    [อย่าบอกนะว่าโดนกินไปแล้ว] 

     

    [อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ] 

     

    ในจอเจ้านั่นมองมานังเรกะอย่างไม่พอใจ ส่วนเรกะก็ไม่ต่างกัน 


     

    "แกเรอะที่ทำให้ร่างสถิตของฉันไขว้เขว" 


     

    มันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบแห้งและน่ากลัวเรกะเองก็ไม่น้อยหน้าถามสวนอีกฝ่ายกลับไป 


     

    "แกสินะที่มาล่อลวงคนของฉัน" 


     

    "หึแล้วมันจะทำไม" 


     

    เจ้าปีศาจปล่อยออร่าพลังออกมาพื้นที่ซากตึกจากการต่อสู้ของโทเรเกียร์และเรากะกลายเป็นพื้นดินที่โล่งโจ้งทันที 


     

    "... บ้าไปแล้ว" 

     

    [นั่นแค่ปล่อยพลังเองนะ] 

     

    [เรกะน่าเป็นห่วงจัง] 

     

    [นั่นสิถึงแม้ลำแสงเขาจะแรงแต่] 

     

    ทุกคนมองไปยังไฟสีแดงที่กระพริบอยู่หน้าอกของเรกะมันกระพริบถี่ในระดับที่อีกนิดจะมันจะสว่างเป็นสีแดงแล้ว 

     

    "ท่านพี่สู้ๆนะคะ" 

     

    มิยูกิพูดออกมาอย่างแผ่วเบา คนอื่นๆเองก็ไม่ต่างกัน 

     

    เรกะที่ยืนอยู่ในจอไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อยที่กำปั้นทั้งสองข้างของเขามีเปลวไฟสีแดงลุกท่วมอย่างน่ากลัว 


     

    แต่มันกลับไม่ได้ทำร้ายอะไรเรกะเลย เรกะหายไปจากตรงที่ยืนอยู่ทันทีและเสียงปะทะที่ดังสนั่นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง 


     

    เรกะที่กำลังระดมหมัดใส่ปีศาจจนตัวขนาดใหญ่ของมันลอยถอยหลังไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่นานมันปล่อยหลังสีดำน้ำเงินออกมาผลักเรกะให้ถอยออกไป 


     

    "สะสุดยอด" 

     

    "แบบนี้ชนะแน่" 

     

    [สู้เขาเรกะ] 

     

    [พยายามเข้า] 

     

    ปีศาจที่เห็นท่าไม่ดีเหมือนมันกำลังจะทำอะไรบางอย่างแต่เรกะก็ไม่ยอมปล่อยให้มันทำเข้าพุ่งเข้าไปสาดหมัดใส่อย่างไม่ยั้งจนมันลงไปนอนกองกับพื้น 


     

    "ได้ตัวละ"


     

    เรกะไขว้มือเหมือนกับที่โทเรเกียร์เคยทำก่อนหน้าแล้วปล่อยลำแสงออกไปส่วนปีศาจตัวนั้นก็ปล่อยลำแสงออกมาจากปากเช่นกัน 


     

    ซึ่งลำแสงทั้งสองสูสีกันมากไม่สิของเรกะกำลังอ่อนแอลงโดยไม่รู้ทำไมเรกะหันไปยังทิศทางหนึ่งและเขาพบกับปีศาจที่มีรูปร่างเหมือนนก 


     


     

    สิ่งที่อยู่ตรงกลางสิ่งที่เหมือนเกราะห้าเหลี่ยมตรงท้องของมันกำลังเปิดออกและดูดพลังลำแสงของเรกะถึงแม้จะดูดได้ไม่หมด 


     

    แต่ถ้าดูดไปเรื่อยๆล่ะก็เรกะที่กำลังอ่อนแรงต้องพลังหมดอย่างแน่นอน เรกะหยุดปล่อยลำแสงและกระโดดถอยออกไป 


     

    เขาไม่รีรอให้อีกฝ่ายเข้ามาเพราะเขาใกล้หมดเวลาแล้ว เรกะเตะไปที่สัตว์ประหลาดนกจนตัวมันเซออกไปและหันกลับมาต่อยปีศาจที่สิงโทเรเกียร์ 


     

