ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โปรเจคร่วม(ที่ล้มไปแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #2 : ปริศนาที่1:เข้าเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 52


    ปริศนาที่1:เข้าเรียน

    ตึก..ตึก..ตึก..

    เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งดังไปทั่วทางเดินที่ไร้ผู้คนเพราะมันได้เวลาเรียนมานานแ
    ล้ว...ขณะที่สายตากวาดมองไปทั่วด้วยความหงุดหงิด เพื่อหาป้ายๆนึงที่เขียนว่าห้องสภานักเรียน

    เธอกำลังจะสาย
    !! 
    แถมห้องที่โรงเรียนบ้านี่ก็ ไม่รู้อยู่ตรงไหน...อยากจะฆ่าเจ้าคนที่มันออกแบบโรงเรียนนี้จริงๆ
    !!!!!!!

    ถ้าพ่อบ้าอยู่ๆไม่ได้โดนสั่งย้ายกลางอากาศนะ เธอคงไม่มีวันยอมมานั่งอ่านหนังสือเป็นตั้งๆแบบเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อสอบเข้าโรงเรียนเอกชนนี่หรอก สมน้ำหน้าให้จ่ายค่าเทอมแพงๆซะให้เข็ด
    !! 
    มีอย่างที่ไหนตัวเองโดนเพิ่งจะย้ายกลับจากอเมริกา แล้วก็ถูกย้ายไปอเมริกาอีก ทิ้งลูก 2 คนไว้กับบ้าน แล้วทำไมต้องย้ายโรงเรียนให้เมื่อยน่ะเหรอ?    
    ก็เพราะพ่อต้องการให้เธอมาอยู่กับพี่ชายที่เมืองนี้น่ะสิ แต่การย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก...แถมชุดฟอร์มนักเรียนที่นี่ยังน่ารักซะด้วย การที่คนอย่างเธอฟลุคสอบติด นี่ก็ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้วล่ะ แต่ตอนนี้ที่เธอต้องทำคือหาห้องให้เจอ
    !!! 

    อ๊ะ
    !! นั่นไง ป้ายที่เขียนว่า ห้องสภานักเรียนอยู่ตรงสุดทางเดินนี่เอง.....

    แอ๊ด...เธอเปิดประตูเข้าไป....

    ในห้องกว้างๆนั่นกลับไม่มีคนอยู่...?
    ไหนอาจารย์บอกว่าให้มาที่นี่เพื่อพบกับกรรมการนักเรียนแล้วให้เขาหรือนำทางไปห้องเรียนหลังจากเซ็นเอกสารบางอย่างไม่ใช่รึไง?
    แล้วไหงหายหัวกันไปไหนหมดล่ะเนี่ย?

    แต่บนโต๊ะก็มีเอกสารวางอยู่จริงๆน่ะแหละ...เธอเลยถือวิสาสะเข้าไปดูและพอเห็นว่าเป็นแบบฟอร์มเอกสารของนักเรียนเข้าใหม่ซึ่งคงเป็นอันนี้แหละที่เธอต้องมากรอก..หญิงสาวเลยถือโอกาสกรออกไปซะเพื่อไม่ให้เสียเวลาเข้าห้องเรียนไปมากกว่านี้ พอกรอกเสร็จก็ยังไม่มีใครมาอยู่ดี เธอเลยคิดว่าไปห้องเรียนเองเลยละกันแล้วเอกสารนี่เดี๋ยวคงมีคนมาจัดการเองทีหลัง......พอจะหันหลังเดินออกจากห้องกลับ.....

    ปึง
    !!โครม!!!!

    เธอหงายหลังล้มก้นกระแทกพื้นเพราะชนกับคนที่เธอไม่ทันเห็นว่าเดินสวนมาทางหลัง

    ขอโทษนะ พอดีฉันกำลังรีบน่ะ เธอบอกทั้งๆที่ตัวองเป็นคนเจ็บ ขณะที่อีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่ตัวสูงกว่ามาก และดูท่าทางจะไม่ได้เจ็บอะไร

    ไม่เป็นไร นายคือนักเรียนที่ย้าย มากลางเทอมใช่ไหม? เขาถาม มือใหญ่ขยับแว่นที่เลื่อนลงมา...
    พอเธอเงยหน้าขึ้นไป ก็พบว่า.....

    นี่ เธอ...ชนเทพบุตรเข้าเหรอเนี่ย?

    นัยน์ตาเรียวรีคมเข้มสีเทา ภายใต้แว่นไร้กรอบดูเคร่งขรึม และรับกับส่วนต่างๆบนใบหน้าของเขาได้อย่างไร้ที่ติ ทั้งปากบางเฉียบสีแดงธรรมชาติ หรือ จมูกโด่งเป็นสัน และคิ้วเข้มสีดำสนิทที่กำลังขมวดมุ่น เมื่อเห็นว่าคนที่ถูกถาม ยังไม่ยอมตอบคำถาม

    อ่ะ..เอ่อ...ใช่ เธอรีบตอบอย่างตะกุกตะกัก แต่ก็ชะงักเพราะคำถามเมื่อกี้ของชายหนุ่ม  

    นายคือนักเรียนที่ย้ายมากลางเทอมใช่ไหม? นาย...เมื่อกี้เขาเรียกเธอว่านาย!!!!!!

    เธอก้มมองตัวเอง นี่เธอลืมถอดเสื้อโค้ทเหรอเนี่ย? กรำ..เวร...อ้อ ลืมบอกไปว่า....
    เธอคือ อาคาทสึกิ   อุเคียว เพศหญิง สูง175 cm. แถมหน้าตายังกระเดียดไปหาคำว่า หล่อมากกว่าคำว่าสวย ซะอีก   ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง ก็ในเมื่อเสื้อโค้ทตัวยาวที่สวมอยู่นั้นมันบังชุดยูนิฟอร์มของนักเรียนหญิงที่เธอใส่อยู่ซะมิด!!

