ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฉวยโอกาส
พรึบ ผ้าสีขาวถูกเลิกออกพร้อมกับร่างของเออร์ควิโอล่าที่พุดลุกขึ้นมานั่งดวงตาสีเขียวนั้นกวดมองทั่วบริเวณ
" อูย " ฝ่ามือสีขาวถูกยกขึ้นมากุมขมัมอีกครั้งเมื่ออาการมึนหัวนั้นยังไม่หายไป
...ใครพาข้ามากันเนี่ย...ชายหนุ่มคิดอย่างสงสัย
" ไงตื่นแล้วเรอะ " เสียงที่ทักขึ้นนั้นดูเย้ยหยันและเคาเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี
คนที่พึ่งจะลืมตาตื่นมองไปหาต้นเสียงทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร
" กริมจอว์ " เจ้าของชื่อนั้นกำลังจ้องมองคนที่นอนไม่สบายอยู่บนเตียง ในมือข้างหนึ่งถือแก้วน้ำอยู่
ดวงตาสีเขียวสวยฉายแววแห่งความสงสัย คิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน
เมื่อเห็นสายตาเช่นั้นกริมจอว์ก็ถึงกับถอนหายใจ
" มองหน้าคนที่ช่วยพาเจ้ามานี่ ด้วยสายตาแบบนั้นมันมีมารยาทนักรึไง "อารันก้าร์ลำดับ 6 พูดอย่างหงุดหงิด อุตส่าช่วยและยังจะมามองหน้ากันแบบนี้อีก
แต่เออร์ควิโอล่าก็ยังไม่หายสงสัยอีกทั้งในดวงตานั้นก็ส่อแววแห่งความสงสัยมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
เหมือนอยากจะถามว่า ...เจ้าเนี่ยนะช่วยข้า...
หนุ่มผมสีฟ้าเดินมานั่งบนเตียงข้างๆห่างจากตัวชายหนุ่มผิวซีดมากพอสมควร
ถึงจะนั่งอยู่ห่างแต่ว่าร่างเล็กนั้นก็พยายามถอยห่างออกไปจนชิดหัวเตียง
ชายหนุ่มผมฟ้าไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจ แก้วน้ำในมือถูกยื่นส่งให้
" กินซะ เดี๋ยวก็เป็นอะไรไปอีก " คนพูด พูดโดยไม่หันหน้าไม่มอง อีกทั้งยังมองไปทางอื่นอีกต่างหาก
เออร์ควิโอล่ายังไม่ยอมรับแก้วใบนั้นมา ในใจรู้สึกแปลกๆขึ้นมาตะหงิดๆ
จนในที่สุดผู้หวังดีก็หมดแล้วซึ่งความอดทน
" กินเข้าไปซะ ข้าไม่ได้ใส่ยาพิษอะไรไว้ซะหน่อย " กริมจอว์ยัดแก้วน้ำไนมือให้เออร์ควิโอล่าอย่างแรงจนน้ำกระเฉาะ
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เออร์ควิโอล่าถึงกับตะลึงงัน
ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่ากริมจอว์จะเป็นคนแบบนี้ ถึงจะอยู่อารันก้าร์ด้วยกันก็เถอะ
เมื่อยัดแก้วน้ำใส่มือเสร็จสรรพเนื่องจากความหงุดหงิดหรือว่าเหตุผลอื่นก็ไม่ทราบได้ ปากบ่นขมุบขมิบฟังไม่ออก
ทำให้กริมจอว์ลุกขึ้นจากเตียงและเดินปึงปังออกไปห่างๆเหมือนไม่อยากมองหน้าของคนบนเตียง
เพล้ง !~ เสียงของแตกดังก้องมาจากเบื้องหลังของหนุ่มอารันก้าร์ลำดับ 6 จนทำให้เค้าสะดุ้งเฮือก และต้องรีบหันกลับไปดู
แก้วสีใสนั้นตกจากมือที่ตอนนี้ดูแล้วสั่นๆ จนแตกไม่เหลือชิ้นดี
" ระวังหน่อยซิวะ "กริมจอว์ตวาดใส่อย่างคัดใจ ดูเพินๆแล้วคงจะไม่มาช่วย
แต่การกระทำนั้นดูขัดๆกัน ร่างสูงนั้นเดินกลับเข้ามาหาชายผมดำอีกครั้ง
กริมจอว์ก้มลงเก็บแก้วที่แตกโดยไม่ได้มองดูใบหน้าที่ดูจะมีแววสำนึกผิดเล็กน้อยของเออร์ควิโอล่าเลย
และนั้นเองก็ทำให้คนบนเตียงดีใจที่คนที่อยู่ด้วยกันมองไม่เห็นใบหน้าของเค้าในตอนนี้
ทางด้านคนเก็บแก้วเองก็ไม่ได้อยากให้เห็นใบหน้าของตนเองเช่นกันเพราะตอนนี้มันก็รเม่ขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมาแล้วเช่นกัน
...ทำไมต้องหน้าแดงด้วยฟะ...กริมจอว์คิดอย่างแค้นใจตัวเอง
" เดี๋ยวไปเอามาให้ใหม่ " เมื่อเก็บเสร็จก็เดินจากไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับแก้วใบใหม่(อย่าถามว่าไปเอามาจากไหน)