    ทำอีกฝ่ายผงะเล็กน้อย และเตะกลับหลังไปยังปีศาจนกที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง เรกะหันกลับมายกแขนกันหมัดของปีศาจที่สิงโทเรเกียร์จากด้านหน้า


     

    แล้วหมุนตัวเตะปีศาจนกเข้าที่หน้าเต็มๆจนทำให้มันล้มลงพร้อมกับหันมากางบาเรียสีใสป้องกันบอลพลังงานสีน้ำเงินดำของปีศาจที่สิงโทเรเกียร์ 


     

    ลูกบอลที่ชนเข้ากับบาเรียก็ระเบิดบดบังเรกะในฝุ่นควัญแต่ไม่นานฝุ่นควัญก็ปลิวออกไปตามแรงลมและหมัดติดไฟของเรกะก็ซัดเข้าไปที่หน้า 


     

    ของปีศาจที่สิ่งโทเรเกียร์เต็มๆ ทำให้ใบหน้าไหม้ไปแถบนึง เรกะไม่รอดูผลงานเขาเตะกลับหลังอีกครั้งแต่คราวนี้ที่เท้าเขามีไฟติดด้วย 


     

    ทันทีที่เท้าของเรกะสัมผัสกับท้องของปีศาจนก ไฟที่เท้าของเขาก็ถูกดูดหายไป แต่เรกะไม่หยุดแค่นั้นเขาใช้เท้ายันอีกฝ่ายออกไป 


     

    และส่งตัวเองลอยสูงขึ้นจากพื้นพร้อมกับเท้าที่ติดไฟสีแดงเข้มที่ดูอันตรายกว่าครั้งก่อนๆซัดเข้าไปที่หัวของปีศาจที่สิงโทเรเกียร์และเกิดระเบิดขึ้น

     

    มันทิ้งตัวลงอย่างไร้แรงต้านพร้อมกับที่ควัญปกคลุมทั่วทั้งหัวของมันทันใดนั้นปีศาจนกก็เดินมาด้านหลัง เรกะหมุนตัวหนึ่งรอบพร้อมกับมีแสงสีทองสว่างวาบเป็นเส้นและหายไป

     

    ซึ่งในขณะที่กำลังหันหลังให้ปีศาจนกสิ่งที่เหมือนมีดสีทองใต้แขนของเรกะเรืองแสงก่อนจะดับลงพร้อมกับที่ปีศาจนกหัวหลุดออกจากบ่า

     

    มันล้มลงและระบิดขึ้นเป็นแบคกราวที่ด้านหลังซึ่ง

     

    “โคตรเท่!!!”*ทุกคน

     

    เสียงในหอประชุมดังสนั่น พวกเขามองไปยังเรกะด้วยสายตาที่เปร่งประกาย และก็มีความคิดนึงผุดขึ้นมาในหัวพวกเขา

     

    ‘ต่ำ พวกเราประเมินเขาต่ำเกินไป’ ในตอนที่ปีศาจนกปรากฏตัวและดูดลำแสงของเรกะพวกเขาก็เริ่มหน้าถอดสีแต่หลังจากนั้นพวกเขาต่างอ้าปากค้าง

     

    เรกะในจอตอนนี้ต่างกับเรกะตอนที่สู้กับโทเรเกียร์แบบลิบลับ ขนาดโดนสองหนึ่งยังไหวเลยและฉากล่าสุดนั่น กระแทกใจสุดๆ!!

     

    เรกะเดินเข้าไปหาร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ซึ่งมันก็ลุกขึ้นมา เรกะทำแขนตั้งฉากอีกครั้งแต่มันกลับยื่นหน้าของโทเรเกียร์ออกมาจากอก

     

    “ฮ่าๆๆๆ ถ้ากล้า-”

     

    เรกะแทบจะไม่ฟังอีกฝ่ายเลยเขายิงลำแสงออกไปและพุ่งทะลุหัวของอีกฝ่ายอย่างจังทำให้มันยืนนิ่ง เรกะไม่รอช้าเขาเดินเข้าไปและดึงโทเรเกียร์ออกมา

     

    ซึ่งทันทีที่ออกมาทั้งตัวเขาก็ได้สติและมองไปยังเรกะแวบนึงและหลบหน้า เรกะยิ้มออกมาอ่อนๆถึงจะไม่เห็นแต่รู้สึกได้

     

    “ทำไมกันครับทั้งๆที่ฆ่าผมจะง่ายกว่าแท้ๆแถมยัง แถมยัง…”

     

    โทเรเกียร์ก้มหน้าลง เรกะ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า และพูดขึ้น

     

    “อนาคตไงล่ะ”

     

    “อนาคต??”

