NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เขาคือฮีโร่ !! (หยุดอัพ)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่5|เรื่องราวของเด็กหนุ่ม

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 66


    หลังจากเติมพลังงานเรียบร้อยแล้วภาพก็กลับมาอีกครั้งและยังเป็นภาพที่ในบาร์ที่เดิมชุดเดิมและผู้คนก็เหมือนเดิม 


    ทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาและเหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างก็ได้ไอเดียใหม่ไม่สิมีไฟที่จะสร้างสิ่งที่สามารถระบุเวลาในความทรงจำได้ 


    เอเลี่ยนในภาพเริ่มพูดออกมา เดิมทีโทเรเกียร์เกิดในครอบครัวที่แสนจะธรรมดาและมีความสุขแต่ก็มีบางอย่างค่อยๆพรากมันจากเขาไป 


    นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าการพนันทั้งพ่อและแม่ของเขาเริ่มลุ่มหลงในเงินและเริ่มเล่นหนักขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งโทเรเกียร์อายุได้5ขวบ 


    พ่อกับแม่พวกเขาเริ่มเป็นหนี้มากขึ้นเรื่อยๆพวกเขากำลังคิดหนักว่าจะทำยังไงดีและแล้วพวกเขาก็เหลือบไปเห็นโทเรเกียร์


    ซึ่งเขาในวัย5ขวบกำลังนั่งเล่นรถของเล่นอยู่อย่างใสซื่อและน่ารักแต่ทว่าสายตาของพ่อแม่เขาปรากฏความวิปริตออกมา 


    ทุกคนที่ดูอยู่ต่างสูดหายใจเข้าลึกและมองไปยังหน้าจอว่าพ่อแม่คู่นี้กำลังจะทำอะไรกับลูกของตัวเองกันแน่ 


    แต่คำพูดต่อมาของเอเลี่ยนตัวนั้นก็ทำคนที่เป็นพ่อแม่ต่างมองไปยังจอด้วยความโกธรและรังเกียจ


    โทเรเกียร์ถูกขายให้กับมาเฟียร์แก๊งนึงด้วยเงินจำนวนหนึ่งที่สามารถปลดหนี้และยังทำทุนให้กับพวกเขาได้เหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว 


    บางคนที่ได้ยินก็ขมวดคิ้ว สาม?? ไม่ใช่แค่สองหรอกหรอ แต่คนที่สามารถหาประโยชน์ที่สามได้ก็หน้ามืดลง 


    "ไอ้พวกเวรนั่น"


    มินนะที่นั่งดูจออยู่พูดขึ้นเธอมองไปยังลูกชายของเธอในจอซึ่งเขานิ่งมากแต่แววตากลับคบกริบจนน่ากลัว 


    การขายโทเรเกียร์พวกเขาได้มาสามอย่าง เงินใช้หนี้ เงินทุน และ ภาระอย่างโทเรเกียร์หายไปจากพวกเขา 


    พวกคนที่ยังไม่รู้ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มก่นด่าออกมาบางคนถึงกับอยากรู้ว่าสองคนนี้เป็นใครพวกเขาล่ะอยากเห็นหน้าเหลือเกิน 


    โทเรเกียร์ในตอนนั้นที่ได้ยินก็ขาสั่นเทานำตาเริ่มไหลออกมาแต่ว่าถ้าเขายังอยู่เขาจะได้ไปกับคนน่ากลัวพวกนั้น 


    โทเรเกียร์ในวัย5ขวบตัดสินใจแอบออกจากบ้านไปและมันก็เป็นปาฏิหาริย์มากที่เขาสามารถออกมาได้โดยที่ไม่มีใครเห็น 


    ทุกคนต่างก็มองโทเรเกียร์เปลี่ยนไปพวกเขาไม่คิดเลยว่าอดีตของเด็กหนุ่มจะน่าหดหู่แบบนี้ 


    [ให้ตายเถอะพ่อแม่อะไรกันนั่นมันผีพนันชัดๆ] 


    [ฉันเริ่มรู้แล้วสิว่าทำไมเรกะถึงไม่ลงมือ] 


    [พวกพ่อแม่เฮงซวย] 


    [น่าสงสาร]


    [ใช่เขาพึ่งจะ5ขวบเอง] 


    [สู้ๆนะเรกะพาโทเรเกียร์กลับมาให้ได้] 


    [ใช่] 


    คอมเม้นที่เป็นไปในทางเดียวกันเริ่มไหลเร็วขึ้นคนในหอประชุมเองก็ไม่แพ้กัน 


    "เรกะต้องช่วยได้อยู่แล้วใช่มั้ย??"


