คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่3|ครอบครัว
ตั้งแต่การถ่ายทอดสดเริ่มฉาย ชิบะ มินนะ ผู้ที่ถอดแบบหน้าตามาจากมิยูกิ ไม่สิต้องเป็นมิยูกิต่างหากที่ถอดแบบมาจากเธอ
ชิบะ มินนะ เป็นแม่แท้ๆของมิยูกิและแม่บุญธรรมของชิบะ เรกะ หรืออีกชื่อ ดารุย เรกะ เธอกำลังนั่งดูการถ่ายทอดสดอย่างสนใจ
เพราะไม่กี่วันก่อนลูกสาวของเธอบอกว่าเธอเป็นหนึ่งในคนที่จะได้ถ่ายทอดกรือฉายความทรงจำซึ่งทันทีที่เธอได้ดูก็พยักหน้าเล็กน้อย
แต่ทันทีที่ลูกชายของเธอโผล่มาเธอก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และมันทำให้เธอนึกย้อนกลับไปในตอนที่เจอกับเรกะครั้งแรก
เขาเป็นเด็กน่ารักมากในสายตาเธอ ในช่วงนั้นเรกะมีอายุ6ขวบ ครอบครัวของเรกะเป็นเพื่อนสนิทกับเธอ
หลังเรียนจบพวกเขาก็ย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศถึงแม้จะไม่ได้ไปมาหาสู่กันแต่ก็มีโทรคุยหรือติดต่อเป็นประจำ
และแล้วสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น นั่นก็คือการสูญเสีย ทั้งพ่อและแม่ผู้ให้กำเหนิดเรกะได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ทำให้เรกะกลายเป็นเด็กกำพร้าเพราะครอบครัวของทั้งพ่อและแม่เขาไม่มีใครเหลืออยู่แล้ว มินนะ และ ชิบะ มากิ ผู้เป็นสามีของเธอได้รับเขาเข้ามาเป็นลูกบุญธรรม
ในช่วงเวลาสี่ปีที่พวกเขายังเป็นครอบครัว เรกะเป็นดีมากคนนึงมันแทบจะไม่มีภาพเลยว่าเด็กแบบนั้นจะกลายเป็นเด็กแบบนี้
'ไม่สิทั้งหมดมันเป็นเพราะฉันต่างหาก' สาเหตุที่ทำให้มินนะคิดแบบนั้นเพราะในตอนที่เรกะอายุสิบขวบหรือหกปีก่อน
พวกเขาได้เสียหัวหน้าครอบครัวและคนที่เรกะเคารพที่สุดไป ซึ่งนั่นคือสามีของเธอชิบะ มากิ เขาจากไปเพราะอุบัติเหตุ
ซึ่งตั้งแต่นั้นมาเรกะก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่สิตัวเธอเองก็ด้วยเช่นกัน เธอเริ่มทำงานหนักขึ้นกลับบ้านน้อยลงและไม่ค่อยได้ใส่ใจลูกๆเท่าที่ควร
แต่ในเวลาที่เธอคิดได้เรกะก็ไม่กลับมาแล้วไม่ว่าเธอจะดุด่า ว่ากล่าว หรือพูดคุยอย่างเปิดอก เธอทำทุกอย่างแต่เรกะก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ทำให้เธอรู้สึกเสียใจมากเพราะเรกะที่เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทที่พวกเธอรับเข้ามา และเป็นเพราะเธอที่ทำให้เรกะกลายเป็นแบบนี้
ในขณะที่กำลังคิดว่าจะทำยังไงกับเรกะดีการอ่านความทรงจำก็ได้จบลงแต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะจู่ๆ
ก็มีเด็กสามคนแบกเด็กชายที่คุ้นหน้าคุ้นตาเธอขึ้นไปบนเวที และไม่นานก็มีเด็กอีกคนที่หน้าเหมือนเธอเดินเข้าไปห้าม
และจากการสนทนาของทั้งสามและเสียงจากรอบข้างทำให้เด็กสาวตอบตกลงไป ซึ่งทันทีที่มินนะเห็นแบบนั้น
แววตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อยและจ้องไปยังหน้าจออย่างตั้งใจ ซึ่งสิ่งแรกที่เธอเห็นคือเรกะที่กำลังยืนตากฝนอยู่
มันทำให้ความเป็นแม่ของเธอทำงาน
"ทำไมถึงไปยืนตากฝนแบบนั้นกัน เดี๋ยวก็ป่วยหรอก แล้วไอ้พวกเม้นนี่คิดว่าตัวเองไม่เคยทำรึไงการยืนแอคน่ะ"
หลังจากนั้นโทโดก็ปรากฏตัวขึ้นและเริ่มคุย ซึ่งเธอรับรู้ทันทีว่าสิ่งที่ทั้งสองไม่สิลูกชายเธอกำลังจะทำสิ่งอันตรายมาก
"เรกะนี่ลูกกำลังจะทำอะไร"
เธอพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา แต่ภาพต่อมาทำให้เธอขมวดคิ้วเพราะลูกชายเธอกลายเป็นมนุษย์ยักษ์ไปแล้ว
