คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ที่นี่ที่ไหน
หลังจากการสลายของโรฟีเเละโฟคลอทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไป รวมถึงการทดลองเเละไม่เเน่ใจว่าจะเกิดอะไรต่อไป เเต่ว่าวิญญาณได้ร่องลอยไปเรื่อยๆไร้ที่สิ้นสุดจนกระทั้ง เจอสถานที่ๆเหมาะสม
ซึ่งสถานที่นั้นเป็นสถานที่มีพลังงานเวทมนต์อยู่ ด้านจิตวิญญาณของโรฟีเเละโฟคลอนั้นได้พัฒนาโดยการอัดเเก่นเวทมนต์กลายเป็นจิตวิญญาณเเละได้คุณสมบัติต้านทานจิตวิญญาณ
โลกนั้นมีทั้งมนุษย์ ปีศาจ เอลฟ์ หลากหลายเผ่าพันธุ์นอกจากนี้ความเเข็งเเกร่งของเเต่ละเผ่าจะไม่เท่ากัน ซึ่งโลกนี้เผ่าพันธุ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดคือเผ่าพันธุ์มังกร นอกจากนี้เวทมนต์ไม่มีขีดจำกัดเนื่องจากหลักการเเบ่งเเก่นเวทย์โดยผ่านขัดเกลาเมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการเเบ่งตัวไปเรี่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายกับหลักการเเบ่งเซลล์เเละหลักการทฤษฎีบิ๊ก แบง
เนื่องจากเป็นใหม่โลกชิโรฟีจึงได้ใช้หลักการคอยขัดเกลาเเกนเวทย์ให้โรฟีเเละการสร้างร่างกายให้เหมาะสมในครรก์ทารกในจิตวิญญาณของโรฟี เเต่โฟคลอไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะไม่ได้รับผ่านการปลูกฝังอะไร ดังนั้นร่างกายของโฟคลอจึงเกิดการเปลี่ยนเเปลงไปตามเหมาะสม เเต่โรฟีถูกขัดเกลาอย่างรวดเร็วที่สุดตามความอดทนของจิตวิญญาณจนกลายเป็นพลังที่สามารถทัดเทียมกับมังกร(สายพันธุ์ย่อย) --> สามารถไปถึงขั้นมังกรที่เเข็งเเกร่งที่สุด(เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีเเต่ต้องขัดเกลาตลอดเวลา)
-
.
โรฟีเมื่อเกิดใหม่
เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นภรรยากำลังเหนี่อยเพราะเพิ่งคลอด เเล้วมีสามีเห็นภรรยามีสีหน้าที่ผ่อนคลายเเล้วจึงหันหาลูกของตนว่าสำเร็จดีไหม ซึ่งก็สำเร็จได้ด้วยดีเพราะน้องทารกกำลังออกเสียงว่า ที่นี่ที่ไหน เเต่ไม่สามารถออกเสียงได้ชัดเจนเเละเเล้วสักพักก็ได้หลับไป
เมื่อทารกน้อยลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าอยู่ในพื้นที่บ้านไม้ที่ทรุดโทรมเเละเก่าที่นอนเป็นเตียงไม้เเข็งซึ่งบอกว่ามีฐานะยากจนเเละมีคู่สามีเเละภรรยาเฝ้าทารกน้อยของตนเองไว้ ซึ่งทารถตอนนี้ถูกหุ้มด้วยผ้าเเล้วคิดในใจว่า
"ที่นี่ที่ไหน เกิดไรขึ้นสำเร็จไหม" ในจังหวะนั้นเองก็ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนของลิโรฟิว่า
ชิโรฟิ : <เเจ้งเตือนตอนนี้อยู่ในต่างโลกเเละโลกเวทมนตร์เเละเเฟนตาซีค่ะ นายท่าน>
ทารกน้อยตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงทำความเข้าใจเเล้วได้ยินคำพูดต่อมาที่ทำให้ตกตลึงว่า
ชิโรฟิ : <ไม่ว่านายท่านอยู่ที่ไหน ฉันก็ไปกับนายท่านด้วย> พร้อมอารมณ์ที่เเสดงความยินดีกับทารก
เเล้วต่อมาชิโรฟิได้พยายามวิเคราะห์ภาษาเเต่อย่างที่รู้ว่าภาษามีหลากหลายต้องพยายามเเกะคำให้ได้มากที่สุดเเล้วมีการเเจ้งเตือนในหัวว่า
ชิโรฟิ : <เเจ้งเตือนตอนนี้กำลังวิเคราห์ภาษา>
“นี่*รัก ลูกค***ชื่*อ*ไร”
“เอาเป็นว่า** ลูกชื่อ โรฟีเซีย” พร้อมยิ้มเเละมองลูกของตนเองเป็นอย่างดี
