ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 11 - ข้อสงสัย
Jujutsu Kaisen fiction - คนสวยขา
- megumi x oc
เหนื่อยมาก
สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย การโดนจับออกมาให้ยืดแขนยืดขาหรือการออกแรงเพียงแค่ไม่กี่นาที คูฮาคุก็แทบอยากจะเบ้หน้าใส่อาจารย์ผมขาวที่ยิ้มสนุกสนาน บางทีถ้าเป็นไปได้โกโจอาจจะได้ยินเสียงกรีดร้องจากเด็กสาวก็ได้ แต่นั่นอาจจะเป็นอย่างสุดท้ายที่เธอคงทำหากเขายังไม่ปล่อยให้พักในเวลานี้
มุมปากชายหนุ่มเรือนผมสีขาวยกยิ้มน่าหมั่นไส้เมื่อเห็นสภาพอเนถอนาถของเด็กสาว ใจคิดอยากจะแกล้งต่ออีกสักหน่อยทว่าเมื่อดูสีหน้าและแววตาที่จ้องเขม็งมาทุกวินาที หากสายตาคูฮาคุสามารถเปลี่ยนเป็นเลเซอร์ได้ หัวของโกโจคงไม่อยู่รอดถึงตอนนี้ สุดท้ายก็ได้แต่จำยอมต่อสภาพอันแสนน่าสงสาร เมียงมองเด็กสาวที่นอนหอบอย่างหมดสภาพด้วยความตลกขบขัน
"พักสิบห้านาทีแล้วกันเนอะ"
"สามสิบ"
"ยี่สิบ—ขาดตัวห้ามต่อรองเพิ่มนะครับ"ดวงตาสีอาร์กติกของเด็กสาวแอบกรอกวนเมื่อได้ยินคำขาดจากคนสอน เมื่อได้พักอย่างใจอยากเขาก็เห็นเธอนอนนิ่ง ๆ ไม่แม้แต่จะขยับอะไรเลยสักนิดเดียว เห็นดังนั้นโกโจจึงหย่อนตัวนั่งด้านข้าง พลางเอ่ยคำถามที่อยากรู้ "ฮาคุจังเห็นคาเสะมาตั้งแต่ตอนไหนงั้นเหรอ ?"
คนโดนถามขมวดคิ้ว เหล่ตามองด้วยสายตาเฉยชา "ตั้งแต่เด็ก"
"รวมถึงคำสาปด้วย ?"
"ก็คงงั้น"คูฮาคุไม่อาจให้คำตอบที่แน่ชัดได้กับคำตอบพวกนี้—ความทรงจำสมัยเด็กใช่ว่าจะจดจำได้แม่นขนาดนั้น มีเพียงแค่ความรู้สึกเบาบางที่เคยกดย้ำว่ารู้จักกันมาเนิ่นนานแล้ว ส่วนคำสาปพวกนั้นรู้ตัวอีกทีก็มองเห็นเสียได้โดยไม่รู้ว่าเป็นตอนไหน มองจากภายนอกแล้วชีวิตของเด็กสาวช่างไม่แน่นอนเสียนี่กระไร
"ก็คงงั้น"คูฮาคุไม่อาจให้คำตอบที่แน่ชัดได้กับคำตอบพวกนี้—ความทรงจำสมัยเด็กใช่ว่าจะจดจำได้แม่นขนาดนั้น มีเพียงแค่ความรู้สึกเบาบางที่เคยกดย้ำว่ารู้จักกันมาเนิ่นนานแล้ว ส่วนคำสาปพวกนั้นรู้ตัวอีกทีก็มองเห็นเสียได้โดยไม่รู้ว่าเป็นตอนไหน มองจากภายนอกแล้วชีวิตของเด็กสาวช่างไม่แน่นอนเสียนี่กระไร
หรือบางทีเพราะเธอไม่อยากจดจำกันแน่นะ ?
