ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DEVA --ชื่อชั่วคราว--

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 54


                    ...แด่เด็กน้อยผู้โดดเดี่ยว...

                    ...จากดวงหทัยนางผู้เป็นพระมารดาแห่งสรรพสิ่ง...

                    ...อ้อมแขนแห่งมารดานี้จะโอบเจ้าไว้...

                    ...หยาดน้ำตาที่ไหลรินอาบดวงตากลมโตของเจ้า...

                    ...กำลังเปล่งประกายพร้อมกับบทเพลงแห่งความทุกข์ตรม...

                    ...บทเพลงนี้ยังคงร่ำร้องเพลงเพียงลำพังต่อไป...

                    ...ท่ามกลางพระเพลิงแห่งสงครามที่รายล้อม...

                    ...

                    ...

    ...

    เสียงร้องเพลงที่แหบแห้งจากริมฝีปากที่ซีดเซียวของใครบางคน ดังขึ้นเบาๆท่ามกลางสายฝนที่โหมซัดเข้ามายังเมืองที่บัดนี้ได้กลายเป็นเศษซากจากการปะทะกันระหว่างมนุษย์ด้วยกันในสงคราม...

    สงครามในครั้งนี้ได้รับการขนานนามว่า...

    ...สงครามแห่งสัญชาตญาณ...

    ร่างของใครบางคนกำลังเดินโซเซไปมาท่ามกลางสายฝนนี้ไปพร้อมกับร้องบทเพลงที่ฟังดูเหมือนเพลงกล่อมเด็กด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและอ่อนแรง เจ้าของเสียงนั้นคือเด็กหนุ่มอายุครุ่นคราวประมาณสิบเจ็ดปี ผิวพรรณขาวซีดเพราะหนาวเหน็บจากสายฝนที่ตกลงมา ผมสีน้ำตาลเข้มของเขาทั้งด้านและยุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดวิ่นมอมแมมตามประสาคนเร่ร่อนที่ยากไร้ เท้าเปล่าทั้งสองย่างเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยน้ำขังโดยไม่รู้ทิศทาง ดวงตาของเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีหม่นที่ดูท่าจะไม่กลับมาเป็นสีฟ้าสดใสอย่างเลื่อนลอย แต่ด้วยหยาดฝนที่ตกลงมานั้นทำให้น้ำตาที่หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเขาหลอมรวมกับน้ำฝนไปจนดูไม่ออก...

    ทุกคน...ตายหมดแล้ว...เหลือแค่...เรา...คนเดียว...แล้ว...สินะ... เด็กหนุ่มพูดอย่างเศร้าสลดด้วยน้ำเสียงสั่นทั้งน้ำตา...

    คนที่...ควรจะตาย...มันน่า...จะเป็น...เรา...มากกว่า... สิ้นเสียง เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินต่อ ดวงตาเริ่มพร่ามัวทำให้มองสิ่งต่างๆเบื้องหน้าได้ลำบาก ก่อนที่จะปิดลงพร้อมกับร่างทั้งร่างที่เริ่มล้มลงแนบพื้นที่มีน้ำขังอย่างอ่อนแรง

    ...

    ...

    ...

    ...เด็กน้อยเอ๋ย...

    ...ใยเจ้าถึงยังร่ำร้องท่ามกลางสายพิรุณ...

    ...ตราบาปที่ก่อในใจนั้นหรือที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้...

    ...หรือเพราะพระเพลิงที่รอบกายเจ้านั้นเล่า...

    ...แต่ไม่ว่าเหตุใด...

    ...เจ้าก็ยังมิวายที่จะเปล่งบทเพลงแห่งความโสมนัสนี้เรื่อยมา...

    ...

    ...

    ...

    ในห้วงนิมิตของเด็กหนุ่มนั้น...ขาวโพลนประหนึ่งอยู่ท่ามกลางม่านหมอก...

    แต่ไม่ทันไร...ภาพของหญิงสาวนางหนึ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้า...

    มือเรียวของหญิงตรงหน้าค่อยๆยื่นเข้าหาเขาราวกับต้องการเชื้อเชิญให้เขาไปหา...

    รอยยิ้มที่อ่อนโยนของนางผู้นั้น ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอบอุ่น ความโศกเศร้าที่มีอยู่เต็มอกได้ถูกชำระล้างออกไปพร้อมกับรอยยิ้มตรงหน้า...

    เด็กหนุ่มผู้น่าสงสารค่อยๆยื่นมือที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงของตนออกไปหามือของหญิงตรงหน้า เขายิ้มรับให้กับหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกต่างๆทั้งดีใจ อุ่นใจ ตื้นตันใจอย่างเต็มเปี่ยม...

    หญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นดึงมือของเด็กหนุ่มเข้าหาตนเบาๆ พร้อมกับโผกอดด้วยอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นตามประสาคนเป็นแม่...