เเล้วทันใดนั้นเองมีประกาศการเเจ้งเตือนไว้ว่า
<เเจ้งเตือนตอนนี้วิเคราห์ภาษาเสร็จสิ้นจะค่อยๆซึมซับข้อมูลจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง กำลังดำเนินการ>
หลังจากนั้นโรฟีเซียก็ค่อยๆหลับไป
4 ชั่วโมงต่อมา
เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าอยู่บนเปลที่นอนเป็นอย่างดีเเล้วจึงมีเสียงต่อมาว่า
<ยินดีที่ได้เจออีกครั้งมาสเตอร์>
โรฟีเซียเมื่อได้ยินก็สามารถทำความเข้าใจได้รวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นจึงใจเย็นเเล้วเรียงสถานการณ์ ดูเหมือนว่าโรฟีเเละโฟคลอได้หลบหนีสำเร็จเเต่ไม่รู้ว่าโฟคลอเกิดไปอยู่ที่ไหนเเต่ก็ไม่เป็นไรมากเท่าไร เพราะต่่อไปจะเริ่มใช้ชีวิตต่างโลกสุดเเฟนตาซีสักที เเต่คิดไปมาได้ว่าจะเริ่มสร้างอะไรดีโดยหลักการของเวทมนตร์ เเต่คิดในใจว่ายังไม่รู้เกี่ยวกับโลกภายนอกเลยว่าจะเจออะไรบ้างทั้งปีศาจ มอนสเตอร์อะไรพวกนี้เเล้วต่อมาก็มีเสียงเปิดประตู
"ที่รักดูเหมือนว่าลูกจะตื่นเเล้วให้" เเล้วหันไปมองภรรยาของตน
“มาสิลูก” หลังจากนั้นก็อุ้มลูกขึ้นมาเเล้วเปิดผ้าจนเผยเต้านมเเล้วยื่นไปทางปากโรฟีเซียเพื่อให้ลูกดื่มด่ำกับนม
เมื่อโรฟีเซียคิดในใจว่า ‘ใหญ่มากๆชาตินี้ต้องไอ้นั้นใหญ่สุดๆเเน่จากการถ่ายโอนร่าง’ จากนั้นปากค่อยๆเริ่มทำการดูดนม ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนเรียกว่า
“คุณทานิลว่างไหม”
“ว่ามาคุณโรเซ่ พร้อมมองหาผู้หญิงคนนั้น”
“ผู้ใหญ่หมู่บ้านมาหา”
ภรรยาที่มีชื่อว่าทานิลจึงเรียกสามีไปต้อนรับผู้ใหญ่หมู่บ้านโดยด่วนว่า
“ที่รักไปต้องรับเเขกผู้ใหญ่หมู่บ้านเร็วเข้า” พร้อมหันไปหาสามีที่กำลังมองดูลูกตนเเล้วสามีก็สะดุ้นเเล้วพูดว่า
“เข้าใจเเล้วจะจัดการให้” ด้วยการลุกขึ้นอย่างว่องไวเเล้วออกจากห้องไปพร้อมกับผู้หญิงที่มาเรียก
“เหนื่อยเเย่เลยเนี่ย”
โรฟีเซียเมื่อได้ยินเช่นนั้นเเล้วก็ได้ทำการสำรวจเเละจดจำอย่างว่องไว นอกจากนี้ได้บ่นในใจว่าเเม่สวยมาก ถึงอายุจิตใจจะเป็น 30 ก็ตามเเต่ก็ไม่สนใจมาก เเล้วก็ได้เกิดการเเจ้งเตือนมาว่า
<เเต่นายท่านดูยังไงก็เป็นเด็กนะไง>
‘ไม่ใช่เฮ้ย นี้เป็นร่างเนื้อไม่ใช้จิตใจ เเล้วโลกนี้คือโลกเเบบไหนล่ะ’
<โลกนี้คือโลกเวทมนตร์ มีทั้งมอนสเตอร์ ปีศาจ จอมมาร กับฝั่งผู้กล้า นักบุญ ศาสนจักร>
‘เอ่อเเล้วเเนะนำได้ไหมว่าทำอะไรดี’
<เเนะนำว่ากินเเล้วนอนค่ะ>
‘เฮ้ย ไม่ได้ๆๆๆ ไม่มีประโยชน์ไรเลย มีดีกว่านี้ไหม’
<นายท่านควรพักผ่อนให้เพียงพอเเละกินน้ำนมอย่างเดียวค่ะ เพื่อสร้างร่างกายให้ดีต่อนายท่าน ส่วนเวทมนตร์ดิฉันจะจัดการเองค่ะ>
‘มีเเค่ใช่ไหม ต้องทำอีกนานเท่าไร’
<เเนะนำ 1 ปี เเล้วเริ่มอ่านหนังสือค่ะ เรื่องเวทมนทร์เด็กควร 6 ปี เเต่นายท่านควร 3 ปีค่ะ เเต่ต้องเป็นที่ลับ>
‘อย่างดีหน่อยที่ฝึกเวทมนทร์ได้ไว้ ไม่สิต้องแอบสิ เเล้วทำไมคนอื่นๆต้อง 6 ปีล่ะ’
<เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เหมาะสมต่อการใช้เวทมนตร์เเต่ดิฉันช่วยเร่งไว้>
ระหว่างโรฟีเซียคิดในใจเเละถามอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเพลงกล่อมนอนจากเเม่จนต้านไม่ไหวเเล้วหลับไปอย่างสงบ
.
.
.
