คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue
The Teller
[Prologue]
‘โรงเรียนอาดินน่า’ เป็นโรงเรียนที่ทำการคัดเลือกนักเรียนไว้เป็นระดับ คือ ดาร์คคลาส [Dark Class] อันได้แก่ ทีฟคลาส [Thief Class] คิลเลอร์คลาส [Killer Class]และคลาสอื่นๆ
ในขณะที่ ไวท์คลาส [White Class] ประกอบไปด้วย เมอร์แชนส์คลาส[Merchant Class] สวอด์มาสเตอร์คลาส [Sword Master Class] และคิงคลาส [King Class] รวมถึงคลาสปลีกย่อยต่างๆ...เป็นการแบ่งประเภทชนชั้นไปด้วยภายในตัว
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในอาณาจักร ‘เคนเซอร์’ซึ่งเป็นเพียงอาณาจักรเล็กๆ ถูกขนาบไว้ด้วยอาณาจักรเวเรีย และ เดเซีย ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพียงสองอาณาจักร ในขณะนั้น...ถึงกระนั้น ขนาดของโรงเรียนก็ใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของเคนเซอร์ทีเดียว
และที่หน้าประตูบานใหญ่สีทองอร่ามนั้น...คือสถานที่เริ่มต้นของเรื่องราว...
---------------------------------------------------
[ ย้อนไปเมื่อสองวันก่อน ]
“ฮ๊าววววว”
เมื่อมองไปข้างหน้าก็พบแต่ขบวนนักเรียนแถวยาวเหยียดที่หาต้นตอไม่ได้ พอมองข้างหลังก็พบกับใบหน้าถมึงทึงของนักเรียนที่เข้าแถวเรียงต่อจากตน สถานที่ๆเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมทำให้ไวล์อดไม่ได้ที่จะนึกในใจ
‘อะไรจะเคร่งเครียดกันขนาดน๊านนน...กับอีแค่สมัครเรียนโรงเรียนนึงเนี่ย มันต้องทำหน้าจะเป็นจะตายกันด้วยเรอะ’
ตั้งแต่เช้าแล้วที่เขาเข้าแถวอันยาวเหยียดนี้มา แล้วพบแต่ใบหน้าเคร่งเครียดบรรยากาศอึมครึม...ใช่แล้ว ขณะนี้เขากำลังเข้าแถวอยู่หน้าประตูสีทองอร่าม ทางเข้าเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อาดินน่า’แห่งนี้
ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของที่นี่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทิศทาง ดั้นด้นมาถึงพันไมล์ เพียงเพื่อยื่นใบสมัครเป็นนักเรียนของที่นี่...เหมือนจะดูเป็นเรื่องไร้สาระแต่ก็ไม่ใช่
“กะอีแค่โรงเรียน...จริงๆไปเรียนที่อื่นเอาก็ได้นี่นา” ไวล์บ่นอุบ ก่อนที่จะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากข้างๆตน
“หัวเราะทำไมอ่ะ?”
“นายนี่...ไม่รู้อะไรแล้วยังมาสมัครอีกนะ”
เจ้าของเสียงหัวเราะเป็นเด็กหนุ่มอยู่ในอาภรณ์หรูสีขาว ผมสีทองเปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์ ในขณะที่ดวงตาสีเขียวมรกตจับจ้องมายังไวล์อย่างขบขัน
“หมายความว่า?...”
“ก็ที่นี่น่ะ ไม่เหมือนโรงเรียนอื่นหรอกนะ ถึงจะไปสมัครที่อื่น แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับระดับของที่นี่...ที่อาดินน่าน่ะ ถ้าใครได้เป็นนักเรียนแล้ว จะได้รับใบรับรองว่าเป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพทันที ทำให้รัฐต่างๆต้องการตัว แล้วยังมีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโดยไม่ต้องเสียภาษีเพราะถือว่าร่ำเรียนเพื่อประเทศชาติมามากพอแล้ว อีกอย่าง...หลักสูตรของที่นี่น่ะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพราะงั้นมันถึงได้เป็นโรงเรียนที่พิเศษ...นายไม่รู้เลยงั้นสิ?”
เมื่อเห็นท่าทางเอ๋อแดกของอีกฝ่าย จึงได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้
“จริงสิ ขอโทษที่แนะนำตัวช้าไปหน่อย ฉันเดเมียส เอควารี ( อ่านว่า เอ-ควา-รี ) แล้วนายล่ะ?”
