คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : พระผู้เป็นเจ้าเสด็จ
อีกอย่างคือมาร์ควิส ไครีย์ คนนี้ขนาดผมพึ่งมาก็ยังรู้ว่านี้คือหนึ่งในคนที่มีอำนาจมาที่สุดของเมืองนี้ ขนาดทาสระดับทองยังมีขาย
การใช้ทองจำนวนมากผมไม่เสียดายเลยถ้าสามารถผูกมิตรกับชายคนนี้ได้ แต่นอกจากการซื้อทาสคนนี้ผมก็ยังสนใจเรื่องปลอกคอควบคุมด้วย
“คุณสามารถขายให้เราได้ไหม”
“มันเป็นการใช้เวทมนต์ที่เก่าแก่และโบราณมาก เมื่อทำสัญญาไปแล้วจะไม่มีวันย้อนกลับได้คุณไม่ต้องกลัวว่าทาสจะไม่เชื่อฟัง”
“มันขายได้ไหมว่าราคามาเลย”
“ผมอยากจะขายนะแต่ว่าการทำสัญญาต้องใช้ความยินยอมหรือไม่ก็ตอนที่อีกฝ่ายใกล้จะตายเท่านั้น แถมพวกคุณยังใช้เวทย์มนต์ไม่ได้ถึงผมขายไปคุณก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี”
ไครีย์พูดพร้อมกับชี้ไปที่ทาสเผ่ามาร ซึ่งก่อนตายเธอโดนทำสัญญาระดับสูงใส่ ซึ่งมันเสี่ยงมากเพราะทาสอาจตายไปเลย แต่เธอรอดมาได้และต้องเชื่อฟังคนที่เป็นเจ้านาย
“ไว้ครั้งหน้าเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้ก็ได้”
“ด้วยความยินดีครับคุณลูกค้า”
เมื่อเห็นท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วผมก็ออกมาจากคฤหาสน์ของไครีย์ ซึ่งในระหว่างนั้นผมก็ได้ติดต่อกับคาร์ลที่กำลังจะกลับโลกให้มารับทาสคนนี้ไปด้วย
เพื่อที่จะได้นำไปทดลองความสามารถหรือร่างกายของคนในโลกนี้ว่าเป็นยังไง โดยเฉพาะเรื่องมานาที่เขาต้องการรู้ให้มากกว่านี้
“กลับที่พักของกันเถอะเย็นนี้ท่านพ่อจะเลี้ยงอาหารค่ำคุณ”
“ขอบใจมากหลังกลับไปข้าจะไปเล่าเรื่องนี้ให้องค์จักรพรรดิฟัง”
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”
พวกผมเดินกลับไปที่พระราชวัง ต้องบอกเลยว่าเมืองนี้ใหญ่มากวันนี้ผมเดินไปไม่ถึง 2% ด้วยซ้ำ ประชากรก็น่าจะมีประมาณ 3-4 ล้านคนถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนโลกแล้ว
ในงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่มากมีขุนนางและคนสำคัญเข้าร่วม แต่ในระหว่างที่ผมนั่งทานข้าวร่วมกับราชวงศ์บรรยกาศก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะเจ้าหญิงไวโอเล็ทหญิงสาวที่อารมณ์ร้อนเหมือนกับสีผมของเธอ
“ทำไมตาของเจ้าถึงเป็นสีนั้น”
“สาวน้อยข้าต้องบอกเจ้าว่าอายุของข้าคือ 54 ลูกชายของข้าก็อายุพอๆกับเจ้าแต่เขาไม่ได้กระตือรือร้นเช่นนี้”
ผมเปิดจี้ห้อยคอที่มีภาพของครอบครัวให้ดู แม้จะรู้อยู่แล้วแต่ไวโอเล็ทและคนอื่นๆยังรู้สึกตกใจกับอายุของผมที่พอๆกับพระราชาเฟริซิกแต่ผมไม่ได้แก่ตัวลงเลย
“ไวโอเล็ทแล้วทำไมเจ้าถึงไม่แก่เลย นี้คือแขกของเรานะ”
