คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ไม่เหมือนที่คิด
ในขณะที่ผมกำลังเดินลงไปเหล่าแม่ชีก็ลงไปที่สนามเพื่อห้ามเจ้าหญิง เมื่อคนอื่นเผลอผมก็แอบหยิบหลอดแก้วขนาดเล็กที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาดื่ม
มันคือ BOGยาเสริมเพิ่มพลังกายชั่วคราวมันจะทำให้แข็งแกร่งขึ้นอีก เพิ่มโอกาสชนะให้กับผมมากขึ้นและในหัวของผมก็มีภาพจำลองการต่อสู้ที่บลูทำออกมา
“ทำไมมันดูไม่ดีเลยเราจะชนะได้ไหม”
“ผมจะไม่ตอบคำถามนายท่านเพราะมันอาจทำให้เสียกำลังใจได้ แต่ขอบอกว่านายท่านอ่อนแอมาก”
“ขอบใจมากไม่เสียกำลังเลยจริงๆ”
ก่อนจะเริ่มการประลองผมก็เริ่มลังเลแล้วว่าจะหยิบดาบอีกเล่มมาไหมเพราะผมมีทั้งคาตะนะและดาบยุโรป แต่พมคิดดูผมก็ใช่แค่ดาบยุโรปเท่านั้น
“ฉันของเริ่มก่อนแล้วกัน”
ผมพุ่งเข้าไปพร้อมกับตวัดดาบเป็นแนวนอนเพื่อจะลองดูก่อน แต่อีกฝ่ายกับป้องกันได้ง่ายๆ แถมยังฟันสวนมาอีกทำให้ผมต้องยกดาบขึ้นมาป้องกัน
“อะ..อ๊าง!”
ช่วงที่ผมกำลังโฟกัสอยู่กับดาบไวโอเล็ตก็เตะเข้าที่ลำตัวของผมนี้เป็นความเจ็บปวดที่ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเจอเลยและนั้นคือความทรงจำสุดท้ายที่เหลืออยู่ก่อนที่ผมจะรู้สึกตัวอีกที่ยาน
“บลูมันเกิดอะไรขึ้น”
“นายท่านโดนเตะจนหมดสตินี้คือภาพหลังจากนั้น”
บลูแสงภาพหลังจากที่ผมโดนเตะไป ซึ่งคนทั้งสนามถึงกับเงียบไปสักพักก่อนที่ผู้ติดตามของผมจะวิ่งลงไปดูและพากลับมา
“นี้มันอะไรกัน”
ถึงจะรู้ว่าสู้ยากแต่ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าจะแพ้ง่ายขนาดนี้ แถมยังสู้กันไม่ถึง 2 วินาทีด้วยซ้ำแล้วแบบนี้ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ผมยิ่งอายขึ้นไปอีกเมื่อเห็นหน้าตาของตัวเองตอนโดนเตะมันดูไม่ได้เลย
ตอนที่โทมัสแพ้ยังเป็นการแพ้ที่มีเกียรติแล้วอันนี้คืออะไรโดนเตะที่เดียวสลบ ไม่เรียกว่าตัวประกอบจะเรียกว่าอะไรได้อีก
“บลูทำไมแกไม่บอกฉันว่าเธอจะเตะมา”
แต่ทันใดนั้นผมก็คิดข้ออ้างได้ ซึ่งมันก็คือเจ้าบลูที่เป็นคนวิเคราะห์การต่อสู้และหาทางชนะให้ ภาพและสิ่งที่เจ้านี้บอกว่าไม่ได้พูดถึงเรื่องการโดนเตะเลย
“ผมไม่สามารถนำการคาดการณ์ทั้งหมดมาได้เพราะนายท่านสามารถแพ้ได้ล้านล้านๆรูปแบบ”
“ฉันอ่อนแอขนาดนั้นหรอแล้วก่อนหน้านี้ฉันก็เคยฝึกมาแล้วไม่ใช่หรอ”
“นายท่านจำตอนที่จับดาบครั้งล่าสุดได้ไหม”
“ตะ..ตอน..24ปีก่อนมั้ง”
ผมพูดแบบไม่แน่ใจเพราะมันก็นานมาแล้ว เจ้าบลูจึงเริ่มนำข้อมูลต่างๆออกมา
“นายท่านเคลื่อนไหวช้าไปและไม่ระวังกระโจมตีจุดอื่นแถมยั…”
