ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ข่าวร้าย
โยคุมองสลับไปมาระหว่างพี่ชายและหนุ่มผู้มาเยือนดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้ลึกลับคนนี้จะเป็นคนรู้จักของพี่ชายคนเดียวของนางเสียด้วย
ชายหนุ่มผู้มาเยือนอยู่ในชุดสีดำแบบเดียวกับจิโตเสะผมสีดำยาวประบ่าหยักศกเล็กน้อย ผิวสีแทน ดวงตาสีดำนั้นฉายประกายของความขี้เล่นออกมาแต่มันก็ออกมาพร้อมกับความเจ้าเล่ห์ด้วยเช่นกัน
" ฟะ...ฟูจิ " จิโตเสะละล่ำละลักเอ่ยชื่อนั้นออกมาราวกับว่ามันป็นชื่อที่ออกเสียงยากจนเกินไปสำหรับเค้าเจ้าของนามเผยรอยยิ้มกว้างให้กับเจ้าของบ้านอย่างบ่งบอกว่าดีใจที่ยังอุตส่าจำกันได้
" นึกว่าจะจำกันไม่ได้แล้วซะอีกนะ " ฟูจิเอ่ยขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนสทินคนคุ้นเคยใบหน้าของจิโตเสะที่ดูตกตะลึงพรึงเพริดค่อยๆคลายลงก่อนจะเกิดเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย ชายหนุ่มผละจากน้องสาวเดินเข้าหาผู้มาเยือนเช่นกัน
ทั้งคู่ยืนประจันหน้ากับ สายลมอ่อนๆที่พัดมาทำให้ทั้งยอดหญ้าและผมสีดำสนิทของทั้งสองพัดปลิว
จากท่าทางที่มองเห็นในทีแรกทำให้เด็กหญิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่พี่ชายไม่อยากจะเจอ
" เป็นไงไม่ได้จเอกันตั้งนานสบายดีรึเปล่า " แต่จากคำพูดที่ออกมาจากปากดูแล้วว่าโยคุคงจะคิดผิดไปถนัดใจชายหนุ่มทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เจอกันเสียนานจนน้องสาวผมสีน้ำตาลอมทองคนนี้รู้สึกเหมือนกำลังถูกถอดทิ้งแขนทั้งสองข้างที่เคยทิ้งไว้ข้างตัวถูกยกขึ้นมากอดอก พลางเริ่มประดิกเท้าดิกๆอย่างหงุดหงิด
ท่าทำแบบนี้แล้วพี่ชายยังไม่รู้สึกเจ้าตัวน้อยก็ไม่รู้ว่าจะว่าเยี่ยงไรแล้ว
เมื่อดวงตาสีดำเห็นการเคลื่อนไหวอันผิดปกติของน้องสาวก็หันกลับมามองจนได้
" เกือบลืมเลยนะเนี่ย " จิโตเสะพูดขณะที่เดินกลับมาคนขี้หงุดหงิด
...ก็ลืมไปแล้วไม่ใช่เรอะ... โยคุคิดอย่างไม่พอใจขณะที่พี่ชายกำลังกึ่งลากกึ่งจูงนางไปหาเพื่อนของเค้า
" นี่เหรอหลาน..." ฟูจิยังพูดไม่ทันจะจบประโยคมือเรียวสวยของชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าสหายก็ตบ ป้าบ ! มาปิดปากทันทีก่อนที่จะเอ่ยจบ
โยคุหน้านิ่วคิ้วขมวดในทันทีที่เห็นปติกริยาแปลกๆของพี่ชายและข้องใจในประโยคุที่ชายหนุ่มผมยาวคนนี้พูดยังไม่จบอีกด้วย ...หลานอะไรกัน...