ถึงแม้คนอื่นจะไม่รู้แต่เธอสัมผัสได้ในร่างนั้นสายตาของเด็กหนุ่มมันเหมือนกับตอนที่เขาอายุ10ขวบ ในงานศพของสามีเธอ
มันสายตาที่มุ่งมั่นและอาจจะเพราะได้เห็นสายตาแบบนั้นเธอถึงได้ไม่สนใจพวกเขา ในขณะที่กำลังตกอยู่ในภวังค์
มนุษย์ยักษ์สีน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นบรรยากาศรอบตัวของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนไปจากเย็นชาและแน่วแน่กลายเป็นอ่อนโยน
ทันทีที่หญิงสาวเห็นแบบนั้นน้ำตาเธอก็ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้เพราะเธอรู้ได้ทันทีว่าลูกชายเธอยังเหมือนเดิม
ใช่ยังเป็นเรกะที่น่ารักของเธอเหมือนเดิมแต่ 'ทำไมกัน ทำไมเรกะถึงได้ทำตัวห่างเหินกับพวกเราแบบนั้นเขากำลังทำอะไรอยู่'
เพราะสิ่งนี้เองทำให้มินนะอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเด็กหนุ่มกำลังทำอะไรลับหลังเธอและมิยูกิ
ปั้ง!!
เสียงการปะทะของทั้งเรกะและโทเรเกียร์ดังขึ้นทำให้หญิงสาวกลับมาสนใจที่หน้าจอ ยิ่งการต่อสู้นำเนินไปนานเท่าไหร่
มันยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเขายังเหมือนเดิมแต่ในขณะที่เรกะเริ่มเสียท่า เธอก็กำหมัดแน่นและลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
แต่เธอก็นั่งลงและมองไปที่จออย่างตั้งใจเพราะสิ่งที่ลูกชายเธอตัดสินใจไปแล้วมันไม่มีทางที่จะตัดใจง่ายๆเด็ดขาด
สุดท้ายแล้วเธอก็ทนไม่ไหวเพราะทันทีที่เรกะกระเด็นออกไปและถูกยิงซ้ำเธอตะโกนออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"เรกะ!!"
เพราะเสียงของเธอทำให้คนที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้ามาและเตือนสติเธอ
"หัวหน้าใจเย็นก่อนค่ะ"
"ใช่ครับเรกะคุงตอนนี้ปลอดภัยดีครับอยู่นะครับ"
"ถูกต้องค่ะตอนนี้เขายังอยู่ในเครื่องอ่านความทรงจำ"
"ใช่ครับแล้วก็ที่ฉายมันเป็นเรื่องในอดีตซึ่งเรกะคุงยังอยู่เพราะแบบนั้นเขาจะไม่เป็นแน่ครับ"
มินนะที่ได้ยินก็นั่งลงที่เดิม พร้อมกับนำมือมากุมขมับคนอื่นๆที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาและออกจากห้องไป
แต่ทันทีที่ภาพต่อมาปรากฏขึ้นมันคือภาพที่เรกะกำลังโดนกระทืบอยู่ พวกเขาที่เห็นแบบนั้นก็เปิดประตูห้องเข้าไปอย่างรวดเร็ว
และสิ่งที่พวกเขาเห็นคือมินนะกำมือแน่นและดวงตาที่แดงก่ำที่ไม่รู้เป็นเพราะโกธรหรือเป็นเพราะที่ร้องไห้เมื่อกี้
กลับไปในจอหลังจากที่กระทืบเรกะจนพอใจโทเรเกียร์ก็หอบหายใจออกมาส่วนเรกะก็นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
"สายตาแบบนั้นน่ะเลิกจ้องมาที่ผมได้แล้ว!!"
โทเรเกียร์ยกเท้าขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้เขาเล็งไปที่หัวของเรกะ และเหยียบลงไปอย่างแรง
มันทำให้คนที่ใจไม่แข็งพอต่างก็ยกมือหรือหันหน้าหนี ทันทีที่เท้าโทเรเกียร์หยุดลงทุกคนกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
อย่างน้อยๆถ้าเหยียบแรงแบบนั้นมันต้องมีสียง ไม่สิในกรณีของพวกเขามันต้องมีฝุ่นพุ่งขึ้นมาและพื้นยุบเลยด้วยซ้ำแต่นี่กลับไม่มีอะไร
ในจอโทเรเกียร์ที่เห็นแบบนั้นก็พยามจะยกเท้าขึ้นแต่มันกลับไม่ขยับเลยสักนิด และภาพก็เปลี่ยนมุมไปที่เรกะกำลังจับเท้าของอีกฝ่ายไว้
เรกะค่อยลุกขึ้นมาและจับโทเรเกียร์เหวี่ยงออกไปชนและไถลไปตามพื้นเป็นทางยาว โทเรเกียร์ลุกขึ้นมาและส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนที่จะ
ปั้ง!!
