ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Haikyuu fiction - 命に嫌われている (OC) (end.)

    ลำดับตอนที่ #6 : 05 - Bomb.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.17K
      367
      12 ธ.ค. 63


    [ 05 ] - Bomb.
        
    Haikyuu fiction - 命に嫌われている (feat. oc)




              หนึ่งการแลกเปลี่ยนคือค่าตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ , หลายคนต่างจับอารมณ์ของหญิงสาวได้ว่าตอนนี้กำลังหงุดหงิดแค่ไหน หลังจากตื่นนอนแล้วพบว่าตัวเองกำลังโดนอุ้มอยู่ ชวนน่าอายจนจิกิอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ฝ่ามือสองข้างปิดหน้าตาขณะที่เธอส่งเสียงงึมงำ ปรับอารมณ์ได้สักพักจึงค่อยกลับมาเป็นเหมือนเดิม มองเด็กหนุ่มทั้งหลายที่กำลังต่อเป็นสองแถวเตรียมปล่อยตัว

              จิคากิได้รับมอบหมายให้มาดูแลเด็กน้อยทั้งหลาย เลยไม่อาจหลีกเลี่ยงการวิ่งไปด้วยกัน แม้ว่าการเดินเล่นเป็นสิ่งที่จิกิชื่นชอบ แต่การวิ่งเป็นบ้าเป็นหลังแบบเด็กพวกนั้นออกจะเกินกำลังคนแก่ไปหน่อย (ใครจะเอาคนเพิ่งตื่นไปวิ่งกัน—จิกิคิด) เธอวิ่งจนมาถึงจุดปลายทางก่อนก้มมองเด็กหนุ่มเรือนผมสีครีมกับเด็กหนุ่มเรือนผมสีเขียวอมเทากำลังวิ่งมา

              ขวดน้ำถูกโยนให้ทันทีที่ถึงปลายจุดหมาย เธอได้ยินเสียงขอบคุณจากเด็กหนุ่มบ้านยามากุจิ เขาดูมารยาทดีกว่าที่คิด อย่างน้อยจิกิก็คิดว่าเขาดีเกินกว่าจะมาอยู่กับสึกิชิมะที่ดูกวนหน้าตาย แทบต่างราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียวในความคิดของหญิงสาว โดยหารู้ไม่เลยว่าในตอนนี้เธอเองก็ถูกเคลือบแคลงโดยเด็กหนุ่มพระจันทร์ด้วยเช่นเดียวกัน

              สึกิชิมะสงสัยตั้งแต่เห็นดวงตาสีผสมคู่นั้นแล้ว มันชัดเจนมากเมื่อหล่อนเคยอยู่หน้าปกนิตยสารที่พี่ชายเขาเคยอ่าน แน่นอนว่าเด็กหนุ่มเองก็ต้องเห็นผ่านตา แม้ว่าจะไม่อยากเห็น สิ่งที่ดึงดูดเพราะดวงตาคู่ประหลาดกับความสามารถที่เขาได้ยินจากพี่ชายเช่นเดียวกัน  นั่นจึงทำให้เขาสงสัยว่าเหตุใดตัวหล่อนถึงโผล่มาที่นี่ และดูเหมือนคนอื่นก็แทบไม่รู้จักตัวตนของเธอเลย


              "ชิราฟุเงะซัง ทำไมคุณไม่สอนเสิร์ฟให้กับคาเงยามะล่ะครับ"จิกิหันมองคนถาม เห็นสีหน้ายียวนของเด็กพระจันทร์ "ราชาอย่างเขาอุตส่าห์ก้มหัวขอร้องให้คุณ ภาพแบบนี้หาได้ไม่ง่ายเลยนะครับ"

              "ฉันจะสอนหรือไม่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับนายนะ"เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยกล่าวด้วยอารมณ์เรียบเฉย หญิงสาวเปิดหน้าจอมือถือพลางเล่นแอปเรื่อยเปื่อยรอเด็กคนอื่น "ยามากุจิ นายนับเด็กคนนี้เป็นเพื่อนได้ไงเนี่ย"

