คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1|เครื่องอ่านความทรงจำ
ณ วันที่แสนจะธรรมดาของทุกคน แต่ทว่าความธรรมดานั้นกลับหายไปอย่างรวดเร็วเพราะวันนี้การวิจัยเครื่องอ่านทรงจำก็สำเร็จแล้ว
เครื่องอ่านความทรงจำคืออะไร?? ก็ตามชื่อเลยมันเป็นเครื่องที่สามารถอ่านความทรงจำของสัตว์และมนุษย์ได้แล้วในปัจจุบัน
และการเปิดตัวเจ้าเครื่องนี้ทางโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศL(ประเทศสมมุติ)ได้รับการทดลองใช้เครื่องครั้งแรก
เพราะแบบนั้นที่โรงเรียนผลไม้โรงเรียนชื่อดังของประเทศLต่างมีคนเดินพลุกพล่านเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นนักเรียน
หรือคนจากภายนอกที่ต่างก็เข้ามาถ่ายทำเพื่อให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงประสิทธิภาพของเครื่องอ่านความทรงจำ
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับเหตุการณ์นี้ มีเด็กหนุ่มคนนึงที่กำลังเดินแบบเอื่อยๆและเซไปมาเล็กน้อยเข้าไปในห้องประชุม
ซึ่งทันทีที่ทุกคนเห็นเด็กหนุ่มพวกเขาก็มองไปยังเด็กหนุ่มอย่างรังเกียจและทำเหมือนกับเขาไม่มีตัวตน แต่เด็กหนุ่มหาได้สนใจไม่
เขาเดินเข้าไปในหาที่นั่งหลังสุดของห้องประขุมและหลับลงทันที โดยทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของคนอื่นและเด็กสาวคนหนึ่ง
เธอมองไปยังชายหนุ่มพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น แต่ไม่นานก็เลิกสนใจไปเพราะกิจกรรมที่ทุกคนต่างรอคอยมันได้เริ่มขึ้นแล้ว
"สวัสดีทุกท่าน"
ชายหน้าตาดีสวมเสื้อสูทเรียบร้อยกำลังยืนถือไมค์อยู่บนเวที เขาเริ่มเล่าประวัติและความยากลำบากของโครงการเครื่องอ่านความทรงจำและประโยชน์ของมัน
"และแล้วในที่สุดวันนี้ก็มาถึง"
ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างตื่นเต้น และแพนมือไปยังเครื่องประหลาดที่คล้ายกับแคปซูลขนาดสามเมตรทุกๆคนก็มองไปยังเครื่องนั้นตามมือของชายหนุ่ม
“มันสำเร็จแล้วครับ ผมรับรองไม่สิประเทศGรับรองเลยว่ามันจะไม่มีอันตรายต่อตัวผู้ใช้แน่นอน เอาล่ะเราเสียเวลามามากพอแล้ว งั้นก็มาเริ่มกันเลย”
เขาคนนั้นพูดออกมาด้วยความภูมิใจและอารมณ์ดีมากๆ
[ในที่สุด]
[เมื่อกี้ฉันเกือบหลับ]
[555 จริงนึกว่ากำลังเรียนประวัติศาสตร์อยู่เลย]
[พวกนายมันไม่เข้าใจความยากลำบาก]
[เม้นบนแล้วนายเข้าใจ??]
[ไม่อะ]
[แล้วจะเม้นแบบนั้นเพื่อ]
[ว่าแต่โปรแกรมแปลภาษาอย่างเจ๋ง]
[ใช่ แล้วก็อีกอย่างถ้าไม่มีระบบเสียตังค์เพื่อเม้นล่ะก็คงวุ่นวายน่าดู]
[นั่นสิคนตั้งกี่สิบล้านคนที่ดูอยู่]
[คนแรกมาแล้วๆ]
ทุกคนกำลังจับจ้องไปยังหน้าจอที่กำลังแสดงควรมทรงจำของชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีร่างกายแข็งแรงสูงหน้าตาดีมากด้วย
ในจอเป็นความทรงจำที่เขากำลังเล่นกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล ปิงปอง บาสเก็ตบอล ว่ายน้ำ และอื่นๆ
เรียกได้ว่าเป้นสปอร์ตแมนก็ไม่ผิดนัก!! พวกอาจารย์ที่เห็นก็พยักหน้าอย่างถูกใจ ส่วนคนอื่นๆแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม
กลุ่มที่กำลังกรี๊ดกร๊าด กลุ่มที่กำลังมองด้วยความอิจฉา กลุ่มที่มองด้วยความชื่นชม สุดท้ายกลุ่มไม่รู้สึกอะไรมากนัก
“สุดยอดเลยสมกับเป็นรุ่นพี่”
“ชิไอ้หน้าหล่อนั่น”
“อร๊ายยย รุ่นพี่เท่มากค่ะ”
“เฮ้ย!! หนวกหู”
[โอ้เจ้าหนุ่มนี่ต้องเป็นนักกีฬาที่ดีได้แน่ๆ]
[สุดยอดจนน่าอิจฉาเลยแฮะ]
[สามีหนู!!!]
