ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    D. คนอันตราย ชีวิตอันตราย

    ลำดับตอนที่ #5 : ข่าวร้าย

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 49


       โยคุมองสลับไปมาระหว่างพี่ชายและหนุ่มผู้มาเยือนดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้ลึกลับคนนี้จะเป็นคนรู้จักของพี่ชายคนเดียวของนางเสียด้วย
         ชายหนุ่มผู้มาเยือนอยู่ในชุดสีดำแบบเดียวกับจิโตเสะผมสีดำยาวประบ่าหยักศกเล็กน้อย  ผิวสีแทน ดวงตาสีดำนั้นฉายประกายของความขี้เล่นออกมาแต่มันก็ออกมาพร้อมกับความเจ้าเล่ห์ด้วยเช่นกัน

          " ฟะ...ฟูจิ " จิโตเสะละล่ำละลักเอ่ยชื่อนั้นออกมาราวกับว่ามันป็นชื่อที่ออกเสียงยากจนเกินไปสำหรับเค้าเจ้าของนามเผยรอยยิ้มกว้างให้กับเจ้าของบ้านอย่างบ่งบอกว่าดีใจที่ยังอุตส่าจำกันได้

        " นึกว่าจะจำกันไม่ได้แล้วซะอีกนะ " ฟูจิเอ่ยขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนสทินคนคุ้นเคยใบหน้าของจิโตเสะที่ดูตกตะลึงพรึงเพริดค่อยๆคลายลงก่อนจะเกิดเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย ชายหนุ่มผละจากน้องสาวเดินเข้าหาผู้มาเยือนเช่นกัน
         ทั้งคู่ยืนประจันหน้ากับ สายลมอ่อนๆที่พัดมาทำให้ทั้งยอดหญ้าและผมสีดำสนิทของทั้งสองพัดปลิว
         จากท่าทางที่มองเห็นในทีแรกทำให้เด็กหญิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่พี่ชายไม่อยากจะเจอ

       " เป็นไงไม่ได้จเอกันตั้งนานสบายดีรึเปล่า " แต่จากคำพูดที่ออกมาจากปากดูแล้วว่าโยคุคงจะคิดผิดไปถนัดใจชายหนุ่มทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เจอกันเสียนานจนน้องสาวผมสีน้ำตาลอมทองคนนี้รู้สึกเหมือนกำลังถูกถอดทิ้งแขนทั้งสองข้างที่เคยทิ้งไว้ข้างตัวถูกยกขึ้นมากอดอก พลางเริ่มประดิกเท้าดิกๆอย่างหงุดหงิด

           ท่าทำแบบนี้แล้วพี่ชายยังไม่รู้สึกเจ้าตัวน้อยก็ไม่รู้ว่าจะว่าเยี่ยงไรแล้ว

         เมื่อดวงตาสีดำเห็นการเคลื่อนไหวอันผิดปกติของน้องสาวก็หันกลับมามองจนได้

       " เกือบลืมเลยนะเนี่ย " จิโตเสะพูดขณะที่เดินกลับมาคนขี้หงุดหงิด

    ...ก็ลืมไปแล้วไม่ใช่เรอะ... โยคุคิดอย่างไม่พอใจขณะที่พี่ชายกำลังกึ่งลากกึ่งจูงนางไปหาเพื่อนของเค้า

         " นี่เหรอหลาน..." ฟูจิยังพูดไม่ทันจะจบประโยคมือเรียวสวยของชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าสหายก็ตบ ป้าบ ! มาปิดปากทันทีก่อนที่จะเอ่ยจบ

          โยคุหน้านิ่วคิ้วขมวดในทันทีที่เห็นปติกริยาแปลกๆของพี่ชายและข้องใจในประโยคุที่ชายหนุ่มผมยาวคนนี้พูดยังไม่จบอีกด้วย ...หลานอะไรกัน...
     ดวงตาของเค้ากำลังมองนางอยู่ด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะอยากรู้อยากเห็นเกินความจำเป็น   รอยฝีปากของพี่ชายคลี่ยิ้มแต่ดูแล้วรอยยิ้มนั้นดูจะทำให้น้องสาวไม่สบายใจมากกว่าจะทำให้สบายใจ

          ในสายตาของโยคุที่มองนั้นรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพี่ชายของตนเองกำลังฝืนยิ้มไว้อย่างเต็มความสารถ

    " เข้าไปในบ้านก่อนแล้วกันนะ โยคุ ดูถ้าพี่คงจะมีเรื่องต้องคุยกับเพื่อนพี่ซะหน่อยแล้วล่ะ " น้ำเสียงของพี่ชายนั้นดูเหมือนจะไม่สบายใจในเรื่องบางอย่าง
    ไม่ใช่น้ำเสียงขี้เล่นกวนประสาทแบบของพี่ชายคนเดิมที่ผ่านๆมา

