ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #7 : การเดินทางที่น่ารำคาญ /6

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 61


    ไม่นานนัก พวกนั้นก็เตรียมตัวกันเสร็จ ผมเดินกลับเข้าไปในกลุ่ม และเล่าบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกกินคนให้พวกนั้นฟังคร่าวๆ

     

    “ พวกคุณจะปลอดภัย ถ้าทิ้งอาหาร และของมีกลิ่นอย่างซอส สบู่หรือน้ำหอม เอาไว้ที่นี่ อย่าทำให้เกิดแสงในเวลากลางคืน อย่าออกไปไหนคนเดียว หากต้องการทำธุระ กลบไม่ให้มีกลิ่น ไม่ถมน้ำลาย และเรื่องสุดท้ายพยายามที่จะเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะพวกมันมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่าเราทุกอย่าง ”

     

    “ แล้วถ้าสมมุติว่ากู ไม่ฟังมึงล่ะ“ ไม่ต้องบอกนะว่าใครพูด.....ไอ้อ้วนเจ้าเดิม

    “ก็แล้วแต่ อยากจะตายก็ไม่ได้ห้าม” ผมพูดพร้อมทำหน้ากวนตีนใส่อย่างรำคาญ

    เหมือนไอ้หมูเผือกนั่นหัวร้อนทันที มันเตรียมชักปืนพกหันเข้าใส่ผม แต่คราวนี้ผมระวังอยู่ก่อน มีดที่เหน็บอยู่ด้านหลังของผม  ถูกขว้าง เฉียดๆหูมันอย่างจงใจ “อีกที จะเป็นที่คอ” ผมมองหน้ามันอย่างไม่กลัวที่จะต้องมีเรื่อง จ้องหน้ามันเลยทีนี้ ไอ้อ้วนไม่ยอม มันลุกขึ้นและพุ่งตรงเข้ามาเลยคือ ในใจนี่รู้ว่าต้องมีต่อยแน่ๆ แต่ โชคดีของมันหรือผมก็ไม่ทราบ มันโดนเพื่อนรวบตัวเอาไว้เสียก่อน

     

    “ มีสติหน่อย ทหาร ” เสียงหัวหน้ากลุ่มสั่ง ทำให้พวกนั้นทั้งหมดสงบลง ผมเดินไปหยิบมีดที่ปักอยู่กลางลำต้นของไม้ใหญ่ โดยมีสายตาหลายคู่ ที่มองมาทางผมอย่างไม่เป็นมิตร

    “ เราเสียเวลาไปเยอะแล้วนะ” ผมพูดกับพวกมันหลังเก็บมีดกลับเข้าฝัก

     

    ดูๆแล้วเรื่องที่ผมพยายามบอก พวกมันไม่ได้สนใจฟังผมซักนิด ยกเว้นผู้หญิงที่ดูง่วงนอนคนนั้น เธอมองมาทางผมด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป ไม่ได้มีความเกลียดหรือหวาดระแวง แต่เหมือนกับพยายามจะอ่าน    ว่าผมคิดอะไรอยู่

     

    ตอนนี้ขอขยายความอีกหน่อย  ที่ซ่อนที่ผมกำลังจะไปหลบภัย ที่มันมีอยู่ก็เพราะอาชีพอีกอย่างของคนในเมือง

     

      การออกไปนอกแนวป้องกัน  ถือเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งในการเลี้ยงชีวิตของชุมชนเมือง เราสามารถหยิบเอาของที่โดนทิ้งจากช่วงเวลาสุดท้ายมาใช้ประโยชน์ หรือแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เรายังไม่สามารถทอผ้าได้ เรายังไม่สามารถทำเครื่องมือเครื่องใช้บางชนิดได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความรู้เดิมในโลกเก่าถูกทำลายไปมาก ดังนั้นสิ่งของที่หลงเหลืออยู่ จึงเป็นของมีราคาสูงที่ใครๆก็อยากจะได้

     

    แต่การออกมานอกแนวป้องกันแต่ละครั้ง เท่ากับเอาชีวิตไปเสี่ยงตาย ดังนั้นเราจึงมีการทำเครื่องหมายไว้บนอาคารต่างๆ เครื่องหมายพวกนั้นจะบอกกับคนที่มาทีหลังว่าสิ่งของภายในอาคารถูกขนย้ายไปแล้ว อย่าเสียเวลารื้อซ้ำ ทำให้คนมาทีหลังไม่พลาดไปค้นเอาห้องที่ไม่มีอะไรเหลือ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเรายังทำเครื่องหมายสำหรับห้องและอาคารที่ปลอดภัย พอจะใช้หลบพวกกินคนในกรณีที่ พวกล่าสมบัติกลับเข้าแนวป้องกันไม่ทันเวลา เพราะเรื่องหนึ่งที่พวกเราเรียนรู้

     

    คือพวกมันไม่ได้ใช้อาคารร้างจากโลกเก่าเป็นที่อยู่อาศัย ดูคล้ายกับว่าพวกมันจะใช้เวลาทั้งหมดในช่วงกลางวันหลบอยู่ใต้ดินที่ไหนซักแห่ง

     

    ผมพาพวกเขามาถึงที่ซ่อนตัวได้อย่างปลอดภัย มันออกจะไกลไปหน่อย แต่โชคดีที่มากันถึง ก่อนที่พวกกินคนจะเริ่มออกล่า มันเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สูงทะลุผ่านแนวยอดไม้ มีการทำกับดักเรียงรายเอาไว้ระหว่างทาง แต่ส่วนใหญ่ กับดักพวกนั้นได้ทำหน้าที่ของมันไปแล้ว เท่าที่เห็นก็น่าจะพังหมด

     

    ห้องที่ปลอดภัยมีสองห้อง ผมตัดสินใจเดินผ่านห้องแรกไปโดยไม่บอกพวกเขา เพราะรู้สึกไม่ไว้ใจไอ้คนพวกนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นหรือทำท่าว่าจะคุมสถานการณ์ไม่ได้ ห้องนี้ จะยังเป็นโอกาสที่ทำให้ผมรอดตายได้บ้าง ผมเลือกจะเดินเลยไปอีกชั้น จากลักษณะของประตู เหมือนห้องที่ผมพาคนพวกนี้มา แต่จะใหญ่กว่าห้องแรกที่เดินผ่าน ภายในห้องเป็นโถงกว้างๆ สูงจากพื้นดิน 30 ชั้น  มีสิ่งที่คล้ายกับระเบียงที่ทำให้ในห้องมีพื้นที่มากขึ้น

     

    พวกคนที่มาก่อน ขนเอาถังน้ำมันขนาดใหญ่วางเรียงปิดพื้นที่ส่วนกระจกหน้าต่างเอาไว้ ผมมองเห็นช่องระบายอากาศเปิดอยู่ พอปีนขึ้นไปก็เห็น ว่ามันกลายเป็นที่ใช้สำหรับนอนของพวกล่าสมบัติ แต่ในกรณีนี้คงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าจะให้พวกนั้นทั้งหมดมาแอบอยู่ในท่อนี้  และถึงจะบอกไปก็คงไม่มีใครคิดทำ เพราะแต่ละคนตัวโตยังกะหมี

     

    โดยเฉพาะ.....ไอ้อ้วน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×