[เม้นบนแอบแม่เติมเรอะ]
[เขาเป็นสามีฉันย่ะ]
[เอ้าโดนเมิน]
ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างสนุกปากคนที่สองก็ได้เดินขึ้นไปแล้ว เธอไม่ใช่ใครที่ไหนเธอคือคนที่กล่าวไปก่อนหน้า
เธอเป็นเด็กกสาวที่ทั้งน่ารักและสง่างามในเวลาเดียวกัน เส้นผมสีดำพลิ้วไหวพร้อมกับชุดนักเรียนสีขาวที่ทำให้เด็กสาวยิ่งน่าหลงไหลขึ้นไปอีก
“อ๊ะ คนที่สองเป็นคุณมิยูกิล่ะ”
“นับวันยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ”
“จริง”
[คราวนี้เป็นสาวน้อยน่ารักล่ะ]
[เป็นแฟนกับผมนะครับ]
[ใจเย็นไอ้สองเดี๋ยวก็โดนจับหรอกเธอพึ่ง15นะ]
[เด็กคนนี้น่ารักจัง]
บนจอภาพแสดงถึงความสามารถในการเรียนที่โดดเด่นของเธอ ส่วนเรื่องกีฬาอยู่ในระดับดีไม่ได้ว้าวอะไรมาก
และในขณะนั้นเองภาพก็ฉายไปยังบ้านหลังหนึ่งมิยูกิกำลังยืนเคาะประตูห้องๆหนึ่งแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลย
เด็กสาวตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป และสิ่งที่เธอเห็นคือห้องที่ว่างเปล่า ‘ท่านพี่’ เด็กสาวคิดในใจพลางทำหน้าเศร้า
ในขณะนั้นเองก็ได้มีเสียงเดินดังขึ้นและปรากฏชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่เดินไม่ค่อยมั่นคงเขามีนัยตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์
ทันทีที่ทุกคนในห้องประชุมเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว บางคนด่าทอออกมาอย่างไม่พอใจจนคนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็สงสัย
ว่าไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใคร ทำไมคนอื่นถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนี้ ทั้งที่หน้าตาและรูปร่างก็ออกจะดีแท้ๆ
“ไอ้บ้านั่นทำให้คุณมิยูกิไม่สบายใจ”
“ชิ คุณมิยูกิจะใจดีเกินไปแล้วนะ”
“น่าสงสารจัง”
[อะไรๆ เด็กคนนั้นมีปัญหาอะไรงั้นหรอ]
[นั่นสิดูเหมือนเขาจะทำอะไรที่ร้ายแรงไว้นะ]
เด็กสาวในภาพมองไปยังเด็กหนุ่มอย่างไม่พอใจเธอจ้องไปยังเด็กหนุ่มและถามขึ้น
“ไปไหนมาคะท่านพี่”
ชายหนุ่มเหมือนกับไม่ได้ยินเสียงของเด็กสาวเขาเดินผ่านเธอไปและยื่นมือไปเปิดประตูห้องแต่เขาก็ต้องชะงักเพราะเสียงของเด็กสาว
“หนูน่ะ คิดมาตลอดว่าที่ท่านเปลี่ยนไปเพราะเศร้าแต่การกระทำของท่านพี่ในหกปีที่ผ่านมามัน…”
เด็กสาวกัดปากแน่นมองไปยังเด็กหนุ่ม
“ช่วยบอกทีได้มั้ยคะว่าสิ่งที่ท่านพี่ทำลงไปมันไม่ใช่ความตั้งใจ ไม่สิถึงแม้จะเป็นแบบนั้นช่วยเลิกและกลับมาเป็นคนเดิมได้มั้ยคะ”
หลังจากที่เด็กสาวพูดจบเด็กหนุ่มทำเพียงเปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง ทำให้เด็กสาวน้ำตาไหลออกมาพร้อมกับตะโกนเสียงดัง
“คุณน่ะไม่ใช่ท่านพี่ของหนูแล้ว จะทำอะไรก็เชิญทำไปเลย!! หนูน่ะจะไม่สนใจคุณแล้ว!!”
