คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 4th Record: Enemy
19 พฤษภาคม UA 57 เวลา 11.45นาฬิกาตามเวลามาตรฐานโลก
ห้องซิมูเลเตอร์ ยานเซฟาลอส
"อยู่ล่ะ!!" เสียงเรนิสตะโกนจากซิมูเลเตอร์เครื่องหนึ่ง บนจอภาพ แองเจลิก้ายิงปืนแสงสกัดทางหนีของเรย์ไฟเตอร์ไว้ ก่อนจะยิงปิดฉาก
"ยังหรอก!" อิทซึกิพุ่งสวนเข้ามาตรงๆโดยใช้โล่รับกระสุนแสงที่ยิงเข้ามา ความร้อนจากปืนแสงทำให้ฮีตโค้ตของโล่ถึงกับแตก แต่เรนิสที่เผลอเปิดช่องว่างก็ถูกปืนกลที่ยิงสวนเข้ามาเต็มรัก
"แย่ล่ะ กล้องหลัก!" เรนิสรีบปรับระบบเซ็นเซอร์ หลบลำแสงที่ยิงเข้ามาใส่ได้พอดี ทั้งคู่สาดกระสุนเข้าหากันอย่างไม่ลืมหูลืมตาพร้อมกับบินหลบการโจมตีของอีกฝ่าย
"กลายเป็นด็อกไฟต์ไปแล้ว" เทียนหลงที่ดูจากมอนิเตอร์หลักออกความเห็น เรนิสที่เสียกล้องหลักไปพยายามเข้าประชิดตัว อิทซึกิก็พุ่งสวนเข้าไปเช่นกัน ประกายแสงจากดาบสะบัดเป็นสายตัดแองเจลิก้าขาดสองท่อนก่อนที่จอจะกลายเป็นสีดำมืด
"เฮ้อ!!" เรนิสถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนออกจากซิมูเลเตอร์
"ยะฮู้!! สะใจๆๆ สะใจว้อย!!" อิทซึกิตะโกนดังลั่นพร้อมกับกระโดดออกจากซิมูเลเตอร์อีกเครื่อง
"ชนะเด็กได้นี่น่าดีใจตรงไหนฟะ?" มาร์ครู้สึกทนดูไม่ได้
"ยังไงก็เถอะ เทียบกับอาทิตย์ก่อนแล้วเป็นคนละคนเลยนะ คุณหนู"
"ขอบคุณที่ชมค่ะ"
"เพราะมีอาจารย์ดีอย่างชั้นไง!" อิทซึกิโวแบบไม่สนใจสายตาของคนอื่น
"เรนิสจัง" เสียงอุมิโกะเรียกจากคอมมิวนิเคเตอร์
"ไปโรงอาหารแล้วเอาสลัดทูน่ามาจานนึง ใส่มายองเนสเยอะๆนะ แล้วก็น้ำส้มคั้น คาปูชิโนกับชาฝรั่งอย่างละที่ รีบหน่อยแล้วกัน อย่าลืมว่าที่นี่มีมนุษย์กินคนอยู่ด้วยนะจ้ะ" เธอหยอกดิมิคัส
"รับทราบค่ะ ชั้นขอตัวก่อนนะคะ" เรนิสหันมาบอกคนอื่นๆ
"ว่าแต่...ยายผู้ดูแลอยู่ไหนล่ะเนี่ย?" หลิงถามหลังจากที่เรนิสออกไปแล้ว
"นอนอยู่ห้องพยาบาลน่ะ ยายแว่นนั่นเพิ่งรู้เมื่อเช้าว่ายังเหลือกุ้งเก็บไว้ในสต็อคอีกตัวนึง เป็นกุ้งแม่น้ำตัวเบ้อเริ่ม แล้วแม่คุณก็ดันแพ้กุ้งซะได้" อิทซึกิตอบ
"เห็นว่าไม่เคยกินมาก่อนเลยซัดซะเต็มที่ซะด้วยสิ" มาร์คเสริมให้
"...ตกลงว่าเค้าดูแลคนอื่นได้จริงๆเรอะ?" หลิงขมวดคิ้ว
"ชั้นก็สงสัยอยู่เหมือนกันนา...ว่าแต่เธอช่วยเรนิสจังได้มากเลยนะเนี่ย" อิทซึกิหันมาพูดกับหลิง
"ตอนแรกผมก็คิดว่าคุณจะค้านการให้เรนิสเป็นนักบินแบบหัวชนฝาซะอีกนะครับ" เทียนหลงเสริม
"ทีแรกชั้นก็คิดแบบนั้นนะ" หลิงยอมรับ
