ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jujutsu Kaisen fiction - คนสวยขา ( megumi x oc )

    ลำดับตอนที่ #3 : 02 - หูกับหางล้วนเป็นของคู่กัน (re)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 64


         


    Jujutsu Kaisen fiction - คนสวยขา
    - megumi x oc 


     

               อาจจะสักห้าหรือสิบปีที่แล้วเมื่อครั้นยังเป็นคนธรรมดา , ดวงตาสีอาร์กติกดุจอัญมณีของผืนทะเลกะพริบตาเชื่องช้า มองเพดานที่วันนี้ยังคงว่างเปล่าเหมือนทุกวัน เหตุการณ์เมื่อคืนคล้ายความฝันมากกว่าความเป็นจริง การต่อสู้สุดหฤโหด ความเหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถเอามาวัดได้ หรือแม้อารมณ์เฉยชาที่ยังคงตกตะกอนอยู่ในห้วงความคิดของเด็กสาว

     

               คูฮาคุไม่ได้มีความคิดที่จะอยู่ดูจนจบ แม้ว่าที่นั่งชั้นดูเธอออกจะพิเศษเสียหน่อยจนแทบไม่ต้องกังวลสิ่งใด แต่เนื่องด้วยอารมณ์ของคาเสะที่ไม่อาจคงความนิ่งได้หรือแม้แต่เวลานอนที่เริ่มเลยจากปกติทำให้คูฮาคุเลือกโบกมือลาการต่อสู้ของพวกเขาบนอาคารเรียนแล้วตรงดิ่งหาที่นอนแทน อย่างไรนอนดึกก็ไม่ดี เผลอ ๆ เธออาจจะไม่สูงก็เป็นได้
     

               และการตื่นเช้าก็ทำให้อารมณ์เธอไม่ค่อยดีเท่าไร
     

               เสียงเคาะประตูหน้าห้องหรือว่าเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์มากมายของแม่ที่กำลังโวยวายอยู่ชั้นล่างแว่วขึ้นมาให้ได้ยิน เด็กสาวพ่นลมหายใจก่อนยอมสละเตียงนอน ปลายสายตาเห็นปีกขนนกที่กำลังขยับก่อนวางฝีเท้าย่ำไปทางประตูที่เริ่มหยุดเงียบ เธอเปิดประตูพลางมองหาคนที่เคาะ ดวงตาสีอาร์กติกหลุบต่ำลงจนเห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังเงยมองเช่นเดียวกัน
     

               ใบหน้าอ้วนกลม ทรงผมมัดแกละที่แม่ทำให้ดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตามองกดต่ำกับเด็กที่ยังสูงไม่ถึงเอว ความรู้สึกเหมือนเจอคนรู้จักที่ไม่ได้เจอมานาน ความจริงควรบอกว่าคนแปลกหน้ามากกว่าเมื่อน้องสาวเธอยังจำชื่อคูฮาคุไม่ได้เลย สมกับชื่อที่หมายความว่าว่างเปล่าจริง ๆ พอกันกับพี่สาวที่ยังทำตัวเอ้อระเหย
     

               เรายืนจ้องตากันเกือบนาทีก่อนเด็กน้อยจะเดินผละออกจากไป เตาะแตะเดินลงบันไดทิ้งเธอไว้ตรงหน้าประตู คูฮาคุได้ยินน้ำเสียงหวานจ้อยกับเสียงอบอุ่นของพ่อตรงชั้นล่าง , ดวงตาสีอาร์กติกเคลื่อนมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ปลายเตียง บรรยากาศเงียบเชียบปกคลุมห้อง ระหว่างเราทั้งสองมีเพียงเสียงหายใจที่พ่นออกมา


     

               "คาเสะ"ปีกสีดำเริ่มขยับตามปฏิกิริยาที่เด็กสาวเรียกชื่อ ดวงตาที่คล้ายคลึงกันเงยมองขึ้น สะท้อนเห็นเด็กสาวที่กำลังเดินลากเท้ามาหยุดตรงเตียงเหมือนเก่า พัดขนนกที่เคยกางไว้ถูกพับเก็บไว้ ท่าทางที่แฝงความเอื่อยเฉื่อยสมควรแล้วที่ยังคงมีเสียงด่าของหญิงสาวด่าแว่วหวังกระทบตัวเฉื่อยชาและไร้ตัวตนของบ้าน
     

               "ไม่เตรียมตัวหรือ ?"
     