    คิดว่านายคงจัดการกรอกเอกสารบนโต๊ะแล้วใช่ไหม? งั้นก็ลุกสิ ผมจะได้พาไปห้องเรียน 
    นัยน์ตาคมกริบที่จ้องมาที่เธอทำเอาเธอลืมคำอธิบายไปก่อนจะลุกขึ้นแบบเคลิบเคลิ้ม แล้วเดินตามหลังชายหนุ่มต้อยๆเหมือนตกอยู่ในภวังค์หลังจากที่เขาปิดและล็อกห้องสภานักเรียนแล้ว

    ฝ่ายบุคคลแจ้งว่านักเรียนที่ย้ายมาเป็นผู้หญิงนี่   สงสัยข้อมูลจะผิดพลาด เขาพึมพำเหมือนนึกขึ้นได้   ทำให้เธอที่เดินตามมาติดชนโครมกับแผ่นหลังกว้างของเขาทันที........

    ....อุ๊บ...หอมจัง.....เธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของเขาลอยมาแตะจมูก...หอมจัง..
    อุ่นดีด้วย..ชักจะไม่อยากปล่อยมือซะแล้วสิ....

    เอ่อ...นายช่วยปล่อยมือจากเอวผมทีได้ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบจนน่าอึดอัดนั้น ก่อนจะปรายตามองไปที่มือของเธอที่กำลังกอดเอวเขาไว้แน่นจนกระดูกแทบหักด้วยแววตาเย็นชา

    อ่า...ขอโทษ...คือฉัน...แค่ เธอค่อยๆแกะมือออกจากเอวของเขา ก่อนจะหาทางแก้ตัวเรื่องร่างกายที่แสนจะซื่อสัตย์ของตัวเอง ก่อนจะรีบหาทางเปลี่ยนเรื่อง แล้วสายตาเธอจะไปสะดุดกับเสื้อโค้ท

    คือ...คือ...ฉันจะบอกว่าฉัน...ไม่ใช่.....ผู้ชายน่ะ เธอพูดพร้อมกับเปิดเสื้อโค้ทโชว์กระโปรงนักเรียนที่ใส่อยู่ด้วยท่าทางอับอายสุดขีด (ที่จริงแค่อยากเปลี่ยนเรื่องแหละว้า...)

    นัยน์ตาสีดำสนิทมีแววประหลาดใจบวกกับความหวาดระแวงวูบนึง ก่อนมือใหญ่จะขยับแว่นอีกครั้งแล้วเอ่ยเรียบๆว่า....

    เข้าใจแล้วเขาว่าก่อนจะพูดว่า งั้นเธอรีบเดินเถอะจะได้ถึงห้องเร็วๆ
    แล้วในที่สุดพวกเขาก็เดินถึงห้องเรียนที่มีป้ายเขียนว่า ‘2-A’

    แล้วคุณจะไม่เข้าไปกับฉันเหรอ? อุเคียวถาม เมื่อเห็นเขากำลังจะเดินจากไป...

    ผมมีงานต้องทำที่สภานักเรียนอีก คงส่งเธอได้แค่นี้แหละ เขาตอบ คราวนี้ทำท่าจะเดินจากไปจริงๆ ร่างกายที่แสนจะซื่อสัตย์ของเธอก็ขยับไปเร็วเท่าใจคิด มือบางคว้าเสื้อตัวนอกของเขาไว้ทันพอดี จนชายหนุ่มเกือบจะหงายหลัง

    อ่ะ...เอ่อ...ขอโทษค่ะ คือฉันยังไม่รู้ชื่อของคุณ... เธอเอ่ยแบบกล้าๆกลัวๆ

    "ประธานนักเรียนมินามิเรียกแบบนี้ก็พอ เขาตอบ และปรายตามองไปที่มือของเธอเป็นเชิงว่าจะปล่อยได้หรือยัง?

    ขอโทษ เธอรีบปล่อยมือ แล้วเขาก็เดินจากไป

    ประธานนักเรียนมินามิ...ถูกใจคนคนนี้เข้าซะแล้วสิ
    !!~

    ครืดด..ดด..
    มือบางเลื่อนประตูออก ขณะที่อาจารย์กำลังเช็คชื่อพอดี

    อาคาทสึกิ อุเคียว มาสายเพราะเครื่องบินดีเลย์ค่ะ!”
    ช่างเป็นการปรากฏตัวที่ดึงดูดความสนใจของคนทั้งห้องดีเหลือเกิน....

    อ่า... อาจารย์ผู้หายจากอาการเหวอเอ่ยขึ้น มาทันพอดี ไปนั่งที่ว่างตรงนั้นนะ เดี๋ยวครูจะปล่อยให้ทำความรู้จักกันไปละกัน แล้วเธอก็เดินไปนั่งที่ตรงนั้นท่ามกลางสายตาจ้องตาเป็นมันของเหล่านักเรียนหญิงทั้งหลาย ที่ทำให้เธอรู้สึกขนลุกจนรีบ
    ถอดเสื้อโค้ทพาดไว้บนพนักเก้าอี้ทั้งๆที่หนาวจนแทบแข็ง

    สายตาทุกคู่ตกตะลึงเมื่อเห็นยูนิฟอร์มนักเรียนหญิงที่เธอสวมอยู่
    !!

    แค่ตอนอยู่ที่อเมริกาก็มีแต่คนเข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้ชาย อุตส่าห์กลับมาบ้านเกิดก็ยังหนีไม่พ้นอีกรึเนี่ย...?
    และทันทีที่ก้นแตะเก้าอี้ เธอก็แทบจะถูกรุมทึ้งทันที..

    นี่ๆอาคาทสึกิซัง...เธอสูงเท่าไร่เหรอ? หญิงสาวที่นั่งถัดไปแถวนึง ถามขึ้น- -กรี๊ดดด..นี่ผู้หญิงจริงๆน่ะเหรอ?หล่อชะมัดเลย -- --

    อ่า...ประมาณ175cm.ล่ะมั้ง...จำไม่ได้แล้วล่ะเธอว่า- -อะไรกันเนี่ย?- -

    ว้าว...สนใจจะมาเข้าชมรมบาสฯหญิงโรงเรียนเราไหม? หญิงสาวหน้าสวยอีกคนรีบพุ่งเข้ามาถาม

    อ่ะ...เอ่อ...