     

    โทเรเกียร์ทวนคำนั้นออกมาอย่างสงสัย คนข้างนอกเองก็เช่นกัน 

     

    “การที่แลกอดีตอย่างฉันกับอนาคตอย่างพวกนายมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม”

     

    ไม่ใช่แค่โทเรเกียร์ที่ขมวดคิ้วทุกคนที่ดูอยู่เองก็ด้วย อะไรทำไมเรกะถึงเป็นอดีต แล้วอนาคตที่หมายถึงคือโทเรเกียร์??

     

    ในจอเรกะที่เห็นโทเรเกียร์ไม่เข้าใจเขาก็กำลังจะอธิบายแต่ทว่าปีศาจตนนั้นมันยังไม่ตาย มันพุ่งเข้าใส่โทเรเกียร์แต่ได้เรกะขวางไว้ทัน

     

    ตู้ม!! 

     

    เกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้น และเมื่อฝุ่นควัญจางหายไปก็เจอกับเรกะที่กำลังกางบาเรียสีใสอยู่ หลังจากที่ไม่มีอะไรแล้วเรกะก็ปลดบาเรียลง

     

    และทรุดลงไปนั่งคุกเข่าที่พื้น โทเรเกียร์รีบเข้าไปประคองทันที เรกะในตอนนี้ต่างจากที่ผ่านๆมามากเขาดูอ่อนแรงไร้กำลัง

     

    เรกะยกมือขึ้นมาพร้อมกับกำหมัดและชกไปที่หน้าอกของโทเรเกียร์เบาๆแต่มันกลับรู้สึกหนักแน่นอย่างบอกไม่ถูก

     

    “ถวายดวงใจ”

     

    โทเรเกียร์ไม่พูดอะไรทำเพียงเงียบส่วนเรกะ ปุ่มไฟสีแดงที่เคยกระพริบในตอนแรกหายไปและปรากฏปุมไฟสีแดงสด

     

    ดวงตาสีทองที่เคยส่องแสงเริ่มค่อยๆมืดลงพร้อมกับร่างของเรกะที่กลายเป็นอณูสีแดงและลอยหายไป

     

    ทุกคนที่มองฉากนี้ถึงกับน้ำตาซึมถึงจะไม่เข้าใจว่าเรกะต้องการจะสื่ออะไรแต่พวกเขาเหมือนกับได้กำลังใจและพลังในการใช้ชีวิตมาเลย

     

    แต่ทันใดนั้นทั้งคนในหอประชุมและในสำนักงานแห่งหนึ่งต่างมองไปยังหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนกันแค่วัยต่างกัน 

     

    สิ่งที่พวกเขาคิดว่าจะเห็นคือการโวยวายหรืออะไรทำนองนั้นแต่พวกเธอกลับนิ่งมาก นิ่งจนน่าใจหาย 

     

    ในจอเรกะที่กลายเป็นแสงก็มาโผล่ที่ถนนแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินไปมาแต่ไม่มีใครสังเกตุเห็นเขาเลย 


     

    จนกระทั่งเขาเขาเดินโซเซไปนั่งลงที่ข้างกำแพงอย่างเหนื่อยอ่อน หลังจากนั่งได้สิบนาทีก็มีชายคนนึงเดินเข้ามา 


     

    "นายเด็กโรงเรียนผลไม้สินะมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย"


     

    เด็กหนุ่มหัวแดงที่เข้ามาถามหรือก็คือโทโดนั่นแหละ ซึ่งเรกะที่โดนถามแบบนั้นก็มองไปยังเขาอย่างซับซ้อนก่อนที่จะพูดขึ้น 


     

    "แค่เหนื่อยนะ" 


     

    "งั้นหรอ คราวหน้าก็ไปหาที่นั่งดีๆซะล่ะ" 


     

    พูดจบเขาก็เดินจากไปทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน


     

    ซึ่งทุกคนรวมถึงตัวของโทโดเองมองไปยังจออย่างไม่เข้าใจ และทันใดนั้นโทโดก็พูดขึ้น 

     

    "อ๊ะฉันจำได้นั่นมันเหตุการณ์เมื่อเช้านี่" 

     

    ทุกคนที่ได้ยินก็เข้าใจทันทีว่าเรกะที่กำลังนอนอยู่ในเครื่องนั่นพึ่งจะผ่านการต่อสู้ที่หนักหน่วงมาเพราะงั้นเขาเลยหลับ... 

