คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 6th Record: Red Planet - Part 1
23 พฤษภาคม UA 57 สาขาย่อยของเวลด้าอิเล็กทรอนิกส์ อาณานิคมเดลฟี ดาวอังคาร
เซฟาลอสที่มาถึงดาวอังคารได้สองวันตามปฏิทินมาตรฐานโลกกำลังได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่ การแปลงสภาพแวดล้อมของดาวอังคารเดินหน้าช้ากว่าที่ควรเพราะสงครามอวกาศที่ผ่านมา ตอนนี้การเดินนอกพื้นที่อาณานิคมก็คล้ายกับการเดินบนทะเลทรายของโลก ผิดกันแต่อากาศที่เบาบางกว่า เมื่อหน้าต่างของคาเฟ่ไม่ปิดชัตเตอร์ป้องกันภัยจึงมองเห็นท้องฟ้าสีแดงจางๆยากจะบอกเวลาได้
"งั้นผมก็คงไม่ต้องย้ายห้องใช่มั้ยครับ?" เทียนหลงถามอิทซึกิ
"อืม นักบินเดิมทุกคนได้อภิสิทธิ์ให้พักห้องเดี่ยวได้ตามเดิม ยกเว้นเรนิสที่พักห้องคู่กับยายอิริน่า"
"จะว่าไปแล้ว เราก็น่าจะบรรจุกำลังเพิ่มตั้งแต่ที่เดดาลัสด้วยซ้ำนา..." ดิมิคัสบ่น
"สถานีห่างจากโลกอย่างนั้นน่ะ แรงงานมนุษย์เป็นของสำคัญนะ แค่ซ่อมยานของคู่แข่งให้ก็ดีแล้วล่ะ" มาร์คตอบขณะเติมครีมกาแฟ ถึงจะทำงานให้ไดเร็กเตอร์เหมือนกัน แต่หน่วยงานที่พัฒนายุทโธปกรณ์ให้กองทัพโลกก็มองกลุ่มอื่นเป็นคู่แข่งทางธุรกิจมากกว่าเพื่อนร่วมงาน
"แล้ว...สมาชิกใหม่นี่เป็นนักบินกี่คนล่ะ?"
"เอ...สองคนนะ ยศนายสิบพิเศษ นายสิบพิเศษเหรอ...จากหน่วยทดสอบอาวุธสินะ..." มาร์คเปิดดูเอกสาร
"นายสิบสินะ นั่นก็คือ...พวกเราจะมีลูกกระจ๊อกไว้ให้ใช้สอยแทนเจ้าเทียนหลงมันแล้วไงล่ะ!" อิทซึกิตะโกน
"ดีใจยังไงก็อย่าตะโกนเลยครับ...แล้วผมเป็นลูกกระจ๊อกคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ว่าแต่เรื่องเลื่อนยศล่ะครับ?"
"อืม...ไม่ได้เขียนไว้แฮะ ต้องรอถามยายอุมิโกะหรือไม่ก็วารีน่ะ...จะว่าไป ยายวารีหายไปไหนเนี่ย?" อิทซึกิสงสัย
"พาเรนิสไปเที่ยวดูในเมืองไง พอดีกัปตันเห็นว่าโซลมันช่วยทำงานหนักเลยให้ลาพักตามไปด้วยอีกคน" ดิมิคัสตอบ ความเงียบเข้าปกคลุมวงสนทนาทันที
"เป็นอะไรกันไปน่ะ?"
