คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ซื้อทาส
นอกจากนี้พระราชาเฟริซิกยังจะเรียกประชุมราชาจากเผ่าต่างๆด้วยเพื่อพูดคุยกันเรื่องคนพวกนี้ โดยเฉพาะสาเหตุที่พวกนี้ทำบาปเยอะจนแม้แต่มานายังออกห่าง
ตัดมาตัวผมตอนนี้กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่ห้องอาหารของวังหลวง แม้ที่นี้จะล้าหลังแต่ด้านอาหารก็ต้องยอมรับเลยว่าอร่อยจริงๆ
“หลังจากนี้เราจะไปไหนต่อครับเจ้าชาย”
หลังกินเสร็จคาร์ลก็ถามออกมา ผมไม่ตอบแต่เดินไปที่สวนพร้อมกับชี้ไปที่คอเพื่อบอกสัญญาณบอกให้สร้างบาเรีย คาร์ลและแอ็นสจึงมาข้างๆพร้อมกับนำผลึกสีส้มออกมาบีบมันทำให้เกิดม่านบาเรียคลุมผมเอาไว้
มันคือการติดต่อระยะไกลที่ทำจากแร่บนดาวที่เรายึดมา มันทำให้ตัวผมจะติดต่อกับคนอื่นๆได้ แต่ร่างกายยังอยู่ที่เดิมทำให้ต้องมีคนคุ้มกัน
เมื่อใช้มันภาพที่แต่ต่างจากโลกนี้ก็ปรากฎขึ้น มันเป็นห้องทำงานที่มีกระจกใสทำให้มองเห็นตึกสูงหลายร้อยเมตรเรียงกันยาวสุดลูกหูลูกตา ใช่แล้วนี้คือโลกที่ผมจากมาและที่เก้าอี้ก็มีชายหนุ่มใส่ชุดสูทสีดำนั่งอยู่ ผมรีบวางมือทาบที่หน้าอกและก้มทำความเคารพ
เพราะนี้คือจักรพรรดิไกเซอร์วิลเลียมแห่งสมาพันธรัฐโลก แม้หน้าตาอีกฝ่ายจะเหมือนเด็กแต่นี้คือคนอายุ 87 ปีและเขาเป็นพ่อตาของผมเอง
“ฝ่าบาทมีอะไรถึงได้ติดต่อมาครับ”
“คิดว่าฉันอยากติดต่อมาหรอตอนนี้ที่ดาวนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“ทุกอย่างปกติดีพวกเราสามารถเข้ากับคนที่นี้ได้”
ผมตอบพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ความสัมพันธ์ของผมกับพ่อตาคนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การที่อีกฝ่ายติดต่อมาก่อนแปลว่าต้องมีอะไรแน่นอนและมันก็เป็นจริง
“ส่งยานกลับมา 1 ลำและให้คนกลับมา 12 คนตอนนี้สงครามใหญ่เริ่มแล้วพวกเราต้องระดมกำลังเข้าโจมตีดาว TR-56 ”
“อ้าวแล้วดาวนี้จะทำยังไงครับ”
“ดาวนั้นให้ศึกษาข้อมูลไปก่อนเราพวกเราเผด็จศึก TR-56 ก่อน”
นี้มันข่าวร้ายสุดๆผมไม่คิดเลยว่ากำลังรบที่น้อยอยู่แล้วจะน้อยลงไปอีก แบบนี้อย่าว่าแต่ยึดโลกนี้เลยแค่อาณาจักรแห่งนี้ผมก็ไม่มีปัญญายึดด้วยกำลังแล้ว
“ฝ่าบาทงั้นผมขอให้คาร์ลอยู่ด้วยได้ไหมครับ”
อย่างน้อยผมก็ต้องต่อรอง แต่มันก็ไม่เป็นผลวิลเลียมปฏิเสธและสั่งให้กลับไปภายในพรุ่งนี้ ผมรู้สึกเหมือนโดนแกล้งเลย แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะอีกฝ่ายคือหนึ่งในผู้นำสูงสุด
“เกินอะไรขึ้นครับ”
“ทำไมถึงมีการติดต่อจากโลกเร็วขนาดนี้”
เมื่อสิ้นสุดการพูดคุยทั้งคาร์ลและแอ็นสรีบถาม ผมได้แต่ส่ายหัวและบอกให้พวกเขาไปขึ้นยานเดินทางกลับ ส่วนผมเมื่อถึงที่พักก็เริ่มคิดแล้วว่าจะเอายังไงต่อเพราะตอนนี้กำลังคนที่เหลือมีไม่ถึง 10 ด้วยซ้ำ