"ผมเองก็ไม่อยากจะละลาบละล้วงหรอกนะแต่ก็อดอยากรู้ไม่ได้น่ะ"คำพูดดูวกวนแต่ก็มีเพียงความหมายเดียว ชายหนุ่มเท้าคาง แย้มริมฝีปากเอ่ยเชื่องช้า "ทำไมผมถึงได้กลิ่นคำสาปจากเธอกันนะ ?"
มันดูเป็นข้อสงสัยที่บ้ามากสำหรับเขา
"ไม่รู้สิ"
แต่กับเธอ ราวกับมันเป็นเพียงเรื่องปกติ
เกียวคุโระ คูฮาคุ , ในมุมมองของตัวเองยอมบอกเสมอว่าเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่ไม่ได้วิเศษวิโส เป็นเพียงคนเฉยเมยที่ไร้เพื่อนคบ ทว่าสำหรับคนภายนอกล้วนมองว่าเธอแปลกประหลาด โกโจก็เช่นเดียวกัน ในคราแรกที่พบหน้ากลิ่นของคำสาปยังคงไม่ชัดเท่าตอนนี้ เขาเพียงนึกว่าแถวบ้านเธอคงมีคำสาปป้วนเปี้ยนอยู่เท่านั้น ทว่าในวันนี้ทุกอย่างเริ่มเด่นชัด ความคิดในตอนแรกของเขาล้วนผิดถนัดเมื่อแท้จริงแล้วกลิ่นคำสาปล้วนมาจากตัวเด็กสาวเอง
แต่เธอไม่เหมือนคำสาป , นั่นคือสิ่งที่เขาสงสัย
พยายามคิดว่าอาจเพราะคูฮาคุเป็นร่างทรง กลิ่นคำสาปอาจจะมาจากการปนเปื้อนตอนทรงร่าง—แต่นั่นก็เหมือนกับการหลอกตัวเอง เขารู้ว่าอย่างไรแค่คำสาปรอบตัวก็ไม่มีทางโผล่มาให้เด็กสาวเห็นตราบใดที่เท็งงุตนนั้นยังคงอยู่เคียงข้าง การทรงร่างเด็กสาวก็ดูเป็นเพียงฝันหวานเท่านั้น ดังนั้นเพราะอะไร กลิ่นคำสาปจึงติดตัวเด็กสาวแน่นเสียขนาดนี้
และต่อให้โกโจครุ่นคิดมากเพียงใด
ก็ไร้ซึ่งคำตอบที่ต้องการ
"เจ้าซ้อมเสร็จแล้วหรือ"เสียงนุ่มทุ้มของคนคุ้นเคยทำให้เด็กสาวเปิดตามองอย่างเชื่องช้า ใบหน้าขาวซีดของเท็งงุกับดวงตาสีอาร์กติกที่สะท้อนกันและกัน คาเสะขมวดคิ้วสีหน้าดูไม่ได้ ตวัดตามองใส่อาจารย์ผมขาวที่เพิ่งผิวปากเดินออกจากห้องหลังจากฝึกซ้อมเสร็จเรียบร้อย ก่อนหันกลับมามองสภาพอนาถของเด็กสาวที่นอนแผ่หอบหายใจดูเวทนา
"ไม่คิดจะตอบข้าหน่อยเหรอ"เขาหย่อนตัวนั่งลงด้านข้างเด็กสาว ปีกสีดำใหญ่เทอะทะเคลื่อนมาด้านหน้า ปลายขนนกคลอเคลียใบหน้าหยอกล้อเด็กสาว หัวคิ้วเด็กสาวกดลงอย่างไม่ชอบใจ ทว่าสภาพตัวเองก็ใช่ว่าจะดีนัก แค่จะเค้นเสียงตอบคาเสะ คูฮาคุยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผลจากการฝึกซ้อมนั้นน่าปวดหัวเหลือเกิน
