ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jujutsu Kaisen fiction - คนสวยขา ( megumi x oc )

    ลำดับตอนที่ #4 : 03 - คนลวงโลก (re)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 64


    Jujutsu Kaisen fiction - คนสวยขา

    - megumi x oc 


     

               เหนือคำสัตย์คือคำหลอกลวง , ค่ำคืนที่ผ่านมาดูวุ่นวายนักเมื่อพ่อเดินเข้ามาที่สวนแล้วบอกเธอว่าวันนี้เราจะค้างกันที่บ้านใหญ่ เมินหูกับหางของคนด้านหลังหรือดวงตาเปล่งประกายนั่นทิ้งไป หากไม่มีเท็งงุคอยเฝ้าหน้าห้องหรือว่าบิชามอนคอยปราม บางทีคูฮาคุอาจได้อยู่ในท้องทามาโมะแบบไม่ได้ล้อเล่นอย่างที่เป็นมุกตลกประจำอีกต่อไป
     

               ไม่มีใครไว้ใจเจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หรอกนะ
     

               ถ้วยชาอุ่นร้อนถูกประคองขึ้น มื้ออาหารเช้าแบบครบองค์ประชุมค่อนข้างอึดอัดไม่น้อยถ้าถามคูฮาคุเพียงคนเดียว การปั้นหน้ายิ้มตลอดการกินข้าว จะกินก็ต้องค่อย ๆ เคี้ยวแบบมีมารยาท สำหรับเด็กสาวแล้วเหมือนถูกจับถ่วงน้ำให้สิ้นใจอย่างช้า ๆ นั่นแล ถึงแม้บทสนทนาจะเป็นเรื่องสนุกสนานแต่เธอที่ไม่ได้สนใจก็ล้วนเป็นเรื่องน่าหน่ายรำคาญ
     

               เรื่องโรงเรียนของบิชามอนทำเอาเธอหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด เด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินเข้มดุจผืนราตรียามค่ำคืน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมชั้นปีอย่างอิตาโดริ คำสาปที่ผุดโผล่มาราวกับต้องการอะไรบางอย่างที่คาเสะเคยกล่าวไว้—เรียวเมน สุคุนะ ถึงจะเคยค้นหาเล่น ๆ เพราะตอนได้กลิ่นคำสาปมันค่อนรุนแรงไม่น้อย แรงกว่าเอาจิ้งจอกเก้าหางมัดรวมกันสามตัวเสียอีก ทว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นกลับน้อยมากราวกับเขาไม่เคยมีตัวตน
     

               และในที่สุด เธอก็ได้กลับบ้านเสียที


     

               "เห็นได้ข่าวว่าอิตาโดริย้ายโรงเรียน"เสียงกระซิบรอบข้างแม้ว่าจะเบาเพียงใดคูฮาคุก็ได้ยินเสมอ ข่าวเรื่องอิตาโดริย้ายโรงเรียนค่อนข้างดังเนื่องจากเด็กหนุ่มเองก็เป็นที่น่าจับตามองเช่นเดียวกัน "คิดว่าเกี่ยวกับรุ่นพี่ที่เข้าโรงพยาบาลปะ"
     

               "ถ้าทะเลาะกันตึกโรงเรียนก็ไม่น่าจะพังขนาดนี้นะ"
     

               "แต่นั่นอิตาโดริเชียวนะ"
     

     

               คำพูดราวกับว่าถ้าเป็นเขาก็คงทำได้ ซึ่งถ้าพูดถึงเด็กหนุ่มเรือนผมสีชมพูนมแล้วก็คงบอกว่เป็นไปแล้ว ถึงแม้เขาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สภาพตึกกลายเป็นงี้ด้วยก็เถอะ แต่คูฮาคุก็ไม่คิดว่าเขาจะย้ายโรงเรียนเร็วแบบนี้ เร็วขนาดที่ว่ายังไม่ทันได้ดูสภาพที่เกิดในวันนั้นเลยว่าเป็นยังไง หรือว่าเหตุการณ์สุดท้ายจบแบบไหน
     

               หรือแม้แต่คนสวยคนนั้นที่เห็นผ่านตา

     

