ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Even the world is crumbling / ต่อให้โลกย่อยยับ

    ลำดับตอนที่ #24 : จบงาน /1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.06K
      602
      27 เม.ย. 60

      ผมพาพวกเขามาถึงเมืองจนได้ สภาพทุลักทุเลกันนิดหน่อย เพราะเสียเวลาช่วงเช้าเกือบ3ชั่วโมง เพื่อเอารถขึ้นจากบ่อโคลน ไอ้คนที่ผมไปช่วยไว้ทันนอนยาวเลยวันนี้ หัวแตก ไหล่หลุด แถมด้วยอาการช้ำใน คือพาลงมาได้ก็นอนอย่างเดียว หมดแรงซ่า ทำตัวเรียบร้อยน่ารัก ไม่ห้าวไม่ซนเหมือนวันแรก แต่กว่าจะแบกลงมาได้นี่โคตรเหนื่อย ตัวจะหนักไปไหน 

     

    แต่เรื่องที่น่าทึ่ง อย่างหนึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คือความรู้ด้านพืชสมุนไพรของพ่อผมมันน่าจะเวิร์คจริงๆนั่นแหละ คุณผู้หญิงรอดโดยไม่มีรอยขีดข่วน ตื่นเช้าทำหน้ามึนๆได้เหมือนเดิม

     

     คงเพราะโชคดีที่นางหลับสนิท แต่จะว่าไป ผู้หญิงคนนี้โคตรจะประหลาด คือตื่นมาไม่เจอใครนี่จริงๆคนปกติ มันควรมีอาการเหวอๆกันบ้างใช่ป่ะ ยิ่งอยู่ในที่อันตรายแบบนั้นด้วยแล้ว แต่อันนี้ไม่มีเลย ทำหน้ามึนๆมองหันไปรอบๆดูโน่นดูนี่ แล้วก็เริ่มถามโน่นถามนี่รัวๆ  ควรตกใจกลัววิตกกังวลอะไรแบบนั้นให้เห็นซักนิดแบบหญิงๆทั่วไปเขาทำกันหน่อยไม๊ครับ แม่เล่นถามมายังกะเป็นพวกตำรวจสืบสวน ทางนี่ถึงกับตอบไม่ทันกันเลย

     

    ภาษาพวกมึงกูแค่พอพูดได้ ไอ้ประโยคยาวๆ   ผมจะฟังรู้เรื่องที่ไม๊ละครับเจ๊!  

     

    แต่นะ พี่แกไม่ได้รู้ตัวซักนิดว่าเมื่อคืนชีวิตแกเฉียดตายขนาดไหน นี่ถ้าเผลอตื่นขึ้นมาตอนดึกผมว่าแกก็ไม่น่าจะรอด แต่คนบ้าอะไรวะเค้าถล่มกันขนาดนั้นยังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว นึกสงสัยอยู่ในใจลึกๆว่าถ้าใครมันแอบมุดมุ้งมาหาดึกๆเจ๊แกจะรู้เรื่องกับเค้าไม่วะนั่น

     

    สรุปว่าหลังจากแก้ปัญหาเรื่องรถเสร็จ ไอ้ผู้ชายนอนแหมบ กลายเป็นคุณเจ๊ที่พูดเยอะแทน พูดมากก มากกก มากกกกก จะมากไปไหน สถานการณ์มันเลยเป็นประมาณว่า ผมฟังเจ๊แกพูดทันแต่นึกคำตอบไม่ทัน พยายามนึกอยู่ว่าควรจะตอบยังไง แกก็โกรธ พอรีบตอบแล้วใช้คำพูดไม่ถูก พี่แกก็หาว่าไม่ยอมพูดความจริง.... น่ารำคาญมาก ณ จุดนี้  คือพยายามจะไปให้ถึงเร็วๆ ก็ทำไม่ได้ ถ้าสะเทือนมากเดี๋ยวคนเจ็บข้างหลังแย่ สงสารมันอีก