    แล้วเธอมีแฟนรึยังอ่ะ?

    ก็ยัง...

    งั้นฉันขอสมัครเป็น... และก่อนที่สาวๆหลายๆคนจะได้พูดจบ ประตูก็เปิดขึ้น...พอคนในห้องเห็นว่าคนที่เปิดเข้ามาเป็นใครก็พากันไม่สนใจแล้วกลับไปคุยต่อกันแบบออกรส

    นั่น...อาจารย์สอนวิทย์เหรอ? อุเคียวถาม มองตามร่างสูงที่อยู่ในชุดกราวด์สีขาวเหมือนคุณหมอหรือนักวิทยาศาสตร์ซึ่งกำลังจะเดินมานั่งโต๊ะข้างๆกับเธอ....-- -- ที่นี่อาจารย์เขามานั่งสอนใกล้ๆแบบนี้เลยเหรอ?--- ---

    เปล่า...หมอนี่ไม่ใช่อาจารย์หรอก ทุกคนเรียกเขาว่า... ด็อกเตอร์ เพราะเขาชอบทำตัวประหลาดแล้วก็ยืมห้องวิทย์ไปทดลองอะไรแปลกๆน่ะนะ หนุ่มหน้าสวยที่นั่งข้างเธออีกฝั่งพูด-- --แถมยังชอบทำตัวเป็นมนุษย์ประหลาดไม่ยอมคบค้ากับใครแล้วยังไม่ค่อยเข้าเรียนด้วยนอกจากนั้นเจ้าเล่ห์และยังงกอย่างร้ายกาจด้วย-- --- เขาคิด

    อุเคียวหันตามไปดู เขาเป็นผู้ชายหุ่นสูงผอมที่ดูแปลกจริงๆนั่นแหละ ทั้งชุดกราวด์ที่สวมไว้ตลอดเวลานั่นกับแว่นหนาเหมือนก้นขวด แล้วยังทรงผมที่เหมือนเพิ่งตื่นนอนนั่นอีก
    แต่ตอนที่อยู่อเมริกาเธอก็เคยมีเพื่อนแปลกๆแบบนี้เยอะแยะไป บางคนก็นับถือเทพเจ้าแปลกๆที่เธอไม่คิดว่าเคยมีคนได้ยินชื่อมาก่อน แล้วยังชอบใส่ชุดคลุมมีฮู้ดสีดำเข้าห้องแถมเวลาอยู่ในห้องยังชอบบริกรรมคาถาแปลกๆอีก บางคนที่ชอบแต่งตัวเด่นๆก็นี่เลย เสื้อลายสารพัดสัตว์ ทั้งลายเสือสิงทั้งหลาย,ลายม้าลาย ฯลฯ นี่ยังไม่รวมพวกสีสะท้อนแสงทั้งหลายทั้งปวงนะ แต่ทั้งหมดก็ยังเป็นคนดีเมื่อได้สนิทจริงๆแล้วล่ะก็นะ...อย่างหมอนี่น่ะยังน้อยยยย....

    อืม...แล้วนายชื่ออะไรเหรอ?อุเคียวหันไปถามชื่อของหนุ่มหน้าสวยคนนั้น

    ไอดะ เซกิ ฝากตัวด้วยนะอาคาทสึกิ อุเคียวจังไอดะ เซกิเอียงคอตอบอย่างน่ารักขนาดที่ว่าเธอเริ่มจะคิดแล้วว่า...เขาสวยกว่าผู้หญิงอย่างเธอซะอีก (?)พูดจริงๆแล้วเธอไม่ค่อยถูกชะตากับคนหน้าตาแบบนี้เท่าไหร่..เพราะทำให้นึกถึงเจ้าพ่อตัวดีที่สร้างปัญหาไว้เยอะแยะ

    แหะ...แหะเธอหัวเราะแห้งๆกับรอยยิ้มหวานจัดของคนข้างๆ แล้วหันหน้าไปหาอีกคนบ้าง

    นายคือคนที่เขาเรียกกันว่าด็อกเตอร์ใช่รึเปล่า?อุเคียวถาม

    .....หนุ่มแว่นที่สวมชุดกราวด์สีขาวคนนั้นหันซ้ายหันขวา ก่อนจะถอยห่างจากเธอกรูด ธ..เธอเรียกผมเหรอครับ

    ใช่ นายนั่นแหละอุเคียวชี้หน้าเขา (จริงๆแล้วในญี่ปุ่นถือเป็นการเสียมารยาทแต่เธอไม่รู้นี่)

    มะ...มีอะไรครับเขาถาม-- -- อะไรของยัยนี่เนี่ย? ขอแค่อย่ามายุ่งกับผมก็พอแล้ว--

    เปล่า ฉันแค่จะทักทายน่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันอาคาทสึกิ อุเคียวอุเคียวยิ้มกว้าง-- --นี่คือยิ้มการค้าที่อุตส่าห์ไปฝึกกับเจ้าพ่อบ้ามาเลยนะ---

    อ่ะ..เอ่อยินดีทีรู้จักครับเขาตอบ -- --อะไรล่ะเนี่ย? แปลกคน ----
    แล้วต่างคนก็ต่างหันไปสนใจจับจ้องกระดานเมื่ออาจารย์เริ่มต้นบทเรียน น่าแปลกที่ชายหนุ่มคนข้างๆเธอกลับไม่สนใจอาจารย์เท่าที่ควร จริงๆแล้วควรเรียกว่าเขาเอาชั่วโมงเรียนไปทำอย่างอื่นเลยถึงจะถูก ว่าแต่เขาแต่เธอเองขนาดพยายามแล้วแต่ก็ยังมีวิชาที่ไม่ถนัดโผล่ออกมาจนได้ทุกทีสิน่า!