"แต่คนที่เอาสมุดโน็ตไปขอให้ชั้นช่วยบรรยายข้อมูลทางเทคนิคแบบละเอียดยิบน่ะ ชั้นว่าไม่ใช่คนที่ออกไปรบอย่างไม่มีเหตุผลหรอก...เด็กคนนั้นตั้งใจมากเลยนะ"
"ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ เรนิสเค้าถามเกี่ยวกับอัตราเร่งของกาเซล ผมก็บอกไปว่าเรื่องเครื่องยนต์คุณหลิงน่าจะรู้เรื่องมากกว่า แค่นั้นล่ะ ไม่นึกว่าจะไปขอให้คุณช่วยเล็คเชอร์ให้" เทียนหลงว่า
"แหงล่ะ อย่างชั้นนี่เคยสนเรื่องเครื่องยนต์ซะที่ไหนล่ะ? ซัดให้มันสุดๆก็พอแล้วล่ะ!" อิทซึกิแทรก
"ช่าย แล้วก็มาลำบากคนซ่อมอย่างชั้นไงล่ะ..." วิศวกรสาวตัดพ้อเบาๆ
"แต่ชั้นก็รู้สึกนะ ตอนที่ซ้อมด้วยกันน่ะ เด็กคนนั้นกำลังสู้เพื่ออะไรบางอย่าง อะไรที่สำคัญมากสำหรับเค้าด้วย...มองหน้าชั้นแบบนั้นหมายความว่าไงน่ะ?" หันไปเอ็ดเทียนหลง
"เปล่าครับ แต่ผมเพิ่งรู้ว่าคุณอิทซึกิเข้าใจคนอื่นกับเขาได้ด้วย"
"แกหมายความว่าไงฟะ?"
"พบซากยานไม่ปรากฏสังกัดในบริเวณNESค่ะ คุณหลิงช่วยเตรียมอุปกรณ์กู้ซากด้วย" เสียงวารีประกาศขัดจังหวะพอดี
"เฮ้อ...งานน่าเบื่ออีกแล้วว้อย! เทียนหลง นายจัดการ!"
"อ้าว! ผมอีกแล้วเหรอ?"
"เดี๋ยวๆ ชั้นมีไอเดียดีๆแล้วล่ะ" มาร์คยกมือห้าม
15นาทีให้หลัง
"รู้สึกยังไงบ้างคะ น้องเรนิส?" วารีส่งสัญญาณติดต่อ ตอนนี้แองเจลิก้าที่ติดตั้งอุปกรณ์กู้ซากกำลังสำรวจซากยาน
"กำลังของแขนกลใช้ได้ 73% การตอบสนองของพาร์ตเสริมช้ากว่าที่ควรค่ะ"
"ศูนย์เล็งเบี่ยงไปเล็กน้อยนะ แต่ชั้นปรับให้แล้ว" ไอคอมพูดบ้าง
"ช่วยไม่ได้นี่นา อุปกรณ์กู้ซากมันใช้การเชื่อมต่อแบบIG-252น่ะเลยต้องใช้ยูนิเวอซัลล็อคเป็นตัวกลาง มันก็ต้องมีดีเลย์บ้างล่ะนะ" หลิงอธิบาย
"น้องเรนิสลองไปดูนะคะว่าคอมพิวเตอร์ประจำยานยังดีอยู่รึเปล่า ถ้าไม่เสียหายมากก็ดึงออกมาเลย แล้วก็ช่วยตรวจโมดูลอพยพด้วยนะคะว่ายังอยู่รึเปล่า"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
"ลองใช้ไบโอเซ็นเซอร์ตรวจหาปฏิกิริยาของสิ่งมีชีวิตดูด้วยนะ" โซลแนะ
"โรเจอร์"
"ใจเย็นๆไว้ แม่หนู! งานแบบนี้เน้นความละเอียดและถูกต้องมากกว่าความเร็วนะ!" อิทซึกิตะโกนให้กำลังใจ
"รับทราบค่ะ"
"บรรยากาศยังกับพ่อแม่ที่ไปเชียร์ลูกแข่งกีฬาสีเลยนะครับเนี่ย" เทียนหลงวิจารณ์
"ไม่ปรากฏสัญลักษณ์ที่สามารถระบุสังกัดของยานได้ค่ะ" เรนิสติดต่อกลับมาหลังจากสำรวจสภาพยานจากภายนอกอยู่ครู่ใหญ่
"งั้นเหรอ..." อุมิโกะทำท่าครุ่นคิด
"ยานชั้นเฟมเมลนี่ก็มีอยู่เกลื่อนซะด้วยสิ อาจจะเป็นของพลเรือนรึออเดอร์ก็ได้..."