    "ต้องได้สิ" 


    "ใช่ๆ ถ้านายไม่เชื่อมั่นมันจะไม่เกิดขึ้น" 


    [อย่างที่ไอ้หนุ่มนั่นบอกพวกเราต้องเชื่อมั่น] 


    โทเรกียร์ในวัยหกขวบได้เดินร่อนเร่ไปเรื่อยและจนสุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทนความหิวได้โทเรเกียร์จึงเริ่มจะขโมยของ 


    ซึ่งช่วงแรกก็ทำไม่ค่อยได้แต่พอเขาเริ่มมีประสบการณ์เด็กหนุ่มก็เริ่มชำนาญและขโมยของได้แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับได้ 


    โดยคนที่จะเปลี่ยนชีวิตเขา เด็กสาวผู้มีร่างกายอ่อนแอ มาริ  


    "ในที่สุดก็มีคนที่จะเปลี่ยนโทเรเกียร์แล้ว" 


    "แต่เธอจะตายและทำให้เขากลายเป็นวายร้ายนี่"


    "นายรู้ได้ไง" 


    "นี่นายไม่ได้ดูเรอะก็เจ้าตัวบอกเองว่าเสียสิ่งสำคัญไปน่ะ" 


    "อ๊ะจริงด้วย!!" 


    [พอรู้แบบนี้แล้วยิ่งน่าสงสาร] 


    [จริงเขาต้องสู้ชีวิตมากเลย] 


    [แต่ชีวิตก็สู้กลับสินะ] 


    [ใช่] 


    เด็กสาวไม่ได้ส่งเขาให้ตำรวจแต่เธอกลับเริ่มแนะนำตัวและคุยกับเขา ซึ่งสิ่งที่คุยนั้นเป็นเรื่องการใช้ชีวิตของเด็กหนุ่ม 


    ส่วนเด็กหนุ่มในตอนแรกก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินจากไปแต่หลังจากนั้นก็เหมือนกับเด็กสาวมีเครื่องติดตาม 


    เธอสามารถเจอโทเรเกียร์ได้ทุกวันไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนร้านปล้นก็แล้วเขาก็ยังเจอเด็กสาวอยู่ดีจนในที่สุดเขาก็ยอมเล่าเรื่องการใข้ขีวิตของตัวเอง


    และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มสนิทกันอย่างงงๆและโทเรเกียร์เองก็เริ่มปล้นน้อยลงจนกระทั่งได้ไปอาศัยอยู่กับเด็กสาว 


    แต่ในขณะที่พวกเขาสนิทกันมากจนมองอีกฝ่ายเป็นครึ่งของชีวิตเด็กสาวที่แต่เดิมมีร่างกายอ่อนแอได้ล้มป่วย 


    โทเรเกียร์ในวัยสิบขวบได้ยืนข้างเตียงของเด็กสาวพร้อมกับมองเธอจากไป ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้บังเอิญออกไปที่โลกชั้นนอก 


    และได้เจอกับผนึกของบางอย่างแต่เขาก็ไม่ได้แตะต้องมันแต่อย่างใด และทันทีที่เขาแปลงร่างได้เขาก็มีความคิดที่จะปกป้องโลกที่เธอคนนั้นรักไว้ 


    ซึ่งพอฟังถึงตรงนี้ทุกคนก็มองไปยังจอและเอียงคออย่างไม่เข้าใจ อะไร?? มันก็ดีไม่ใช่เรอะแล้ว 


    ยิ่งคิดพวกเขายิ่งงงโทเรเกียร์ไม่ได้จะทำลายโลกเพราะเธอคนนั้นตาย?? แต่กลับกันเขาปกป้องมัน  


    อเลี่ยนยังคงพูดต่อ โทเรเกียร์ที่กำลังทำตามสิ่งที่เขาคิดแต่มันไม่ง่ายแบบนั้นเพราะเขาไม่สามารถสู้สัตว์ประหลาดพวกนั้นที่มาบุกได้ 


    โทเรเกียร์พยายามทำทุกวิถีทางแต่ก็ไม่ได้ผลจนกระทั่งเขาเสียท่าไปในที่สุด 


    "อย่าบอกนะว่าตอนนี้น่ะ" 


    "ถึงความเป็นไปได้จะน้อยแต่ก็มีอยู่" 


    [หรือผนึกที่เห็นตอนแรกจะเปลี่ยนเขา??] 