           โยคุยังไม่อยากเข้าไปนางอยากรู้เรื่องที่ทำให้พี่ชายของนางเครียดได้ถึงขนาดนี้

     " เข้าไปซิ " ชายหนุ่มผมสีดำพลักน้องสาวเข้าไปในบ้าน

         ถึงจะอยากอยู่ด้วยแค่ไหนแต่ก็ยังเกรงใจพี่ชายที่ตอนนี้ดูแล้วน่าจะเครียด
    ไม่อยากทำให้พี่ต้องเครียดมากไปกว่านี้ยอมให้เค้าซักวันคงไม่ตายหรอก
    ถึงจะย้อมเข้าบ้านแต่โดยดี โยคุก็ยังอดไม่ได้ที่จะไม่หันมามองพี่ชายและเพื่อน
    ทั้งคู่เดินหายไปจนหลับสายตาพร้อมกับประตูบ้านที่ปิดลงด้วยมีสีขาวนวลของเด็กหญิง



       " มีอะไรก็ว่ามา " เสียงที่ถามออกมาจากปากของจิโตเสะดูห้วนๆอย่างหงุดหงิดท่าทางดีใจที่ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย เปลี่ยมาเป็นความรู้สึกหงุดหงิดและไม่ต้องการเห็นหน้าของเพื่อนคนนี้อีกเลยตลอดชีวิตลมที่เคยรู้สึกว่ามันเย็นสบายเมื่อพัดผ่านเวลายืนอยู่บนยอดไม้ในคราที่ผ่านมานับไม่ถ้วน  ยามนี้ถึงจะเป็นสถานที่เดียวกันแต่มันก็ดูหนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูกที่เลือกที่นี่เหตุผลสำคัญที่สุดก็เพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยินสิ่งที่กำลังจะพูด
     
                             ไม่ว่าเรื่องนั้จะเป็นอะไรก็ตามแต่



        " อะไรกันข้าพูดอะไรไม่ดีออกไปรึไงหน้าบูดอย่างกับว่าข้าไปว่าอะไรเจ้างั้นแหละ " ฟูจิถามอย่างทีเล่นทีจริงต่างกับคนที่เค้ากำลังคุยด้วยราวฟ้ากับเหว
    จิโตเสะกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์กับนิสัยที่ยังไงก็ดูไม่ได้พัฒนาในทางที่ดีขึ้นเลยของเพื่อนฟูจิรับลมที่พัดผ่านมาอย่างสบายอามณ์โดยไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดเลยซักนิดเดียว



        " มีธุระอะไรก็รีบๆพูดมาข้าไม่มีเวลาว่างทั้งวันหรอกนะ "
    ชายหนุ่มเริ่มขึ้นเสียงอย่างรำคาญที่จะรอดวงตาสีดำเป็นประกายกร้าวอย่างน่ากลัวจนคนที่มองเริ่มจะรู้สึกเสียสันหลัง   ฟูจิขยับปากบ่นขมุบขมิบอย่างน้อยใจที่จู่ก็โดนเพื่อนดุทั้งๆที่ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วแท้ๆ

       " อะแฮ่มๆ " หนุ่มผมยาวกระเอมเบาๆเหมือนกับกำลังจะปราศัยเพื่อเริ่มเข้าเรื่องธุระ

    " คือว่าหัวหน้าอิชิดะแกบอกว่าให้พาหลานคนสวยของแกไปหาแกได้แล้ว....."
    พูดยังไม่ทันจบหนุ่มคนพูดก็รู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาทันควัน

     " เมื่อกี้แกว่าใครสวย " จิโตเสะพูดด้วยน้ำเสียงยะเยือก
    ดวงตาสีดำลุกพริบอย่างโมโหโกรธาสุดๆ เมื่อได้ยินคำชมน้องสาวของเคาออกมาจากปากของเพื่อนคนนี้

         " ขอโทษ ขอโทษไม่พูดก็ได้ " ฟูจิรีบขอโทษทันควัน

             ....ชมนิดชมหน่อยทำเป็นโกรธ ไอ้หมาหวงก้าง... คนที่ถูกตำหนิคิดก่อนจะเริ่มพูดต่อ

     " แล้วเค้าก็ฝากมาบอกว่าอย่าคิดหนีเป็นอันขาดไม่งั้น เจ้าคงจะรู้ผลที่ตามมา "
    จิโตเสะเริ่มเหงื่อตกกับข่าวสารที่ได้ยินมา

     " ที่ข้าดูมาเมื่อซักครู่เจ้าคงยังไม่ได้บอกเด็กนั่นซินะว่า เป็นหลานของใคร "
    ชายผิวสีแทนพูดอย่างรู้ทันจนคนถูกกล่าวหาถึงกับสะดุ้งโหยง
    หนุ่มผมยาวคลี่ยิ้มอย่างรู้สึกถึงความสนุกสนาน

    " นี่กะจะเลี้ยงเองไปตลอดเลยรึไง " คำพูดถัดมาทำเอาเจ้าของความคิดนั้นจริงๆถึงกับเหงื่อตก   ใช่เค้ากะจะทำเช่นนั้จริงๆเค้าไม่ต้องการให้โยคุจากเค้าไป
    แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้คงจะเลี่ยงไม่ได้ถ้าหนีโยคุก็จะเดือดร้อนไปด้วย