              "อย่าว่าสึกกี้นะครับ—ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน"ท้ายประโยคยามากุจิกล่าวด้วยเสียงอ้อมแอ้มไม่เต็มปาก ความจริงแล้วเขาไม่ได้สงสัยเรื่องนี้หรอก แต่เห็นว่าสึกกี้ดูสงสัยอย่างชัดเจน เพราะสายตามักหันไปทางหญิงสาวเสมอ ราวกับพยายามล้วงความลับที่เธอกำลังเก็บซ่อนไว้ แต่ยามากุจิเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะถามในเวลานี้

              "พวกนายเนี่ยเป็นนักสืบหรือไงกัน"คนโดนสงสัยหรี่ตา ท่าทางเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อย บรรยากาศเริ่มกดดันจนยามากุจิเลิ่กลั่กต่อท่าทีที่เปลี่ยนไป ก่อนจิกิจะผลิยิ้มออกาเหมือนไม่มีอะไรเมื่อเห็นว่าปีสองและปีสามเริ่มวิ่งตามมา "ฉันจะถือว่าไม่ได้ยินเรื่องพวกนี้แล้วกัน"


              จิกิลุกขึ้นหลังเก็บโทรศัพท์พร้อมโยนขวดน้ำให้กับเด็กหนุ่มทั้งหลาย อนิจจัง เด็กหนุ่มเรือนผมแสบตาอย่างฮินาตะที่โดดเด่นตลอดเวลากลับหายไป หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนเท้าความได้ว่าบัดนี้ลูกกาสีส้มได้หลงฝูงไปแล้วเรียบร้อย จิกิแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายในทันทีหลังรับรู้ถึงปัญหาที่เจ้าเด็กพระอาทิตย์ก่อเรื่องโดยไม่รู้ตัว

              เป็นเด็กหนุ่มสึกะวาระที่อาสาตัวเองไปตามหาฮินาตะ เขาเป็นเด็กดีทีเดียวพอ ๆ กันกับกัปตันของทีมอย่างซาวามุระ แต่จะให้ปล่อยหายไปคนเดียวก็เกรงว่าจะซ้ำรอยเหมือนฮินาตะ จิกิส่ายหัวระอา มองซาวามุระที่กำลังยืนคุยกับเด็กหนุ่มเรือนผมสีควันบุหรี่ เป็นโอกาสดีทีเดียวที่จะได้ถามอะไรกับเด็กคนนั้นสักหน่อย


              "ฉันจะไปกับสึกะวาระเอง ฝากซาวามุระพาพวกนี้กลับได้ไหม ?"ซาวามุระชะงัก ครั้งแรกที่เขาได้คุยกับเธอเลยยากนักที่จะควบคุมอาการ อาการเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอชิมิสึ เขาพยักหน้าหลังได้รับฟัง รู้สึกหน้าค่อนข้างแดงระเรื่อไม่รู้ว่าเพราะอุณหภูมิข้างนอกหรือว่าเป็นเพราะคนตรงหน้าที่กำลังยิ้มให้อยู่

              "ครับ ผมจะบอกโค้ชไว้ให้"

              "ขอบคุณ"


              สึกะวาระในแบบฉบับความคิดของคนอื่นรอบข้างแล้วเขาดูนุ่มนวล อ่อนโยนเหมือนเต้าหูขาวเนียนนุ่ม เสียงของเขานุ่มนวลสุภาพน่าฟัง เป็นการปฏิบัติเหมือนสุภาพบุรุษในฉบับของเขาเอง นั่นคือสิ่งที่จิคากิคิดไว้ในความคิดของตัวเอง แต่ดูเหมือนเขาจะเกร็งเวลาอยู่ด้วยกันกับผู้หญิง เพราะในตอนนี้ขนาดมาด้วยกันยังเดินด้วยท่าทางแข็งกระด้างเลย

              บรรยากาศกระอักกระอ่วนแบบนี้ทำเอาหญิงสาวหายใจไม่สะดวก ดวงตาสีผสมเคลื่อนมองคนด้านข้างที่ทำท่าเขยิบห่างออกไป เป็นการเว้นระยะแบบเห็นได้ชัด จนบางทีเธอก็เริ่มคิดว่าอีกนิดเขาคงโดนรถชนแล้วกระมัง จิกิถอนหายใจจนเด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง เธอเอื้อมมือมาจับข้อมือเขา กระชากเบา ๆ ก็เซเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นกาย


              "รู้ไหมว่าฉันไม่ใช่หมา ถึงใช่แต่ก็คิดว่าฉีดยาแล้ว"ประโยคหยอกเล่นทำให้บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย จิกิปล่อยมือเด็กหนุ่มหลังเห็นว่าเขาไม่ได้มีท่าทางเกร็งอีกแล้ว "ภายนอกฉันสำหรับคนอื่นดูเป็นคนอารมณ์เสียตลอดเวลาใช่ไหมล่ะ ?"