    [ไม่สิมันต้องมีคนเป่าหูหรืออะไรทำนองนั้นน่าจะเป็นไปได้มากกว่า] 


    [นั่นก็จริงเพราะเขาดูมุ่งมั่นมากเลยในการปกป้องโลก] 


    เรกะในจอหลับตาลงมันเป็นกลายเป็นภาพของชายตัวสีฟ้ากำลังนอนอยู่บนพื้น 



    นขณะที่โทเรเกียร์กำลังจะเสียท่าก็ได้มีลำแสงสีฟ้าพุ่งทะลุหัวสัตว์ประหลาดตัวนั้นและพุ่งไปชนพื้นด้านหลังทำให้เกิดระเบิดรูปเห็ดขึ้น 


    ซึ่งมันแรงชนิดที่ว่าลำแสงของโทเรเกียร์ที่แสดงไปก่อนหน้านี้ดูหมองไปเลย หลังจากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง 


    เป็นตัวเจ้าสัตว์ประหลาดที่ระเบิดและตายลงโทเรเกียร์หันกลับไปก็เจอกับเรกะที่กำลังยืนมองเขาอยู่ 


    ทุกคนขนลุกอย่างช่วยไม่ได้ ลำแสงของเรากะนั่นมันนิวเคลียร์ขนาดย่อมชัดๆเลยไม่ใช่รึไง 


    "เป็นแบบที่โทโดพูดจริงด้วยเรกะกำลังออมมือให้โทเรเกียร์" 


    คนอื่นก็พยักหน้าหงึกๆเพราะแค่เรกะปล่อยลำแสงใส่โทเรเกียร์เขาก็อาจจะปางตายหรือถึงตายได้เลย


    เรกะที่ได้เจอกับโทเรเกียร์ครั้งแรกเขาก็มองไปอย่างสงสัยและเดินเข้ามาถาม 


    "นายคือมนุษย์งั้นหรอ" 


    โทเรเกียร์พยักหน้าหงึกๆ เรกะที่เห็นแบบนั้นทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ทันทีว่าเรกะกำลังมีความสุข 


    "ว้าวในที่สุดก็ได้เจอคนแบบฉันสักทียินดีที่ได้รู้จักผมเรกะ" 


    "สะสวัสดีครับ ผะผมโทเรเกียร์" 


    เรกะลืมตาขึ้นมาก็เจอกับเอเลี่ยนตัวเดิมที่มองเขาอยู่ซึ่งหลังจากที่เห็นเรกะลืมตาเขาก็เริ่มพูดอีกครั้ง 


    หลังจากที่โทเรเกียร์ในวัย10ขวบได้เจอกับเรกะในวัย11ขวบพวกเขาก็ช่วยกันปกป้องโลกเรื่อยมาจนกระทั่ง 


    [เดี๋ยวเมื่อกี้บอกว่าเด็กพวกนั้นกี่ขวบนะ]


    [10กับ11] 


    [แบบนั้นมัน...] 


    [เฮ้อผู้ใหญ่อย่างเราไม่ช่วยอะไรเลยสินะ] 


    [ไม่ใช่ไม่ช่วยแต่ช่วยไม่ได้ต่างหาก] 


    มินนะที่ได้ยินแบบนั้นเธอเข้าใจทันทีว่าทำไมเรกะถึงเปลี่ยนไปแต่เธอกัดฟันแน่น 


    "เรกะแม่ แม่ ขอโทษ" 


    เพราะเรกะเปลี่ยนไปตั้งแต่สิบขวบงั้นก็แสดงว่าเขาสู้มาคนเดียวหนึ่งปีก่อนจะพบโทเรเกียร์ซึ่งเป็นช่วงที่เธอไม่สนใจเขา 


    "ลูกคงเหงาและต้องแบกรับสิ่งที่หนักมากแน่ๆ" 


    โทเรเกียร์ที่ร่วมกันปกป้องโลกกับเรกะในวันนี้เองเองเขาได้ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านของมาริที่ไม่ได้กลับมานาน 


    เขาเริ่มเดินไปรอบๆและลำลึกความหลังแต่ทันใดนั้นเขาก็ไปเจอกับห้องหนึ่งที่มัันอยู่หลังตู้หนังสือซึ่งถ้าบ้านไม่ถูกทิ้งร้างจนตู้เสียหายเขาก็คงไม่เจอ 


    โทเรเกียร์เดินเข้าไปในห้องซึ่งสิ่งแรกที่เขาเจอคือรูปใช่มันคือรูปของมาริตั้งแต่เด็กจนโตแต่รูปภาพพวกนั้นมันเป็นภาพที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้


    โทเรเกียร์เดินเข้าไปในห้องและพบกับสมุดบันทึกเล่มหนึ่งวางอยู่เขาหยิบมันขึ้นมาอ่านและทันทีที่อ่านจบเขาก็หายไปจากตรงนั้น 


    และมุ่งหน้าไปยังผนึกที่เขาได้เจอตอนแรกซึ่งมันต่างจากตอนแรกเพราะครั้งนี้เขาได้ยินเสียงของบางสิ่ง 


    มันกำลังเชื้อเชิญและล่อลวงแต่โทเรเกียร์ก็รับรู้ได้ เขามองไปที่มือตัวเองและเหมือนกับตัดสินใจบางอย่างจึงพูดขึ้น


    "นายช่วยฉันทำลายโลกได้ใช่มั้ย" 


    ###จบตอน### 


    อ่านให้สนุกนะครับ(⁠ ⁠╹⁠▽⁠╹⁠ ⁠)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×