    โอย...ยากจัง..ทำไม่ได้อ้ะ!!Oh!No…”เธอโวยวาย แล้วตาไวๆก็หันไปมองรอบๆตัวเอง...
    ไอดะ เซกิ ยังทำไม่เสร็จแถมยังกำลังจดเลคเชอร์อยู่ด้วย ขยันกว่าที่เธอคิดแฮะ.....
    กรรม...แล้วเธอจะลอกใครล่ะเนี่ย?....พอหันไปอีกด้านก็เจอกับตาแว่นด็อกเตอร์ ที่กำลังอ่านนิยายเลือดสาดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ แต่ใต้หนังสือนิยายเล่มหนานั่นมี่สิ่งที่เธอต้องการอยู่......

    หนังสือวิชาฟิสิกส์ที่ทำเสร็จแล้วเรียบร้อยถูกทับด้วยนิยายเล่มโต...
    !!

    ขณะที่ชายหนุ่มผู้สวมใส่เสื้อกราวด์กำลังอ่านนิยายที่เขาเพิ่งซื้อมาไปได้เล็กน้อย อยู่ๆเส้นขนแถวๆต้นคอของเขาก็ลุกซู่ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ...

    ความรู้สึกนี้มัน...
    !รึว่า..นี่คือ...สิ่งที่เขาหวาดระแวงมาตลอด!!

    เมื่อเขาหันไปก็พบกับนัยน์ตาคมๆของ อาคาทสึกิ อุเคียวนักเรียนใหม่ที่ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นกำลังจับจ้องมองเขา ด้วยสายตาที่ระบุความหมายไม่ได้
    !!

    มะ..มีอะไรเหรอครับ?เขาถามพลางขยับโต๊ะเก้าอี้ถอยห่างจากเธอโดยอัติโนมัติ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เธอต้องเขยิบตัวเข้ามาใกล้เขามากเข้าไปอีก

    อะ..เอ่อ..เธอขึ้นต้น -- -- ถึงเธอจะดูเหมือนผู้ชายแต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิง สิ่งมีชีวิตที่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวมากเป็นที่สุดอยู่ดีน่ะแหละ -- -- ชายหนุ่มคิด

    คือ..ฉันอยากจะได้...อุเคียวพูดต่อ -- -- อยากได้? อะไรล่ะ? ผมไม่มีอะไรจะให้ฟรีๆหรอกนะ -- --

    สมุดฟิสิกส์ของนายอ่ะ เอามายืมหน่อยสิ แล้วเธอก็ส่งสายตาวิ้งๆไปให้เขา

    อะ..เอาไปสิ เขารีบยื่นให้เธอด้วยมือที่กำลังขนลุกซู่

    ขอบใจนะ อุเคียวยิ้มให้ชายหนุ่ม -- -- จริงๆก็เป็นคนดีนี่ ตาแว่นนี่น่ะ -- --
    แล้วเธอก็เปิดสมุดฟิสิกส์ของเขามาเริ่มนั่งลอก ดูๆไปแล้วลายมือของชายหนุ่มนี่ก็ดูดีกว่าของเธอแยะ แถมยังจดไว้อย่างเป็นระเบียบซะอีกผิดกับเธอลิบ...แต่ไม่ใช่ความผิดของเธอซะหน่อยที่ดันต้องไปเรียนและใช้ชีวิตอยู่อเมริกาตั้งแต่ยังเด็ก มันเป็นความผิดของเจ้าพ่อบ้าต่างหาก มีที่ไหนที่เพิ่งถูกย้ายกลับบ้านเกิดแต่พอเท้าแตะสนามบินนาริตะก็มีโทรศัพท์สั่งให้ย้ายกลับไปอเมริกาที่เพิ่งจะจากมาทันทีโดยทิ้งเธอไว้ที่นี่!!!

    แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมามัวคิดถึงคนที่ทำให้เธอตกที่นั่งลำบากมาตลอดชีวิต แต่นี่คือเวลาที่เธอควรจะลอกสมุดอันแสนล้ำค่า(?)ที่ยืมเขามาให้เสร็จแล้วรีบคืนเขาไปซ้าาาาาาา(แอคโค่)

    “Thanks”
    อุเคียวบอกพลางยิ้มยิงฟันอวดเขี้ยวขาว

    อะ...อืม ชายหนุ่มงึมงำตอบ -- -- พิลึกคนแต่เอาเถอะครั้งแรก ผมยอมๆให้ก็ได้ -- --
    แล้วอยู่ๆชายหนุ่มก็รู้สึกว่าความซวยจะมาเยือนนับจากการให้ยืมสมุดคราวนี้....................

    ขอยืมสมุดชีว.....หน่อยสิ อาคาทสึกิ อุเคียวทำตาโต ถ้ามีเสียงดังวิ้งๆประกอบด้วยคงเหมาะดีพิลึก

    สมุดเลขด้วย...ประวัติศาสตร์ด้วย...ภาษาญี่ปุ่นด้วยก็ดีนะ และอีกมากมายฯลฯ

    เอาไปให้ให้หมดเลยก็ได้ครับ เขายกเอากองสมุดแบบฝึกหัดที่ทำเสร็จแล้วให้เธอทั้งกอง

    นี่...นายประชดฉันเหรอ? อุเคียวช้อนตามอง

    ปะ...เปล่าครับ เขาตอบ -- -- รู้ตัวด้วยเหรอเนี่ย?...เกือบไปแล้วไหมล่ะ -- --   

    ค่อยยังชั่วหน่อย แล้วอาคาทสึกิก็พ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะพูดต่อ แต่ถึงงั้นก็เหอะไม่เห็นจะเป็นไร..

    ..?.. ชายหนุ่ม(แว่น)ทำหน้างง

    ก็ถ้านายประชดเป็น มันก็แสดงว่านายไม่ได้ไร้ความรู้สึกเป็นหุ่นยนต์เหมือนที่คนอื่นๆพูดเขาพูดกันน่ะสิเธอบ่นแล้วชายหนุ่มก็เงียบไป

    ...ขอบคุณครับ...ชายหนุ่มที่ใครๆก็เรียกว่า ด็อกเตอร์ พึมพำสียงเบาจนอีกฝ่ายที่หมกมุ่นกับการลอกงานไม่ทันได้ฟัง
    พอดีกับที่กริ่งดังบอกเวลาว่านี่คือตอนเที่ยง.......

