ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 00 - คนสวย
Jujutsu Kaisen fiction - คนสวยขา
- megumi x oc
โลกใบนี้แปลกประหลาด , เหนือสิ่งสามัญธรรมดาที่ไร้คนมองเห็น มีสิ่งมืดมิดแปลกปลอมแทรกซึมทั่วทุกที่ไม่ว่าจะอาคาร ตึกร้างหรือบ้านเรือน แสงไฟสลัวจากเสาไฟข้างทางทอดแสงสว่างลงมาบนพื้นทางเดิน ดวงตาสีอาร์กติกเกิดประกายเงาชั่ววูบสะท้อนสิ่งแปลกประหลาดในเงามืดใต้แสงไฟ เห็นฝีเท้าย่ำออกมาได้ยินสะท้อนก้องในใบหู
ร่องรอยหยดน้ำสีดำหยดไหลผ่าน รอยยิ้มเกียจคร้านวาดบนใบหน้าก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่นเสียแทน สองเท้าเหยียบย่ำเดินสวนกับสัตว์ประหลาดอันแหลกเหลว รูปร่างคล้ายของเหลวที่ไร้ภาชนะ สยดสยองเกินกว่าจะมองด้วยตาคู่นี้ ถึงอย่างไรก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี ก้าวผ่านพวกนั้นไปได้ด้วยรอยยิ้มสบายตาแบบนี้ก็นับว่ามีใจกล้าความสามารถมากแล้ว
พรสวรรค์แสนวิเศษหรือคำสาปที่ติดตัว อะไรก็แล้วแต่ที่อยากจะเรียกกัน เธอไม่รู้หรอกว่าทุกคนมองเห็นเหมือนกันหรือไม่ เห็นเจ้าตัวประหลาดที่กำลังเดินสวนกันไปมาตามถนนหรือไม่ แต่นับตั้งแต่ลืมตาดูโลก ดวงตาสีอาร์กติกคู่นี้ก็สะท้อนเห็นสิ่งเหนือธรรมชาติ เคยเกริ่นให้ผู้อื่นได้ฟังร่วมด้วย ไม่นานนักก็โดนหาว่าเป็นบ้า สุดท้ายจบลงด้วยการหลีกเลี่ยงไม่มองของพวกนี้เสียแทน
เกียวคุโระ คูฮาคุ , แค่ความหมายของชื่อก็รับรู้ได้ถึงความรักของบิดามารดา (ประชด) คูฮาคุมีความหมายตรงตัวตามตัวตนของเธอ ว่างเปล่าจนไม่สามารถบรรยายได้ว่าคือสิ่งใดเฉกเช่นความรักของบุพการี พวกเขาว่างั้น... คูฮาคุออกจะพิเศษกว่าเด็กวัยเดียวกันอยู่หน่อย จากที่เกริ่นมาเมื่อสักครู่ก็พอเดาได้ว่าโลกนี้ประหลาดเพียงใดกับการเห็นเจ้าสัตว์ประหลาดตัวยึกหยึยเดินผ่านไปมาราวกับว่าเดินสวนกันตรงถนน
ดวงตาคู่นี้มันพิเศษ พ่อเธอบอกเช่นนั้นหลังรับรู้ถึงความสามารถอันแปลกประหลาดที่คูฮาคุอาจคิดไปคนเดียว ตอนแรกตื่นตระหนกตกใจ ในตอนนี้เหลือเพียงความรู้สึกเฉยเมย ว่างเปล่าต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ต่อให้มีอะไรเดินทะลุร่างเธอได้ตอนนี้ก็คงไม่แปลกแล้วกระมัง
