ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #28 : เรื่องวุ่นวายที่ไม่หยุดหย่อน 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.81K
      566
      29 เม.ย. 60

       ผมกลับไปหาไอ้นายหน้ารับงานที่เพิ่งทะเลาะกะมันมาไม่นาน เผื่อว่าจะมีอะไรที่ผมควรรู้หรือพอจะมีเบาะแสอะไรบ้าง แต่ พอไปถึงหน้าที่ทำงานของไอ้นั่น ก็ปรากฏว่าเจ้าตัว โดนการ์ดล็อคอยู่หน้าบ้าน แหกปากโวยวายลั่นและพยายามขัดขืน ตะโกนถามการ์ดว่า ทำอะไรผิด ไอ้พวกการ์ดมันก็ไม่ได้ตอบอะไรนะ ได้แต่ผลักให้ไอ้นั่นเดินขึ้นไปบนรถ คนแถวนั้นออกมายืนดูกันเพียบ   

     

    ชักไม่ธรรมดาแฮะ 

     

    ผมได้ยินเสียงคนแถวนั้นคุยกันเบาๆ

    “ คนที่อู่ก็โดนจับ โดนกันทั้งอู่เลยมั้ง ที่นี่ก็โดน ไม่รู้พวกนี้ไปทำอะไร ” ป้าคนแรกพูด

    “ เห็นเค้าว่าพวกนี้ไปขโมยของ ฝรั่งเข้านะซิ ...ได้ยินว่ายังจับไอ้เด็กขับรถอีกคนไม่ได้ “ ป้าคนที่สองพูด

     

      เอาแล้วไง …..

     

    ผมเสี่ยงตามรถตรวจการ ที่ขับพาคนพวกนั้นไปยังสำนักงานใหญ่ประจำเมือง แต่ดูๆแล้วตัวคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้มาก จำใจเลือกที่จะเปลี่ยนแผน หาตึกสูงที่อยู่ใกล้ๆเป็นที่หลบ อย่างน้อยก็ได้สอดแนมไปในตัว   ไอ้เรื่องจะออกไปมอบตัวหรือพูดจาอะไรกับคนพวกนั้น ตอนนี้ไม่อยู่ในหัว แก็งค์หนึ่งยกพวกมาจับ อีกพวกก็ชวนคุยด้วยลูกปืน ไอ้เรื่องพูดจากันดีๆมีอาหารเลี้ยงนี่มันไม่เกิดขึ้นกะผมแน่ๆ

     

    พูดถึงเรื่องกินชักเริ่มหิวตุ่ยๆ

     

    แต่ก็ไม่รู้จะเอายังไงดี ผมตัดสินใจรอให้มืด คงพอหาอะไรกินได้บ้าง แต่อาจจะต้องทนไปอีกนานพอดู

     

    ก็เลยต้อง หลบอยู่บนดาดฟ้า จนแสงแดดเริ่มหายไป พวกการ์ดกะกลางคืนเริ่มออกมาเปลี่ยนกะกับพวกที่ทำงานกลางวัน อาศัยช่วงที่คนเยอะๆ ในระหว่างที่คนส่วนหนึ่งคิดจะกลับไปพักกับอีกส่วนที่ยังขี้เกียจไปทำงาน เดินหาของกินประทังชีวิต ช่วงเวลาแบบนี้คนไม่ค่อยสังเกตอะไร เพราะมัวแต่คิดเรื่องของตัวเองและมักจะเหมอลอย

      

    แต่ไม่นานนัก ผมก็ต้องรีบเผ่น  ทีวีสกรีนตามมุมถนน ออกข่าวประกาศจับ รูปถ่ายของผมถูกเอาขึ้นจอทั้งเมือง นั่นผมไม่ซีเรียสนะที่มีข่าวแบบนั้น แต่ที่มันเคือง   คือจะหารูปดีๆกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้ ถ่ายออกมาโคตรห่วย ดูยังพวกอายุ 20 ปลายๆ ทั้งๆที่อายุผมเพิ่งจะ18เมื่อไม่กี่เดือน สถานการณ์ตอนนี้ผมหมดโอกาสในการจีบหญิงเมืองอย่างสิ้นเชิง

     

    น้ำตาจะไหล เลวร้ายกว่าโดนไล่ฆ่าอีก     

     

    ถ้าไม่นับเจ้าของร้านที่เห็นหน้าผมชัดๆ ถือว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครสังเกตว่า ถึงตอนนี้ผมยังกล้าออกมาเดินเล่นอยู่ในเมือง แต่คิดว่ายังไงก็จะต้องเดินกลับไปแอบตรงที่ซ่อนเดิมเมื่อกลางวันเพราะยังปลอดภัยอยู่  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นว่าที่ตรงนั้นคงใช้หลบต่อไปไม่ได้ เพราะก่อนจะถึงซัก100เมตร ผมดันเห็นพี่ล่ำคนหนึ่งเดินลงมาจากตึกพร้อมๆกับเจ๊ฝรั่ง อาคารในเมืองนี้ ส่วนใหญ่ถูกจำกัดการใช้ไฟฟ้า แต่ไอ้ตึกที่ผมเคยหลบ ตอนนี้เปิดไฟซะสว่างโร่  เห็นขนาดนี้ถ้าบ้ากลับขึ้นไปก็คงไม่รอด

     

    คนพวกนี้แม่งกัดไม่ปลอดจริงๆ

     

       ผมเลือกเดินตัดเข้าตรอกมืดๆ ก่อนที่จะมีใครเห็น หมาสามสี่ตัวที่อยู่หน้าบ้านแถวๆนั้นเห่าลั่น เมื่อผมเดินผ่าน ตอนนี้ผมชักเริ่มจนมุมและระแวง ถ้ามีคนรู้ที่ซ่อนของผมบนตึกก็อาจหมายความว่า พวกนั้นมีใครซักคนที่เก่งเอามากๆในเรื่องตามรอย น่ารำคาญได้อีก แต่ประเด็นที่เจ็บคือตอนนี้..............ใครที่รู้จักของผมอาจซวยกันไปหมด  แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง


    ตอนนี้ทำได้แค่  หาทางเอาตัวรอดไว้ก่อน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×