               คำถามนั้นชวนน่าหัวเราะจนเด็กสาวขยับริมฝีปาก "ทำเหมือนกับว่าแม่จะสน—นายก็รู้ว่าการรวมญาติเป็นเรื่องที่น่าเบื่อขนาดไหน"
     

               "แต่เจ้าก็ทำได้ดีทุกครั้ง"เขากล่าวเสียงเรียบ แม้ว่าสิ่งที่คูฮาคุพูดเมื่อครู่ล้วนเป็นความจริงที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่อยากกลับถิ่นเดิมของตัวเองเลยสักนิด แค่นึกถึงตัวปัญหาก็ชวนคิ้วกระตุกแล้ว ทว่าสิ่งที่มนุษย์นั้นมีมันซับซ้อนกว่านั้นบางทีอาจจะมากกว่าปีศาจอย่างเขาที่เฝ้าดูเด็กสาว เรียนรู้ถึงห้วงอารมณ์มากมายที่ทับซ้อนกันจนไม่อาจหยั่งถึงว่าแท้จริงแล้วอะไรเป็นอะไร


     

               รอยยิ้มจุดบนใบหน้าเบาบาง
     

               "มันก็เป็นเรื่องที่สมควรทำไม่ใช่เหรอ ?"


     

               เกียวคุโระ ชิเอโกะ , ชื่อของบิดาผู้ที่ให้กำเนิดและชื่อของลูกชายคนที่สามในครอบครัวเกียวคุโระ ชื่อที่คล้ายผู้หญิงเธอเคยได้ยินมาก่อนว่าเป็นการแก้เคล็ด เพราะในครอบครัวเกียวคุโระมีแต่ผู้ชาย พอพ่อเธอเปลี่ยนชื่อจึงมีหลานผู้หญิงให้ปู่ได้เชยชม แม้ว่าพี่ชายของพ่อจะต้องการลูกสาวแต่จะให้เปลี่ยนชื่อแบบนี้ก็เกินไปหน่อย ถือว่าเป็นครอบครัวที่มีความเชื่อเยอะเลยล่ะ

     

               ครอบครัวที่มีความเชื่อด้านสิ่งลี้ลับมากกว่าครอบครัวอื่น เป็นเศษเสี้ยวที่ทำให้พ่อเธอไม่ได้มองว่าเด็กสาวเป็นสิ่งแปลกแยกที่มองเห็นอะไรในสิ่งที่ไม่ควรเห็น เกียวคุโระก็เป็นเช่นนี้เฉกเช่นเดียวกันกับเธอที่เหมือนเป็นเกียวคุโระมากกว่า หากปู่ได้ยินเรื่องพวกนี้ตามักจะเป็นประกายเสมอ เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เขารักเธอมากกว่าหลานคนไหน
     

               หากว่าเขายังอยู่ล่ะนะ
     

               "แถวนี้เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะคะ"น้ำเสียงหวานดั่งน้ำเชื่อมเอ่ยถึงบริเวณสวนที่มีการปรับปรุง เธอเมินท่าทีของแม่ที่ชอบทำเหมือนกับว่าโลกนี้มีอยู่กันเพียงสองคนยามได้อยู่กับพ่อ ดวงตาสีอาร์กติกมองสวนที่มีการปรับเปลี่ยนจากสวนญี่ปุ่นดั้งเดิมเริ่มถูกรื้อถอน น้ำพุหรือแม้แต่สวนดอกกุหลาบที่เธอคิดอย่างไร คนเก่าแก่อย่างปู่คงไม่มีทางซื้อมาไว้
     

               "พอคุณพ่อเสีย พี่ชิกาโอะกับพี่ชิโกชิเลยเปลี่ยนสวนตรงนี้"พ่อกล่าวด้วยเสียงอบอุ่น มองสวนที่เริ่มแปลกตาแล้วจึงหันไปทางอื่นแทน "จริง ๆ ก็อยากให้เก็บสวนเก่าเอาไว้ แต่ผมไม่ได้อยู่ที่นี่จะให้แย้งคนที่อยู่ก็คงไม่ได้"
     