ยกเว้นหมาสองตัวที่ผุดออกมาจากเงาอะไรก็ไม่รู้นั่น
เด็กสาวกะพริบตาเชื่องช้า พยายามเมินข้ามสุนัขสองตัวที่โผล่มาจากไหนไม่ทราบ แสร้งมองผ่านพลางกวาดตามองคนในบริเวณนี้ ไม่มีใครตระหนกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ ยกเว้นใครสักคนในชุดยูนิฟอร์มที่ไม่ค่อยคุ้นตา เขาหันมองไปทั่วพร้อมกับส่งสายตาหาสุนัขทั้งสองที่อัญเชิญ นั่นเป็นครั้งแรกที่คูฮาคุได้เห็นอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้
เด็กคนนั้นเสกสัตว์ออกมาได้ด้วยล่ะ.. เธอพยักหน้ากับตัวเองในใจก่อนเมินข้ามมันอีกครั้ง ความตกใจพวกนั้นถูกยัดเก็บใส่หีบยัดลงใต้ส่วนลึกในจิตใจตั้งแต่เธอพบเห็นสัตว์ประหลาดพวกนั้นแล้ว อีกอย่างน้ำแอปเปิ้ลปั่นในมือย่อมสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น จะให้เสนอตัวเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์อะไรแบบนั้นบอกเลยว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันสิ้นดี
เธอก็คนแบบนี้
ต่อให้ความฉิบหายอยู่ตรงหน้า ก็ช่างแม่งอยู่ดี
"วันนี้หายไปนานเลยนะ"เสียงทุ้มแหบเผชิญตรงหน้าบ้าน เด็กสาวเงยมองพร้อมยื่นแอปเปิ้ลปั่นให้เขา เห็นปีกตรงแผ่นหลังสั่นไหวเบา ๆ จากการได้รับสิ่งตอบแทนเป็นเครื่องดื่มอันยอดนิยมของเด็กญี่ปุ่น อย่างน้อยก็ไม่ใช่เธอคนหนึ่งแล้วกันที่ชอบแอปเปิ้ลปั่นแบบชายตรงหน้า แต่อย่างไรก็ดีที่อีกฝ่ายมองข้ามการหายหน้าหายตาของเธอไป
"วันนี้ฉันเจออะไรที่น่าสนใจด้วยล่ะ"เสียงเฉื่อยชาเปรยออกมาหลังส่งแอปเปิ้ลปั่นให้เรียบร้อย สองเท้าก้าวเข้าบ้านตามหลังด้วยชายหนุ่มที่เพลิดเพลินกับน้ำปั่นในมือ ทว่าเมื่อได้ยินเธอเอ่ยประโยคนั้นออกมา คล้ายน้ำปั่นในมือไร้ความหมายในบัดดล ขนปีกขยับจนเกิดเสียงหวีดหวิว
"มันคืออะไร ?"
"อืม.. สุนัขสองตัวล่ะมั้ง"รอยยิ้มสบายตาวาดบนใบหน้า เชื่องช้าดุจสลอธแย้มความสงสัยให้กับเท็งงุที่ขมวดคิ้วใส่ ดวงตาสีอาร์กติกเลื่อนลอยคิดถึงเหตุการณ์น่าสนใจในตอนนั้น "แต่นายคงไม่สนใจหรอกใช่ไหมล่ะ ?"
ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี
"ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องอันตรายต่อเจ้า ข้าย่อมไม่สนใจ"
คูฮาคุส่งเสียงหัวเราะแผ่วเบาก่อนกลืนหายไปกับอากาศรอบข้าง เช่นเดียวกับตัวตนของเท็งงุหนุ่มหายไป ดวงตาสีอาร์กติกหยีลงดุจจันทร์เสี้ยวยามนึกถึงเด็กหนุ่มคนนั้นที่อัญเชิญสุนัขทั้งสองออกมา โดดเด่นท่ามกลางผู้คนมากมายแต่ก็โดนกลบมิดอย่างง่ายดาย ราวกับว่าผู้คนไม่ได้สนใจตัวตนของเขาสักคนเดียว
เช่นเดียวกับเธอ
ที่ปล่อยให้เขาอยู่ท่ามกลางสัตว์ประหลาดพวกนั้น
ช่วงเช้าแสนสดใส วันจันทร์แสนเบื่อหน่ายอะไรก็ตามที่ทำให้เธอต้องลุกออกจากเตียงในตอนเช้า สภาพเมาขี้ตาไม่ต่างจากเรือนผมสีแคนดี้ยุ่งราวกับรังนก , สองมือกวักน้ำล้างหน้า ปลุกตัวเองจากห้วงฝัน หลังจากล้างหน้าล้างตาเธอก็ได้ยินเสียงตะโกนจากด้านล่าง ได้ยินน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดังทะลุเพดานผ่านมายังชั้นสอง เด็กสาวกรอกตากับอารมณ์ที่ไม่ค่อยคงที่ของครอบครัว
ครอบครัวเกียวคุโระประกอบด้วยสมาชิกสี่คน อันมีบิดามารดา เธอแล้วก็น้องสาวที่ไม่ค่อยจะเจอหน้าสักเท่าไร ห่างกันเกือบสิบกว่าปีแทบจะสามารถนับเป็นแม่ลูกได้ อีกอย่างหนึ่งแม่ประคบประหงมน้องสาวเธอจะตายไป ก้าวเข้าหาทีก็ขู่ฟ่อราวกับงูเห่า จะมีก็แต่พ่อกระมังที่คูฮาคุพอพูดคุยได้โดยไม่กัดกันตายไปก่อน
"ฮาคุ !!"เสียงเกรี้ยวกราดยังคงไม่จางหาย ขณะที่เจ้าของชื่อรวบผมท่าทางเฉื่อยชาสวนทางกับอารมณ์ร้อนรุ่มของหญิงสาววัยกลางคน "ถ้าแกยังชักช้าแบบนี้ ก็เดินไปเรียนเองเลย"
ทาลิปสติกดีไหมนะ ?
"อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกได้ยินน่ะ ! ถ้ายังเมินแบบนี้ก็ให้พ่อแกไปส่งเองไป !"
เสียงโวยวายเงียบลงในไม่กี่นาทีต่อมา คูฮาคุวางลิปสติกบนโต๊ะเครื่องแป้งหลังเสียงนั้นเงียบลง มองตัวเองในกระจกที่เรียบร้อยดีแล้วต่างจากตอนตื่นนอน สวมสร้อยคอมือเชือกถักสีดำสนิท พลางคว้ากระเป๋าเรียนบนเตียงนอนก่อนเดินออกจากห้องนอนตัวเอง เธอได้ยินเสียงสตาร์ทรถตรงหน้าบ้าน คงเป็นแม่ที่รีบร้อนจะไปส่งน้องสาวเข้าโรงเรียน
เสียงพลิกหน้าหนังสือพิมพ์ดังขึ้นแถวโต๊ะอาหาร ดวงตาคู่งามเคลื่อนมองสะท้อนชายหนุ่มที่ยังคงใจเย็นหลังผ่านสถานการณ์เมื่อครู่ ผลิยิ้มให้อย่างสวยงามเมื่อเห็นลูกสาวคนโตลงมาจากชั้นสองเสียที จานอาหารเช้าที่เหลือเพียงสองจานบนโต๊ะระหว่างเธอกับพ่อ ขนมปังปิ้งที่ด้านหนึ่งไหม้ก็คงเป็นแม่นั่นแหละที่เป็นคนทำ
"ทำแม่โกรธอีกแล้วนะ"พ่อยังคงพูดด้วยเสียงนุ่มนวล ใบหน้าประดับรอยยิ้มไม่เหมือนกับแม่ที่มักบึ้งตึงอยู่เป็นนิจ คูฮาคุเคลื่อนเก้าอี้พร้อมทิ้งตัวนั่ง ขณะที่พ่อเก็บหนังสือพิมพ์เตรียมทานอาหารเช้าพร้อมกับเธอ
คูฮาคุยักไหล่ "แม่ก็เป็นแบบนี้ปกตินั่นแหละ , หนูล่ะไม่เข้าใจพ่อเลยที่คบกับแม่ได้นานขนาดนี้"