หลังจากที่เด็กสาวพูดจบจอภาพก็กลายเป็นสีดำที่แสดงถึงการฉายความทรงจำได้จบลงแล้วนั่นเอง
ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนในหอประชุม หรือ คนที่ดูอยู่ต่างก็กำลังสาปแช่งเด็กหนุ่มอยู่ในใจไม่สิบางคนตะโกนออกมาด้วย
“ไอ้บ้าที่มีดีแค่หน้าตานั่นมันน่านักนะ”
“บังอาจทำให้นางฟ้าของฉันเสียน้ำตาแกควรโดนลงโทษ!!”
“แต่ว่าดีแล้วในที่สุดคุณมิยูกิก็ตัดพี่ตัดน้องกับหมอนั่นแล้ว”
“จริง!!”
[ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เด็กคนนั้นน่าสงสารจัง]
[ไอ้หนุ่มนั่นจะเกินไปแล้วนะ]
[ใช่ แล้วก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำด้วย]
แต่ทุกคนก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากด่าเด็กหนุ่ม ซึ่งเด็กสาวที่พึ่งออกมาจากเครื่องก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
เพราะคนพวกนั้นกำลังว่าพี่ชายเธออยู่แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรมากและกลับไปนั่งที่และถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากที่ได้ฟังหน้าของเด็กสาวก็มืดลงและไม่ทำอะไรอีกเธอมองไปยังเด็กหนุ่มที่กำหลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว
‘ตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่ได้สนใจเขาอีกเลยเขาจะ… ไม่พอเลยมิยูกิเขาไม่ใช่พี่ของเธออีกแล้ว’
หลังจากนั้นคนอื่นๆก็เริ่มเดินขึ้นไปโชว์ตามที่ทางอาจารย์และคนอื่นๆจัดทำรายชื่อไว้
จนในที่สุดการถ่ายทอดความทรงจำของคนสุดท้ายก็หมดลง ทุกคนต่างก็คุยเรื่องของเด็กที่ขึ้นไป
หรือพูดถึงความสำเร็จของเครื่องอ่านความทรงจำ แต่ในขณะนั้นเองชายคนเดิมก็เดินขึ้นไปบนเวที
“ทุกท่านเป็นยังไงกันบ้างครับ สิ่งที่ทุกท่านเห็นนั้นคือความสำเร็จของพวกเรา”
แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูดต่อก็คนเดินเข้ามาและกระซิบที่ข้างหู ชายหนุ่มก็พยักหน้าเบาๆเป็นเชิงรับรู้
ทำให้คนที่ดูอยู่ต่างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่รอช้าบอกสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ในทันที
“เอาล่ะทุกท่านพอดีว่าเครื่องอ่านความทรงจำของเราสามารถฉายได้อีกนิดหน่อยถือว่าเป็นกรณีพิเศษก็แล้วกันมีใครอยากโชว์อะไรรึเปล่า”
มีเพียงความเงียบเป็นเสียงตอบรับ แต่ทันใดนั้นก็มีเด็กกลุ่มหนึ่งยกมือขึ้น หลังจากที่ได้รับอณุญาติพวกเขาก็แบกเด็กหนุ่มคนนึงขึ้นไปบนเวที
มิยูกิที่เห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปถามพวกเขาด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“พวกคุณกำลังทำอะไรกันคะ”
“พวกเราก็กำลังจะทำให้คนอื่นๆได้รู้ถึงสิ่งที่หมอนี่ทำไงครับ”
