คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1 วันของหน่วยเสนาธิการ
เรื่อง 1วันของหน่วยเสนาธิการ
ภายในป้อมโฮเบิร์ก เสียงลงฝีเท้าหนักแน่นเป็นจังหวะสม่ำเสมอดังเป็นจังหวะถี่เร็ว ทั้งที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นเต็มดวง แต่บุรุษผู้หนึ่งกลับเร่งรีบเสียเหลือเกิน
ร่างสูงกำยำในชุดทหาร หัวหน้าหน่วยเสนาธิการอายานามิ ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้าใดๆทั้งนั้นขณะก้าวเดินไปยังห้องทำงานของหน่วยเสนาธิการอย่างรวดเร็วจนทหารยามตามทางเดินแทบกระทำวันทยหัตถ์ให้ไม่ทัน
สาเหตุที่เขาต้องรีบเดินน่ะหรือ...
เหลืออีกไม่กี่สิบก้าวก็จะถึงประตูห้อง โสตประสาทเฉียบคมแว่วเสียงกลุ่มคนข้างใน ลูกน้องในหน่วยของเขาเอง เป็นลูกน้องฝีมือเยี่ยม ซื่อสัตย์ภักดีกับเขาเพียงคนเดียว ทว่า...
ปัง!!!
ภาพที่เห็นหลังเปิดประตูช่างตรงกับภาพความคิดในหัว แม้จะเป็นลูกน้องฝีมือฉกาจ แต่คนเหล่านี้ไม่ต่างอะไรเลยกับตุ๊กตาไขลานยามทำงานนั่งโต๊ะ
“พันตรี กรุณาตื่นแล้วทำงานทีเถอะครับ...อ่ะ อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านอายานามิ”
เบกเลเตอร์โคนัทสึสาละวนเขย่าเจ้านายของตนด้วยท่าทีจวนเจียนจะระเบิด พันตรีในแว่นกรอบเหลี่ยมปรือตาขึ้นช้าๆ ยังความโล่งใจแก่คนปลุก ทว่าประโยคแรกที่เอื้อนเอ่ยกลับเป็น...
“อยากกินอมยิ้มแอปเปิ้ลจัง โคนัทสึ ซื้อให้กินหน่อยสิ...อรุณสวัสดิ์ อายะตัน วันนี้ก็ทำหน้าบูดบึ้งเหมือนเคยเลยนะ”
ก็แล้วมันเพราะใครกันเล่า คนถูกพูดด้วยเหมือนเป็นตัวประกอบตะคอกกลับในใจ แต่ภายนอกยังคงวางท่าทีสุขุมลุ่มลึกเหมือนเดิม เมื่อหันไปอีกทาง...
“อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านอายานามิ”
อายานามิหันมองฮัลเซ่ แล้วปรายตาต่อไปที่พันโทร่างเล็กในอ้อมแขนเบกเลเตอร์ คุโรยูริยังคงนอนหลับสนิทราวกับเด็กเล็กๆขัดแย้งกับชุดทหารที่สวมใส่เหลือเกิน
ไม่ประหลาดเลยที่อายานามิคิดว่าคนเหล่านี้เป็นเหมือนตุ๊กตาไขลานยามทำงานนั่งโต๊ะ ถ้าเขาเดินเลยไปเข้าห้องประชุมโดยไม่แวะมาปลุกเจ้าพวกนี้ก็ไม่ต้องตื่นมาทำงานพอดี
พันเอกคัทสึรางิเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ดูจะชาชินเสียแล้วกับสภาพของผู้ร่วมงานยศต่ำกว่าจึงเพิกเฉยไปและรายงานกำหนดการต่างๆของวันให้อายานามิทราบ
“อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านอายานามิ นี่เป็นงานเสนอเซ็นของวันนี้ และกำหนดการหลังจากนี้8โมงเช้ามีประชุมผู้นำทหาร...”
“จัดการอ่านเอกสารให้เสร็จก่อนฉันประชุมเสร็จ”
อายานามิสั่งการเสียงเฉียบ แม้ในใจจะพอเดาผลลัพธ์ได้ก็ตาม...
“พันตรี ตื่นมาทำงานได้แล้วครับ ไม่งั้นถ้าท่านอายานามิกลับมา...”