หมัดของเรกะซัดเข้าที่หน้าเต็มๆ ทำให้โทเรเกียร์ปลิวออดไปและตกลงไปนอนบนพื้นอย่างไม่ไหวติง
"โอ้!!!!!"
"นั่นแหละซัดมันเลย"
"สุดยอดดด"
ทุกคนในหอประชุมต่างก็โห่ร้องออกมาในตอนนี้เรื่องไร้สาระอย่างการรักษาใบหน้าหายไปแล้ว เพราะพวกเขาไม่ได้ด่าเรกะสักหน่อย
คนที่ทำและว่าเรกะเป็นขยะสังคมน่ะมีแต่สปอร์ตแมนและแก๊งสามคนนั้น พวกเขาไม่เกี่ยว
[ในที่สุด!]
[นั่นแหละจัดการมันเลย]
[แค่หมัดเดียวก็นิ่งไปเลย555]
ในเม้นเองก็ไม่ต่างกันเพราะก่อนหน้านี้เรกะเอาแต่ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียว และพอเขาตอบโต้ทุกคนต่างก็โห่ร้องออกมาอย่างยินดี
"นั่นแหละลูกแม่"
ทางมินนะเองก็พูดออกมาด้วยความรู้สึกโล่งอก ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าโทเรกียร์เป็นใครลูกเธอถึงได้เป็นห่วงขนาดนี้
แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครถ้ามันกล้ามาทำร้ายลูกๆของเธอเธอจะไม่ยอมเด็ดขาด
ในจอโทเรเกียร์ที่กำลังนอนราบอยู่กับพื้นก็หัวเราะออกมาอย่างน่าขนลุก
"ฮุฮุๆๆ ฮ่าๆๆๆ"
เรกะเดินเข้าไปและยืนอยู่ด้านหน้าของโทเรเกียร์ทั้งสองจ้องกันทั้งอย่างนั้นไม่พูดอะไร
"คุณเนี่ยถึงจะอยู่ในสภาพนั้นแต่ก็ยังแข็งแกร่งสินะครับ"
"..."
"ผมน่ะนับถือคุณมากครับแล้วก็เกลียดมากด้วย"
"..."
"ทำไมคราวนี้ถึงเงียบล่ะครับ"
"..."
"งั้นผมขอถามแล้วกันครับ"
"..."
"ทำไมยังถึงปกป้องโลกใบนี้อยู่ล่ะครับ"
ทันทีที่โทเรเกียร์ถามออกมาทุกคนก็ขมวดคิ้ว
"ถามอะไรโง่ๆแบบนั้นกัน"
"ใช่ๆถ้าทำลายโลกแล้วจะไปอยู่ที่ไหน"
"นี่พวกนายไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะใช้ชีวิตบนอวกาศได้ก็ได้"
[หืม?? พูดได้น่าสนใจนี่]
[ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็โคตรสุดยอดเลยอะดิ]
[ใช่ ถ้าได้ศึกษาโครงสร้างของพวกเขามันต้องสุดยอดแน่ๆ]
[เฮ้ยๆ นั่นน่ะมนุษย์นะ]
[นายแน่ใจหรอว่าพวกเขาเป็นมนุษย์]
เงียบกริบ เพียงคำถามเดียวสั้นๆกลับทำให้ทุกคนเริ่มคิด แต่ไม่นานก็มีเสียงของเด็กสาวดังขึ้นเรียกสติของทุกคน
"ท่านพี่น่ะเป็นมนุษย์!!!"
ในห้องแห่งหนึ่งหญิงสาวกรือมินนะยิ้มออกมา คนอื่นๆต่างก็มองยังเด็กสาว
"ใช่แล้วเขาคือมนุษย์และผู้ปกป้องโลก!!"
"ใช่แล้วพวกเราจะไม่ให้ใครเอาเขาไปได้"
"เขาปกป้องเราจากสิ่งชั่วร้าย ส่วนเราก็จะปกป้องเขาจากมนุษย์ด้วยกันเอง"
โทโดที่พูดขึ้นเป็นคนสุดท้ายและสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังเขา มิยูกิที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
###จบตอน###
อาจจะอัพช้าบ้างไม่ว่ากันเนาะแบบหายไปสักเดือนไรเงี้ย555
ความคิดเห็น