ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เรื่องไม่คาดฝัน
  ยามเช้ามาถึงพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุกเรือนจ้อยที่ส่งเสียงดังลั่นปลุกวิลให้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล เขาลุกขึ้นเก็บที่นอน ปิดเครื่องปรับอากาศ ไปหยิบเสื้อผ้าออกจากลิ้นชักก่อนที่จะเดินไปเอาแว่นกรอบเหลี่ยมกับกระเป๋าเงินของเขาแล้วออกจากห้องไปอาบน้ำ
  วันนี้เป็นวันเสาร์แรกของช่วงปิดเทอม วิลมีเรียนพิเศษภาษาจีนตอนเก้าโมงถึงเที่ยงและเรียนคอมพิวเตอร์ตอนบ่ายโมงจนถึงสี่โมงเย็น เขาออกจากบ้านตั้งแต่แปดโมงครึ่งเพื่อไปให้ทันเวลาเรียน
  ภาษาจีนเป็นวิชาที่วิลไม่ชอบเอาเสียเลย ในตอนแรกมันก็สนุกดีอยู่หรอกที่เรียนได้ดีกว่าเพื่อนร่วมห้องเนื่องจากต้นตระกูลเขามาจากเมืองจีนมันจึงเป็นภาษาที่เขามีความรู้พื้นฐานมาบ้างแล้ว แต่พอเรียนไปเรียนมามันก็ยากขึ้นหนักขึ้นจนเขาเริ่มเบื่อ เวลาสอบเขาก็ได้คะแนนแย่ลงเรื่อยๆโดยที่เขาไม่สน มันอาจจะดูแปลกจากนิสัยแบบเทพๆของเขาที่ต้องทำอะไรให้มันเข้าขั้น “พระเจ้า” เข้าไว้เพียงแต่ครั้งนี้เขาเบื่อจริงๆจนไม่อยากจะเรียนแล้วด้วยซ้ำ
  ในทางกลับกันเมื่อภาคบ่ายมาถึง เขาก็หันไปมีความสุขกับวิชาคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนกับอาจารย์คนโปรด วิลถนัดเรื่องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากจนเข้าขั้นเทพตามเคย เขาทำงานวิชานี้ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่างจนหาที่ติไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาได้เรียนวิชานี้ เวลาเหมือนจะเดินไปเร็วกว่าเดิมมาก เขาไม่อยากให้มันจบลงเลยและอยากจะเรียนบ่อยๆ
  เมื่อสิ้นเสียงออดเลิกเรียนตอนเวลาสี่โมงเย็น วิลก็เดินเท้ากลับบ้านอย่างที่เขาทำเป็นประจำ บ้านของเขาอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก การเดินทางจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อไปให้ถึงบ้าน
  ทันทีที่กระเป๋าเป้ถูกถอดลง วิลก็เดินไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เครื่องประจำทันที เขาต่ออินเตอร์เน็ตแล้วจึงเข้าไปสำรวจนิยายทางอินเตอร์เน็ตของเขาก่อนที่จะเปิดโปรแกรมสนทนาทางอินเตอร์เน็ตขึ้นมา เขานั่งไล่รายชื่อเพื่อนที่เขามีและเมื่อเห็นว่ารอยส์เพื่อนสนิทออนไลน์อยู่เขาจึงเข้าไปคุยด้วยทันที
