NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เขาคือฮีโร่ !! (หยุดอัพ)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1|เครื่องอ่านความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 66


    ณ วันที่แสนจะธรรมดาของทุกคน แต่ทว่าความธรรมดานั้นกลับหายไปอย่างรวดเร็วเพราะวันนี้การวิจัยเครื่องอ่านทรงจำก็สำเร็จแล้ว 

     

    เครื่องอ่านความทรงจำคืออะไร?? ก็ตามชื่อเลยมันเป็นเครื่องที่สามารถอ่านความทรงจำของสัตว์และมนุษย์ได้แล้วในปัจจุบัน 

     

    และการเปิดตัวเจ้าเครื่องนี้ทางโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศL(ประเทศสมมุติ)ได้รับการทดลองใช้เครื่องครั้งแรก 

     

    เพราะแบบนั้นที่โรงเรียนผลไม้โรงเรียนชื่อดังของประเทศLต่างมีคนเดินพลุกพล่านเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นนักเรียน 

     

    หรือคนจากภายนอกที่ต่างก็เข้ามาถ่ายทำเพื่อให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงประสิทธิภาพของเครื่องอ่านความทรงจำ 

     

    แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับเหตุการณ์นี้ มีเด็กหนุ่มคนนึงที่กำลังเดินแบบเอื่อยๆและเซไปมาเล็กน้อยเข้าไปในห้องประชุม 

     

    ซึ่งทันทีที่ทุกคนเห็นเด็กหนุ่มพวกเขาก็มองไปยังเด็กหนุ่มอย่างรังเกียจและทำเหมือนกับเขาไม่มีตัวตน แต่เด็กหนุ่มหาได้สนใจไม่ 

     

    เขาเดินเข้าไปในหาที่นั่งหลังสุดของห้องประขุมและหลับลงทันที โดยทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของคนอื่นและเด็กสาวคนหนึ่ง

     

    เธอมองไปยังชายหนุ่มพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น แต่ไม่นานก็เลิกสนใจไปเพราะกิจกรรมที่ทุกคนต่างรอคอยมันได้เริ่มขึ้นแล้ว 

     

    "สวัสดีทุกท่าน" 

     

    ชายหน้าตาดีสวมเสื้อสูทเรียบร้อยกำลังยืนถือไมค์อยู่บนเวที เขาเริ่มเล่าประวัติและความยากลำบากของโครงการเครื่องอ่านความทรงจำและประโยชน์ของมัน

     

    "และแล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึง" 

     

    ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างตื่นเต้น และแพนมือไปยังเครื่องประหลาดที่คล้ายกับแคปซูลขนาดสามเมตรทุกๆคนก็มองไปยังเครื่องนั้นตามมือของชายหนุ่ม

     

    “มันสำเร็จแล้วครับ ผมรับรองไม่สิประเทศGรับรองเลยว่ามันจะไม่มีอันตรายต่อตัวผู้ใช้แน่นอน เอาล่ะเราเสียเวลามามากพอแล้ว งั้นก็มาเริ่มกันเลย”


    เขาคนนั้นพูดออกมาด้วยความภูมิใจและอารมณ์ดีมากๆ

     

    [ในที่สุด]

     

    [เมื่อกี้ฉันเกือบหลับ]

     

    [555 จริงนึกว่ากำลังเรียนประวัติศาสตร์อยู่เลย]

     

    [พวกนายมันไม่เข้าใจความยากลำบาก]

     

    [เม้นบนแล้วนายเข้าใจ??]

     

    [ไม่อะ]

     

    [แล้วจะเม้นแบบนั้นเพื่อ]

     

    [ว่าแต่โปรแกรมแปลภาษาอย่างเจ๋ง]

     

    [ใช่ แล้วก็อีกอย่างถ้าไม่มีระบบเสียตังค์เพื่อเม้นล่ะก็คงวุ่นวายน่าดู]

     

    [นั่นสิคนตั้งกี่สิบล้านคนที่ดูอยู่]

     

    [คนแรกมาแล้วๆ]

     

    ทุกคนกำลังจับจ้องไปยังหน้าจอที่กำลังแสดงควรมทรงจำของชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีร่างกายแข็งแรงสูงหน้าตาดีมากด้วย

     

    ในจอเป็นความทรงจำที่เขากำลังเล่นกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล ปิงปอง บาสเก็ตบอล ว่ายน้ำ และอื่นๆ

     