"ยายอุมิโกะมีแผนแหงๆ" อิทซึกิบ่นพึมพำ
"สมัยเรียนมัทธยมยายนั่นชอบเป็นแม่สื่อให้คนโน้นคนนี้ เห็นว่าอยากให้ดอกรักผลิบานรึอะไรทำนองนั้น"
"แต่เรนิสไปด้วยนะครับ คงนับเป็นเดทไม่ได้หรอก..." เทียนหลงแก้แทน
"ใครว่า ให้เด็กไปด้วยน่ะทำให้บรรยากาศดีขึ้นใกล้ชิดกันง่ายขึ้นอีกด้วยซ้ำ" มาร์คออกความเห็น
"แต่โซลก็ไม่เคยเห็นชีวิตในอาณานิคมมาก่อนเหมือนกันนะครับ อย่าเพิ่งคิดมากกันสิ" ดิมิคัสพยายามตัดบท
"ยายผู้ดูแลนั่นก็ตามไปด้วยสินะ" อิทซึกิเดา
"เปล่า เค้าช่วยฝ่ายวิศวกรออกแบบอุปกรณ์ใหม่ของแองเจลิก้าน่ะ พูดถึงยายแว่นนั่น ของของเค้าเป็นพวกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ซะเยอะเลยนะ" มาร์คตั้งข้อสังเกต เมื่อเห็นคนอื่นๆสนใจเลยเล่าต่อ
"ชั้นก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกนะ แต่เห็นเรนิสบอกวารีว่าเธอต้องเช็กสภาพร่างกายบ่อยๆน่ะ รู้สึกว่าต้องเจาะเลือดตรวจทุกวันด้วย"
"เป็นเบาหวานเรอะ?" ดิมิคัสสงสัย
"ไม่ใช่มั้ง" หลิงที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องแทรก ก่อนจะเริ่มทาเนยขนมปัง
"ยังไม่เลิกงานเหรอครับ?" เทียนหลงถาม
"เร่งทำพาร์ตใหม่ของแองเจลิก้าน่ะ จัมเปอร์ของเซฟาลอสกว่าจะซ่อมเสร็จก็ต้องอีกห้าหกวันล่ะมั้ง" พูดถึงตรงนี้ก็หันมามองคนอื่นๆ
"เอ่อ...เราไม่ได้ว่างนะครับ คือ...เราประจำการรอศัตรูบุกอยู่" เทียนหลงแก้ตัว
"จะว่าไป ตอนอยู่บนยานกัปตันอุมิโกะเคยเรียกคุณวารีว่าน้ำสินะครับ" พวกโซลเดินเล่นในสวนสาธารณะของอาณานิคม ท้องฟ้าจำลองที่เป็นโดมครอบอาณานิคมแสดงภาพท้องฟ้าสีครามทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บนโลก หญ้านุ่มๆบนพื้นกับสายลมอ่อนๆที่เกิดจากระบบไหลเวียนอากาศทำให้โซลนึกอยากล้มตัวลงนอนเล่นเดี๋ยวนั้นเลย เรนิสวิ่งนำหน้าทั้งสองคนไปทางทะเลสาบเทียมด้วยท่าทางร่าเริง
"นั่นเป็นชื่อเล่นค่ะ คุณยายตั้งให้"
"เหรอครับ ปกติไม่เห็นมีใครเรียกนี่นา"
"สมัยเรียนหนังสือบอกใครไปก็เรียกเพี้ยนกันเกือบทุกคนเลยล่ะค่ะ เขียนให้อ่านแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ ออกเป็นแนมบ้าง นามบ้าง พอใช้ชื่อจริงเลยสะดวกกว่า กัปตันไปรู้มาจากไหนชั้นยังสงสัยอยู่เลย"
"เย็นจัง" เรนิสเอามือวักน้ำในทะเลสาบเทียมเล่น
"ตอนที่เห็นจากบนชิงช้าก็ว่าแจ๋วแล้วนะคะ แต่นี่มันเอาAMลงไปได้สบายเลยนะเนี่ย"
"แหม น้องเรนิสคงไม่เคยเห็นน้ำมากๆแบบนี้สินะคะ" ตั้งแต่เที่ยวกันมาเรนิสถามโน่นถามนี่ไม่ได้หยุดปาก วารียอมรับว่าเหนื่อยเหมือนกัน
"อื้อ! ที่เดดาลัสน่ะ แต่ละวันมีน้ำให้ใช้ได้จำกัดนี่นา แต่น้ำมากขนาดนี้...จะเอาไปอาบน้ำทั้งวันก็ได้เลยนะคะ"
"แต่ถึงกับทำทะเลสาบเทียมไว้บนดาวอื่นด้วยนี่...มนุษย์โลกก้าวหน้าไปพอสมควรเลยนะครับ" โซลพูดขึ้นบ้างพร้อมกับเก็บสมุดบันทึกข้อมูลใส่กระเป๋ากางเกง
"คุณโซลพูดยังกะว่าตัวเองไม่ใช่ชาวโลกยังงั้นแหละ" เรนิสสงสัย
"เอาไว้เห็นทะเลบนโลกก่อนเถอะครับ แล้วจะรู้สึกว่าทะเลสาบนี่เล็กไปเลย" โซลเปลี่ยนเรื่อง
"จริงเหรอคะ? ทะเลนี่ใหญ่ขนาดไหนเหรอคะ? เอาAMลงไปสู้กันได้มั้ยคะ? แล้ว-"
"พูดไปตอนนี้ พอเจอของจริงจะไม่สนุกเปล่าๆ รอไว้ไปโลกพี่จะพาไปเที่ยวทะเลจริงๆเลยดีมั้ย?" วารีเสนอ
"โรเจอร์!" เรนิสวันทยาหัตถ์ด้วยรอยยิ้มสดใส เป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเป็นกอง
"จริงสิ แวะไปกินอะไรกันหน่อยดีมั้ยคะ? คุณอิทซึกิบอกว่ามีร้านข้าวหน้าเนื้อเจ้าอร่อยอยู่แถวนี้นา"
บทสนทนาบนจอคอมพิวเตอร์ไอคอม
I-COM > แล้ว...อัพเกรดซอฟท์แวร์มาแล้วเป็นไงมั่ง?