     

               คูฮาคุวางเท้าลงย่ำไปทางสวนที่ถูกปรับปรุงใหม่ ตามด้วยคาเสะที่กำลังสำรวจสวนแบบใหม่ มันสวย—ทว่าสำหรับเท็งงุที่ชื่นชอบสิ่งดั้งเดิมล้วนต้องไม่พอใจ มันเป็นสิ่งที่สร้างมาเพื่อเขาแต่ในวันหนึ่งกลับโดนทำลายลงไป นั่นเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่อาจกักเก็บความไม่พึงพอใจไว้ได้ คูฮาคุเพียงยักไหล่เมื่อความจริงตรงหน้าไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

     

               สวนญี่ปุ่นดั้งเดิมพวกนี้ตอนแรกก็ยังไม่มีหรอกจนกระทั่งปู่รู้ว่าเธอสามารถเห็นอะไรได้หรือแม้แต่บางครั้งเขาเองก็เคยเห็นเพียงชั่วครู่ ตอกย้ำว่าสิ่งที่ตนเชื่อเสมอมานั้นอยู่ข้างกายหลานสาวมาตั้งแต่เด็ก ของขวัญอันเป็นสวนนี้นับว่าเป็นของบรรณาการที่เหมือนเป็นข้อตกลงกันว่าคาเสะจะคอยปกป้องหลานสาวคนแรกของตระกูล (ทั้งที่ความจริงไม่จำเป็นด้วยซ้ำ)
     

               ปลายเท้าหยุดลงตรงประตูหน้า กดกริ่งอย่างมีมารยาททั้งที่ความจริงต่อให้เปิดประตูเข้าไปเลยก็ไม่มีใครว่าเสียทีเดียว รอประมาณเกือบห้านาทีจึงเปิดออก เห็นชายหนุ่มวัยกลางคนกำลังผลิยิ้ม เค้าโครงหน้าคล้ายคลึงกับพ่อหลายส่วนทำให้เธอต้องเอ่ยทักทายด้วยความนอบน้อมหากมองข้ามน้ำเสียงที่เรียบนิ่งไป คูฮาคุก็นับว่าเป็นเด็กมารยาทงามขณะที่คาเสะเพียงจิปากเมื่อเห็นตัวการที่ทำลายสวนอันเป็นที่รักทิ้ง


     

               "คูฮาคุเป็นไงบ้าง โตขึ้นเยอะเลยนะ"น้ำเสียงอ่อนโยนราวกับเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษนั้นทำให้ใครหลายคนต่างเคลิ้ม เธอเพียงเงยมองลุงชิกาโอะ ดวงตาสีอาร์กติกไร้อารมณ์กว่าที่เคยเป็นดุจห้วงน้ำลึกที่ไม่เห็นก้นบึ้ง รอยยิ้มงดงามขยับวาดบนใบหน้า ตอบคำถามด้วยเสียงนุ่มนวล
     

               "สบายดีค่ะ คุณลุงควรถามเออิมิดีกว่านะคะ รายนั้นเพิ่งเข้าชั้นเรียนประถมเอง"กล่าวถึงน้องสาวอีก เออิมิ ดูจากความหมายก็พบความลำเอียงที่ห่างกันเป็นช่องว่างทางรถไฟ เออิมิเป็นชื่อที่ดี ความรักอันแสนสวยงาม ไม่รู้ว่าบอกถึงความรักของบุพการีทั้งสองหรือกล่าวถึงความรักระหว่างแม่กับน้องสาวคนเดียวเธอหรือไม่
     

               "นั่นสินะ—ช่วงนี้ลำบากแย่เลยนะอายากะ"แม่เพียงตอบรับด้วยรอยยิ้มพร้อมบอกลูกสาวสุดที่รักในอ้อมอกให้สวัสดีคุณลุง สนทนากันเพียงไม่กี่คำก่อนย้ายเข้าไปในตัวบ้าน เหลือบมองสีหน้าของแม่ที่อารมณ์ดีทั้งวันเป็นสีหน้าที่มักเห็นเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น เป็นคนที่ปรับเปลี่ยนอารมณ์รวดเร็วมากพอขนาดที่ว่าเมื่อครู่ยังหันมาตีหน้ายักษ์ใส่เธอเลยพอไม่ยอมอุ้มน้องสาว


     

               ตัวโตขนาดนั้นยังคิดจะให้อุ้มอีกหรือ ?
     