    " กลับไปบอกหัวหน้าว่าข้าขอเวลาอีกสอองเดือน "
    ประโยคถัดมาเล่นเอาคนฝากข่าวแทบยั้งตัวเองไม่ให้ไปหักคอคนพูดแทบไม่ทัน
     บุคลิกเช่นคนอารมณ์เช่นฟูจิหายไปในบัดดล

    " จะบ้ารึไง! " ชายหนุ่มตวดาใส่เพื่อนคนพูดอย่างเหลืออด

    " จะขัดคำสั่งของเบื้องบนเรอะ! " ฟูจิเป็นฝ่ายที่เริ่มขึ้นเสียงบ้างแล้ว

         จิโตเสะรู้ดีว่าสหายนั้นหวังดีกับเค้าและไม่อยากให้เค้าเดือดร้อนเพราะเด็กแค่คนเดียวแต่ฟูจิจะเข้าใจได้ยังไง  เค้าเลี้ยงโยคุมากับมาหลายปีจะให้ส่งไปอยู่ในมือคนอื่นง่ายๆแบบนี้มันทำร้ายจิตใจเค้าเกินไป

       " ถ้าให้ข้าไปรายงานแบบนี้ก็บอกเหตุผลมาซิ " ผู้ส่งข่าวพูดขึ้นอีกครั้งอย่างหงุดหงิดถ้าตัวเค้าไม่ได้เหตุผลดีๆในเหตุการณ์การแบบนี้กลับไปเค้าเองก็ต้องโดนเหมือนกัน

        " แค่ขอเวลาเตียมตัวเท่านั้นเอง " พูดจบจิโตเสะก็กระโดดลงจากยอดไม้ลงสู่พื้นทันทีเค้าไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืด
    ถ้าพูดกันตามตรงนั้นก็เพราะว่าสติของเค้านั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอง

                          ไม่อยู่แล้วจริงๆ



       " เฮ้ย! เดี๋ยวซิ จิโตเสะ " ฟูจิพยายามร้องห้ามแต่ก็ดูท่าทางว่าคงจะไม่ทันแล้วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจองสหายวิ่งไปตามหมู่ไม้ไปไกลแล้วคนที่ถูกทิ้งให้อยู่ตนเดียวถอนหายใจกับความเอาแต่ใจของเพื่อนแต่ว่าตอนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เค้าเองก็ต้องรายงายตามความจริง
         ชายหนุ่มหันหลังและจากหมู่บ้านแห่งนี้ไปด้วยความหวังว่าเพื่อนของเค้าคงจะไม่ทำอะไรโง่ๆ

         ฝ่ายจิโตเสะวิ่งคิ้วขมวดกลับบ้านด้วยสติที่แตกกระเจิงและหัวเสียในหัวกำลังคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนาๆ จะเอาน้องเราไปทำอะไร ความคิดในแง่ลบเริ่มประดังมาเรื่อยๆอย่างไม่หยุดให้หายใจฉุดกลับมาก็ไม่ทันแล้ว



            จิโตเสะเปิดประตูเข้าบ้านของตัวเอง ภาพแรกที่ปรากฏคือภาพของน้องสาวที่ดูแล้วน่าจะกำลังรอเค้าอยู่และรอมานานแล้วด้วย เมื่อเห็นพี่ชายกลับมาแล้วน้องสาวก็กระโดดลงจากเก้าอี้เหมือนกับว่ามันติดสปริง

        " มีเรื่องอะไรเหรอท่านพี่ สีหน้าไม่ดีเลย " เด็กหญิงทักเมื่อเห็นสีหน้าผิดปกตินั้น

        " หะ..หา..เอ่อ คือ...." จิโตเสะรีบปั้นหน้าคืนสู่ภาวะปกติเค้าอยบากจะบอกข่าวร้ายนั้นออกไปจากปากให้หมดเรื่องกันแต่มันเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอจนพูดไม่ออก



      " ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไร " ผู้พี่พยายามฝืนยิ้มเพื่อกลบเกลือนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในวันีน้แล้วก็ไม่รู้ที่เค้าต้องทำแบบนี้   ดวงตาสีฟ้าใสนั้นจ้องมองใบหน้าของพี่อย่างสงสัยเพราะนางไม่เชื่อหรอกว่ามันจะเป็นจริง

    " พี่ไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะ " เพื่อหลีกเลื่องคำถามที่อาจจะตามาของน้องสาว
     จิโตเสะก็รีบเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างรวดเร็วดวงตาคู่สวยมองตามพี่ชายไปอย่างไม่สบายใจ อยากจะถามเหลือเกินว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่สุดแล้วก็ไม่มีความจริงใดหลุดออกมาจากปากอันแข็งกร้าวของพี่ชายแม้แต่คำเดียว

                            .............................................



        ลาลับสำหรับวันนี้



        



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×