ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่เป็นสาวนักปฏิวัติต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #2 : ที่นี่ที่ไหน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 65


    หลังจากการสลายของโรฟีเเละโฟคลอทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไป รวมถึงการทดลองเเละไม่เเน่ใจว่าจะเกิดอะไรต่อไป  เเต่ว่าวิญญาณได้ร่องลอยไปเรื่อยๆไร้ที่สิ้นสุดจนกระทั้ง เจอสถานที่ๆเหมาะสม 

     

    ซึ่งสถานที่นั้นเป็นสถานที่มีพลังงานเวทมนต์อยู่ ด้านจิตวิญญาณของโรฟีเเละโฟคลอนั้นได้พัฒนาโดยการอัดเเก่นเวทมนต์กลายเป็นจิตวิญญาณเเละได้คุณสมบัติต้านทานจิตวิญญาณ
     

    โลกนั้นมีทั้งมนุษย์ ปีศาจ เอลฟ์ หลากหลายเผ่าพันธุ์นอกจากนี้ความเเข็งเเกร่งของเเต่ละเผ่าจะไม่เท่ากัน ซึ่งโลกนี้เผ่าพันธุ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดคือเผ่าพันธุ์มังกร นอกจากนี้เวทมนต์ไม่มีขีดจำกัดเนื่องจากหลักการเเบ่งเเก่นเวทย์โดยผ่านขัดเกลาเมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการเเบ่งตัวไปเรี่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายกับหลักการเเบ่งเซลล์เเละหลักการทฤษฎีบิ๊ก แบง
     

    เนื่องจากเป็นใหม่โลกชิโรฟีจึงได้ใช้หลักการคอยขัดเกลาเเกนเวทย์ให้โรฟีเเละการสร้างร่างกายให้เหมาะสมในครรก์ทารกในจิตวิญญาณของโรฟี เเต่โฟคลอไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะไม่ได้รับผ่านการปลูกฝังอะไร ดังนั้นร่างกายของโฟคลอจึงเกิดการเปลี่ยนเเปลงไปตามเหมาะสม  เเต่โรฟีถูกขัดเกลาอย่างรวดเร็วที่สุดตามความอดทนของจิตวิญญาณจนกลายเป็นพลังที่สามารถทัดเทียมกับมังกร(สายพันธุ์ย่อย) --> สามารถไปถึงขั้นมังกรที่เเข็งเเกร่งที่สุด(เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีเเต่ต้องขัดเกลาตลอดเวลา)

    -

    .

    โรฟีเมื่อเกิดใหม่

    เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นภรรยากำลังเหนี่อยเพราะเพิ่งคลอด เเล้วมีสามีเห็นภรรยามีสีหน้าที่ผ่อนคลายเเล้วจึงหันหาลูกของตนว่าสำเร็จดีไหม ซึ่งก็สำเร็จได้ด้วยดีเพราะน้องทารกกำลังออกเสียงว่า ที่นี่ที่ไหน เเต่ไม่สามารถออกเสียงได้ชัดเจนเเละเเล้วสักพักก็ได้หลับไป

     

    เมื่อทารกน้อยลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าอยู่ในพื้นที่บ้านไม้ที่ทรุดโทรมเเละเก่าที่นอนเป็นเตียงไม้เเข็งซึ่งบอกว่ามีฐานะยากจนเเละมีคู่สามีเเละภรรยาเฝ้าทารกน้อยของตนเองไว้ ซึ่งทารถตอนนี้ถูกหุ้มด้วยผ้าเเล้วคิดในใจว่า
     

    "ที่นี่ที่ไหน เกิดไรขึ้นสำเร็จไหม" ในจังหวะนั้นเองก็ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนของลิโรฟิว่า

     

    ชิโรฟิ : <เเจ้งเตือนตอนนี้อยู่ในต่างโลกเเละโลกเวทมนตร์เเละเเฟนตาซีค่ะ นายท่าน>

     

    ทารกน้อยตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงทำความเข้าใจเเล้วได้ยินคำพูดต่อมาที่ทำให้ตกตลึงว่า

     

    ชิโรฟิ : <ไม่ว่านายท่านอยู่ที่ไหน ฉันก็ไปกับนายท่านด้วย> พร้อมอารมณ์ที่เเสดงความยินดีกับทารก

    เเล้วต่อมาชิโรฟิได้พยายามวิเคราะห์ภาษาเเต่อย่างที่รู้ว่าภาษามีหลากหลายต้องพยายามเเกะคำให้ได้มากที่สุดเเล้วมีการเเจ้งเตือนในหัวว่า

    ชิโรฟิ : <เเจ้งเตือนตอนนี้กำลังวิเคราห์ภาษา>

    “นี่*รัก ลูกค***ชื่*อ*ไร” 

     “เอาเป็นว่า** ลูกชื่อ  โรฟีเซีย” พร้อมยิ้มเเละมองลูกของตนเองเป็นอย่างดี

    เเล้วทันใดนั้นเองมีประกาศการเเจ้งเตือนไว้ว่า

    <เเจ้งเตือนตอนนี้วิเคราห์ภาษาเสร็จสิ้นจะค่อยๆซึมซับข้อมูลจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง กำลังดำเนินการ>

    หลังจากนั้นโรฟีเซียก็ค่อยๆหลับไป

     

    4 ชั่วโมงต่อมา

    เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าอยู่บนเปลที่นอนเป็นอย่างดีเเล้วจึงมีเสียงต่อมาว่า