               เธอไม่เข้าใจแม่สักนิดเดียว
     

               ระเบียบตอนอยู่บ้านใหญ่นั้นทำให้เธอไม่สามารถทำตัวปกติได้เท่าไร แม้แต่ชุดสุภาพที่ถูกใส่มาตั้งแต่อยู่ที่บ้านก็ถูกให้เปลี่ยนมาใส่ในชุดกิโมโนแสนสุภาพแทน แม้แต่เออิมิเองก็ยังมีอาการงอแงยามรับรู้ความลำบากเวลาขยับตัว ขณะที่คาเสะเปลี่ยนสภาพเป็นลมหมุนรอบตัวเด็กสาว จะให้เดินเหมือนปกติก็คงไม่ได้ไม่งั้นคงได้เจอตัวอย่างแน่นอน
     

               คูฮาคุเป่าปาก มองตัวเองในกระจกที่สะท้อนออกมาให้เห็น ไร้เงาสะท้อนคาเสะให้เห็นเหมือนเก่า , ปีศาจกับคำสาปจะบอกว่าแตกต่างก็พูดได้ไม่เต็มปากมากนัก แค่วิธีการมองเห็นหรือการดำรงอยู่ก็แตกต่างกันแล้ว แต่ว่าถูกจัดให้เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติเหมือนกันก็คงไม่ผิด คำสาปเกิดขึ้นจากความรู้สึกด้านลบรวมตัวกัน ขณะที่ปีศาจดำรงอยู่ได้เพราะความเชื่อของมนุษย์
     

               หากความเชื่อนั้นแรงกล้ามากพอ  คิดว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อนั้นเป็นจริงก็ย่อมมองเห็นได้โดยไม่ต้องเกิดมาวิเศษอะไร ทว่าในยุคนี้ที่เทคโนโลยีเริ่มมีบทบาท ความเชื่อมากมายล้วนถูกกลบฝังและบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระของคนสมัยก่อน การมองเห็นปีศาจพวกนี้จึงไม่สามารถเห็นได้เหมือนเก่า แม้ว่าจะมีหัวโบราณบางส่วนยังคงหลงเหลือตกทอดให้ลูกหลานในตระกูลบ้างก็ตาม
     

               เช่นเดียวกับตัวตนของคูฮาคุ
     

               ที่ไม่มีพื้นที่ใดให้ใครจดจำ

     

    ♡´・ᴗ・`


     

               สวนดอกไม้หากเป็นยามก่อน คูฮาคุมักจะมานั่งเป็นเพื่อนปู่พลางดื่มชาไปด้วยอย่างที่เคยทำ ทว่าสวนตอนนี้ที่ไม่เหมือนเก่า เรือนของปู่เองก็ถูกโยกย้ายให้เป็นเรือนของลุงชิกาโอะ ส่วนเรือนเก่าของลุงชิกาโอะก็ถูกยกให้ลุงชิโกชิ เรือนเก่าของลุงชิโกชิจึงถูกยกให้ลูกชายคนโตของลุงชิกาโอะอีกที เป็นความสัมพันธ์ที่พอคิดไปมาก็ชวนน่าปวดหัวอยู่ไม่น้อย
     

               หากคูฮาคุเป็นหลานสาวคนโตของตระกูล ลูกชายของลุงชิกาโอะนับว่าเป็นหลานชายคนแรก ในหมู่หลานเธอนับว่าเป็นพี่โตสุดโดยไม่อาจเลี่ยงได้ ขณะที่เออิมิเป็นหลานสุดท้อง , ดวงตาสีอาร์กติกเหม่อมองสีเขียวของใบ ดอกกุหลาบหลายสีที่ลุงทั้งสองสรรหาเอามาปลูกในสวน ก่อนสะดุดเรือนผมสีดำที่เด่นในหมู่เรือนดอกไม้ พร้อมกับกลิ่นฉุนที่ทำให้มุมปากเด็กสาวเผลอกระตุกอย่างห้ามไม่อยู่
     