คำต่อท้ายของโคนัทสึได้ผล ฮิวงะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงแส้ตวัดผ่านอากาศขึ้นมาทันที พลางคิดว่าเขาคงต้องตื่นได้แล้ว ร่างสูงโปร่งค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ เหยียดแขนเหยียดขาขับไล่ความเมื่อยล้า จากนั้นหันมาหาเบกเลเตอร์ของตนที่ยื่นเอกสารกองใหญ่ให้
“ฉันอยากกินอมยิ้มแอปเปิ้ลน่ะ โคนัทสึไปซื้อให้หน่อยสิ ส่วนฉันขอไปล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วค่อยกลับมากินนะ”
แล้วพันตรีฮิวงะก็ทำตามที่พูดด้วยการเดินไปทางห้องน้ำทันที ทิ้งให้โคนัทสึอ้าปากค้างไม่ทันได้เอ่ยคำโต้แย้งออกไปว่า... ล้างหน้าล้างตาของพันตรีใช้เวลานานกว่าเดินออกไปซื้อลูกอมข้างนอกแล้วเดินกลับมาให้อีกหรือครับ
อีกด้าน มีเบกเลเตอร์อีกผู้หนึ่งกำลังปลุกเจ้านายของตนเช่นกัน เสียแต่ว่าใช้วิธีปลุกต่างกันไกลก็เท่านั้น
“ท่านคุโรยูริ ท่านคุโรยูริ ได้เวลาตื่นแล้วครับ”
ฮัลเซ่เขย่าร่างบอบบางอย่างทะนุถนอม ดวงตาแวววาวขี้อ้อนเหมือนลูกแมวน้อยปรือขึ้นช้าๆ คุโรยูริส่งเสียงครางงึมงำในคอเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ
“ทำงานก่อนแล้วค่อยนอนต่อเถอะนะครับ”
ฮัลเซ่ใช้ไม้อ่อนหลอกล่อ ได้ผล... เด็กน้อยขยี้ตาตัวเองไปมาประหนึ่งยอมตัดใจตื่น และตามมาด้วย...
“มอร์นิ่งคิสล่ะ”
คำขอเอาแต่ใจของร่างเล็กได้รับการตอบรับทันที
...อย่างน้อยๆสองเบกเลเตอร์ก็ปลุกเจ้านายของตนสำเร็จแล้ว...
“พันตรี กรุณาทำงานด้วยครับ จะแกล้งขยับมือไปมา หรือใส่แว่นกันแดดเพื่อหลับ ก็ปิดไม่มิดหรอกนะครับ”
“แหม โคนัทสึเก่งจัง”
ไม่อย่างนั้นจะมาเป็นเบกเลเตอร์คุณได้หรือไง คนถูกชมเถียงกลับในใจ อยู่กับพันตรีมาตั้งนานเซลล์สมองเขาถูกทำลายจนไม่เหลือแล้ว นั่นไง คิดยังไม่ทันจบประโยคเลย
“พันตรี อย่าวาดรูปเล่นใส่เอกสารสำคัญสิครับ”
“ก็เห็นโคนัทสึทำหน้าปั้นยาก เลยอยากลองวาดดูน่ะ ดูสิ หน้าโคนัทสึล่ะ”
พันตรีคนเก่งในแว่นกรอบเหลี่ยมชูรูปวาดของตนให้ดู
“เหมือนเปี๊ยบเลยพันตรี...ซะที่ไหนเล่า อย่ามาทำป่วยๆลงเอกสารสำคัญสิครับ”
โคนัทสึว้ากใส่ชุดใหญ่โดยไม่สนตำแหน่งหน้าที่หรือระดับอาวุโส
หลังจากฮิวงะก้มหน้าก้มตาทำงานไปได้ไม่เท่าไหร่ เสียงเวลาบอกพักเที่ยงก็ดังขึ้น
“โอ้ มื้อกลางวัน ที่เหลือไว้ค่อยกลับมาทำต่อตอนบ่ายล่ะกันนะ”
ฮิวงะวางปากกาอย่างรวดเร็ว ไม่รอช้าดึงแขนเบกเลเตอร์ของตนจะเดินออกจากห้อง แต่ยังไม่วายหันมาหาผู้ร่วมทีมอีกสามคน
“จะไปด้วยกันมั้ย”
“ไปสิครับ”
พันเอกคัทสึรางิตอบรับคำชวนเสียงอารมณ์ดี
อีกด้าน พันโทคุโรยูริวางปากกาของตนหลังจากเซ็นเอกสารชิ้นสุดท้ายเสร็จ
“ฮัลเซ่...”