“อ่า...ไวล์ เล็ตเตอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เล็ตเตอร์? นามสกุลแปลกดีนะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
ดูเหมือนว่าคู่สนทนาจะจ้องผ้าโพกหัวของตนเป็นพิเศษ ไวล์จึงจับผ้าโพกหัวเบาๆ พร้อมกับหัวเราะแหะๆ
“แปลกเหรอ?”
“เอ๊ะ?”
เหมือนจะรู้สึกตัว เดเมียสรีบขอโทษขอโพยอีกฝ่าย ก่อนที่จะยิ้มแหยๆ
“ไม่แปลกหรอก เพียงแต่ฉันไม่ค่อยเห็นคนเอาผ้าผูกหัวแบบนี้เท่าไหร่ คงเพราะส่วนใหญ่พวกที่โพกหัวแบบนี้มักจะเป็นพวกชนเผ่าเร่ร่อนล่ะมั้ง เลยไม่คุ้นตา”
ไวล์หัวเราะ พร้อมกับขยิบตาให้อีกฝ่าย
“ไม่ผิดหรอก ฉันเป็นพวกชนเผ่าเร่ร่อนจริงๆ...เผ่าอะไรยังไม่รู้ด้วยซ้ำ”
เดเมียสยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนที่จะอุทานเบาๆเมื่อได้ยินเสียงประกาศเรียกตน เด็กหนุ่มตบไหล่ไวล์เบาๆพร้อมกับกระซิบก่อนไป
“ขอให้เข้าเรียนได้ล่ะ ไว้เจอกัน”
“อ่ะ...อืม”
พูดอย่างกับตัวเองได้เข้าเรียนแล้วแน่ๆงั้นแหล่ะ??...เอ...ว่าแต่ว่าหมอนั่นเข้ามาทักเราทำไมหว่า ? เอ๊ะ หรือเราออกอาการโง่ๆออกไปโจ่งแจ้งเกิน? หวา...ไวล์เกาหัวแกรกๆ พร้อมกับชะงักมือเมื่อสัมผัสผ้าที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาเมื่อครู่
ผ้าที่เด็กหนุ่มใช้ผูกเป็นผ้าสีน้ำตาลเข้มพันไว้รอบหัว แต่ไม่เหมือนพวกผ้าโพกหัวพวกแขกหรืออะไร เพียงแต่พันไว้เฉพาะระดับหน้าผาก นอกนั้นเจ้าตัวก็ปล่อยผมสีดำสนิทยาวลงมาคละไหล่เหมือนคนทั่วๆไปเท่านั้น
ถ้าไม่นับแว่นตาเก่าๆที่เจ้าตัวสวมไว้บนใบหน้า หากพิจารณาดีๆจะพบว่าไวล์มีใบหน้าที่คมคายและดวงตาสีฟ้าอ่อนที่สุกสกาว แต่เพราะท่าทางเหม่อลอยของเจ้าตัวจึงทำให้น้อยคนนักที่จะสังเกตความเป็นจริงนี้
“ผู้สมัครหมายเลข 4895 กรุณาโชว์ตัวที่ทางเข้าด้วย”
สิ้นเสียงประกาศ ไวล์ก็ถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับก้าวเข้าสู่ประตูแห่งการทดสอบ ก้าวแรก...สู่สถานที่ๆเรียกกันว่า ´อาดินน่า...โรงเรียนแห่งโชคชะตา’
-------------------------------------------------------------
ถ้าให้พูดตามตรง ไม่เคยเลยซักครั้งในชีวิตของเด็กหนุ่ม ที่คิดจะสมัครเข้ามาเรียนที่นี่ ถ้าไม่เป็นเพราะไอ้จดหมายเรียกตัวเมื่อสองอาทิตย์ก่อนล่ะก็...บนโต๊ะที่ระเกะระกะไปด้วยหนังสือเก่าใหม่คละกัน ปรากฏซองจดหมายขาวสะอาดวางเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโต๊ะ จะทำเป็นไม่เห็นก็ไม่ได้ ไวล์จึงจำใจต้องหยิบขึ้นมาอ่าน เนื้อหาที่อยู่ภายในนั้นเป็นบัตรเรียกตัวนักเรียนใหม่ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเคนเซอร์ ตอนแรกในจดหมายไม่ได้ระบุว่าเป็นโรงเรียนอะไร แต่ตราดอกยูริอัสสีขาวบริสุทธิ์นั้นก็ชี้ชัดเป็นอย่างดี
ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายนั่นขู่ไว้ว่า ถ้าไม่มาจะถูกทางการจับและปรับละก็....เฮ้อ....ไม่อยากมาเล้ยยย...
แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาเรียนที่นี่นั้นยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง..
เหตุผลที่บอกใครไม่ได้...
เฮ้ออออ...เบื่อจริงๆเลย ชีวิตคนเราเนี่ยยยยยยยยยยย!!!
ตอนนี้ที่เบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม ประกอบไปด้วยเก้าอี้เก่าๆตัวหนึ่ง กับชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ที่ยืนรอใครบางคนอย่างสงบเสงี่ยมที่กลางลาน นอกจากนั้น ก็เป็นความมืดที่มืดเสียจนมองอะไรไม่เห็น จนแทบไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่านั่นใช่กำแพงแน่หรือเปล่า หรือจะมีอะไรมากไปกว่านั้น?
“ชื่อและนามสกุล?”
จู่ๆเสียงแหบพร่าดึงขึ้นจากชายตรงหน้าหลังจากที่เด็กหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ ‘ที่คาดว่าน่าจะเตรียมไว้สำหรับผู้สมัคร’ ไวล์สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนเอ่ยอย่างช้าๆแต่หนักแน่น
“ไวล์ เล็ตเตอร์”
“เล็ตเตอร์?” ชายหนุ่มลูบคาง “แปลกดี...ที่อยู่ล่ะ?”
“รัฐอัลบาเรีย”
“พ่อแม่? พี่น้อง?”
เอ...ก็สัมภาษณ์ธรรมดานี่เนอะ ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลยนี่นา...
“พ่อชื่อ ชีราส เป็นพ่อค้า แม่ชื่อเอมีเลีย เป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆในเดเซีย มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อ โดเรียน ตอนนี้ไปทำงานที่รัฐเกนซ่าครับ”
“อืมม์........ผ้าโพกหัวนั่น...เร่ร่อนรึ?”
เอาล่ะสิ...
“เกือบใช่ครับ แต่พอดีครอบครัวของเราปักหลักอยู่ที่อัลบาเรีย ไม่ได้เร่ร่อนไปไหนเลยไม่ใช่กลุ่มเร่ร่อนแบบนั้น”
“แต่ยังไงก็ยังเป็นตระกูลจากชนเผ่าเร่ร่อนอยู่ดี” ประโยคนี้แม้จะฟังดูเหมือนพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ในสถานที่ๆเงียบสงัดเช่นนี้ จึงไม่แปลกใจที่ไวล์เองก็ได้ยินเช่นกัน
“............................”
จู่ๆชายคนนั้นก็เดินไปทางขวา พร้อมกับหยิบเอกสารออกมา...ถ้าเขามองไม่ผิด...หยิบออกจากกำแพง??มันไม่น่าจะมีที่เก็บเอกสารตรงนั้นนี่นา? ฝ่ายนั้นยืนพลิกหน้าเอกสารไปมาอยู่ครู่หนึ่งเหมือนจะพิจารณาอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะพยักหน้ากับตัวเองเบาๆ
“เอาล่ะ!”
พอเห็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของอีกฝ่าย ไวล์ก็ขมวดคิ้ว...เฮ้ๆ...อย่าบอกนะว่า...
“ผ่าน!! ยินดีต้อนรับเข้าสู่อาดินน่า ฉันชื่อซีเนีย อารากอส เป็นรองผู้อำนวยการที่นี่ ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะ ไวล์ เล็ตเตอร์”
หลังผ่านการสัมผัสมือกับอีกฝ่าย ไวล์ก็ได้แต่ยืนบื้ออยู่กับที่...
ผ่านแล้ว?....ผ่านแล้ว?....
ถึงจะตกใจกับความง่ายของการสัมภาษณ์มากแค่ไหน แต่ความจริงที่ว่าเขา ‘สอบผ่าน’ ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...เด็กหนุ่มกลายเป็นนักเรียนของอาดินน่าแห่งนี้แล้วจริงๆ!!
----------------------------------------------------------
[ End of Prologue ]
**แหะๆ ดีไม่ดียังไง ช่วยๆกันคอมเมนต์กานด้วยน้า เด่วไปเกาะช้าง 3 คืนจะอัพช้าหน่อยน้า ขอบคุณจ้า
ความคิดเห็น