"มือ"ดวงตาสีอาร์กติกหรี่ลง ยอมยื่นมือตัวเองไปทางด้านหน้าให้เด็กสาวได้กอบกุม ก่อนจะถูกให้กางมือออกโดยเด็กสาว ปลายนิ้วคูฮาคุจรดลงกลางฝ่ามือเขียนขึ้นเป็นอักษรได้คำว่า เหนื่อย สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่เขาเข้าใจถึงความลำบากของเธอที่ต้องเผชิญ แม้แต่เขาที่มองก็อยากจะหักขายาว ๆ ของคนสอนนั่นทีนึงด้วยซ้ำ
"วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง"
'คำสาป—เขาพูดถึงคำสาป'
"คนนั้นหรือ ?"น้ำเสียงกดต่ำลงยามมองตัวอักษรที่ถูกเขียนขึ้นด้วยปลายนิ้วของเด็กสาว ดวงตามืดบอดลงชั่วขณะเมื่ออ่านมันเข้าใจ เขาอาจจะระแคะระคายมากขึ้นนั่นคือสิ่งที่ยุ่งยากเมื่อเธอก้าวเข้ามาสู่โลกฝั่งนี้ คาเสะรู้ว่าเมื่อตั้งแต่ตอนที่เธอได้พบตัวตนนั้นที่อยู่ด้านใน ความลับก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป บางสิ่งก็ย่อมเผยออกทีละนิด
และเธอเป็นคนฉลาด
"บางทีคงต้องให้โมโมะช่วยแล้วกระมัง"ชื่อที่เคยตั้งถูกเปรยออกมาจนคูฮาคุเบ้หน้าเมื่อได้ยิน แต่ถ้าหากให้พูดแล้วตอนนี้เกรงว่าจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายจริง ๆ เห็นสีหน้ายับยู่แล้วชายหนุ่มจึงหัวเราะ ใช้ปลายปีกจิ้มกลางหน้าผาก ฝ่ามือหนากอบกุมมือเธอไว้ เป็นเพียงไออุ่นเดียวที่เธอได้รับ
ดวงตาสีอาร์กติกทอประกาย หลุบมองฝ่ามือบอบบางของเด็กสาวที่กำลังโอบอุ้ม , คาเสะอยากจะถนอมเธอมากให้เท่ากับที่เธอเคยถนอมเขา ยอมรับเขา โอบกอดเขาเมื่อวันที่มืดมน ปรารถนาจากห้วงลึกในจิตใจที่ยังคงมีอยู่สำหรับปีศาจ วาดหวังให้เธอมีความสุขดั่งชีวิตที่ผ่านมา ได้ลิ้มรสกับการเป็นคนปกติเหมือนสมัยก่อน
แต่เมื่อเธอยอมก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกฝั่งนี้ หลอมรวมกันจนไม่สามารถแยกกลับมาเป็นแบบเดิมได้อีก สิ่งที่คาเสะจำเป็นต้องทำคือปกป้องและปกปิด อย่าให้ใครได้ล่วงรู้ความลับอีกอย่างของคูฮาคุ ทว่าความลับย่อมไม่มีในโลก ต่อให้ชายหนุ่มจะฝืนต่อชะตานี้มากเพียงใด ก็ต้องมีเล็ดลอดออกมาอยู่ดี
แม้กระทั่งคูฮาคุยังรู้
ว่าตัวเองเป็นคำสาป
♡´・ᴗ・`♡
วันนี้อาจารย์ไม่อยู่ , ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิดหากเขามีธุระติดพัน หากไม่มีเนี่ยสิถึงจะแปลก คูฮาคุคิดว่าเขาคงไม่ได้กินเงินเดือนดี ๆ แบบนี้ถ้าไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง และหากเขาอยู่ฝึกซ้อมให้เธอบ่อยเกินไป ใครจะไปรู้ว่าจะไปสะดุดใจใครบ้างให้จุดประกายความสงสัย ถึงจะพูดแบบนั้นก็ตามทว่าสิ่งเดียวที่ทำให้คูฮาคุตั้งใจมากที่สุดก็คงเป็น—
