คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : สมาพันธรัฐโลก
2 เดือนต่อมา
ในที่สุดหลังการเดินทางอันยาวนานบนห้วงอวกาศผมก็มาถึงดาวแห่งหนึ่ง ซึ่งมันคือศูนย์กลางของสมาพันธรัฐหรือก็คือโลกนั้นเอง
“นี้คือยานไนเมเกนขอขออนุญาติลงจอดที่โลก”
“รับทราบเข้ามาที่เส้นทาง 23 ได้”
เสียงการสื่อสารของยานกับศูนย์ควบคุมการบินของโลก โดยมันเป็นสถานีอวกาศขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ทำหน้าที่สื่อสารให้ยานต่างๆบินในจุดของตัวเองไม่ชนกับลำอื่น เมืองที่ยานของผมลงจอดคือมหานครอัมสเตอร์ดัมหนึ่งในศูนย์กลางของโลก
ก่อนหน้านี้โลกมันเป็นเหมือนโลกที่พวกคุณอยู่แต่เรื่องมันเริ่มเมื่อปี 1893 ตอนนั้นมีผู้เดินทางมาที่โลกใบนี้และชายคนนั้นเกิดในดัตช์หรือเนเธอร์แลนด์
ด้วยความรู้ที่มีมากกว่าคนในยุคเดิมชายคนนั้นก็เปลี่ยนเนเธอร์แลนด์จากชาติเล็กๆให้กลายเป็นมหาอํานาจของโลก จนสามารถพิชิตสหรัฐและสร้างโลกใหม่ที่ไม่เหมือนโลกเดิม
ผมเองก็เป็นคนที่มาจากโลกก่อนแต่เกิดในปี 1945 หรือก็คือ 52 หลังจากชายคนนั้นเดินทางมา ซึ่งมันเป็นเวลาที่โลกได้เปลี่ยนไปจนไม่เหลืออะไรแล้ว
ขั้วอำนาจของโลกประกอบด้วย 3 ชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
1.เบเนลักซ์ อดีตเป็นเนเเธอร์แลนด์แต่ได้รวมอาณานิคมต่างๆเข้าเป็นจักรวรรดิ หนึ่งในนั้นคืออินโดนิเซียกำลังหลักที่ทำให้เนเเธอร์แลนด์ล้มชาติอื่นๆได้
2.โรมัน อดีตเป็นอิตาลีแต่ภายใต้การนำของจักรพรรดิวิตโตรีโอ ชาตินี้ก็สามารถรวบรวมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้และเป็นผู้ริเริ่มการก้าวข้ามความเป็นมนุษย์
3.เยอรมันไรซ์ ประเทศคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงของตาหนวดจิ๋มและเป็นหนึ่งในชาติที่มีผู้เดินทางมาจากโลกอนาคต
นี้คือ 3 ชาติที่เป็นแกนนำในการทำสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรสงครามเริ่มปี 1937และจบลงในปี 1938 เป็นการรบที่รวดเร็วมาก
เบเนลักซ์ที่มีผู้เดินทางมาจากอนาคตเต็มไปด้วยเครื่องจักรสงครามที่ทันสมัย จนสุดท้ายสงครามมันจบลงเมื่อเบเนลักซ์ใช้ระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ถล่มกรุงวอชิงตันจนราบเป็นหน้ากลอง
นั้นคือจุดสิ้นสุดของประชาธิปไตยบนโลกนี้มีแต่ลัทธิเผด็จการที่ปกคลุมไปที่โลกผู้คนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง มันเลวร้ายมาก เยอรมันมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ส่วนโรมันก็มีการจับผู้คนมาเป็นทาส ของพวกนี้กลายเป็นเรื่องปกติของโลกใบนี้ไปเลย
สมาพันธรัฐโลกที่ฟังดูสวยหรูก็มีแค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ได้รับเกียรติเป็นประชากรของมัน คนที่อ่อนแอจะถูกกำจัดดูได้จากการจัดตั้งเขตสงวนขึ้นทั่วโลก
โดยมันเป็นชื่อเรียกประเทศที่ถูกยุบไปเช่นในทวีปแอฟริกา ไม่มีประเทศอะไรเหลืออยู่เลยเพราะมันถูกเรียกว่าเขตสงวน
ยกตัวอย่างถ้าประเทศไหนโดนยุบก็จะถูกกองทัพของสมาพันธรัฐโลกเข้าไปจัดการ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือตำราเรียนถูกเผา คนมีความรู้จะถูกฆ่าทิ้งเพื่อไม่ให้ชาตินี้พัฒนาได้
โรงงานไฟฟ้าหรือเขื่อนถูกทำลายทิ้งเป็นการปล่อยให้คนพวกนี้อยู่กับสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ห้ามเข้าถึงเทคโนโลยีหรือความรู้ทั้งโลกตอนนี้เหลือประเทศไม่ถึง 50 ด้วยซ้ำ
แต่ตรงกันข้ามกับประเทศที่โดนยุบชาติที่เหลืออยู่แข็งแกร่งขึ้นทุกวันและอยู่สุขสบายมาก เทคโนโลยีต่างๆพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่โลกก็ไม่ได้เสื่อมโทรมเพราะพวงเรามีพลังงานใหม่อย่างฮาสน่า
สิ่งที่ถูกค้นพบบนดาวดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง ซึ่งมันสามารถใช่เป็นพลังงานทดแทนน้ำมันหรือก๊าซไปจนถึงเป็นพลังงานในการต่อสู้ ขนาดยานของผมที่เดินทางหลายล้านๆไมล์ยังใช้ฮาสน่าแข็งขนาดเท่าลูกบอลแค่ 20 ก้อนเท่านั้น มันไม่มีผลกระทบและปริมาณของฮาสน่าก็มีไม่จำกัดแค่พวกเราต้องนำยานไปขนส่งมันมาเท่านั้น
