ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การมาถึงของตัวร้ายบนโลกแฟนตาซี

    ลำดับตอนที่ #10 : ไม่เหมือนที่คิด

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 66


    ในขณะที่ผมกำลังเดินลงไปเหล่าแม่ชีก็ลงไปที่สนามเพื่อห้ามเจ้าหญิง เมื่อคนอื่นเผลอผมก็แอบหยิบหลอดแก้วขนาดเล็กที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาดื่ม 

    มันคือ BOGยาเสริมเพิ่มพลังกายชั่วคราวมันจะทำให้แข็งแกร่งขึ้นอีก เพิ่มโอกาสชนะให้กับผมมากขึ้นและในหัวของผมก็มีภาพจำลองการต่อสู้ที่บลูทำออกมา

    “ทำไมมันดูไม่ดีเลยเราจะชนะได้ไหม”

    “ผมจะไม่ตอบคำถามนายท่านเพราะมันอาจทำให้เสียกำลังใจได้ แต่ขอบอกว่านายท่านอ่อนแอมาก”

    “ขอบใจมากไม่เสียกำลังเลยจริงๆ”

    ก่อนจะเริ่มการประลองผมก็เริ่มลังเลแล้วว่าจะหยิบดาบอีกเล่มมาไหมเพราะผมมีทั้งคาตะนะและดาบยุโรป แต่พมคิดดูผมก็ใช่แค่ดาบยุโรปเท่านั้น

    “ฉันของเริ่มก่อนแล้วกัน”

    ผมพุ่งเข้าไปพร้อมกับตวัดดาบเป็นแนวนอนเพื่อจะลองดูก่อน แต่อีกฝ่ายกับป้องกันได้ง่ายๆ แถมยังฟันสวนมาอีกทำให้ผมต้องยกดาบขึ้นมาป้องกัน

    “อะ..อ๊าง!”

    ช่วงที่ผมกำลังโฟกัสอยู่กับดาบไวโอเล็ตก็เตะเข้าที่ลำตัวของผมนี้เป็นความเจ็บปวดที่ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเจอเลยและนั้นคือความทรงจำสุดท้ายที่เหลืออยู่ก่อนที่ผมจะรู้สึกตัวอีกที่ยาน

    “บลูมันเกิดอะไรขึ้น”

    “นายท่านโดนเตะจนหมดสตินี้คือภาพหลังจากนั้น”

    บลูแสงภาพหลังจากที่ผมโดนเตะไป ซึ่งคนทั้งสนามถึงกับเงียบไปสักพักก่อนที่ผู้ติดตามของผมจะวิ่งลงไปดูและพากลับมา

    “นี้มันอะไรกัน”

    ถึงจะรู้ว่าสู้ยากแต่ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าจะแพ้ง่ายขนาดนี้ แถมยังสู้กันไม่ถึง 2 วินาทีด้วยซ้ำแล้วแบบนี้ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ผมยิ่งอายขึ้นไปอีกเมื่อเห็นหน้าตาของตัวเองตอนโดนเตะมันดูไม่ได้เลย

    ตอนที่โทมัสแพ้ยังเป็นการแพ้ที่มีเกียรติแล้วอันนี้คืออะไรโดนเตะที่เดียวสลบ ไม่เรียกว่าตัวประกอบจะเรียกว่าอะไรได้อีก 

    “บลูทำไมแกไม่บอกฉันว่าเธอจะเตะมา”

    แต่ทันใดนั้นผมก็คิดข้ออ้างได้ ซึ่งมันก็คือเจ้าบลูที่เป็นคนวิเคราะห์การต่อสู้และหาทางชนะให้ ภาพและสิ่งที่เจ้านี้บอกว่าไม่ได้พูดถึงเรื่องการโดนเตะเลย

    “ผมไม่สามารถนำการคาดการณ์ทั้งหมดมาได้เพราะนายท่านสามารถแพ้ได้ล้านล้านๆรูปแบบ”

    “ฉันอ่อนแอขนาดนั้นหรอแล้วก่อนหน้านี้ฉันก็เคยฝึกมาแล้วไม่ใช่หรอ”

    “นายท่านจำตอนที่จับดาบครั้งล่าสุดได้ไหม”

    “ตะ..ตอน..24ปีก่อนมั้ง”

    ผมพูดแบบไม่แน่ใจเพราะมันก็นานมาแล้ว เจ้าบลูจึงเริ่มนำข้อมูลต่างๆออกมา

    “นายท่านเคลื่อนไหวช้าไปและไม่ระวังกระโจมตีจุดอื่นแถมยั…”