"แต่ว่า...ไบโอเซ็นเซอร์จับปฏิกิริยาของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้ค่ะ"
"ที่ว่าใหญ่นี่ขนาดไหนล่ะเรนิสจัง?" อุมิโกะถามต่อ
"ไบโอเซ็นเซอร์บอกได้ไม่ละเอียดขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่สัญญาณของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็ขนาดช้างขึ้นไปนั่นล่ะค่ะ" วารีอธิบาย
"เอ๋? จะบอกว่ามีใครขนช้างขึ้นมาในอวกาศเรอะ?" อิทซึกิสงสัย
"หรือว่า...ปลาวาฬ?" อุมิโกะเสริม
"ของแบบนั้นคงไม่มีใครลงทุนหรอกค่ะ ไบโอเซ็นเซอร์อาจจะจับสัญญาณของชีวิตจำนวนมากเป็นสัญญาณเดียวก็ได้ คงเป็นผู้รอดชีวิตหนีไปรวมกันในห้องเดียวมากกว่า"
"งั้นก็ต้องหาทางกู้สินะ...แต่อาจจะเป็นกับดักก็ได้เหมือนกัน" โซลเสนอ
"ตรวจพบการกวนคลื่นสัญญาณที่ตำแหน่งNECค่ะ!" มิกะส่งสัญญาณเตือน พวกอิทซึกิกระโดดลงไปทางช่องฉุกเฉินที่เชื่อมกับโรงเก็บหุ่น
"เรียกเรนิสจังกลับมาก่อน! กำลังของศัตรูล่ะ?"
"เรียกไปแล้วค่ะ! ยานชั้นอามาคุสะหนึ่งลำกับคุจิระสองลำ ไม่สามารถระบุจำนวนAMได้ค่ะ!" วารีรายงาน
"ให้คุณโซลคุ้มกันเรนิสจังกลับมา! เรย์ทีมช่วยคุ้มกันเซฟาลอสไว้จนกว่าทั้งสองคนกลับเข้ามาถึงเซฟาลอส!"
"เข้าใจแล้ว!"
"มองเห็นAMของศัตรูแล้วค่ะ" เสียงเรนิสติดต่อกลับมา AMฮอรุสเข้าโจมตีเด็กหญิง
"ปลดอุปกรณ์กู้ซากออกซะ ติดของเกะกะแบบนั้นฉุดความเร็วเปล่าๆ" หลิงแนะนำ
"เข้าใจแล้วค่ะ! ไอคอม ปลดยูนิเวอซัลล็อค!" เรนิสสั่งการหลังจากที่โดนยิงเข้าไปหลายชุด แม้เกราะของแองเจลิก้าจะไม่เสียหายมากนัก แต่เพราะอุปกรณ์กู้ซากไม่ได้ออกแบบมาสำหรับสู้รบอยู่แล้วจึงเสียหายหนัก
"โรเจอร์" แองเจลิก้าสลัดอุปกรณ์เสริมออกไป ไอคอมรายงานสภาพโดยอัตโนมัติ
"โครงสร้างหลักไม่ได้รับความเสียหาย ไม่ได้ติดตั้งแบ็คแพ็ค การขับเคลื่อนลดลงจากปกติเหลือ40%"
"ก็ดีกว่าเมื่อกี้ล่ะน่า อาวุธมีมีดกับคลาวด์ลันเชอร์ คงสู้กับไอ้พวกนี้ยาก..."
"เป็นอะไรรึเปล่า?" เอ็กโซดพุ่งเข้ามาพร้อมกับเปิดพลาสม่าชาร์จเจอร์ที่ขา ความร้อนสูงทำให้ท่าเตะของเอ็กโซดทำลายศัตรูได้ในครั้งเดียว
"ปลอดภัยดีค่ะ"
"งั้นก็หนีกลับยานไปเลย ผมคุ้มกันให้เอง"
"แล้วคนในยานนั่นล่ะคะ?" เรนิสเพิ่งสังเกตเห็นปฏิกิริยาของชีวิตในยานแรงกว่าตอนแรกเสียอีก จริงๆแล้วดูเหมือนว่าปฏิกริยานี้จะแรงขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เธอเข้ามาใกล้
"เรื่องนั้นเอาไว้คุยกันตอนหลัง ตอนนี้รีบกลับยานไปซะ!"
"จับระดับแรงโน้มถ่วงผิดปกติได้จากพื้นที่WC" ไอคอมรายงาน
"อะไรน่ะ..."
"กัปตันคะ!" วารีอุทานออกมาพร้อมกับที่มิกะแสดงข้อมูล
"เหมือนกับที่วีนัสริงเลย...โอเวอร์สจัมป์ (OverS Jump - Over Space Jump)!"
แรงโน้มถ่วงสูงผิดปกติรุนแรงขึ้นก่อนจะสลายไปพร้อมกับที่ยานรบขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
"ยืนยันเป้าหมาย กลุ่มสหพันธซีเวล...จะให้มิกะส่งสัญญาณติดต่อมั้ยคะ?"
"ไม่ต้อง! กางสนามพลังเต็มที่แล้วยิงมิสไซล์สวนไปเลย!"