บทสนาของสามีภรรยาเเละผู้ใหญ่หมู่บ้าน
“โห้ เป็นลูกสาวหรือเนี่ยอนาคตต้องสวยดีเเละมีหนุ่มตามจีบเเน่นอน คุณเวเดส(พ่อ)” ผู้ใหญ่หมู่บ้านได้กล่าวอย่่างมีความสุขกับเวเดส(พ่อ)
“เเน่นอนสิคุณโรเเนน(ผู้ใหญ่หมู่บ้าน) เเล้วมีธุรอันใดถึงมาหา”
“จะว่าไปมีครอบครัวดีมีสุขมากเเต่ก็อดห่วงไม่ได้ไม่เเน่ว่าสงครามมันจะมาอีกเร็วๆนี้”
“ให้ตายสิ มาพูดวันนี้ดูเป็นไม่มงคลเลย ทางอาณาจักรออตโนเลียเรียกเกณฑ์ทหารอีกเเน่เลย เเละเเน่นอนว่าต้องหาคนที่มีเวทม….” ระหว่างกล่าวกันนั้นมีคนมาขัดจังหวะ
“เรื่องยังไม่เกิดขึ้นเลย ทำไมกังวลไปได้ เวทมนตร์ไม่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีได้”
“ลูกของคุณมีโอกาสตรวจสอบขึ้นมาได้ เลยกังวลไง”
“นั้นสิ พอมีข่าวจากเมืองหลวงไหม”
“หลังจากสงครามอาณาจักรออตโนเลีย กับ อาณาจักรโวเเซนต์ ทางอาณาจักรออตโนเลียเกิดความอดอยาดมากเเละสงครามกลางเมืองเริ่มเเรงขึ้นเรี่อยๆ”
“อันนี้น่ากังวลสุดๆเลย เรื่องใหญ่มาก เเต่เราก็ทำไรไม่ค่อยได้ เเล้วคนอื่นๆล่ะ”
“ก็น่าจะเตรียมตัวกันเเล้ว มีซ่อมเสบียงอีกด้วย”
“สงครามอีกเเล้วหรอ! อะไรก็สงคราม ไม่ว่าอะไรก็ตามครอบครัวต้องมาก่อน”
“เอาเหอะเรื่องยังไม่เกิดเเต่เตรียมตัวไว้ก็ดี ชาวบ้านก็ทำไรก็ไม่ค่อยได้ เดี๋ยวกลับก่อน มีอะไรก็ฝากบอกด้วย”
โรฟีเซียหลับอยู่นั้น ชิโรฟิก็รวบรวมข้อมูลเเละรอโอกาสต่อไป
6 เดือน
ทานิลก็ได้มองลูกของตนเเล้วเฝ้าเเละเล่นกันโดยหยอกกัน
“เเม่ ลูกพูดว่าเเม่”
อา อิ อุ เอะ โอ ~~~ เเล้วฝึกออกเสียงไปเรี่อยๆจนกระทั้ง
“เเม่!!”
โรฟีเซียที่จริงสามารถพูดได้นานเเล้วเเต่ว่าค้องรอเวลาให้เหมาะสมจากคำเเนะนำของชิโรฟิซึ่งก็มีเหตุผล ถ้าพูดได้ขึ้นมาคงโดยอวยเข้าไปใหญ่เลย
“เเม่ ลูกพูดว่าเเม่หรอ เฮ้อน่ารักลูกพูดได้เเล้ว”
โรฟีเซียคิดในใจว่าถ้าก่อนหน้านั้นพูดไปก็คงจะเกินไปฮ่่าๆๆ เเล้วไงช่วงนี้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก่อน เเล้วทานิลก็ไปหาเวเดสเเล้วอวยไปยกใหญ่เลยเเล้วก็ดีใจด้วย โรฟีเซียคิดในใจว่าพูดตรงๆเลยดีกว่า
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณเเม่”
“ห้ะ ~~ สวัสดีลูก”
"เเม่เล่นกับหนูหน่อย”
“เเล้วพ่ออ่ะ”
"ป๋ามาเเล้วด้วยกัน”
โรฟีเซียก็คิดในใจว่าชาติที่เเล้วครอบครัวก็อุดมสมบูรณ์ดีเเต่ก็ไม่เเน่ใจว่าเป็นตลอดไหมเหมือนชาติก่อนที่ประสบอุบัติเหตุเลยจะทำให้ชาตินี้เต็มที่เเละกัน เเล้วพ่อเเม่ลูกก็เล่นด้วยกันอย่างมีความสุข
9 เดือนต่อมา ความจริงเเล้วหน้าหนาวมีเกือบทุกปี มักจะเกิด ช่วง เดือน 11-12 เเล้วค่อยๆจางไป มีการล่มป่วยเกิดขึ้นนอกจากนี้บางคนที่ตกเเม่น้ำมักจะเสียชีวิต ครอบครัวจึงเตรียมความพร้อมมากกว่าปกติเพราะเริ่มสงครามกลางเมืองเเล้ว เเถมมาในช่วงมีลูกอีก ตามกฎหมายพ่อต้องไปเกณฑ์ทหารจึงต้องเดินทางไปภายในไม่เกิน 3 เดือน
1 ปีต่อมา
“สวัสดีค่ะ เเม่”
“สวัสดีลูก มีอะไรหรอจ๋ะ”
“พอดีว่ามีหนังสือให้อ่านไหม”
*ลุกขึ้น* “มีจ๋า จะเอามาให้” เเล้วไปเข้าไปหาหนังสือที่เก่า