MIKA > ไม่รู้สิ โปรแกรมบุคลิกของชั้นไม่เปลี่ยนนี่นา แต่ความสามารถในการคำนวนรับรองว่าเร็วขึ้น ชัวร์!
I-COM > เรอะ? ชั้นกำลังคิดว่าจะได้คุยกับสาวน้อยพูดจาอ่อนหวานแล้วเชียวนา
MIKA > อันนั้นชั้นเป็นอยู่แล้วย่ะ แต่กับนายชั้นไม่คิดพูดคะขาให้เปลืองไฟหรอก
I-COM > อ้าว! ไหงเป็นงั้นล่ะ ในฐานะเพื่อนร่วมงาน เราไม่ควรมีแบ่งชนชั้นระหว่างมนุษย์กับคอมน้า
MIKA > ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ชั้นอยากคุยกับนายแบบสบายๆน่ะ ได้มั้ยล่ะ?
I-COM > โอ๊ะโอ๋? ชอบชั้นเข้าแล้วจริงๆรึไง?
MIKA > มุขฝืดแล้วย่ะ
I-COM > ว่าแต่เรื่องปล่อยเชลยไปนั่นน่ะ ไม่เป็นไรเรอะ?
MIKA > ตามระเบียบแล้วอยู่ในอำนาจของกัปตัน ไม่เป็นไรหรอก...คิดว่านะ
"8นาที19วิ..." โซลมองนาฬิกาจับเวลา ตรงหน้าเรนิสก็คือชามเปล่าที่เคยใส่ข้าวหน้าเนื้อขนาดพิเศษซูเปอร์ไซส์เอาไว้
"อร่อยมากเลยค่ะ! ฟรีจริงๆเหรอคะเนี่ย?"
"ก็ทำได้ทันเวลานี่นา แต่ถึงขั้นทำลายสถิติ9นาที2วิของอิทซึกิซังได้นี่นับว่าไม่ธรรมดาเลยนะแม่หนู" เจ้าของร้านชม
"ถ้าคุณอิทซึกิรู้ว่าแพ้สองรอบแล้วต้องร้องว้ากแหง" วารีว่า
"ขนาดนั้นเลยเรอะ?! งั้นก็ระวังหน่อยนา กินมากไปพอโตแล้วต้องมาลดน้ำหนักเปล่าๆ" เจ้าของร้านข้าวหยอกเรนิส
"เอ่อ...ถ้าไม่ว่าอะไร ชั้นขออีกชามได้มั้ยคะ?"
ประโยคขอร้องของเด็กหญิงทำเอาทุกคนในร้านอึ้ง...
"หน่วยลาดตะเวนถูกทำลายงั้นเหรอคะ?" อุมิโกะดูแผนที่ประกอบข้อมูลของเอมิลี่ ไรท์ ผู้อำนวยการเวลด้าอิเล็กทรอนิกสาขาดาวอังคาร ข้อมูลทั้งหมดลงวันที่เมื่อสามวันก่อนหน้า
"ฮื่อ...ส่งคนไปตรวจสอบดูแล้วยังไม่ได้ร่องรอยของศัตรูเลยนะ แต่คิดว่าคงเป็นพวกออเดอร์ บางทีพวกนั้นอาจจะเตรียมเข้าโจมตีที่นี่ก็ได้" เอมิลี่กดปุ่มที่แว่นอิเล็กทรอนิกของเธอเบาๆเพื่อปรับระดับการกรองแสง
"ถ้าไม่มีการติดต่อมาเลยก็แสดงว่าไม่ได้ตั้งตัวเลยสินะคะ แต่ดูจากตำแหน่งแล้วถึงจะถูกซุ่มโจมตี การจะหนีไปจากพื้นที่ตรวจสอบของเราได้ทันเวลาก็ต้องเป็นยูนิตที่มีความเร็วสูงมากทีเดียว...พอๆกับเรย์ซีรี่ส์เลยนะนี่"
"ชั้นเพิ่มการป้องกันของที่นี่เป็นสองเท่าแล้วนะ แต่อยากให้พวกเธอเตรียมตัวให้พร้อมเผื่อกรณีฉุกเฉินด้วย"
"ผอ.หมายความว่าถ้าจำเป็นจะให้เซฟาลอสหนีเอาตัวรอดไปก่อนสินะคะ"
เอมิลี่พยักหน้าเป็นเชิงรับ
"ตอนนี้เซฟาลอสมีความสำคัญยิ่งกว่าจะเป็นแค่ยานรบรุ่นต้นแบบแล้วนะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ กัปตันเกรแฮมอุตส่าฝากยานลำนี้ให้ชั้นดูแลทั้งที กว่าจะมาถึงที่นี่ได้ต้องสละชีวิตไปไม่รู้เท่าไหร่ ชั้นไม่มีทางยอมให้ถูกทำลายได้แน่นอนค่ะ" อุมิโกะยืนยันพร้อมยกหมัดขึ้นประกอบ
"มิสฟุจิวาระ ชั้นว่าเกรแฮมคงดีใจอยู่บนสวรรค์ที่เธอพายานของเค้ามาถึงนี่ได้นะ เรื่องที่พวกเธอผ่านมาน่ะ ไม่มีสอนในตำราของโลกหรอก"
"ไม่หรอกค่ะ เพราะทุกคนช่วยกันต่างหาก"
"ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ให้ถือว่าการนำเซฟาลอสไปให้ถึงโลกเป็นภารกิจหลักของพวกเรา อย่าลืมว่าศัตรูของเราไม่ใช่แค่ออเดอร์แล้วนะ"
"เข้าใจแล้วค่ะ" อุมิโกะคิดถึงศัตรูที่ยิ่งใหญ่กว่าออเดอร์ฯอย่างเทียบไม่ได้ สหพันธซีเวล...