ตามที่เธอคาดไว้ ศัตรูยิงลำแสงโจมตีโดยไม่มีการเตือนใดๆ เซฟาลอสยิงมิสไซล์ตอบโต้
"ผนังของบล็อกC แตกแล้วค่ะ! มิกะตัดระบบหมุนเวียนอากาศเรียบร้อยแล้ว PSของศัตรูแยกไปทางพวกเรนิสแล้วค่ะ เป็นกันเนเมอร์แล้วก็ฝูงชาล็อกค่ะ!"
"ถึงกับทิ้งยานรบไว้ให้ซัดกับเราตัวๆนี่ แปลว่าภารกิจของพวกมันอยู่ทางโน้นสินะ และเป็นภารกิจสำคัญที่ถึงตายก็ต้องทำให้ได้ซะด้วย"
"อะไรน่ะ? ศัตรูเหรอคะ?" เรนิสงง ข้อมูลที่ไอคอมโหลดขึ้นมามีแต่รายละเอียดที่ไม่คุ้นตาทั้งนั้น แต่นั่นหมายความว่าเซฟาลอสเคยเจอพวกนี้มาแล้ว...Powered Striker...XX-02 Gann Nemor...XX-01 Shaloc...
"ใช่เลย...ศัตรู..."
กันเนเมอร์ ศัตรูที่เข้ามาใหม่แม้จะมีลักษณะเหมือนชุดเกราะหนาแบบกาเซลแต่คล่องตัวกว่ามาก มันพลิกปืนใหญ่ที่พับไว้ด้านหลังในตำแหน่งเตรียมยิงแล้วหมุนกระจุกเซนเซอร์ที่ตา ก่อนยิงลำแสงอันรุนแรงออกมา AMของออเดอร์ฯที่อยู่ในวิถีของลำแสงถูกทำลายในครั้งเดียว
"ชิ!" โซลใช้เอ็กโซดบังแองเจลิก้าที่หลบไม่ทันไว้
"คุณโซล?!"
"ผมไม่เป็นไร! รีบกลับไปเซฟาลอสกันก่อน!" โซลเหลือบดูหน้าจอแสดงสภาพของเอ็กโซด รีเฟล็คท์โค้ตได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย กองกำลังของออเดอร์ฯดูจะสับสนต่อการปรากฏตัวของผู้มาเยือนมากทีเดียว ตอนนี้แทบไม่มีฮอรุสเครื่องไหนสนใจพวกโซลแล้ว ชาล็อก รูปร่างคล้ายกระสวยที่มีสว่านอยู่ด้านหน้าบินชนทุกอย่างที่ขวางทางก่อนจะระเบิดราวกับเป็นมิสไซล์
"โอกาสล่ะ...ตามมาดีๆล่ะ" โซลบอกเรนิส
"โรเจอร์"
"พวกมันไม่ค่อยสนใจเราซักเท่าไหร่เลยนี่...ยานลำนั้น!" โซลสังเกตเห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของศัตรู ลำแสงถูกระดมยิงอย่างต่อเนื่องใส่ซากของยานเฟมเมล
"ไม่นะ!" เรนิสกรีดร้อง เมื่อซากของเฟมเมลระเบิดไม่เหลือชิ้นดี
"ใจเย็นๆ เรนิส" เอ็กโซดดึงแองเจลิก้าไปทางเซฟาลอส
"แต่ว่า...แต่ว่า...มีคนอยู่ในนั้น..." โซลได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆจากวิทยุ
"อ่า...ตอนนี้เราต้องเอาตัวรอดก่อนนะ" ไอคอมตอบแทน
"ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้..." โซลชะงัก วัตถุบางอย่างออกมาจากซากของเฟมเมลที่ระเบิดไปแล้ว รูปร่างของมันคล้ายกับAMที่ร่างกายท่อนล่างขาดหายไป แต่รูปร่างผอมเพรียวคล้ายกับเป็นหนังหุ้มกระดูกนั้นทำให้เขานึกถึงอย่างอื่น...