ดวงตาของเค้ากำลังมองนางอยู่ด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะอยากรู้อยากเห็นเกินความจำเป็น รอยฝีปากของพี่ชายคลี่ยิ้มแต่ดูแล้วรอยยิ้มนั้นดูจะทำให้น้องสาวไม่สบายใจมากกว่าจะทำให้สบายใจ
ในสายตาของโยคุที่มองนั้นรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพี่ชายของตนเองกำลังฝืนยิ้มไว้อย่างเต็มความสารถ
" เข้าไปในบ้านก่อนแล้วกันนะ โยคุ ดูถ้าพี่คงจะมีเรื่องต้องคุยกับเพื่อนพี่ซะหน่อยแล้วล่ะ " น้ำเสียงของพี่ชายนั้นดูเหมือนจะไม่สบายใจในเรื่องบางอย่าง
ไม่ใช่น้ำเสียงขี้เล่นกวนประสาทแบบของพี่ชายคนเดิมที่ผ่านๆมา
โยคุยังไม่อยากเข้าไปนางอยากรู้เรื่องที่ทำให้พี่ชายของนางเครียดได้ถึงขนาดนี้
" เข้าไปซิ " ชายหนุ่มผมสีดำพลักน้องสาวเข้าไปในบ้าน
ถึงจะอยากอยู่ด้วยแค่ไหนแต่ก็ยังเกรงใจพี่ชายที่ตอนนี้ดูแล้วน่าจะเครียด
ไม่อยากทำให้พี่ต้องเครียดมากไปกว่านี้ยอมให้เค้าซักวันคงไม่ตายหรอก
ถึงจะย้อมเข้าบ้านแต่โดยดี โยคุก็ยังอดไม่ได้ที่จะไม่หันมามองพี่ชายและเพื่อน
ทั้งคู่เดินหายไปจนหลับสายตาพร้อมกับประตูบ้านที่ปิดลงด้วยมีสีขาวนวลของเด็กหญิง
" มีอะไรก็ว่ามา " เสียงที่ถามออกมาจากปากของจิโตเสะดูห้วนๆอย่างหงุดหงิดท่าทางดีใจที่ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย เปลี่ยมาเป็นความรู้สึกหงุดหงิดและไม่ต้องการเห็นหน้าของเพื่อนคนนี้อีกเลยตลอดชีวิตลมที่เคยรู้สึกว่ามันเย็นสบายเมื่อพัดผ่านเวลายืนอยู่บนยอดไม้ในคราที่ผ่านมานับไม่ถ้วน ยามนี้ถึงจะเป็นสถานที่เดียวกันแต่มันก็ดูหนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูกที่เลือกที่นี่เหตุผลสำคัญที่สุดก็เพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยินสิ่งที่กำลังจะพูด
ไม่ว่าเรื่องนั้จะเป็นอะไรก็ตามแต่
" อะไรกันข้าพูดอะไรไม่ดีออกไปรึไงหน้าบูดอย่างกับว่าข้าไปว่าอะไรเจ้างั้นแหละ " ฟูจิถามอย่างทีเล่นทีจริงต่างกับคนที่เค้ากำลังคุยด้วยราวฟ้ากับเหว
จิโตเสะกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์กับนิสัยที่ยังไงก็ดูไม่ได้พัฒนาในทางที่ดีขึ้นเลยของเพื่อนฟูจิรับลมที่พัดผ่านมาอย่างสบายอามณ์โดยไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดเลยซักนิดเดียว
" มีธุระอะไรก็รีบๆพูดมาข้าไม่มีเวลาว่างทั้งวันหรอกนะ "
ชายหนุ่มเริ่มขึ้นเสียงอย่างรำคาญที่จะรอดวงตาสีดำเป็นประกายกร้าวอย่างน่ากลัวจนคนที่มองเริ่มจะรู้สึกเสียสันหลัง ฟูจิขยับปากบ่นขมุบขมิบอย่างน้อยใจที่จู่ก็โดนเพื่อนดุทั้งๆที่ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วแท้ๆ
" อะแฮ่มๆ " หนุ่มผมยาวกระเอมเบาๆเหมือนกับกำลังจะปราศัยเพื่อเริ่มเข้าเรื่องธุระ
" คือว่าหัวหน้าอิชิดะแกบอกว่าให้พาหลานคนสวยของแกไปหาแกได้แล้ว....."