               ตั้งแต่วันนั้น—คูฮาคุก็ไม่เห็นอีกเลย


     

               "บิชามอนจะเข้าโรงเรียนแล้วเหรอคะ ?"คำถามที่ดูสิ้นคิดถูกเอื้อนเอ่ยจากปากลูกสาวคนโต ดวงตาสีอาร์กติกละออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์ มองบิดาที่ตอนนี้อยู่กับเธอตามลำพังในบ้านอันเงียบงัน แม่ไปรับลูกสาวสุดที่รักที่โรงเรียนทำให้คูฮาคุยอมเยื้องย่างลงมานั่งชั้นล่างแทนที่จะหมกตัวอยู่ในห้อง

     

               "ลูกรู้ ?"ชิเอโกะหันมอง เห็นแววตาลูกสาวแล้วก็หัวเราะแผ่วเบา "บิชามอนคงจะบอกสินะ ชิกาโอะต้องการแบบนั้น ให้เรียนที่บ้านตลอดชีวิตก็ไม่สนุกกันพอดี—ลูกอยากไปเรียนด้วยเหรอ ?"

     

               "วุ่นวาย ให้บิชามอนไปคนเดียวเถอะ"เธอหันกลับไปให้ความสนใจมือถือตัวเองเหมือนเดิม แค่บิชามอนคนเดียวก็วุ่นวายแล้ว ยังไม่นับนักเรียนเก่าในโรงเรียนอีกว่ามีกี่คน เพราะงั้นคูฮาคุเลือกที่จะปักหลักเหมือนเดิมดีกว่า ยกเว้นว่าพ่อจะสั่ง เรื่องนั้นคงต้องพิจารณาดูกันอีกหน แต่ยังไงอีกฝ่ายก็คงไม่คิดย้ายเธอเข้าโรงเรียนอื่นหรอก


     

               รึเปล่านะ ?


     

               เกียวคุโระ คูฮาคุ , หากให้คนนอกอย่างบิชามอนพูดถึงตัวตนเด็กสาว ก็คงบอกว่าเป็นหลานรักของปู่จนหลานคนอื่นต่างอิจฉา ความโปรดปรานอันหาที่สุดไม่ได้ ทว่าก็ร่วงโรยหายไปดั่งฤดูกาลใบไม้ที่ร่วงโรย เมื่อผู้นำตระกูลคนก่อนสิ้น ความโปรดปรานที่เคยได้รับย่อมจางหายกลายเป็นตัวตนที่ไม่โดดเด่น ถึงเขาไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้เพราะตกอยู่ในสถานะเดียวกัน ทว่าเพศชายที่ได้มาตั้งแต่กำเนิดกลับสร้างข้อได้เปรียบกว่าสตรีที่เป็นอย่างคูฮาคุ

     

               ซึ่งบิชามอนเกลียดมันเสมอมา

     

               ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องนั้นหรือเปล่า ตัวตนที่ไม่โดดเด่นยิ่งจืดจางกว่าผืนกระดาษสีขาวหรือว่าหายไปกับอากาศดั่งที่เจ้าตัวตั้งใจ หากไม่ติดว่าเขามีเพศชาย บางทีเราอาจอยู่ในสถานะเดียวกัน อาจได้ไปเที่ยวด้วยกันหรือแม้แต่ได้ทานของหวาน ขนมอย่างที่เคยฝัน และบางทีนี่คงเป็นอีกสาเหตุที่บิชามอนเลือกไว้ผมยาวแม้ว่าอิทธิพลส่วนใหญ่มาจากทามาโมะก็ตาม


     

               เสียงหัวเราะเสียดสี 
     

               มองคนมาใหม่ที่กำลังย่ำเท้ามาทางนี้

     

               "เจอกันอีกแล้วนะครับ ฮาคุจัง"


     

               คูฮาคุเกลียดวันรวมญาติ ลูกพี่ลูกน้องที่แสนน่ารำคาญที่เรียกร้องความสนใจไม่หยุดไม่สิ้น ทางออกเดียวที่เด็กสาวเหลืออยู่ก็คงเป็นสวนที่บิชามอนจับจองไว้ตั้งแต่ช่วงสาย ทั้งที่คิดว่าคงไม่ได้เหยียบที่นี่ในปีนี้เป็นครั้งที่สอง แต่พ่อกลับทำให้เธอผิดหวังเสียเอง ในเช้าวันหยุดที่ควรได้นอนเหมือนเคยกลับต้องซ้ำรอยเหมือนอาทิตย์ที่แล้ว
     

