ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ความรักที่สั่นคลอน
ท้องฟ้าสีดำสนิทแผ่ปกคลุมทั่วเมืองคาราคุระแทบไม่อาจจะมองเห็นดวงตาว
เมฆทะมึนลอยบดบังแสงแห่งจันทร์เหมือนปกปิดบางสิ่ง
มีพียงดวงไฟตามตึกและข้างทางเท้านั้นที่พอจะทำให้มองเห็นได้บ้าง
มืดมาก มืดเสียจนไม่มีใครสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติบ่นแผ่นฟ้าที่กำลังแยกออกจากกัน
ใบหน้าอันโหดเหี้ยมของชายหนุ่มผมสีฟ้าที่มีหน้ากากฮอลโลว์ที่แก้มขวา
ปรากฏออกมาให้เห็นทางช่องเชื่อมมิติมที่เป็นทางเข้าของฮอลโลว์
ร่างสูงก้าวลงมาจากฟ้าหยุดอยู่ตรงตึกสูงในเงามืด ตามมาด้วยอารันคาร์อีก 4 ตน
มองดูจากรอบนอกอารันคาร์กลุ่มนั้นดูเหมือนจะตกลงอะไรกันบางอย่างก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
กริมจอว์นั่งมองบรรดาพรรคพวกที่แยกกันไปตามสถานที่ต่างๆ ที่มีแรงกดดันวิญญาณแผ่ออกมา
ก่อนจะเลือกตามดีรอยด์ไป(แต่ถ้าอุลคิโอร่ามาด้วยเค้าคงเลือกตามแฟนตัวเองอยู่แล้ว)
........สองต่อหนึ่งจะดีใจหรือเสียใจแทนแกดีวะดีรอยด์...........
กริมจอว์คิดพลางมองดูคู่ต่อสู้ของดีรอยด์ทีละคน
คนที่ 1 ยมทูตหญิงผมสีดำใช้ดาบสีขาวทั้งตัวดาบ .....อุลคิโอร่าน่ารักกว่าเป็นกอง.......
คนที่ 2 เด็กหนุ่มอายุน่าจะไม่เกิน 17 ผมสีส้มนั้นเด่นสะดุดตาถือดาบฟันวิญญาณอันเบ้อเริ่ม
หน้าของกริมจอว์เริ่มร้อนขึ้นทันทีที่เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นทั้งๆที่เคยเห็นหน้ามาแล้วแท้ๆก่อนหน้านี้
ถ้าเค้าส่องกระจกดูคงจะเห็นว่าใบหน้าของตัวเองนั้นเป็นสีสด
เริ่มหายใจช้าลง ดวงตาสีฟ้าไม่ได้มองไปทางอื่นนอกจากเจ้าของผมสีส้มคนนั้น
ไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมอารันคาร์อีกต่อไป
เปรี๊ยะ ..........................!!!
เสียงที่เหมือนแก้วแตกนั้นทำให้ร่างสูงมองอยู่ไกลๆสะดุ้งเฮือก
" เฮ้ย! " หนุ่ผมฟ้าอุทานเบาๆเมื่อเห็นร่างของดีรอยด์แตกสลายไปต่อหน้าต่อตา
" เรามัวทำอะไรอยู่วะเนี่ย " กริจอว์บ่นอุบเหมือนกับเค้าไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
ก่อนจะรีบปรี่เข้าไปหายมทูตทั้งสองคนนั้น ในหัวไม่ได้สนใจเรื่องดีรอยด์นักหรอก
แรงกดดันวิญญาณทั้งสองนั้นเริ่มดึงดูดความสนใจของอารันคาร์หนุ่ม
ถึงจะแยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นของใคร แต่ที่แน่ๆมี 1 พลังวิญญาณที่เค้าให้ความสนใจเป็นพิเศษ
จะว่าความรู้สึกคันไม่คันมืออยากฆ่าคนทันก็ไม่ผิดแต่มันมีอีกความรู้สึกที่ซ่อนอยู่
" ไอ้หน้าไหนที่ว่าเจ๋ง " เสียงเอ่ยที่เยียบเย็นนั้นมาพร้อมกับแรงกดดันิญญาณที่ท่วมท้น
เรียกให้เด็กหนุ่มผมสีส้มและสาวผมดำถึงกับตกตะลึงเมื่อร่างนั้นปรากฏออกมาตรงหน้า
เหงื่อเริ่มพุดขึ้นมาตามไรผมและหน้าผากทั้งๆที่ยังคงรู้สึกเย็นๆในอากาศยามกลางคืน
" ถอยไปอิจิโกะ ! " หญิงสาวร้องบอกก่อนที่จะกระชับดาบในมือแน่น
" เกะกะ "
ติ่ง...................................