“บลูนายคิดว่าเราควรทำยังไง”
“นายท่านก็แค่รอให้เรายึดดาว TR-56 ได้ก็พอแล้ว”
“แล้วมันจะใช่เวลาเท่าไหร่”
“การรบน่าจะจบใน 1-2 เกือนแต่น่าจะใช่เวลากวาดล้าง 3-4 ปี”
เมื่อผมหลับตาลงก็เห็นข้อมูลต่างๆที่บลูวิเคราะห์ไว้ ซึ่งนี้มันนานเกินไปแถมคนที่นี้เหมือนจะเตรียมการรับมือพวกผมไว้ด้วย
“ก่อนอื่นเราต้องสร้างความวุ่นวายก่อน”
“เป็นความคิดที่ชั่วร้ายมากสมกับนายท่านจริงๆ”
“นั้นแกชมหรือด่าฉันกันแน่”
ผมเลิกคุยกับบลูและเดินออกจากห้องไป เวลานี้คือ 16อากาศค่อนข้างดี:06 นาทีเป็นเวลาที่ผมก็อยากจะออกไปเที่ยวชมเมืองบ้าง
การเปลี่ยนเสื้อผ้านั้นทำได้ง่ายมากเพราะชุดผมทำจากเทคโนโลยีนาโนเวลาจะเปลี่ยนก็ใช้คำสั่งเสียงโฮโลแกรมก็จะปรากฏขึ้นให้เราเลือกเสื้อผ้าที่ต้องการ
ผมกดไปที่ผ้าคลุ่มสีขาวที่สามาารถคุมร่างกายได้หมดทุกส่วนยกเว้นใบหน้า เมื่อเดินออกมาจากห้องไม่นานก็พบวิด้าที่ถอนเกราะออกเหลือแต่ชุดวอร์มเดินมาหา
“บังเอิญจังเลยคุณกำลังจะไปไหนหรอ”
แม้อีกฝ่ายจะบอกว่าบังเอิญ แต่ผมไม่คิดแบบนั้นเลยชายคนนี้ตั้งใจเดินมาหาผมตั้งแต่แรกแล้ว
“นายไม่ได้ไปส่งสองคนนั้นหรอ”
“ไปมาแล้วคนของคุณแข็งแกร่งมากแม้จะไม่มีมานาแต่ความสามารถระดับนี้ไม่ต่ำกว่าทองแน่นอน”
“แล้วนายระดับเท่าไหร่”
“ผมเป็นแพลทินัมขั้นสุดท้ายไปต่อไม่ได้แล้ว”
ระดับของคนบนโลกนี้เหมือนจะแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ ผมมองดูเจ้านี้ก่อนจะเรียกเจ้าบลูที่อยู่ในตัว
“ถ้าฉันสู้กับมันใครจะชนะ”
“สู้ร้อยครั้งแพ้ร้อยครั้งนายท่านไม่มีทางชนะได้หรอก”
แม้มันจะน่าโมโหแต่สิ่งที่บลูพูดมานั้นถูกต้อง เพราะผมเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 167 และมีโคฟลำดับที่ 1 ก็จริง แต่ความสามารถในการต่อสู้ของผมต่ำมาก
ดาบทั้งสองเล่มที่เอวก็มีไว้ขู่เท่านั้น นี้นี้จะโทษผมไม่ได้เพราะโลกผมไม่ได้ฝึกการต่อสู้มามาก ส่วนใหญ่เป็นแค่เรื่องพื้นฐานเท่านั้น ยกเว้นผมคนที่ได้โคฟลำดับที่ 1 จะเป็นกำลังรบที่แข็งแกร่งที่สุดของสมาพันธรัฐโลก
ความสามารถของโคฟลำดับที่ 1 นั้นจะสูงมากเมื่ออยู่ในมือคนที่เก่งเช่น ภรรยาของผมที่เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้มาด้วย วิด้าถามผมอีกครั้งเพราะเห็นเงียบไปผมเลยบอกว่าอยากไปเที่ยวชมเมือง เขาเลยพาผมออกไปดูเมือง
นี้ทำให้ผมได้รู้ว่าคนที่นี้มีอัธยาศัยดีมากและวิด้าก็เป็นที่รักของประชาชน เด็กๆต่างเดินตามเพราะอยากเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งแบบเขา
“ท่านวิด้าผมจะแข็งแกร่งแบบท่านให้ได้เลย”
“นายต้องฝึกให้หนักถ้าอยากเป็นแบบฉัน”