"แล้วจะให้พ่อไปส่งรึเปล่า ?"คำถามที่ถูกเมินเฉยทำให้เด็กสาวยิ้มเบาบางกับคำตอบที่เป็นความเงียบ มองคนเปลี่ยนเรื่องที่เพลิดเพลินกับอาหารเช้าด้วยสายตาราบเรียบ
"ไม่ดีกว่า"
บางทีเธอต้องออกกำลังกายเสียหน่อย
♡´・ᴗ・`♡
"อิตาโดริ ?"น้ำเสียงสงสัยเปล่งออกมาผ่านริมฝีปากสีแดงกุหลาบ มองเด็กหนุ่มที่อยู่ปีเดียวกันเพิ่งหัวเราะอย่างสนุกสนานหลังได้เล่นเกมกับชมรมวิจัยเรื่องลี้ลับ เขาเป็นคนที่โดดเด่นสะดุดตาไม่ว่าจะเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกหรือว่าความสามารถทางกายภาพที่ออกจะเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปอยู่หน่อย บางทีคงบอกได้ว่ามันโดดเด่นมาก ๆ
เขาเหมือนกอริลล่า
"อ้าว เกียวคุโระงั้นเหรอ ?"ใบหน้าเด็กหนุ่มดูตกใจอยู่หน่อย หันมองรุ่นพี่ทั้งสอง "เธออยู่ชมรมนี้ด้วยเหรอเนี่ย"
"ทำนองนั้น"ถ้อยคำก้ำกึ่งทำให้มีใครหลายคนสับสนต่อคำตอบ ดวงตาสีอาร์กติกหรี่มองเด็กหนุ่ม เห็นไอทะมึนจาง ๆ รอบตัวเด็กหนุ่ม กลิ่นเหม็นพวกนี้ชวนอยากสำรอกอาหารกลางวันออกมาเสียจริง คูฮาคุยิ้มเบาบางดูว่างเปล่าสมกับความหมายชื่อตัวเอง สองเท้าก้าวเข้าไปร่วมวงด้วยการกระทำเรียบง่าย
ปลายนิ้วแตะบนแก้วเปล่า
"ฉันร่วมวงด้วยได้ไหม ?"
พิธีกรรมหรืออะไรบางอย่าง สิ่งลึกลับที่ควรค่าให้ความสนใจล้วนเก็บรวมอยู่ที่ชมรมวิจัยเรื่องลี้ลับ เธอไม่ได้อยู่ชมรมนี้แบบเต็มตัวแต่ก็มีบ้างทีแวะเข้ามาหาเป็นบางเวลา อนึ่งด้วยความอยากรู้เล็ก ๆ เกี่ยวกับคนพวกนี้ว่ามองเห็นเหมือนเธอหรือไม่ บันทึกหลายเล่มที่เคยอ่านราวกับย้ำเตือนว่าบางทีเธออาจจะคิดถูกต้อง
หรือไม่ ?
มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเครียด แก้วถูกดันไปท่ามกลางสายาตาตื่นเต้น เด็กสาวขยับตามแรงแก้วไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนออกแรงดัน บางทีอาจจะเป็นอิตาโดริที่กำลังสนุกสนาน หรือรุ่นพี่อิงุจิที่กำลังกังวล รุ่นพี่ซาซากิที่กำลังจดจ่อต่อผลที่กำลังเกิด และคำตอบมันก็ชวนหัวเราะพอดีกับจังหวะที่เจ้าของชื่อประธานเข้ามาที่ในชมรมพอดิบพอดี
มือบอบบางยกขึ้นปิดปากบดบังรอยยิ้มที่ได้ยินคำตอบ ก่อนหันเหความสนใจไปยังบันทึกที่รุ่นพี่สาวหยิบออกมา บันทึกพวกนั้นเธออ่านหมดแล้ว ก่อนอิตาโดริจะเข้าชมรมนี้อีกกระมัง ฟังทฤษฎีมากมายที่หยิบยกออกมาผ่านเรื่องเล่าจากปากของรุ่นพี่แล้วคล้ายจะมีความน่าเชื่อถือ น่าเสียดายที่ประธานไม่ใช่คนเช่นนั้น
"ที่จริงปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ อิตาโดริ ยูจิ !"ประธานชี้นิ้วไปทางอิตาโดริในทันที ขณะเดียวกันเธอก็เอื้อมมือหยิบบันทึกมาเปิดอ่าน "นายไม่ได้อยู่ชมรมเรื่องลี้ลับแต่เป็นชมรมกรีฑาต่างหาก ชมรมวิจัยเรื่องลี้ลับไม่ได้ทำตามข้อกำหนดที่ต้องมีสมาชิกขั้นต่ำกว่าสามคน"
ใบหน้าเขาดูชะงัก หันมาทางคูฮาคุที่ยังไม่สนใจ "ไม่ใช่ว่าเกียวคุโระเองก็อยู่ชมรมนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ?"