               จมูกเด็กสาวย่นลงเมื่อได้กลิ่นสาบของจิ้งจอกกำลังส่งสายตาแพรวพราวไม่ว่าตั้งแต่เมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็ไม่เห็นมีทีท่าจะเปลี่ยนความคิดเลยสักนิดเดียว ขณะที่คู่พันธสัญญาจดจ้องด้วยดวงตาสีอำพันเช่นเดียวกัน สะท้อนร่างเด็กสาวในชุดกิโมโนสีน้ำเงินเข้มลายดอกคิเคียว คงเป็นแม่เขากระมังที่จัดเตรียมชุดให้เด็กสาว


     

               "บ้านใหญ่จะเรียกตัวบ่อยอะไรขนาดนั้น"แม้จะกล่าวด้วยเสียงเฉื่อยชาแต่ก็สัมผัสได้ถึงความหน่ายรำคาญอยู่ ถึงจะกลบซ่อนด้วยความเรียบนิ่งเหมือนผิวน้ำทว่าห้วงลึกก้นบึ้งล้วนมีอารมณ์แอบซ่อนอยู่ เสียงกระดิ่งของทามาโมะดังขึ้นอีกครายามขยับตัวไปทางเด็กสาว ข้อมือบอบบางไล้ไปตามกรอบหน้าอย่างเชื่องช้า หยอกล้อดุจจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

     

               บิชามอนหัวเราะ "กิโมโนสวยดีนะ"

     

               "ของแม่นายใช่ไหมล่ะ"เธอเอ่ย ฟังประโยคที่ไม่ได้คิดชมความสวยงามของเด็กสาวกลับเอ่ยชมชุดที่สวมใส่แทน "ครั้งนี้เรื่องอะไรถึงเรียกมาล่ะ ? เรื่องโรงเรียนจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ"

     

               "จะบอกว่าเป็นการเลี้ยงส่งก็ได้ พอผมไปอยู่ที่โรงเรียนก็คงไม่ได้กลับบ้านบ่อย ๆ แล้วล่ะ"คูฮาคุเลิกคิ้วราวกับถามว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอกัน—บิชามอนเพียงยกยิ้ม จะบอกว่าเกี่ยวก็เพียงส่วนเดียวเท่านั้น อันที่จริงเด็กหนุ่มก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่าเหตุใดบิดาตนถึงเรียกรวมประชุมอีกครั้งทั้งที่เพิ่งคุยกันในอาทิตย์ที่ผ่านมา
     

               "โรงเรียนประจำ ?"
     

               "เห็นบอกว่ามีหอพักให้น่ะ ฮาคุจังสนใจไปเรียนกับผมไหมล่ะครับ"มือจับคางท่าทางครุ่นคิด ดวงตาสีอำพันเป็นประกายเมื่อเอ่ยคำถาม ท่าทางเหมือนลูกหมาเมื่อต้องการอ้อนทำให้เด็กสาวถอนหายใจ อายุก็ต่างกันเพียงเดือนจะบอกว่าเป็นน้องก็คงไม่ได้หากดูตามปีเกิดที่เกิดปีเดียวกัน แต่การแสดงออกต่างหากที่ทำให้เขาเหมือนน้องชายไปโดยปริยาย
     

               "ไม่เอา ว่าแต่โรงเรียนไสยเวท—มันคืออะไรน่ะ ?"ยามได้ยินคำถามทามาโมะเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตรงหน้าจะอ่อนต่อโลกถึงเพียงนี้ ตราบใดที่มองเห็นคำสาปก็ย่อมควรรู้พื้นฐานว่าไสยเวทคือสิ่งใด เหลือบมองเท็งงุที่เบือนหน้าหนีไปอีกทางก็พบสาเหตุ ชายจิ้งจอกแค่นหัวเราะ พัดโอกิถูกกางออกปิดบังใบหน้าส่วนล่างของจิ้งจอก