"ปฏิกิริยาของไบโอเซ็นเซอร์มาจากเจ้านั่นเองเหรอ?" เรนิสพึมพำ กันเนเมอร์ระดมยิงลำแสงใส่ร่างนั้น ส่วนฝูงชาล็อกก็พุ่งเข้าเกาะไว้เป็นกลุ่มแล้วระเบิดตัวเอง เพียงไม่นานร่างนั้นก็หายไปจากสายตา
"ว้าย!!" ชาล็อกเครื่องหนึ่งพุ่งชนแองเจลิก้าจากด้านหลัง แขนกลโผล่ออกมาจับไว้พร้อมกับที่สว่านเจาะเข้ามา
"แย่ล่ะ! ด้านหลังนี่เกราะเราคงทนได้ไม่ถึง15วิน่ะ!" ไอคอมรายงาน
"โธ่เว้ย!" เรนิสพยายามสลัดชาล็อกออกไปแต่ไม่ได้ผล เอ็กโซดของโซลตามมาช่วยแต่ก่อนจะโจมตีก็มีฮอรุสบินเข้ามาแล้วใช้ทวนคลื่นความถี่สูงเจาะทำลายชาล็อกให้ซะก่อน
"เอ๋?" เรนิสสงสัย เธอไม่เคยคิดว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากออเดอร์ฯ
"เฮ้! เป็นอะไรรึเปล่า?" เรย์ไฟเตอร์ของอิทซึกิตามมาสมทบ
"พวกมันยิงแหลกไม่รู้ใครเป็นใครแล้ว พวกออเดอร์เลยขอสงบศึกชั่วคราวน่ะ!"
"ด้วยความยินดีเลยครับ งั้นผมช่วยคุ้มกันเรนิสกลับไปเซฟาลอสก่อนแล้วกัน" โซลว่า
"รับทราบ เอาล่ะ เชือดมันให้หมดเฟ้ย!"
"นายเป็นหัวหน้าหน่วยรบสินะ" นักบินฮอรุสติดต่อมาหาอิทซึกิ เป็นเสียงผู้หญิง
"เดาถูก! ร้อยโทอิทซึกิ คายามะสังกัดหน่วยรบอิสระที่ 8จ้า!"
"ชาล็อต โรบิน การรบครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้ก็แล้วกัน...ทหารไดเร็กเตอร์"
"ฮะ! อย่ามายิงโดนพวกเราก็พอแล้วล่ะ"
"คุจิระถูกทำลายไปหนึ่งลำ! แองเจลิก้ากลับเข้ามาแล้วค่ะ!" วารีแจ้งอุมิโกะ
"ดีล่ะ เปลี่ยนฟอร์เมชั่นให้เรย์ทีมเป็นนำเป็นสเปียร์เฮด! เป้าหมายก็คือยานแม่ของศัตรู เอ็กโซดช่วยป้องกันด้านนี้ด้วย!"
"รับทราบค่ะ! เอ่อ...เรนิสขอเอาแองเจลิก้าออกไปรบอีกค่ะ..."
"...ไม่ได้"
"ทำไมล่ะคะ?!" เรนิสตะโกนจากห้องควบคุม
"ตอนนี้ยังไว้ใจฝีมือเธอไม่ได้น่ะสิ"
"ชั้นเก่งขึ้นแล้วนะคะ!"
"ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือความพร้อมของทีมนะ เธอยังไม่เคยทำงานเป็นทีมไม่ใช่รึไง?" อุมิโกะกอดอก ทำท่าขึงขัง
"เรื่องนั้นมัน..."
"เอาเถอะ เตรียมพร้อมไว้ก็แล้วกัน ถ้าจำเป็นจริงๆชั้นจะให้เธอออกไป"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
"อิทซึกิ เทียนหลง ใช้Aฟอร์เมชั่น!" มาร์คให้สัญญาณ
"แหม! ชั้นชอบการยิงแหลกที่สุดเลยล่ะ ยะฮู้!!" เรย์ซีรี่ส์ทั้งสามเครื่องรวมกลุ่มกันระดมยิงเป้าหมายด้วยปืนกล กันเนเมอร์ของสหพันธซีเวลมีพลังเหนือกว่าAMทั้งสามก็จริง แต่ฝีมือของพวกอิทซึกิก็สามารถชดเชยความแตกต่างด้านสมรรถนะได้ พวกอิทซึกิแยกกันไปคนละทางก่อนที่ศัตรูจะยิงเข้ามากลางแถว
"เย้! ช้าไปสิบปี! อย่ามาดูถูกมนุษย์โลกนะโว้ย!" อิทซึกิยิงลำแสงตอบโต้ แต่ละนัดทำลายกันเนเมอร์ราวกับจับวาง
"ไอ้บ้า ถือว่ามีอาวุธดีนะ" เรย์เทรซเซอร์ไม่มีอาวุธที่ใช้ทำลายศัตรูได้ในนัดเดียวเหมือนเครื่องอื่นแต่มาร์คก็ยังใช้ปืนกลและมิสไซล์ทำลายเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง การโจมตีของเขาเปิดทางให้อิทซึกิบินเข้าโจมตียานรบของศัตรูได้สะดวกขึ้น
'สองคนนั่นยังกับอาวุธทำลายล้างเลยแฮะ' เทียนหลงคิดในใจ เรย์สไตรเกอร์ของเขามีความคล่องตัวเทียบกับอีกสองเครื่องไม่ได้ ตอนนี้เลยได้แต่กลับมายิงสนับสนุนจากแนวหลังให้แน่ใจว่าไม่มีชาล็อกเข้าใกล้ทั้งสองคนได้ แสงสว่างวาบเมื่อยานอามาคุสะของออเดอร์ระเบิด เมื่อเทียบกับเซฟาลอสแล้วทหารออเดอร์ไม่มีประสพการณ์กับหุ่นรบของสหพันธซีเวลเลยจึงได้รับความเสียหายมากกว่า