    เรียกได้ว่าเป้นสปอร์ตแมนก็ไม่ผิดนัก!! พวกอาจารย์ที่เห็นก็พยักหน้าอย่างถูกใจ ส่วนคนอื่นๆแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม

     

    กลุ่มที่กำลังกรี๊ดกร๊าด กลุ่มที่กำลังมองด้วยความอิจฉา กลุ่มที่มองด้วยความชื่นชม สุดท้ายกลุ่มไม่รู้สึกอะไรมากนัก

     

    “สุดยอดเลยสมกับเป็นรุ่นพี่”

     

    “ชิไอ้หน้าหล่อนั่น”

     

    “อร๊ายยย รุ่นพี่เท่มากค่ะ”

     

    “เฮ้ย!! หนวกหู”

     

    [โอ้เจ้าหนุ่มนี่ต้องเป็นนักกีฬาที่ดีได้แน่ๆ]

     

    [สุดยอดจนน่าอิจฉาเลยแฮะ]

     

    [สามีหนู!!!]

     

    [เม้นบนแอบแม่เติมเรอะ]

     

    [เขาเป็นสามีฉันย่ะ]

     

    [เอ้าโดนเมิน]

     

    ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างสนุกปากคนที่สองก็ได้เดินขึ้นไปแล้ว เธอไม่ใช่ใครที่ไหนเธอคือคนที่กล่าวไปก่อนหน้า

     

    เธอเป็นเด็กกสาวที่ทั้งน่ารักและสง่างามในเวลาเดียวกัน เส้นผมสีดำพลิ้วไหวพร้อมกับชุดนักเรียนสีขาวที่ทำให้เด็กสาวยิ่งน่าหลงไหลขึ้นไปอีก 

     

     

    “อ๊ะ คนที่สองเป็นคุณมิยูกิล่ะ”

     

    “นับวันยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ”

     

    “จริง”

     

    [คราวนี้เป็นสาวน้อยน่ารักล่ะ]

     

    [เป็นแฟนกับผมนะครับ]

     

    [ใจเย็นไอ้สองเดี๋ยวก็โดนจับหรอกเธอพึ่ง15นะ]


    [เด็กคนนี้น่ารักจัง]

     

    บนจอภาพแสดงถึงความสามารถในการเรียนที่โดดเด่นของเธอ ส่วนเรื่องกีฬาอยู่ในระดับดีไม่ได้ว้าวอะไรมาก

     

    และในขณะนั้นเองภาพก็ฉายไปยังบ้านหลังหนึ่งมิยูกิกำลังยืนเคาะประตูห้องๆหนึ่งแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลย

     

    เด็กสาวตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป และสิ่งที่เธอเห็นคือห้องที่ว่างเปล่า ‘ท่านพี่’ เด็กสาวคิดในใจพลางทำหน้าเศร้า

     

    ในขณะนั้นเองก็ได้มีเสียงเดินดังขึ้นและปรากฏชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่เดินไม่ค่อยมั่นคงเขามีนัยตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์


     

     

    ทันทีที่ทุกคนในห้องประชุมเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว บางคนด่าทอออกมาอย่างไม่พอใจจนคนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็สงสัย

     

    ว่าไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใคร ทำไมคนอื่นถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนี้ ทั้งที่หน้าตาและรูปร่างก็ออกจะดีแท้ๆ

     

    “ไอ้บ้านั่นทำให้คุณมิยูกิไม่สบายใจ”

     

    “ชิ คุณมิยูกิจะใจดีเกินไปแล้วนะ”

     

    “น่าสงสารจัง”

     

    [อะไรๆ เด็กคนนั้นมีปัญหาอะไรงั้นหรอ]

     

    [นั่นสิดูเหมือนเขาจะทำอะไรที่ร้ายแรงไว้นะ]

     

    เด็กสาวในภาพมองไปยังเด็กหนุ่มอย่างไม่พอใจเธอจ้องไปยังเด็กหนุ่มและถามขึ้น

     

    “ไปไหนมาคะท่านพี่”

     

    ชายหนุ่มเหมือนกับไม่ได้ยินเสียงของเด็กสาวเขาเดินผ่านเธอไปและยื่นมือไปเปิดประตูห้องแต่เขาก็ต้องชะงักเพราะเสียงของเด็กสาว

     

    “หนูน่ะ คิดมาตลอดว่าที่ท่านเปลี่ยนไปเพราะเศร้าแต่การกระทำของท่านพี่ในหกปีที่ผ่านมามัน…”