     

               "เจ้าเนี่ยดูแลเด็กน้อยของข้าไม่ดีเลย เรื่องแค่นี้เหตุใดถึงไม่สอนไว้หรือคิดจะปิดบังจนตัวตายงั้นหรือ"เสียงหัวเราะเปล่งออก นุ่มทุ้มจนไม่อาจแบ่งแยกเพศได้ ดวงตาหยาดเยิ้มส่งให้เด็กสาวที่ตั้งคำถาม "ถ้ามาอยู่กับข้า สิ่งใดที่เจ้าอยากรู้ล้วนได้รับการแถลงไขอย่างแน่นอน"
     

               "เรื่องแค่นี้ถามบิชามอนก็ได้"คูฮาคุตัดเสียงเรียบ ดวงตาสีอาร์กติกดูเย็นยะเยือกแม้ว่าจะทำตัวปกติก็ตาม เด็กหนุ่มยิ้มแห้งพลางปรามจิ้งจอกที่เริ่มเล่นเกินพอดี ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นลูกไฟสีครามก่อนเลือนรางหายไปเช่นเดียวกับเท็งงุที่สลายกลายเป็นลม , คูฮาคุอาจยอมให้ทามาโมะเล่นกับตัวเองได้ตราบใดที่ยังไม่ล้ำเส้นเกินพอดี และเส้นที่ขีดกั้นย่อมเป็นเท็งงุที่คอยดูแลเด็กสาวมาตั้งแต่วัยเยาว์
     

               "หน่า—อย่าโกรธทามาโมะเลยนะ"และคนกลางอย่างเขาทำได้เพียงบอกให้อีกฝ่ายใจเย็น "โรงเรียนไสยเวทผมก็ได้ยินมาอีกที เห็นบอกว่าเป็นที่สั่งสอนเพื่อให้เป็นผู้ใช้ไสยเวท ไว้ปัดเป่าคำสาปที่ฮาคุจังเห็นนั่นแหละ"

     

               "แต่นายไม่มีนี่"

     

               "ก็เหมือนฮาคุจัง...."บิชามอนแย้มยิ้มเป็นความหมายที่รู้กันดี เด็กสาวส่งเสียงหัวเราะเล็กน้อยราวกับว่าเพียงเค้นเสียง "จริง ๆ ที่เข้าไปก็แค่อยากศึกษาวิธีการเฉย ๆ น่ะครับ อีกอย่างทางฝั่งนั้นก็เป็นคนเชิญเองด้วย"


     

               "แล้วจะไปกี่โมง ?"
     

               "ใกล้ได้เวลาแล้วล่ะ"
     

     

               ดวงตาสีอำพันเงยมองท้องฟ้า ก่อนก้มมองเด็กสาว ทางเดินอันแสนยาวคดเคี้ยวในสวนกุหลาบ เสียงฝีเท้ายามเหยียบย่ำก่อเกิดเสียง , คูฮาคุได้ยินเสียงพูดคุยบริเวณแถวหน้าบ้าน เป็นพ่อกับลุงชิกาโอะที่กำลังสนทนา ส่วนลุงชิโกชิเพียงนั่งคอยก่อนผลิยิ้มเมื่อเห็นร่างของหลานทั้งสองเดินมาทางนี้ ดวงตาสีอาร์กติกเงยมองพลางทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
     

               คูฮาคุได้ยินเสียงของลุงชิกาโอะที่กำลังบอกว่าเดี๋ยวพวกเขาจะมา—เหลือบมองบิชามอนที่ยืนคอยอย่างสงบเสงี่ยมตามมารยาท กลิ่นเหม็นสาบเบาบางลงเพราะทามาโมะไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ด้วย ถึงกลิ่นบนตัวบิชามอนไม่ได้แรงขนาดชวนให้ย่นจมูกแต่คูฮาคุก็เว้นระยะห่างไว้เล็กน้อย กระทั่งเสียงเดินของคนกลุ่มหนึ่งเดินมา ดวงตาสีอาร์กติกจึงหรี่ลง
     