    บลูเริ่มเปิดข้อผิดผลาดของผมออกมา ซึ่งมันมีมากกกว่า 170 จุดนี้แค่ส่วนใหญ่เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น ถ้าเป็นคนอื่นอาจนำไปปรับปรุงแต่มันเยอะจนทำให้ผมท้อจึงไปคุยเรื่องอื่นแทนเพราะคงเอาดีด้านการต่อสู้ไม่ได้หรือไม่ผมก็คงต้องหาเวลาไปฝึกมันเหมือนคนอื่นแต่ไม่ใช่เวลานี้แน่นอน

    “วงเวทย์พวกนี้โผล่ขึ้นมาได้ยังไง”

    “ผมไม่สามารถวิเคราะห์ออกมาได้แต่บทสวดของคนพวกนี้เหมือนกันมาก”

    “งั้นหมายความว่าพวกเขาแค่พูดออกมาก็ใช้ความสามารถได้แล้วหรอ”

    ผมมองไปที่ข้อมูลการร่ายเวทที่คนพวกนี้ใช้โดยทุกครั้งที่จะใช้ไม่ว่าจะเป็นเวทมนตร์อันไหนก็จะต้องใช้คำว่า “ขอพรพระผู้เจ้าจงมอบพลัง” คำต่อท้ายจะเป็นการขอพลังต่างๆ

    “ดูๆแล้วเวทมนตก็ไม่ได้ซับซ้อนและรุนแรงอะไรเลย”

    “แต่นายท่านอย่าลือว่าคนพวกนี้ไม่ใช่จอมเวท”

    “จริงด้วย”

    เจ้าบลูโชว์ภาพของชายคนหนึ่งขึ้นมานั้นก็คือเจ้าชายโรแกน ผู้ที่ได้รับฉายาว่าแบทเทิลเมจที่เก่งที่สุดในโลก ตามข่าวที่รวมมาได้เวทที่ชายคนนี้ปล่อยออกมารุนแรงมากจนทำลายเมืองเล็กๆได้เลย

    แต่ผมไม่ได้กลัวเพราะที่โลกของเราก็มีคนที่ทำลายเมืองได้ผมเองก็น่าจะทำได้ แต่ด้านการต่อสู้กับคนที่เก่งหรือมีระดับใกล้เคียงผมดูจะอ่อนแอมาก

    “กลับโลกดีกว่า”

    เมื่อรู้ว่าไม่ไหวผมก็จะกลับไปที่โลกก่อนเพื่อไปนำของมาเพิ่ม ตอนนี้อยู่ไปก็ดูจะไม่ได้อะไรและที่สำคัญคือผมอายจนไม่กล้าไปเจอหน้าใครแล้ว

    ขนาดการแจ้งให้เดินทางกลับผมยังไม่ออกจากห้องแต่ให้บลูเชื่อมต่อกับคนอื่นด้วยพลังจิตแทน นี้ทำให้ยานของพวกผมบินกลับไปที่โลก

     

    ภายในพระราชวัง

    “เจ้าทำอะไรลงไป”

    เสียงของพระราชาเฟริซิกดังขึ้น คนที่กำลังโดนดุก็เป็นเจ้าหญิงไวโอเล็ตที่ฝ่าฝืนคำสั่งออกไปโดยพละการ 

    “มันเป็นการประลองข้าไม่ได้ทำอะไรผิด”

    “ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นเธอออกไปในขณะที่กำลังมีพระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่”

    “แต่ข้าก็จัดการเจ้าพวกนั้นได้ท่านพ่อดูสิพวกมันเผ่นหนีไปแล้ว”

    คำพูดนี้ทำให้ผู้คนในห้องหัวเราะออกมา แม้แต่ตัวราชาก็ยังอดขำไม่ได้พวกเขาทุกคนเฝ้ามองการประลองและไม่มีใครคิดว่าคนที่น่าจะเก่งที่สุดจะอ่อนแอจนแพ้ง่ายๆแบบนี้

    “ข้าว่าเราต้องลงโทษเจ้าหญิง”

    มาร์ควิสไครีย์เดินมาพร้อมกับกล่วมโทษไปที่ไวโอเล็ต ทำให้คนทั้งห้องหันมามองขุนนางแก่นี้ที่เหมือนจะยังไปทางคนพวกนั้น เรื่องที่ทำให้ทุกคนคิดแบบนั้นก็เป็นเพราะชายคนนี้ได้ประโยชน์จากคนเหล่านี้

    “ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมถึงต้องโดนลงโทษ”