เธอเลิกคิ้ว ไม่แสดงอารมณ์ใดออกมา
"ฉันไม่ได้บอกว่าอยู่ชมรมนี้เสียหน่อย"
คล้ายบรรยากาศถูกกดดันมาจากรุ่นพี่ แน่นอนว่าการที่ก่อตั้งชมรมแล้วสมาชิกไม่ครบ ทางออกเดียวย่อมเป็นการยุบชมรม สาเหตุอันเรียบง่ายที่อิตาโดริไม่อาจเป็นสมาชิกชมรมวิจัยเรื่องลี้ลับได้เป็นเพราะอาจารย์กรีฑา เรื่องราวซับซ้อนขึ้นมาอีกนิดหน่อยเมื่อมีการวางเดิมพันระหว่างลูกศิษย์และอาจารย์
คูฮาคุยังคงยืนยันคำเดิม
อิตาโดริคือกอริลล่า
"เกียวคุโระจะไปดูด้วยรึเปล่า"ใบหน้าเขาแสดงความคาดหวังออกมานิดหน่อยยามมองเพื่อนร่วมชั้นที่เพิ่งปิดสมุดบันทึก กิริยาแสนเรียบง่ายแต่ก็สะดุดตา ดวงตาสีอาร์กติกเชยมองสบกับดวงตาสีน้ำตาลที่ส่องประกาย เขาดูมั่นใจว่าการแข่งในครั้งนี้คงต้องชนะอย่างแน่นอน
"ฉันจะตามไปทีหลัง"
เสียงในห้องเงียบลงเมื่อผู้คนต่างย้ายตัวเองออกจากห้อง อิตาโดริไปเตรียมตัวเช่นเดียวกับอาจารย์ที่เป็นคนท้าทาย รุ่นพี่หรือประธานเองก็จำต้องไปเป็นผู้ชมเพื่อดูผลการตัดสิน , ปลายเล็บเคาะกับหน้าปกหนังสือ ดวงตาเกิดประกายความคิดชั่ววูบจนชายหนุ่มเท็งงุยังแอบเหลือบมอง เป็นเรื่องปกติที่เขาจะติดตามเธอราวกับเงาเช่นนี้
คาเสะ ชื่อของเขาที่เธอมักเรียกขาน มันคงไม่ดีหรอกกระมังหากเรียกว่าเท็งงุตลอดเวลา , ปีกสีดำขนาดใหญ่สั่นไหว ดวงตาเฉี่ยวคมยังคงรวดเร็วต่อการตรวจจับเสมอ เรือนผมสีครีมนุ่มนวลสบายตาพลิ้วไหวตามการเคลื่อนไหว ปะติดปะต่ออะไรหลายอย่างในจิตใจพลางเหลือบมองสีหน้าเด็กสาวที่ยังคงนิ่งเฉย
"นายเองก็รู้ใช่ไหมล่ะ ?"คำถามที่พอคาดเดาคำตอบได้ทำให้ใบหน้าชายหนุ่มมืดครึ้ม ปรารถนาให้เธอเดินออกจากห้องนี้ยังดีกว่าเสียอีก แววตาประกายความหมายแทบตรงข้ามกับสิ่งที่แสดงออก คูฮาคุเก็บหนังสือใส่ชั้นหนังสือ ดวงตาเคลื่อนมองชิ้นส่วนบางอย่างที่ถูกห่อเก็บไว้อย่างดี
"ข้าอยากให้เจ้ากลับบ้าน ตอนนี้ได้ยิ่งดี"เขากล่าวออกมาอย่างรีบเร่ง ใช้ปีกบดบังไอชั่วร้ายจากชิ้นส่วนพวกนั้น ขณะที่เด็กสาวหัวเราะในลำคอเสียดสีกัน คูฮาคุไม่ใช่เด็กดีดังนั้นการทำคำขอของเขามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นิสัยที่ไม่สนใจสิ่งใดยิ่งทำให้เรื่องราวยุ่งยากขึ้นกว่าเดิม