ทานิลก็ได้บ่นกับตัวเองว่า ‘ลูกนี้เป็นคนขยันเรียนจริงๆสงสัยอนาคตต้องเก่งเเน่ๆ’เเต่ก็ต้องเอะใจว่าเดี๋ยวทำไมลูกอ่านออกเเล้วหรอเเต่ก็ได้ปล่อยผ่านไป
'เป้าหมายหลัก คือ การใช้ชีวิตสงบสุขเเละตามหาน้องให้เจอ ใช่ไหมชิโรฟี'
‘ค่ะท่าน’
“ลูกเป็นไรบ้าง สบายดีไหม” คุณพ่อที่เพิ่งเข้ามาเเล้วถามด้วยความเอ็นดู
“สบายดีค่ะ พ่อ ท่านพ่อขอออกไปข้างนอกหน่อย”
“มาๆ”เเล้วก็อุ้มโรฟีเซียไปดูบริเวณด้านนอก
เมื่ออยู่ด้านนอกเเล้วก็เห็นชาวบ้านหลายๆคนทำงานเกษตร บางคนพักผ่อนซึ่งโดยรวมถือว่ามีความสุขเป็นอย่างมาก โรฟีเซียได้เห็นก็อดเปรียบเทียบกับชาติก่อนว่าความเจริญต่างกันอยากเปลี่ยนให้ง่ายๆหน่อย ส่วนธรรมชาติสวยมากเพราะมีอากาศบริสุทธิ์มีเเม่น้ำไหลผ่านเเละก็รอบๆก็ป่าต้นไม้ เเละเห็นเส้นทางที่เป็นดินขรุขระ เเต่ก็ถูกขัดจังหวะ
“ที่รักทำไมถึงพาลูกออกไปข้างนอก”
“ไม่มีอะไรมาก ก็เเค่พาลูกมาสำรวจเฉยๆ เเล้วอีกไม่นานพ่อต้องไปเกณฑ์ทหารเเล้วลูก”
“โชคดีขอให้ปลอดภัย”
“พ่อ ทำไมถึงออกไปอ่ะ”
“ทางการเรียกเกณฑ์ทหารลูก พ่อจะกลับมา”
โรฟีเซียก็บ่นในใจว่านี่มันยุคกลางที่ไหนก็เกิดสงครามเเหละ
“ลูกไม่ต้องห่วงกลับมาเเน่นอน เเล้วลูกมาอ่านหนังสือกัน โชคดีค่ะที่รัก”เวเดสก็ได้ส่งโรฟีเซียโดยโรฟีเซียบอกพ่อว่า “บ้ายบาย” เเล้วไปหาทานิลเเล้วทานิลก็พาลูกไปในห้องนอนเเละเปิดหน้าต่างให้เเสงส่องเเล้ววางหนังสือมาสอนลูก
หลังจากนั้นก็เป็นการสอนอ่านเเต่ก็ตกใจว่าลูกเรียนรู้ได้ไวมากผิดปกติ เนื่องจากนิทานที่สอนก็เป็นของเด็ก 8 ขวบเลย เเจ่ก็ทำได้เเค่เเอบภูมิใจว่าสอนดี
อายุ 3 ปี เดือน 1 ศักราช 816
โรฟีเซียตอนนี้มีหน้าตาที่สวยงามมากมีผมสีขาวตาสีเเดงเหมือนเเม่เเละปากโค้งสวยนอกจากนี้อยู่ในชุดที่เย็บเองเป็นเสื้อเชิตสีขาว กางเกงน้ำตาลรองเท้าคอมแบทสีน้ำตาล
โรฟีเซียบอกกับระบบว่าชิโรฟิพร้อมเรียนเวทมนตร์เเล้วจึงได้มีการสอนการไร้ร่ายเเละฝึกกล้ามเนื้อพลางไปด้วย ชิโรฟิบอกว่ากล้ามเนื้อจะมาพร้อมกับการบรรจุมานาด้วย ชิโรฟิได้บอกอีกว่านายท่านเน้นเก่งเกือบทุกด้านเเล้วเหลือเเต่เวทมนตร์ที่เป็นสิ่งเเปลกใหม่จึงบอกเกี่ยวกับข้อมูล
เรื่องวันเกิดจะฉลองทุกๆ 5 ปีจนถึงอายุ 15 ปี จึงเลิกฉลอง บางทีถ้าเป็นคนปกติมากๆจะไม่มีการเฉลิมฉลองอย่างไร
หมู่บ้านโรเเนนมีประชากรราว 48 คน ชาย 12 หญิง 28 เด็ก 8 ผู้ชายน้อยเนื่องจากถูกเกณฑ์ทหาร
โลกนี้เป็นโลกมีเวทมนตร์ธาตุหลักอยู่ 4 ธาตุมี ดิน น้ำ ลม ไฟ เเละธาตุพิเศษมีอยู่ 2 ธาตุคือ ความมืดเเละเเสงสว่าง อีก 1 คือ ธาตุศูนย์ (ซึ่งยังไม่ได้ถูกบันทึกมีเเต่ตัวตนเอฟล์เเละมังกรที่จะมีรู้จักธาตุนี้ เเต่ก็ไม่ได้รู้ทุกตน) ความเข็มข้นมานาก็ต่างกันไปด้วยเเต่ไม่สามารถวัดความเข็มข้นมานาที่ชัดเจนได้ ถึงอย่างนั้นยังวัดได้จากการถ่ายโอนของมานาไปยังตัววัดเเสง
ชิโรฟิเป็นระบบหรืออาจารย์ที่โหดมากเพราะเเต่ละการฝึกมันไม่ใช่เด็กๆเลย
โรฟีเซียได้อยู่ในบ้านมี ท่าซิทอัพ ท่าดันพื้น ท่าแพลงก์เเละวิ่งบ้างจนมีสุขภาพร่างกายที่ดี นอกจากนี้มีการฝึกศิลปะการต่อสู้ชาติก่อน เช่น ชกมวย เทควันโด เเละฝึกตามหน่วยรบพิเศษ
