ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : 14 - เป้าหมายใหม่
Jujutsu Kaisen fiction - คนสวยขา
- megumi x oc
"กำเนิดจากความมืด ยิ่งกว่าอนธการ จงชำระความไม่บริสุทธิ์"ดั่งมนตร์ร่ายยามสิ้นประโยค เหนือผืนดินถูกอาบย้อมด้วยม่านสีดำเตรียมเปิดการแสดง ผู้ร่ายมนตร์เผยรอยยิ้ม เรือนผมสีครามหม่นปลิวไสวตามการเคลื่อนไหวของชายหนุ่ม แววตากำลังสั่นระริกด้วยความปรีดา พอนึกถึงเหตุการณ์ที่กำลังปะทุในอีกไม่ช้า มาฮิโตะก็สั่นไหวด้วยความยินดี
"ขอโทษนะมาฮิโตะ ฉันจะทิ้งสิ่งตกค้างไว้ไม่ได้"ดวงตาปรายมองอาคารเรียนที่ตกอยู่ในม่าน "อีกเดี๋ยวหน้าต่างคงจะรายงานแล้ว หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่นายต้องการนะ"
"น่าจะไม่มีปัญหาหรอกนะ—วินาทีที่จุนเปพบกับภาชนะของสุคุนะ โชคก็เข้าข้างเรา"แผนที่เริ่มประกอบเป็นรูปเป็นร่างด้วยน้ำมือของตัวเอง มาฮิโตะยิ้มกริ่ม "บีบให้อิตาโดริ ยูจิสร้างข้อผูกมัดที่จะทำให้สุคุนะเหนือกว่า"
"อื้ม—ถึงช่วงนี้วิญญาณของจุนเปจะแปลกไปหน่อยก็เถอะ"
"เป็นเรื่องไม่ดีรึเปล่า"
"ไม่ กลับกันฉันรู้สึกมันน่าสนใจกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกอีก"
การสวมบทบาทใครสักคน อย่างแรกที่ควรทำคือการเข้าถึงแก่นนิสัย ตีแผ่ด้วยอารมณ์ที่ไม่สามารถจับต้อง ถ่ายทอดผ่านสีหน้าที่คูฮาคุคงไม่อาจทำได้ ด้วยใบหน้ากล้ามเนื้อที่ตายด้าน หรือต่อให้ฝืนออกมาก็เห็นทีคงจะได้แก้วเปล่าที่ไร้อารมณ์เจือปน อย่างที่สองก็คงบุคลิกที่ดูอย่างไรสิ่งที่เธอและโยชิโนะดูคล้ายกันมากที่สุดก็คงเป็นคนที่เก็บตัวกระมัง
นอกเหนือสิ่งสามัญทั้งหลายที่นั่งสังเกต คูฮาคุกับโยชิโนะนั้นต่างกันฟ้ากับเหว , แม้จะเป็นคนเก็บตัวที่คล้ายคลึงกัน แต่โยชิโนะแสดงออกมากกว่า ไม่ว่าแววตาหรือกลิ่นอายที่คลั่งแค้น มันจึงเป็นภาพแปลกตาทีเดียวที่เห็นร่างเด็กหนุ่มเรือนผมสีดำสนิทเดินดุ่ม ๆ เข้ามาในหอประชุมไร้สุ้มเสียง ยามสบสายตาไม่มีแววตาเกลียดชัง บรรยากาศรอบตัวสงบเงียบจนดูผิดปกติ
ดูสงบเกินไป
ราวกับคลื่นทะเลที่รอซัดเข้าฝั่ง
ทุกอย่างวุ่นวายกันไปหมดเมื่อทุกร่างในหอประชุมไร้สติ ล้มพับลงไปราวกับหุ่นเชิดที่ถูกตัดเส้นด้าย เหลือเพียงชายวัยกลางคนที่ยังคงสับสนและเป็นคนเดียวที่เคยยืนอยู่หน้าบ้านโยชิโนะ เด็กสาวในคราบเด็กหนุ่มเลือกที่จะเมินผ่านแทนการตอบคำถามที่พ่นออกมาไม่หยุดจากปากอาจารย์ สาวเท้าตรงไปยังเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลางเวที
ถึงจะไม่รู้ว่าชื่ออะไร แต่จากการฟังสถานการณ์ที่โยชิโนะเคยเล่า คนตรงหน้าคงเป็นหนึ่งในกลุ่มที่รวมหัวกันกลั่นแกล้งเด็กหนุ่มก็เป็นได้ เผลอ ๆ อาจจะต้องเรียกว่าหัวโจกมากกว่า ดวงตาตายด้านสะท้อนออกมาชวนให้คนโดนจับจ้องรู้สึกหนาวสันหลัง ก่อนจะตกใจเมื่อก้มมองเห็นรอยพิษสีม่วงโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
มันเป็นคำสั่งของโยชิโนะ
เหลือบมองแมงกระพรุนที่ทำหน้าที่ตามคำสั่งของโยชิโนะที่คอยอยู่ด้านนอก อย่างที่เคยรู้ว่าเด็กสาวตระกูลเกียวคุโระนั้นไร้พลังไสยเวท แม้แต่วิชาคุณไสยก็ยังไม่มีให้ไว้ช่วยตัวเอง อีกอย่างตัวตนตอนนี้คือโยชิโนะ ดังนั้นวิชาคุณไสยก็จำเป็นต้องเป็นของเจ้าตัวเช่นเดียวกัน ถึงจะควบคุมจากระยะไกลได้ลำบาก แต่เพื่อตามแผนการแล้วเขาก็จำเป็นต้องทำ
แม้ว่าการทำให้ใครสักคนตายจะไม่ได้อยู่ในแผนเธอก็เถอะ—คูฮาคุเปรยมอง เมินข้ามเสียงขอความช่วยเหลือ นั่นคือการกระทำของโยชิโนะ ความต้องการที่กักเก็บมานานแล้วต้องการจะระบายออก เธอไม่คิดจะขัดขวางตราบใดที่ยังไม่ออกนอกแผน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบนออกขณะเดียวกันบานประตูที่เคยปิดแน่นก็ถูกเปิดออก
แสงสว่างเจิดจ้ากลืนกินความวังเวง ณ ที่แห่งนี้
พร้อมกับร่างอิตาโดริ
"ทำอะไรน่ะ จุนเป—!!!"
แม้สุดท้ายแล้ว , แสงสว่างจะมาไม่ถึงจุดที่เธอยืนอยู่ก็ตาม
อิตาโดริ ยูจิ เคยเป็นเด็กหนุ่มธรรมดา , อย่างน้อยก็เคยเรียกได้เต็มปากว่าเคยใช้ชีวิตดั่งคนปกติจนกระทั่งเข้ามาในโลกโสมมแบบนี้ เขาไม่เคยเห็นคนตายนอกจากปู่ที่ตายไปอย่างสงบ ทว่าเมื่ออยู่ในโลกไสยเวทที่มีการสูญเสียทุกวินาทีมันจึงเป็นเรื่องที่ควรชิน กระนั้นพื้นที่สีขาวสะอาดในจิตใจของเด็กหนุ่มก็ยังคงเหลืออยู่
อิตาโดริเป็นเด็กดีเกินไป
เด็กดีขนาดที่ว่าต่อให้ตัวเองตกนรกทั้งเป็น ก็จะไม่ยอมให้คนที่ตัวเองรู้จักมือเปื้อนเลือดเด็ดขาด ต่อให้ตัวเองไม่เข้าใจแค่ไหนแต่ก็ยังทำตาม เพราะงั้นในบางแง่มุมสำหรับตัวเท็งงุเขาอาจจะชื่นชอบในความเป็นเด็กดีของอิตาโดริ แต่มันก็เท่านั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้านายที่แท้จริง ผู้มอบชื่อ ไออุ่นและที่อยู่อาศัยให้อย่างเธอ
