ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : สิ่งดีพร้อมข้างตัวที่ยังไม่เพียง
" กะ......แก กริมจอว์ " เมื่อเห็นคนที่เดินออกมาจากเงามืด
อิจิโกะก็เป็นอันต้องถึงกับผงะคำพูดและการกระทำของอารันคาร์หนุ่มตรงนห้าเมื่อวานเล่นเอาเด็กหนุ่มเสียงสั่น
กริมจอว์พยายามรักษาลักษณะท่าทางให้เป็นเหมือนปกติเพื่อซ่อนความดีใจเล็กน้อยที่อิจิโกะจำชื่อเค้าได้เอาไว้
" ไม่ต้องตกใจไปหรอกน่านี่มันนอกเวลางาน ข้าไม่ได้มาฆ่าใคร " ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มเมื่อเห็นปฏิกริยาที่เด็กหนุ่มมองเค้า
แต่ก็ไม่ได้ความว่ายมทูตผมสีส้มคนนี้จะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ
" ฮอลโลว์มีนอกเวลางานในเวลางานด้วยรึไง อย่ามาพูดบ้าๆน่า ! " ร่างบางนั้นตวาดเสียงขุ่น
ตั้งแต่เป็นยมทูตมาพึ่งเคยได้ยินว่าพวกฮอลโลว์มีเวลาพักงานด้วย
" อย่าเอาข้าไปรวมกับพวกชั้นต่ำนั่นนะ ข้าเป็นอารันคาร์ไม่ใช่ฮอลโลว์ธรรมดาแบบนั้น "
กริมจอว์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับพวกฮอลโลว์ปลายแถว
อิจโกะขมวดคิ้วตั้งท่าเตรียมวิ่งเต็มกำลัง ไม่รู้ว่าทำไมเค้าไม่มีความรู้สึกมั่นใจอะไรเลยว่าจะเอาชนะคน คนนี้ได้
ดวงตาสีฟ้าหรี่ลงมองเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังคิดจะอะไร
" ไม่ต้องวิ่งหรอกน่า ข้าไม่ได้มาฆ่าเจ้าหรอกรับรองได้ " อารันคาร์ร่างสูงให้คำมั่น
" พวกแกมันไม่น่าไว้ใจกันเลยซักคนเฟร้ย !! " หนุ่มผมส้มต่อล้อต่อเถียง
ร่างสูงผมสีฟ้าถอนหายใจยามแล้วกอดอกเชิดหน้ามองเด็กหนุ่มด้วยหางตา
" ถึงข้าจะเป็นอารันคาร์แต่ก็ไม่ได้ความว่าจะพูดไม่จริงเสมอไปหรอกน่า " กริมจอว์ชี้แจง
ชายหนุ่มชุดขาวค่อยๆก้าวเท้ามาใกล้อิจิโกะมากขึ้นเรื่อยๆ และเด็กหนุ่มกำลังจะถอยหนี
ถ้าหนุ่มผมฟ้าไม่พูดประโยคนั้นออกมาอิจโกะคงชิ่งไปแล้ว
" เจ้าอยู่ที่นี่ใช่มั้ย " อารันคาร์ร่างสูงปรายตามามองเด็กหนุ่มพลางถาม
" อะ.....อืม " คุโรซากิชะงักเท้าเอาไว้ก่อนแล้วพยักหน้ารับอย่าง งงๆ ไม่รู้ว่าจะถามไปทำไม
" งั้นก็ดี .....ช่วยเดินเป็นเพื่อนข้าหน่อยก็แล้วกันยิ่งไม่ค่อยรู้ทางอยู่ "
กริมจอว์เอ่ยกึ่งขอกึ่งบังคับด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะลากตัวอิจิโกะไปกับเค้าได้อย่างไร
เด็กหนุ่มถึงกับหน้าเหวอด้วยความตกใจสุดขีดที่จู่ๆคนที่ตั้งใจจะฟันเค้าให้ตายเมื่อวานกลับมาขอให้เค้าเป็นไกด์ให้
แต่ใครจะโง่ไปกับมันยิ่งฝ่ายศัตรูด้วยแล้วถ้าไปก็โง่ไร้ที่ติแล้ว !!