              "เปล่าครับ—ชิราฟุเงะซังสวยต่างหาก.."สึกะวาระปิดปากหลังเผลอหลุดความคิดตัวเองออกไป ดวงตาสีน้ำตาลไหม้กะพริบรีบหลบสายตา "ขอโทษครับ"

              "ไม่เป็นไร ว่าแต่นายมีเรื่องอยากจะพูดอะไรรึเปล่า"เด็กหนุ่มเงยมองหญิงสาว เสียงนุ่มทุ้มคล้ายสายไหมที่กำลังละลายอยู่ปากเอื้อนเอ่ยออกมา จิกิก็เคยเป็นแบบนี้ เก็บทุกอย่างไว้คนเดียวจนสุดท้ายก็ระเบิดออกมา สุดท้ายนากามุระก็ได้สอนว่าการเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แถมยังตอกกลับอีกประโยคชวนคันมือ

              ชีวิตเราก็เหมือนกับระเบิดเวลา ความทรงจำ ความรู้สึกทุกอย่างที่สั่งสมมาตั้งแต่แรกเกิด หากมีความสุขก็ดีไป แต่หากทุกข์ยากก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น การระบายออกมาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ถือว่าเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกพวกนี้ออกมา

              "ผมแค่คิดเกี่ยวกับเซตเตอร์ในทีม"เสียงแผ่วเบาดังข้างหู แทบเหมือนสายลมที่คอยกระซิบ "ผมรู้ว่าคาเงยามะมีความสามารถมากกว่า เหมาะที่จะลงสนามกว่าผม แต่พอคิดว่าเป็นปีสุดท้ายที่จะได้เล่นก็รู้สึกแย่นิดหน่อย"

              "แต่ถ้าเพื่อให้ทีมที่ชนะ ผมก็ควรให้คาเงยามะลงแทนผม ผมคิดถูกแล้วใช่ไหม"

              "มีคนคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้เหมือนนาย พวกเขาต่างต้องการลงสนามจนเกิดการแก่งแย่ง แต่ก็มีคนแบบนายที่คิดแตกต่าง ต่อให้ได้เป็นตัวสำรอง ก็ยังคงหวังเมื่อคนในทีมหมดแรงหรือเกิดสถานการณ์แบบไหน"แววตาแสดงอาการรำพึงคล้ายเล่าเรื่องจากตัวเอง หญิงสาวยิ้มออกมาเต็มไปด้วยความคิดถึง


              เอ่ยประโยคชื่นชมออกมาด้วยเสียงกระซิบ
              เรียกอาการเขินอายบนใบหน้าได้ดี


              "สึกะวาระ นายเป็นเด็กดีนะ"


              เด็กหนุ่มยกมือปิดแก้มทั้งสองหวังให้เธอไม่ได้เห็น แต่ก็สายเกินไปแล้วในเมื่อจิกิหันมองไปเห็นพอดี ดวงตาสีน้ำตาลแสดงอาการหลุกหลิกอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่หญิงสาวเมินข้ามต่ออาการแบบนั้น เป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายจะแสดงท่าทางแบบนั้นเพราะดูเหมือนเขาไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันเรื่องผู้หญิงสักเท่าไร

              พอเริ่มคุ้นชินสึกะวาระก็เริ่มเปิดบทสนทนาเอง พาเธอคุยไหลเรื่อยเปื่อยไม่ว่าจะเรื่องวอลเลย์บอล (ดีที่เขาไม่ได้ถามเชิงลึก) เรื่องเรียนต่อพร้อมขอคำปรึกษาไปด้วยเนื่องจากเด็กหนุ่มอยู่ปีสามแล้ว หรือเรื่องความชอบอะไรหลายอย่าง เสียงนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายนั้นทำให้จิกิสบายใจ พูดคุยได้มากกว่าปกติ อาจเป็นเพราะบุคลิกที่เข้าถึงง่ายทำให้ใครหลายคนอยู่รอบตัวเขากระมัง

