คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โลกแฟนตาซี
ซึ่งสิ่งที่ชาวเรอากำลังพบก็คือยานรบข้ามอวกาศของสมาพันธรัฐโลกสองลำที่พึ่งเดินทางมาถึง มันคือการมาเยือนครั้งประวัติศาสตร์
โดยยานมีความยาวเกือบ 100 เมตรรูปร่างดูเหมือนปลากระเบน ภายก็เต็มไปด้วยเครื่องมือที่ล้ำหน้าและวิทยาการที่ดีที่สุดของโลก
ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เดินทางมาะที่แรกพวกเราไม่สามารถลงมาได้ เพราะมีควันอะไรบางอย่างขวางกั้นไว้จนยานฝ่าลงไปไม่ได้
“ดูเหมือนจะไม่ใช่ควันธรรมดาแล้วนะครับ”
ภายในห้องบังคับการของยานบรรดาเจ้าหน้าที่ไม่สิคนพวกนี้เป็นนายทหารมากกว่า ชุดของพวกเขาก็มียศประดับเยอะมาก ทุกคนกำลังพยายามใช้เครื่องมือต่างๆวิเคราะห์องค์ประกอบของควัน
“เปิดฉากยิงด้วยขีปนาวุธได้เราจะฝ่ามันเข้าไป”
“การระเบิดบนชั้นบรรยากาศจะไม่ส่งผลกระทบต่อดาวหรอครับ”
“ถ้าเราไม่ทำจะเข้าไปได้ยังไง”
ผมพูดพร้อมกับหัวเราะออกมานายทหารคนนั้นก็กดยิงขีปนาวุธออกไป ซึ่งมันเป็นขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ที่พอโดนควันสีดำมันก็เกิดการระเบิดขึ้นทันที
“เกิดช่องว่างแล้วใหญ่พอที่เราจะผ่านเข้าไป”
“ไปดูกันว่าที่นี้มีอะไรบ้าง”
แรงระเบิดอันมหาศาลของระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์เปิดช่ีองว่างให้กับพวกเขายานรบทั้งสองลำไม่รอช้ารีบผ่านเข้าไป
แม้ลูกไฟและแรงระเบิดจะยังไม่สงบแต่ยานของพวกเขาก็ผ่านไปได้โดยไม่ได้รับความเสียหายอะไร ผมมองดูพื้นโลกที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นหลังลงมาจากอวกาศ มันเป็นดาวที่สวยงามมากนายทหารคนอื่นก็พากันเช็คอุปกรณ์ของตัวเองส่วนยานก็ให้ AI ควบคุม
ในขณะที่คนอื่นกำลังเดินไปเตรียมตัวผมก็นั่งอยู่ที่เดิม เพราะตำแหน่งของผมเป็นเจ้าชายของสมาพันธรัฐโลก
“บลูเปิดสเตตัสของฉันให้หน่อย”
“ได้เลยครับนายท่าน”
ที่ตักของผมกำลังสิ่งมีชีวิตที่เหมือนสไลม์สีฟ้าลืมตาขึ้นมาก่อนจะฉายภาพบางอย่างออกมาจาตาของมัน ซึ่งมันคือสเตตัสของผมนั้นเอง
ชื่อ: เออร์เนต แบงค์เกิร์ท
ระดับ: 167 พลังงานที่มี: 100%
โคฟ: บลูลำดับที่ 1 (บรรพบุรุษที่เทพที่สุดและหน้าตาดีที่สุด)
ส่วนสูง: 191 ซม น้ำหนัก: 81 กก. อายุ: 54 ปีกับอีก 162 วัน
นั้นคือข้อมูลส่วนตัวของผมทุกอย่างตรงหมด จะมีแค่ข้อมูลบางอย่างที่บลูแต่งเข้าไปเพื่อยกย่องตัวมันเอง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ฉัน 54 แล้วหรอทำไมเร็วจัง”
“นายท่านจะคิดเรื่องนี้ทำไมขนาดผมยังไม่คิดเลย”
“อย่าเอาอายุมนุษย์ไปเทียบกับพวกนายสิ”
ผมพูดพร้อมกับลูบใบหน้าของตัวเองที่แม้จะ 54 ปีก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กวัยรุ่น 20 ต้นๆ แม้จะดูยังไงผมก็ชื่นชอบหน้าตานี้มาก เพราะมันดูหล่อและมีเสน่ห์ไม่ว่าจะเป็นผมสีดำมันเงาและรูปร่างที่ดีไม่ได้มีกล้ามเนื้อใหญ่หรือน้อยเกินไป
แต่สิ่งที่ต่างจากคนทั่วไปคือดวงตาที่ควรจะมีสีขาวแต่มันดำสนิทเหมือนกับความมืดที่ไร้ก้นบึ้ง ตรงม่านตาก็มีสีน้ำเงิน
แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแต่เป็นสิ่งที่โลกของผมเรียกว่าผู้วิวัฒนาการ ตามชื่อเลยพวกเราคือมนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้ว
ทำให้มีพลังที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไประดับของร่างกายผมคือ 167 ถ้าเอาเกณฑ์ในการวัดนี้ไปใช้กับยักษ์เขียวก็จะอยู่ที่ 62 แต่ผมมากว่าทุกคนก็พบจะเดาได้ว่าผมแข็งแกร่ง
“บลูนายคิดว่าเราจะเจออะไรบ้าง”
“จากการคำนวณและข้อมูลที่มีเราจะเจอกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์และรูปแบบอื่นๆ ถ้าเกิดการต่อสู้นายท่านจะไม่รอดแน่นอนแต่เมื่อมีกระผมอยู่ด้วยก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร”
“แกนี้มันหลงตัวเองเกินไปแล้วนะ”
“โอ้ย!..อย่าทำผมนะนายท่าน”
ผมอดที่จะเอามือหยิกเจ้าบลูไมได้ แม้ตัวเท่ากำมือแถมยังมีความเย่อหยิ่งและอวดดี แต่สิ่งมีชีวิตที่เหมือนสไลม์นี้ก็คือ โคฟ เผ่าพันธุ์ที่ทรงสติปัญญา
ความสามารถของมันเหมือนกับระบบในนิยายที่จะช่วยเหลือเจ้านาย แต่ไม่ได้มีแค่ผมที่ได้โคฟคนอื่นๆก็มีมันหมดแต่โคฟนั้นต่างกันตรงลำดับชั้น
เจ้าบลูมีระดับ 1 เป็นโคฟบรรพบุรุษที่มีแค่ 10 ตัวความสามารถสูงกว่าโคฟระดับอื่น พวกเราเจอโคฟบนดาวแห่งหนึ่งและจากนั้นมันก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ เมื่อมีพวกมันช่วยเทคโนโลยีต่างๆก็พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่ผมกำลังคุยกับมันยานก็เดินทางลงมาถึงพื้นโลกแล้ว
มันเป็นป่าโบราณขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้สูงหลายร้อยเมตร แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นต้นไม้ที่ตั้งอยู่กลางดินแดนแห่งนี้มันมีความสูงหลายกิโลเมตรและกว้างกว่าภูเขาลูกหนึ่ง
ขนาดมองไกลยังรู้สึกได้ถึงความเก่าแก่ของมัน เขากล้าสาบานเลยว่าไม่เคยเห้นต้นไม้อะไรที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
“เราจะเอายังไงต่อดีครับเจ้าชาย”
นายทหารคนหนึ่งเดินมาถาม เพื่อที่จะเดินทางได้แบบไม่มีปัญหาทุกคนบนยานเป็นผู้วิวัฒนาการทั้งหมด ตาของทุกคนจึงเป็นเหมือนกันหมด
“ลงไปสำรวจดูด้านล่างและหาที่ซ่อนยานก่อน”
“ทำไมเราไม่ทำลายป่าแถวนี้ไปเลยครับ”
“มันเสียงดังเดินไปลอยลำแบบนี้ก่อนพวกนายไปสำรวจได้แล้ว”
เพราะคำสั่งของผมยาน I-4 และ I-6 จึงลอยลำเหนือยอดต้นไม้ประมาณ 20 เมตร นายทหาร 20 คนออกไปจากยานทุกคนผ้าคลุมนาโนที่ออกแบบมาเพื่ออำพรางตัวเอง
8 คนเฝ้าตามจุดต่างๆรอบยานส่วนที่เหลือก็ออกไปสำรวจป่าแถวนี้ นอกจากนี้พวกเรายังส่งโดรนสอดแนมขนาดเล็กกว่า 40 ตัวออกไป ส่วนผมก็นั่งฟังรายงานและดูภาพต่างๆจากบนยาน
“นั้นมันอะไร”
“พวกมันเป็นเด็กหรือเปล่าครับนายท่าน”
ผมมองดูภาพหนึ่งที่ทหารไปเจอพวกมันมีตัวสีเขียวและตัวเล็กประมาณเด็กคนหนึ่ง นี้ทำให้ผมได้รับรู้ว่ากำลังอยู่ในโลกแฟนตาซี
“เด็กบ้าอะไรบลูนั้นมันก็อบลิน”