    อาคาทสึกิซังไปกินกับพวกเราไหม?พวกสาวๆเดินมาชวนเหมือนแร้งลง เดอะ รีเทิร์น-- -- เอาไงดีล่ะ? -- --

    ดะ..ได้สิเธอตอบตกลง ก็เธอเพิ่งจะมาใหม่ย้ายมากลางเทอมนี่นะไม่อยากทำตัวมีปัญหา -- --ว่าแต่ตาด็อกเตอร์นั่น..ชวนไปกินด้วยดีกว่า-- --
    แต่พอเธอหันไปอีกทีโต๊ะตัวข้างๆเธอก็ว่างเปล่าซะแล้ว.........

    อ๋อ..หมอนั่นเขาชอบไปกินคนเดียวน่ะ แรกๆพวกเราก็เข้าชวนไปนะแต่ไม่ยอมมากินด้วย..แปลกคนจริงๆเลยหญิงสาวคนหนึ่งพูดเมื่อเห็นเธอมองไปที่โต๊ะของชายหนุ่ม

    อือเหรอ แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ?อุเคียวหันไปถามชื่อของหญิงสาวคนนั้น นอกจาก ไอดะ เซกิที่นั่งข้างๆแล้วเธอไม่รู้ชื่อใครเลยนี่...

    ฉันชื่อมินาซากิ โคะโคโระจ้ะ อาคาทสึกิคุงเรียกอย่างนี้ได้รึเปล่าจ๊ะ?เธอเอียงคอถาม

    อยากเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ แต่ฉันว่าเรียกอุเคียวเฉยๆดีกว่ามั้ง อุเคียวบอก -- --ก็เธอไปอยู่อเมริกาตั้งนานนี่ หน่านอกจากซังแล้วยังมีคำอื่นต่อท้ายอีกเหรอ?-- --(จริงๆแล้วคุงนี่เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กผู้ชายจ้ะ)

    จะดีเหรอจ๊ะ?พวกเราเพิ่งรู้จักกันเองนะ? มินาซากิ โคะโคโระว่าพลางหน้าแดง

    ดีสิอุเคียวยิ้มที่ทำเธอยิ่งหน้าแดงหนักเก่า คือ..ว่าฉันเพิ่งกลับมาจากอเมริกาน่ะเลยไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นเท่าไหร่ ถ้าทำอะไรผิดไปช่วยสอนฉันหน่อยได้ไหม?พวกเธอก็ด้วยนะ
    ว่าแล้วก็แจกยิ้มให้สาวๆที่ยืนฟังอยู่แต่ไม่รู้จะเข้าไปแทรกการสนทนาตอนไหนดี..จนพวกเธอหน้าแดงก่ำ

    จ้ะพวกเธอรับคำ ยิ่งทำให้อุเคียวยิ้มจนแก้มปริ

    โห..แต่อุเคียวคุงไปโตที่อเมริกาเหรอ?สาวผมแกละที่เธอเพ่งรู้ว่าชื่อมิกิถามขึ้นกลางโต๊ะกินข้าว

    อืมใช่เพราะพ่อบ้..เอ๊ยคุณพ่อถูกย้ายไปหลังคุณแม่เสียน่ะอุเคียวบอกขณะเคี้ยวแก้มตุ่ย

    ขอโทษนะจ๊ะมิกิ เอ่ยเสียงเศร้า-- -- อ้าว?ที่นี่เขาไม่ชอบพูดถึงคนตายกันเหรอ?---

    ไม่เป็นไรหรอกท่านเสียไปนานแล้วน่ะ ฉันเองก็จำไม่ค่อยได้แล้วเหมือนกันเธอว่าส่งยิ้มกว้างจนมิกิที่รู้สึกว่าตัวเองถามเรื่องไม่ดีออกไปกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

    แล้วย้ายกลับมานี่...อุเคียวคุงพักอยู่แถวไหนเหรอ?นาโอมิ สาวผมไฮไลท์ทองถาม

    แถวๆนี้แหละฉันอยู่กับพี่ชายน่ะ พ่อบ้..เอ๊ยคุณพ่อเกิดมีงานด่วนตอนนี้เลยยังอยู่ที่อเมริกาน่ะเธอตอบอย่างระมัดวังที่จะไม่เอ่ยคำว่าพ่อโดยต่อคำว่าบ้าที่เรียกจนติดเป็นนิสัย ที่อเมริกาคงไม่มีใครว่าอะไร แต่ที่นี่เป็นประเทศญี่ปุ่นถ้าหลุดปากออกไปมีหวังเพื่อนๆที่จะพยายามผูกมิตรคิดว่าเธอเป็นพวกลูกทรพีแน่ๆ

    งั้นตอนนี้อุเคียวคุงก็อยู่กับพี่ชายแค่2คนน่ะสิ? แบบนี้เรื่องอาหารการกินก็ลำบากแย่น่ะสิคะ?สาวผมดำที่ดูท่าทางเรียบร้อยที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นมาเป็นครั้งแรก

    ไม่หรอกๆ...เห็นแบบนี้ก็เถอะฉันทำอาหารเก่งนา...ว่าแต่เธอชื่ออะไรล่ะ?อุเคียวตอบพร้อมทั้งเอ่ยถามชื่อของเธอ มายูกิ..คิโดะ มายูกิค่ะหญิงสาวบอกด้วยใบหน้าที่เริ่มเป็นสีแดง -- -- โอ้ว!นี่แหละสาวญี่ปุ่นแท้-- --