หน่วยมาร์สเรเดอร์ กองกำลังออเดอร์ออฟแอสเซนชั่น
"ยอดมากเลย ออกแบบให้บินบนโลกได้สินะ" นักบินของAMรุ่นใหม่บอกวิศวกร
"ครับ เปิดตัวโอซิริสให้ยิ่งใหญ่ไปเลยนะครับ ร้อยโทมัลลิแกน"
"ฮะๆ ได้เลย รับรองว่าถ้าถ่ายวิดิโอไว้ เฮอร์แมนเอาไปโฆษณาได้แน่ เอาล่ะ ไปกันเลย...ได้หยอกพวกสุนัขรับใช้ไดเร็กเตอร์แล้วล่ะ!"
"เวรเอ๊ย! เลือกเวลาบุกได้ดีจริง พับผ่า!" อิทซึกิบ่นพลางเตรียมเอาเรย์ไฟเตอร์ออกรบ สัญญาณเตือนภัยดังลั่น
"เซฟาลอสยังซ่อมไม่เสร็จ พวกโซลก็ยังไม่กลับมากัน งั้นก็มีแต่พวกเรากับกำลังป้องกันตัวของเวลด้าสิ มีสายลับในนี้มั้ง" มาร์คออกความเห็น
"การเชื่อมต่อกับลิฟเตอร์วิงไม่พบสิ่งผิดปกติ ศัตรูบุกเข้ามาทางด้าน 12นาฬิกา ได้เวลาทำสงครามกลางอากาศกันแล้วสินะครับ" เทียนหลงเช็กระบบเครื่อง
"ระวังด้วยนะ ผอ.เวลด้าเตือนเรื่องAMรุ่นใหม่ของศัตรูมาด้วยล่ะ" หลิงติดต่อเข้ามา
"น่าสนุกนี่หว่า แผนคราวนี้เอาไงดี มาร์ค?" อิทซึกิบิดนิ้วเล่น
"พวกเราไปหยุดพวกมันไว้ที่แอเรียN3ก็แล้วกัน ให้เวลด้าส่งคนไปช่วยซักสองหน่วยแล้วตรึงกำลังหลักไว้ที่นี่"
"จะดีเหรอครับ?" เทียนหลงไม่แน่ใจ
"ก่อนเซฟาลอสจะไปจากดาวอังคารมันต้องไม่เลิกราง่ายๆแน่ แต่วันนี้คงมาหยั่งเชิงเราก่อน ยังไงก็ต้องพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด"
"แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นเราก็แย่สิครับ"
"เฮ้ย มันต้องเสี่ยงกันหน่อยสิ! สิบโท!" อิทซึกิว่า
"เฮ้อ! เอาก็เอาครับ! "
"สถานการฉุกเฉินแบบนี้การเดินทางไปเวลด้าถูกระงับหมดค่ะ" วารีอธิบายให้โซลกับเรนิสฟังแข่งกับเสียงหวอเตือนภัย ตอนนี้ทั้งสามคนติดค้างอยู่ที่สถานีลิเนียร์คาร์ ผู้คนที่ติดค้างในสถานีทำให้สภาพของที่นี่พลุกพล่านพอสมควร โซลใช้ตัวเองกันคนอื่นให้เรนิสมีที่ยืนได้สบายสักหน่อย
"งั้นพวกเราก็ติดอยู่นี่ทั้งที่พวกคุณอิทซึกิสู้อยู่เหรอคะ?"