              กระทั่งเจอเด็กหนุ่มพระอาทิตย์ที่ทำให้เกิดปัญหา จิกิจึงจัดการมะเหงกไปหนึ่งลูกข้อหาสร้างปัญหา ดวงตาสีผสมดูดุดันกว่าปกติทำให้ฮินาตะหงอ ส่งเสียงอ้อมแอ้มขอโทษก่อนจะวิ่งกลับไปที่โรงเรียนพร้อมกัน ดวงตาสะท้อนแผ่นหลังเด็กหนุ่มทั้งสอง ดูสดใสมากกว่าเก่าจนทำให้จิกิเผลอคิดชั่ววูบ

              ว่าเมื่อก่อนเธอยิ้มแบบนั้นรึเปล่า



    ◐  命に嫌われている  ◑



              วันนี้ก็คงเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างอะไรจากเมื่อวาน ก็แค่วันนี้พวกเขาได้ชุดเสื้อทีมและหมายเลขของแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว เธอเห็นสีหน้าดีใจมันเหมือนครั้งแรกที่เธอเคยได้รับ หมายเลขบนแผ่นหลังเปรียบเสมือนความภาคภูมิใจที่ได้โอ้อวด จิกิก็เคยยิ้มเช่นนั้นเมื่อได้รับมันมา ราวกับของขวัญจากพระเจ้าที่กำลังอวยพร

              พอคิดถึงประโยคที่เคยพูดกับสึกะวาระก็อยากจะหัวเราะตัวเองอยู่นิดหน่อย สึกะวาระเป็นเด็กดีไม่ได้เหมือนเธอในตอนนั้นที่เป็นเด็กนิสัยเสีย และตอนนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจที่โดนนากามุระประณามตั้งแต่ตอนเด็ก เคยโดนสอนปรับอยู่หลายคราจนเป็นฝ่ายถอยห่างไปเอง แต่บางทีครั้งนี้เธอคงต้องยอมลงบ้างแล้วกระมัง

              จิกิยืดขาวอร์มร่างกายทำให้ดูผิดแปลกไป เรียกสายตาจากคนในโรงยิมได้ดี อุไคก็เช่นเดียวกันเมื่อเห็นเธอวอร์มร่างกาย ท่าทางจากแมวขี้เกียจเริ่มกระฉับกระเฉง เขาเดินเข้าไปหาขณะที่เธอกำลังอบอุ่นร่างกาย ดวงตาสีผสมเงยมอง แววตาเปลี่ยนไปดูผิดแปลกคล้ายย้อนวันวานกลับไปไกลกว่านั้น หญิงสาวยักคิ้วให้ท่าทางเหมือนพร้อมตบไหมพรมเล่นเต็มแก่


              "เธอจะลงเล่นเหรอ ?"

              "ไม่ได้หรอ อุตส่าห์เป็นโบนัสพิเศษให้เลยนะ"จิกิรวบผมม้วนเป็นดังโงะ พอลองจับเส้นผมแล้วพบว่าผมเธอยาวจนถึงกลางหลังแล้วหรือนี่ ปกติแล้วจิกิมักจะตัดผมสั้นเสมอเพราะต้องแข่งกีฬา เลยเป็นเรื่องที่หายากนิดหน่อยเมื่อคิดไว้ผมยาว ยกเว้นหลังจากที่ถอดถอนหายจากวงการไปเกือบห้าปีทำให้จิกิไม่ได้คิดสนใจอะไรอีก

              อุไคยิ้มกว้าง "เปล่า แค่จะบอกว่าเล่นให้เต็มที่เลยนะ"