  การพูดคุยดำเนินต่อไปอีกนานตามแบบฉบับของเขา วิลเป็นคนที่เรียกได้ว่าพูดมากที่สุดคนหนึ่งในการสนทนาทางอินเตอร์เน็ต ในบางครั้งเขาจะพูดจนคู่สนทนาเบื่อไปเลย ก็มีเพียงแค่เพื่อนๆที่เขารู้จักเป็นอย่างดีเท่านั้นที่เขายังคงคุยได้เรื่อยๆไม่ขาดสายและคู่สนทนาไม่เบื่อเพราะมันเป็นสิ่งที่ทุกคนชินตาไปแล้ว และอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาก็คือเขาสามารถทำตัวให้เป็นจุดสนใจของทุกคนได้อย่างน่าอัศจรรย์
  จนกระทั่งเวลาประมาณหกโมงกว่าๆ วิลได้รับแจ้งจากโปรแกรมของเขาว่ามีผู้อื่นแอดเมล์ของเขาเข้ามาคุยและเขารู้ได้ทันทีว่าเป็นหนึ่งในนักเขียนที่เขาไปเขียนโพสต์แปะเอาไว้ให้มาคุยด้วย เขาไม่ได้สนใจเท่าไหร่เพียงแต่สั่งให้โปรแกรมจัดเก็บไว้ในรายชื่อคู่สนทนาในส่วนของ “บุคคลทั้วไป”
  ผ่านมาไม่นานนักเขียนเมื่อครู่ได้เข้ามากทักทายเขา วิลจึงหันไปพูดคุยด้วยตามารยาท
  “สวัสดีครับ” เขาตอบกลับ
  “นี่คุณวิล-ไวท์หรือเปล่าคะ”
  “ครับ นั่นคือนามปากกาของผมเองครับ”
  “นี่เชอร์รี่นะ จำได้หรือป่าวเอ่ย”
  “เอ่อ”เขาไม่ค่อยอยากตอบไปว่าจำไม่ได้หรอก เพียงแต่ว่านักเขียนที่เขาส่งคำชวนไปนั้นมีมากมายเกือบร้อยคน อีกอย่างนี่เป็นคำถามที่เขาเจอบ่อยมากเวลาคุยกับเพื่อนใหม่ที่เป็นนักเขียนจนชักจะเอียนเสียแล้ว
  “เชอร์รี่ที่เธอปส่งคำชวนไปให้ไง”และนั่นก็เป็นอีกคำพูดที่เขาเอียนพอๆกัน
  “ครับ ผมคิดว่าผมจำได้นะ”ตอบพลางพยายามเรียกความจำที่เขาก็รู้ดีอยู่ว่าไม่มีอยู่ในหัวแล้ว
 
  “จำไม่ได้ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ”
  “ครับ”รู้สึกโล่งอกขึ้นเยอะ
  “คุณวิล-ไวท์ชื่ออะไรหรอคะ”
  “อ๋อ ผมชื่อวิลครับ แล้วคุณหละครับ”
  “แหม ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ค่ะ ฉันชื่อเชอร์รี่นั่นแหละ”
  “หรอครับ ชื่อน่ากินดีนะครับ”เป็นเพราะอะไรไม่รู้ แต่เขาเริ่มรู้สึกอยากหยอกเพื่อนคนนี้ดูสักหน่อย
  “อุ้ย จริงหรอ”
  “ครับ ขอกัดคำนึงได้มะ อิอิ”
  “เดี๋ยวก็ให้จริงๆหรอก”
  ตอนนี้วิลชักจะสนุกขึ้นมาแล้วสิ จะเป็นอะไรไปถ้าเขาจะกระชับความสัมพันธ์กับเธอให้แนบแน่นมากขึ้น มันคงจะดีไม่น้อยที่จะมีเพื่อนขี้เล่นแบบนี้อักสักคน
  “เชอร์รี่แต่งเรื่องอะไรหรอ”
  “ก็เรื่องรักๆใคร่ๆอะจ้า อย่าไปสนใจเลย”
  “หรอครับ”
  “ใช่แล้ว เชอร์รี่พูดตามตรงนะ เชอร์รี่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันปัญญาอ่อนอะ”คราวนี้เด็กสาวทำให้วิลงงไปเลย ก็ทั้งๆที่เธอแต่งเรื่องประเภทนี้แต่เธอกลับคิดว่ามันปัญญาอ่อนซะย่างนั้น
  “แล้ววิลเรียนอยู่ชั้นไหนหรอ”เธอถามต่อทันทีทำให้วิลไม่มีเวลามานั่งงงต่อ เขาจึงได้แต่กลับมาตอบคำถามอีกครั้ง
  “อยู่ชั้นม.2 ครับ”
  “ตายจริง งั้นก็รุ่นน้องเชอร์รี่หละสิ อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”