     <ยินดีที่ได้เจออีกครั้งมาสเตอร์>

    โรฟีเซียเมื่อได้ยินก็สามารถทำความเข้าใจได้รวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นจึงใจเย็นเเล้วเรียงสถานการณ์ ดูเหมือนว่าโรฟีเเละโฟคลอได้หลบหนีสำเร็จเเต่ไม่รู้ว่าโฟคลอเกิดไปอยู่ที่ไหนเเต่ก็ไม่เป็นไรมากเท่าไร เพราะต่่อไปจะเริ่มใช้ชีวิตต่างโลกสุดเเฟนตาซีสักที เเต่คิดไปมาได้ว่าจะเริ่มสร้างอะไรดีโดยหลักการของเวทมนตร์ เเต่คิดในใจว่ายังไม่รู้เกี่ยวกับโลกภายนอกเลยว่าจะเจออะไรบ้างทั้งปีศาจ มอนสเตอร์อะไรพวกนี้เเล้วต่อมาก็มีเสียงเปิดประตู

    "ที่รักดูเหมือนว่าลูกจะตื่นเเล้วให้" เเล้วหันไปมองภรรยาของตน

    “มาสิลูก” หลังจากนั้นก็อุ้มลูกขึ้นมาเเล้วเปิดผ้าจนเผยเต้านมเเล้วยื่นไปทางปากโรฟีเซียเพื่อให้ลูกดื่มด่ำกับนม

    เมื่อโรฟีเซียคิดในใจว่า ‘ใหญ่มากๆชาตินี้ต้องไอ้นั้นใหญ่สุดๆเเน่จากการถ่ายโอนร่าง’ จากนั้นปากค่อยๆเริ่มทำการดูดนม ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนเรียกว่า

    “คุณทานิลว่างไหม”

    “ว่ามาคุณโรเซ่ พร้อมมองหาผู้หญิงคนนั้น”

    “ผู้ใหญ่หมู่บ้านมาหา”

    ภรรยาที่มีชื่อว่าทานิลจึงเรียกสามีไปต้อนรับผู้ใหญ่หมู่บ้านโดยด่วนว่า

    “ที่รักไปต้องรับเเขกผู้ใหญ่หมู่บ้านเร็วเข้า” พร้อมหันไปหาสามีที่กำลังมองดูลูกตนเเล้วสามีก็สะดุ้นเเล้วพูดว่า

    “เข้าใจเเล้วจะจัดการให้” ด้วยการลุกขึ้นอย่างว่องไวเเล้วออกจากห้องไปพร้อมกับผู้หญิงที่มาเรียก

     “เหนื่อยเเย่เลยเนี่ย”

    โรฟีเซียเมื่อได้ยินเช่นนั้นเเล้วก็ได้ทำการสำรวจเเละจดจำอย่างว่องไว นอกจากนี้ได้บ่นในใจว่าเเม่สวยมาก ถึงอายุจิตใจจะเป็น 30 ก็ตามเเต่ก็ไม่สนใจมาก เเล้วก็ได้เกิดการเเจ้งเตือนมาว่า

     <เเต่นายท่านดูยังไงก็เป็นเด็กนะไง> 

    ‘ไม่ใช่เฮ้ย นี้เป็นร่างเนื้อไม่ใช้จิตใจ เเล้วโลกนี้คือโลกเเบบไหนล่ะ’

    <โลกนี้คือโลกเวทมนตร์ มีทั้งมอนสเตอร์ ปีศาจ จอมมาร กับฝั่งผู้กล้า นักบุญ ศาสนจักร> 

    ‘เอ่อเเล้วเเนะนำได้ไหมว่าทำอะไรดี’

    <เเนะนำว่ากินเเล้วนอนค่ะ> 

     ‘เฮ้ย ไม่ได้ๆๆๆ ไม่มีประโยชน์ไรเลย มีดีกว่านี้ไหม’

     <นายท่านควรพักผ่อนให้เพียงพอเเละกินน้ำนมอย่างเดียวค่ะ เพื่อสร้างร่างกายให้ดีต่อนายท่าน ส่วนเวทมนตร์ดิฉันจะจัดการเองค่ะ> 

     ‘มีเเค่ใช่ไหม ต้องทำอีกนานเท่าไร’

     <เเนะนำ 1 ปี เเล้วเริ่มอ่านหนังสือค่ะ เรื่องเวทมนทร์เด็กควร 6 ปี เเต่นายท่านควร 3 ปีค่ะ เเต่ต้องเป็นที่ลับ> 

     ‘อย่างดีหน่อยที่ฝึกเวทมนทร์ได้ไว้ ไม่สิต้องแอบสิ เเล้วทำไมคนอื่นๆต้อง 6 ปีล่ะ’

    <เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เหมาะสมต่อการใช้เวทมนตร์เเต่ดิฉันช่วยเร่งไว้>

    ระหว่างโรฟีเซียคิดในใจเเละถามอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเพลงกล่อมนอนจากเเม่จนต้านไม่ไหวเเล้วหลับไปอย่างสงบ

    .

    .

    .