"ฮอรุสเครื่องนั้นน่ะ เป็นอะไรรึเปล่า?" เทียนหลงเป็นห่วงพันธมิตรชั่วคราวของเขาขึ้นมา
"ไม่ต้องมาสนใจหรอก รีบทำลายยานลำนั้นซะ" เสียงชาล็อตตอบกลับมา
"เรื่องนั้นไม่ต้องบอกหรอกครับ แต่พวกคุณเสียหายมากแล้ว ถอยไปให้พวกเราจัดการกันดีกว่า"
"ไม่ต้องมาห่วง'ศัตรู'หรอกน่า"
"ตอนนี้เป็น'พันธมิตร'ครับ"
"พันธมิตรชั่วคราว" ชาล็อตเน้นเสียง
"ครับๆ ชั่วคราวก็ชั่วคราว"
"อย่าหวังจะผ่านไปได้เลย!" เอ็กโซดพุ่งเข้ารับลำแสงของศัตรูตรงๆ รีเฟล็คโค้ตที่หุ้มเกราะอยู่ทำให้ลำแสงจากกิก้าไดรเวอร์ของกันเนเมอร์แทบไม่มีผล พลาสม่าชาร์จเจอร์ติดเป็นสนับมือชกใส่หัวของกันเนเมอร์ก่อนใช้เข่ากระแทกซ้ำที่ลำตัว โซลดึงกันเนเมอร์ที่หมดสภาพมาใช้เป็นโล่รับชาล็อกที่พุ่งเข้ามา ก่อนพุ่งถอยไปด้านหลังแล้วใช้เลเซอร์ไรเฟิลยิงทำลายชาล็อกที่บินตามมา
"AAเลเซอร์ ยิง!" อุมิโกะสั่ง เลเซอร์ต่อต้านอากาศยานยิงทำลายชาล็อกที่เหลืออยู่ใกล้ๆ
"ยานของออเดอร์ถูกทำลายหมดแล้วค่ะ!" วารีรายงาน
"โธ่เว้ย! อีตาอิทซึกิทำอะไรอยู่ยะ!?"
"ไปทัวร์นรกเถอะว้อย!!!" ดาบแสงของเรย์ไฟเตอร์ถูกลากผ่านสะพานเดินเรือของยานอัลวารัน อิทซึกิรีบถอยออกมาเพราะจากประสพการณ์แล้ว พวกสหพันธฯจะตั้งระบบให้อาวุธทุกอย่างถูกทำลายหลังจากหมดสภาพได้ไม่นานนัก...แล้วก็จริงตามคาด ไม่ใช่แค่อัลวารันเท่านั้น แต่ชาล็อกทั้งหมดในสนามรบก็ระเบิดตัวเองตามทันที พวกสหพันธไม่ต้องการเสี่ยงให้มนุษย์โลกเอาวิทยาการของตนไปใช้ได้ แม้แต่กันเนเมอร์อีกสองสามเครื่องที่มีนักบินอยู่ก็ยังไม่รอดจากชะตากรรมเดียวกัน
"เฮ้อ!" อิทซึกิถอนใจเฮือกใหญ่
"ท่าทางจะหมดแล้วนะ..." มาร์ครายงานสภาพ
"แล้วพวกออเดอร์ล่ะครับ?" เทียนหลงถาม
"ถ้าจะจับชั้นเป็นเชลยล่ะก็ ยิงทิ้งซะตรงนี้เลยดีกว่า" ชาล็อตขึ้นเสียงออกมา ตอนนี้ยานทั้งหมดถูกทำลายและฮอรุสของเธอก็เสียหายหนักพอสมควร นั่นหมายความว่าโอกาสหนีไปจากที่นี่เป็นศูนย์
"ไม่เอาเฟ้ย" อิทซึกิตอบด้วยเสียงแสดงความเบื่อหน่าย
"ทำไมล่ะ ตอนนี้ไม่มีพวกนั้นแล้ว ชั้นก็แค่ศัตรูคนหนึ่งเท่านั้นล่ะ"
"เบื่อ พอสู้กับไอ้พวกนั้นแล้ว ให้สู้กับมนุษย์โลกอีกมันเซ็งสิ้นดีเลย"
"อือฮึ...อิทซึกิมันพูดตรงใจเผงเลย" มาร์คขยับเรย์เทรซเซอร์พลัสเข้าไปดึงฮอรุสของชาล็อตเข้าไปในเซฟาลอส
"ยังไงพวกคุณชาล็อตก็ช่วยเราไว้เยอะนะครับ จะฆ่าซะก็ยังไงอยู่" เทียนหลงเสริม เมื่อคิดถึงกำลังที่มีน้อยนิดแล้ว การที่เซฟาลอสไม่ได้รับความเสียหายมากส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพวกออเดอร์ฯจริงๆ
"..." ชาล็อตนิ่งเงียบ ในใจคิดอะไรอยู่ยากจะบอกได้
"สรุปได้ว่ามีพวกออเดอร์รอดตายคนเดียวสินะ" อุมิโกะรับรายงาน
"ค่ะ นักบินอีกสองคนที่ช่วยไว้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจไปแล้ว" วารีรายงาน
"เข้าใจล่ะ ควบคุมตัวคุณชาล็อตไว้ตามที่ระบุในสนธิสัญญาทุกอย่างนะ มิกะช่วยเตรียมห้องขังไว้ด้วยล่ะ"
"รับทราบค่ะ"
"แล้วก็ให้หลิงช่วยดูฮอรุสของเค้าด้วยนะ ถ้าซ่อมได้ก็ซ่อมให้ไปเลย"
"จะดีเหรอคะ?"