  “13 ครับ”
  “ว้ายตายแล้ว เค้าแกกว่าตั้งสองปีแหนะ”
  “ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ครับ”
  “ก็ตอนนี้นะ เค้าเจอแต่รุ่นน้องเข้ามาคุยด้วย เลยรู้สึกว่าตัวเองแก่อะ”
  “อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขนะ อย่าไปใส่ใจมันเลยนะ”ตอบพลางคิดว่าอายุสิบห้าเนี่ยนะเรียกว่าแก่
  “ก็ได้ๆ”เธอตอบกลับ
  “เชอร์รี่บ้านอยู่ที่ไหนหรอ”
  “อ๋อ ก็อยู่สูงพอสมควรแหละ แต่น้ำกลับมาท่วมซะได้อะ”
  “งั้นก็แปลว่าอยู่ภาคเหนือหละสิ”
  “ถูกต้องเลยจ้า แหมหัวไวจังนะเรา”
  “ก็เป็นธรรมดาอะ อิอิ อย่าชมมากนะ ขี้อายหนะ”นั่นคือจุดอ่อนสำคัญของวิล คือเขาเป็นคนที่ขี้อายเวลาโดนชม
  “ก็ได้จ๊ะ แล้ววิลมีรูปตัวเองไหมเอ่ย”
  “มีครับ แต่ถ้าจะดูต้องรอหน่อยนะเพราะว่ามันอยู่ที่คอมพิวเตอร์อีกเครื่อง”
  “จ้า รอได้เสมอแหละ”
  วิลลุกขึ้นจากที่นั่ง ตรงไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องที่เขาพูดถึงและถ่ายข้อมูลรูปภาพของเขามาสู่คอมเครื่องเก่าอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงกลับมาที่ห้องสนทนาแล้วเลือกรูปภาพจากไฟล์ใหม่ขึ้นมาโชว์ในกรอบรูป
  “เป็นไงหล่อไหม”วิลถามอย่างไม่อายใคร
  “แหม ไม่ค่อยเท่าไหร่เลยนะเรา”
  “ก็อย่างนี้แหละครับ”
  “ไหนว่าขี้อายไง”
  “เฉพาะเรื่องโดนชมอะครับ”
  “หรอ หน้าตาน่ารักดีโนะ ดูไร้เดียงสาดี อิอิ”คำพูดง่ายๆแต่กลับทำให้วิลถึงกับหน้าแดงเป็นมะเขือเทศไปเลย
  “จริงหรอครับ เพื่อนๆผมเขาชอบบอกว่าหน้าตาเด็กเรียน บางคนก็เรียกผมว่าเด็กหน้าวิชาการ”
  “ไม่แปลกหรอกถ้าเขาจะคิดอย่างนั้น ก็ดูสิ หน้าแบบนี้จะเป็นคนแบบไหนได้”
  “อืม”วิลเริ่มรู้สึกเหมือนต้องกลายเป็นฝ่ายรับคำพูดที่กำลังมึนงง เพราะเขายังไม่เคยเจอเด็กสาวที่ไหนพูดแบบนี้กับเขามาก่อนเลย
  “ไร้เดียงสาแบบนี้แสดงว่ายังไม่มีแฟนหละสิ”นั่นไง เจอคำถามชวนมึนเข้าจนได้
  “ก็ยังไม่มีหรอกครับ ไม่เคยคิดจะจีบใคร”
  “แล้วอยู่ตัวคนเดียวไม่เหงาแย่หรอ”
  เขาอยากจะกินยาแก้มึนจริงๆ นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรกับเขากันนี่ จะอยู่ตัวคนเดียวได้ไงในเมื่อญาติพี่น้องเขาก็เต็มบ้านไปหมด นอกเสียจากคำถามของเธอจะมีใจความที่แท้จริงว่า “อยู่โดยไม่มีแฟนไม่เบื่อหรอ” ซึ่งเขาพยายามบอกกับตัวเองให้คิดไปว่าคงไม่ใช่หรอก
  แต่แล้วเมื่อคำถามต่อไปตามมา เขาก็ถึงกับค้างไปเลย เพราะเชอร์รี่ถามเขามาว่า
  “สนใจหาพี่สาวไหมจ๊ะ”
  \"เอ่อคือ...\"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น