" อย่าคิดหนีน่าไอ้หนู . ถ้าข้าคิดจะมาฆ่าแกจริงๆเจ้าไม่มีทางหนีข้าพ้นอยู่แล้ว เจ้าก็น่าจะรู้ดี "
เหมือนกริมจอว์จะอ่านออกจากสีหน้าของเด็กหนุ่มเลยพูดดักคอเอาไว้กันหนี
" กะ....ก็ได้วะ " อิจิโกะตอบรับห้วนๆอย่างหมดหนทางและยอมจำนนกับความจริงที่เค้าพูด
มันก็จริงที่ว่าถ้ากริมจอว์อยากจะฆ่าเค้าไม่ต้องมายืนคุยกันแบบนี้ก้ได้ คนตรงหน้าฆ่าเค้าได้ง่ายๆอยู่แล้ว
อีกอย่างถ้ากลับบ้านไปตอนนี้ทั้งพ่อ ทั้งน้อง ทั้งลูเคียท่าทางจะไม่ปลอดภัย
เด็กหนุ่มจำใจต้องเดินไปกับกริมจอว์แต่ก็ยังรักษาระยะห่างเอาไว้ไม่ให้มือเอื้อมถึง
อารันคาร์หนุ่มแอบมองเห็นคนข้างๆขยับปากบ่นพึมพำอย่างขัดใจ
" เออ.....นี่ " เมื่อเดินมาเลียบริมเนินข้างๆแม่น้ำอิจิโกะก็พูดกับกริมจอว์เป็นครั้งแรก
" หืม..... " คนข้างๆหันมามองอย่างสงสัยคิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังพูดกับเค้าทั้งๆที่ไม่น่าจะพูดออกมาได้เลย
" ชั้น......ขอหยุดอยู่ตรงนี้ซักพักจะได้มั้ย " อิจิโกะพูดเสียงแผ่ว
แม่น้ำเบื้องล่างกระเพื่อมด้วยกระแสลมจนเป็นประกายเมื่อกระทบกับดวงไฟและหมู่หิ่งห้อยที่ดูสวยงามได้บรรยากาศ
หนุ่มผมฟ้ายักไหล่เล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าสลดหดหู่ของคนที่เดินมาด้วยกัน
" ตามใจเจ้าเถอะ " เมื่อได้ยินแบบนั้นหนุ่มผมส้มก็ทรุดตัวลงนั่งบนเนินริมแม่น้ำ
กริมจอว์ไม่ได้นั่งตามเพียงแต่มองใบหน้าที่แฝงความเศร้าด้วยความประหลาดใจระคนสงสัยว่าทำไมคนอย่างอิจิโกะถึงได้มีดวงตาสีเศร้าได้ถึงขนาดนั้น
แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเค้า ขอแค่มองหน้าร่างบางคนนี้ก็พอใจแล้ว
" จะเดินต่อหรือเปล่า " เมื่อรู้สึกตัวว่าอยู่นานเกินไปแล้วอิจิโกะจึงลุกขึ้นยืนแล้วหันไปถามกริมจอว์
ร่างสูงนั้นถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าแล้วเงยศีรษะขึ้นไปมองท้องฟ้าที่มืดสนิทและเต็มไปด้วยดวงดาว
.....มืดขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ ไม่รู้ตัวเลย........
" ข้าจะกลับแล้ว ขอบใจที่มาเดินเป็นเพื่อน " กริมจอว์บอกเรียบๆก่อนจะหันหลังให้อิจิโกะ
" ออ........ข้าอยากเจอเจ้าแบบนี้อีกนะ แบบนี้ที่ไม่ใช่ในฐานะของศัตรู " อารันคาร์หนุ่มเสริม
โดยไม่หันมามองพร้อมกับเปิดประตูประมิติแล้วหายเข้าไปในนั้น
ดวงตาสีน้ำตาลเฝ้ามองคนคนนั้นที่ไม่รู้ว่าเป้นศัตรูหรือว่ามิตรกันแน่
ยมทูตหนุ่มอ่านอะไรไม่ออกเลยจากการกระทำนั้นว่ากริมจอว์ต้องการอะไรจากเค้า
......................................