    เรื่องของฉันช่างมันก่อนเถอะมีเวลาถามอีกเป็นปีๆ ฉันว่ารีบกินเถอะเดี๋ยวจะหมดเวลาก่อนนะอุเคียวว่า เรื่องกินเป็นสิ่งที่เธอจะไม่มีวันลืมจริงๆ
    สาวๆทั้งกลุ่มเลยหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าเหลือเวลาพักเที่ยงอีกไม่นานเท่าไหร่ แล้วพวกเธอก็เพิ่งกินข้าวไปได้นิดเดียวเท่านั้น

    ฉันกินอิ่มแล้ว อุเคียวคุงสนใจไปเดินสำรวจโรงเรียนกับฉันไหมจ๊ะ?มินาซากิ โคะโคโระเป็นชวนซึ่งเธอก็ตอบตกลงอย่างว่าง่าย
     
    นี่ห้องดนตรีอยู่ทางปีกซ้ายของโรงเรียนจ้ะโคะโคโระบอกพลางผายมือไปยังที่ตั้งของห้องที่ว่าจริงๆแล้วห้องพวกดนตรี, ศิลปะ, แล้วก็พวกคหกรรมอะไรพวกนี้จะอยู่ทางปีกซ้ายหมดเลย แต่ห้องพวกวิชาการจะอยู่ทางปีกขวาน่ะจ้ะ ห้องสมุดอยู่ชั้น4 ส่วนสระว่ายน้ำมี2สระ แต่ที่อยู่ที่ดาดฟ้าจะไม่ค่อยเปิดน่ะ เลยต้องไปว่ายที่ชั้นบนสุดของโรงยิมแทน

    แล้วพวกกีฬาล่ะ? เขาเล่นกันที่ไหน?อุเคียวถามเพราะเธอเองก็จัดว่าเป็นคนที่เซ้นท์เรื่องกีฬาดีเอามากๆ

    ก็ใช้โรงยิมนั่นแหละ ยกเว้นบางงานถึงได้ใช้สนามเธออธิบายต่ออย่างใจดียังสงสัยอะไรอีกไหมจ๊ะ?

    ใช่ๆแล้วห้องพยาบาลล่ะ?หญิงสาวหน้าหล่อรีบถามเพราะตนค่อนข้างซุ่มซ่ามมากจนถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้

    อยู่ที่ชั้น1จ้ะติดกันสนามนั่นแหละโคะโคโระบอกยิ้มๆแต่ก็เห็นอีกฝ่ายทำท่ายกนิ้วชี้แตะปากให้เธอเงียบๆก่อน เสียงแว่วหวานของเปียโนดังออกมาจากห้องดนตรีเป็นทำนองซับซ้อนอันแสนเศร้าแต่เพราะจับใจโชว์ความสามารถของผู้ที่ดีดมันอยู่ได้เป็นอย่างดี...จนทั้งอุเคียวและโคะโคโระต้องเดินตามเสียงนั้นเข้าไปถึงห้องดนตรี...ทำนองแสนเศร้าเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ก่อนจะกลับไปเป็นเช่นเดิมและก็สิ้นสุดไป..ผู้เล่นถึงกับงงเมื่อมีเสียงตบมือดังมาจากแขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสอง...

    เธอเล่นเก่งจังเลยนะเซกิอุเคียวที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลังชายหนุ่มหน้าหวานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เป็นคนเอ่ยคำชม

    อ่า..เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?ฉันไม่เห็นรู้ตัวเลยไอดะ เซกิ ยิ้มหวาน

    มาเมื่อไหร่ไม่สำคัญหรอก แต่ก็ทันได้ยินนายเล่นพอดีเลย luckyชะมัดอุเคียวยิ้มยิงฟัน

    ใช่ๆฉันไม่รู้เลยว่าไอดะคุงเล่นเปียโนเป็นแถมยังคล่องขนาดนี้โคะโคโระเสริม

    อ้าว...มินาซากิซังก็ด้วยเหรอ?เซกิส่งยิ้มให้

    ก็นี่โคะโคโระจังกำลังพาฉันเดินชมโรงเรียน แล้วพอดีได้ยินเสียงเปียโนน่ะอุเคียวตอบ

    อ๊ะ..ตายจริงฉันลืมเลยว่าเป็นเวรกระจายเสียงน่ะ ไปก่อนนะอุเคียวคุงหญิงสาวพูดอย่างนึกขึ้นได้

    อ่ะอือไปเหอะ ไม่เป็นไรขอบใจนะที่พาดูโรงเรียนอุเคียวว่าพร้อมกับส่งยิ้มแบบไร้เงื่อนไข ซึ่งก็ทำให้ หญิงสาวหน้าแดงก่อนจะรีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว...

    เมื่อกี๊มันเพลงอะไรเหรอ?ทำไมฟังแล้วรู้สึกเศร้าๆจังอุเคียวเอียงคอถามขณะเดียวกันก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกับชายหนุ่มหน้าหวาน

    อ๋อ เพลงเมื่อกี๊น่ะเหรอ Nocturneน่ะเซกิตอบ แล้วมือเรียวสวยพรมไปที่คีย์บอร์ดแล้วเริ่มบรรเลงทำนองเดิมอีกครั้งโดยที่มีอุเคียวคอยตั้งคำถามนู่นนี่เป็นระยะๆ จนหมดคาบพักเที่ยงทั้งสองจึงเดินกลับห้องมาด้วยกัน

    นี่ๆเซกินายรู้เรื่องประธานนักเรียนโรงเรียนนี้บ้างรึเปล่า?อุเคียวถามขึ้นมาระหว่างเรียนวิชาศิลปะ-- --เกือบลืมไปเลยนะเนี่ย-- --