ดังนั้นเมื่อเปิดฉากการต่อสู้ คาเสะจึงทำได้เพียงกำหมัดจนเส้นเลือดปูดเพื่อไม่ให้เผลอทำตัวผิดแผนอย่างการซัดเจ้าเด็กที่เป็นภาชนะของสุคุนะให้สลบไปซะเมื่อเจ้าตัวเล่นไล่ตามเธอ ส่วนเท็งงุในคราบเด็กสาวทำเพียงแกล้งไล่ตามไม่ให้ดูน่าสงสัย แค่ไม่ให้อิตาโดริสงสัยก็ทำเพียงส่งลมพัดไปทางคูฮาคุ แม้ว่ามันจะเป็นการช่วยส่งพัดให้เธอไปไกลกว่าเดิมก็เถอะ
ต้องขอบคุณที่โยชิโนะตัวจริงคอยควบคุมแมงกระพรุนปกป้องคูฮาคุไว้อย่างดี รอยขีดข่วนจึงยังไม่มีบนผิวขาวนั้นให้คาเสะกังวลใจ แต่ก็ไม่อาจวางใจกับพละกำลังรวมถึงไสยเวทในตัวเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยปกติเท่าไร , คาเสะกระโดดถอยหลังเมื่อแมงกระพรุนจับตัวอิตาโดริไว้ อยากปรบมือให้อยู่หรอกหากไม่ติดว่าเขากำลังอยู่ในคราบเด็กสาว แต่คาเสะก็ไม่คิดจะช่วย เพราะอย่างไรสุดท้ายอิตาโดริก็จะออกมาได้แบบไร้รอยแผล
กระทั่งมันเกิดเสียง—เพล้ง
กระจกแตกละเอียดกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยร่วงกราวลงมาเฉกเช่นร่างของเด็กหนุ่มโยชิโนะตัวปลอม คาเสะเห็นดวงตาเบิกกว้างแสดงอาการตื่นตระหนก ดวงตาสีอาร์กติกเบือนมองแผ่นหลังอิตาโดริที่กำลังกระโดดลงไป ไอสังหารที่เผลอปล่อยออกมาทำให้เด็กหนุ่มหันมามองแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักเมื่อเป้าหมายกำลังร่วงตกลงไป ขณะที่คาเสะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปกระชากภาชนะหน้าโง่ของสุคุนะ
เขาขยับมือบังคับสายลมให้เกาะกลุ่มเป็นก้อนเตรียมรองรับร่างที่กำลังตกลงมา ทำได้เพียงแค่บรรเทาเท่านั้น ทว่ายังไม่ทันกระโดดตามลงไป เสียงเพล้งครั้งที่สองก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของโยชิโนะตัวปลอมถูกต่อยขึ้นมา ตามด้วยอิตาโดริที่กระโดดขึ้นมา ชายหนุ่มกัดฟัน ในใจคิดอยากบดร่างเด็กหนุ่มนั่นสักพันครั้งให้สมกับความเจ็บจากหมัดที่ซัดเข้าหน้าของคูฮาคุที่ปลอมตัวอยู่
"ฉันไม่รู้ว่าแรงจูงใจของจุนเปคืออะไร คงจะมีเหตุผลสักอย่างสินะ"คูฮาคุกุมแก้ม แม้จะเคยชินกับการต่อสู้ของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่เคยโดนแบบจัดเต็มแบบนี้สักครั้ง เงยมองเจ้าตัวที่ทำเธอเจ็บยังคงพูด "แต่นั่นน่ะ —คุ้มค่ากับการเสียสละชีวิตแบบนั้นไปจริง ๆ หรอ"