     

    "มันใช่การหลับแน่หรอ" 

     

    เด็กสาวคนนึงพูดออกมาแทนคนที่กำลังดูอยู่ทั้งหมด มิยูกิกับมินนะเริ่มลนลานแล้วและมองไปยังแคปซูลอย่างไม่วางตา 

     

    ทันใดนั้นในจอเรกะก็เดินเข้ามาในห้องประชุมและนั่งลงเขามองไปยังเด็กสาวผมดำซึ่งเธอก็มองมาที่เขา 


     

    'มิยูกิพี่ขอโทษนะ พี่คงเป็นพี่ชายที่แย่ที่สุด อา' เรกะหลับตาลงและความมือก็เข้าครอบงำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเสียงความคิดของเขาดังอยู่ 


     

    'พักผ่อนงั้นหรอ... นั่นสินะคงถึงเวลาแล้ว ถ้าพี่ชายที่แสนแย่จากไปแล้วน้องพี่ก็ไม่ต้องมาคอยแบกรับชื่อเสียงแย่ๆของพี่อีก' 


     

    ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นต่างก็กัดฟันแน่นและก้มหน้าลงส่วนมิยูกิก็ร้องออกมาแล้วแถมร้องหนักมากด้วย 

     

    'คุณมินนะเองก็จะได้เลิกปวดหัวกับผมสีกทีสินะ' 


     

    มินนะในตอนนี้ก็ไม่ค่อยต่างกับมิยูดิมากนัก 


     

    'แล้วก็เด็กพวกนั้นที่เป็นอนาคตที่จะคอยปกป้องโลกแทนฉันที่เป็นแค่อดีต แต่ว่าพวกเขาจะมีความสุขรึเปล่านะ' 


     

    ทันทีที่ได้ยินทุกคนถึงกับอ๋อ เรกะในตอนนี้ไม่ไหวแล้วเขาถึงเวลาที่ต้องพักแล้วแต่ เขาจะไปแบบนี้จริงๆงั้นหรอ 

     

    'อา ง่วงจัง ถ้าเราหลับไปแล้วจะได้ตื่นมาอีกรึเปล่าน้า ...แต่ว่าถึงจะไม่ตื่นก็ไม่เป็นไรแล้วนี่นะ' 


     

    มิยูกิไม่รอช้าเธอรีบวิ่งขึ้นไปเวทีและเร่งให้นักวิทยาศาสตร์รีบพาตัวเขาออกมาแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ 

     

    เพราะถ้าฝืนเอาออกมามันมีความอันตรายสูงและพวกเขาก็บอกมิยูกิว่าเครื่องอ่านความทรงจำอ่านได้แค่สิ่งมีชีวิต 

     

    หรือก็คือเรกะในตอนนี้ปลอดภัยดี หลังจากนั้นไม่นานประตูหอประชุมก็ถูกเปิดออกพร้อมกับแคปซูลของเรกะ 

     

    พวกเขาไม่รอช้าวิ่งเข้ามาและจับชีพจรของเรกะอย่างรวดเร็ว คนอื่นต่างก็สงสัยว่าคนพวกนี้เป็นใครกันแต่พวกเขาก็ได้คำตอบในทันที 

     

    "พวกเราคือFBIมาที่นี่เพื่อคุ้มครองชายที่ชื่อเรกะและครอบครัวของเขาแต่ตอนนี้เป็นเหตุฉุกเฉินเพราะชีพจรของเขาอ่อนมากแทบจะสัมผัสไม่ได้เลย เพราะฉนั้นพวกเราต้องส่งเขาไปที่โรงบาลโดยเร็ว" 

     

    พวกเขาราวกับพายุที่จู่ๆก็บุกเข้ามาและพัดพาตัวเรกะกับมิยูกิออกไป ทำให้ทุกคนได้แต่หลับตาปริบๆ

     

    ###จบตอน### 

     

    ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×