กริมอจว์ค่อยๆแง้มบานประตูออกให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้คนอีกคนที่เค้าขาดว่าคงจะหลับไปแล้วตื่นขึ้นมา
แต่ว่ามันก็ผิดขาดเมื่อเค้าเห็นว่าอุลคิโอร่ายังนั่งรอเค้าอยู่
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูใบหน้าขาวนั้นก็หันมามองคนที่พึ่งกลับมาด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม
" กลับมาแล้วเหรอ " ชายหนุ่มร่างบางลุกขึ้นและเดินเข้าไปใกล้กับร่างสูง
กริมจอว์ยิ้มแห้งๆให้แล้วพยักหน้าหงึกๆ
ร่างเล็กเข่ยงตัวขึ้นไปประทับริมฝีปากบางของตนเองเข้ากับของกริมจอว์เเบๆ
" นอนกันได้แล้วนะ " อุลคิโอร่าพูดก่อนจะเดินไปที่เตียง
" ข้าง่วงจะแย่อยู่แล้ว " หนุ่มผมดำทิ้งตัวลงนอน
ร่างสูงดับไฟก่อนจะลงไปนอนข้างๆหนุ่มผิวซีด
เมื่อร่างแกร่งนอนลงไปแขนเล็กทั้ง 2 ข้างก็ยกขึ้นมาโอบรอบคอทันที
ใบหน้าแนบซบลงกับอกแกร่งก่อนจะหลับมาพริ้ม
" รู้มั้ยว่าข้าห่วงเจ้ามากนะ กริมจอว์ " อุลคิโอร่ากระซิบ
" อืม.........ข้ารู้ดี " กริมจอว์รับคำฝ่ามือหนาลูบเส้นผมสีดำนุ่มนั้นเบาๆ
เมื่อได้ยินคำตอบรับนั้นร่างเล้กก็ค่อยหลับได้อย่างเป็นสุข
แต่คำพูดว่าเป็นห่วงนั้นบาดลึกลงไปในความรู้สึกของคนที่รับฟังอย่างกริมจอว์ไม่มีทางลืมเลือนไป
ทั้งๆที่มีคนดีพร้อมแบบนี้อยุ่กัตัวแท้ๆแต่ก็ยังอุตส่าพยายามดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งอื่น
อิจิโกะก็เป็นอันต้องถึงกับผงะคำพูดและการกระทำของอารันคาร์หนุ่มตรงนห้าเมื่อวานเล่นเอาเด็กหนุ่มเสียงสั่น
กริมจอว์พยายามรักษาลักษณะท่าทางให้เป็นเหมือนปกติเพื่อซ่อนความดีใจเล็กน้อยที่อิจิโกะจำชื่อเค้าได้เอาไว้
" ไม่ต้องตกใจไปหรอกน่านี่มันนอกเวลางาน ข้าไม่ได้มาฆ่าใคร " ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มเมื่อเห็นปฏิกริยาที่เด็กหนุ่มมองเค้า
แต่ก็ไม่ได้ความว่ายมทูตผมสีส้มคนนี้จะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ
" ฮอลโลว์มีนอกเวลางานในเวลางานด้วยรึไง อย่ามาพูดบ้าๆน่า ! " ร่างบางนั้นตวาดเสียงขุ่น
ตั้งแต่เป็นยมทูตมาพึ่งเคยได้ยินว่าพวกฮอลโลว์มีเวลาพักงานด้วย
" อย่าเอาข้าไปรวมกับพวกชั้นต่ำนั่นนะ ข้าเป็นอารันคาร์ไม่ใช่ฮอลโลว์ธรรมดาแบบนั้น "
กริมจอว์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับพวกฮอลโลว์ปลายแถว
อิจโกะขมวดคิ้วตั้งท่าเตรียมวิ่งเต็มกำลัง ไม่รู้ว่าทำไมเค้าไม่มีความรู้สึกมั่นใจอะไรเลยว่าจะเอาชนะคน คนนี้ได้
ดวงตาสีฟ้าหรี่ลงมองเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังคิดจะอะไร
" ไม่ต้องวิ่งหรอกน่า ข้าไม่ได้มาฆ่าเจ้าหรอกรับรองได้ " อารันคาร์ร่างสูงให้คำมั่น
" พวกแกมันไม่น่าไว้ใจกันเลยซักคนเฟร้ย !! " หนุ่มผมส้มต่อล้อต่อเถียง
ร่างสูงผมสีฟ้าถอนหายใจยามแล้วกอดอกเชิดหน้ามองเด็กหนุ่มด้วยหางตา
" ถึงข้าจะเป็นอารันคาร์แต่ก็ไม่ได้ความว่าจะพูดไม่จริงเสมอไปหรอกน่า " กริมจอว์ชี้แจง