"พูดอะไรสักอย่างสิ จุนเป"
เธอถุยน้ำลาย ไม่ยอมตอบกลับสักประโยค
คิดว่าเธอจะปลอมเสียงเหมือนงั้นเหรอ หวังสูงเกินไปแล้ว เพราะมนตร์ที่ใช้ไม่เหมือนของจิ้งจอกเก้าหาง การปลอมรูปร่างให้เหมือนจึงสุดความสามารถของเท็งงุ เสียงของเธอจึงเหมือนเดิมอยู่ อีกอย่างคูฮาคุไม่ใช่นักแสดงตามหน้าทีวีที่ตีบทแตก พูดอะไรออกไปคงไม่ต่างหุ่นยนตร์ที่ส่งเสียงไร้อารมณ์นัก นั่นยิ่งทำให้ผิดสังเกตยิ่งกว่าอีก
เพราะอย่างนั้น เธอทำได้แค่รอเท่านั้น
รอเหยื่อที่คิดว่าเป็นนักล่าให้ตกบ่วงสู่แผนที่ตัวเองวางไว้อย่างดิบดี
"ยินดีที่ได้รู้จัก—ภาชนะของสุคุนะ"
♡´・ᴗ・`♡
ใบหน้าที่มีรอยเย็บตัดขวาง เรือนผมสีฟ้าหม่นหมองดั่งผืนฟ้ายามเมฆครึ้ม เป็นครั้งแรกที่คูฮาคุได้เจอตัวจริงของคำสาปที่อยู่เบื้องหลังของคดีนี้ เสียงตะโกนจากอิตาโดริที่เรียกให้ตะโกนหนีพร้อมเรียกชื่อคูฮาคุ (คาเสะ) ให้ช่วยเหลือ เสียงรองเท้าดังกระทบกันจนเกิดเสียงยามร่างตรงหน้าลงบันไดทีละก้าว ดวงตาสองสีจดจ้องมายังร่างที่ยังคงนิ่งเฉย ฝ่ามือหนาเตรียมวางบนไหล่
แม้นสุดท้ายจะถูกปัดป้องโดยใครสักคน
ยูจิมองอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเด็กสาวที่คอยยืนมองอยู่เฉย ๆ ตอนแรกเริ่มขยับตัว เร็วมากพอที่จะปัดมือข้างที่กำลังวางบนไหล่จุนเปทิ้ง ขณะที่มาฮิโตะมองอย่างสนใจเมื่อเห็นร่างเด็กสาว แต่ถึงจะปัดมือทิ้งไปเขาก็เปลี่ยนแขนข้างนั้นให้คดเคี้ยวราวกับงู พุ่งฉกไปทางเด็กหนุ่มเช่นเดิม ยูจิตะโกนบอกทันทีเพื่อให้เธอระวัง ทว่าวินาทีต่อมาก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อร่างเด็กสาวที่ควรอยู่กลับสลายกลายเป็นสายลม เช่นเดียวกับร่างของโยชิโนะ จุนเปที่กลับกลายเป็นเกียวคุโระ คูฮาคุอีกครั้ง
มาฮิโตะขมวดคิ้ว ตัวแปรใหม่ที่ดูพิเศษโผล่เข้ามา เขาคิดจะกระโดดถอยหลังแต่ก็ไม่ทันเมื่อเด็กสาวเงยหน้า ดวงตาสีอาร์กติกที่เคยว่างเปล่าเริ่มแตกต่างจากที่ยูจิเคยสัมผัส มันดูโหมกระหน่ำราวกับพายุที่กำลังโกรธเกรี้ยวแล้วหาที่ลงไม่ได้ มือเล็กที่ไม่คิดว่าจะสามารถฆ่าใครตายได้พุ่งมาบีบลำคอชายหนุ่มคำสาปทันที
และจับทุ่มลงจนพื้นแตกกระจาย
"เจ้าคิดจะสัมผัสนางหรือ ?"