ด้านเวทมนตร์มีการฝึกให้มีทำสมาธิเพื่อขัดเกลาเวทมนตร์เเต่ก็สงสัยว่ามีเวทย์มนอะไร ชิโรฟิจึงตอบไปว่ามีทุกธาตุ ดังนั้นจึงรู้สึกว่าโกงมากเลยเเต่ผลมาจากความพยายามมากกว่า ชิโรฟีเมื่อเห็นว่ามานาเข็มข้นพอเเล้ว(มังกรสายพันธุ์ย่อย) จึงเริ่มสอนต่อมาคือการร่ายเวทมนตร์
โดยการฝึกจะเริ่มจากที่อยู่ห้องนอนชิโรฟีส่งข้อมูล เมื่อได้ข้อมูลเเล้วจึงเริ่มร่ายเวทมนตร์ผ่านนิ้วมือโดยเริ่มจากธาตุน้ำ ดิน ลม ไฟ เเสง เเละความมืดโดยชิโรฟีเเอบร่ายเวทย์ลวงตาเป็นธาตุศูนย์ซึ่งทางทฤษฎีเป็นไปได้ยากจึงไม่มีใครรู้ว่าทำอะไร
นอกจากนี้เมื่อฝึกการควบคุมได้เเล้วจึงฝึกการใช้เวทมนตร์หลายๆธาตุพร้อมกันจนชิน เเต่ก็มีเเจ้งเตือนมาว่า ชิโรฟี “เเค่นี้พอก่อนกลัวว่ามานาจะหมด” เพราะได้ฝึกทั้งวันทั้งคืนซึ่งจะวันทางกายสลับกับทางเวทย์ไปเรี่ิอยๆ
อายุ 3 ปี เดือน 3 ศักราช 816
โรฟีเซียช่วงนี้เริ่มช่วยงานเเม่บ้างเเล้วเริ่มจากการทำความสะอาดบ้าน จึงเบาภาระงานของเเม่ได้เยอะมาก เเล้วก็หลังจากนี้มีอะไรได้ช่วยเยอะเเน่ๆ
ต่อมาเมื่อเห็นเเล้วว่าเบื่ออาหารที่เเม่ทำจึงขออาสาเเม่ทำงานว่า “เเม่หนูอยากทำอาหาร” เเล้วก็เเม่จึงพยักหน้าเเล้วก็อนุญาต เเล้วโรฟีเซียจึงได้ทำอาหารซุปไก่เเละสลัดโดยมีชิโรฟีคอยให้คำเเนะนำจนทำอาหารเสร็จ
“ลูกสิ่งนี้คืออะไร” พร้อมมองอาหารที่มีผักหน้าตาประหลาด
“อันนี้คือสลัดผักค่ะเเม่ เเละอันนี้เรียกว่าซุปไก่ เเละมีข้าวสวยพร้อมด้วย”
ได้ยินเช่นนั้นเเล้วมีหรือที่จะได้ลองฝีมือของลูกจึงชิมอาหารดู เมื่อทานิลได้เห็นฝีมือของลูกเเล้วจึงประหลาดว่าเดี๋ยวนะทำไหมฝีมือยิ่งกว่าเมืองหลวงซะอีก ทำได้ยังไง
“ลูก อร่อยมาก ทำได้ไงอ่ะ”
“อ่อ ฝึกมาค่ะ”
เเม่ก็ไม่คิดอะไรมากเเล้วก็ค่อยจากไปเเต่ทว่า
“เเม่ พ่อเมื่อไรจะกลับมา”พร้อมถามด้วยความคิดถึง
“เดี๋ยวพ่อก็กลับมาเเล้วพร้อมทั้งยิ้ม”
“หนูสงสัยว่าพ่อเเละเเม่มีเวทย์มนตร์ไหม”
“สามัญชนไม่ค่อยมีเวทย์มนตร์เท่าไรบางคนใช้ได้เเต่เป็นเวทย์พื้นฐานเท่านั้น”
โรฟีเซียขออีกว่าอยากเข้าในป่าได้ไหมทานิลจึงบอกว่าได้เเล้วรอพ่อกลับมาจากสงครามก่อน
“สงครามเกิดจากอะไรหรอ” ทานิลจึงกล่าวว่า
สงครามเกิดจากหลังจากการรบของอาณาจักรออตโนเลีย กับ อาณาจักรโวเเซนต์ อาณาจักรออตโนเลียที่พ่ายเเพ้สงครามเกิดกบฎขึ้นจากฝังดยุกเเละราชวงค์เนื่องจากความขัดเเย้งด้านพื้นที่ส่วนใหญ่จึงเกิดผลกระทบยกเว้นหมู่บ้านเราเพราะหมู่บ้านค่อนข้างลึกเเละไม่ค่อยมีทหารเก็บภาษีเท่าไร มาเดือนละ 2 ครั้งเพราะมองว่าดินเเดนเรายากจน
‘โรฟีเซียบ่นในใจว่าจนจริงๆเเต่ป่าก็อุดมสมบูรณ์นิ’
“โลกนี้มีอสูรอยู่ในป่าจึงไม่่ค่อยปลอดภัยด้วยจึงมีกิลนักผจญภัยอยู่บ้างเพื่อคอยป้องกันอยู่ ถ้ามีความสามารถฝั่งราชวงค์ก็จะเชิญไปทำสงครามก็เหมือนกับว่ามีเเค่สามัญชนเเละขุนนางบางส่วนเท่านั้นที่มารบ ส่วนพ่อตอนนี้มีส่งจดหมายบ้างอ่านไหม”
‘โรฟีเซียคิดมาว่าทำไมไม่จัดมวยตีกันเองเลยว่ะ ทำไมต้องคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาเกี่ยวด้วย’