ชายหนุ่มชุดขาวค่อยๆก้าวเท้ามาใกล้อิจิโกะมากขึ้นเรื่อยๆ และเด็กหนุ่มกำลังจะถอยหนี
ถ้าหนุ่มผมฟ้าไม่พูดประโยคนั้นออกมาอิจโกะคงชิ่งไปแล้ว
" เจ้าอยู่ที่นี่ใช่มั้ย " อารันคาร์ร่างสูงปรายตามามองเด็กหนุ่มพลางถาม
" อะ.....อืม " คุโรซากิชะงักเท้าเอาไว้ก่อนแล้วพยักหน้ารับอย่าง งงๆ ไม่รู้ว่าจะถามไปทำไม
" งั้นก็ดี .....ช่วยเดินเป็นเพื่อนข้าหน่อยก็แล้วกันยิ่งไม่ค่อยรู้ทางอยู่ "
กริมจอว์เอ่ยกึ่งขอกึ่งบังคับด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะลากตัวอิจิโกะไปกับเค้าได้อย่างไร
เด็กหนุ่มถึงกับหน้าเหวอด้วยความตกใจสุดขีดที่จู่ๆคนที่ตั้งใจจะฟันเค้าให้ตายเมื่อวานกลับมาขอให้เค้าเป็นไกด์ให้
แต่ใครจะโง่ไปกับมันยิ่งฝ่ายศัตรูด้วยแล้วถ้าไปก็โง่ไร้ที่ติแล้ว !!
" อย่าคิดหนีน่าไอ้หนู . ถ้าข้าคิดจะมาฆ่าแกจริงๆเจ้าไม่มีทางหนีข้าพ้นอยู่แล้ว เจ้าก็น่าจะรู้ดี "
เหมือนกริมจอว์จะอ่านออกจากสีหน้าของเด็กหนุ่มเลยพูดดักคอเอาไว้กันหนี
" กะ....ก็ได้วะ " อิจิโกะตอบรับห้วนๆอย่างหมดหนทางและยอมจำนนกับความจริงที่เค้าพูด
มันก็จริงที่ว่าถ้ากริมจอว์อยากจะฆ่าเค้าไม่ต้องมายืนคุยกันแบบนี้ก้ได้ คนตรงหน้าฆ่าเค้าได้ง่ายๆอยู่แล้ว
อีกอย่างถ้ากลับบ้านไปตอนนี้ทั้งพ่อ ทั้งน้อง ทั้งลูเคียท่าทางจะไม่ปลอดภัย
เด็กหนุ่มจำใจต้องเดินไปกับกริมจอว์แต่ก็ยังรักษาระยะห่างเอาไว้ไม่ให้มือเอื้อมถึง
อารันคาร์หนุ่มแอบมองเห็นคนข้างๆขยับปากบ่นพึมพำอย่างขัดใจ
" เออ.....นี่ " เมื่อเดินมาเลียบริมเนินข้างๆแม่น้ำอิจิโกะก็พูดกับกริมจอว์เป็นครั้งแรก
" หืม..... " คนข้างๆหันมามองอย่างสงสัยคิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังพูดกับเค้าทั้งๆที่ไม่น่าจะพูดออกมาได้เลย
" ชั้น......ขอหยุดอยู่ตรงนี้ซักพักจะได้มั้ย " อิจิโกะพูดเสียงแผ่ว
แม่น้ำเบื้องล่างกระเพื่อมด้วยกระแสลมจนเป็นประกายเมื่อกระทบกับดวงไฟและหมู่หิ่งห้อยที่ดูสวยงามได้บรรยากาศ
หนุ่มผมฟ้ายักไหล่เล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าสลดหดหู่ของคนที่เดินมาด้วยกัน
" ตามใจเจ้าเถอะ " เมื่อได้ยินแบบนั้นหนุ่มผมส้มก็ทรุดตัวลงนั่งบนเนินริมแม่น้ำ
กริมจอว์ไม่ได้นั่งตามเพียงแต่มองใบหน้าที่แฝงความเศร้าด้วยความประหลาดใจระคนสงสัยว่าทำไมคนอย่างอิจิโกะถึงได้มีดวงตาสีเศร้าได้ถึงขนาดนั้น
แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเค้า ขอแค่มองหน้าร่างบางคนนี้ก็พอใจแล้ว
" จะเดินต่อหรือเปล่า " เมื่อรู้สึกตัวว่าอยู่นานเกินไปแล้วอิจิโกะจึงลุกขึ้นยืนแล้วหันไปถามกริมจอว์
ร่างสูงนั้นถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าแล้วเงยศีรษะขึ้นไปมองท้องฟ้าที่มืดสนิทและเต็มไปด้วยดวงดาว
.....มืดขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ ไม่รู้ตัวเลย........