พูดยังไม่ทันจบหนุ่มคนพูดก็รู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาทันควัน
" เมื่อกี้แกว่าใครสวย " จิโตเสะพูดด้วยน้ำเสียงยะเยือก
ดวงตาสีดำลุกพริบอย่างโมโหโกรธาสุดๆ เมื่อได้ยินคำชมน้องสาวของเคาออกมาจากปากของเพื่อนคนนี้
" ขอโทษ ขอโทษไม่พูดก็ได้ " ฟูจิรีบขอโทษทันควัน
....ชมนิดชมหน่อยทำเป็นโกรธ ไอ้หมาหวงก้าง... คนที่ถูกตำหนิคิดก่อนจะเริ่มพูดต่อ
" แล้วเค้าก็ฝากมาบอกว่าอย่าคิดหนีเป็นอันขาดไม่งั้น เจ้าคงจะรู้ผลที่ตามมา "
จิโตเสะเริ่มเหงื่อตกกับข่าวสารที่ได้ยินมา
" ที่ข้าดูมาเมื่อซักครู่เจ้าคงยังไม่ได้บอกเด็กนั่นซินะว่า เป็นหลานของใคร "
ชายผิวสีแทนพูดอย่างรู้ทันจนคนถูกกล่าวหาถึงกับสะดุ้งโหยง
หนุ่มผมยาวคลี่ยิ้มอย่างรู้สึกถึงความสนุกสนาน
" นี่กะจะเลี้ยงเองไปตลอดเลยรึไง " คำพูดถัดมาทำเอาเจ้าของความคิดนั้นจริงๆถึงกับเหงื่อตก ใช่เค้ากะจะทำเช่นนั้จริงๆเค้าไม่ต้องการให้โยคุจากเค้าไป
แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้คงจะเลี่ยงไม่ได้ถ้าหนีโยคุก็จะเดือดร้อนไปด้วย
" กลับไปบอกหัวหน้าว่าข้าขอเวลาอีกสอองเดือน "
ประโยคถัดมาเล่นเอาคนฝากข่าวแทบยั้งตัวเองไม่ให้ไปหักคอคนพูดแทบไม่ทัน
บุคลิกเช่นคนอารมณ์เช่นฟูจิหายไปในบัดดล
" จะบ้ารึไง! " ชายหนุ่มตวดาใส่เพื่อนคนพูดอย่างเหลืออด
" จะขัดคำสั่งของเบื้องบนเรอะ! " ฟูจิเป็นฝ่ายที่เริ่มขึ้นเสียงบ้างแล้ว
จิโตเสะรู้ดีว่าสหายนั้นหวังดีกับเค้าและไม่อยากให้เค้าเดือดร้อนเพราะเด็กแค่คนเดียวแต่ฟูจิจะเข้าใจได้ยังไง เค้าเลี้ยงโยคุมากับมาหลายปีจะให้ส่งไปอยู่ในมือคนอื่นง่ายๆแบบนี้มันทำร้ายจิตใจเค้าเกินไป
" ถ้าให้ข้าไปรายงานแบบนี้ก็บอกเหตุผลมาซิ " ผู้ส่งข่าวพูดขึ้นอีกครั้งอย่างหงุดหงิดถ้าตัวเค้าไม่ได้เหตุผลดีๆในเหตุการณ์การแบบนี้กลับไปเค้าเองก็ต้องโดนเหมือนกัน
" แค่ขอเวลาเตียมตัวเท่านั้นเอง " พูดจบจิโตเสะก็กระโดดลงจากยอดไม้ลงสู่พื้นทันทีเค้าไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืด
ถ้าพูดกันตามตรงนั้นก็เพราะว่าสติของเค้านั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอง
ไม่อยู่แล้วจริงๆ
" เฮ้ย! เดี๋ยวซิ จิโตเสะ " ฟูจิพยายามร้องห้ามแต่ก็ดูท่าทางว่าคงจะไม่ทันแล้วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจองสหายวิ่งไปตามหมู่ไม้ไปไกลแล้วคนที่ถูกทิ้งให้อยู่ตนเดียวถอนหายใจกับความเอาแต่ใจของเพื่อนแต่ว่าตอนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เค้าเองก็ต้องรายงายตามความจริง
ชายหนุ่มหันหลังและจากหมู่บ้านแห่งนี้ไปด้วยความหวังว่าเพื่อนของเค้าคงจะไม่ทำอะไรโง่ๆ