"ฮาคุ ไม่สิ เมื่อกี้จุนเปก็ยัง—"ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคตามความคิดก็ต้องหุบปากลงเมื่ออีกฝ่ายง้างเท้าไปด้านหลังก่อนจะเตะไปอย่างเต็มแรงอย่างไม่คิดจะออมมือ กวาดทุกขั้นบันไดจนพังทลาย ยิ่งดวงตาอาร์กติกปรายตามองมาทางเขา แววตาบ้าคลั่งนั้นยังคงอยู่ และดูโหมกระหน่ำกว่าเดิมเมื่อนึกถึงตอนที่ใบหน้าของเด็กสาวเคยโดนอิตาโดริต่อย
"จะยืนโง่ไปอีกนานแค่ไหนเจ้ามนุษย์"เสียงกดต่ำดังลอดออกมา ประกายแวววาวบนดวงตาเชือดเฉือน "ข้าจะคิดบัญชีเจ้าทีหลังแน่"
"เธอเองก็เป็นภาชนะเหมือนกันงั้นเหรอ"ดวงตาสองสีเปล่งประกาย เมื่อคิดทบทวนเหตุการณ์เมื่อครู่และเลือดสีแดงสดที่ไหลออกจากร่างกายเป็นพยานก็ยิ่งทำให้น้ำเสียงของเขาทวีความตื่นเต้นกว่าเก่า "น่าสนใจจังแหะ"
ในใจกู่ร้องทันที , ต้องเอากลับไปด้วย
คาเสะสะบัดมือ หอบลมใหญ่ปั่นป่วนหมุนไปทางมาฮิโตะทันที แม้จะโดนแต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายเท่าตอนจับทุ่มหรือตอนเตะแบบเมื่อครู่ กลับกันตอนอิตาโดริสวนหมัดต่อยยังเรียกเลือดได้มากกว่า เพราะงั้นการโจมตีภายนอกดูจะเป็นไปได้ยาก เมื่อมันสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ตลอดเวลา การโจมตีที่ได้ผลสุดก็คงต้องแตะร่างกายหรือไม่ก็อัดกระหน่ำแบบอิตาโดริอย่างเดียว
ซึ่งเขาเลือกที่จะไม่เสี่ยง
ร่างกายคำสาปตัวนั้นสามารถปรับเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ จะเป็นหนามแหลมคมไว้คอยทิ่มแทง หรือลูกตุ้มที่ไว้คอยบดขยี้ศัตรูก็ย่อมได้ เขาไม่ยอมเข้าใกล้ให้เอาร่างกายอันล้ำค่านี้ไปเสี่ยง ขณะเดียวกันคาเสะก็ไม่คิดจะช่วยเหลือเด็กมนุษย์ที่ตะบันหน้าจนแก้มคูฮาคุเป็นรอยและเริ่มบวมเช่นนี้หรอก มันคือการแก้แค้นที่เท็งงุสามารถทำได้ทุกเวลาและไม่เกี่ยงเลยว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายถึงตายได้
เพราะเลือดที่หยดลงบนผืนดินไม่ใช่ของเธอ
"ช่วยกันหน่อยสิฮาคุ !"
"เหตุใดจะต้องช่วยเล่า"รอยยิ้มเกียจคร้านวาดบนใบหน้า เหมือนเยาะเย้ยต่อคำพูดอันเมื่อครู่ แววตาสุขสันเมื่อเห็นเลือดที่ไหลออกจากร่างเด็กหนุ่ม "ข้ากำลังล้างแค้นอยู่ แล้วเรื่องอันใดที่ข้าต้องช่วยคนที่ข้ากำลังล้างแค้นอยู่"
"เอาไว้ล้างแค้นฉันทีหลังก็ได้น่า !"