"ยังไงเค้าก็ช่วยเราไว้น่ะนะ ถ้าจับตัวไว้ก็เป็นพวกฉวยโอกาสน่ะสิ เอาเป็นว่าจะสอบสวนสักหน่อยแล้วค่อยปล่อยตัวไปก็แล้วกัน"
ห้องควบคุมตัว
"คุณคือนักบินของออเดอร์เหรอ?" เรนิสถามชาล็อตซึ่งนอนเงียบในห้องขังที่มีเพียงเตียงเป็นเครื่องประดับและลูกกรงโลหะที่กั้นทั้งคู่ออกจากกัน เสียงสวดมนต์ดังพอให้ได้ยินชัดเจน ไม่ใช่แค่ในห้องนี้ แต่เป็นทั่วยานลำนี้
"หือ? ยานลำนี้มีลูกเรือเด็กขนาดนี้ด้วยเรอะ?" หญิงสาวผมสีบลอนด์สั้นเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
"ชั้นเป็นนักบินAMน่ะ แต่ตอนนี้ก็แค่นักบินสำรองกับพนักงานเสิร์ฟอาหารน่ะนะ" เรนิสตอบ
"...งั้นเหรอ? ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาที่นี่คนเดียวล่ะฮึ?" ชาล็อตลุกขึ้นนั่ง
"ก็..แค่อยากดูว่านักบินของออเดอร์เป็นยังไงน่ะสิ"
"...ได้เห็นแล้วคิดว่าไงล่ะ?"
"...ก็ไม่มีอะไร ดูธรรมดากว่าบางคนที่นี่ซะอีก"
"ว่าแต่...พิธีส่งวิญญาณเรอะ ชั้นก็คิดว่าจะโยนลงถังขยะซะอีกนะ..." ชาล็อตพูดถึงเสียงสวดมนต์
"ถ้าชั้นถูกจับได้แล้วตายบนยานของคุณ คุณจะโยนศพชั้นลงถังขยะเหรอ?"
"เปล่า ปากร้ายไม่เบานี่นา เราน่ะ"
"ก็แค่พูดตามที่คิดน่ะ"
"ใครให้เธอมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ยะ?" อุมิโกะเข้ามาในห้อง ในมือมีชุดน้ำชาอยู่
"ตามระเบียบแล้วถ้าไม่มีธุระ เค้าห้ามคุยกับเชลยตามใจชอบรู้รึเปล่า?"
"กัปตันมาทำไมเหรอคะเนี่ย?"