เธอได้พักผ่อน
นี่มันดียิ่งกว่าอะไรจนมุมปากเด็กสาวยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสีอาร์กติกเคลื่อนมองเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายมาแล้วครั้งหนึ่งที่กำลังฝึกซ้อมอยู่เหมือนเดิม ช่วงนี้อิตาโดริไม่โดนต่อยบ่อยเหมือนตอนแรกทำให้ใบหน้าเขาดีขึ้นเยอะต่างจากตอนแรกที่มีรอยฟกช้ำเต็มใบหน้าพอ ๆ กับเธอ ถึงแม้ตอนนี้จะมีแต่เธอที่มีรอยช้ำคนเดียวก็เถอะ
นั่นหมายถึงเมื่อสิบนาทีก่อนล่ะนะ
คูฮาคุตีหน้ามึนพร้อมหันซ้ายขวามองรอบข้างด้วยอาการงุนงง
ไม่ต่างจากยูจิที่ชี้นิ้วสับสนหลังโดนลักพาตัวด้วยกันทั้งคู่
เธอผู้โดนหิ้วคอเสื้ออีกแล้วกำลังแกว่งเป็นลูกตุ้มนาฬิกาต่อหน้าคำสาป
อาจารย์บอกว่าครั้งนี้เป็นการเรียนนอกสถานที่ครั้งแรก แต่สิ่งที่ทำให้เด็กสาวสนใจคงเป็นการยืนบนผืนน้ำโดยไม่ล่วงลงไปต่างหาก
จากตอนแรกที่เธอได้วันหยุดมา คิดจะนอนพักผ่อนเสียหน่อย แต่แล้วคนที่ออกไปทำธุระดันกลับมาแถมยังโดนหิ้วมาอยู่กลางทะเลสาบอีก , ดวงตาสีอาร์กติกมองคำสาปที่มีรูปร่างภูเขาไฟ
ก่อนมองรอบข้างเพื่อหาเท็งงุ เมื่อไม่เห็นร่างของชายหนุ่มเหมือนเคยหรือสายลมที่พัดผ่านเหมือนปกติทำให้คูฮาคุแสดงสีหน้าบิดเบ้
เขาหายไปอีกแล้ว
"ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใคร
เอามาเป็นโล่เรอะ"
"โล่เหรอ
ไม่ใช่สักหน่อย"อาจารย์ว่าตอบกับคำสาปประหนึ่งเล่นเกมตอบคำถาม
"ก็บอกแล้วไงว่าพวกเขามาฝึกงาน ฉันกำลังสอนเด็กสองคนนี้อยู่ อย่าถือสาเลย
ต่อสู้ให้สุดกำลังเถอะ"
"พาตัวถ่วงมาเอง โง่เขลาจริง
ๆ"คูฮาคุเมินเสียงเล็กจ้อยของคำสาป ถึงจะรู้สึกสนใจกับสติสัมปชัญญะของคำสาปตรงหน้าที่สามารถพูดคุยได้ แต่มันก็แค่นั้นและอีกอย่างถึงฝั่งนั้นว่าเธอเป็นคนโง่เง่า คูฮาคุกลับคิดว่าคำสาปภูเขาไฟนั่นโง่เง่ามากกว่า ถึงจะยังไม่เคยเห็นระดับพลังของโกโจเลยสักครั้งก็เถอะ
เป็นแค่คำสาปแท้ ๆ
ชายหนุ่มผมขาวโบกมือ "ไม่เป็นไรหรอก
ก็เพราะว่าแกกระจอกมากนี่นา"
ดวงตาสีอาร์กติกหรี่มองคำสาปที่กำลังระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อโดนดูถูก
ไฟที่พวยพุ่งออกมาทำให้ผืนน้ำที่ยืนอยู่สั่นกระเพื่อม