ฝ่ายจิโตเสะวิ่งคิ้วขมวดกลับบ้านด้วยสติที่แตกกระเจิงและหัวเสียในหัวกำลังคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนาๆ จะเอาน้องเราไปทำอะไร ความคิดในแง่ลบเริ่มประดังมาเรื่อยๆอย่างไม่หยุดให้หายใจฉุดกลับมาก็ไม่ทันแล้ว
จิโตเสะเปิดประตูเข้าบ้านของตัวเอง ภาพแรกที่ปรากฏคือภาพของน้องสาวที่ดูแล้วน่าจะกำลังรอเค้าอยู่และรอมานานแล้วด้วย เมื่อเห็นพี่ชายกลับมาแล้วน้องสาวก็กระโดดลงจากเก้าอี้เหมือนกับว่ามันติดสปริง
" มีเรื่องอะไรเหรอท่านพี่ สีหน้าไม่ดีเลย " เด็กหญิงทักเมื่อเห็นสีหน้าผิดปกตินั้น
" หะ..หา..เอ่อ คือ...." จิโตเสะรีบปั้นหน้าคืนสู่ภาวะปกติเค้าอยบากจะบอกข่าวร้ายนั้นออกไปจากปากให้หมดเรื่องกันแต่มันเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอจนพูดไม่ออก
" ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไร " ผู้พี่พยายามฝืนยิ้มเพื่อกลบเกลือนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในวันีน้แล้วก็ไม่รู้ที่เค้าต้องทำแบบนี้ ดวงตาสีฟ้าใสนั้นจ้องมองใบหน้าของพี่อย่างสงสัยเพราะนางไม่เชื่อหรอกว่ามันจะเป็นจริง
" พี่ไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะ " เพื่อหลีกเลื่องคำถามที่อาจจะตามาของน้องสาว
จิโตเสะก็รีบเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างรวดเร็วดวงตาคู่สวยมองตามพี่ชายไปอย่างไม่สบายใจ อยากจะถามเหลือเกินว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่สุดแล้วก็ไม่มีความจริงใดหลุดออกมาจากปากอันแข็งกร้าวของพี่ชายแม้แต่คำเดียว
.............................................
ลาลับสำหรับวันนี้
ชายหนุ่มผู้มาเยือนอยู่ในชุดสีดำแบบเดียวกับจิโตเสะผมสีดำยาวประบ่าหยักศกเล็กน้อย ผิวสีแทน ดวงตาสีดำนั้นฉายประกายของความขี้เล่นออกมาแต่มันก็ออกมาพร้อมกับความเจ้าเล่ห์ด้วยเช่นกัน
" ฟะ...ฟูจิ " จิโตเสะละล่ำละลักเอ่ยชื่อนั้นออกมาราวกับว่ามันป็นชื่อที่ออกเสียงยากจนเกินไปสำหรับเค้าเจ้าของนามเผยรอยยิ้มกว้างให้กับเจ้าของบ้านอย่างบ่งบอกว่าดีใจที่ยังอุตส่าจำกันได้
" นึกว่าจะจำกันไม่ได้แล้วซะอีกนะ " ฟูจิเอ่ยขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนสทินคนคุ้นเคยใบหน้าของจิโตเสะที่ดูตกตะลึงพรึงเพริดค่อยๆคลายลงก่อนจะเกิดเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย ชายหนุ่มผละจากน้องสาวเดินเข้าหาผู้มาเยือนเช่นกัน
ทั้งคู่ยืนประจันหน้ากับ สายลมอ่อนๆที่พัดมาทำให้ทั้งยอดหญ้าและผมสีดำสนิทของทั้งสองพัดปลิว
จากท่าทางที่มองเห็นในทีแรกทำให้เด็กหญิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่พี่ชายไม่อยากจะเจอ