    บทสนาของสามีภรรยาเเละผู้ใหญ่หมู่บ้าน

    “โห้ เป็นลูกสาวหรือเนี่ยอนาคตต้องสวยดีเเละมีหนุ่มตามจีบเเน่นอน คุณเวเดส(พ่อ)” ผู้ใหญ่หมู่บ้านได้กล่าวอย่่างมีความสุขกับเวเดส(พ่อ)

    “เเน่นอนสิคุณโรเเนน(ผู้ใหญ่หมู่บ้าน) เเล้วมีธุรอันใดถึงมาหา” 

    “จะว่าไปมีครอบครัวดีมีสุขมากเเต่ก็อดห่วงไม่ได้ไม่เเน่ว่าสงครามมันจะมาอีกเร็วๆนี้”

    “ให้ตายสิ มาพูดวันนี้ดูเป็นไม่มงคลเลย ทางอาณาจักรออตโนเลียเรียกเกณฑ์ทหารอีกเเน่เลย เเละเเน่นอนว่าต้องหาคนที่มีเวทม….” ระหว่างกล่าวกันนั้นมีคนมาขัดจังหวะ
     

    “เรื่องยังไม่เกิดขึ้นเลย ทำไมกังวลไปได้ เวทมนตร์ไม่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีได้”

     “ลูกของคุณมีโอกาสตรวจสอบขึ้นมาได้ เลยกังวลไง”

    “นั้นสิ พอมีข่าวจากเมืองหลวงไหม”

    “หลังจากสงครามอาณาจักรออตโนเลีย กับ อาณาจักรโวเเซนต์ ทางอาณาจักรออตโนเลียเกิดความอดอยาดมากเเละสงครามกลางเมืองเริ่มเเรงขึ้นเรี่อยๆ”

     “อันนี้น่ากังวลสุดๆเลย เรื่องใหญ่มาก เเต่เราก็ทำไรไม่ค่อยได้ เเล้วคนอื่นๆล่ะ”

    “ก็น่าจะเตรียมตัวกันเเล้ว มีซ่อมเสบียงอีกด้วย”

    “สงครามอีกเเล้วหรอ! อะไรก็สงคราม ไม่ว่าอะไรก็ตามครอบครัวต้องมาก่อน”

    “เอาเหอะเรื่องยังไม่เกิดเเต่เตรียมตัวไว้ก็ดี ชาวบ้านก็ทำไรก็ไม่ค่อยได้ เดี๋ยวกลับก่อน มีอะไรก็ฝากบอกด้วย”

    โรฟีเซียหลับอยู่นั้น ชิโรฟิก็รวบรวมข้อมูลเเละรอโอกาสต่อไป

    6 เดือน

    ทานิลก็ได้มองลูกของตนเเล้วเฝ้าเเละเล่นกันโดยหยอกกัน

    “เเม่ ลูกพูดว่าเเม่”

     อา อิ อุ เอะ โอ ~~~ เเล้วฝึกออกเสียงไปเรี่อยๆจนกระทั้ง

    “เเม่!!” 

    โรฟีเซียที่จริงสามารถพูดได้นานเเล้วเเต่ว่าค้องรอเวลาให้เหมาะสมจากคำเเนะนำของชิโรฟิซึ่งก็มีเหตุผล ถ้าพูดได้ขึ้นมาคงโดยอวยเข้าไปใหญ่เลย

    “เเม่ ลูกพูดว่าเเม่หรอ เฮ้อน่ารักลูกพูดได้เเล้ว”

    โรฟีเซียคิดในใจว่าถ้าก่อนหน้านั้นพูดไปก็คงจะเกินไปฮ่่าๆๆ เเล้วไงช่วงนี้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก่อน เเล้วทานิลก็ไปหาเวเดสเเล้วอวยไปยกใหญ่เลยเเล้วก็ดีใจด้วย โรฟีเซียคิดในใจว่าพูดตรงๆเลยดีกว่า

    “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณเเม่” 

    “ห้ะ ~~ สวัสดีลูก”

     "เเม่เล่นกับหนูหน่อย” 

     “เเล้วพ่ออ่ะ”

     "ป๋ามาเเล้วด้วยกัน” 

    โรฟีเซียก็คิดในใจว่าชาติที่เเล้วครอบครัวก็อุดมสมบูรณ์ดีเเต่ก็ไม่เเน่ใจว่าเป็นตลอดไหมเหมือนชาติก่อนที่ประสบอุบัติเหตุเลยจะทำให้ชาตินี้เต็มที่เเละกัน เเล้วพ่อเเม่ลูกก็เล่นด้วยกันอย่างมีความสุข

    9 เดือนต่อมา ความจริงเเล้วหน้าหนาวมีเกือบทุกปี มักจะเกิด ช่วง เดือน 11-12 เเล้วค่อยๆจางไป มีการล่มป่วยเกิดขึ้นนอกจากนี้บางคนที่ตกเเม่น้ำมักจะเสียชีวิต ครอบครัวจึงเตรียมความพร้อมมากกว่าปกติเพราะเริ่มสงครามกลางเมืองเเล้ว เเถมมาในช่วงมีลูกอีก ตามกฎหมายพ่อต้องไปเกณฑ์ทหารจึงต้องเดินทางไปภายในไม่เกิน 3 เดือน 

    1 ปีต่อมา

     “สวัสดีค่ะ เเม่”

    “สวัสดีลูก มีอะไรหรอจ๋ะ”

    “พอดีว่ามีหนังสือให้อ่านไหม”

     *ลุกขึ้น* “มีจ๋า จะเอามาให้” เเล้วไปเข้าไปหาหนังสือที่เก่า

    ทานิลก็ได้บ่นกับตัวเองว่า ‘ลูกนี้เป็นคนขยันเรียนจริงๆสงสัยอนาคตต้องเก่งเเน่ๆ’เเต่ก็ต้องเอะใจว่าเดี๋ยวทำไมลูกอ่านออกเเล้วหรอเเต่ก็ได้ปล่อยผ่านไป