    อ้อ ก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากหรอกนะเพราะ ประธานเขาไม่ค่อยเปิดเผยตัวเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่งานสำคัญๆไม่มีทางได้เห็นหรอก เคยมีพวกนักเรียนหญิงไปถามเหมือนกันเมื่องานโรงเรียนปีที่แล้วว่าทำไมเก็บตัวขนาดนี้?แล้วเขาก็ตอบว่าถึงจะไม่ได้เปิดเผยตัวจริงแต่เขาก็ยังทำงานในสภาได้อยู่ดี แล้วเขาก็ทำได้ตามที่พูดเลยไม่มีใครไปบังคับให้เขาเปิดเผยตัวจริง...
    ชายหนุ่มหน้าหวานเหลือบตาโตๆขึ้นอย่างใช้ความคิด-- --นี่มันโรงเรียนระบบไหนกันเนี่ย?ที่ไม่มีใครรู้จักชื่อกับตัวจริงของประธานนักเรียนน่ะห๊ะ!
    -- --อุเคียวคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา พอดีกับที่นาโอมิพูดเสริมขึ้นมา

    ก็เคยมีชมรมหนังสือพิมพ์ที่คิดแผลงจัดงานตามหาตัวจริงของประธานนักเรียนนะ แต่ไม่นานชมรมก็ถูกระงับงบประมาณจนต้องปิดมาจนถึงอาทิตย์ที่แล้ว ที่กลับมาเปิดได้อีกก็เพราะสมาชิกเก่ายอมลาออกหมดเลยน่ะ แต่ทุกคนก็ยังหลงเสน่ห์ในหน้าตา ไหวพริบในการแก้ปัญหาต่างๆในร.ร.และอำนาจสูงรองจากผ.อ.ของประธานมินามิอยู่ดีน่ะแหละ

    แล้วปกติที่นี่เขาเลือกพวกกรรมการนักเรียนกันยังไงล่ะ? ตอนหาเสียงเขาไมลำบากแย่เหรอ ก็เล่นไม่รู้ชื่อคนที่จะลงคะแนนให้น่ะนะอุเคียวถามอย่างทนไม่ไหว

    อ๋อ...ประธานเขาไม่ได้หาเสียงหรอก ตำแหน่งอื่นก็อาจจะนะ...แต่ประธานนักเรียนแต่ละรุ่นจะต้องคอยมองหาและส่งมอบตำแหน่งนี้ให้กับคนที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสมหรือพอใจน่ะโดยที่ทางโรงเรียนจะไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้เลยเซกิตอบ-- --แต่งตั้งตามความพอใจ?เธอชักหงุดหงิดกับระบบบ้าๆของที่นี่เต็มทีแล้วนะ มันจะอิสระเสรีไปรึเปล่า?-- --
     
    หลังจากสอบถามไปอีกพักใหญ่ เธอก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับ ประธานนักเรียนคนนั้นเพิ่มขึ้นเลยลองหันไปถามชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

    แล้วนายล่ะ?รู้อะไรเกี่ยวกับประธานมินามิบ้าง?อุเคียวหันไปถามด็อกเตอร์

    จะรู้ไปทำไมชายหนุ่มถามกลับเสียงห้วนปนหวาดระแวงหน่อยๆ

    เอ๋?

    อะเอ่อผมหมายถึง....ผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรหรอกครับชายหนุ่มตอบขณะที่นัยน์ตาคมใต้แว่นหนาก็หลุบลง

    งั้นเหรอ?อืม...น่าเสียดายจังอุเคียวถอนใจ

    ทำไมล่ะครับ?ด็อกเตอร์ถาม

    เปล่าหรอก..แค่ฉันสนใจเขานิดหน่อยน่ะอุเคียวตอบ

    ผมว่าเธอเลิกหวังดีกว่านะ...เพราะผมได้ยินมาว่าประธานน่ะไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ชายหนุ่มตอบทำท่าเหมือนระลึกอดีต....

    ไม่สนใจผู้หญิงงั้นเหรอ?แล้วปกติมินามิไม่คิดจะโผล่มาในโรงเรียนบ้างเลยเหรอ?หญิงสาวพึมพำระหว่างเดินไปหยิบอุปกรณ์การเรียนที่ห้องวิทย์นี่เธอก็ย้ายมาจะสองอาทิตย์อยู่แล้วแต่นายประธานสุดหล่อนั่นก็ยังไม่ยอมโผล่มาที่โรงเรียนเกินครึ่งชม.ถ้าทางกรรมการนักเรียนไม่มีงานอะไรล่ะก็...

    มาเอาอุปกรณ์คนเดียวนี่ลำบากชะมัด..เธอบ่นหลังจากเห็นบรรดาอุปกรณ์การทดลองทั้งหลายที่ต้องขน แต่ก็ได้แต่ทำใจเก็บ(โกย)ของใส่ลังแล้วยกมันขึ้นมา
    แคว่ก...ตุบ!เคร้ง!
    อาจเป็นเพราะความซวยก้นลังเจ้ากรรมเลยขาดทันทีที่อุเคียวยก...

    กรรมๆๆๆๆนี่จะพังไหมฟะเนี่ย?!”เธอสบถอุบชนิดที่ว่าถ้าใครมาได้ยินมาดเด็กใหม่ผู้แสนดีที่เพียรสร้างมาเป็นอาทิตย์ได้ล้มเหลวไม่มีชิ้นดีแน่ ว่าแล้วก็ก้มเก็บของขึ้นมาแต่มีตะเกียงแอลกอฮอล์อันนึงที่กลิ้งเข้าไปในซอกหลืบประตูทางด้านหลัง...

    นี่นาย! ถ้าเห็นก็หัดช่วยกันบ้างสิ นายคนที่ยืนอยู่ข้างหลังประตูน่ะแหละ ฉันรู้ตั้งนานแล้วมาช่วยที..โธ่เว้ย!”สั่งเสร็จแล้วก็ต้องสบถอีกรอบก่อนจะเตะลังจนปลิวพ้นทาง ช่วยไม่ได้นี่หน่าก็อาทิตย์นี้เธอเสียเงินเพราะซื้อโปสเตอร์ของประธานมินามิที่มีคนแอบถ่ายกับแอบเก็บของที่เขาทำตกไว้มาขายจนเกือบหมดตัวแล้วเจ้าตัวคนที่เธอแอบปลื้มก็เข้าถึงตัวยากเหลือเกิน(ยกเว้นรูปมินามิในห้องนอนอันนี้เอามากอดก่อนนอนทุกวัน -- --)
    แถมพอมัวนั่งคิดเรื่องนี้ตอนอยู่ในห้องอาจารย์ก็ใช้ให้มาเอาของแล้วลังบ้านี่ยังจะขาดอีก
    !