โรฟีเซีย : “ตอบลง”
ถึงทานิล ที่รัก
เวเดสตอบนี้ได้เขียนส่งถึงภรรยามาว่าตอนนี้เป็นไงบ้างสบายดีไหม ตอนนี้ก็อยู่สนามรบลูกๆปลอดภัยไหม เวเดสบอกกับตัวเองว่าสถานการณ์ย่ำเเย่มากผมเป็นทหารเเนวหลังจึงค่อนข้างปลอดภัยอยู่มีหน้าที่เเค่ยิงธนู(ล่าสัตว์บ่อยในป่า)ในทัพดยุก ถึงมีเวทย์รักษาบ้างเเต่ก็ทำด้วยความล่าช้าเพราะจำนวนน้อย เป็นของศาสนจักรเป็นส่วนใหญ่
สุดท้ายนี้พ่อคิดถึงลูกมากๆ เเละขอให้ปลอดภัยโชคดี
จาก เวเดส
เมื่อโรฟีเซียได้อ่านไปก็รู้สึกว่าได้เศร้าใจเป็นอย่างมากเเนวคิดจากโลกใหม่ต้องเเก้ปัญหาได้ โรฟีเซียจึงบอกในใจว่า ยังไงก็ต้องเปลี่ยนโลกนี้ให้ได้
“พ่อ ปลอดภัยสิน่ะคะ”
วันต่อมา
โรฟีเซียเจอเพื่อนใหม่ คือ เเม่ของโรเซ่ โดยเริ่มมาจากการที่โรฟีเซียเริ่มจากการฝึกดาบจริงจังเเล้วมีเสียงตกใจเป็นเด็กสาวน้อยผมสีน้ำตาลนัยตาสีเเดงชุดชาวบ้านธรรมดาล้มลงกับพื้น
“นี่เธอเป็นไรไหม” โดยสำเนียงอ่อนโยนเมื่อด็กสาวน้อยได้ยินก็บอกกว่า
“ไม่เป็นไร นี่เธอชื่อ?” เเล้วก็เเนะตัวกันเเละกันโดยมีการจับมือดึงขึ้นมายืน
“โวเลียค่ะ”
“คราวหลังก็ระวังหน่อย” เเล้วก็ถูกถามว่า
“ขอฝึกดาบด้วยได้ไหม่” พร้อมรอฟังคำตอบ
“ ต้องฝึกร่างกายก่อนจึงจะฝึกได้เเล้ว เเต่ขออนุญาติมาฝึก” พร้อมทั้งน้ำเสียงดุดันเเล้วก็บอกว่า จริงสิหิวไหมพร้อมทั้งเสกอาหารที่ทำค้างไว้จำนวนมาก
“นี้คืออะไรอ่ะ” ด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น
“มันคือเวทมนตร์อ่ะ อย่าบอกใครเชียวล่ะ”พร้อมข่มขู่เล็กน้อย
“เข้าใจ--จเเล้ว เเล้วก็อาหารขอกินหน่อย ไม่ต้องขู่ก็ได้”
“เข้าใจเเล้ว”
อายุ 4 ปี เดือน 5 ศักราช 817
POV โวเลีย
ตอนนี้โรฟีเซียเเละโวเลียเป็นเพื่อนสนิทกันเเล้ว โวเลียได้ฝึกฝนผ่านโรฟีเซียมี
1.การสอนเทคนิคดาบ
2.การสอนยิงธนู
เป็นการฝึกที่โหดมากเมื่อเห็นเเล้วจะรู้สึกท้อเลยทีเดียว คือ หลักสูตรอย่างกับว่าเป็นของปีศาจ การออกกำลังกายก็เหนี่อยล้ามาก
โรฟีเซียเเละโวเลียกำลังฟันดาบอยู่ซึ่งตีทีไรก็หลบได้หมดเลย ควาามไวก็สูงเเต่ก็คุ้มค่าอยู่ เเม่เราโรเซ่ ก็เป็นเเค่คนธรรมดาเอง เคยต่อสู้อยู่บ้างจากการที่เเม่เคยเล่ชีวิตส่วนตัว จนคิดไปมาก็มีเสียงที่คุ้นมาก
“นี่ระวังสิ อยู่หน้าศัตรูเป็นเเบบนี้ตายห่าพอดี”
“ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ” พร้อมยิ้มเจื่อนๆ
เเล้วก็มีลุงโรเเนนคอยเฝ้ามองการต่ออยู่
อายุ 5 ปี
เมื่อถึงวันเกิด 5 ปี ของโรฟีเซียเเล้ว
ที่ผ่านมีการฝึกยิงธนูพิเศษทำโดยโรฟีเซีย(ชิโรฟี)ลักษณะเป็นธนูทดกำลังมากกว่า
หลังจากการฝึกเล็กน้อยจากการยิงธนูก็ขอเเม่ไปเข้าป่าเเละล่าสัตว์
“เเม่ขอเข้าป่าได้ไหม ถึงอันตรายเเต่อยากฝึกล่าสัตว์”
“ได้เเต่ต้องมีผู้ติดตามด้วยเดี๋ยวขอโรเเนนเป็นให้”
“รักเเม่ที่สุดเลยๆ”
โรฟีเซียเเละทานิลก็ได้ไปหาโรเเนนเเล้วบอกว่าขออนุญาติล่าสัตว์ โรเเนนจึงอาสาคุ้มกันให้ระหว่างนั้น
ดูเหมือนว่าโวเลียจะชอบโรฟีเซียมากๆพาไปด้วยได้ไหม เเต่ว่าจะต้องผ่านเเบบทดสอบก่อน