               สิ่งที่โดดเด่นนำใครหลายคนคงเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูง เรือนผมสีพิศุทธิ์กับผ้าคาดตาสีดำกำลังเดินนำ ตามด้วยเด็กนักเรียนในชุดยูนิฟอร์ม เด็กผู้หญิงเรือนผมสีน้ำตาลส้มแอปริคอตกำลังถกเถียงกับเด็กหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างอิตาโดริ (เธอไม่คิดว่าเขาจะย้ายไปอยู่โรงเรียนนั้นด้วยซ้ำ) และเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินเข้มที่เคยเห็นติดตามมาด้วยกัน

     

               เป็นการพบเจอกันที่ชวนน่าหัวเราะ


     

               "อ๊ะ—เกียวคุโระนี่นา ! สบายดีใช่ไหม !?"อิตาโดริเอ่ยทักคนแรกยามเห็นเด็กสาวที่ยืนอยู่ในชุดกิโมโน ไม่คิดว่าจะได้เจอเพื่อนสาวอีกหนแม้ว่าจะเป็นเหตุบังเอิญก็ตาม ดวงตาซอกแซกพยายามหาบาดแผลทว่าไม่มีก็ชวนโล่งใจ ต่อมาเป็นความสงสัยว่าตอนนั้นเธอไปอยู่ไหนมา ทว่าก็ไม่อาจถามได้ในสถานการณ์แบบนี้

     

               "สวัสดีอิตาโดริ"

     

               "รู้จักเหรอ ?"บิชามอนหันมาถามไถ่เมื่อเห็นการทักทาย จะบอกว่าญาติตัวเองคนคบน้อยก็ว่าได้ เห็นมีคนทักทายแบบนี้ก็ชวนแปลกใจจนต้องหันมาถาม ขณะเดียวกันคูฮาคุเพียงตอบเสียงเบาว่าเพื่อน (เก่า) ที่โรงเรียน "ฮาคุจังมีเพื่อนคบด้วยแหะ"
     

               "สวัสดีครับ  ผมมารับนักเรียนสองคน"ชายหนุ่มเรือนผมสีขาวกล่าวออกมา ท่าทางขี้เล่นแต่แฝงความจริงจัง ไม่ได้ให้ความรู้สึกกดดันมากไปแต่ก็ไม่ได้เล่นไปทั่วจนเสียภาพลักษณ์ ทว่าสิ่งที่สะกิดใจคงเป็นคำว่าสองชวนให้เด็กสาวชวนขมวดคิ้ว ดวงตาสีอาร์กติกจากที่หลุบมองเบนสายตาไปทางเด็กหนุ่มผมยาวที่กำลังขยับยิ้มด้วยรอยยิ้มจิ้งจอก
     

               "ครับ ผมเกียวคุโระ บิชามอน ส่วนทางนั้น—"เด็กหนุ่มหันมองเพียงชั่วครู่ แนะนำตัวแทนด้วยน้ำเสียงกังวาน "เธอชื่อเกียวคุโระ คูฮาคุ"

     

               "ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับอาจารย์"


     

               มุมปากเด็กสาวยกขึ้นส่งรอยยิ้มว่างเปล่าให้ ควรรู้ตัวตั้งแต่บ้านใหญ่เรียกเข้ามาในช่วงวันหยุดแล้ว ปกติพ่อจะพากลับบ้านใหญ่ทีก็แค่ช่วงเทศกาลสำคัญ ดังนั้นการมีเหตุให้ต้องไปมาถึงสองครั้งย่อมมีกลิ่นน่าสงสัย ดวงตาสีอาร์กติกปรายมองบิชามอนที่ยิ้มแย้มเหมือนเก่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของจิ้งจอกเหมาะสมกับคำว่าหลอกลวงยิ่งกว่าสิ่งใด ทว่าแท้จริงแล้วเธอเองก็ลืมไปอย่างหนึ่ง
     

               ยิ่งหันมองไปทางด้านหลังเห็นพี่น้องสามคนกำลังยิ้มเหมือนกัน

     

               ยิ่งตอกย้ำถึงความเป็นจริงที่สลักไว้
     

               เกียวคุโระเธอถูกหลอกอีกแล้ว

     

    ♡´・ᴗ・`


     