"ถ้ากำลังป้องกันตัวของอาณานิคมเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ จะเป็นการละเมิดสนธิสัญญา ที่นี่อาจถูกโจมตีได้ทันทีค่ะ"
"งั้นก็ไม่มีทางทำอะไรจริงๆสินะครับ"
"ค่ะ" วารีก้มหน้า ในใจรู้สึกเป็นห่วงพวกอุมิโกะนิดๆ ส่วนเรนิสมีท่าทางกระสับกระส่าย ซึ่งวารีเดาเอาว่าถ้าไม่ใช่เพราะคนแน่นเธอคงเดินพล่านแล้ว
แนวป้องกันที่สามของเวลด้าอิเล็กทรอนิก สาขาดาวอังคาร
"เร็วมาก!" มาร์คสาดกระสุนใส่โอซิริส AMรุ่นใหม่ของออเดอร์ซึ่งใช้รูปทรงที่สมดุลย์คล้ายกับเรย์ไฟเตอร์ ปีกด้านหลังที่มีขนาดใหญ่ไม่ต่างจากลิฟเตอร์วิงทำให้เกิดแรงยกสำหรับร่อนกลางอากาศเหมือนกัน
"อย่ามาดูถูกกันสิวะ" มัลลิแกนดึงดาบแสงก่อนหลบเข้าหาในระยะประชิด
"ชิ" มาร์คดึงเครื่องหลบ แขนซ้ายถูกฟันขาดกระเด็น ลำแสงจากปืนอนุภาคของสไตรเกอร์ทำให้มัลลิแกนต้องถอยมาก่อน
"อืดอาด!" เรลกันของโอซิริสยิงใส่เรย์สไตรเกอร์ แต่เกราะที่หนากว่าปกติช่วยป้องกันไว้ได้
"หนอย...เจ้านี่เก่งชะมัด!" เทียนหลงเปลี่ยนมาใช้ปืนแก็ตลิ่ง แต่มัลลิแกนใช้ความเร็วที่เหนือกว่าบินหลบได้ มาร์คยิงมิสไซล์มาช่วยซึ่งก็พลาดเป้าเช่นกัน
"ฮีโร่มาแล้วจ้า!!!" อิทซึกิยิงโจมตีด้วยปืนแสง
"บีมไรเฟิลเรอะ...อย่าคิดว่าแค่อาวุธดีกว่าจะทำอะไรชั้นได้นะ!" มัลลิแกนยิงเรลกันตอบโต้
"หลบได้เรอะ...แต่ว่ารูปแบบการเคลื่อนไหวนั่น..." อิทซึกิยกโล่ป้องกันตัวพร้อมกับเก็บปืนแสงไว้กับฮาร์ดพ้อยน์ที่ปีกก่อนขว้างโล่ใส่โอซิริส
"เฮ้ย!" มัลลิแกนบังคับให้โอซิริสลดระดับความสูงอย่างรวดเร็ว เรย์ไฟเตอร์ที่พุ่งตามโล่มาฟันพลาดไปนิดเดียว อิทซึกิรีบใช้เท้าของเรย์ไฟเตอร์ถีบใส่โอซิริสก่อนจะถูกสวนกลับ
"ทริกแบบนี้...เคอเบรอสสินะ!!" โอซิริสปรับทิศทางแล้วเร่งเครื่องไม่ให้กระแทกพื้นได้ทันท่วงที
"หลบได้...ท่าทางจะเคยโดนไม้นี้ไปแล้วสินะ..." อิทซึกิดึงเครื่องหลบการโจมตีจากฮอรุสซึ่งใช้บูสเตอร์เสริมทำให้บินได้ พร้อมปลดปืนกลจากฮาร์ดพ้อยน์มาถือไว้
"เป็นอะไรมั้ยครับ ร้อยโท?" ลูกน้องของมัลลิแกนถาม
"ไม่เป็นไร ชั้นจะจัดการเจ้านั่นเอง พวกนายบุกเข้าไปต่อ"
"ดีล่ะ มาร์ค! เทียนหลง! ชั้นจะจับไอ้รุ่นใหม่นั่นเอง! พวกนายช่วยเก็บที่เหลือก็แล้วกัน!"