เลือดสีสดไหล่ลงไปย้อมพื้นทางเดินจนเป็นสีแดงสด
ดวงตาสีดำของยมทูตสาวเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก้มลงมองที่ร่างกายของตนเอง
แขนแข็งแกร่งแท่งทะลุท้อง ร่างสูงยกร่างเล็กๆนั้นขึ่นมา
ก่อนจะปาถึงไปอย่างไม่ใยดี แขนขวาของร่างสูงย้อมไปด้วยสีเลือดทั้งปลายแขน
" ลูเคีย! " อิจิโกะร้องลั่นอย่างตกใจมองไปยังผู้ที่ทำรเยเพื่อนของเค้าอย่างโกรธแค้น
" กริมจอว์ ชักเกอร์แจ็ค อารันคาร์ลำดับ 6 " หนุ่มผมฟ้าเอ่ยแนะนำตัวเอง
ลมที่พัดปลิวจากแรงกดดันวิญญาณที่ปะทะกันทำให้เสื้อคลุมตัวสั้นของหนุ่มผมฟ้าปลิวไสวเผยให้เห็นรอยสักเลข 6 บนแผ่นหลัง
.......เจ้านี่ซินะคนที่อุลคิโอร่าเจอ น่ารักดี........กริมจอว์ปล่อยให้สมองคิดไปเรื่อยๆตามความรู้สึกจริงๆที่อยากจะคิด
คนอย่างเค้าไม่เคยสนใจความคิดอะไรที่อยู่ในสมองอยู่เพราะถือว่ามันคือความรู้สึกจริงๆของตัวเอง
.....เฮ้ย~! ....... แต่การปล่อยความคิดไปตามธรรมชาตินั้นในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะผิดเพราะเลยเถิดไปไกลโข
" เอ้า รีบปลดปล่อยสวัสดิกมาสู้กันสักที ข้าไม่ได้มายืนดูเจ้าทำเรื่องไร้ประโยชน์หรอกนะ "
กริมจอว์รีบพูดถ้าขืนปล่อยเงียบนานเดี๋ยวจะสมองจะไปกันใหญ่
.......เรามีอุลคิโอร่าอยู่แล้ว อย่าลืมๆ......ร่างสูงพยายามเตือนตัวเองไม่ให้ไปคิดบ้าๆบอๆอะไร
แต่ดูมันจะทำได้ยากพอสมควรเลยล่ะ
" กริมจอว์ ! " อุลคิโอร่าร้องอย่างตกใจรีบปร่เข้าไปหาร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
" ไปทำอะไรมาเนี่ย " คนที่ตัวเล็กกว่าถามเสียงสูงพลางมองไปที่แขนข้างีท่ขาดไปของกริมจอว์
ผู้บาดเจ็บดูเหมือนไม่อารมณ์ที่จะตอบแต่ว่าถึงตอบไปก็คงจะไม่ฟัง
อารันคาร์ผิวซีดกระวีกระวาดวิ่งพล่านไปทั่วห้องขุดเอาผ้าพันแผลหรืออะไรก็ตามที่รักษาแผลได้ออกมา
.......บ้าชัดๆ ข้าไม่ได้ชอบไอ้หัวส้มนั่นซะหน่อย งี่เง่าชะมัด.......