     

    เด็กสาวกัดปากแน่นมองไปยังเด็กหนุ่ม

     

    “ช่วยบอกทีได้มั้ยคะว่าสิ่งที่ท่านพี่ทำลงไปมันไม่ใช่ความตั้งใจ ไม่สิถึงแม้จะเป็นแบบนั้นช่วยเลิกและกลับมาเป็นคนเดิมได้มั้ยคะ”

     

    หลังจากที่เด็กสาวพูดจบเด็กหนุ่มทำเพียงเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง ทำให้เด็กสาวน้ำตาไหลออกมาพร้อมกับตะโกนเสียงดัง

     

    “คุณน่ะไม่ใช่ท่านพี่ของหนูแล้ว จะทำอะไรก็เชิญทำไปเลย!! หนูน่ะจะไม่สนใจคุณแล้ว!!”

     

    หลังจากที่เด็กสาวพูดจบจอภาพก็กลายเป็นสีดำที่แสดงถึงการฉายความทรงจำได้จบลงแล้วนั่นเอง

     

    ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนในหอประชุม หรือ คนที่ดูอยู่ต่างก็กำลังสาปแช่งเด็กหนุ่มอยู่ในใจไม่สิบางคนตะโกนออกมาด้วย

     

    “ไอ้บ้าที่มีดีแค่หน้าตานั่นมันน่านักนะ”

     

    “บังอาจทำให้นางฟ้าของฉันเสียน้ำตาแกควรโดนลงโทษ!!”

     

    “แต่ว่าดีแล้วในที่สุดคุณมิยูกิก็ตัดพี่ตัดน้องกับหมอนั่นแล้ว”

     

    “จริง!!”

     

    [ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เด็กคนนั้นน่าสงสารจัง]

     

    [ไอ้หนุ่มนั่นจะเกินไปแล้วนะ]

     

    [ใช่ แล้วก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำด้วย]

     

    แต่ทุกคนก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากด่าเด็กหนุ่ม ซึ่งเด็กสาวที่พึ่งออกมาจากเครื่องก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

     

    เพราะคนพวกนั้นกำลังว่าพี่ชายเธออยู่แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรมากและกลับไปนั่งที่และถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น

     

    หลังจากที่ได้ฟังหน้าของเด็กสาวก็มืดลงและไม่ทำอะไรอีกเธอมองไปยังเด็กหนุ่มที่กำหลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว

     

    ‘ตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่ได้สนใจเขาอีกเลยเขาจะ… ไม่พอเลยมิยูกิเขาไม่ใช่พี่ของเธออีกแล้ว’ 

     

    หลังจากนั้นคนอื่นๆก็เริ่มเดินขึ้นไปโชว์ตามที่ทางอาจารย์และคนอื่นๆจัดทำรายชื่อไว้

     

    จนในที่สุดการถ่ายทอดความทรงจำของคนสุดท้ายก็หมดลง ทุกคนต่างก็คุยเรื่องของเด็กที่ขึ้นไป

     

    หรือพูดถึงความสำเร็จของเครื่องอ่านความทรงจำ แต่ในขณะนั้นเองชายคนเดิมก็เดินขึ้นไปบนเวที

     

    “ทุกท่านเป็นยังไงกันบ้างครับ สิ่งที่ทุกท่านเห็นนั้นคือความสำเร็จของพวกเรา”

     

    แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูดต่อก็คนเดินเข้ามาและกระซิบที่ข้างหู ชายหนุ่มก็พยักหน้าเบาๆเป็นเชิงรับรู้

     

    ทำให้คนที่ดูอยู่ต่างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่รอช้าบอกสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ในทันที

     

    “เอาล่ะทุกท่านพอดีว่าเครื่องอ่านความทรงจำของเราสามารถฉายได้อีกนิดหน่อยถือว่าเป็นกรณีพิเศษก็แล้วกันมีใครอยากโชว์อะไรรึเปล่า”

     

    มีเพียงความเงียบเป็นเสียงตอบรับ แต่ทันใดนั้นก็มีเด็กกลุ่มหนึ่งยกมือขึ้น หลังจากที่ได้รับอณุญาติพวกเขาก็แบกเด็กหนุ่มคนนึงขึ้นไปบนเวที

     

    มิยูกิที่เห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปถามพวกเขาด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

     

    “พวกคุณกำลังทำอะไรกันคะ”

     