" เป็นไงไม่ได้จเอกันตั้งนานสบายดีรึเปล่า " แต่จากคำพูดที่ออกมาจากปากดูแล้วว่าโยคุคงจะคิดผิดไปถนัดใจชายหนุ่มทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เจอกันเสียนานจนน้องสาวผมสีน้ำตาลอมทองคนนี้รู้สึกเหมือนกำลังถูกถอดทิ้งแขนทั้งสองข้างที่เคยทิ้งไว้ข้างตัวถูกยกขึ้นมากอดอก พลางเริ่มประดิกเท้าดิกๆอย่างหงุดหงิด
ท่าทำแบบนี้แล้วพี่ชายยังไม่รู้สึกเจ้าตัวน้อยก็ไม่รู้ว่าจะว่าเยี่ยงไรแล้ว
เมื่อดวงตาสีดำเห็นการเคลื่อนไหวอันผิดปกติของน้องสาวก็หันกลับมามองจนได้
" เกือบลืมเลยนะเนี่ย " จิโตเสะพูดขณะที่เดินกลับมาคนขี้หงุดหงิด
...ก็ลืมไปแล้วไม่ใช่เรอะ... โยคุคิดอย่างไม่พอใจขณะที่พี่ชายกำลังกึ่งลากกึ่งจูงนางไปหาเพื่อนของเค้า
" นี่เหรอหลาน..." ฟูจิยังพูดไม่ทันจะจบประโยคมือเรียวสวยของชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าสหายก็ตบ ป้าบ ! มาปิดปากทันทีก่อนที่จะเอ่ยจบ
โยคุหน้านิ่วคิ้วขมวดในทันทีที่เห็นปติกริยาแปลกๆของพี่ชายและข้องใจในประโยคุที่ชายหนุ่มผมยาวคนนี้พูดยังไม่จบอีกด้วย ...หลานอะไรกัน...
ดวงตาของเค้ากำลังมองนางอยู่ด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะอยากรู้อยากเห็นเกินความจำเป็น รอยฝีปากของพี่ชายคลี่ยิ้มแต่ดูแล้วรอยยิ้มนั้นดูจะทำให้น้องสาวไม่สบายใจมากกว่าจะทำให้สบายใจ
ในสายตาของโยคุที่มองนั้นรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพี่ชายของตนเองกำลังฝืนยิ้มไว้อย่างเต็มความสารถ
" เข้าไปในบ้านก่อนแล้วกันนะ โยคุ ดูถ้าพี่คงจะมีเรื่องต้องคุยกับเพื่อนพี่ซะหน่อยแล้วล่ะ " น้ำเสียงของพี่ชายนั้นดูเหมือนจะไม่สบายใจในเรื่องบางอย่าง
ไม่ใช่น้ำเสียงขี้เล่นกวนประสาทแบบของพี่ชายคนเดิมที่ผ่านๆมา
โยคุยังไม่อยากเข้าไปนางอยากรู้เรื่องที่ทำให้พี่ชายของนางเครียดได้ถึงขนาดนี้
" เข้าไปซิ " ชายหนุ่มผมสีดำพลักน้องสาวเข้าไปในบ้าน
ถึงจะอยากอยู่ด้วยแค่ไหนแต่ก็ยังเกรงใจพี่ชายที่ตอนนี้ดูแล้วน่าจะเครียด
ไม่อยากทำให้พี่ต้องเครียดมากไปกว่านี้ยอมให้เค้าซักวันคงไม่ตายหรอก
ถึงจะย้อมเข้าบ้านแต่โดยดี โยคุก็ยังอดไม่ได้ที่จะไม่หันมามองพี่ชายและเพื่อน
ทั้งคู่เดินหายไปจนหลับสายตาพร้อมกับประตูบ้านที่ปิดลงด้วยมีสีขาวนวลของเด็กหญิง
" มีอะไรก็ว่ามา " เสียงที่ถามออกมาจากปากของจิโตเสะดูห้วนๆอย่างหงุดหงิดท่าทางดีใจที่ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย เปลี่ยมาเป็นความรู้สึกหงุดหงิดและไม่ต้องการเห็นหน้าของเพื่อนคนนี้อีกเลยตลอดชีวิตลมที่เคยรู้สึกว่ามันเย็นสบายเมื่อพัดผ่านเวลายืนอยู่บนยอดไม้ในคราที่ผ่านมานับไม่ถ้วน ยามนี้ถึงจะเป็นสถานที่เดียวกันแต่มันก็ดูหนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูกที่เลือกที่นี่เหตุผลสำคัญที่สุดก็เพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยินสิ่งที่กำลังจะพูด