จากนั้นจึงอนุญาติโดยโรเเนนเเละโรฟีเซียประลองดาบเเละธนูกันถ้าเกิดว่าโรฟีเซียเเพ้จะไม่อนุญาติซึ่งเเน่นอนใช้เวทมนตร์ไม่ได้
โรฟีเซีย vs โรเเนน
โรเเนนเป็นอดีดอัศวินคุ้มกันราชวงศ์เลยพอสู้ได้เเต่ก็เกษียณเเล้วจึงฝีมือตกไป โรฟีเซียเป็นคนเริ่มก่อนโดยชักดาบไม้วิ่งเป็นจังหวะในศิลปะการต่อสู้ที่ผ่านขัดกลัดเเล้วไปฟันที่ต้นขาเเต่โรเเนนปัดได้เเล้วฟันไปที่หัวเเต่เป็นภาพลวงตา
โรฟีเซียรู้เลยปัดตามน้ำเเละจังหวะต่อมาที่ขาด้วยสายตาจากชาติก่อนจึงสามารถบล็อกไว้ได้โรเเนนจึงคิดในใจว่า “น่ากลัวไปเเล้ว ปกติถ้าคนทั่วไปรับคงเเหลกไปเเล้ว สงสัยต้องเอาจริง” คิดได้จึงเริ่มทักษะโจมตีว่องไว โรฟีเซียคิดเเค่ว่าช้าชะมัดไม่เเน่เเหละก็มีชิโรฟีก็ทำไรไม่ได้เเล้วไม่ต้องใช้ด้วยซ้ำจึงปัดความไวตามน้ำ
จึงเกิดเสียงดังของไม้ที่กระทบไปมาจน ทานิลอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าลูกเป็นไรไหมเเต่ก็ได้จบลงเมื่อโรฟีเซียใช้ภาพลวงตาเเบบดาบที่ซ้าย-ขวา โรเเนนจึงโดนตีในที่สุดเเล้วตะโกนว่า
โรเเนน : “เจ็บๆ ทำไมหน้ากลัวขนาดนี้ๆๆ ยอมเเล้วธนูคงยิ่งกว่านี้อีก”
จากเสียงของทานิล โวเลีย เเสดงความยินดีให้โรฟีเซีย
โรเเนน “เราเข้าป่าล่ากัน เเต่เป็นพรุ่งนี้น่ะ” โรเเนนนึกภูมิใจที่คนในหมู่บ้านมีคนที่มีความสามารถเเถมเป็นลูกของเวเดสเก่งจริงๆ ถ้ายังอยู่คงชอบลูกคนนี้มากๆ
วันต่อมา
จากนั้นโรฟีเซียเเละพวกจึงเข้าป่าล่าสัตว์กันต่อจากนี้ โดยทุกคนก็เตรียมความพร้อมมาก ทุกคนมีอาวุธป้องกันตัว โวเลียเป็นมีดสั้นไวเก็บเกี่ยว ส่วนโรฟีเซียเเละโรเเนนเป็นธนูทดกำลัง
ในป่า
มีบุคคลกลุ่มหนึ่งเป็นทหารของดยุกที่หนีทัพมาเพราะดยุกเริ่มที่จะค่อยๆพ่ายเเพ้
ทหาร1 : พวกเราหนีมาไกลขนาดนี้คงไม่มีใครตามเราเจอเเน่นอน ด้วยความมั่นใจ
ทหาร2 : นั้นสิอยากหาที่สงบหน่อยนะ
ซึ่งกลุ่มทหารก็พักผ่อนอยู่ มีคนหนึ่งเป็นเวเดสทที่พยายามกลับบ้านด้วย
ทหาร3 : นั้นสิสหายเเล้วเวเดสนายกลับบ้านหาเมียเเละลูกใช่ใหม่
เวเดส : “ช่ายไง ลูกโตขึ้นสวยเเน่ๆ เเละเก่งด้วยคิดถึงมากๆ”
กลุ่มทหารจึงได้เล่ากันอย่างมีความสุข
ในเวลาเดียวกัน
โรฟีเซีย : “เข้าป่าต้องเงียบๆเเละล่าสัตว์ไว้ ทำตามนะโวเลียจะสอนเป็นนักรบให้ดู”
เวเดส : “ค่า โรฟีเซีย” พร้อมยิ้มอย่างมีความสุข
โรเเนน : “นั้นไงเจอหมูป่าเเล้ว”
โรฟีเซียจึงไม่ชักช้าหยิบลูกธนูขึ้นเล็งเเล้วยิงอย่างว่องไวจนโดนจุดสำคัญตรงหัวใจหมู
โรเเนน : “ว่าเเล้วคุณโรฟีเซียต้องเก่งจริงๆ” คิดในใจว่าทำไหมเก่งจังทำไรมาเนี่ย หรือต้องมีพรสรรค์สักอย่างเกี่ยวกับร่างกายเเน่(ความพยายาม)
โรฟีเซีย : “เจอกระต่ายล่ะ โรเเนนเอาเลย”
โรเเนนไม่ชักช้าก็ยิงไปกระต่ายตัวนั้นอย่างรวดเร็วเเละต่อมาก็โดนจุดสำคัญจนเเน่นิ่งไป
โรเเนน : “สุดยอดธนูทดกำลังทั้งเบาเเละเเรงเเถมไกลอีกด้วยทำได้ไง…”
โรฟีเซีย : “ทุกคนเงียบ เหมือนได้ยินเสียงอะไรในระยะไกลๆ”
ทั้ง 2 สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเตือน สักพักก็ทำตามเเล้วได้ยินจริงๆ จึงเดินตามเสียงอย่างเงียบๆ
.