ถึงจะพยายามปฏิเศธตัวเองแบบน้นแต่ว่ากริมจอว์ก็ยังคงสงสัยตัวเค้าเองอยู่
ถ้าไม่ได้ชอบทำไมก่อนจะจากมาทำไมถึงอดใจไม่ได้ที่จะหันไปมองให้เต็มตาอีกครั้ง
ถ้าไม่รักทำไมถึงเสียใจนักที่ทำร้ายเด็กหนุ่มนั่น
ทำไมถึงชักดาบออกมาได้อยากเย็นนักเมื่อได้เห็นตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น
สุดท้ายทำไมเค้าถึงดีใจเมื่อถูกลากกลับมาก่อนที่จะพลั้งมือทำอะไรไปมากกว่านั้น
" โอ๊ย ! เจ็บนะเบาๆหน่อยซิ " กริมจอว์หันไปแวดใส่อุลคิโอร่าที่เบามือน้อยไปหน่อย
" ขะ....ขอโทษ " คนทำแผลพยายามทำให้เบาลง ทะนุถนอมสุดชีวิต
ร่างสูงก้มลงมองคนที่อุตส่าทำแผลให้เค้าทั้งๆที่ไม่เคยทำให้ใครและไม่รู้ว่าทำเป็นรึเปล่า
ใบหน้าขาวนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
ตั้งอกตั้งใจทำแผลให้คนรักอย่างขะมักเข้มนจนคนมองต้องอมยิ้ม
" เอ้า เสร็จแล้ว " อุลคิโอร่าปาดเหงื่อ พลางยิ้มกว้างให้กับคนผมฟ้า
อารันคาร์หนุ่มร่างสูงถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะใช้แขนข้างที่ยังดีอยู่ดึงร่างบางเข้ามากอดจนแน่น
" มีอะไรเหรอ " คนที่ถูกกอดถามอย่างสงสัยปนงง วันนี้มาแปลก
" อุลคิโอร่า ข้ารักเจ้าคนเดียว " กริมจอว์พูดสั้นๆ ก่อนจะรัดกอดนั้นแน่นเข้าไปอีก
คำพูดนั้นเหมือนจะตอกย้ำตนเองว่าไม่ได้นอกใจไปไหนทั้งนั้น
.........ข้ารักคนตรงหน้านี้เท่านั้น.....
" อืม......ข้ารู้ " หนุ่มผิวซีดพูดแล้วกอดตอบ
" เหนื่อยมั้ย " ชายผมดำถามเมื่อคนตรงหน้ายอมคลายอ้อมกอดออก
กริมจอว์ส่ายหน้า ร่างสูงกุมมืออุลคิโอร่าเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ตาสีฟ้านั้นมองใบหน้าสวยอย่างไม่ว่างตาจนคนถูกมองรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
" นอนกันเถอะ " ร่างางเสนอก่อนจะยืนขึ้นและฉุดร่างเล็กให้ยืนขึ้นด้วย
อุลคิโอร่าพยักหน้าตอนนี้กริมจอว์ว่ายังไงเค้าก็ยอมทั้งนั้น
.......ข้าเห็นเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยแบบนี้ อะไรข้าก็ยอมทั้งนั้น......
ร่างสีขาวนอนซบอยู่กับไหล่หนา ขอนบางโอบกอดร่างข้างๆเอาไว้หลวมๆก่อนจะหลับสนิท
แต่กริมจอว์ยังหลับไม่ลงเลย แขนกำลังโอบเอวคนข้างๆแต่จิตใจกำลังลอยไปไกลแสนไกล
......คุโรซากิ อิจิโกะ......
ชื่อ ใบหน้าและแววตานั้นกำลังเด่นชัดขึ้นมาในมโนภาพจนสอมงแทบจะระเบิดแตก
กริมจอว์รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งขึ้นมาทันที ทำไมเค้าต้องไปคราวนี้เจอแต่เรื่องแย่ๆ
ถึงจะมีเรื่องดีๆอย่างเช่น อิลฟอร์ดตายทำให้หนุ่มผมฟ้าอารมณ์ดีขึ้นมาได้หน่อย
เพราะตั้งแต่เรื่องคราวนั้นเค้าก็ไม่ชอบหน้าไอ้หมอนั่นเลยซักนิด แค่มองเห็นก็หงุดหงิดจะแย่
....งี่เง่า งี่เง่า งี่เง่า! ทำไมไอ้เด็กนั่นมันไม่หายไปจากหัวข้าซะทีวะ ! ............