“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้าชายที่ดาวนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับแต่ท่านนายกดาวนั้นไม่น่าประทับใจเลย”
เมื่อลงจากยานก็มีชายคนหนึ่งรอต้อนรับผมอยู่ ซึ่งเขาคือนายกรัฐมนตรีของที่นี้ผมส่งแฟ้มสรุปข้อมูลให้ก่อนจะขึ้นรถไฟฟ้าความเร็วสูงไปที่หนึ่ง
สภาพของเมืองในยุโรปต้องบอกเลยว่าใหญ่โตมาก มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึกสูงหลายร้อยเมตรตั้งเรียงรายกันอยู่ ประชากรที่สมาพันธรัฐโลกยอมรับมีทั้งหมดประมาณ 12,000 ล้านคน
จำนวนเมืองจึงใหญ่มากแต่อากาศก็ไม่ได้เป็นมลภาวะ ไม่มีการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงที่สร้างแก๊สเรือนกระจกโลกของเราเข้มงวดเรื่องพวกนี้มากและด้วยความที่มันปกครองด้วยระบอบเผด็จการ
ถ้าใครฝ่าฝืนก็จะโดนประหารอย่างเดียว แต่ด้วยพลังงานฮาสน่าก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้พลังงานแบบเดิมแล้ว ตามท้องถนนก็มีรถที่ดูแปลกตามาก บางคันก็ลอยได้บางคนก็แล่นตามท้องถนน แต่รถพวกนี้ก็ใช้พลังงานฮาสน่าเหมือนกันหมด
รถไฟฟ้าก็เหมือนกันมันวิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 21,300 กม./ซม. แค่ไม่กี่วินาทีผมก็มาถึงจุดหมายแล้ว มันคือหนึ่งในศูนย์กลางของโลกเช่นกัน
ธงสวัสดิกะถูกชักขึ้นทั่วตึก ถ้าเป็นในโลกเดิมใครชักธงนี้ขึ้นคงโดนจับหรือโดนประณามไปแล้ว แต่ที่มันคือการบอกว่าดินแดนนี้เป็นอาณาเขตของเยอรมัน
มันคือกรุงเบอร์ลินเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรมาถึง 26 ล้านคน ผมเดินทางไปอาคารรัฐสภาไรซ์โดยมีคนนำทางเป็นชาวเยอรมัน ซึ่งพอผมเข้าไปในห้องหนึ่งก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนอนดูซีรี่ย์อยู่ เธอคนนี้คือคลาราลูกสาวของตาหนวดจิ๋ม
แต่หลังตาหนวดตายเธอก็ขึ้นเป็นผู้นำของเยอรมันและเธอเป็นหนึ่งในประธานของสมาพันธรัฐโลกที่มีแค่ 3 คน แต่ที่สำคัญกว่านั้นเธอเป็นผู้เดินทางมาจากโลกเดิมเหมือนผม
“ตาแก่การเดินทางเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันว่าฉันยังไม่แก่นะคุณยาย”
ผมนั่งลงข้างๆเธอ ซึ่งแม้ว่าคลาราจะมีหน้าตาเหมือนเด็กสาววัยรุ่น อายุจริงๆของเธอจะ 60 แล้ว แต่สำหรับผู้วิวัฒนาการมันถือว่าน้อยมากเพราะเราไม่แก่หรือไม่ตายจากอายุขัย
“ฉันต้องการให้เธอช่วย”
“ที่ดาวนั้นงั้นหรอมันมีอะไร”
“คนที่นั้นแข็งแกร่งมากฉันอยากให้เธอส่งมันชไตน์ไปกับฉัน”
“หึ!..”
เธอหันมามองผมเหมือนกำลังตกใจว่าที่นั้นหนักขนาดนั้น ผมจึงต้องเล่าเรื่องที่เจอมาให้ฟัง นี้ทำให้คลาราถึงกับกลั้นขำไม่อยู่เธอหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าผมถูกเตะจนสลบ
นี้ทำให้ผมรู้สึกอายเล็กน้อย แต่ความช่วยเหลือจากเธอถือว่าสำคัญมาก เมื่อโลกนั้นมีคนที่เก่งผมก็ต้องนำชายที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาพันธรัฐโลกไปด้วย
“ฉันให้เขาไปได้แต่นายต้องให้ 20% ของดาวกับเรา”
“10% ฉันให้ได้แค่นี้ถ้าเธอไม่รับอีก 2 ปีรามก็จะเดินทางไปฉันแค่อยากจัดการให้เร็วๆเท่านั้น”
“นายแน่ใจว่ารอได้”
ผมไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เลยเธอเหมือนมองความคิดของผมได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อก่อนเธอก็เอาความสามารถอ่านใจมาเล่นงานผม ตอนนี้ผมมีเจ้าบลูแล้วเธอไม่น่าจะอ่านใจได้แค่อีกฝ่ายก็ยังรับมือยากอยู่ดี
“ก็ได้ฉันรบข้อเสนอเธอ”
“ทุกอย่างมีราคาต้องจ่ายนายฉลาดเหมือนเดิม”
“แล้วลูกชายเราล่ะ”
“เขาอยู่ที่ดาว U-6 อีก 3 ปีถึงจะกลับมา”
ผมรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เจอหน้าลูกชาย ซึ่งคลาราเป็นหนึ่งในภรรยาของผมคืนนี้ผมจึงนอนอนพักอยู่นี้ก่อนที่จะออกเดินทางไปดูการทดลองทาสเผ่าปีศาจที่จับมาได้
ความคิดเห็น