นอกจากก็อบลินทีมที่ส่งไปสำรวจก็พบกับมอนสเตอร์ชนิดต่างๆ พวกนี้เป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวและเป็นอันตรายแต่สำหรับนายทหารทุกคนที่เป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 150 ขึ้นไปและมีโคฟลำดับที่ 5-2 ก็ไม่มีปัญหา
พวกมันไม่รับรู้แ่ม้กระทั้งการมีอยู่ของพวกเขา นี้จึงเหมือนเป็นการดูสารคดีมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นก็อบลิน,ออร์ค,โทรลล์ หรือตัวอื่นๆก็ใช้ชีวิตของตัวเอง
พวกมันมีการล่าอาหารและครอบครัว แต่บางตัวก็เหมือนเป็นอันธพาลที่ไล่ฆ่าสิ่งมีชีวิตอื่น เหล่านายทหารที่ออกไปก็ทำการจดบันทึกและตั้งกล้องไว้ตามต้นไม้จากนั้นก็ออกไปสำรวจที่อื่น
แค่ 20 นาทีงระยะ 10 กิโลเมตรก็ถูกสำรวจจนหมด ข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิ,ความดันอากาศ,องค์ประกอบของแก๊ส,สิ่งมีชีวิต,พันธุ์พืช ถูกรวบรวมมาหมด กล้องจิ๋ว 70 ตัวถูกติดตั้งไว้และพวกเรายังทำการตั้งระบบเรดาร์เพื่อตรวจจับสิ่งมีชีวิตบนอากาศ
“ที่นี้ดูรกเกินไปเราน่าจะเผามันให้หมด”
“เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
ผมเดินไปหานายพลคนหนึ่งที่กำลังใช้ดาบตัดต้นไม้ออกเพื่อเป็นที่จอดของยาน แค่ตวัดดาบเบาต้นไม้ที่หนาจน 10 คนโอบก็ล่มลง
“แล้วเราจะอยู่ที่ป่านี่หรอครับผมว่าไปหาเมืองจะดีกว่านะ”
“ท่านนายพลตอนนี้เราพึ่งมาถึงโลกนี้ข้อมูลคือสิ่งที่เราต้องการ”
“แต่เวลาก็ไม่รอเรานะครับเจ้าชาย”
คนที่กำลังคุยกับเขาเป็นพลเอก คาร์ล แม้หน้าตาจะดูเป็นเด็กวัยรุ่นแต่นี้คือคนอายุ 102 ปี เป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 176 สูงที่สุดของคนที่เดินทางมา
ที่โลกชายคนที่ยิ่งใหญ่และมีทหารในบังคับบัญชากว่าล้านนาย แต่ที่นี้เขาต้องมาเป็นคนตัดไม้ร่วมกับนายทหารคนอื่นๆ ผมช่วยอะไรไม่ได้เพราะคนปกติเดินทางมาได้ยากทำให้พวกที่มามีแต่ระดับหัวกะทิและคนระดับสูงทั้งนั้น
แต่ในขณะที่กำลังจะเอายานลงเซ็นเซอร์ตรวจจับที่วางไว้รอบๆก็แจ้งเตือน ทุกคนรีบประจำตำแหน่งของตัวเอง รอบๆตัวผมก็มีนายทหาร 2 คนยืนอยู่
ผมรีบให้บลูที่อยู่ตรงไหล่เข้าไปในปากเพื่อเตรียมรับมือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นและเจ้าบลูที่เชื่อมต่อกับระบบต่างๆอยู่ก็รายงานผม
“170 230 242 สิ่งมีชีวิตปริศนากำลังเคลื่อนมาด้วยความเร็ว”
“มันคืออะไร”
“กล้องจับภาพไม่ทั..”
บลูยังรายงานไม่หมดประสาทสัมผัสของผมก็รับรู้ว่ามีบางอย่างกำลังล้อมพวกเราเอาไว้ ผมจึงหยิบดาบที่เหมือนกับอัศวินยุโรปออกมาส่วนคนอื่นๆก็เตรียมพร้อมกันหมดแล้ว
“นี้คือดินแดนของพวกเราเผ่าเราพวกเจ้าเป็นผู้บุกรุกดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้”
เสียงที่ไพเราะดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับมนุษย์ ผมยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะตอนนี้ผมกำลังได้เจอกับสิ่งมีชีวิตยอดนิยมของโลกแฟนตาซี
ความคิดเห็น