               ไม่รู้ว่าเพราะเธอเป็นหลานคนโต เขาเป็นหลานชายคนแรก อะไรหลายอย่างจึงคล้ายกันจนไม่น่าเชื่อ กลิ่นเหม็นสาบของสุนัขทำให้คาเสะโผล่ออกมา กางปีกจนขนนกพลิ้วไหวพัดลมเบา ๆ เพื่อไม่ให้กลิ่นมาถึงทางนี้ คูฮาคุหยุดเดินยามปลายเท้าหยุดลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเด็กหนุ่ม เมินเสียงกระดิ่งที่ขยับสั่นไหวสายตาอีกคู่ที่กำลังวาววับ
     

               เกียวคุโระ บิชามอน , หลานชายคนแรกของตระกูลที่ถือกำเนิดจากผู้นำตระกูลคนปัจจุบันนับว่าเป็นอีกคนที่เป็นโปรดปรานจากปู่ (รองจากเธอ) เขาจึงถูกวางตัวเป็นผู้สืบทอดต่อจากลุงชิกาโอะ เรือนผมสีปีกกาไร้สีสันนอกจากความมืดมิดถูกไว้ยาวดั่งผู้หญิง รวบไว้เป็นหางม้าเปิดเผยใบหน้าเรียวคมที่เริ่มเผยเสน่ห์ของบุรุษ ดวงเนตรสีอำพันกำลังพราวระยับยามเห็นร่างของเด็กสาวอยู่ในสายตา ไฝใต้ตาซ้ายสองจุดอันเป็นเอกลักษณ์ ผิวกายขาวซีดจนแทบเห็นเส้นเลือดใต้ผิวตัดกับชุดฮากามะสีดำเข้ม
     

               ดุจสตรีเพศมากกว่าบุรุษที่ยิ่งใหญ่

     

               "สวัสดี"

     

               "สวัสดี"เราเอ่ยทักพร้อมกันก่อนเด็กสาวจะหย่อนตัวนั่งตรงข้ามเด็กหนุ่ม ดวงตาต่างจับจ้องกันด้วยอารมณ์แตกต่าง อีกฝ่ายแย้มยิ้มเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์อันยั่วเย้า ขณะที่อีกฝ่ายก็ยังคงเรียบนิ่งดุจผิวน้ำ ก่อนเป็นคูฮาคุเปิดปาก "ยังเหม็นสาบเหมือนเดิมนะ"
     

               บิชามอนหัวเราะ ไม่ได้ถืออารมณ์โกรธเคืองเลยสักนิด "ก็เป็นจิ้งจอกนี่ครับ"
     

               "ถ้าหากไม่ติดว่าเป็นเด็กที่ข้าสนใจ"กลิ่นกายหอมอันยั่วยวนล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนในอดีตล้วนตกหลุมพราง เรือนผมยาวสลวยสีดำขลับพร้อมใบหูสามเหลี่ยมที่ขยับตามเสียง ตัดกับผิวกายขาวสว่าง รูปร่างอ้อนแอ้นอรชรแต่งกายด้วยกิโมโนลากยาวประดับประดาด้วยเครื่องประดับสวยหรู เครื่องหน้าที่มักตกบุรุษหรือสาวน้อยนั้นเคลื่อนเข้าใกล้เด็กสาว ดวงตาสีอำพันวาวโรจน์จ้องลึกไปยังดวงตาต่างสี ลมหายใจรดบนใบหน้าก่อนริมฝีปากอวบอิ่มของอีกฝ่ายจะประทับตรงตำแหน่งเดียวกันของคูฮาคุ
     

               ไม่ได้ดูดดื่มแบบในหนังที่เคยเห็น เพียงแตะปากราวกับเป็นการลงโทษเด็กน้อย

     