เธอก้าวถอยหลังเมื่อรับรู้อุณหภูมิที่ร้อนสูงเกินไป
ก่อนจะสัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่ดันกลางหลัง
เป็นอาจารย์ที่ยิ้มนิดยิ้มหน่อยเหมือนปกติราวกับว่าเคยชินกับเรื่องพวกนี้เสียแล้ว
ก่อนจะโดนปัดทิ้งโดยคนมาใหม่ , ผิวน้ำกระเพื่อมอีกครั้งแต่มาจากแรงลมจากการกระพือปีก
เรือนผมสีครีมนมกับดวงตาสีอาร์กติกที่เหมือนกัน
ปีกขนกาห่อหุ้มร่างกายเด็กสาวไว้ราวกับเป็นคำขอโทษก่อนจางหาย
รอบคอคูฮาคุปรากฏรอยสีเหลืองพาดบนลำคอ
อากัปกิริยาเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับบรรยากาศรอบข้าง
โจโกะหรี่ตามอง สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปจากเด็กสาว รวมถึงตัวตนที่เหมือนจะรู้สึกถึงแต่ก็ไม่ ทว่าความรู้สึกพวกนี้ถูกปัดทิ้งเมื่อเจอคำเหยียดหยามจากปากของชายหนุ่มเรือนผมสีขาวพิศุทธิ์ แค่นั้นก็มากพอแล้วที่ทำให้อารมณ์ของคำสาปพุ่งสูงขึ้น อาณาเขตถูกกางออกตามเป้าหมายของผู้ใช้
มือปัดเส้นผม
คาเสะในร่างเด็กสาวหรี่ตาอยากจะทำให้คำสาปตรงหน้าหายไปเต็มที
แต่ก็โดนคัดค้านโดยชายหนุ่ม เพียงเพราะต้องการให้มันกางอาณาเขต
บอกว่าเป็นการเรียนรู้ได้อย่างไม่อายปาก เขามองรอบข้างที่เปลี่ยนแปลงไป
พื้นผิวหรือลาวาที่โผล่พ้นปะทุขึ้นเดือดจนเกิดเป็นฟอง
"นี่มันอะไรกัน"
"นี่คือการกางอาณาเขต
ใช้พลังไสยเวทรวมกับอาคมสร้างอาณาเขตตามกำเนิดขึ้นมาบนบริเวณโดยรอบ"สองเท้าพาหลบลาวาที่ปะทุเพื่อไม่ให้โดนร่างเด็กสาว
พลางฟังคำอธิบายด้วยอาการเบื่อ
"ที่พวกเธอเจอที่สถานพินิจเป็นอาณาเขตตามกำเนิดที่ยังไม่สมบูรณ์
ไม่ได้ใส่อาคมเข้าไป"
"กางอาณาเขตต้องใช้พลังไสยเวทมหาศาล
แต่ก็ได้ประโยชน์ที่สมน้ำสมเนื้อ"น้ำเสียงใจเย็นที่เอื้อนเอ่ยสำหรับคาเสะที่ฟังแล้วน่าหงุดหงิดไม่น้อย
เพราะเขามัวแต่โอ้เอ้ "ข้อแรกคือยกระดับพลังด้วยปัจจัยแวดล้อม"
ครานี้คาเสะรีบอธิบายต่อด้วยความเบื่อเต็มทน
"ข้อสอง หากเจ้าใส่อาคมในอาณาเขตของเจ้า ต่อให้โจมตีแบบไหนก็โดนแน่นอน"
"เอ๋ ~ คาเสะคุงอยากช่วยผมสอนขนาดนั้นเลยเหรอ"
"เพราะเจ้ามันชักช้าต่างหากล่ะ"เสียงจิปากดังขึ้น
มองชายหนุ่มที่หัวเราะแล้วค่อยอธิบายต่อเกี่ยวกับอาณาเขต
เรื่องการหลบหนีที่ไม่ควรแนะนำอย่างยิ่ง