               วันนี้อาจารย์โกโจบอกว่าจะมีเด็กใหม่—ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร บางทีนิสัยอาจเหมือนคุงิซากิ โนบาระหรืออิตาโดริ ยูจิ แม้แต่ฟุชิงุโระ เมงุมิเองก็ด้วย ไม่ว่าแบบไหนก็นับว่าปีหนึ่งที่เด็กเยอะที่สุดก็ว่าได้หากนับเด็กใหม่ ฟุชิงุโระได้ยินชายหนุ่มพูดว่ามีสองคนแม้ว่าตอนแรกที่ยื่นคำเชิญจะมีเพียงแค่คนเดียวก็ตาม ทว่าอาทิตย์ต่อมาที่จะมารับตัวกลับเพิ่มมาอีกคน

     

               ความรู้สึกอึดอัดในอกทำให้เด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินเข้มขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตามองพื้นที่รอบข้างอันเป็นบ้านเรือนของคนปกติ ดูสงบกว่าที่คิดไว้ทำเอาเสียงทะเลาะของอิตาโดริกับคุกิซากิเสียงดังขึ้นมาทีเดียว ก่อนหยุดลงตรงหน้าบ้านที่กินอาณาเขตใหญ่กว่าบ้านอื่น ๆ เหลือบมองป้ายหน้าบ้านก็ทำให้เด็กหนุ่มผู้เป็นภาชนะต้องลูบคางขมวดคิ้วชั่วครู่
     

               เด็กสาวที่คุ้นหน้ากุมมือไว้ตรงหน้าท่าทางสงบเสงี่ยมผิดกับวันแรกที่ได้เจอ เรือนผมสีสายไหมถูกมัดรวบไว้อย่างเรียบร้อย เธออยู่ในชุดกิโมโนดูแปลกตากว่าปกติที่เคยเห็นในชุดนักเรียน คำพูดจาที่ไม่ได้หวือหวาอย่างการเรียกเขาด้วยคำว่าคนสวย กระทั่งเด็กอีกคนท่าทางยิ้มแย้มกว่าเอ่ยแนะนำตัว ฟังจากเสียงก็คงเป็นผู้ชาย แนะนำตัวเองและญาติที่ยืนเคียงข้างอย่างไหลลื่น ชั่ววินาทีที่ได้ยินเขาเหลือบเห็นดวงตาคู่นั้นแปรเปลี่ยนไป

     

               แม้ว่าจะเล็กน้อย
     

               แต่ก็เหมือนพายุที่กำลังโหมกระหน่ำ


     

               "วันนี้มีเด็กใหม่สองคนทั้งที งั้นไปชิบุยะกันเถอะ !"เขากล่าวด้วยเสียงระริกระรี้แม้แต่เด็กหนุ่มสาวอย่างอิตาโดริกับคุงิซากิยังตาเป็นประกาย เหมือนครั้งแรกจนฟุชิงุโระถอนหายใจ ไม่เข็ดหรือยังไงเจ้าพวกนั้นตั้งแต่รปปงงิ ขณะที่บิชามอนเพียงส่งเสียงว้าวตามประสาคนที่เพิ่งออกจากบ้าน ส่วนคูฮาคุเพียงกรอกตาเบื่อหน่ายไร้มารยาทไม่เหมือนตอนอยู่บ้านใหญ่

     

               "เที่ยว เที่ยว !"คุงิซากิตาแวววาว เข้าไปรุมล้อมชายหนุ่มที่ยืนตระหง่านยิ้มกว้างอยู่ "ไม่หลอกกันสินะ"

     

               "หืม—? ผมไม่หลอกพวกเธอหรอกนะ โดยเฉพาะเด็กใหม่ด้วยน่ะ"

     

     

               เสียงหัวเราะแว่วทิ้งท้ายก่อนเริ่มออกเดินทาง ปลายทางคือชิบุยะที่ชายผมขาวกล่าวไว้ , ท่าทางตื่นเต้นในตอนแรกจางหายไปเมื่อเห็นว่าเบื้องหน้าเป็นตึกร้างเหมือนที่พวกเขาเคยเจอก่อนหน้า สายตาอิตาโดริฉายแววอวยพรไม่ต่างจากคุงิซากิที่ถอนหายใจ แววตาเบื่อหน่ายในทันทีก่อนหันไปทางตัวต้นเหตุที่กำลังยิ้ม