กริมจอว์หลับตาแน่น เพื่อสะบัดความคิดที่เกี่ยวกับอิจิโกะให้หายไป
พยายามข่มตาให้หลับไป เค้าแคนตัวเอง แค้นตัวเค้าเองยิ่งนัก
ทำไมเค้าถึงทำเรื่องที่ทำให้คนที่เค้ารักเสียใจได้ลงคอ
เมฆทะมึนลอยบดบังแสงแห่งจันทร์เหมือนปกปิดบางสิ่ง
มีพียงดวงไฟตามตึกและข้างทางเท้านั้นที่พอจะทำให้มองเห็นได้บ้าง
มืดมาก มืดเสียจนไม่มีใครสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติบ่นแผ่นฟ้าที่กำลังแยกออกจากกัน
ใบหน้าอันโหดเหี้ยมของชายหนุ่มผมสีฟ้าที่มีหน้ากากฮอลโลว์ที่แก้มขวา
ปรากฏออกมาให้เห็นทางช่องเชื่อมมิติมที่เป็นทางเข้าของฮอลโลว์
ร่างสูงก้าวลงมาจากฟ้าหยุดอยู่ตรงตึกสูงในเงามืด ตามมาด้วยอารันคาร์อีก 4 ตน
มองดูจากรอบนอกอารันคาร์กลุ่มนั้นดูเหมือนจะตกลงอะไรกันบางอย่างก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
กริมจอว์นั่งมองบรรดาพรรคพวกที่แยกกันไปตามสถานที่ต่างๆ ที่มีแรงกดดันวิญญาณแผ่ออกมา
ก่อนจะเลือกตามดีรอยด์ไป(แต่ถ้าอุลคิโอร่ามาด้วยเค้าคงเลือกตามแฟนตัวเองอยู่แล้ว)
........สองต่อหนึ่งจะดีใจหรือเสียใจแทนแกดีวะดีรอยด์...........
กริมจอว์คิดพลางมองดูคู่ต่อสู้ของดีรอยด์ทีละคน
คนที่ 1 ยมทูตหญิงผมสีดำใช้ดาบสีขาวทั้งตัวดาบ .....อุลคิโอร่าน่ารักกว่าเป็นกอง.......
คนที่ 2 เด็กหนุ่มอายุน่าจะไม่เกิน 17 ผมสีส้มนั้นเด่นสะดุดตาถือดาบฟันวิญญาณอันเบ้อเริ่ม
หน้าของกริมจอว์เริ่มร้อนขึ้นทันทีที่เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นทั้งๆที่เคยเห็นหน้ามาแล้วแท้ๆก่อนหน้านี้
ถ้าเค้าส่องกระจกดูคงจะเห็นว่าใบหน้าของตัวเองนั้นเป็นสีสด
เริ่มหายใจช้าลง ดวงตาสีฟ้าไม่ได้มองไปทางอื่นนอกจากเจ้าของผมสีส้มคนนั้น
ไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมอารันคาร์อีกต่อไป
เปรี๊ยะ ..........................!!!
เสียงที่เหมือนแก้วแตกนั้นทำให้ร่างสูงมองอยู่ไกลๆสะดุ้งเฮือก
" เฮ้ย! " หนุ่ผมฟ้าอุทานเบาๆเมื่อเห็นร่างของดีรอยด์แตกสลายไปต่อหน้าต่อตา
" เรามัวทำอะไรอยู่วะเนี่ย " กริจอว์บ่นอุบเหมือนกับเค้าไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
ก่อนจะรีบปรี่เข้าไปหายมทูตทั้งสองคนนั้น ในหัวไม่ได้สนใจเรื่องดีรอยด์นักหรอก
แรงกดดันวิญญาณทั้งสองนั้นเริ่มดึงดูดความสนใจของอารันคาร์หนุ่ม
ถึงจะแยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นของใคร แต่ที่แน่ๆมี 1 พลังวิญญาณที่เค้าให้ความสนใจเป็นพิเศษ
จะว่าความรู้สึกคันไม่คันมืออยากฆ่าคนทันก็ไม่ผิดแต่มันมีอีกความรู้สึกที่ซ่อนอยู่
" ไอ้หน้าไหนที่ว่าเจ๋ง " เสียงเอ่ยที่เยียบเย็นนั้นมาพร้อมกับแรงกดดันิญญาณที่ท่วมท้น
เรียกให้เด็กหนุ่มผมสีส้มและสาวผมดำถึงกับตกตะลึงเมื่อร่างนั้นปรากฏออกมาตรงหน้า
เหงื่อเริ่มพุดขึ้นมาตามไรผมและหน้าผากทั้งๆที่ยังคงรู้สึกเย็นๆในอากาศยามกลางคืน
" ถอยไปอิจิโกะ ! " หญิงสาวร้องบอกก่อนที่จะกระชับดาบในมือแน่น
" เกะกะ "
ติ่ง...................................