ส่วนอย่างที่สองที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดแต่ก็เสี่ยงด้วยเช่นกัน
คาเสะเหลือบมองคนด้านข้างที่กำลังถอดผ้าปิดตาออก เผยดวงตาสีสวยที่กำลังส่องประกาย
"กางอาณาเขต—พรมแดนไร้เขต"
คาเสะก็ไม่อยากจะยอมรับนักหรอกแต่เมื่อได้เห็นอาณาเขตที่ชายหนุ่มกาง
นับว่าเป็นการกางอาณาเขตที่ทรงพลังมาก
แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่อยากยอมรับมากที่สุดคงเป็นการหิ้วเขาไว้ราวกับแมวเหมียวอย่างนี้ต่างหาก
, ปลายเท้าแตะพื้นดินหลังปลดอาณาเขต
ใจนึกอยากเตะตัดขาสักหนแต่ก็เกรงว่าคงโดนเด็กสาวว่าในภายหลัง
ทุกอย่างเกือบไปได้สวยแล้วหากไม่ติดว่ามีผู้บุกรุกเพิ่มอีก
คาเสะจิปากเมื่อเห็นว่าอาจารย์นักเรียนคู่นี้ล้วนหลงเคลิ้มไปกับกลิ่นดอกไม้จำต้องตบหน้าไปคนละที
(แน่นอนว่าสำหรับไอเด็กผมขาวนั่นต้องแรงเป็นพิเศษ)
พอละสายตาเพียงแค่ครู่เดียวไอเด็กโง่อิตาโดริก็ถูกเหวี่ยงไปมากลางอากาศ
"อาจารย์—ผมไม่เป็นไร รีบตามเจ้านั่นไปครับ"คำพูดอวดดีชวนทำให้เขาหัวเราะ
พอเห็นว่าปลายทางคือปากนรกจึงเอ่ยขอความช่วยเหลือ "ขอโทษพูดผิด ช่วยด้วย
!"
"เจ้าโง่พวกนั้นหนีไปหมดแล้ว"มองทิศทางที่คำสาปตัวใหม่วิ่งเข้ามาช่วยแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
เขากรอกตาเมื่อเห็นท่าทางเด็กหนุ่มที่กำลังก้มตัวกราบขออภัย
ก่อนจะยอมคืนการควบคุมให้กับคูฮาคุ
แถบลำคอหายไปเช่นเดียวกับคาเสะที่ปรากฏร่างอยู่ด้านข้าง
มือยกพัดป้องปากมองคนสองคนที่สนทนา
ก่อนกลับมาให้ความสนใจกับเด็กสาวอีกครั้ง
"อ๊ะ ฮาคุจังกลับมาแล้วเหรอ ~ จะเปลี่ยนตัวทั้งทีก็ช่วยบอกผมหน่อยสิ"
"เรื่องนั้นจำเป็นด้วยเหรอคะ ?"คูฮาคุเลิกคิ้ว ใครจะมีบอกล่ะว่าจะเปลี่ยนตัวตอนนี้ "อาจารย์
ขอดูตาอีกครั้งหน่อยสิ"
"หืม ไม่ให้ดูหรอกน้า"
ทุกอย่างเหมือนจะจบโดยง่ายหากไม่มีคำสาปตนอื่นมาช่วยเหลือเสียก่อน , ดวงตาสีอาร์กติกหรี่มองแสงเจิดจ้าของหน้าจอโทรทัศน์และเงาร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งดู ดูเหมือนการออกไปทัศนศึกษาการปัดเป่าคำสาปนอกสถานที่จะไม่ได้ช่วยให้เธอหรือเขาผ่อนคลายเลยสักนิด เอาเข้าจริงแล้วนอกจากการสามารถยืนบนผิวน้ำได้ เธอก็แทบไม่ได้สนใจอะไรเลยรวมถึงคำสาปด้วย