ไม่ว่าเรื่องนั้จะเป็นอะไรก็ตามแต่
" อะไรกันข้าพูดอะไรไม่ดีออกไปรึไงหน้าบูดอย่างกับว่าข้าไปว่าอะไรเจ้างั้นแหละ " ฟูจิถามอย่างทีเล่นทีจริงต่างกับคนที่เค้ากำลังคุยด้วยราวฟ้ากับเหว
จิโตเสะกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์กับนิสัยที่ยังไงก็ดูไม่ได้พัฒนาในทางที่ดีขึ้นเลยของเพื่อนฟูจิรับลมที่พัดผ่านมาอย่างสบายอามณ์โดยไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดเลยซักนิดเดียว
" มีธุระอะไรก็รีบๆพูดมาข้าไม่มีเวลาว่างทั้งวันหรอกนะ "
ชายหนุ่มเริ่มขึ้นเสียงอย่างรำคาญที่จะรอดวงตาสีดำเป็นประกายกร้าวอย่างน่ากลัวจนคนที่มองเริ่มจะรู้สึกเสียสันหลัง ฟูจิขยับปากบ่นขมุบขมิบอย่างน้อยใจที่จู่ก็โดนเพื่อนดุทั้งๆที่ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วแท้ๆ
" อะแฮ่มๆ " หนุ่มผมยาวกระเอมเบาๆเหมือนกับกำลังจะปราศัยเพื่อเริ่มเข้าเรื่องธุระ
" คือว่าหัวหน้าอิชิดะแกบอกว่าให้พาหลานคนสวยของแกไปหาแกได้แล้ว....."
พูดยังไม่ทันจบหนุ่มคนพูดก็รู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาทันควัน
" เมื่อกี้แกว่าใครสวย " จิโตเสะพูดด้วยน้ำเสียงยะเยือก
ดวงตาสีดำลุกพริบอย่างโมโหโกรธาสุดๆ เมื่อได้ยินคำชมน้องสาวของเคาออกมาจากปากของเพื่อนคนนี้
" ขอโทษ ขอโทษไม่พูดก็ได้ " ฟูจิรีบขอโทษทันควัน
....ชมนิดชมหน่อยทำเป็นโกรธ ไอ้หมาหวงก้าง... คนที่ถูกตำหนิคิดก่อนจะเริ่มพูดต่อ
" แล้วเค้าก็ฝากมาบอกว่าอย่าคิดหนีเป็นอันขาดไม่งั้น เจ้าคงจะรู้ผลที่ตามมา "
จิโตเสะเริ่มเหงื่อตกกับข่าวสารที่ได้ยินมา
" ที่ข้าดูมาเมื่อซักครู่เจ้าคงยังไม่ได้บอกเด็กนั่นซินะว่า เป็นหลานของใคร "
ชายผิวสีแทนพูดอย่างรู้ทันจนคนถูกกล่าวหาถึงกับสะดุ้งโหยง
หนุ่มผมยาวคลี่ยิ้มอย่างรู้สึกถึงความสนุกสนาน
" นี่กะจะเลี้ยงเองไปตลอดเลยรึไง " คำพูดถัดมาทำเอาเจ้าของความคิดนั้นจริงๆถึงกับเหงื่อตก ใช่เค้ากะจะทำเช่นนั้จริงๆเค้าไม่ต้องการให้โยคุจากเค้าไป
แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้คงจะเลี่ยงไม่ได้ถ้าหนีโยคุก็จะเดือดร้อนไปด้วย
" กลับไปบอกหัวหน้าว่าข้าขอเวลาอีกสอองเดือน "
ประโยคถัดมาเล่นเอาคนฝากข่าวแทบยั้งตัวเองไม่ให้ไปหักคอคนพูดแทบไม่ทัน
บุคลิกเช่นคนอารมณ์เช่นฟูจิหายไปในบัดดล
" จะบ้ารึไง! " ชายหนุ่มตวดาใส่เพื่อนคนพูดอย่างเหลืออด
" จะขัดคำสั่งของเบื้องบนเรอะ! " ฟูจิเป็นฝ่ายที่เริ่มขึ้นเสียงบ้างแล้ว
จิโตเสะรู้ดีว่าสหายนั้นหวังดีกับเค้าและไม่อยากให้เค้าเดือดร้อนเพราะเด็กแค่คนเดียวแต่ฟูจิจะเข้าใจได้ยังไง เค้าเลี้ยงโยคุมากับมาหลายปีจะให้ส่งไปอยู่ในมือคนอื่นง่ายๆแบบนี้มันทำร้ายจิตใจเค้าเกินไป