เลือดสีสดไหล่ลงไปย้อมพื้นทางเดินจนเป็นสีแดงสด
ดวงตาสีดำของยมทูตสาวเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก้มลงมองที่ร่างกายของตนเอง
แขนแข็งแกร่งแท่งทะลุท้อง ร่างสูงยกร่างเล็กๆนั้นขึ่นมา
ก่อนจะปาถึงไปอย่างไม่ใยดี แขนขวาของร่างสูงย้อมไปด้วยสีเลือดทั้งปลายแขน
" ลูเคีย! " อิจิโกะร้องลั่นอย่างตกใจมองไปยังผู้ที่ทำรเยเพื่อนของเค้าอย่างโกรธแค้น
" กริมจอว์ ชักเกอร์แจ็ค อารันคาร์ลำดับ 6 " หนุ่มผมฟ้าเอ่ยแนะนำตัวเอง
ลมที่พัดปลิวจากแรงกดดันวิญญาณที่ปะทะกันทำให้เสื้อคลุมตัวสั้นของหนุ่มผมฟ้าปลิวไสวเผยให้เห็นรอยสักเลข 6 บนแผ่นหลัง
.......เจ้านี่ซินะคนที่อุลคิโอร่าเจอ น่ารักดี........กริมจอว์ปล่อยให้สมองคิดไปเรื่อยๆตามความรู้สึกจริงๆที่อยากจะคิด
คนอย่างเค้าไม่เคยสนใจความคิดอะไรที่อยู่ในสมองอยู่เพราะถือว่ามันคือความรู้สึกจริงๆของตัวเอง
.....เฮ้ย~! ....... แต่การปล่อยความคิดไปตามธรรมชาตินั้นในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะผิดเพราะเลยเถิดไปไกลโข
" เอ้า รีบปลดปล่อยสวัสดิกมาสู้กันสักที ข้าไม่ได้มายืนดูเจ้าทำเรื่องไร้ประโยชน์หรอกนะ "
กริมจอว์รีบพูดถ้าขืนปล่อยเงียบนานเดี๋ยวจะสมองจะไปกันใหญ่
.......เรามีอุลคิโอร่าอยู่แล้ว อย่าลืมๆ......ร่างสูงพยายามเตือนตัวเองไม่ให้ไปคิดบ้าๆบอๆอะไร
แต่ดูมันจะทำได้ยากพอสมควรเลยล่ะ
" กริมจอว์ ! " อุลคิโอร่าร้องอย่างตกใจรีบปร่เข้าไปหาร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
" ไปทำอะไรมาเนี่ย " คนที่ตัวเล็กกว่าถามเสียงสูงพลางมองไปที่แขนข้างีท่ขาดไปของกริมจอว์
ผู้บาดเจ็บดูเหมือนไม่อารมณ์ที่จะตอบแต่ว่าถึงตอบไปก็คงจะไม่ฟัง
อารันคาร์ผิวซีดกระวีกระวาดวิ่งพล่านไปทั่วห้องขุดเอาผ้าพันแผลหรืออะไรก็ตามที่รักษาแผลได้ออกมา
.......บ้าชัดๆ ข้าไม่ได้ชอบไอ้หัวส้มนั่นซะหน่อย งี่เง่าชะมัด.......