.
จนเจอกลุ่มทหารซึ่งโรฟีเซียจับสังเกตุจนเมื่อเห็นพ่อที่มากับกลุ่มคนเเปลกหน้าก็เเปลกใจเล็กน้อยเเละตะโกนว่า
โรฟีเซีย : “พ่อกลับมาเเล้ว" เเล้ววิ่งด้วยความว่องไวเป็นอย่างมาก
เวเดส : “ลูกทำไรที่นี้” สักพักก็มีโรเเนนเเละโวเลียตามมา”
โรฟีเซีย : “พ่อปลอดภัยก็ดีเเล้วเเล้วสงครามจบเเล้วหรอ” พร้อมหน้าตาที่สงสัย
เวเดส : “จบเเล้วดยุกพ่ายเเพ้เดี๋ยวค่อยเล่า” เเต่ด็อดห่วงไม่ได้ว่าลูกโตเเค่ไหน
โรฟีเซีย : “เเปลว่าพ่อ…”
ทหาร1 : “นี่หรือลูกสาว”
ทหาร2 : “โห้สวยมากๆ”
โรเเนน : “ยินดีต้อบกลับเวเดส เเละสหายทุกๆคน ลูกเธอเก่งจริงๆเลยนะเวเดส ทั้งเเอบใช้เวทมนตร์ ทั้งเเอบฝึกดาบ ทั้งธนูเเถมพละกำลังเหนือขั้น”
เมื่อกลุ่มทหารได้ยินก็ไม่เชื่อสายตาเพราะเป็นเเค่ผู้หญิงตัวเล็กๆเเถมอายุน้อยอยู่เลย
โรฟีเซียเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นที่คนไม่ไว้ใจเธอจึงได้ยิงธนูใส่ปลายเท้าเเต่ละคนทั้งสามคนยกเว้นพ่อของโรฟีเซียด้วยความว่องไว
ทหารทั้งหมด : “เข้าาใจ..จเเล้ว..” พร้อมอาการตัวสั่นกับเด็กสาวคนตรงหน้าที่หน้ากลัว
โรเเนน : “นี่่โรฟีเซียระวังหน่อยถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาใครมารับผิดชอบ”เวเดสเองก็เห็นด้วย
โรฟีเซียเมื่อได้รับคำเตือนจึงขอโทษทันทีเเละกล่าวกับทหารว่า
โรฟีเซีย : “นี่ทหารทั้งหลายสนใจมาเป็นคุ้มกันหนูไหมเเลกกับธนูให้” พร้อมชู 2 นิ้วเเละบอกกับโวเลียอีกว่า “คุณโวเลียก็ด้วย ไม่ใช่เเค่นี้เเน่ หนูจะเปลี่ยนเป็นนักรบที่กล้าหาญ”
ทหารทั้งหมด : เข้าใจเเล้วคุณหนู
ทั้งคุณพ่อ โวเลีย โรเเนน ต่างก็ตกใจไม่คิดว่าเด็ก 3 ขวบ จะขนาดนี้
โรฟีเซีย “นี่คือเวทมนตร์” พร้อมเกิดมิติเเล้วหยิบธนูทดกำลัง 3 เล่ม
ทั้งหมดก็ตกใจเเล้วผลข้างเคียง…เเต่ได้ยินคำต่อมาว่า
โรฟีเซีย “ไม่ต้องห่วงไป หนูเข้าในว่าตามหลักต้องเป็น 6 ขวบถึงจะมั่นคงเเต่หนูเป็นตัวตนพิเศษ 3 ขวบ ก็ใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่มีผลข้างเคียง เอาเเหละทหารฝึกยิงธนูไปก่อนหนูสอนใช้เล็กน้อยนะ”
จากนั้นกลุ่มทหารก็ฝึกพลางไปในระหว่างกลับ หมู่บ้านก็เกิดเรื่องขึ้น
ความคิดเห็น