วีด้ายกเด็กคนหนึ่งขึ้นมาขี่คอของเขาในระหว่างที่เดิน ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นมากเจ้าชายไม่ถือตัวลงมาพูดคุยกับชาวบ้านอย่างสนิทสนม
“อย่าไปรบกวนเจ้าชายแบบนั้นสิลูก”
“ไม่เป็นไรพวกเราเป็นอนาคตของเราใช่ไหมทุกคน”
ผู้คนต่างมารวมตัวกันที่รอบๆพวกผมและตะโกนสรรเสริญเจ้าชายคนนี้ นี้ทำให้ผมรู้ว่าที่โลกนี้เหมือนจะเป็นโลกที่โรยด้วยกลีบกุหลาบมาก
ขนาดตอนเดินไปตามเมืองก็มีแต่บรรยากาศดีๆ ขนาดเผ่าพันธุ์อื่นยังได้รับการต้อนรับที่ดีไม่มีการแบ่งแยกกันเลย นี้ไม่ใช่การจัดฉากเพราะผมเป็นคนเดินนำไปยังที่ต่างๆ แต่เพื่อความแน่ใจผมก็ถามเรื่องหนึ่งออกไป
“ที่เมืองนี้มีทาสไหม”
หนึ่งในสิ่งที่ต่างโลกขาดไม่ได้นั้นก็คือทาสและมันมีจริงวิด้าพาผมไปที่เขคหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนไม่มากแต่จากเครื่องแต่งกายที่ใส่ก็รู้แล้วว่าเป็นขุนนางที่ร่ำรวย
“ลมอะไรพัดเจ้าชายวิด้ามาที่นี้”
เสียงที่ฟังดูเจ้าเล่ห์ดังขึ้นพอผมหันไปก็พบว่าเป็นชายแก่รูปร่างอ้วนท้วมหัวโล้น แต่แต่งกายดูดีมากผมรู้จักเขานี้คือ มาร์ควิส ไครีย์ หนึ่งในคนที่ไม่ได้พูดหรือแสดงอาการอะไรในท้องพระโรง
“ข้าพาอาคันตุกของเรามาเยี่ยมชมดินแดนของท่าน”
“หึ!…ผู้มาจากดวงดาวมีเหตุอะไรถึงได้มาที่นี้”
“ผมแค่อยากมาเยี่ยมชมดูเฉยคุณไครีย์ได้โปรดพาไปชมทาสของท่านได้ไหม”
“ตามกระผมมาเราจะไปยังสถานที่ vvip เรามีทาสชั้นสูงมากมาย”
“คุณเออร์เนตผมจะรออยู่นี้”
เหมือนว่าวิด้าจะไม่ชอบทำให้มีแค่ผมที่เดินเข้าไปกับมาร์ควิสไครีย์ ซึ่งด้านในเต็มไปด้วยทาสมากมายหลากหลายเผ่าพันธุ์
“นี้คือทาสที่ดีที่สุดของเราเธอเป็นเผ่าปีศาจที่ถูกจับได้ในมหาสงคราม”
ผมมองไปที่ทาสสาวที่มีหูยาวและหางที่มีปลายแหลมเป็นรูปหัวใจ ป้ายที่ติดไว้บอกว่าเธอเป็นทาสระดับทอง ซึ่งถือว่าสูงมาก ห้องที่อยู่ก็ดูแตกต่างจากห้องของทาสคนอื่น แต่ตัวเธอนั้นนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้อง
“ราคาของเธอเท่าไหร่”
“นี้คือทาสระดับทองแถมยังเป็นหญิงสาวที่อายุแค่ 123 ปีสำหรับเผ่าปีศาจนี้ถือว่าเป็นวัยเด็กและเธ…”
“ทองคำ 10 ตันพอไหม”
ผมยิ้มให้ไครีย์ที่กำลังตกใจกับราคาที่จ่าย แต่ด้วยความที่เป็นพ่อค้ามืออาชีพไครีย์ก็เก็บอาการได้อย่างรวดเร็ว
“นั้นมากไปข้าไม่สามารถหลอกลวงลูกค้าได้ราคาของเธอถ้าตีเป็นทองก็ 9.98 ตัน”
“อีก 1 วันทองคำจะมาส่งให้คุณแล้วการควบคุมเธอล่ะ”
“ที่คอของเธอมีปลอกคอที่สามารถทำให้เธอทำตามคำสั่งได้ท่านไม่ต้องกังวลและผมหวังว่าเราจะได้ทำการค้ากันอีก”
ผมกล้าพูดเลยว่าราคาของเธอไม่สูงเท่าทอง 9 ตันแต่นี้เป็นการสร้างมิตรภาพผมต้องจ่าย ชายคนนี้เข้าถึงได้ไม่เหมือนขุนนางส่วนใหญ่ที่ไม่ชอบพวกผม
ความคิดเห็น