" ข้าจะกลับแล้ว ขอบใจที่มาเดินเป็นเพื่อน " กริมจอว์บอกเรียบๆก่อนจะหันหลังให้อิจิโกะ
" ออ........ข้าอยากเจอเจ้าแบบนี้อีกนะ แบบนี้ที่ไม่ใช่ในฐานะของศัตรู " อารันคาร์หนุ่มเสริม
โดยไม่หันมามองพร้อมกับเปิดประตูประมิติแล้วหายเข้าไปในนั้น
ดวงตาสีน้ำตาลเฝ้ามองคนคนนั้นที่ไม่รู้ว่าเป้นศัตรูหรือว่ามิตรกันแน่
ยมทูตหนุ่มอ่านอะไรไม่ออกเลยจากการกระทำนั้นว่ากริมจอว์ต้องการอะไรจากเค้า
......................................
กริมอจว์ค่อยๆแง้มบานประตูออกให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้คนอีกคนที่เค้าขาดว่าคงจะหลับไปแล้วตื่นขึ้นมา
แต่ว่ามันก็ผิดขาดเมื่อเค้าเห็นว่าอุลคิโอร่ายังนั่งรอเค้าอยู่
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูใบหน้าขาวนั้นก็หันมามองคนที่พึ่งกลับมาด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม
" กลับมาแล้วเหรอ " ชายหนุ่มร่างบางลุกขึ้นและเดินเข้าไปใกล้กับร่างสูง
กริมจอว์ยิ้มแห้งๆให้แล้วพยักหน้าหงึกๆ
ร่างเล็กเข่ยงตัวขึ้นไปประทับริมฝีปากบางของตนเองเข้ากับของกริมจอว์เเบๆ
" นอนกันได้แล้วนะ " อุลคิโอร่าพูดก่อนจะเดินไปที่เตียง
" ข้าง่วงจะแย่อยู่แล้ว " หนุ่มผมดำทิ้งตัวลงนอน
ร่างสูงดับไฟก่อนจะลงไปนอนข้างๆหนุ่มผิวซีด
เมื่อร่างแกร่งนอนลงไปแขนเล็กทั้ง 2 ข้างก็ยกขึ้นมาโอบรอบคอทันที
ใบหน้าแนบซบลงกับอกแกร่งก่อนจะหลับมาพริ้ม
" รู้มั้ยว่าข้าห่วงเจ้ามากนะ กริมจอว์ " อุลคิโอร่ากระซิบ
" อืม.........ข้ารู้ดี " กริมจอว์รับคำฝ่ามือหนาลูบเส้นผมสีดำนุ่มนั้นเบาๆ
เมื่อได้ยินคำตอบรับนั้นร่างเล้กก็ค่อยหลับได้อย่างเป็นสุข
แต่คำพูดว่าเป็นห่วงนั้นบาดลึกลงไปในความรู้สึกของคนที่รับฟังอย่างกริมจอว์ไม่มีทางลืมเลือนไป
ทั้งๆที่มีคนดีพร้อมแบบนี้อยุ่กัตัวแท้ๆแต่ก็ยังอุตส่าพยายามดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งอื่น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น