"อย่ามาทำไก๋เลย เดี๋ยวก็ให้ไปนอนเล่นอีกคนหรอก มิกะก็น่าจะเตือนบ้างนะ"
"ขออภัยค่ะ แต่ไม่มีการสัมผัสลูกกรง ชั้นถือว่าสถานการณ์ปกติค่ะ" เสียงมิกะดังจากเพดาน
"กัปตันเหรอ? ท่าทางเธอเหมือนพี่เลี้ยงเด็กมากกว่านะ" ชาล็อตพูดยั่ว
"อันนั้นเพิ่งเป็นตอนยายนี่ขึ้นมานี่ล่ะ" อุมิโกะตอบกลับไป ชาล็อตมองตาของอุมิโกะ รู้สึกว่าภายใต้ท่าทางไม่ค่อยเต็มเต็งนั้นเป็นคนที่จิตใจมั่นคงมากทีเดียว
"งั้นคุณกัปตันมีธุระอะไรถึงมาที่นี่ล่ะ บอกก่อนว่าถ้าคิดจะเค้นข้อมูลภารกิจจากชั้นล่ะก็ยิงชั้นทิ้งซะเลยดีกว่า"
"ผิดแล้ว ชั้นก็แค่มาชวนดื่มชาน่ะ" กัปตันสาวยกชุดน้ำชาให้ดูชัดๆ
"จะเค้นอะไรมันเครียดเกินไป ชั้นไม่ชอบ มาจิบชาคุยเรื่องต่างๆในจักรวาลแบบสบายๆกันดีกว่า" อุมิโกะยิ้ม ชาล็อตชักไม่แน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหนแน่
"เธอ...เอาไปคุยกันข้างนอกไม่ดีกว่าเรอะ?" อิทซึกิกับโซลช่วยกันยกโต๊ะเข้ามา พร้อมเก้าอี้สองตัวที่วางซ้อนไว้ด้านบน ท่าทางทุลักทุเลพอสมควร
"อย่าเอียงสิครับ คุณอิทซึกิ! เก้าอี้ๆๆ!" โซลเตือน
"ชั้นอยากยกมาไว้ในนี้ตั้งแต่ที่เห็นการจัดห้องนี้แล้วย่ะ เอาไปวางไว้ตรงนั้นนะ...ไปทางขวานิดนึง...ขยับเก้าอี้มาทางซ้ายนิด...โป๊ะเชะ!" อุมิโกะตบมือฉาด
"ไอ้สองตัวนั่นเลือกเวลาหายหัวได้เก่งเป็นบ้า" อิทซึกิบ่นอุบ
"เอาล่ะ เตือนไว้ก่อนนะว่าถึงชั้นจะเป็นอะไรไป คอมพิวเตอร์ของยานนี้กับโอเปอเรเตอร์ก็จัดการสถานการณ์ได้เอง ฉะนั้นอย่าคิดเล่นอะไรแผลงๆเชียว" อุมิโกะวางชุดน้ำชาบนโต๊ะก่อนประตูห้องขังจะเปิดออก ก่อนนั่งลงด้วยท่าทีราวกับมาพักผ่อน
"จริงๆแล้วอยากให้ไปพักในห้องรับรองแขกเหมือนกันนะ แต่ขืนทำแบบนั้นเกิดเบื้องบนรู้ทีหลังชั้นโดนเล่นฐานละเลยความปลอดภัยแน่"
"ช่างเถอะ เตียงนี่ก็นอนสบายดี" ชาล็อตตัดสินใจออกมานั่งอีกด้าน เป็นไงเป็นกันสิ อุมิโกะรินน้ำชาจากกาให้
"ไปกันได้แล้วมั้ง" อิทซึกิว่า
"อยู่ช่วยคุ้มกันกัปตันอุมิโกะหน่อยสิครับ" โซลใช้ศอกกระทุ้ง
"ไม่ต้องห่วงน่า ยายนั่นใช้คาราเต้ฆ่าคนได้เลยนะ เวลาทะเลาะกันทีไรชั้นเป็นฝ่ายวิ่งทุกที แว้ก!" อิทซึกิก้มหลบถ้วยชาซึ่งปะทะกับผนังแตกกระจายได้อย่างฉิวเฉียด
"แหม...ถ้วยชามันลื้นลื่นเนอะ เรนิสจังไปเอาถ้วยใหม่ในโรงอาหารมาที แล้วก็เอาเค้กช็อกโกแล็ตแบบแต่งหน้าหนาๆมาที่นึงกับเค้กส้มแบบไม่ใส่ครีม เร่งหน่อยนะจ้ะ"
"ระ-รับทราบค่ะ" เรนิสออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกงงๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ชาล็อตแปลกใจเสียจริงๆ สิ่งที่เรียกว่าระเบียบวินัยไม่มีในหน่วยรบนี้รึไงนะ
"เอาล่ะ ก็ว่าจะถามรายละเอียดของไอ้ของที่บรรทุกมากับยานเฟมเมลลำนั้นนะ แต่เธอคงไม่ยอมบอกง่ายๆ" อุมิโกะหันกลับมาคุยกับชาล็อต
"ชั้นก็แค่กู้ซากยานลำนั้นคืนไปน่ะ รายละเอียดอะไรชั้นไม่รู้หรอก"
"งั้นเหรอ...งั้นจะบอกตัวจริงของศัตรูที่พวกเราช่วยกันสู้ให้ฟังเอามั้ย?"
"ตัวจริง? หมายความว่าไง?"
"สหพันธซีเวล องค์กรซึ่งควบคุมความเคลื่อนไหวของดวงเคราะห์ทั้งหมดในกลุ่มคลัสเตอร์ซีเวล" โซลพูดแทรก
"สำหรับมนุษย์โลกแล้ว คำว่ามนุษย์ต่างดาวใช้อธิบายได้ชัดเจนที่สุดครับ"
ความคิดเห็น