"ฉันคิดว่า.. ฉันควรไปเชียร์อิตาโดริสักหน่อย"
ผู้คนส่วนใหญ่รีบรวมตัวไปที่ยังสนามกีฬา เช่นเดียวกับคูฮาคุที่กำลังเดินเอื่อยเฉื่อยเชื่องช้าดุจเต่าคลาน เธอไม่ได้รีบเร่งในเมื่อสุดท้ายแล้วยังคงได้ยินเสียงเชียร์จากสนามดังเป็นระยะ การแข่งยังคงไม่จบในตอนนี้ บางทีหากไปถึงก็คงจบการแข่งขันพอดีหรือถ้าหากเธอเดินเร็วกว่านี้อีกสักหน่อย เขาคงไม่อกแตกตายตอนนี้
สายลม กลิ่นหอม เสียงเดิน , ดวงตาสีอาร์กติกเคลื่อนมองตามเสียงรองเท้าที่ไม่ค่อยคุ้นหู จังหวะการเดินที่ดูแตกต่างจากคนอื่น เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลคสีดำสนิทแนบเรียวขา เรือนผมสีรัตติกาลยุ่งเหยิงส่องประกายสีน้ำเงินภายใต้แสงอาทิตย์ สิ่งที่ทำให้เธอจดจำมากที่สุดก็คงเป็นดวงตาเรียวคมกับขนตางอนยาวที่ทำให้เขาสวยกว่าผู้ชายคนอื่น
เขาหันมา เราสบตากันเหมือนคืนวันนั้น เป็นช่วงเวลาเพียงเสี้ยววิที่เธอเลือกจะมองข้าม กลืนหายไปกับฝูงชนเสียแทนทำตัวเหมือนเป็นคนปกติธรรมดาทั่วไป สองเท้าก้าวเข้าหาเชื่องช้า การกระทำอันไร้เหตุผลกลับแสดงออกมาอย่างเรียบง่าย รอยยิ้มบิดโค้งแอบซ่อนแววตาที่กำลังปิดลง เขาดูตกใจขณะเดียวกันก็สงสัย
"คนนอกเข้าโรงเรียนไม่ได้นะ คนสวย"
ฟุชิงุโระหยุดชะงัก สัมผัสได้ถึงลมหายใจระหว่างกัน
ใกล้เสียจนแทบได้ยินเสียงหัวใจ
"แต่ถ้านายต้องการ ฉันสามารถนำทางได้นะ"
Talk with คนแต่ง
ใครเปิดเรื่องใหม่ ชั้นน่ะสิ ชั้นน่ะสิ แหะ กลับมาจากการสอบแล้วค่ะ (。-∀-) บอกได้อย่างเดียวว่าอยากจะร้องไห้ เกรดตกแน่นอน คนสวยก็คืองงไปก่อน เทอคือใครกันนิ คาร์ฮาคุจังก็เขียนยากอยู่เหมือนกันค่ะ แบบว่าช่างแม่งทุกอย่างเลยแล้วก็เป็นอะไรที่ชวนปั่นสุด ๆ ถือว่าเป็นการเขียนที่ท้าทายมาก ๆ เลยค่ะ ( ̄︶ ̄;) จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดค่ะ ि०॰०ॢी
ถ้าชอบก็อย่าลืมให้กำลังใจ กดเฟบนิยายเรื่องนี้พร้อมคอมเม้นด้วยนะคะ จะได้ไว้อ่านตอนนั่งแต่งนิยาย ♡´・ᴗ・`♡
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น