นอกจากคาเสะที่ดูจะนิ่งเงียบ ครุ่นคิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนที่เขาได้ข่าวจากไดเท็งงุก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกลุ่มคำสาปนั้นเร็วขนาดนี้ โชคยังดีที่คำสาปตนนั้นยังไม่ได้ฉุกคิดเรื่องของคูฮาคุเร็วขนาดนั้น ดวงตาสีเฉดเดียวกันจึงสงบขึ้นกว่าก่อนหน้า ก่อนจะหยิบถุงหอมที่อุตส่าห์ดั้นด้นไปหาจากจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์นั่น
"รักษาไว้ดี ๆ ล่ะ"ถุงหอมถูกใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ดวงตาชายหนุ่มหรี่ลง "ระวังอย่าให้ห่างจากตัว มันจะช่วยกลบกลิ่นนั้นจากเธอ"
"นานแค่ไหน"
"อาจจะไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าให้คนนั้นสงสัย"คาเสะเงียบลง มองเด็กสาวที่กะพริบตาและพยักหน้าอย่างเชื่องช้า มองแววตาเฉยชาจากเด็กสาว ฝ่ามือหนาประคองใบหน้า จดจ้องด้วยสายตาสัตย์จริง เน้นย้ำด้วยเสียงนุ่มทุ้มเรียบนิ่ง ทว่าสลักลึกความสำคัญนั้นเอาไว้ ความปรารถนาอันเรียบง่ายถูกเอ่ยออกมา
"อย่าให้ใครรู้ว่าเจ้าเป็นอะไร"
Talk with คนแต่ง
แวบมาลงให้ก่อน ภาษาอาจจะแปกๆหรือทื่อๆก็คืออย่าว่ากันนะ ;-; ห่างไปเกือบเดือนก็คือแทบลืมหมดแล้ว เนื้อหาที่เรียนด้วย อาจจะมาอีกทีวันที่สิบเอ็ดเลยก็ได้เพราะอาทิตย์หน้าน่ะสอบทั้งอาทิตย์ยั่วๆไปเลย ที่แวบมาลงก็คือไม่อยากอ่านหนังสือแล้ว ฮรุก
โค้ดลับโมโมะคือใคร ? คือจิ้งจอกทามาโมะเองค่ะ ที่เรียกโค้ดลับกันเพราะคาเสะไม่รู้ว่าโกโจจะแอบฟังมั้ย ที่ตั้งโค้ดเป็นโมโมะเป็นเพราะว่าโมโมะคือดอกท้อ (ดอกพีช) เป็นต้นไม้ที่นำเข้าจากประเทศจีนซึ่งเป็นต้นกำเนิดตำนานของจิ้งจอกเก้าหางค่ะ ส่วนที่ว่าทำไมน้องถึงรู้ว่าตัวเองเป็นคำสาป น้องรู้จากตอนที่เจ็ด งานศพของผู้วายชนม์ค่ะ ถึงฮาคุดูจะไม่สนใจตัวเองหรือคนอื่นแต่ก็ถือว่าฉลาดและพอปะติดปะต่อได้อย่างรวดเร็ว
แต่ก็อาจจะมีความเห็นที่ว่าอ้าว ก็คาเสะลบความทรงจำไปแล้วทำไมน้องถึงยังรู้ล่ะ คือความทรงจำที่คาเสะลบเป็นความทรงจำน้องที่เคยลืมไปค่ะ แต่ความทรงจำที่น้องเห็นหรือว่าอะไรไม่ใช่อันที่เคยลืม แต่เป็นสิ่งที่รับมา ทำให้คาเสะไม่ได้ลบค่ะ (งงมั้ย ;-; )
และคนสวยก็ยังไม่มีบทเช่นเคย (ทรุด)
ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ♡´・ᴗ・`♡
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น