เบกเลเตอร์ฮัลเซ่อุ้มร่างเล็กขึ้นวางบนไหล่ของตนอย่างรู้ใจโดยที่ร่างเล็กไม่จำเป็นต้องพูดอะไร
“งั้นก็ไปกันเล้ยยยยย”
พันตรีฮิวงะพูดเสียงระรื่นตั้งตัวเป็นแกนนำคนดองงาน
10นาทีต่อมา เสนาธิการอายานามิกลับมาที่ห้อง สภาพว่างเปล่าไร้คนในห้องนำมาซึ่งความหงุดหงิดเหลือแสน ชายหนุ่มเดินไปพลิกดูเอกสารตามโต๊ะทำงานลูกน้อง พบว่าเสร็จไปไม่ถึงครึ่งในส่วนของวันนี้
เอกสารทุกอย่างต้องผ่านสายตา คัทสึรางิ คุโรยูริ ฮิวงะก่อนมาถึงมือเขา เป็นไปได้สูงโดยเฉพาะฮิวงะว่าพอกลับมาทำงานตอนบ่ายจะก้มหน้าก้มตาเซ็นโดยไม่อ่านผ่านตา ทำให้อายานามิต้องยุ่งยากทำงานล่วงเวลาเป็นหนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้
...น่าโมโหนักเชียว...
ตอนบ่ายของวัน
“ทุกคน อีก15นาทีจะมีประชุมนะ”
พันเอกคัทสึรางิประกาศ
“ฮ้าววว... เสร็จแล้วล่ะ ฮัลเซ่...ง่วงจัง”
แม้จะได้ยินประกาศเช่นนั้นแต่คุโรยูริก็ไม่ใส่ใจ เลือกจะใช้อ้อมแขนอบอุ่นของเบกเลเตอร์เป็นเตียงนอน
“เก่งมากครับ ท่านคุโรยูริ”
ฮัลเซ่เอ่ยชมและอุ้มเจ้านายของตนไว้ในวงแขนแกร่ง ใบหน้าอ่อนเยาว์เอียงซบอกกว้าง รอยยิ้มบางๆที่มุมปากบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังฝันดี
ฮิวงะนั่งเท้าคางหมุนปากกาเล่นมองเวลานอนกลางวันของคุโรยูริอย่างอารมณ์ดี
“คุโรยูรินี่ดีจังน้า นอนหลับก็ได้ เราซะอีกต้องยืนฟังตาแก่พวกนั้นเถียงกันน่ารำคาญ จะนั่งแบบอายะตันก็ไม่ได้ซะด้วย”
“อย่าพูดเลย พันตรี ถึงนั่งไม่ได้ พันตรีก็ติดสกิลยื่นหลับเนียนขั้นเทพมาแล้วไม่ใช่เหรอ”
“อ่ะ ก็จริงอ่ะเนอะ ฮ่ะฮะฮา”
ภายในห้องประชุม
อายานามินั่งหลังตรงสองมือกุมไว้หลวมๆอดทนฟังการประชุมเหล่าทหารอย่างใจเย็น แสร้งทำเป็นไม่สนใจว่าเหล่าตาแก่นั่งโต๊ะจะบ่นเรื่องมารยาทลูกน้องเขายังไง ในเมื่อหนึ่งคนเอาแต่หลับ หนึ่งคนก็ยืนอ่านหนังสือ และอีกหนึ่งที่ยื่นยุกยิกไปมาปิดปากหาวยาวๆดังๆเป็นพักๆ
...ก็ในเมื่อตัวเขายังละเหี่ยใจเลยนี่...
ไม่รู้เจ้าพวกนี้ทำงานเสร็จหรือยัง...
การประชุมใช้เวลาหลายชั่วโมงนัก กว่าจะจบพระอาทิตย์ก็จวนเจียนจะลับขอบฟ้าแล้ว เมื่ออายานามิกลับเข้ามาในห้องทำงานเป็นรอบที่สามของวัน
...และงานเอกสารก็ยังกองสุมอยู่บนโต๊ะ...
อายานามิก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารด้วยความเร็วเท่ากับฆ่าคน10คนต่อ1หน้ากระดาษ มือแกร่งฉวยปากกาตวัดเซ็นในความเร็วระดับการใช้ไซฟอน และในตอนนั้นเอง...
“โอ้ อายะตัน วันนี้ก็ขยันทำงานอีกแล้วนะ”
นั่นเพราะแกขี้เกียจทำไม่ใช่หรือไง เสนาธิการหนุ่มสวนคำในใจโดยไม่สูญเสียความเร็วในการทำงาน
“จะว่าไปนะ อายะตัน...”