"งั้นก็ฝากด้วยแล้วกัน"
"ชั้นจะทวงเรื่องที่เดมอนเกตคืนวันนี้ล่ะ!! เคอเบรอส!" มัลลิแกนชักดาบแสงออกมาพุ่งใส่เรย์ไฟเตอร์
"วันนั้นโชคดีรอดมาได้ แต่คราวนี้อย่าหวังจะรอดไปเชียวล่ะ!" อิทซึกิใช้ดาบของตัวเองฟันออกไป สนามพลังงานจากดาบแสงสองเล่มปะทะกันเกิดเป็นแรงผลักและประกายเจิดจ้าจากพลาสม่าที่กระจายออกมา
"ความเร็วก็พอๆกันเรอะ?" ระบบของโอซิริสเตือนมัลลิแกนว่าดาบของศัตรูมีกำลังมากกว่า นั่นคือดาบของเขาจะต้านได้ไม่นานนัก
"เอ๋?" โอซิริสยิงปืนกลเล็กจากหัวไหล่ใส่เรย์ไฟเตอร์ในระยะประชิด แต่ปฏิกิริยาของอิทซึกิก็ไวพอที่จะถอยหลบออกมาก่อนจะโดนยิงเซนเซอร์จังๆ
"ไม่ง่ายหรอกเฟ้ย!" อิทซึกิสลับอาวุธกลับมาเป็นปืนแสงอีกครั้งก่อนยิงโต้ตอบกลับไป มัลลิแกนดึงเครื่องหลบมาได้ก่อนใช้เรลกันยิงสวนกลับไปบ้าง ตอนนี้ทั้งสองเครื่องบินฉวัดเฉวียนด้วยความเร็วพร้อมกับยิงอาวุธใส่อีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
"เหวอ!" ปีกซ้ายของเรย์ไฟเตอร์ถูกยิงพัง กำลังขับเคลื่อนที่ตกลงในขณะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงทำให้เสียหลักทันที
"เสร็จชั้นล่ะ เคอเบรอส!!" มัลลิแกนเตรียมยิงปิดฉาก จากมุมด้านบนนี้ การเล็งศัตรูที่เสียหลักเป็นเรื่องง่ายๆ
"ยังหรอกเฟ้ย!!" อิทซึกิยกโล่ขึ้นรับได้ทันท่วงทีพร้อมปรับองศาให้หันไปหาศัตรูก่อนสั่งปลดลิฟเตอร์วิงก์ออก ตำแหน่งของเขาในตอนนี้นับว่าเสียเปรียบอย่างมาก ทันใดนั้นเอง เครื่องบินลำหนึ่งก็พุ่งเข้าหาโอซิริสพร้อมกับยิงมิสไซล์ใส่ในระยะประชิด
"ชิ!" มัลลิแกนหลบมิสไซล์ที่พุ่งเข้าหาได้ แต่ลำแสงจากเรย์ไฟเตอร์ก็ยิงโดนแขนขวาที่ถือเรลกันขาดกระเด็น
"ฮึ่ย...มุมนี้เล็งยากเป็นบ้า!" อิทซึกิรีบบังคับเครื่องให้ใช้เท้าลงพื้นก่อนยกปืนขึ้นยิงต่อแต่โอซิริสหลบได้
"เคอเบรอส...แก!" ถึงจะโกรธแค่ไหน แต่มัลลิแกนก็จำได้ว่าโอซิริสยังเป็นแค่รุ่นต้นแบบซึ่งข้อมูลการใช้งานมีความสำคัญมาก การสู้ต่อจึงนับว่าเสี่ยงเกินไป
"ช่วยไม่ได้...ทดสอบภาคสนามเอาแค่นี้ก็แล้วกัน ทุกหน่วยถอนตัว!" มัลลิแกนใช้ความเร็วสูงสุดหนีไปจากระยะของเรดาร์พร้อมกับลูกน้องที่ถอยตามออกไป
"ต้องขอบคุณนักบินคนนั้นจริงๆแฮะ" หน้าจอของเรย์ไฟเตอร์แสดงความเสียหายจากการกระแทกพื้นเมื่อครู่ มอเตอร์เข่าข้างขวาพังเสียแล้ว
"มันแค่มาหยั่งเชิงจริงๆด้วยล่ะครับ" เทียนหลงพึมพำ
"อย่าเพิ่งชะล่าใจล่ะ ตอนที่คิดว่าปลอดภัยแล้วนี่อันตรายที่สุดเลยล่ะ" มาร์คเตือน
"ไม่มีสัญญาณการเคลื่อนไหวในพื้นที่ใกล้เคียง จะลดระดับการป้องกันลงมั้ยครับ?" เจ้าหน้าที่ของเวลด้าถามความเห็นอุมิโกะ
"ให้เตรียมพร้อมไว้แล้วส่งกำลังออกลาดตะเวณค่ะ อาจจะมีศัตรูที่ใช้ระบบกวนสัญญาณแบบพาสซิฟแอบเข้ามาก็ได้ ว่าแต่เครื่องบินลำนั้น..."
"ฟอร์ซเบรคเกอร์ เครื่องบินที่ใช้เทคโนโลยีของAMด้วยน่ะนะ...ว่าแต่ใครอนุญาตให้เอาไปใช้น่ะ?" เอมิลี่อธิบาย
"เปล่าครับ สิบเอกเรติน่าเอาออกไปเอง"
"ว่าแล้ว เผลอเป็นไม่ได้สิน่า หนุ่มๆสาวๆก็เลือดร้อนแบบนี้สินะ...คุณจำชื่อสิบเอกเรติน่า ฟรานเธียร์ไว้ให้ก็แล้วกัน มิสฟุจิวาระ เพราะต่อไปคุณต้องเป็นคนจับนกน้อยตัวนี้ใส่กรงแทนชั้นแล้วล่ะ" เอมิลี่ยกมือกุมหัวด้วยความกลุ้ม
อุมิโกะรู้สึกคุ้นๆ ตอนนี้เลยนึกได้ว่าชื่อนี้เป็นหนึ่งในนักบินลูกเรือใหม่ที่จะเข้าประจำการบนเซฟาลอส
"แหม คุณเอมิลี่จงใจโยนตัวปัญหามาให้ชั้นรึเปล่าคะเนี่ย?"