บลูเริ่มเปิดข้อผิดผลาดของผมออกมา ซึ่งมันมีมากกกว่า 170 จุดนี้แค่ส่วนใหญ่เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น ถ้าเป็นคนอื่นอาจนำไปปรับปรุงแต่มันเยอะจนทำให้ผมท้อจึงไปคุยเรื่องอื่นแทนเพราะคงเอาดีด้านการต่อสู้ไม่ได้หรือไม่ผมก็คงต้องหาเวลาไปฝึกมันเหมือนคนอื่นแต่ไม่ใช่เวลานี้แน่นอน
“วงเวทย์พวกนี้โผล่ขึ้นมาได้ยังไง”
“ผมไม่สามารถวิเคราะห์ออกมาได้แต่บทสวดของคนพวกนี้เหมือนกันมาก”
“งั้นหมายความว่าพวกเขาแค่พูดออกมาก็ใช้ความสามารถได้แล้วหรอ”
ผมมองไปที่ข้อมูลการร่ายเวทที่คนพวกนี้ใช้โดยทุกครั้งที่จะใช้ไม่ว่าจะเป็นเวทมนตร์อันไหนก็จะต้องใช้คำว่า “ขอพรพระผู้เจ้าจงมอบพลัง” คำต่อท้ายจะเป็นการขอพลังต่างๆ
“ดูๆแล้วเวทมนตก็ไม่ได้ซับซ้อนและรุนแรงอะไรเลย”
“แต่นายท่านอย่าลือว่าคนพวกนี้ไม่ใช่จอมเวท”
“จริงด้วย”
เจ้าบลูโชว์ภาพของชายคนหนึ่งขึ้นมานั้นก็คือเจ้าชายโรแกน ผู้ที่ได้รับฉายาว่าแบทเทิลเมจที่เก่งที่สุดในโลก ตามข่าวที่รวมมาได้เวทที่ชายคนนี้ปล่อยออกมารุนแรงมากจนทำลายเมืองเล็กๆได้เลย
แต่ผมไม่ได้กลัวเพราะที่โลกของเราก็มีคนที่ทำลายเมืองได้ผมเองก็น่าจะทำได้ แต่ด้านการต่อสู้กับคนที่เก่งหรือมีระดับใกล้เคียงผมดูจะอ่อนแอมาก
“กลับโลกดีกว่า”
เมื่อรู้ว่าไม่ไหวผมก็จะกลับไปที่โลกก่อนเพื่อไปนำของมาเพิ่ม ตอนนี้อยู่ไปก็ดูจะไม่ได้อะไรและที่สำคัญคือผมอายจนไม่กล้าไปเจอหน้าใครแล้ว
ขนาดการแจ้งให้เดินทางกลับผมยังไม่ออกจากห้องแต่ให้บลูเชื่อมต่อกับคนอื่นด้วยพลังจิตแทน นี้ทำให้ยานของพวกผมบินกลับไปที่โลก
ภายในพระราชวัง
“เจ้าทำอะไรลงไป”
เสียงของพระราชาเฟริซิกดังขึ้น คนที่กำลังโดนดุก็เป็นเจ้าหญิงไวโอเล็ตที่ฝ่าฝืนคำสั่งออกไปโดยพละการ
“มันเป็นการประลองข้าไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นเธอออกไปในขณะที่กำลังมีพระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่”
“แต่ข้าก็จัดการเจ้าพวกนั้นได้ท่านพ่อดูสิพวกมันเผ่นหนีไปแล้ว”
คำพูดนี้ทำให้ผู้คนในห้องหัวเราะออกมา แม้แต่ตัวราชาก็ยังอดขำไม่ได้พวกเขาทุกคนเฝ้ามองการประลองและไม่มีใครคิดว่าคนที่น่าจะเก่งที่สุดจะอ่อนแอจนแพ้ง่ายๆแบบนี้
“ข้าว่าเราต้องลงโทษเจ้าหญิง”
มาร์ควิสไครีย์เดินมาพร้อมกับกล่วมโทษไปที่ไวโอเล็ต ทำให้คนทั้งห้องหันมามองขุนนางแก่นี้ที่เหมือนจะยังไปทางคนพวกนั้น เรื่องที่ทำให้ทุกคนคิดแบบนั้นก็เป็นเพราะชายคนนี้ได้ประโยชน์จากคนเหล่านี้
“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมถึงต้องโดนลงโทษ”
“สิ่งองค์หญิงทำไปนั้นอาจทำให้คนเหล่านั้นไม่พอใจและยกทัพมาทำสงครามกับพวกเราได้ แถมท่านยังทำให้พระผู้เป็นเจ้าตกอยู่ในอันตรายตามกฏของเราองค์หญิงต้องโดนลงโทษ”