     

    เรื่องมันพีค อีตรงที่ แม่นางถามว่า “ ทำไมถึงไม่ยอมช่วยคนอื่นๆตั้งแต่ที่แรก ”

     

    ผมนึกคำตอบไม่ออก ก็เลยพูดภาษานางด้วยสำนวนบ้านๆว่า “ บีคอส ยู ฟาย อะ สตอรี่ ฟอร์ เฮิร์ด ยัวเซลฟ์ ” แปลตรงๆ ก็พวกมึงอ่ะหาเรื่องเจ็บตัวกันเอง 

     

     ก็มันนึกคำตอบทันที่ไหนฟ่ะ ภาษาบริเทน ของทวีปยูโรปา แถวนี้ใครเค้าพูดกันนักหนา

     

    นางนิ่งอึ้งไป 10 วิ พยายามนึก ว่าผมพูดอะไรออกมา แล้วนางก็ถามกลับว่า “มันหมายความว่ายังไง”

     

    สารภาพเลย ผมโคตรอาย อยากโดดลงจากรถแล้ววิ่งกลับไปนอนบ้านให้มันรู้แล้วรู้รอด

     

     

     

     

     

    แต่ทางออกมันก็มีแหละ พี่แกพอจะนึกอะไรขึ้นได้เลยหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋า เครื่องนี้มันมีฟังค์ชั่น แปลภาษาจากเสียงพูด ก็เลยทะเลาะกันได้ยาวๆ

     

    “ สัตว์ร้ายพวกนั้น ก็เป็นศัตรูของคุณไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ช่วยเราสู้กับมัน ” เจ๊ถาม

     นั่นคือที่อยู่ของมัน  พวกเราต่างหากเป็นฝ่ายบุกรุก ผมบอกคุณไปแล้ว  อยู่ที่นั่นพวกคุณต้องทำตัวยังไง แต่ก็ไม่เห็นมีใครฟังผม  

     คุณหมายความว่า สำหรับคุณพวกนั้นไม่ใช้สิ่งอันตราย “

     แน่นอน พวกมันอันตราย “  

    “ พวกคุณเป็นแค่ไอ้ขี้ขลาดที่ ทำได้แค่ซ่อนตัวอยู่ซินะ “  เจ๊เริ่มเดือด

    “ เราฆ่า เพราะเราต้องกิน เราฆ่าเพราะเราต้องปกป้องสิ่งที่สำคัญ พวกมันล่าเพราะหิว แล้วพวกคุณล่าพวกมันเพราะอะไร  

     

    เจอสวนไปดอกนี้ เจ๊เงียบกริบ แต่คือ อาการมันฟ้องว่านางยังไม่ยอมแพ้ ผู้หญิงเวลาโกรธนี้ เป็นอะไรที่รับมือโคตรยาก ยากมากกกกก คือยังไงกูต้องชนะไว้ก่อนอ่ะ เหตุผลมึงฟังไม่ขึ้นหรอกถ้าหาเรื่องกูแล้ว ยังไงๆ มึงก็ต้องผิด   

     

    “ งั้นหมายความว่า ชีวิตเพื่อนๆของฉันไม่มีค่าใช่ไหม ” ยัง ยังไม่หยุด ยังคงมีความต้องการจะแถ แถมมีการเพิ่มความรุนแรงของคำพูดด้วยการบีบน้ำตา

    “คุณผู้หญิงครับ พวกคุณอาวุธครบมือไปชนกับมันขนาดนั้นพวกคุณยังไม่รอดนะครับ ผมมีมีดติดตัวแค่เล่มเดียวจะเอาอะไรไปช่วยละครับ ถ้าเพื่อนคุณนอนกับเงียบๆ แบบที่คุณทำ วันนี้ก็คงถึงเมืองกันครบแล้วล่ะ” ผมตอบ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×