"ก็ไม่เชิง นักบินที่ฝึกมาเพื่อควบคุมฟอร์ซได้น่ะมีไม่กี่คนหรอกนะ แล้วมิสฟรานเธียร์ก็เป็นคนเดียวที่เราพอจะปล่อยไปได้น่ะ"
"ฟังดูเหมือนของเหลือใช้เลยนะคะ"
"เอ่อ...ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ฮะๆๆ" เอมิลี่หัวเราะกลบเกลื่อน
"เฮ้อ! ไฟเตอร์โดนซะขนาดนี้เป็นครั้งแรกเลยนา" อิทซึกิบ่นอุบ ตอนนี้ช่างเทคนิคช่วยกันซ่อมแซมเรย์ซีรีส์ทั้งสามเป็นการใหญ่
"นักบินคงเป็นระดับเอซล่ะมั้ง" มาร์คว่า
"ชัวร์ป้าด! คนที่รับไม้ตายก้นหีบของชั้นได้น่ะ จะดักดานแค่พลทหารได้ไง จริงป่ะ?"
"ทริกขว้างโล่น่ะเหรอครับ? ไอ้ของแบบนั้นไม่เคยโดนกับตัวเองเป็นรับมือไม่ถูกด้วยสิน้า..." เทียนหลงนึกย้อนถึงตอนที่เคยดวลซิมูเลเตอร์กับอิทซึกิ
"อีกอย่างนึง ชั้นจำแพทเทิร์นการเคลื่อนไหวนั่นได้ดีเลยล่ะ...ที่เดมอนเกต"
"นายหมายถึง'เหยี่ยว' มัลลิแกน แฟนนิ่งสินะ" มาร์คผงกศรีษะนิดๆ ถ้าเป็นศัตรูระดับนั้นที่โดนโจมตีมาก็เป้นเรื่องธรรมดา
"เจอกันคราวหน้าชั้นจะกัดมันให้เละเลย! อ๊ะ นั่นมันเครื่องบินที่ช่วยชั้นไว้นี่นา ใช้เทคโนโลยีของAMมาผสมด้วยสินะ" อิทซึกิชี้ไปทางอีกฟากของโรงเก็บ เครื่องบินลำหนึ่งจอดนิ่ง ท่อขับดันหลักพับลงด้านล่างเป็นขาในลักษณะพร้อมนำเครื่องขึ้นในแนวดิ่ง หญิงสาวในชุดเครื่องแบบนักบินพิเศษสังเกตเห็นพวกอิทซึกิแล้วเดินมาหา
"คนนั้นเป็นนักบินมั้งครับ?" เทียนหลงเดา
"วิ้ว! หน้าตาก็สวยดีนะ แต่มัดหางม้าสองเส้นแบบนั้นดูเด็กๆไปหน่อย" มาร์ควิจารณ์ เธอเดินมาแล้วมองหน้าอิทซึกิ
"รุ่นพี่อิทซึกิ?"
"เอ๋? จะว่าไปเธอก็หน้าคุ้นๆนะ...แว้ก!!" จู่ๆอีกฝ่ายก็กระโดดเข้ากอดอิทซึกิจนแทบหงายหลัง
"รุ่นพี่! รุ่นพี่จริงๆด้วยล่ะ! เรติจังไง? จำได้รึยังคะ?"
"ดะดะ...เดี๋ยวก่อน! จู่ๆมาทำแบบนี้เดี๋ยวใครก็เข้าใจผิดหรอก!"
"โฮ่ ถ้ากัปตันรู้เข้าคราวนี้จะโดนอะไรบ้างนะ นายอิทซึกิ?" หลิงละสายตาจากการซ่อมแซมชั่วคราว
"เฮ้ย! อย่านะเฟ้ย! เธอก็รู้นี่ว่ายายนั่นฟันกระเบื้องสี่แผ่นได้สบายน่ะ!" อิทซึกิโวย
"โฮะๆๆ ชักอยากยายนั่นฟันกระโหลกนายขาดสองท่อนแล้วสิ"
"อะไรกันคะ? กัปตันของยานลำนี้ใจร้ายกับรุ่นพี่มากเลยเหรอคะ?"