หลังจากเด็กกลุ่มพูดจบมิยูกิก็ขมวดคิ้วแน่นและถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว
“พวกคุณรู้ใช่มั้ยคะว่ากำลังทำอะไร”
พวกเขาขนลุกซู่และรีบพูดข้อแก้ต่างออกไปทันที
“คุณมิยูกิไม่อยากรู้หรอครับว่าหมอ- พี่ชายของคุณทำอะไรบ้าง”
เด็กหนุ่มพูดออกมาและโดนสายตาของมิยูกิจ้องอย่างน่ากลัวเขาจึงเปลี่ยนศัพท์เรียกพี่ชายของเธอ เด็กสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มลังเล
[โอ้เจ้าหนุ่มนั่นนี่]
[เดี๋ยวสิหลับหรือตายนั่น]
[555 นั่นสิโดนหิ้วและเสียงดังขนาดนั้นยังหลับอยู่อีก]
“คุณมิยูกิดูสักหน่อยก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรอครับ”
“ใช่ค่ะ ผู้ชายคนนั้นน่ะมะนน้ารังเกียจกว่าที่คุณคิดนะคะ”
มิยูกิก้มหน้าลง ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เธอ และทันทีที่มิยูกิเงยหน้าขึ้นเธอก็มองกลุ่มเด็กหนุ่มที่แบกพี่ชายเธออยู่
“ก็ได้ค่ะ”
ทุกต่างก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี พวกเขาไม่รอช้าจับเด็กหนุ่มยัดเข้าเครื่องอ่านความทรงจำทันที
ซึ่งในขณะนั้นเด็กหนุ่มที่พึ่งได้รับฉายาสปอร์ตแมนก็ถือไมค์และเดินขึ้นไปบนเวที
“สวัสดีครับทุกคน ก่อนอื่นเลยชายคนนี้ชื่อว่าชิบะ เรกะ ทุกคนคงเห็นแล้วใช่มั้ยครับว่าพวกเราปฏิบัติต่อเขายังไง”
ทันทีที่เด็กหนุ่มพูดแบบนั้นคนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น
“เพราะเขาคนนั้นชิบะ เรกะ เป็นเด็กที่โดดเรียนบ่อยมากๆ และเขายังแอบเข้าไปในห้องน้ำหญิงของโรงเรียนเราด้วย"
เมื่อได้ฟังแบบนั้นผู้หญิงทุกคนก็มองไปยังเรกะอย่างรังเกียจ
"ไม่ใช่แค่นั้นเขายังขโมยของจากโรงเรียนและเด็กนักเรียนคนอื่นๆด้วย เป็นไอ้โรคจิตและน่ารังเกียจขนาดแท้เลย”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็ขมวดคิ้ว และเริ่มถามต่างๆนานา บางคนที่เชื่อก็เริ่มก่นด่าเรกะ
[อะไรกันน่ารังเกียจจริงๆ]
[ถึงจะหน้าตาดีแต่นิสัยแบบนี้ก็ไม่เอานะ]
[ทำไมยังไม่ไล่ออกไปจากโรงเรียนกัน]
[นั่นสิ]
"พูดจาไร้สาระอะไรกันคะ"
มิยูกิลุกจากที่นั่งและมองไปยังสปอร์ตแมนด้วยแววตาที่ไม่พอใจสุดๆ ชายคนนั้นก็มองไปยังเธอ
"คุณมิยูกิคุณก็รู้นี่ว่า-"
"ไหนคะหลักฐาน"
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา
"ถึงแม้จะไม่มีแต่คุณก็รู้นี่ครับว่าพี่ชายคุณเป็นยังไง แล้วก็หลังฐานน่ะแค่ดูหลังจากนี้ก็ได้แล้วนี่ครับ"
มิยูกิไม่พูดอะไรและนั่งลงที่เดิมส่วน้้ด็กหนุ่มคนนั้ยหลังจากที่พูดจบเขาก็เดินลงไปจากเวที ‘หึตอนนี้จะทำอะไรก็ทำไปเถอะเพราะถ้าพี่เธอถูกไล่ออกจะมีแค่ฉันที่ข่วยได้’