              "ชิราฟุเงะซังจะลงเล่นด้วยหรอครับ !"เด็กหนุ่มลิเบอโร่ถามเสียงใส ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นเจ้าหล่อนเริ่มวอร์มอัพแล้ว แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วเมื่อนึกถึงลูกเสิร์ฟของหล่อนในวันแรก จิกิพยักหน้าเป็นการตอบกลับ ทำให้ใครหลายคนเริ่มตาเป็นประกาย ดวงตาสีผสมมองคนในสนามที่กระจัดกระจาย มองลูกทีมแต่ละคนแล้วทำให้หล่อนตัดสินใจ

              "แบ่งเป็นสองทีม พวกนายแบ่งเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะเลือกทีมแล้วกัน"


              จิกิมองการแบ่งทีมแล้วตัดสินใจ เธอเลือกที่จะอยู่ทีมคาเงยามะที่เป็นเด็กปีหนึ่งทั้งทีม ขณะที่อีกทีมเป็นปีสองและสามรวมตัวกัน ตำแหน่งสไปเกอร์เหมือนตอนสมัยเรียนไม่ได้ทำให้จิกิทุกข์ร้อนนัก อย่างไรต่อให้เป็นตำแหน่งอื่นเธอก็สามารถเล่นได้เหมือนกันนั่นแล จิกิยืดแขนอีกครั้งหลังประจำตำแหน่งตัวเอง

              ทีมของเธอมีคาเงยามะ สึกิชิมะ ฮินาตะและยามากุจิ เอนโนชิตะ , เสียงเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน คนแรกที่เป็นฝ่ายเสิร์ฟคืออีกทีม เป็นอาสุมาเนะที่กำลังโยนลูกเสิร์ฟ แรงที่ส่งมาทำให้แขนใครหลายคนหักได้เลย จิกิขยับขาเปลี่ยนการขยับตัวพร้อมยื่นแขนรับลูกในทันที หญิงสาวสูดปากเก็บซ่อนประกายระริกในแววตา ส่งลูกให้กับคนอื่นได้รับต่อ

              ทุกอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาบอลก็ถูกส่งให้เซตเตอร์พร้อมเซตลูกในทันที ขณะที่ฮินาตะเตรียมพร้อมกระโดดเรียบร้อย แทบไม่ได้ให้สัญญาณกันเลยสักนิดเดียว แต่ก็เก็บแต้มแรกให้กับทีมได้ , จิกิเพียงแค่ตามเก็บบอลให้พวกเขาเท่านั้น ปล่อยให้คนในทีมที่เหลือทำหน้าที่ต่อ แม้ว่าอยู่ในตำแหน่งสไปเกอร์แต่หล่อนแทบไม่ได้ตบลูกเลยด้วยซ้ำ

              ความจริงแล้วจิกิกำลังเก็บข้อมูล อย่างไรลงภาคสนามนั้นก็ดีกว่ามองนอกสนาม กระทั่งถึงเวลาเหมาะสมเธอจึงเปลี่ยนท่าทาง ดวงตาวาววับใสกระจ่าง จับจ้องลูกบอลยามมันลอยสูงกระทั่งถึงมือเด็กหนุ่มผมดำ สองเท้าก็ออกวิ่งเสียแล้ว กระโดดขึ้นไปให้สูงเหมือนกับโบยบินบนอากาศ เปรียบตัวเองเป็นนกที่กำลังโผบิน

              ดวงตาสีกรมเบิกกว้างหลังเห็นอีกฝ่ายกระโดด สูงจนบางทีสามารถตบเหนือบล็อกได้อย่างไม่ยากเย็น ทว่าเขากำลังหนักใจระหว่างฮินาตะที่กำลังกระโดดรออยู่อีกฝั่งกับเธอที่กำลังกระโดด ดวงตาสีผสมที่จดจ้องลงมาชวนให้ขนลุก ปลายนิ้วสัมผัสบอลครั้งสุดท้าย ล็อคแม่นยำส่งให้หญิงสาวที่กำลังอยู่กลางอากาศ

              ร่างกายที่ยืดหยุ่นกว่าคนปกติทำให้จิกิสามารถแอ่นหลังได้มากกว่าคนอื่น นิ้วมือกรีดกรายกลางอากาศ รอยยิ้มแรกเห็นล้อแสงไฟในโรงยิม เหมือนครั้งแรกที่ได้ลงสนามทำให้จิกิตื่นเต้นเหลือคณา แม้ว่าจะมีบล็อกอยู่ด้านหน้าก็ไม่หวาดหวั่น ดวงตาสอดส่ายหาช่องว่างในทันทีตามสัญชาตญาณ ก่อนตบลงไปด้วยความเร็วจนแทบไม่มีใครสามารถตามได้ทัน