     'เป้าหมายหลัก คือ การใช้ชีวิตสงบสุขเเละตามหาน้องให้เจอ ใช่ไหมชิโรฟี'

    ‘ค่ะท่าน’

    “ลูกเป็นไรบ้าง สบายดีไหม” คุณพ่อที่เพิ่งเข้ามาเเล้วถามด้วยความเอ็นดู

    “สบายดีค่ะ พ่อ ท่านพ่อขอออกไปข้างนอกหน่อย”

    “มาๆ”เเล้วก็อุ้มโรฟีเซียไปดูบริเวณด้านนอก

    เมื่ออยู่ด้านนอกเเล้วก็เห็นชาวบ้านหลายๆคนทำงานเกษตร บางคนพักผ่อนซึ่งโดยรวมถือว่ามีความสุขเป็นอย่างมาก โรฟีเซียได้เห็นก็อดเปรียบเทียบกับชาติก่อนว่าความเจริญต่างกันอยากเปลี่ยนให้ง่ายๆหน่อย ส่วนธรรมชาติสวยมากเพราะมีอากาศบริสุทธิ์มีเเม่น้ำไหลผ่านเเละก็รอบๆก็ป่าต้นไม้ เเละเห็นเส้นทางที่เป็นดินขรุขระ เเต่ก็ถูกขัดจังหวะ

    “ที่รักทำไมถึงพาลูกออกไปข้างนอก”

    “ไม่มีอะไรมาก ก็เเค่พาลูกมาสำรวจเฉยๆ เเล้วอีกไม่นานพ่อต้องไปเกณฑ์ทหารเเล้วลูก”

    “โชคดีขอให้ปลอดภัย”

    “พ่อ ทำไมถึงออกไปอ่ะ”

    “ทางการเรียกเกณฑ์ทหารลูก พ่อจะกลับมา”

    โรฟีเซียก็บ่นในใจว่านี่มันยุคกลางที่ไหนก็เกิดสงครามเเหละ

    “ลูกไม่ต้องห่วงกลับมาเเน่นอน เเล้วลูกมาอ่านหนังสือกัน โชคดีค่ะที่รัก”เวเดสก็ได้ส่งโรฟีเซียโดยโรฟีเซียบอกพ่อว่า “บ้ายบาย” เเล้วไปหาทานิลเเล้วทานิลก็พาลูกไปในห้องนอนเเละเปิดหน้าต่างให้เเสงส่องเเล้ววางหนังสือมาสอนลูก

     

    หลังจากนั้นก็เป็นการสอนอ่านเเต่ก็ตกใจว่าลูกเรียนรู้ได้ไวมากผิดปกติ เนื่องจากนิทานที่สอนก็เป็นของเด็ก 8 ขวบเลย เเจ่ก็ทำได้เเค่เเอบภูมิใจว่าสอนดี

     

    อายุ 3 ปี เดือน 1 ศักราช 816 

    โรฟีเซียตอนนี้มีหน้าตาที่สวยงามมากมีผมสีขาวตาสีเเดงเหมือนเเม่เเละปากโค้งสวยนอกจากนี้อยู่ในชุดที่เย็บเองเป็นเสื้อเชิตสีขาว กางเกงน้ำตาลรองเท้าคอมแบทสีน้ำตาล

    โรฟีเซียบอกกับระบบว่าชิโรฟิพร้อมเรียนเวทมนตร์เเล้วจึงได้มีการสอนการไร้ร่ายเเละฝึกกล้ามเนื้อพลางไปด้วย ชิโรฟิบอกว่ากล้ามเนื้อจะมาพร้อมกับการบรรจุมานาด้วย ชิโรฟิได้บอกอีกว่านายท่านเน้นเก่งเกือบทุกด้านเเล้วเหลือเเต่เวทมนตร์ที่เป็นสิ่งเเปลกใหม่จึงบอกเกี่ยวกับข้อมูล

    เรื่องวันเกิดจะฉลองทุกๆ 5 ปีจนถึงอายุ 15 ปี จึงเลิกฉลอง บางทีถ้าเป็นคนปกติมากๆจะไม่มีการเฉลิมฉลองอย่างไร

    หมู่บ้านโรเเนนมีประชากรราว 48 คน ชาย 12 หญิง 28 เด็ก 8 ผู้ชายน้อยเนื่องจากถูกเกณฑ์ทหาร

    โลกนี้เป็นโลกมีเวทมนตร์ธาตุหลักอยู่ 4 ธาตุมี ดิน น้ำ ลม ไฟ เเละธาตุพิเศษมีอยู่ 2 ธาตุคือ ความมืดเเละเเสงสว่าง อีก 1 คือ ธาตุศูนย์ (ซึ่งยังไม่ได้ถูกบันทึกมีเเต่ตัวตนเอฟล์เเละมังกรที่จะมีรู้จักธาตุนี้ เเต่ก็ไม่ได้รู้ทุกตน) ความเข็มข้นมานาก็ต่างกันไปด้วยเเต่ไม่สามารถวัดความเข็มข้นมานาที่ชัดเจนได้ ถึงอย่างนั้นยังวัดได้จากการถ่ายโอนของมานาไปยังตัววัดเเสง 