“มากไปแล้วเธอไม่ได้ทำอะไรผิดขนาดนั้น”
วิด้าผู้เป็นพี่ใหญ่เดินมาปกป้องน้องสาวของเขาร่วมกับผู้กล้าจูเลีย นี้ทำให้องค์หญิงไม่โดนลงโทษแต่จากการประลองครั้งนี้ทุกคนก็ได้รู้ถึงพลังของคนจากดาวอื่นแล้วว่าน่ากลัวแค่ไหน (ไม่นับพระเอก)
พวกเขาคุยกันถือความสามารถประหลาดนั้นและหาทางรับมือ แต่หลังการประชุมในห้องก็เหลือแค่ราชาและราชินีเท่านั้น
“ทำไมเจ้าถึงไม่ให้วิด้าครองบัลลังก์”
ราชาเฟริซิกถามออกมาเพราะก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาเป็นคนบอกให้จูเลียแต่งกันกับไวโอเล็ตเพื่อเป็นราชาแทนที่จะเป็นวิด้า
เขาก็ไม่คิดอะไรแต่มาตอนนี้ที่ไวโอเล็ตเป็นราชาไม่ได้เธอก็บอกให้โรแกนเป็นราชาแทนนี้ทำให้เขารู้ว่าเธอไม่อยากให้วิด้าครองราช
“เจ้าเห็นอะไรในคำทำนายกันแน่”
“ข้าบอกท่านไมได้แต่เราจะเจอกับศึกหนักแน่นอน”
“ผู้มาเยือนจากดวงดาวงั้นหรอ”
แม้คนพวกนั้นจะน่ากลัวแต่ราชินีส่ายหัวเพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าใช่คนพวกนี้ไหม นี้ทำให้ราชาเฟริซิกรู้สึกสงสัยมากว่าคำทำนายมันคืออะไร ซึ่งภรรยาของเขาเป็นคนที่ได้เห็นมันแบบเต็มๆ ต่างกับตัวเขาและสันตะปาปาที่เห็นไม่กี่ส่วนจนคิดว่าเป็นสงครามกับจอมมาร
คำทำนายแบบเต็มต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้คนรู้ไม่สามารถบอกได้ แต่มันก็พอทำให้เขาได้รู้ว่าจากนี้ไปสงครามใหญ่กำลังใกล้เข้ามา
ในห้องอาหาร
“พอข้าเตะเจ้านั้นไปมันก็สลบไปเลย”
ไวโอเล็ตกำลังคุยถึงการประลองให้เหล่าพี่ชายของเธอฟัง มันสร้างเสียงหัวเพราะให้ทุกคน นี้เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าต่อให้คนพวกนั้นยิงใหญ่มาจากไหนก็ไม่เกินมือพวกเขา
“น่าเสียดายที่ท่านแม่ให้ข้าไปส่งจอมมารถ้าข้าอยู่คงได้ลองบ้างแล้ว”
วิด้ารู้สึกเสียดายมากที่เขาไมได้อยู่ด้วย
“ไม่ต้องถือมือท่านพี่ข้าก็เอาชนะมันได้แล้ว”
“แต่ครั้งหน้าที่พวกมันกลับมาเจ้าก็ต้องระวังตัวไว้ด้วยนะ”
แม้ครั้งนี้จะชนะแต่วิด้าก็มั่นใจว่ามีคนที่เก่งกว่านั้น เขากังวลว่าน้องสาวตัวเองจะโดนพวกมันทำร้ายได้ อีกเรื่องคือเขากังวลเรื่องมาร์ควิสไครีย์ที่ดูจะสนิทสนมกับคนพวกนั้นมากเกินไป
“ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องพวกเธอเอง”
สำหรับวิด้าแล้วนี้คือครอบครัวที่สำคัญของเขาถ้าคนพวกนั้นคิดร้ายก็ต้องข้ามศพเขาไปก่อน ซึ่งทุกคนก็ไว้ใจพี่ชายคนนี้มากเพราะเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ขนาดไวโอเล็ตที่พึ่งขึ้นเป็นระดับแพลทินัมยังเอาชนะคนพวกนั้นได้วิด้าที่เป็นขั้นสุดท้ายไม่มีอะไรร้ายเขาได้แน่นอน
(มีคนภาพตัด)
ความคิดเห็น