              เสียงบอลยามกระทบยังคงชัดเจนในหู เปรียบดั่งระเบิดที่ถูกทิ้งจากฟากฟ้าให้ระเบิดพื้นราบเป็นหน้ากลอง รอยยิ้มเหยียดกว้างบนใบหน้าของหญิงสาวเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความคนึงหาล้นเปี่ยม ร่างล่วงหล่นบนพื้นในทันทีตามแรงโน้มถ่วง แม้จะเซเล็กน้อยเพราะไม่ค่อยได้เล่นมานานแต่ก็ยังดีกว่าล้มหัวฟาดพื้นแล้วกัน

              อุไคยิ้มนึกสนุก รอบข้างเงียบกริบเมื่อเห็นพลานุภาพของหล่อนดุจสัตว์ประหลาดเมื่อได้เห็นแรงตบของลูก ตอนนี้เธอเหมือนแมวที่กำลังไขว่คว้าบอลไหมพรม และดูท่าทางกำลังสนุกได้ที่ คงไม่ต้องบอกเลยว่าหลังจากนั้นเละทั้งสนาม เสียงบอลแต่ละครั้งกระทบกันเหมือนห่าระเบิดที่ถูกโยนมาจากอีกฝั่ง สุดท้ายผลแพ้ชนะก็ปรากฏในทันที

              จิกิคว้าชัยชนะมาให้สมดั่งฉายาที่เคยถูกกล่าวขาน หลังจากจบเกมเริ่มมีคนรุมล้อม ส่วนใหญ่แล้วเป็นฮินาตะ นิชิโนยะและทานากะ พวกเขาเหมือนเด็กน้อยนั่นแหละ ยิ่งฮินาตะเหมือนเด็กเล็ก หนักกว่านิชิโนยะสามคนมัดรวมกันเสียอีก หญิงสาวส่งยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอกกลับไปด้วยประโยคเจ็บแสบอย่างให้ไปฝึกรับลูกเหมือนเดิม


              "คาเงยามะ"

              "—ครับ"เด็กหนุ่มขานรับ ดวงตากะพริบเมื่อได้ยินเสียงเธอเอ่ยชื่อ เมื่อครู่หลังเห็นเธอโลดแล่นบนสนามนั้นทำให้เขาตื่นเต้น หัวใจคล้ายเต้นแรงกว่าาเก่า งดงามขณะเดียวกันก็ดุดัน ดุจปีศาจในสนามที่โผล่มาทุกที่ มองอีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้ามาใกล้จนเห็นหยาดเหงื่อบนใบหน้า ดวงตาสีผสมที่กำลังสะท้อนใบหน้าเขายังคงชัดเจน

              "ยังอยากเรียนเสิร์ฟลูกอยู่ไหม"

              แววตาเปล่งประกาย เขาพยักหน้าในทันที

              "ฉันจะสอนเสิร์ฟให้ , ตอนนี้ก็หยุดทำหน้าโง่ได้แล้ว"






              Talk with คนแต่ง

              หยุดทำหน้าโง่ของจิกิ = หยุดยิ้มได้แล้วโทบิโอะจัง จิกิจังไม่ได้ใจร้ายเหมือนพี่โอยหรอกนะ (กรั่ก ๆๆ)  แมวตัวนี้ก็ซนเหมือนกันนะคับเนี่ย (มองแขน) ในที่สุดจิกิก็เปิดใจแล้ว (นิดนึง) เป็นแมวพันธ์ุขี้เกียจค่ะ ไม่มีใครรับเลี้ยงด้วยตอนนี้ คุณแม่ก็คือโดนตกด้วยคำว่าเด็กดี ฮือ เป็นคนมีเสน่ห์ก็งี้แหละ แหะ ตอนแข่งอาจจะบรรยายไม่ค่อยดีนะคะ เราไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร (เขี่ย)

              ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ´・ᴗ・`♡
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×