    “พวกเราก็กำลังจะทำให้คนอื่นๆได้รู้ถึงสิ่งที่หมอนี่ทำไงครับ”

     

    หลังจากเด็กกลุ่มพูดจบมิยูกิก็ขมวดคิ้วแน่นและถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว

     

    “พวกคุณรู้ใช่มั้ยคะว่ากำลังทำอะไร”

     

    พวกเขาขนลุกซู่และรีบพูดข้อแก้ต่างออกไปทันที 

     

    “คุณมิยูกิไม่อยากรู้หรอครับว่าหมอ- พี่ชายของคุณทำอะไรบ้าง”

     

    เด็กหนุ่มพูดออกมาและโดนสายตาของมิยูกิจ้องอย่างน่ากลัวเขาจึงเปลี่ยนศัพท์เรียกพี่ชายของเธอ เด็กสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มลังเล

     

    [โอ้เจ้าหนุ่มนั่นนี่]

     

    [เดี๋ยวสิหลับหรือตายนั่น]

     

    [555 นั่นสิโดนหิ้วและเสียงดังขนาดนั้นยังหลับอยู่อีก]

     

    “คุณมิยูกิดูสักหน่อยก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรอครับ”

     

    “ใช่ค่ะ ผู้ชายคนนั้นน่ะมะนน้ารังเกียจกว่าที่คุณคิดนะคะ”

     

    มิยูกิก้มหน้าลง ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เธอ และทันทีที่มิยูกิเงยหน้าขึ้นเธอก็มองกลุ่มเด็กหนุ่มที่แบกพี่ชายเธออยู่

     

    “ก็ได้ค่ะ”

     

    ทุกต่างก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี พวกเขาไม่รอช้าจับเด็กหนุ่มยัดเข้าเครื่องอ่านความทรงจำทันที 

     

    ซึ่งในขณะนั้นเด็กหนุ่มที่พึ่งได้รับฉายาสปอร์ตแมนก็ถือไมค์และเดินขึ้นไปบนเวที 

     

    “สวัสดีครับทุกคน ก่อนอื่นเลยชายคนนี้ชื่อว่าชิบะ เรกะ ทุกคนคงเห็นแล้วใช่มั้ยครับว่าพวกเราปฏิบัติต่อเขายังไง”

     

    ทันทีที่เด็กหนุ่มพูดแบบนั้นคนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น 

     

    “เพราะเขาคนนั้นชิบะ เรกะ เป็นเด็กที่โดดเรียนบ่อยมากๆ และเขายังแอบเข้าไปในห้องน้ำหญิงของโรงเรียนเราด้วย"


    เมื่อได้ฟังแบบนั้นผู้หญิงทุกคนก็มองไปยังเรกะอย่างรังเกียจ


    "ไม่ใช่แค่นั้นเขายังขโมยของจากโรงเรียนและเด็กนักเรียนคนอื่นๆด้วย เป็นไอ้โรคจิตและน่ารังเกียจขนาดแท้เลย”

     

    ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็ขมวดคิ้ว และเริ่มถามต่างๆนานา บางคนที่เชื่อก็เริ่มก่นด่าเรกะ

     

    [อะไรกันน่ารังเกียจจริงๆ] 


    [ถึงจะหน้าตาดีแต่นิสัยแบบนี้ก็ไม่เอานะ]


    [ทำไมยังไม่ไล่ออกไปจากโรงเรียนกัน]


    [นั่นสิ] 


    "พูดจาไร้สาระอะไรกันคะ" 


    มิยูกิลุกจากที่นั่งและมองไปยังสปอร์ตแมนด้วยแววตาที่ไม่พอใจสุดๆ ชายคนนั้นก็มองไปยังเธอ 


    "คุณมิยูกิคุณก็รู้นี่ว่า-" 


    "ไหนคะหลักฐาน" 

     

    เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา 


    "ถึงแม้จะไม่มีแต่คุณก็รู้นี่ครับว่าพี่ชายคุณเป็นยังไง แล้วก็หลังฐานน่ะแค่ดูหลังจากนี้ก็ได้แล้วนี่ครับ"

     

    มิยูกิไม่พูดอะไรและนั่งลงที่เดิมส่วน้้ด็กหนุ่มคนนั้ยหลังจากที่พูดจบเขาก็เดินลงไปจากเวที ‘หึตอนนี้จะทำอะไรก็ทำไปเถอะเพราะถ้าพี่เธอถูกไล่ออกจะมีแค่ฉันที่ข่วยได้’

     