    ชิโรฟิเป็นระบบหรืออาจารย์ที่โหดมากเพราะเเต่ละการฝึกมันไม่ใช่เด็กๆเลย

    โรฟีเซียได้อยู่ในบ้านมี ท่าซิทอัพ  ท่าดันพื้น ท่าแพลงก์เเละวิ่งบ้างจนมีสุขภาพร่างกายที่ดี นอกจากนี้มีการฝึกศิลปะการต่อสู้ชาติก่อน เช่น ชกมวย เทควันโด เเละฝึกตามหน่วยรบพิเศษ

    ด้านเวทมนตร์มีการฝึกให้มีทำสมาธิเพื่อขัดเกลาเวทมนตร์เเต่ก็สงสัยว่ามีเวทย์มนอะไร ชิโรฟิจึงตอบไปว่ามีทุกธาตุ ดังนั้นจึงรู้สึกว่าโกงมากเลยเเต่ผลมาจากความพยายามมากกว่า ชิโรฟีเมื่อเห็นว่ามานาเข็มข้นพอเเล้ว(มังกรสายพันธุ์ย่อย) จึงเริ่มสอนต่อมาคือการร่ายเวทมนตร์

    โดยการฝึกจะเริ่มจากที่อยู่ห้องนอนชิโรฟีส่งข้อมูล เมื่อได้ข้อมูลเเล้วจึงเริ่มร่ายเวทมนตร์ผ่านนิ้วมือโดยเริ่มจากธาตุน้ำ ดิน ลม ไฟ เเสง เเละความมืดโดยชิโรฟีเเอบร่ายเวทย์ลวงตาเป็นธาตุศูนย์ซึ่งทางทฤษฎีเป็นไปได้ยากจึงไม่มีใครรู้ว่าทำอะไร

    นอกจากนี้เมื่อฝึกการควบคุมได้เเล้วจึงฝึกการใช้เวทมนตร์หลายๆธาตุพร้อมกันจนชิน เเต่ก็มีเเจ้งเตือนมาว่า ชิโรฟี “เเค่นี้พอก่อนกลัวว่ามานาจะหมด” เพราะได้ฝึกทั้งวันทั้งคืนซึ่งจะวันทางกายสลับกับทางเวทย์ไปเรี่ิอยๆ

    อายุ 3 ปี เดือน 3 ศักราช 816 

    โรฟีเซียช่วงนี้เริ่มช่วยงานเเม่บ้างเเล้วเริ่มจากการทำความสะอาดบ้าน จึงเบาภาระงานของเเม่ได้เยอะมาก เเล้วก็หลังจากนี้มีอะไรได้ช่วยเยอะเเน่ๆ 

    ต่อมาเมื่อเห็นเเล้วว่าเบื่ออาหารที่เเม่ทำจึงขออาสาเเม่ทำงานว่า “เเม่หนูอยากทำอาหาร” เเล้วก็เเม่จึงพยักหน้าเเล้วก็อนุญาต เเล้วโรฟีเซียจึงได้ทำอาหารซุปไก่เเละสลัดโดยมีชิโรฟีคอยให้คำเเนะนำจนทำอาหารเสร็จ

     “ลูกสิ่งนี้คืออะไร” พร้อมมองอาหารที่มีผักหน้าตาประหลาด

    “อันนี้คือสลัดผักค่ะเเม่ เเละอันนี้เรียกว่าซุปไก่ เเละมีข้าวสวยพร้อมด้วย” 

    ได้ยินเช่นนั้นเเล้วมีหรือที่จะได้ลองฝีมือของลูกจึงชิมอาหารดู เมื่อทานิลได้เห็นฝีมือของลูกเเล้วจึงประหลาดว่าเดี๋ยวนะทำไหมฝีมือยิ่งกว่าเมืองหลวงซะอีก ทำได้ยังไง

    “ลูก อร่อยมาก ทำได้ไงอ่ะ”

    “อ่อ ฝึกมาค่ะ”

    เเม่ก็ไม่คิดอะไรมากเเล้วก็ค่อยจากไปเเต่ทว่า

    “เเม่ พ่อเมื่อไรจะกลับมา”พร้อมถามด้วยความคิดถึง

    “เดี๋ยวพ่อก็กลับมาเเล้วพร้อมทั้งยิ้ม” 

     “หนูสงสัยว่าพ่อเเละเเม่มีเวทย์มนตร์ไหม”

    “สามัญชนไม่ค่อยมีเวทย์มนตร์เท่าไรบางคนใช้ได้เเต่เป็นเวทย์พื้นฐานเท่านั้น”

    โรฟีเซียขออีกว่าอยากเข้าในป่าได้ไหมทานิลจึงบอกว่าได้เเล้วรอพ่อกลับมาจากสงครามก่อน

     “สงครามเกิดจากอะไรหรอ” ทานิลจึงกล่าวว่า

    สงครามเกิดจากหลังจากการรบของอาณาจักรออตโนเลีย กับ อาณาจักรโวเเซนต์ อาณาจักรออตโนเลียที่พ่ายเเพ้สงครามเกิดกบฎขึ้นจากฝังดยุกเเละราชวงค์เนื่องจากความขัดเเย้งด้านพื้นที่ส่วนใหญ่จึงเกิดผลกระทบยกเว้นหมู่บ้านเราเพราะหมู่บ้านค่อนข้างลึกเเละไม่ค่อยมีทหารเก็บภาษีเท่าไร มาเดือนละ 2 ครั้งเพราะมองว่าดินเเดนเรายากจน