"การล้างแค้นไม่รอเวลาหรอกนะเจ้าหนู"พัดขนนกถูกกรีดบดบังใบหน้าส่วนล่าง เหลือเพียงดวงตาสีอาร์กติกเย็นยะเยือกทอประกาย "ไม่ลองคิดล่ะว่าหากคูฮาคุไม่สับเปลี่ยน โยชิโนะ จุนเป เพื่อนรักของเจ้าจะเป็นอย่างไร"
แน่นอนว่าสามารถตอบได้อย่างง่ายดาย
"ความสัมพันธ์น่ารักกันดีนะ"มาฮิโตะหัวเราะ เปลี่ยนมือเป็นเครื่องมือแหลมคมพุ่งเข้าหาอิตาโดริทันที แม้บางส่วนจะข้องแวะโจมตีเด็กสาว แต่คาเสะปัดป้องจนหมด พลางสวนกลับด้วยพายุขนาดเล็กให้ตัวมาฮิโตะปลิวไปอีกฟากราวกับมันคือคำเตือนหากยังเล่นงานเธออีก ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มพุ่งเข้าหาพร้อมต่อยอย่างไม่ยั้งมือ
มองการต่อสู้ที่เริ่มเละเทะ อาคารเรียนเริ่มยุบ พังลงมาเมื่อถูกอิตาโดริเหวี่ยงคำสาปไปมา เช่นเดียวกับคำสาปตัวนั้นที่เปลี่ยนรูปร่างเพื่อบดขยี้ภาชนะสุคุนะ แต่ก็เหมือนจะทำลายทัศนียภาพรอบข้างมากกว่า , คาเสะสะบัดเรือนผม แววตาเรียบนิ่งแม้ตอนนี้อิตาโดริกำลังเสียเปรียบ ต่อให้ตรงหน้าอีกฝ่ายจะลงมือฆ่าเด็กหนุ่มเรือนผมสีชมพูนมไปได้ เท็งงุก็ไม่คิดจะยอมขยับกายเด็ดขาด
เพราะอย่างไร ใครสักคนก็จะช่วยเจ้าเด็กหน้าโง่นั่นเอง
เหมือนอย่างตอนนี้ ใครสักคนที่ว่ากำลังปัดป้องการโจมตีนั้นอยู่ไงเล่า เรือนผมสีบลอนด์ทองปลิวไสว ใบหน้าเสี้ยวลูกครึ่งนั้นผินมองมาทางเด็กสาวที่นอกจากรอยช้ำตรงหน้าก็ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บอื่นเลย แตกต่างจากเด็กหนุ่มด้านข้างเขาที่เลือดไหลแถมตัวเป็นรูพรุน นานามิเคยได้ยินเรื่องของเด็กสาวมาบ้าง รวมถึงอีกตัวตนที่เขาไม่คิดจะเชื่อ แต่ตอนนี้คงจะบอกว่าไม่เชื่อก็คงไม่ได้
แต่ก็ไม่คิดว่าจะเหมือนกันขนาดนี้
สุดท้ายก็ไม่อาจปัดเป่าได้สำเร็จ , ร่างกายของอิตาโดริถึงขีดจำกัดแล้ว เมื่อมองกองปริมาณเลือดที่ไหลออกมาจากร่างก็คงต้องบอกว่าอึดจริง ๆ ที่สามารถไล่ฟัดกับคำสาปตัวนั้นได้จนมันยอมหลบหนีไปแทน ดวงตาสีอาร์กติกเบือนมองชายหนุ่มที่แบกอิตาโดริที่หมดสติแล้ว รอคอยอิจิจิที่กำลังขับรถมารับ
คาเสะยังไม่คืนการควบคุมให้กับคูฮาคุ เขาคิดว่าการที่เธอไม่ต้องมาทนสภาพความเจ็บปวดนั้นยังจะดีกว่า รอรักษาเสร็จแล้วค่อยคืนร่างก็ยังไม่สาย แม้จะต้องทนสายตาจากคนด้านข้างที่ยังก้มมองก็เถอะ เท็งงุพ่นลมหายใจ อากัปกิริยาแตกต่างนิดหน่อยในด้านการแสดงออกจนทำให้นานามิพอรับรู้ความแตกต่างระหว่างเธอกับเขาได้อย่างชัดเจน
ดูเหมือน เกียวคุโระ คูฮาคุ ยังไม่กลับมา
"ทำไมไม่ช่วยอิตาโดริครับ ?"
