ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #30 : เรื่องวุ่นวายที่ไม่หยุดหย่อน 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.66K
      549
      30 เม.ย. 60

    เช้าวันต่อมาแผนของผมถึงได้เริ่มต้นขึ้น

     

    ผมคิดอะไรไว้ในหัวแล้ว ถึงเสี่ยงไปซักหน่อย แต่โอกาสสำเร็จมันก็มี แรกเลยต้องเคลียร์ให้ได้ว่าผมมีอะไรที่พวกนั้นต้องการ คนที่ตอบคำถามนี้ได้มีสองคน คนแรกไล่จับผมไปทั่ว ส่วนอีกคนน่าจะยังนอนเจ็บอยู่ในโรงพยาบาล  ถ้าได้ข้อมูลพวกนี้ ผมอาจมีทางต่อรองให้ชีวิตปกติของผมกลับมาเป็นเหมือนเดิม นั่นรวมถึงปล่อยคนอื่นๆที่โดนจับไป ทั้งๆที่ไม่ได้รู้อะไรด้วย

     

    ความจริงถ้าไอ้พวกนั้นมันถามแบบมนุษย์ปกติ ผมก็คงตอบไปแล้ว ตัวผมไม่เคยมีความลับอะไรซักหน่อย  รู้ก็บอก ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ มันแค่นั้นจริงๆนะ แต่ที่ไม่ตอบก็เพราะวิธีถามของพวกนั้นนั่นแหละ

     

    ถึงจะเหมือนหาเรื่องใส่ตัว  แต่ทำไมต้องยอมให้คนอื่นคุกคาม

     

     การมาหลบอยู่กะไอ้แพ๊ตตี้ เหมือนจะเป็นเรื่องที่ผมตัดสินใจถูก เพราะปัญหาใหญ่ตอนนี้ คือโดนใครต่อใครไล่จับ ดังนั้นถ้าจะไม่ตกเป็นเป้า คนอื่นต้องจำผมไม่ได้ ไอ้แพ๊ตตี้มันแก้ปัญหานี้ให้ผมด้วยวิธีของมัน บอกตรงๆว่าโดยความรู้สึกมันก็ไม่โอเคหรอก แต่การทำอะไรที่คนอื่นคิดไม่ถึงส่วนมากจะได้ผล

     

    ผมต้องยอมให้ไอ้แพ๊ตตี้จับแต่งตัวเป็นหญิง เพื่อไม่ให้คนอื่นจำได้ ตอนนี้ไอ้แพ๊ตตี้มันเลยสนุกใหญ่ ในขณะที่ผมต้องทนนั่งมองตัวเองโดนแปลงโฉมในกระจกด้วยความรู้สึกพะอืดพะอม


    วิกสารพัดแบบ ขนตาปลอม อุปกรณ์แต่งหน้าสารพัดสีละเลงลงมาใส่ผมอย่างเมามัน ถอดอันนั้นเปลี่ยนอันนี้ให้วุ่นวาย

     

    นึกสงสัยจนต้องถามว่า ...ผู้หญิงจริงๆเขาเป็นแบบนี้กันบ้างรึปล่าว

    คำตอบของมันคือ “ เครื่องสำอางดีๆ สามารถเปลี่ยนผีให้กลายเป็นคน ”

     

    ก็อาจจะจริงของมันนะ ตอนนี้ผมยังจำตัวเองแทบไม่ได้ .....แต่สาบานว่านี่จะเป็นครั้งเดียวในชีวิต !

    ปกติชอบดูคนอื่นสวยนะใช่  แต่พอให้มาทำสวยซะเองกลับรู้สึกอุบาทว์


    ผมต้องทนให้มันทำโน่นทำนี่จนมันพอใจ กว่าจะเสร็จทั้งร่างเล่นเอา จั๊กกะแร้เปียกเหงื่อ 

     

    โคตรใช้เวลานาน     

     

    ไอ้แพ๊ตตี้มันดูถูกใจกับสิ่งที่มันทำให้ผมมาก    ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ถ่ายรูปผมไม่หยุด

     

    “ ไอ้อิน เมื่อไหร่แกอยากสวยแกต้องคิดถึงฉันก่อนนะรู้ไม๊ “ ไอ้แพ๊ตตี้กล่าว

    “ เดี๋ยวกูถีบ” ผมตอบโดยไม่ต้องคิด

     

    เมื่อเริ่มออกเดินทาง ก็ดูเหมือนวิธีของไอ้แพ๊ตตี้จะได้ผลตรงข้าม ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่ไม่หวังดีของสาวน้อยสาวใหญ่ และความเอื้ออาทรจนเกินงามของมนุษย์ตัวผู้แบบเดียวกัน ไม่นับพวกที่พยายาม ตามจีบ พยายามถามว่าอยู่แห่งหนตำบลใด บางคนมองจนโดนเมียตบ หกล้มเพราะไม่มองทางกันให้วุ่นวาย ยังไม่นับด่านตรวจที่ผมเดินผ่าน การ์ดพยายามกักตัวผมไว้นานกว่าปกติเพราะอยากพาผมไปส่ง โดยไม่ได้รู้เลยว่าตูนี่แหละคนที่พวกเอ็งประกาศจับ สิ่งที่ยากคือ ไอ้แพ๊ตตี้มันกำชับว่าผมต้องไม่พูดอะไรออกมา เพราะเสียงของผมมันต่างจากเสียงผู้หญิง ก็เลยต้องหุบปากเงียบทำเป็นยิ้ม ใช้ภาษากายบอกว่าไม่สบายเจ็บคอ .......เพื่อเอาตัวรอด

     

    ผมเดินผ่านด่านตรวจ ทั้งหลายมาได้อย่างราบรื่น จนถึงโรงพยาบาลที่ทหารคนนั้นพักฟื้น ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ มันอยู่ห้องไหนก็ไม่รู้ จะพูดก็ไม่ได้กลัวความแตก เลยตัดสินใจนั่งรอดูว่าพอจะมีอะไรที่ทำให้ผมทราบได้บ้างว่าทหารคนนั้นมันอยู่ที่ไหน

     

    กลายเป็นเรื่องแย่ที่ไม่คาดคิด เมื่อมีหมอผู้ชายคนหนึ่งพยายามถามว่าผมมาที่นี่ทำไม ก็เล่นลูกไม้เดิมใช้ภาษามือบอกมันไปว่าเจ็บคอ มาขอตรวจ ไอ้หมอเวรนั่นก็หน้าหม้อ คนรอตรวจมีเป็นสิบพวกก็พยายามจะลัดคิวให้ ไอ้พวกที่โดนลัดคิวก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธออกมาซะอีก .....

     

    เดี๋ยวดิเฮ้ยใจเย็นก่อน!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×