    ‘โรฟีเซียบ่นในใจว่าจนจริงๆเเต่ป่าก็อุดมสมบูรณ์นิ’

     “โลกนี้มีอสูรอยู่ในป่าจึงไม่่ค่อยปลอดภัยด้วยจึงมีกิลนักผจญภัยอยู่บ้างเพื่อคอยป้องกันอยู่ ถ้ามีความสามารถฝั่งราชวงค์ก็จะเชิญไปทำสงครามก็เหมือนกับว่ามีเเค่สามัญชนเเละขุนนางบางส่วนเท่านั้นที่มารบ ส่วนพ่อตอนนี้มีส่งจดหมายบ้างอ่านไหม”

    ‘โรฟีเซียคิดมาว่าทำไมไม่จัดมวยตีกันเองเลยว่ะ ทำไมต้องคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาเกี่ยวด้วย’

    โรฟีเซีย : “ตอบลง”

    ถึงทานิล ที่รัก

    เวเดสตอบนี้ได้เขียนส่งถึงภรรยามาว่าตอนนี้เป็นไงบ้างสบายดีไหม ตอนนี้ก็อยู่สนามรบลูกๆปลอดภัยไหม เวเดสบอกกับตัวเองว่าสถานการณ์ย่ำเเย่มากผมเป็นทหารเเนวหลังจึงค่อนข้างปลอดภัยอยู่มีหน้าที่เเค่ยิงธนู(ล่าสัตว์บ่อยในป่า)ในทัพดยุก ถึงมีเวทย์รักษาบ้างเเต่ก็ทำด้วยความล่าช้าเพราะจำนวนน้อย เป็นของศาสนจักรเป็นส่วนใหญ่ 

    สุดท้ายนี้พ่อคิดถึงลูกมากๆ เเละขอให้ปลอดภัยโชคดี

    จาก เวเดส

    เมื่อโรฟีเซียได้อ่านไปก็รู้สึกว่าได้เศร้าใจเป็นอย่างมากเเนวคิดจากโลกใหม่ต้องเเก้ปัญหาได้ โรฟีเซียจึงบอกในใจว่า ยังไงก็ต้องเปลี่ยนโลกนี้ให้ได้

    “พ่อ ปลอดภัยสิน่ะคะ” 

    วันต่อมา

    โรฟีเซียเจอเพื่อนใหม่ คือ เเม่ของโรเซ่ โดยเริ่มมาจากการที่โรฟีเซียเริ่มจากการฝึกดาบจริงจังเเล้วมีเสียงตกใจเป็นเด็กสาวน้อยผมสีน้ำตาลนัยตาสีเเดงชุดชาวบ้านธรรมดาล้มลงกับพื้น

    “นี่เธอเป็นไรไหม” โดยสำเนียงอ่อนโยนเมื่อด็กสาวน้อยได้ยินก็บอกกว่า

    “ไม่เป็นไร นี่เธอชื่อ?” เเล้วก็เเนะตัวกันเเละกันโดยมีการจับมือดึงขึ้นมายืน

    “โวเลียค่ะ”

     “คราวหลังก็ระวังหน่อย” เเล้วก็ถูกถามว่า 

    “ขอฝึกดาบด้วยได้ไหม่” พร้อมรอฟังคำตอบ

    “ ต้องฝึกร่างกายก่อนจึงจะฝึกได้เเล้ว เเต่ขออนุญาติมาฝึก” พร้อมทั้งน้ำเสียงดุดันเเล้วก็บอกว่า จริงสิหิวไหมพร้อมทั้งเสกอาหารที่ทำค้างไว้จำนวนมาก

    “นี้คืออะไรอ่ะ”  ด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น

    “มันคือเวทมนตร์อ่ะ อย่าบอกใครเชียวล่ะ”พร้อมข่มขู่เล็กน้อย

    “เข้าใจ--จเเล้ว เเล้วก็อาหารขอกินหน่อย ไม่ต้องขู่ก็ได้”

    “เข้าใจเเล้ว”

    อายุ 4 ปี เดือน 5 ศักราช 817

    POV โวเลีย

    ตอนนี้โรฟีเซียเเละโวเลียเป็นเพื่อนสนิทกันเเล้ว โวเลียได้ฝึกฝนผ่านโรฟีเซียมี

    1.การสอนเทคนิคดาบ

    2.การสอนยิงธนู

    เป็นการฝึกที่โหดมากเมื่อเห็นเเล้วจะรู้สึกท้อเลยทีเดียว คือ หลักสูตรอย่างกับว่าเป็นของปีศาจ การออกกำลังกายก็เหนี่อยล้ามาก 

    โรฟีเซียเเละโวเลียกำลังฟันดาบอยู่ซึ่งตีทีไรก็หลบได้หมดเลย ควาามไวก็สูงเเต่ก็คุ้มค่าอยู่ เเม่เราโรเซ่ ก็เป็นเเค่คนธรรมดาเอง เคยต่อสู้อยู่บ้างจากการที่เเม่เคยเล่ชีวิตส่วนตัว จนคิดไปมาก็มีเสียงที่คุ้นมาก

    “นี่ระวังสิ อยู่หน้าศัตรูเป็นเเบบนี้ตายห่าพอดี”

    “ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ” พร้อมยิ้มเจื่อนๆ

    เเล้วก็มีลุงโรเเนนคอยเฝ้ามองการต่ออยู่

    อายุ 5 ปี 

    เมื่อถึงวันเกิด 5 ปี ของโรฟีเซียเเล้ว

     