               "ข้าคงเลือกจะทำให้เจ้าพูดไม่ได้อีกเลย"ว่าจบอีกฝ่ายก็ถอยกลับเมื่อรับรู้ถึงอารมณ์ของเท็งงุที่ยืนเฝ้าระวัง ลมรอบตัวแรงขึ้นดั่งอารมณ์ในอกที่กำลังกรุ่นโกรธ ดวงตาสีอาร์กติกจากชายหนุ่มปรายมองเป็นการย้ำคำเตือน ก่อนค่อยจับใบหน้าเด็กสาวที่เฝ้าดูแลประคองอย่างระมัดระวัง ใช้นิ้วโป้งปาดคราบสีชาดที่ได้มาจากจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์เรียกเสียงหัวเราะจากบิชามอนขณะที่ทามาโมะนั้นยิ้มเย็น

     

               "อย่าไปสนใจเลยคาเสะ มันก็แค่หมาเลียปาก"ประโยคนั้นเรียกรอยยิ้มเล็ก ๆ ของเท็งงุหนุ่มได้ดี ยอมปล่อยมือพร้อมลมรอบข้างที่เริ่มสงบลง ทว่าประโยคนี้กลับสะกิดจนทามาโมะอยากจะกางเล็บกระซวกคนพูดสักที แต่ก็อย่างที่เคยบอก เธอเป็นเด็กที่ทามาโมะสนใจ ไม่เช่นนั้นเล็บคมยาวคงได้ฝังบนร่างตั้งแต่ประโยคแรกที่คูฮาคุเอ่ยทักเสียแล้ว ขณะที่คนชมมองอย่างสนุกสนานก่อนยอมยุติความสนุกยามกระแอมไอส่งเสียง

     

               "พูดแบบนี้ทามาโมะโกรธนะครับ"เขาเอ่ยเป็นพิธีเพราะรู้ดีว่ายังไงจิ้งจอกข้างกายคงไม่อาจทำอะไรได้ ดวงตาสีอำพันยังคงสนุกต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิด "สบายดีนะครับฮาคุจัง"
     

               "ก็ไม่นับว่าลำบาก"
     

               "แต่ก็ลำบากไม่ใช่หรือ ? มาอยู่กับข้าสิ—ข้าจะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี แม้แต่เรื่องอย่างว่าข้าก็พาเจ้าขึ้นสวรรค์ได้นะ"ทามาโมะเอ่ยข้อเสนอชวนให้คาเสะอยากเอาพัดตีหน้าเสียให้เข็ด บิชามอนรู้ดีว่าหากไม่มีเท็งงุตนนั้น จิ้งจอกตัวดีคงเลือกไปอยู่ข้างกายเด็กสาวมากกว่า สนใจกว่าคนที่ทำพันธสัญญาอย่างตนเสียอีก แต่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาเองก็เคยได้ยินทามาโมะพูดว่าคูฮาคุนั้นพิเศษ ไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นจิตวิญญาณ
     

               "จะเก็บไว้พิจารณาตอนเบื่อ ๆ แล้วกันนะ"เท็งงุแทบหักคอมองคนพูด ประโยคแบ่งรับแบ่งสู้นี้ชวนให้จิ้งจอกยิ้มหวานจ้อย ล่อเด็กสาวคนนี้มาตั้งหลายสิบปี ไร้ความคืบหน้าจนชวนเบื่อหน่ายไปบ้างทว่าพอคิดถึงวิญญาณอันหอมหวานข้างในก็ได้แต่กัดฟัน หากไม่ติดว่ามีเท็งงุคอยป้วนเปี้ยน บางทีตัวคูฮาคุอาจอยู่ในท้องจิ้งจอกเก้าหางตั้งแต่เด็กแล้วก็เป็นได้
     

               "เอาไว้ผมจะจัดเตรียมห้องเผื่อไว้สำหรับฮาคุจังแล้วกันนะ"บิชามอนยกยิ้ม หรี่ตามองด้วยสายตาเปี่ยมเสน่ห์ ไม่รู้ว่าเพราะเป็นคู่พันธสัญญากับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หรือเปล่า รูปลักษณ์หรือนิสัยบางส่วนจึงถูกโขกออกมาแบบนี้ "แต่ที่ผมถามน่ะหมายถึงกลิ่นคำสาปต่างหากล่ะครับ"
     