ชายหนุ่มมองไปยังมิยูกิด้วยสายตาหื่นกาม แต่ก็กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครสังเกตุเห็น
ที่เขามั่นใจแบบนั้นก็เพราะถ้าเรกะถูกไล่ออกเพราะเหตุผลพวกนั้นเรกะจะไม่มีโรงเรียนหรือที่ไหนที่จะรับเขาเข้าเรียนหรือรับเข้าทำงาน
คงไม่มีใครอยากจะรับคนน่ารังเกียจและโรคจิตแบบนั้นแน่ๆ
ในจอเด็กหนุ่มกำลังยืนอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งที่มีเพียงเขาคนเดียว เม็ดฝนที่หล่นลงมาจากฟ้ากระทบกับใบหน้าและเส้นผมของเขา
เรกะเงยหน้าขึ้นมองฟ้าทำให้ผมที่ปิดบังใบหน้าครึ่งบนหายไปและปรากฏใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับตาและซึมซับความเย็นจากสายฝน
“อะไรล่ะนั่น”
“คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกMVรึไง”
[เฮ้อเสียดายความหล่อของเขาจัง]
[นั่นสิๆ]
[ฮึ พวกหน้าตาดีน่ะไว้ใจไม่หรอกสักคน]
[เม้นบนไม่ใช่ว่านายอิจฉาหรอกนะ]
ในขณะที่เรกะกำลังยืนอยู่กลางสายฝน ก็มีชายคนนึงเดินเข้ามาจากด้านหลังเขาแต่เพราะมีเงาบังไว้ครึ่งตัวจึงทำให้ไม่รู้ว่าเป็นใคร
“นายจะไปจริงๆงั้นหรอ”
"..."
เรกะยังคงยืนอยู่เหมือนเดิม ทำให้ชายคนนั้นที่เห็นเรกะไม่ตอบก็หงุดหงิด และพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“มันต้องมีวิธีอื่นสิ!!”
ชายคนนั้นตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด เศร้าใจ ทำอะไรไม่ได้ เป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด
เรกะลืมตาขึ้นมาและมองไปยังชายที่อยู่ในเงา เขายิ้มออกมาซึ่งมันทำให้สาวๆหลายๆคนนิ่งค้างเพราะตอนนี้เค้าหล่อแบบวัวตายควายล้ม
แต่พวกเขาก็กลับมาอย่างรวดเร็วเพราะนึกถึงสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนี้ทำหลายคนๆถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย ส่วนมิยูกิกำลังดูอย่างตั้งใจ
“โทโดมันไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ”
ชายหนุ่มที่อยู่ในเงาพุ่งพรวดเข้ามาและผลักเรกะไปที่กำแพงได้อย่างง่ายดาย ปรากฏเด็กหนุ่มผมแดงที่โคตรจะเด่น
“ฉัน ฉันช่วยอะไรไม่ได้เลยหรอ”
โทโดใช้มือสองข้างยันไปที่กำแพงเพื่อไม่ให้เรกะหนีไปไหนได้ เขามองไปยังเด็กหนุ่มด้วยสายที่เป็นห่วงอย่างจริงใจ ส่วนทางเรกะทำได้แค่ยิ้มตอบซึ่ง
พรวด ทันทีที่เห็นแบบนั้นจู่ๆก็มีเด็กสาวคนนึงเลือดกำเดาพุ่งพรวดออกมา เพราะสิ่งที่เธอเห็นอยู่ในจอตอนนี้คือหนุ่มงานดีสองคนกำลัง… พรวด
“เฮ้ย!! เธอเป็นอะไรไปน่ะ”
เลือดสีแดงสดไหลออกจากจมูกของเด็กสาวอย่างหยุดไม่อยู่ ส่วนคนอื่นๆก็คิ้วกระตุกและคิดเป็นเสียงเดียวกัน ‘พวกตรูกำลังดูไรนิ’
ณ มุมๆหนึ่งของเวทีมีชายหนุ่มที่มีหน้าตาคล้ายคนในจอทุกประการ ไม่สิมันคือเขาเลยต่างหาก ‘ตอนไหนกัน’