    “สิ่งองค์หญิงทำไปนั้นอาจทำให้คนเหล่านั้นไม่พอใจและยกทัพมาทำสงครามกับพวกเราได้ แถมท่านยังทำให้พระผู้เป็นเจ้าตกอยู่ในอันตรายตามกฏของเราองค์หญิงต้องโดนลงโทษ”

    “มากไปแล้วเธอไม่ได้ทำอะไรผิดขนาดนั้น”

    วิด้าผู้เป็นพี่ใหญ่เดินมาปกป้องน้องสาวของเขาร่วมกับผู้กล้าจูเลีย นี้ทำให้องค์หญิงไม่โดนลงโทษแต่จากการประลองครั้งนี้ทุกคนก็ได้รู้ถึงพลังของคนจากดาวอื่นแล้วว่าน่ากลัวแค่ไหน (ไม่นับพระเอก)

    พวกเขาคุยกันถือความสามารถประหลาดนั้นและหาทางรับมือ แต่หลังการประชุมในห้องก็เหลือแค่ราชาและราชินีเท่านั้น

    “ทำไมเจ้าถึงไม่ให้วิด้าครองบัลลังก์”

    ราชาเฟริซิกถามออกมาเพราะก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาเป็นคนบอกให้จูเลียแต่งกันกับไวโอเล็ตเพื่อเป็นราชาแทนที่จะเป็นวิด้า 

    เขาก็ไม่คิดอะไรแต่มาตอนนี้ที่ไวโอเล็ตเป็นราชาไม่ได้เธอก็บอกให้โรแกนเป็นราชาแทนนี้ทำให้เขารู้ว่าเธอไม่อยากให้วิด้าครองราช

    “เจ้าเห็นอะไรในคำทำนายกันแน่”

    “ข้าบอกท่านไมได้แต่เราจะเจอกับศึกหนักแน่นอน”

    “ผู้มาเยือนจากดวงดาวงั้นหรอ”

    แม้คนพวกนั้นจะน่ากลัวแต่ราชินีส่ายหัวเพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าใช่คนพวกนี้ไหม นี้ทำให้ราชาเฟริซิกรู้สึกสงสัยมากว่าคำทำนายมันคืออะไร ซึ่งภรรยาของเขาเป็นคนที่ได้เห็นมันแบบเต็มๆ ต่างกับตัวเขาและสันตะปาปาที่เห็นไม่กี่ส่วนจนคิดว่าเป็นสงครามกับจอมมาร

    คำทำนายแบบเต็มต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้คนรู้ไม่สามารถบอกได้ แต่มันก็พอทำให้เขาได้รู้ว่าจากนี้ไปสงครามใหญ่กำลังใกล้เข้ามา

     

    ในห้องอาหาร

    “พอข้าเตะเจ้านั้นไปมันก็สลบไปเลย”

    ไวโอเล็ตกำลังคุยถึงการประลองให้เหล่าพี่ชายของเธอฟัง มันสร้างเสียงหัวเพราะให้ทุกคน นี้เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าต่อให้คนพวกนั้นยิงใหญ่มาจากไหนก็ไม่เกินมือพวกเขา

    “น่าเสียดายที่ท่านแม่ให้ข้าไปส่งจอมมารถ้าข้าอยู่คงได้ลองบ้างแล้ว”

    วิด้ารู้สึกเสียดายมากที่เขาไมได้อยู่ด้วย 

    “ไม่ต้องถือมือท่านพี่ข้าก็เอาชนะมันได้แล้ว”

    “แต่ครั้งหน้าที่พวกมันกลับมาเจ้าก็ต้องระวังตัวไว้ด้วยนะ”

    แม้ครั้งนี้จะชนะแต่วิด้าก็มั่นใจว่ามีคนที่เก่งกว่านั้น เขากังวลว่าน้องสาวตัวเองจะโดนพวกมันทำร้ายได้ อีกเรื่องคือเขากังวลเรื่องมาร์ควิสไครีย์ที่ดูจะสนิทสนมกับคนพวกนั้นมากเกินไป

    “ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องพวกเธอเอง”

    สำหรับวิด้าแล้วนี้คือครอบครัวที่สำคัญของเขาถ้าคนพวกนั้นคิดร้ายก็ต้องข้ามศพเขาไปก่อน ซึ่งทุกคนก็ไว้ใจพี่ชายคนนี้มากเพราะเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ขนาดไวโอเล็ตที่พึ่งขึ้นเป็นระดับแพลทินัมยังเอาชนะคนพวกนั้นได้วิด้าที่เป็นขั้นสุดท้ายไม่มีอะไรร้ายเขาได้แน่นอน

    (มีคนภาพตัด)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×