“หยุดเสียมารยาทได้แล้ว”
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตัวเองเริ่มไปไกล เฟริซิกก็สั่งให้หยุดห้องอาหารจึงเงียบไปเลย ผมยอมรับเลยว่าที่นี้ดูเป็นครอบครัวมาก
ในโลกของผมการทานอาหารพร้อมหน้าแบบนี้มีน้อยครั้งมาก แต่ผมก็สงสัยอยู่เรื่องหนึ่งหลังกินเสร็จจึงถามกับเฟริซิกเรื่องราชินี ทำให้รู้ว่าเธอเป็นจอมเวทย์ที่ออกเดินทางไปรอบโลกคงอีกนานกว่าจะกลับมา
นอกจากการกินข้าวผมก็ได้พูดคุยกับขุนนางหลายคนที่เป็นมิตรด้วย หลังจากนั้นราวๆ 3 ทุ่มก็ได้เดินทางกลับไปห้องนอน ซึ่งมันมีขนาดใหญ่มากวัสดุทุกอย่างก็ของชั้นยอด
“เอาภาพที่บันทึกวันนี้ออกมา”
“ได้เลยครับนายท่าน”
ผมไม่ได้นอนเพราะผู้วิวัฒนาการไม่จำเป็นต้องนอน สิ่งที่ผมทำคือการไล่ดูสถานที่ตั้งแต่ออกจากยาน ัมนได้ถูกบันทึกไว้โดยกล้องที่ติดไว้ตามชุดผม
เจ้าบลูได้เชื่อมต่อกับกล้องไว้แล้วทำให้ผมแค่หลับตาไปก็มองดูได้ ผมเริ่มกลับไปดูตอนที่อยู่ประตูวาร์ปและนำข้อมูลที่บลูวิเคราะห์ไว้มาตรวจดู นอกจากนี้ก็มีการทำแผ่นที่เมืองไว้ด้วย
แม้ตอนนนี้จะทำได้แค่ 2% ผมก็ทราบที่อยู่คร่าวๆของคนสำคํญ แต่ในขณะที่กำลังวางแผนทำอะไรอยู่นั้นเองผมก็สัมผัสอะไรบางอย่างได้
“นายท่านข้างๆนี้มีมานาระดับสูงกำลังรวมกัน”
ผมออกจากห้องทำให้ได้พบเหล่าคนใช้และอัศวินที่กำลังออกมารวมกัน ซึ่งทุกคนจ้องมองไปยังจุดหนึ่งของปราสาทที่กำลังมีแสงสีทองส่องลงมา
“เกิดอะไรขึ้น”
ผมถามวิด้าที่กำลังเดินมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล อีกฝ่ายสวมชุดเกราะทำให้ดูพร้อมรบตลอดเวลานี้ทำให้ผมรู้สึกสงสัยมากกว่าเดิมอีก
“คุณต้องอยู่ที่นี้ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“แล้วแสงนั้นมันคืออะไร”
“มานากำลังรวมกัน…”
วิด้ามองไปที่แสงนั้นแม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จุดที่มันตกลงเป็นห้องของน้องสาวเขาที่แรกวิด้าจะไปดูแต่พ่อของเขาบอกให้มาดูแขกต่างดาวก่อน
ซึ่งตัดไปที่ห้องนอนของเจ้าหญิงไวโอเล็ทตอนนี้ตัวของเธอกำลังลอยขึ้นเหนือเตียง แม้ใครจะเรียกเธอก็ไม่ได้สติผู้กล้าจูเลียแทบทนไม่ไหวที่จะเข้าไปอุ้มเธอออกมา
“สันตะปาปานี้มันเกิดอะไรขึ้น”
ทุกคนหันไปมองสันตะปาปาริโอที่เดินเข้ามาในห้อง แต่ยังไม่ทันที่รจะตอบอะไรสันตะปาปาริโอก็ก้มกราบลงพื้น
“พระผู้เป็นเจ้าเสด็จๆ”
สันตะปาปาริโอตะโกนพร้อมกับร้องไห้ออกมา ผู้คนในห้องถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ท่านริโอหมายความว่ายังไง”
ราชาเฟริซิกเดินไปถามแต่สันตะปาปาก็ไม่ตอบอะไรเขาเอาแต่พูดคำเดิมราวกับคนบ้า เมื่อคนจะเข้าไปช่วยเจ้าหญิงเขาก็ตะโกนด่าทั้งๆที่ริโอเป็นชายแก่ใจดี