" ถ้าให้ข้าไปรายงานแบบนี้ก็บอกเหตุผลมาซิ " ผู้ส่งข่าวพูดขึ้นอีกครั้งอย่างหงุดหงิดถ้าตัวเค้าไม่ได้เหตุผลดีๆในเหตุการณ์การแบบนี้กลับไปเค้าเองก็ต้องโดนเหมือนกัน
" แค่ขอเวลาเตียมตัวเท่านั้นเอง " พูดจบจิโตเสะก็กระโดดลงจากยอดไม้ลงสู่พื้นทันทีเค้าไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืด
ถ้าพูดกันตามตรงนั้นก็เพราะว่าสติของเค้านั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอง
ไม่อยู่แล้วจริงๆ
" เฮ้ย! เดี๋ยวซิ จิโตเสะ " ฟูจิพยายามร้องห้ามแต่ก็ดูท่าทางว่าคงจะไม่ทันแล้วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจองสหายวิ่งไปตามหมู่ไม้ไปไกลแล้วคนที่ถูกทิ้งให้อยู่ตนเดียวถอนหายใจกับความเอาแต่ใจของเพื่อนแต่ว่าตอนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เค้าเองก็ต้องรายงายตามความจริง
ชายหนุ่มหันหลังและจากหมู่บ้านแห่งนี้ไปด้วยความหวังว่าเพื่อนของเค้าคงจะไม่ทำอะไรโง่ๆ
ฝ่ายจิโตเสะวิ่งคิ้วขมวดกลับบ้านด้วยสติที่แตกกระเจิงและหัวเสียในหัวกำลังคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนาๆ จะเอาน้องเราไปทำอะไร ความคิดในแง่ลบเริ่มประดังมาเรื่อยๆอย่างไม่หยุดให้หายใจฉุดกลับมาก็ไม่ทันแล้ว
จิโตเสะเปิดประตูเข้าบ้านของตัวเอง ภาพแรกที่ปรากฏคือภาพของน้องสาวที่ดูแล้วน่าจะกำลังรอเค้าอยู่และรอมานานแล้วด้วย เมื่อเห็นพี่ชายกลับมาแล้วน้องสาวก็กระโดดลงจากเก้าอี้เหมือนกับว่ามันติดสปริง
" มีเรื่องอะไรเหรอท่านพี่ สีหน้าไม่ดีเลย " เด็กหญิงทักเมื่อเห็นสีหน้าผิดปกตินั้น
" หะ..หา..เอ่อ คือ...." จิโตเสะรีบปั้นหน้าคืนสู่ภาวะปกติเค้าอยบากจะบอกข่าวร้ายนั้นออกไปจากปากให้หมดเรื่องกันแต่มันเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอจนพูดไม่ออก
" ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไร " ผู้พี่พยายามฝืนยิ้มเพื่อกลบเกลือนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในวันีน้แล้วก็ไม่รู้ที่เค้าต้องทำแบบนี้ ดวงตาสีฟ้าใสนั้นจ้องมองใบหน้าของพี่อย่างสงสัยเพราะนางไม่เชื่อหรอกว่ามันจะเป็นจริง
" พี่ไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะ " เพื่อหลีกเลื่องคำถามที่อาจจะตามาของน้องสาว
จิโตเสะก็รีบเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างรวดเร็วดวงตาคู่สวยมองตามพี่ชายไปอย่างไม่สบายใจ อยากจะถามเหลือเกินว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่สุดแล้วก็ไม่มีความจริงใดหลุดออกมาจากปากอันแข็งกร้าวของพี่ชายแม้แต่คำเดียว
.............................................
ลาลับสำหรับวันนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น