"เอ่อ...เอาเป็นว่าที่คุณกอดคุณอิทซึกิอยู่ก็เป็นการฆ่าเค้าทางอ้อมแล้วล่ะครับ" เทียนหลงพูดอ้อมแอ้ม รู้สึกอายแทน
"อุ๊ย! ขออภัยค่ะ ลืมตัวไปหน่อย" เธอปล่อยมือจากอิทซึกิ ก่อนจะถอยมาทำความเคารพทั้งสามคน
"สิบเอกพิเศษเรติน่า ฟรานเธียร์ สังกัดหน่วยทดสอบอาวุธ ต่อไปจะเข้าประจำบนยานเซฟาลอส ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
"เรติน่า...เรติจัง...อ๊ะ จำได้แล้ว! ยายขี้แยเองหรอกเรอะ" อิทซึกิทุบมือ
"จำได้จริงๆด้วย! รุ่นพี่รู้มั้ยคะ สองปีสุดท้ายพอไม่มีรุ่นพี่คอยดูแลแล้ว...แง!" เรติน่าร้องไห้ออกมา
"เอาอีกละ...เธอนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ..." อิทซึกิถอนใจเบาๆ
"ชั้นดีใจนี่คะ...อุตส่าสอบขับยานความเร็วสูงเพื่อมาประจำการที่ดาวอังคารจะได้เจอรุ่นพี่แท้ๆ...แต่รุ่นพี่กลับย้ายไปซะก่อนได้"
"ว้าว เห็นเป็นเมคาโอทาคุไม่สนใจหญิง จริงๆแล้วร้ายนี่หว่า อิทซึกิ" มาร์คหยอก
"ช่าย! นึกว่าแค่เป็นโลลิคอนอย่างเดียวซะอีก เอาเลย อิทซึกิ! แสดงความเป็นลูกผู้ชายใช้อกสามศอกของนายซับน้ำตาเลย!" หลิงตะโกนเชียร์
"จะบ้าเรอะพวกแกน่ะ" อิทซึกิรู้สึกรำคาญขึ้นมาแล้ว
"แต่ว่าสอบขับยานความเร็วสูงได้นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะครับ เท่าที่จำได้รู้สึกว่าถึงตอนนี้ คนที่ได้สอบผ่านได้มีไม่ถึง20คน" เทียนหลงตัดบทให้
"เอ่อ...มันก็ยากอยู่ค่ะ ชั้นต้องฝึกพิเศษอยู่ตั้งปีแน่ะ"
"แต่ก็สอบผ่านในครั้งเดียวสินะครับ" เทียนหลงถอนใจ ตัวเขาเองก็เคยสอบไม่ผ่านมาแล้ว
"ยายขี้แยนี่มีพรสวรรค์นะ เพียงแต่ยอมแพ้อะไรง่ายไปหน่อย เธอทนฝึกพิเศษได้ตลอดปีเชียวเรอะ"
"แหะๆ ก็จะเลิกไปหลายครั้งเหมือนกันค่ะ แต่ว่า..."
"แต่ว่า?" หลิงถามไม่ให้ขาดตอน
"พอคิดว่าจะได้เจอรุ่นพี่ทุกวัน แล้วก็ที่รุ่นพี่ดุเพราะยอมแพ้ง่ายๆก็เลยมีใจสู้ขึ้นมาค่ะ แค่ความเร็ว10กว่าGไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ...แต่ว่า..."
"แต่ว่า?" คราวนี้มาร์ครับช่วง
"พอได้มาประจำที่นี่จริงๆรุ่นพี่กลับไม่อยู่แล้วน่ะสิคะ...แง!"
"ยู้ด! เธอร้องไห้อีกชั้นโกรธจริงๆด้วยเอ้า!" ได้ผล เสียงร้องไห้ของเรติน่าเหลือแต่สะอื้น
"แต่ว่าเธอบอกว่าจะมาประจำการที่เซฟาลอสแล้วสินะ งั้นก็ได้เจอหน้าไอ้หมอนี่จนเซ็งแหงๆ" มาร์คออกความเห็น
"แต่ว่านะ เธอจ๋า...ตอนนี้เธอมีคู่แข่งตั้งสองคนเชียว ถ้าไม่รีบทำคะแนน รุ่นพี่จะหลุดมือไปนะจ้ะ" หลิงหยอก
"คู่แข่ง? คู่แข่งอะไรเหรอคะ?"
"ไม่ต้องไปสนใจยายช่างทอมบอยนั่นหรอก เอาเป็นว่า...ขอบคุณที่ช่วยชั้นไว้นะ เรติจัง"
"อะ...ไม่เป็นไรค่ะรุ่นพี่! ถ้ารุ่นพี่ต้องการล่ะก็ ให้ชั้นทำอะไรก็ได้ค่ะ!"
"งั้นก็เลิกใช้คำพูดชวนเข้าใจผิดทีเถอะ..." ชายหนุ่มปวดหัวตึ้บ ทำท่าว่าต่อไปนี้เรื่องจะยุ่งขึ้นอีกเยอะ
ความคิดเห็น