    ชายหนุ่มมองไปยังมิยูกิด้วยสายตาหื่นกาม แต่ก็กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครสังเกตุเห็น


    ที่เขามั่นใจแบบนั้นก็เพราะถ้าเรกะถูกไล่ออกเพราะเหตุผลพวกนั้นเรกะจะไม่มีโรงเรียนหรือที่ไหนที่จะรับเขาเข้าเรียนหรือรับเข้าทำงาน


    คงไม่มีใครอยากจะรับคนน่ารังเกียจและโรคจิตแบบนั้นแน่ๆ

     

    ในจอเด็กหนุ่มกำลังยืนอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งที่มีเพียงเขาคนเดียว เม็ดฝนที่หล่นลงมาจากฟ้ากระทบกับใบหน้าและเส้นผมของเขา 


    เรกะเงยหน้าขึ้นมองฟ้าทำให้ผมที่ปิดบังใบหน้าครึ่งบนหายไปและปรากฏใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับตาและซึมซับความเย็นจากสายฝน

     

    “อะไรล่ะนั่น”

     

    “คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกMVรึไง”

     

    [เฮ้อเสียดายความหล่อของเขาจัง]

     

    [นั่นสิๆ]

     

    [ฮึ พวกหน้าตาดีน่ะไว้ใจไม่หรอกสักคน]

     

    [เม้นบนไม่ใช่ว่านายอิจฉาหรอกนะ]

     

    ในขณะที่เรกะกำลังยืนอยู่กลางสายฝน ก็มีชายคนนึงเดินเข้ามาจากด้านหลังเขาแต่เพราะมีเงาบังไว้ครึ่งตัวจึงทำให้ไม่รู้ว่าเป็นใคร

     

    “นายจะไปจริงๆงั้นหรอ”


    "..."


    เรกะยังคงยืนอยู่เหมือนเดิม ทำให้ชายคนนั้นที่เห็นเรกะไม่ตอบก็หงุดหงิด และพูดขึ้นมาอีกครั้ง

     

    “มันต้องมีวิธีอื่นสิ!!”

     

    ชายคนนั้นตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด เศร้าใจ ทำอะไรไม่ได้ เป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด


    เรกะลืมตาขึ้นมาและมองไปยังชายที่อยู่ในเงา เขายิ้มออกมาซึ่งมันทำให้สาวๆหลายๆคนนิ่งค้างเพราะตอนนี้เค้าหล่อแบบวัวตายควายล้ม

     

    แต่พวกเขาก็กลับมาอย่างรวดเร็วเพราะนึกถึงสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนี้ทำหลายคนๆถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย ส่วนมิยูกิกำลังดูอย่างตั้งใจ

     

    “โทโดมันไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ”

     

    ชายหนุ่มที่อยู่ในเงาพุ่งพรวดเข้ามาและผลักเรกะไปที่กำแพงได้อย่างง่ายดาย ปรากฏเด็กหนุ่มผมแดงที่โคตรจะเด่น 


     

     

    “ฉัน ฉันช่วยอะไรไม่ได้เลยหรอ”

     

    โทโดใช้มือสองข้างยันไปที่กำแพงเพื่อไม่ให้เรกะหนีไปไหนได้ เขามองไปยังเด็กหนุ่มด้วยสายที่เป็นห่วงอย่างจริงใจ ส่วนทางเรกะทำได้แค่ยิ้มตอบซึ่ง 

     

    พรวด ทันทีที่เห็นแบบนั้นจู่ๆก็มีเด็กสาวคนนึงเลือดกำเดาพุ่งพรวดออกมา เพราะสิ่งที่เธอเห็นอยู่ในจอตอนนี้คือหนุ่มงานดีสองคนกำลัง… พรวด

     

    “เฮ้ย!! เธอเป็นอะไรไปน่ะ”

     

    เลือดสีแดงสดไหลออกจากจมูกของเด็กสาวอย่างหยุดไม่อยู่ ส่วนคนอื่นๆก็คิ้วกระตุกและคิดเป็นเสียงเดียวกัน ‘พวกตรูกำลังดูไรนิ’

     

    ณ มุมๆหนึ่งของเวทีมีชายหนุ่มที่มีหน้าตาคล้ายคนในจอทุกประการ ไม่สิมันคือเขาเลยต่างหาก ‘ตอนไหนกัน’

     