ถึงจะพยายามปฏิเศธตัวเองแบบน้นแต่ว่ากริมจอว์ก็ยังคงสงสัยตัวเค้าเองอยู่
ถ้าไม่ได้ชอบทำไมก่อนจะจากมาทำไมถึงอดใจไม่ได้ที่จะหันไปมองให้เต็มตาอีกครั้ง
ถ้าไม่รักทำไมถึงเสียใจนักที่ทำร้ายเด็กหนุ่มนั่น
ทำไมถึงชักดาบออกมาได้อยากเย็นนักเมื่อได้เห็นตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น
สุดท้ายทำไมเค้าถึงดีใจเมื่อถูกลากกลับมาก่อนที่จะพลั้งมือทำอะไรไปมากกว่านั้น
" โอ๊ย ! เจ็บนะเบาๆหน่อยซิ " กริมจอว์หันไปแวดใส่อุลคิโอร่าที่เบามือน้อยไปหน่อย
" ขะ....ขอโทษ " คนทำแผลพยายามทำให้เบาลง ทะนุถนอมสุดชีวิต
ร่างสูงก้มลงมองคนที่อุตส่าทำแผลให้เค้าทั้งๆที่ไม่เคยทำให้ใครและไม่รู้ว่าทำเป็นรึเปล่า
ใบหน้าขาวนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
ตั้งอกตั้งใจทำแผลให้คนรักอย่างขะมักเข้มนจนคนมองต้องอมยิ้ม
" เอ้า เสร็จแล้ว " อุลคิโอร่าปาดเหงื่อ พลางยิ้มกว้างให้กับคนผมฟ้า
อารันคาร์หนุ่มร่างสูงถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะใช้แขนข้างที่ยังดีอยู่ดึงร่างบางเข้ามากอดจนแน่น
" มีอะไรเหรอ " คนที่ถูกกอดถามอย่างสงสัยปนงง วันนี้มาแปลก
" อุลคิโอร่า ข้ารักเจ้าคนเดียว " กริมจอว์พูดสั้นๆ ก่อนจะรัดกอดนั้นแน่นเข้าไปอีก
คำพูดนั้นเหมือนจะตอกย้ำตนเองว่าไม่ได้นอกใจไปไหนทั้งนั้น
.........ข้ารักคนตรงหน้านี้เท่านั้น.....
" อืม......ข้ารู้ " หนุ่มผิวซีดพูดแล้วกอดตอบ
" เหนื่อยมั้ย " ชายผมดำถามเมื่อคนตรงหน้ายอมคลายอ้อมกอดออก
กริมจอว์ส่ายหน้า ร่างสูงกุมมืออุลคิโอร่าเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ตาสีฟ้านั้นมองใบหน้าสวยอย่างไม่ว่างตาจนคนถูกมองรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
" นอนกันเถอะ " ร่างางเสนอก่อนจะยืนขึ้นและฉุดร่างเล็กให้ยืนขึ้นด้วย
อุลคิโอร่าพยักหน้าตอนนี้กริมจอว์ว่ายังไงเค้าก็ยอมทั้งนั้น
.......ข้าเห็นเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยแบบนี้ อะไรข้าก็ยอมทั้งนั้น......
ร่างสีขาวนอนซบอยู่กับไหล่หนา ขอนบางโอบกอดร่างข้างๆเอาไว้หลวมๆก่อนจะหลับสนิท
แต่กริมจอว์ยังหลับไม่ลงเลย แขนกำลังโอบเอวคนข้างๆแต่จิตใจกำลังลอยไปไกลแสนไกล
......คุโรซากิ อิจิโกะ......
ชื่อ ใบหน้าและแววตานั้นกำลังเด่นชัดขึ้นมาในมโนภาพจนสอมงแทบจะระเบิดแตก
กริมจอว์รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งขึ้นมาทันที ทำไมเค้าต้องไปคราวนี้เจอแต่เรื่องแย่ๆ
ถึงจะมีเรื่องดีๆอย่างเช่น อิลฟอร์ดตายทำให้หนุ่มผมฟ้าอารมณ์ดีขึ้นมาได้หน่อย
เพราะตั้งแต่เรื่องคราวนั้นเค้าก็ไม่ชอบหน้าไอ้หมอนั่นเลยซักนิด แค่มองเห็นก็หงุดหงิดจะแย่
....งี่เง่า งี่เง่า งี่เง่า! ทำไมไอ้เด็กนั่นมันไม่หายไปจากหัวข้าซะทีวะ ! ............
กริมจอว์หลับตาแน่น เพื่อสะบัดความคิดที่เกี่ยวกับอิจิโกะให้หายไป
พยายามข่มตาให้หลับไป เค้าแคนตัวเอง แค้นตัวเค้าเองยิ่งนัก
ทำไมเค้าถึงทำเรื่องที่ทำให้คนที่เค้ารักเสียใจได้ลงคอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น