คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
โลกที่เราเคยรู้จัก...มันพังไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่ใช่ซิ ถ้าจะพูดให้แคบลงอีกนิด ต้องพูดใหม่ว่า เป็นอวสานของอารยธรรมมนุษย์น่าจะใช่กว่า แต่ถ้าคุณจะเดาว่า มหันตภัย แบบไหนที่ทำลายสังคมมนุษย์จนเละเทะ... ผมว่าคุณอย่าไปเดาเลย วิถีชีวิตของเราที่จบไปมันเฮงซวยอย่างเรียบง่ายซะจนคุณเองก็คงคิดไม่ถึง
เอาเป็นว่า ทั้งหมดมันเริ่มต้นขึ้นที่ความ งี่เง่าของคนฉลาดก็แล้วกัน
ยุคสุดท้ายของเรามันก็ไม่ได้ต่างจากเดิมๆเท่าไหร่ เหมือนที่รุ่นใหญ่คนหนึ่งเคยพูดว่า สองสิ่งอันไร้ที่สิ้นสุด สำหรับแกแล้ว คือ จักรวาลและความโง่ของมนุษย์ สำหรับจักรวาลแกบอกว่าแกยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่ความโง่ของคนนี่แกยืนยัน ทำพลาดเรื่องซ้ำๆแบบไม่เคยจำเป็นบทเรียน ผมฟังแม่เล่าเรื่องนี้ก่อนนอนทุกคืนจนจำขึ้นใจ
วันที่เราเสียทุกอย่างไป โลกก็ยังคงมีการสะสมอาวุธ และพยายามเหนือกว่าอีกฝ่ายด้วยกำลังทางทหาร กลุ่มคนหัวดีจากประเทศมหาอำนาจ พยายามที่จะหาความเป็นไปได้ในการสร้างอาวุธใหม่ๆเพื่อชิงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งอื่นๆ พวกเขาออกเดินทางสำรวจแผ่นดินน้ำแข็งที่เริ่มละลายมากจนผิดปกติ สิ่งที่พวกนั้นค้นหา คือก้อนหินก้อนนึ่ง เห็นว่าเป็นอุกกาบาตที่ตกลงมาเมื่อหลายพันล้านปีก่อน มันมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่อาจทำให้ประเทศที่มีมันเอาไว้ สามารถยึดครองโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จ
มันมีเชื้อโรคที่อยู่ในหินก้อนนั้น......แม้จะอยู่ในอุณหภูมิติดลบของทุ่งน้ำแข็ง ก็ฆ่ามันไม่ตาย
คนฉลาดพวกนั้นเอาหินที่พบกลับมาวิจัยต่อ แต่ในระหว่างขั้นตอนการขนย้าย เกิดอุบัติเหตุเพราะสภาพอากาศที่แปรปรวน พวกผู้ช่วยท้องถิ่นสามสี่คน พากันไปจับก้อนหิน ทั้งๆยังไม่ได้ตรวจสอบอะไรเลย สามวันต่อมา คนพวกนั้นก็ป่วยตาย เกิดเป็นโรคระบาดที่ไม่มียารักษา จากจุดประสงค์ที่ต้องการสร้างอาวุธเพื่อทำให้ตัวเองอยู่เหนือคนอื่น กลับทำให้ประเทศที่รุ่งเรืองต้องล่มสลายในชั่วพริบตา และที่ตลกร้ายก็คือ นอกจากจะทำตัวเองเดือดร้อน โรคระบาดที่ว่านี้ยังลุกลามไปยังพื้นที่ทุกๆตารางนิ้วบนโลก
มันเป็นภัยพิบัติ ที่ทำให้ประชากรของโลก ลดลงอย่างรวดเร็ว โรคระบาดที่มาจากความโง่ของมนุษย์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ไข้หวัดดาวตก แพร่ระบาดทางอากาศ ติดต่อด้วยของเหลวจากร่างกาย ผ่านทางผิวหนังและลมหายใจ แล้วที่มันโหดมาก ก็คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมติดได้หมด หนูหมาแมวหมูม้าวัว สี่เท้าสองเท้าได้รับเชื้อโรคกันอย่างทั่วถึง การกักกันมนุษย์เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่พาหะอย่างหนูเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม
วิกฤตการณ์ที่เปลี่ยนโลก เริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ หมอ นักวิจัย และคนเรียนหนังสือทุกคนพยายามสร้างยาที่จะเอาชนะเชื้อโรคตัวนี้ให้ได้
แต่เรื่องประหลาดใจ............... มันไม่ได้ก็จบแค่นั่น
คนป่วยบางคนไม่ตายเพราะไข้หวัด แต่เกิดบ้าขึ้นมาซะดื้อๆ ....หมอเขาเรียกอาการแทรกซ้อนทางประสาท ที่ฟังแล้วไม่ค่อยสมเหตุสมผล จากที่เคยนอนรอความตาย กลับมีร่างกายที่แข็งแรง จากนั้นก็เริ่มโจมตีทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวหรือส่งเสียง ขาดสติสัมปชัญญะและไม่รู้ตัว
กลายเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสาหัส เมื่อคนในครอบครัว คู่รัก จำเป็นต้องฆ่ากันเอง สำหรับแม่ของเราที่เล่าเรื่องนี้ ก็เป็นหนึ่งในผู้สูญเสีย เพราะคุณตาที่ติดเชื้อ กลายเป็นคนคุ้มคลั่ง คุณยายเอาชีวิตของตัวเองปกป้องแม่ให้รอดจากการถูกทำร้าย แม่ของเราได้แต่ยืนมองความตายของคุณตาและคุณยายโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย
แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเศร้า เพราะแทบทุกบ้าน ต่างก็เจอสถานการณ์คล้ายๆกัน ..... คงไม่ผิดอะไร ถ้าจะบอกว่าเป็นแบบนี้ทั้งโลก ยิ่งในเมืองหลวงหรือไอ้ตรงที่มีคนอยู่กันเยอะๆ ไร้ซึ่งคำใดจะพรรณนา ความชิบหายที่คุณกำลังอ่าน เต็มไปด้วยความเจ็บปวด โหดร้าย ที่ไม่แบ่งสีผิว ไม่แบ่งชนชั้น และทั่วถึงกันอย่างเท่าเทียม
นั่นแหละจุดจบของโลก
คนที่ยังเหลืออยู่ ต้องเอาตัวรอดทั้งจากพวกคนป่วยที่บ้าและต้องระวังตัวไม่ให้ตัวเองป่วยตาย บางคนที่รู้ว่าตัวเองป่วยก็ตัดสินใจจบชีวิตเพราะคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนอื่นๆ แม่เล่าว่าสถานการณ์ในตอนนั้นโกลาหลชนิดว่า การมีชีวิตรอดผ่านเวลานั้นมาได้ คือสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดแล้ว และในช่วงปีท้ายๆของเหตุการณ์ มีประกาศจากหน่วยงานของรัฐ ว่าหมอฝรั่งขอยุติการค้นคว้าทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการรักษา เพราะเชื่อว่า ตอนนั้นมนุษย์โลก ติดเชื้อแล้วทั้งหมด
สิ่งที่ต้องทำก่อน คือการเอาชีวิตรอดจากคนป่วยที่บ้าคลั่งเป็นอันดับแรก ส่วนอาการเจ็บป่วยจากโรคระบาด แทบจะไม่มีผลใดๆกับพวกเราอีก เพราะเชื้อไวรัสเหล่านั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเราทุกคนโดยสมบูรณ์ มันเปลี่ยนพวกเรากลายเป็นสิ่งอื่น ที่แตกต่างออกไปจากมนุษย์ดั้งเดิมโดยไม่รู้ตัว
โลกยุคใหม่เริ่มต้นขึ้น ...พร้อมๆสงครามที่ยังไม่จบ ซึ่งการต่อสู้ระหว่างมนุษย์ที่ยังรอดชีวิตและมนุษย์ที่บ้าคลั่งจากอาการป่วย ที่เราเรียกมันว่า “ พวกกินคน ”
ความคิดเห็น