เด็กหนุ่มเริ่มค้นความทรงจำในหัวแต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็คิดไม่ออกจริงๆ ซึ่งในขณะนั้นเองก็เริ่มมีคนที่จำเขาได้และพูดขึ้น
“เดี๋ยวสิโทโดนี่หัวหน้าฝ่ายวินัยไม่ใช่เรอะ”
ทุกคนต่างมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังยืนมองตัวเองด้วยสีหน้าแปลกๆ ซึ่งทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงสายตาของทุกคน
จู่ๆที่ตัวของเขาก็ปล่อยออร่าอันน่ากลัวออกมา ทำให้คนอื่นรีบหันหนี แต่ทว่า ‘เฮ้ยๆ ไอ้สายตาที่บอกว่าฉันเป็นแมวขโมยนั่นมันอะไรกัน’
คนที่มองโทโดแบบนั้นไม่ใช่ใครอื่น มิยูกิคนดีคนเดิมนั่นเอง แต่เธอก็มองไม่นานเพราะอยากรู้เรื่องชีวิตของพี่ชาย
กลับมาในจอโทโดลดแขนลงและก้มหน้า เรกะที่เห็นแบบนั้นก็เดินออกไปทันที แต่ก่อนที่จะเดินลับตาไปโทโดก็ตะโกนขึ้น
“นายต้องกลับมานะ!! กลับมาเพราะฉันน่ะไม่ดูแลน้องสาวของนายหรอกนะ”
เรกะโบกมืออย่างง่ายๆและเดินไปจนโทโดหายไปจากจอและทันใดนั้นเองจู่ๆรอบตัวของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนไป
จากตรอกกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยซากตึกที่บ้างก็แหว่ง ที่บ้างก็ถล่มลงมา และที่น่าแปลกคือพวกมันกำลังซ่อมตัวเอง
ใช่ดูไม่ผิดมันกำลังซ่อมแซมด้วยตัวเองโดยการที่มีเศษตึกลอยขึ้นกลับไปที่้เดิมที่มันจากมา และ ที่แปลกอีกอย่างคือในเมืองเงียบมากจนน่าใจหาย
“อะไรน่ะทำไมอยู่ดีๆรอบๆถึงเปลี่ยนไป”
[ให้ตายเถอะบอกฉันทีว่าฉันกำลังตาฝาดอยู่เมืองกำลังซ่อมตัวเอง]
[ไม่ใช่แค่ฉันสินะที่เห็นน่ะ]
ในขณะที่ทุกคนกำลังแตกตื่น เรกะก็ทำให้ทุกคนแข็งข้างเพราะ
“เรกะ”
เด็กหนุ่มพูดชื่อตัวเองออกมาอย่างแผ่วเบาแต่ทุกคนก็ได้ยินทันใดนั้นร่างของเด็กหนุ่มกลายเป็นแสงสีขาวและเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงระดับนึงแสงก็ค่อยๆจางลงจนหายไปและรากฏมนุษย์ยักษ์ที่มีเขาสามเขาอยู่บนหัว ทั้งตัวเป็นสีเเดงและมีลวดลายสีเงินกับดำเป็นเส้นลากไปตามตัว
ทำให้ดูสวยงามและเท่ในเวลาเดียวกัน ตรงอกมีปุ่มวงกลมสีฟ้าส่องสว่าง พร้อมกับสิ่งที่เหมือนเกาะอกสีทองและเงินคลุมไปถึงไหล่
ใต้แขนมีแท่งสีทองที่เหมือนกับมีดยื่นยาวไปถึงข้อศอก และดวงตาสีทองที่กำลังเรืองแสงเปร่งประกาย
###จบตอน###
ฮุฮุ เรื่องนี้ผมแต่งตามใจนะถ้าข้อมูลหรือสเกลพลังไม่ตรงก็ไม่ต้องแปลกใจ แค่แปลงร่างเป็นเรกะแบบเฉยๆนี่ก็ไม่ใช่ละ555 ความชอบส่วนตัวล้วนๆ
เอาเป็นว่าสุดท้ายนี้อ่านเพื่อความบัญเทิงเท่านั้นนะครับ อย่าไปซีเรียสเพราะเผลอๆอาจจะมีเลเจนด์หรือโนอาโผล่มาก็ได้ใครจะรู้
งั้นก็ขอให้อ่านอย่างสนุกนะครับ^^
ความคิดเห็น