ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #9 : เรื่องฉุกเฉินของมิเรียม /1

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 60


     

        รถบรรทุกที่เคยใช้ในกองทัพ วิ่งฝ่าอาคารซอมซ่อ ที่สร้างขึ้นสมัยที่โลกยังสงบสุข บนถนนเส้นนั้นยังเต็มไปด้วยซากยานยนต์ที่ถูกจอดทิ้ง พวกมันถูกเหยียบและชนอย่างไม่แยแสเมื่อรถบรรทุกขนาดมหึมาวิ่งผ่านอาคารสองข้างทางถูกรุกรานด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ เปลี่ยนให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นป่า

     

    38 ชั่วโมงก่อน มิเรียมถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมากลางดึก ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน เธอเพิ่งถูกแฟนหนุ่มบอกเลิก แต่เธอก็ไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เขาเลือก มันเป็นความผิดของเธอเอง ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานที่ทำ มากกว่าจะแบ่งเวลาระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต เธอตัดสินใจ ขอลาหยุดเป็นครั้งแรกในระยะเวลานับตั้งแต่เข้าทำงานที่นี่  และใช้เวลาพวกนั้นไปกับการนั่งดื่ม ถึงแม้เธอจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ความผูกพันก็ยังทำให้เธอเศร้า เพราะมันทำให้เธอเกิดความหวัง ว่าชีวิตคู่ของเธอน่าจะไปรอด

     

    เธอดื่มจนจำอะไรไม่ได้ และหลับไปทั้งๆที่ยังไม่อาบน้ำ การถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมากลางดึกทั้งที่ยังมีอาการเมาค้าง ทำเอาเธอหงุดหงิด เธอเลือกจะปิดโทรศัพท์ทิ้ง เพื่อไม่ต้องรับรู้กับเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นในตอนนั้น  แต่อีกสิบนาทีต่อมาทหารหลายสิบคนก็บุกเข้ามาในห้องและพาเธอออกไป ทั้งๆที่กลิ่นอ้วกยังคงคลุ้งอยู่บนเสื้อผ้าเธอสวม

     

    มิเรียมต้องถูกหิ้วปีกมายืนอยู่ต่อหน้าหัวหน้าสายงานและจนท.ระดับสูงในกองทัพหลายต่อหลายคน ด้วยเสื้อผ้าเน่าๆที่มีกลิ่นอ้วกเหม็นหึ่ง แต่เป็นพวกเขาเองที่ต้องขอโทษที่ตามตัวเธอในวันหยุด นั่นรวมไปถึงการเลือกที่จะลืม ว่าสภาพของเธอที่ดูไม่ได้เอาเลย

     

    เพราะมิเรียม ถูกจัดว่าเป็นนักแกะรอยที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของกองทัพ

     

    20 นาทีต่อมาเธอได้รับเสื้อผ้าใหม่พร้อมกาแฟหนึ่งแก้วโตๆ และการบรรยายถึงสิ่งที่ทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

    “ ด็อคเตอร์ วิลเลี่ยม คือนักวิจัยที่มีชื่อเสียงเขาทำงานเกี่ยวกับยีนส์และวิศวพันธุกรรม ที่กำลังพัฒนาบางอย่างขึ้น สำหรับกองทัพ แต่15 ชั่วโมงก่อน การติดต่อของเขาหายไป หลังจากเดินทางไปค้นหายีนส์ของคนกลายพันธุ์ แถบแถบทะเลจีนใต้ เราต้องหาเขาให้พบ รวมถึงข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้วิจัยเอาไว้ สิ่งเหล่านั้น จะตกอยู่ในมือของพวกทวีปหลักไม่ได้ เพราะนั่นอาจทำให้พวกเราตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในสงครามที่ใกล้จะเกิดขึ้น”

     

    มิเรียมเกลียดผู้ชายคนนี้ เธอเคยพบกับเขาสองสามหน แม้ว่าผลงานของเขาจะทำให้ดินแดนรกร้าง ที่เคยถูกพวกกินคนยึดครองกลับมาเป็นแผนดินที่สุขสงบ แต่สำหรับมิเรียมหมอนี่คือไอ้แก่โรคจิต ที่ชอบจับสิ่งมีชีวิตไปทดลอง เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น ยังไม่นับนิสัยส่วนตัวที่ชอบใช้เด็กเป็นที่ระบายความใคร่

     

    “ ด้วยความเคารพนะคะท่าน ดิฉันคิดว่านี่เป็นข่าวดี “ เธอยิ้มและพูดสิ่งที่เธอรู้สึกออกมาโดยไม่ซ่อนเร้นความรู้สึก นี่ถือเป็นรอยยิ้มแรกนับตั้งแต่เธอทราบว่าเธอถูกบอกเลิก ซึ่งทำเอาหลายๆคนที่นั่งในห้องประชุม หน้าชา

     

    “ ข่าวดีที่คุณว่า อาจทำให้พลเมืองของเราต้องตายเมื่อสงครามมาถึง คุณคิดว่านั่นคือข่าวดีหรือ ”

     

     

    มิเรียมเงียบนิ่ง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาที่เธอเองก็เข้าใจมันดี

     

     

     ถึงแม้ว่าทวีปนี้จะเริ่มกลับมาอยู่ในสภาพปกติ แต่อาหารและปัจจัยในการดำรงชีวิตที่ไม่เพียงพอ มันทำให้มีแนวโน้มว่ายุคล่าอาณานิคมใหม่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง  ความอดอยากและขาดแคลนทรัพยากร กำลังบีบให้มนุษย์ต้องรบกันเอง เธอเองรู้สึกเบื่อกับชีวิตที่ไม่เคยจะมีวันสงบ หลังจากที่สงครามระหว่างมนุษย์กับพวกกินคนกำลังจะคลี่คลาย การเตรียมตัวสำหรับครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้น  คราวนี้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรระหว่างมนุษย์ที่ยังมีชิตรอด

     

    และถ้าเวลานั้นมาถึง สิ่งที่ต้องเลือก ก็คงมีเพียง จะยอมตกเป็นเหยื่อสงครามหรือฆ่าคนอื่นเพื่อเอาตัวรอด คำตอบมันชัดเจนจนไม่ต้องอธิบาย ว่าการสูญเสีย ด็อคเตอร์วิลเลี่ยม คือความเสียหายอย่างร้ายแรงของทวีปนี้

     

    นั่นเป็นเหตุผล ที่เธอต้องเดินทางไกลมาที่นี่อย่างเร่งรีบ พร้อมกับทหารเดนตายอีก 7 คน โดยมีภารกิจในการช่วยชีวิตนักวิจัยคนสำคัญ   แต่เพราะสภาพอากาศที่ร้อนระอุ  การนั่งอยู่บนรถที่สั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว และความอิดโรยจากการนอนหลับไม่พอ หนำซ้ำคนที่ต้องมาช่วยคือคนที่เธอเกลียด

     

     มันทำให้ มิเรียมหงุดหงิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×