    เด็กหนุ่มเริ่มค้นความทรงจำในหัวแต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็คิดไม่ออกจริงๆ ซึ่งในขณะนั้นเองก็เริ่มมีคนที่จำเขาได้และพูดขึ้น

     

    “เดี๋ยวสิโทโดนี่หัวหน้าฝ่ายวินัยไม่ใช่เรอะ”

     

    ทุกคนต่างมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังยืนมองตัวเองด้วยสีหน้าแปลกๆ ซึ่งทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงสายตาของทุกคน

     

    จู่ๆที่ตัวของเขาก็ปล่อยออร่าอันน่ากลัวออกมา ทำให้คนอื่นรีบหันหนี แต่ทว่า ‘เฮ้ยๆ ไอ้สายตาที่บอกว่าฉันเป็นแมวขโมยนั่นมันอะไรกัน’

     

    คนที่มองโทโดแบบนั้นไม่ใช่ใครอื่น มิยูกิคนดีคนเดิมนั่นเอง แต่เธอก็มองไม่นานเพราะอยากรู้เรื่องชีวิตของพี่ชาย

     

    กลับมาในจอโทโดลดแขนลงและก้มหน้า เรกะที่เห็นแบบนั้นก็เดินออกไปทันที แต่ก่อนที่จะเดินลับตาไปโทโดก็ตะโกนขึ้น

     

    “นายต้องกลับมานะ!! กลับมาเพราะฉันน่ะไม่ดูแลน้องสาวของนายหรอกนะ”

     

    เรกะโบกมืออย่างง่ายๆและเดินไปจนโทโดหายไปจากจอและทันใดนั้นเองจู่ๆรอบตัวของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนไป

     

    จากตรอกกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยซากตึกที่บ้างก็แหว่ง ที่บ้างก็ถล่มลงมา และที่น่าแปลกคือพวกมันกำลังซ่อมตัวเอง

     

    ใช่ดูไม่ผิดมันกำลังซ่อมแซมด้วยตัวเองโดยการที่มีเศษตึกลอยขึ้นกลับไปที่้เดิมที่มันจากมา และ ที่แปลกอีกอย่างคือในเมืองเงียบมากจนน่าใจหาย 

     

    “อะไรน่ะทำไมอยู่ดีๆรอบๆถึงเปลี่ยนไป”

     

    [ให้ตายเถอะบอกฉันทีว่าฉันกำลังตาฝาดอยู่เมืองกำลังซ่อมตัวเอง]

     

    [ไม่ใช่แค่ฉันสินะที่เห็นน่ะ]

     

    ในขณะที่ทุกคนกำลังแตกตื่น เรกะก็ทำให้ทุกคนแข็งข้างเพราะ

     

    “เรกะ”

     

    เด็กหนุ่มพูดชื่อตัวเองออกมาอย่างแผ่วเบาแต่ทุกคนก็ได้ยินทันใดนั้นร่างของเด็กหนุ่มกลายเป็นแสงสีขาวและเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

     

    จนถึงระดับนึงแสงก็ค่อยๆจางลงจนหายไปและรากฏมนุษย์ยักษ์ที่มีเขาสามเขาอยู่บนหัว ทั้งตัวเป็นสีเเดงและมีลวดลายสีเงินกับดำเป็นเส้นลากไปตามตัว

     

    ทำให้ดูสวยงามและเท่ในเวลาเดียวกัน ตรงอกมีปุ่มวงกลมสีฟ้าส่องสว่าง พร้อมกับสิ่งที่เหมือนเกาะอกสีทองและเงินคลุมไปถึงไหล่

     

    ใต้แขนมีแท่งสีทองที่เหมือนกับมีดยื่นยาวไปถึงข้อศอก และดวงตาสีทองที่กำลังเรืองแสงเปร่งประกาย 


     

     

    ###จบตอน###

     

    ฮุฮุ เรื่องนี้ผมแต่งตามใจนะถ้าข้อมูลหรือสเกลพลังไม่ตรงก็ไม่ต้องแปลกใจ แค่แปลงร่างเป็นเรกะแบบเฉยๆนี่ก็ไม่ใช่ละ555 ความชอบส่วนตัวล้วนๆ

     

    เอาเป็นว่าสุดท้ายนี้อ่านเพื่อความบัญเทิงเท่านั้นนะครับ อย่าไปซีเรียสเพราะเผลอๆอาจจะมีเลเจนด์หรือโนอาโผล่มาก็ได้ใครจะรู้

     

    งั้นก็ขอให้อ่านอย่างสนุกนะครับ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×