    นี่!”เธอเรียกอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หลังประตูยังคงนิ่ง ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว
    แล้วเก็บของส่งคืนให้ พอเธอเงยหน้าขึ้นก็พบกับ....

    ประธาน..มินามิอุเคียวอาปากค้างอย่างไม่คิดว่าคนที่เธอบ่นถึงจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม

    นี่ไงของที่เธอทำตกชายหนุ่มยื่นให้เธออีกครั้ง วันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อตัวนอกทำให้เธอเห็นแขนขาวๆที่มีกล้ามพองามที่ยื่นออกมานอกเสื้อแขนกุดสีดำที่ปกติมักจะถูกสวมทับด้วยเสื้อนอก

    อ..ค่ะเธอว่ารับตะเกียงมา แต่มือของเธอบังเอิญไปจับกับมือของประธานนักเรียนเข้า

    อา..นี่สินะมือของผู้ชาย...ทั้งใหญ่ละอุ่นดีจัง...

    เอ่อ!”เขาส่งเสียงเตือนสติ ทำให้เธอพบว่ากำลังใช้สองมือของตัวเองกุมมือเขาแน่นและกำลังจะยกขึ้นมาถูกับแก้มอย่างลืมตัว...

    อุเคียวรีบปล่อยมือทันทีนัยน์ตาคมๆของเธอเหลือบไปมองอีกฝ่ายที่กำลังใช้มืออีกข้างดันแว่นไร้กรอบของตัวเอง

    ขะขอโทษค่ะเธอรีบบอกฉันไม่รู้ว่าคุณจะมาอยู่แถวนี้..เธอว่า นี่ถ้าเธอมองไม่ผิด เขากำลังเช็ดมือด้วยผ้าเช็ดหน้าผ้าไหม แต่ทำไมกันล่ะ?นี่เขารังเกียจเธอมากขนาดนั้นเชียว?

    เอ่อ..คือขอโทษนะพอดีผมเวลาถูกคนอื่นสัมผัสจะรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ ผมไม่ได้รังเกียจอะไรเธอเป็นพิเศษหรอกนะเขาอธิบายราวกับอ่านใจเธอได้

    อ่า..ค่ะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยอุเคียวว่าพลางหอบหิ้วของต่างๆออกจากห้องวิทย์แล้วคุณไม่ชอบให้ทุกคนแตะตัวเลยจริงๆน่ะเหรอ?

    ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่คนในครอบครัวล่ะ..ก็ใช่เขาตอบพลางนึกด่าตัวเองในใจที่เผลอตอบเรื่องส่วนตัวออกไป แล้วเธอไม่ไปเข้าเรียนเหรอ? ผมว่ามันเข้าคาบเรียนบ่ายมาซักพักแล้วนะ

    จริงสิ!ขอบคุณค่ะหญิงสาวเลยรีบรวบของในอ้อมแขนแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว

    แปลกชะมัดผู้หญิงคนนั้น
    ชายหนุ่มใช้มือดันแว่นไร้กรอบของตัวเองแล้วก้มมองตะเกียงแอลกอฮอล์อีกอันในมือ

    ว่าแต่เจ้านี่จะเอาไงเนี่ย..?
     
    หลังจากที่วิ่งทำลายสถิติเธอก็มาถึงห้องเรียนพร้อมกับอุปกรณ์การทดลอง

    แล้วทำไมเธอถึงไม่เอาใส่ลังมาล่ะ? หิ้วมาแบบนี้เดี๋ยวของก็ตกแตกหมดหรอกอาจารย์คุโด้รูปหล่อที่สอนวิทย์ถามหลังจากที่เห็นเธอ เอาของวางบนโต๊ะอย่างยากลำบาก

    คือ..พอดีลังมันขาดน่ะค่ะเธอตอบ

    แล้วทุกคนก็มามุงดูอาจารย์ที่เอาอุปกรณ์มาเริ่มสาธิตการทดลอง แต่ว่า...

    อาคาทสึกิซัง แล้วตะเกียงแอลกอฮอล์ล่ะไม่ได้เอามาด้วยเหรอ?ทุกอย่างบนโต๊ะครบหมด เว้นแต่ของที่ว่า..

    นี่ใช่ไหมครับมือขาวๆของใครบางคนวางของเจ้าปัญหาลงบนโต๊ะทดลอง

    ด็อกเตอร์!”อุเคียวเอ่ยอย่างดีใจขอบใจนะนายไปได้ไอ้นี่มายังไงน่ะ?

    ผมได้มาจากประธานน่ะ เขาฝากมาคืนครับชายหนุ่มตอบเสียงเรียบพลางใช้สันนิ้วดันแว่นที่เลื่อนลงมา
    จากนั้นพวกนักเรียนจึงได้เริ่มทดลองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากแต่อุเคียวก็หันไปเห็น ‘ด็อกเตอร์นั่งอ่านหนังสือไม่ได้เข้ามาฟังอาจารย์ทดลองอย่างคนอื่นๆเลยเอียงคอถามเซกิด้วยความสงสัย

    เซกิๆ นี่ ทำไมเขาไม่มาทดลองกับเราล่ะ?

    อ้อ..ก็หมอนั่นน่ะเขาผ่านวิชานี้ไปแล้วน่ะ คือว่า...ไงดีล่ะ? คือหมอนั่นน่ะดูเหมือนจะตกลงกับทางโรงเรียนว่าจะขอไม่เรียนวิชาบางวิชาแต่จะขอทดสอบไปเลยรวมถึงที่ต้องสอบกับพวกเราด้วย  

    ------จบไปหนึ่งตอนแต่งไว้นานแระ เพิ่งได้มาลงค่า มีตรงไหนไม่ดีก้อติชมได้นะค้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×