     

               บิชามอนมองการทะเลาะระหว่างศิษย์กับอาจารย์พลางหัวเราะไปด้วย เมินกลิ่นเหม็นหืนที่อบอวลในตึกร้างที่ต้องเผชิญในอีกไม่ช้า คูฮาคุย่นจมูกทันทีที่ย่างก้าวมาอยู่หน้าตึก ในสายตาล้วนสะท้อนแต่สิ่งที่ไม่คิดว่ามีอยู่จริงบนโลก แม้ว่าจิ้งจอกประสาทสัมผัสเรื่องกลิ่นจะไวกว่าแต่เด็กสาวดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้นเสียนิดนึงในเรื่องกลิ่น 


     

               "ผมไม่ได้หลอกสักหน่อย"โกโจหันมาทางเด็กใหม่ทั้งสอง ดวงตาใต้ผ้าคาดสีดำกำลังฉายแววครุ่นคิด "ถ้าปัดเป่าที่นี่เสร็จเรียบร้อย ผมจะพาเที่ยวชิบุยะแน่นอน !"
     

               "งั้น—"คุงิซากิก้าวนำ เตรียมตัวปัดเป่าคำสาปในตึกทว่าก็ถูกรั้งด้วยมือหนาของผู้เป็นอาจารย์วางทาบบนไหล่ เขาส่ายหัวเป็นเชิงห้ามก่อนหันไปยิ้มให้เด็กใหม่ตระกูลเกียวคุโระ
     

               "งานนี้ต้องให้บิชามอนคุงกับฮาคุจังเป็นคนปัดเป่าล่ะนะ"ริมฝีปากขยับยิ้ม ท่าทางขี้เล่นหรือน้ำเสียงก็ดูจริงจังขึ้นมาหนึ่งส่วน "เพราะผมยังไม่รู้วิชาคุณไสยกับไสยเวทในตัวพวกเธอก็เลยต้องขอทดสอบสักหน่อย เพราะงั้นสู้ ๆ นะ"

     

               "เอาไว้จัดการเสร็จผมจะค่อยมาคิดบัญชีทีหลังแล้วกัน"
     

               "บิชามอนเร็ว ๆ เหม็นจะตายอยู่แล้ว"เธอเอ่ยกระซิบ สีหน้าเฉยชายังคงไว้ได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าใจจริงคูฮาคุอยากสำรอกอาหารตอนเช้าออกมาแล้วก็ตาม แม้ว่าคาเสะจะบังคับลมรอบตัวให้หมุนไปทางอื่นทำให้เจือจางไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ช่วยมาก บิชามอนรีบรับคำเดินไปพร้อมกับคูฮาคุท่ามกลางสายตาของเหล่าเพื่อนร่วมชั้นกับอาจารย์ที่ยกยิ้มชอบใจ
     

     

               ตึกร้างดูเป็นแหล่งซ่องสุมชั้นเยี่ยม บรรยากาศวังเวงน่ากลัวทำให้เกิดความคิดมากมายยากเกินควบคุม ไม่แปลกที่คำสาปจะโผล่ขึ้นมาหรือว่าแอบซ่อนที่นี่เยอะนัก ดวงตาสีอาร์กติกสะท้อนพื้นปูนที่บางส่วนก็แตกออก ทางเดินที่ไม่ต่อเนื่องนักทำให้เธอเดินอย่างระมัดระวังเช่นเดียวกันกับบิชามอน ดวงตาสีอำพันต่างสอดส่องไปทั่ว

     

               เดินผ่านมาถึงชั้นสองก็ยังไร้วี่แวว คูฮาคุหันมองโดยไม่ทันสังเกตพื้นที่เป็นหลุมดำโผล่คำสาปตัวแรกขึ้นมา หากไม่ได้บิชามอนผลักออกไปเกรงว่าคูฮาคุคงได้แผลแรกในทันที ดวงตาสีอำพันวาวโรจน์เต็มไปด้วยอารมณ์มากมายสะท้อนออกมาต่างจากคนเกือบโดนโจมตีมีเพียงสายตาเฉยชา เย็นยะเยือกยิ่งกว่าเก่าเมื่อทั้งเท็งงุและจิ้งจอกเก้าหางโผล่ออกมา