แม้ด้านนอกจะโวยแต่ภายในจิตใจของไวโอเล็ทตอนนี้เธอกำลังเดินอยู่ในทุ่งดอกไม้ที่สวยงามมาก ทันใดนั้นท้องฟ้าก็สว่างพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มรูปงามทั้ง 3 คน ที่ด้านหลังก็มีปีก 4 คู่ที่ใหญ่โตและดูศักดิ์สิทธิ์มาก
“พวกท่านเป็นใครแล้วที่นี้มันคือที่ไหน”
“พวกเราคือทูตสวรรค์มาเพื่อแจ้งข่าวกับท่าน”
ในขณะที่ไวโอเล็ทกำลังตกตะลึกเหล่าทูตสวรรค์ก็พากันบินรอบตัวเธอพร้อมกับร้องเพลงที่เธอฟังไม่ออก แต่มันเป็นเพลงที่เพราะมาก
“โลกของเบื้องล่างกำลังเดินทางสู่หายนะองค์หญิงไวโอเล็ทจากนี้ไปพระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับท่านเพื่อกอบกู้และช่วยทุกชีวิตเอาไว้ จนกว่าพระผู้เป็นเจ้าจะอายุได้ 15 ปีจงปกป้องพระองค์แล้วเมื่อนั้นโลกจะปลอดภัย”
หลังพูดจบทูตสวรรค์ทั้ง 7 องค์ก็เป่าแตรที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน เสียงนั้นไม่ได้ดังแค่ในจิตใจของไวโอเล็ททั่วโลกได้ยินเสียงแตรดังขึ้นพร้อมกับแสงสีทองที่บินอ้อมโลก
สิ่งมีชีวิตล้วนแต่ออกมาจ้องมองแสงแห่งนี้มอนสเตอร์และสัตว์ป่าพากันกู่ร้องขึ้น แม้แต่คนที่ไม่รู้จักมานายังสัมผัสถึงมานาศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้
“เดชานุภาพของพระผู้เป็๋นเจ้าตอนนี้พระองค์กำลังจะมาจุติแล้ว”
สันตะปาปาริโอตะโกนขึ้นส่วนคนในห้องก็ก้มลงเพราะในห้องนี้เต็มไปด้วยมานาศักดิ์สิทธิ์ แสงที่วิ่งรอบโลกมันตกลงไปที่ร่างของไวโอเล็ทและเธอก็ค่อยๆล้มลงไปที่เตียง
เวลา 00:00 แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ผมได้พบเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของโลกเรอา ไม่ใช่แค่แสงเท่าและเสียงแตรที่ดังสนั่นไปทั่วโลกมันยังมีเสา 3 แห่งปรากฎขึ้นตามจุดต่างๆทั่วโลก
ในแต่ละเสาก็มีรูปของอัครทูตสวรรค์มีคาเอล,กาเบรียล,ราฟาเอล ตามตำนานบอกว่านี้คือการจุติของพระเจ้าและทูตสวรรค์ทั้ง 3 ที่จุติมาเพื่อช่วยโลกใบนี้
“นี้มันเรื่องอะไรกัน”
“นายท่านมานาศักดิ์สิทธิ์หรือมานาแสงทั่วโลกเพิ่มขึ้น”.
“ฉันกำลังเจออะไรอยู่เนี่ย”
ผมมองไปที่ปราสาทที่เคยมีแสงตกลงมาบัดนี้มันได้หยุดไปแล้ว แต่ผมก็ยังสัมผัสมานาได้นี้หมายความว่ามันมีเยอะมาก แม้แต่วิด้ายังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่แสงที่บินไปทั่วโลกได้ทำลายควันสีดำไปจนหมดแทนที่ด้วยดวงดาวที่คนบนเรอาไม่ได้เห็นมานาน ดาวนี้มันลึกลับจนตอนนี้ผมเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าระเบิดนิวเคลียสจะเอาอยู่
ความคิดเห็น