    ที่ผ่านมีการฝึกยิงธนูพิเศษทำโดยโรฟีเซีย(ชิโรฟี)ลักษณะเป็นธนูทดกำลังมากกว่า

    หลังจากการฝึกเล็กน้อยจากการยิงธนูก็ขอเเม่ไปเข้าป่าเเละล่าสัตว์

    “เเม่ขอเข้าป่าได้ไหม ถึงอันตรายเเต่อยากฝึกล่าสัตว์”

    “ได้เเต่ต้องมีผู้ติดตามด้วยเดี๋ยวขอโรเเนนเป็นให้”

    “รักเเม่ที่สุดเลยๆ”

    โรฟีเซียเเละทานิลก็ได้ไปหาโรเเนนเเล้วบอกว่าขออนุญาติล่าสัตว์ โรเเนนจึงอาสาคุ้มกันให้ระหว่างนั้น

     ดูเหมือนว่าโวเลียจะชอบโรฟีเซียมากๆพาไปด้วยได้ไหม เเต่ว่าจะต้องผ่านเเบบทดสอบก่อน

    จากนั้นจึงอนุญาติโดยโรเเนนเเละโรฟีเซียประลองดาบเเละธนูกันถ้าเกิดว่าโรฟีเซียเเพ้จะไม่อนุญาติซึ่งเเน่นอนใช้เวทมนตร์ไม่ได้

    โรฟีเซีย vs โรเเนน

    โรเเนนเป็นอดีดอัศวินคุ้มกันราชวงศ์เลยพอสู้ได้เเต่ก็เกษียณเเล้วจึงฝีมือตกไป โรฟีเซียเป็นคนเริ่มก่อนโดยชักดาบไม้วิ่งเป็นจังหวะในศิลปะการต่อสู้ที่ผ่านขัดกลัดเเล้วไปฟันที่ต้นขาเเต่โรเเนนปัดได้เเล้วฟันไปที่หัวเเต่เป็นภาพลวงตา

    โรฟีเซียรู้เลยปัดตามน้ำเเละจังหวะต่อมาที่ขาด้วยสายตาจากชาติก่อนจึงสามารถบล็อกไว้ได้โรเเนนจึงคิดในใจว่า “น่ากลัวไปเเล้ว ปกติถ้าคนทั่วไปรับคงเเหลกไปเเล้ว สงสัยต้องเอาจริง” คิดได้จึงเริ่มทักษะโจมตีว่องไว โรฟีเซียคิดเเค่ว่าช้าชะมัดไม่เเน่เเหละก็มีชิโรฟีก็ทำไรไม่ได้เเล้วไม่ต้องใช้ด้วยซ้ำจึงปัดความไวตามน้ำ

    จึงเกิดเสียงดังของไม้ที่กระทบไปมาจน ทานิลอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าลูกเป็นไรไหมเเต่ก็ได้จบลงเมื่อโรฟีเซียใช้ภาพลวงตาเเบบดาบที่ซ้าย-ขวา โรเเนนจึงโดนตีในที่สุดเเล้วตะโกนว่า

    โรเเนน : “เจ็บๆ ทำไมหน้ากลัวขนาดนี้ๆๆ ยอมเเล้วธนูคงยิ่งกว่านี้อีก”

    จากเสียงของทานิล โวเลีย เเสดงความยินดีให้โรฟีเซีย

    โรเเนน “เราเข้าป่าล่ากัน เเต่เป็นพรุ่งนี้น่ะ” โรเเนนนึกภูมิใจที่คนในหมู่บ้านมีคนที่มีความสามารถเเถมเป็นลูกของเวเดสเก่งจริงๆ ถ้ายังอยู่คงชอบลูกคนนี้มากๆ 

    วันต่อมา

    จากนั้นโรฟีเซียเเละพวกจึงเข้าป่าล่าสัตว์กันต่อจากนี้ โดยทุกคนก็เตรียมความพร้อมมาก   ทุกคนมีอาวุธป้องกันตัว โวเลียเป็นมีดสั้นไวเก็บเกี่ยว ส่วนโรฟีเซียเเละโรเเนนเป็นธนูทดกำลัง

    ในป่า

    มีบุคคลกลุ่มหนึ่งเป็นทหารของดยุกที่หนีทัพมาเพราะดยุกเริ่มที่จะค่อยๆพ่ายเเพ้

    ทหาร1 : พวกเราหนีมาไกลขนาดนี้คงไม่มีใครตามเราเจอเเน่นอน ด้วยความมั่นใจ

    ทหาร2 : นั้นสิอยากหาที่สงบหน่อยนะ

    ซึ่งกลุ่มทหารก็พักผ่อนอยู่ มีคนหนึ่งเป็นเวเดสทที่พยายามกลับบ้านด้วย

    ทหาร3 : นั้นสิสหายเเล้วเวเดสนายกลับบ้านหาเมียเเละลูกใช่ใหม่

    เวเดส : “ช่ายไง ลูกโตขึ้นสวยเเน่ๆ เเละเก่งด้วยคิดถึงมากๆ”

    กลุ่มทหารจึงได้เล่ากันอย่างมีความสุข

    ในเวลาเดียวกัน

    โรฟีเซีย : “เข้าป่าต้องเงียบๆเเละล่าสัตว์ไว้ ทำตามนะโวเลียจะสอนเป็นนักรบให้ดู”