     

     

               "คาเสะ"
     

               "ทามาโมะ"


     

               แถบสีทองโผล่มาบนลำคอเด็กสาว บรรยากาศเปลี่ยนแปลงไปเมื่อดวงตาสีอาร์กติกกะพริบ ห้วงอารมณ์เผยชัดให้ได้เห็นเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธต่อคำสาปตรงหน้า จิ้งจอกเก้าหางยืนเคียงคู่พันธสัญญาตน พลังที่สั่งสมมานานถูกเด็กหนุ่มฉกฉวยใช้ ไฟเพลิงสีครามที่เคยเห็นในตำนานถูกเรียนมาเป็นลูกไฟทั้งเก้า ดวงตาสีอำพันเรืองรอง รูม่านตาหดจนเหลือเพียงขีดเส้น
     

               คาเสะเพียงสะบัดมือขยับร่างกายที่ไม่ได้ลองมานานหลายปี ดวงตาสีอาร์กติกปรายมอง ย่างเท้าเข้าหาพร้อมบรรยากาศกดดัน ขณะที่คำสาปนั้นตั้งท่าเตรียมโจมตีอีกครา บิชามอนยกมือเตรียมขยับนิ้วชี้เรีกยลูกไฟให้โจมตีกลับต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นเท็งงุที่กำลังทรงร่างเด็กสาวยกมือเป็นเชิงห้าม


     

               "เจ้าไปจัดการตัวอื่น"น้ำเสียงดูทุ้มกว่าเดิม สีหน้าแสดงออกผ่านใบหน้าของคูฮาคุ แม้จะเคยได้ยินจากปากเจ้าตัวมาหลายคราแต่บิชามอนไม่ชินเลยเวลาคูฮาคุจะปรับเปลี่ยนสีหน้าแม้ว่าแท้จริงแล้วในตัวเด็กสาวนั้นมีเท็งงุอีกตนที่กำลังอาศัยอยู่ด้วย และสำหรับคาเสะ หากไม่ใช่คูฮาคุแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยซ้ำซากแม้ว่าจะเป็นญาติเด็กสาวก็ตาม

     

               "ไหวเหรอ ?"

     

               "ข้าจะไม่พูดซ้ำสอง"เสียงกดต่ำย้ำเตือนอีกครา บิชามอนถอนหายใจยอมล่าถอยแต่โดยดีแม้ว่าทามาโมะจะส่งเสียงจิปากขัดใจไปบ้าง แต่ก็ยอมเลือนหายตามเจ้าของพันธสัญญาที่ขึ้นไปอีกชั้น เหลือเพียงคำสาปที่กำลังเหลือกตากลิ้งกรอกมาทางเด็กสาว ดวงตาสีอาร์กติกฉายแววเย็นชา ความบ้าคลั่งที่เคยปกปิดเผยแง้มให้เห็นทีละนิด
     

               ทีละนิด

     

              ดุจพายุคลั่งที่ไร้การควบคุม
     

               "เจ้าหรือที่ใช้มือโจมตีนาง ?"


     

               ตราบใดที่คูฮาคุไม่ได้รับรู้

               คาเสะก็ไม่จำเป็นต้องปรานี
     


     

               Talk with คนแต่ง

               รีตอนที่สอง ! ตอนที่แล้วมันไม่แจ้งเตือนอ่าแง ใครยังไม่อ่านอย่าลืมกดย้อนอ่านนะๆๆ เพิ่มตัวละครมาใหม่ด้วย ส่วนเรื่องตระกูลคูฮาคุหรือบิชามอนค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อยค่ะ ได้เจอเซนเซย์กับคนสวยแล้ว ! ส่วนเราตอนนี้ไปตามดูเมะเรียบร้อยพร้อมกองทิชชู่ ;-; พยายามม่ายร้อง
     

               แอคงาน (@hourizuha)


              ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ♡´・ᴗ・`♡

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×