    นับจากวินาทีนี้ไป...เธอคือลูกชายตัวน้อยของแม่นะจ๊ะ... เสียงหวานของเธอกล่าวขึ้นมาพร้อมกับลูบเรือนผมสีน้ำตาลเข้มของเด็กหนุ่มในอ้อมแขน ราวกับต้องการจะกล่อมขวัญเด็กน้อยในอ้อมแขนตนที่บัดนี้หลับใหลอยู่ทั้งรอยยิ้มที่ประทับอยู่บนริมฝีปากที่ซีดเซียว...

    ...

    ...

    ...

    ...หัตถ์แห่งมารดานั้น...

    ...ยื่นเข้าหาเด็กน้อยผู้นั้นช้าๆ...

    ...ดวงตาที่อาบไปด้วยหยาดน้ำตาแหงนมองตอบด้วยความประหลาดใจ...

    ...แสงนวลที่อาบส่องร่างพาให้หัวใจดวงน้อยนั้นลอยล่องดุจขนนก...

    ...มารดาที่เด็กน้อยฝันหา...

    ..บัดนี้ได้ขานรับบทเพลงที่ไม่เคยมีใครขานตอบของเด็กน้อยแล้ว...

    ...

    ...

    ...

     

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

     

    ขณะเดียวกัน  ณ ฐานกองกำลังองค์กรแอสการ์ด...

    จีอาออกปฏิบัติการเองโดยไม่มีใครควบคุมงั้นเรอะ!?” เสียงของสาวใหญ่วัยสามสิบในชุดเครื่องแบบดังขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่อได้รับข่าวจากฝ่ายช่างซ่อมบำรุงประจำฐาน ดวงตาสีเขียวของเธอภายใต้แว่นตากรอบบางแสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่าเธอตกใจกับเหตุการณ์นี้มากทีเดียว

    ค่ะ! ผบ.มิวเซส ตอนนี้หน่วยช่างซ่อมบำรุงที่คอยดูแลจีอากำลังตามหาตำแหน่งที่จีอาอยู่ค่ะ หญิงสาววัยไล่เลี่ยกันในชุดเครื่องแบบที่มีลักษณะรูปแบบของชุดไม่เหมือนกันแต่มีเอกลักษณ์อยู่ว่าเธอเองก็อยู่ฐานทัพนี้ กล่าวเสริมเพื่ออธิบายสถานการณ์

    แล้วเดวาเครื่องอื่นล่ะ ยังอยู่ใช่ไหม? หญิงผู้ถูกเรียกว่าผบ.มิวเซสกล่าวถามความปลอดภัยของเดวา ซึ่งเป็นจักรกลรูปร่างมนุษย์ที่ถูกเก็บอยู่ในองค์กร

    เดวาเครื่องอื่นยังอยู่ค่ะ...อ้อ! แล้วจีอาเองก็ได้ทิ้งข้อความเอาไว้ให้ด้วยค่ะ

    แล้วข้อความนั่นเขียนว่าไงบ้าง?

    เขียนว่า มีผู้ขับร้องบทเพลงนั้นแล้ว...ค่ะ

    งั้นคงไม่ต้องกังวลแล้วล่ะ... ผบ.มิวเซสกล่าวอย่างโล่งอกก่อนที่จะทิ้งกายลงบนเบาะเก้าอี้โต๊ะทำงานด้วยความสบายใจ

    ทำไมล่ะคะ...หรือว่าจีอาจะ... หญิงสาวกล่าวถามผู้เป็นหัวหน้าด้วยสีหน้างุนงง ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไปเพราะเริ่มเข้าใจในคำพูดของหัวหน้าตนเอง...

    ใช่...เตรียมตัวต้อนรับเพอร์โซน่าคนที่ห้าได้เลย!!” ผบ.มิวเซสกล่าวด้วยสีหน้าเริงร่าราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้เลวร้ายเลยซักนิด

     

    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

     

    สายฝนที่ตกลงมาท่ามกลางซากเมืองนั้น บัดนี้ได้หยุดลงแล้ว แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านทะลุก้อนเมฆลงมากระทบกับร่างจักรกลอันมหึมาที่รูปร่างละหม้ายคล้ายสตรีเพศ ด้วยสายเคเบิ้ลหนาหลายสิบเส้นที่ยาวล้ำออกมาจากหมวกเกราะสีเงิน บวกกับชุดเกราะที่ประดับเพียงน้อยชิ้นทำให้ดูบอบบางสมกับที่เป็นผู้หญิง

    ดวงตาเรียวเล็กที่ส่องแสงประกายแสงสีฟ้าของจักรกลนั้นก้มลงมองเด็กหนุ่มร่างเล็กที่สลบอยู่เบื้องหน้าตน ก่อนที่จะก้มลงยื่นมือที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนโลหะนับร้อยชิ้นของตนช้อนร่างตรงหน้าขึ้นมาอย่างอ่อนโยน และค่อยๆลอยตัวขึ้นจากพื้นด้วยพลังของละอองแสงสีทอง ที่ถูกปล่อยออกมาตามตัวเครื่องทางด้านหลังแล้วออกบินขึ้นไปสู่ผืนนภาที่ว่างเปล่า...


    --To be Continue--

    อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในภายหลังนะคะ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×