               เด็กสาวยกยิ้ม ไม่ได้กล่าวต่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้น "จมูกดีเหมือนเดิม"
     

               "เพราะเป็นจิ้งจอกนี่ครับ"


     

               เรายิ้มให้กันโดยต่างรู้ความจริงในใจ , เกียวคุโระ บิชามอนอาจพิเศษเพราะดวงตาเหมือนเธอ ทว่าไม่ได้พิเศษเท่าเธอเพราะว่ามีเท็งงุข้างกาย บิชามอนเพิ่งได้พบทามาโมะตอนไปเที่ยวที่ภูเขา เด็กชายที่มองเห็นสิ่งแปลกประหลาดย่อมเป็นเป้าหมายอันหอมหวานเพียงเพราะไม่อาจสามารถป้องกันตัวได้ และในตอนนั้นเขาก็ได้พบจิ้งจอกที่ได้ยินว่ามีเพียงอยู่ในตำนานกลับปรากฏอยู่ตรงหน้า
     

               จะบอกว่าทามาโมะช่วยเด็กชายเพราะความตั้งใจก็ไม่เต็มปาก เขาสนใจดวงวิญญาณในร่างมากกว่าจึงร่างพันธสัญญาขึ้นมา ไม่มีใครรับรู้ว่าข้อแลกเปลี่ยนคืออะไร แม้แต่คูฮาคุเองก็ไม่รับรู้เช่นเดียวกัน มันเกินขอบเขตเธอและทุกคนล้วนมีความลับกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือเขา แม้แต่ตระกูลเกียวคุโระก็ตาม

     

               ทว่าสิ่งเดียวที่คูฮาคุรู้ดีเกี่ยวกับบิชามอนหลังจากนั้น
     

               โลกของเขา—จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


     

               "แล้วฮาคุจังจะค้างคืนรึเปล่าครับ ผมจะได้จัดเตรียมห้องไว้ให้"
     

               "ไม่รู้สิ คงต้องถามพ่อก่อนล่ะมั้ง"คูฮาคุได้ยินเสียงถอนหายใจของเท็งงุที่ยืนอยู่ด้านหลัง คาเสะพอเดาได้ว่าหากนอนค้างคืนเจ้าจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์คงไม่พลาดโอกาสมาหาประเคนตนถึงห้อง ขนาดธุระที่พ่อยกครอบครัวมาที่บ้านใหญ่คูฮาคุยังไม่รู้เลย ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่สำคัญมากพอที่จะกันเธอหรือแม้แต่แม่กับเออิมิให้อยู่วงนอก
     

               "ไม่เห็นต้องสนใจเลย แค่ฮาคุจังบอกคุณอาชิเอโกะผมว่ายังไงคุณอาก็ต้องยอมอยู่แล้วล่ะ"ทามาโมะพยักหน้าอยู่เบื้องหลัง ดวงตาสีอำพันเฉดเดียวกันกับเด็กหนุ่มส่งสายตาเชิญชวนหวังว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลง บิชามอนไม่ได้คาดหวังหรอกว่าเด็กสาวจะตอบตกลงคำเชิญ ถ้าเธอพักสักคืนเขาก็มีเพื่อนคุยเล่นอีกวันก็แค่นั้น
     

               "ก็ไม่ขนาดนั้น ว่าแต่นายรู้รึเปล่าว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน"
     

               เด็กหนุ่มเลิกคิ้วก่อนแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ "อืม—คงเป็นเรื่องของผมล่ะมั้งครับ"
     

               "เรื่องของนาย ?"ประเด็นนี้ลากความสนใจของคูฮาคุกลับมาอยู่ที่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม ดวงตาสีอำพันหยีลงตามรอยยิ้มที่ประดับใบหน้า คล้ายเห็นหูกับหางโผล่มาไม่ต่างจากทามาโมะที่กำลังส่ายพวงหาง เสียงหัวเราะลึกลับลอดจากริมฝีปากอวบอิ่มของชายหนุ่มจิ้งจอก ประหนึ่งเห็นคู่จิ้งจอกที่เข้าขากันได้ดีแม้ว่าจะคนละสปีชีส์ก็ตาม
     