    เวเดส : “ค่า โรฟีเซีย” พร้อมยิ้มอย่างมีความสุข

    โรเเนน : “นั้นไงเจอหมูป่าเเล้ว”

    โรฟีเซียจึงไม่ชักช้าหยิบลูกธนูขึ้นเล็งเเล้วยิงอย่างว่องไวจนโดนจุดสำคัญตรงหัวใจหมู

    โรเเนน : “ว่าเเล้วคุณโรฟีเซียต้องเก่งจริงๆ” คิดในใจว่าทำไหมเก่งจังทำไรมาเนี่ย หรือต้องมีพรสรรค์สักอย่างเกี่ยวกับร่างกายเเน่(ความพยายาม)

    โรฟีเซีย : “เจอกระต่ายล่ะ โรเเนนเอาเลย”

    โรเเนนไม่ชักช้าก็ยิงไปกระต่ายตัวนั้นอย่างรวดเร็วเเละต่อมาก็โดนจุดสำคัญจนเเน่นิ่งไป

    โรเเนน : “สุดยอดธนูทดกำลังทั้งเบาเเละเเรงเเถมไกลอีกด้วยทำได้ไง…”

    โรฟีเซีย : “ทุกคนเงียบ เหมือนได้ยินเสียงอะไรในระยะไกลๆ”

    ทั้ง 2 สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเตือน สักพักก็ทำตามเเล้วได้ยินจริงๆ จึงเดินตามเสียงอย่างเงียบๆ

    .

    .

    จนเจอกลุ่มทหารซึ่งโรฟีเซียจับสังเกตุจนเมื่อเห็นพ่อที่มากับกลุ่มคนเเปลกหน้าก็เเปลกใจเล็กน้อยเเละตะโกนว่า

    โรฟีเซีย : “พ่อกลับมาเเล้ว" เเล้ววิ่งด้วยความว่องไวเป็นอย่างมาก

    เวเดส : “ลูกทำไรที่นี้” สักพักก็มีโรเเนนเเละโวเลียตามมา”

    โรฟีเซีย : “พ่อปลอดภัยก็ดีเเล้วเเล้วสงครามจบเเล้วหรอ” พร้อมหน้าตาที่สงสัย

    เวเดส : “จบเเล้วดยุกพ่ายเเพ้เดี๋ยวค่อยเล่า” เเต่ด็อดห่วงไม่ได้ว่าลูกโตเเค่ไหน

    โรฟีเซีย : “เเปลว่าพ่อ…”

    ทหาร1 : “นี่หรือลูกสาว”

    ทหาร2 : “โห้สวยมากๆ”

    โรเเนน : “ยินดีต้อบกลับเวเดส เเละสหายทุกๆคน ลูกเธอเก่งจริงๆเลยนะเวเดส ทั้งเเอบใช้เวทมนตร์ ทั้งเเอบฝึกดาบ ทั้งธนูเเถมพละกำลังเหนือขั้น”

    เมื่อกลุ่มทหารได้ยินก็ไม่เชื่อสายตาเพราะเป็นเเค่ผู้หญิงตัวเล็กๆเเถมอายุน้อยอยู่เลย

    โรฟีเซียเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นที่คนไม่ไว้ใจเธอจึงได้ยิงธนูใส่ปลายเท้าเเต่ละคนทั้งสามคนยกเว้นพ่อของโรฟีเซียด้วยความว่องไว

    ทหารทั้งหมด : “เข้าาใจ..จเเล้ว..” พร้อมอาการตัวสั่นกับเด็กสาวคนตรงหน้าที่หน้ากลัว

    โรเเนน : “นี่่โรฟีเซียระวังหน่อยถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาใครมารับผิดชอบ”เวเดสเองก็เห็นด้วย

    โรฟีเซียเมื่อได้รับคำเตือนจึงขอโทษทันทีเเละกล่าวกับทหารว่า

    โรฟีเซีย : “นี่ทหารทั้งหลายสนใจมาเป็นคุ้มกันหนูไหมเเลกกับธนูให้” พร้อมชู 2 นิ้วเเละบอกกับโวเลียอีกว่า “คุณโวเลียก็ด้วย ไม่ใช่เเค่นี้เเน่ หนูจะเปลี่ยนเป็นนักรบที่กล้าหาญ”

    ทหารทั้งหมด : เข้าใจเเล้วคุณหนู

    ทั้งคุณพ่อ โวเลีย โรเเนน ต่างก็ตกใจไม่คิดว่าเด็ก 3 ขวบ จะขนาดนี้

    โรฟีเซีย “นี่คือเวทมนตร์” พร้อมเกิดมิติเเล้วหยิบธนูทดกำลัง 3 เล่ม

    ทั้งหมดก็ตกใจเเล้วผลข้างเคียง…เเต่ได้ยินคำต่อมาว่า

    โรฟีเซีย “ไม่ต้องห่วงไป หนูเข้าในว่าตามหลักต้องเป็น 6 ขวบถึงจะมั่นคงเเต่หนูเป็นตัวตนพิเศษ 3 ขวบ ก็ใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่มีผลข้างเคียง เอาเเหละทหารฝึกยิงธนูไปก่อนหนูสอนใช้เล็กน้อยนะ”

    จากนั้นกลุ่มทหารก็ฝึกพลางไปในระหว่างกลับ หมู่บ้านก็เกิดเรื่องขึ้น

    ธนูทดกำลัง

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×