พันตรีในแว่นกรอบเหลี่ยมใช้แขนโอบคอผู้นำหน่วยตนแบบหลวมๆ ฮิวงะหมุนลูกอมแอปเปิ้ลในมือไปมา ครั้งหรือสองครั้งที่ก้อนกลมๆให้รสหวานๆลอยผ่านหน้าอายานามิไป
“เรื่องของเทย์โตะ คไลน์ กับ ดวงตามิคาเอล จะเอายังไงต่อเหรอ”
ก็อยากออกไปจับตัวมาเสียเดี๋ยวนี้หรอกนะ แต่ว่า... แต่ว่า...
“หรือจะปล่อยให้เทย์โตะ คไลน์มีความสุขไปก่อน แหม อายะตันใจดีเหมือนกันนี่นา”
พันตรีฮิวงะยังคงพล่ามไม่หยุดโดยไม่ทันสังเกตรอยปูดโปนของเส้นเลือดแถวๆขมับและต้นคอของอายานามิ
“แต่ว่านะ ฉันอยาก...”
โครม!!!
เมื่อเส้นความอดทนของอายานามิขาดสะบั้น เสียงฟาดแส้ก็ดังได้กว่าเสียงตึกถล่ม อารมณ์เก็บกดถูกระบายออกมารวดเดียวประหนึ่งถือกำเนิดจักรวาล และบุคคลที่นอนแผ่หมดสภาพใต้ฝ่าเท้าอายานามิก็คือพันตรีฮิวงะผู้น่าสงสาร
ห่างออกไป โคนัทสึ คุโรยูริ และฮัลเซ่ได้แต่เกาะขอบประตูแล้วสวดภาวนาให้ฮิวงะไปที่ชอบๆ พลางคิดว่าถ้าไม่รีบเข้าไปช่วยเคลียร์งานคงมีวันที่ป้อมโฮเบิร์กอันเกรียงไกรถึงคราวล่มสลายเป็นแน่
โบสถ์บัลส์เบิร์ก
“ฮัดชิ้ววววว”
เทย์โตะ คไลน์สูดจมูกตัวเอง ทำไมจู่ๆถึงจามได้นะ
“เป็นหวัดหรือครับ”
บิชอปลาบราดอร์เอ่ยถาม
“จาม1ครั้งเขาว่ามีคนนินทา...เอ หรือว่ามีคนคิดถึงนะ”
บิชอปคาสเตอร์ต่อคำ ไม่รู้ทำไมเทย์โตะถึงให้น้ำหนักกับข้อสันนิฐานว่าถูกนินทามากกว่านะ
“เค้าว่าคนบ้าไม่เป็นหวัด ดังนั้นต้องมีใครนินทาเจ้าเด็กเหลือขอนี่ชัวร์”
บิชอบฟราวกล่าวแทรกขึ้น ยังเส้นความไม่พอใจบนใบหน้าคนถูกพาดพิงยิ่งนัก
“คนที่จะถูกนินทาน่ะมันคนอย่างนายต่างหาก ไอ้บิชอปลามก”
ร่างเล็กตวาดลั่น ถึงจะมีความคิดคล้ายๆกันก็เถอะ แต่ถ้าเป็นความคิดของเจ้าบิชอปหื่นนี่ถือเป็นข้อยกเว้น
“ฮะ...ฮะ...ฮัดชิ้วววววว”
“คราวนี้ผมว่าเป็นหวัดนะ”
ลาบราดอร์พูด คาสเตอร์พยักหน้าเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเด็กหนุ่ม
“อืม ตัวเย็นจัง เทย์โตะคุงเข้าไปพักข้างในเถอะ ถ้าไม่สบายไปจะลำบากนะ”
ยังไม่ทันที่คนถูกแนะนำจะตอบคำหรือทำตาม จู่ๆร่างเล็กลอยคว้างกลางอากาศเพราะวงแขนแกร่งของบิชอปหัวทอง
“จะ...จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ!!!”
“เฉยเหอะน่า เจ้าเปี๊ยก ฉันจะพานายไปรับ ‘ยาต้านหวัดสูตรพิเศษ’ ของฉัน”
ฟราวพูดสั้นๆพร้อมสาวเท้าฉับๆกลับเข้าไปข้างในโบสถ์ ทิ้งให้อีกสองบิชอบหันมองหน้ากันงงๆ
“มีของพรรค์นั้นด้วยเหรอ”
“ไม่รู้สิ...”
END
ความคิดเห็น