"ข้าไม่เมตตากับคนที่ทำร่างกายนางเจ็บหรอกนะ"น้ำเสียงนุ่มดูทุ้มต่ำกว่าเดิม นานามิเลิกคิ้วพลันสังเกตเห็นรอยช้ำตรงแก้มเหมือนมาจากการต่อย ในสถานการณ์นี้คนที่ต่อยเจ็บสุดก็คงเป็นอิตาโดริ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กหนุ่มต่อยเพื่อนร่วมทีม แต่เขาไม่คิดจะถามเพิ่มอะไรนอกจากเลือกประเด็นอื่นแทน
"รอยตรงคอคำสาปนั่น คุณเป็นคนทำเองเหรอครับ"
คาเสะเปล่งเสียงหัวเราะเมื่อนึกถึง "แน่นอน รวมถึงรอยตรงท้องนั่นข้าก็เป็นคนทำ"
"ดูเหมือนคุณกับอิตาโดริจะสามารถทำให้มันบาดเจ็บได้"
"เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเพราะอะไร"พัดขนนกถูกหุบลงเมื่อรถคันสีดำเข้ามาจอด คาเสะเลือกที่จะตัดบทสนทนาด้วยการเดินขึ้นรถก่อน ดูไร้มารยาทนักแต่เท็งงุไม่คิดจะสนใจอะไร ปล่อยให้อิจิจิเข้าไปช่วยเหลือนานามิที่แบกอิตาโดริคนเดียว เขาปรายตามองโยชิโนะที่อยู่ในรถเช่นเดียวกันกำลังนั่งตัวเกร็งเมื่อสัมผัสได้ว่าคนที่นั่งข้างตนนั้นเป็นใครอีกคน
คาเสะหลับตา เผลอนึกถึงคำพูดของไดเท็งงุไม่รู้ตัว
บางที—ไดเท็งงุอาจจะพูดถูกก็ได้
Talk with คนแต่ง
แหะ จริง ๆ แล้วตอนนี้ต้องลงตั้งแต่เดือนมกราแล้วค่ะ (หัวเราะ) เราคิดจะลงตอนวันเกิดเราแต่ว่าช่วงนั้นโรงเรียนประกาศให้ไปออนไซต์ เตรียมตัววุ่นวายมากแต่สุดท้ายก็ออนไลน์ (หัวเราะเยาะแม่ง) อีกอย่างที่อาจจะอ่านแล้วก็เหมือนเดิมก็คือ งานเยอะมากค่ะ เคลียร์งานต่ออาทิตย์ไม่ให้งานค้างก็ยังเยอะจนอยากลาออก ไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่าอาทิตย์หน้าสอบทุกวันเลย ;-; และจะบอกว่าถ้ารอปิดเทอมคือนานมากจริง ๆ กลางเดือนมีนาเลยค่ะ
จริง ๆ เดือนนี้เราควรได้ปิดเทอมแล้วแหละ แต่ก็รร. (อีกแล้ว) ที่เลื่อนปิดเทอมเพราะต้องการเปิดออนไซต์ ทำให้เรายังต้องวนลูปนรกต่อ พิมพ์แล้วก็อยากปาดน้ำตา
ส่วนตอนนี้ก็คือ ฮูเร่ จุนเปรอดค่ะ เรื่องนี้คือพยายามเขียนให้เซฟทุกคนเท่าที่เป็นไปได้ (ฮือ) ที่คาเสะเลือกไม่ช่วยยูจิเพราะว่ายูจิต่อยฮาคุก่อน ถึงแม้จะดูว่าเป็นจุนเป แต่คนที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วภายใต้หน้าตาของจุนเปคือฮาคุก็คือคาเสะค่ะ ส่วนที่ว่าทำไมไม่บอกยูจิก่อนก็เพราะกลัวเสียแผนค่ะ ไม่หลอกเพื่อนร่วมทีมก่อนจะหลอกคนอื่นได้ไง ส่วนสุดท้ายที่บอกว่าไดเท็งงุอาจจะพูดถูกคือ ฮาคุอาจจะโดนปัดเป่าก็ได้ถ้ายังอยู่ในโลกฝั่งนี้
ดูจากการที่คาเสะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเท่าไร เพราะกลัวน้องตุ้บจริง + โดนปัดเป่า + เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก จะหวงจะห่วงก็ไม่แปลก แสนดีจังค่ะปะป๋าเท็งงุ
ท้อคยาวมาก แต่เราเหงา ฮือ จะแต่งนิยายก็เขียนไม่ออกเพราะเครียดงาน แถมสมองก็ดันไปผุดพล็อตคิเมทสึอีก ให้ตายสิตัวชั้น
ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ♡´・ᴗ・`♡
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น