               "มาทำข้อตกลงไหมล่ะครับ"คูฮาคุถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเพราะบิชามอนคลุกคลีกับทามาโมะมานานหรือเปล่า หรือเพราะจิ้งจอกตัวนี้สอนดีเกินไป นิสัยจึงเหมือนถูกถอดแบบมาราวกับหายใจเข้าออกล้วนมีแต่ข้อเสนอที่แสนจะเท่าเทียม หรือข้อตกลงอันหอมหวานที่มีเพียงจิ้งจอกเก้าหางจะเสนอออกมาได้
     

               "คาเสะ ไปสืบให้หน่อย"ถึงจะมีอาการขัดขืนบ้างทว่าจะให้เด็กสาวตอบตกลงก็ดูเหมือนเป็นเหยื่อให้จิ้งจอกสองตัวตะปบเล่นมากกว่า ดังนั้นเท็งงุจึงสลายไปกลายเป็นลม พัดพาไปยังห้องที่คุยธุระกันจนหนึ่งคนหนึ่งตนที่คิดจะเอ่ยข้อเสนอนั้นหัวเราะเสียงแห้งแทน ถึงจะเล่นเล่ห์แค่ไหนอีกฝ่ายก็แค่ตลบหลังคืนด้วยอะไรที่คาดไม่ถึงแทน
     

               "ถ้าแบบนั้นผมบอกเองก็ได้"บิชามอนพ่นลมหายใจ ความอยากแกล้งคนตรงหน้าลดฮวบ "เรื่องโรงเรียนน่ะ เห็นบอกว่าเป็นโรงเรียนในโตเกียว"
     

               "โรงเรียนไสยเวทกรุงโตเกียวล่ะมั้ง ?"


     


     


     


     


     

               Talk with คนแต่ง
     

               สวัสดีอีกครั้งค่ะ ! ตอนนี้เจาะเรื่องประวัติครอบครัวคูฮาคุเพิ่มขึ้น เพราะก่อนรีไรท์ไม่ค่อยได้เจาะครอบครัวน้องเลย ตอนนี้ก็เลยเพิ่มตัวละครมาอีกตัวพร้อมกับจิ้งจอกเก้าหาง บิชามอนกับทามาโมะ ค่อนข้างมีบทบาทพอสมควรเลยค่ะ ;-; สำหรับเราเรื่องปีศาจในตำนานหรือคำสาปค่อนข้างแตกต่างกันอยู่นิดนึงค่ะ 
     

               ปีศาจดำรงได้อยู่ด้วยความเชื่อ หากใครหลายคนยังนับถือก็ยังคงตัวตนอยู่ได้ หากใครนับถือแรงกล้านับว่ามีบุญตาได้เห็น ทว่าหลายอย่างเปลี่ยนแปลง ยุคปัจจุบันค่อนข้างคิดว่าเรื่องพวกนี้ไร้สาระ จนทำให้ความเชื่อเริ่มพังลงตั้งแต่รากฐาน ทำให้ไม่ค่อยมีใครได้เห็นเหมือนสมัยก่อน ปีศาจที่ไม่ได้ถูกจารึกเป็นตำนานหรือนิทานพื้นบ้านเลยค่อย ๆ หายไปค่ะ ส่วนเท็งงุกับจิ้งจอกเก้าหางที่ถูกเล่าขานจนเป็นตำนานทำให้ใครหลายคนยังพอมีความเชื่ออยู่ แม้ว่าจะน้อยนิดแต่ก็ถือว่ายังมี แตกต่างจากคำสาปที่เกิดจากอารมณ์ของมนุษย์

     

               ทั้งนี้ทั้งนั้นล้วนเป็นความคิดของเราค่ะที่เอามาแต่งนิยาย ถือว่าเป็นจินตนาการแล้วกันนะคะ

               แอคงาน (@hourizuha)


              ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ♡´・ᴗ・`♡

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×