เออร์ควิโอล่าทำท่าจะรับมาโดยไม่แสดงสีหน้าแห่งความสงสัยอีก
แต่ครายี้หนุ่มผมฟ้ากลับเอาแก้วหลบไปไม่ยอมให้คนบนเตียงเอาไปถือ
ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้งแต่คราวนี้ใกล้กว่าเดิม
จนคนที่นอนอยู่สะดุ้งอย่างตกใจและเริ่มถอยเพื่อเว้นระยะห่าง
" ขยับออกปไหอะไรวะ " กริมจอว์ตวาดอย่างประชดประชัน
มือข้างที่ไม่ได้ถือแก้วเอื้อมไปโอบรอบไหล่ของร่างบางนั้นและดึงเข้ามาใกล้ตัว
ไหล่เล็กชนกับร่างของคนโอบอย่างไม่ได้ตั้งใจแต่ดูเหมือนคนที่โดนจะไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก
" ข้าป้อนเอง ถ้าเจ้ากินเองเสียดายแก้วแย่ " ชาหนุ่มพูดเป็นเชิงตำหนิ
เออร์ควิโอล่าทำท่าจะเปิดปากพูด " พิงแขนซิวะ แบบนี้แล้วจะป้อนยังไง "
แต่กริมจอว์ก็ดันพูดขัดขึ้นมาซะก่อนจนชายหนุ่มร่างบางต้องเงียบไปร่างกายพิงแขนนั้นอย่างไม่กล้าโต้แย้ง
หนุ่มผิวซีดแม้จะนอนพิงลงไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆไม่สบายอะไรบางอย่าง
นั้นคือกลัวว่าถ้าไว้ใจให้กริมจอว์ป้อนตัวเองจะสำลักรึเปล่า
แต่มันน่าแปลกใจจริงๆที่ดูเหมือนว่าคนป้อนคนนี้ดูจะต่างจากนิสัยเดิมทุกครั้งที่ผ่านมา
แก้วนั้นแตะริมฝีปากอย่างแผ่วเบาย้ำค่อยไหลาลงไปสู่ลำคออย่างช้าๆ
คนป้อนดูเหมือนจะกลัวเหลือเกินว่าตนที่ตัวเองกำลังป้อนนั้นจะสำลัก
...อะไรกันวะเนี่ย รู้สึกหน้ามันร้อนๆ เรื่องบ้าๆ เป็นเพราะไอ้ซีด แห้งนี่เรอะ.....
นับวินาที นับบแต่ละนาทีที่ผ่านไปกริมจอว์รูสึกว่าหน้าของตัวเองนั้นดูจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาสีฟ้าที่เคยโหดเหี้ยมนั้นดูอ่อนโยนเมื่อมองใบหน้าขาวนั้นค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
มือที่จับไหล่บางๆนั้นดูจะจับแน่นขึ้น
ถ้ามีคนเดินผ่านมาเห็นก็คงจะรู้ถึงความรู้สึกของหนุ่มร่างสูงได้เป็นอย่างดี
ว่ามันคงหนีไม่พ้นคำว่า ...โอกาสแบบนี้หายาก ซักนิดซักหน่อยคงไม่เป็นไร....
" อ้าว เฮ้ย ! หมดแล้วก็บอกซิวะ เงียบอยู่ได้มีรูอยู่แถวคอแล้วพูดยากรึไง "
กริมจอว์รีบกระชากแก้วออกจากปากของคนในอ้อมแขนทันทีที่หันไปเห็นว่าน้ำหมดจากแก้ว
แล้วกระโดดลงจากเตียงยืนประจัญหน้ากับเจ้าของห้องและเตียงที่ยังไม่ได้ลุกไปไหน
ใบหน้านั้นกลายเป็นปกติตามเดิมมองคนผิวขาวด้วยดวงตาที่ดุดันตามปกติ
ถ้าเกิดคนที่กินน้ำอยู่ไม่ใช่เออร์ควิโอล่าคนพูดน้อยแล้วล่ะก็คงจะแหกปากด่าไปแล่วว่าพึ่งจะกินเสร็จ
หนุ่มร่างสูงหันหลังให้กับคนที่ตอนนี้ไม่สบาย
" ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ก็พักผ่อนก็แล้วกัน ข้าจะไปบอกท่านไอเซ็นให้ "
กริมจอว์คิดว่าตอนนี้เออร์ควิโฮล่าคงจะลุกไม่ไหวอุตส่าจะไปล่าหัวหน้าให้ แต่ว่า...
" มันไม่ใช่เรื่องของซักหน่อย " เมื่อคนป้อนกลับมาเป็นปกติ คนถูกป้อนก็กลับมาเป็นปกติเช่นกัน
เมื่อได้ฟังคำถามที่กวนประสาทขนาดนั้นผู้หวังดีก็รีบหันควับกลับมามองสบกับตาคู่สีเขียวนั้นอีกครั้ง
พลั่ก ! ร่างบางๆของเออร์ควิโฮล่าถูกดันให้ติดกับกำแพงอย่างแรงจนแทบจุก
มือแข็งแรงทั้ง 2 ข้างถูกยกขึ้นใช้ดันไหล่ของชายหนุ่มผิวซีดเอาไว้
กริมจอว์เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้กับดวงหน้าที่เรียบเฉยของคนตรงหน้า จนรู้สึกถึงลมหายใจที่อุ่นร้อน
" อย่าอวดเก่งให้มันมากนัก ไอ้หน้าอ่อน ! " เสียงพูดนั้นกระโชกตวาดใส่กอ่นที่ร่างสูงจะถอยห่าง
และเดินออกจากห้องไปจริงๆปล่อยให้เจ้าของห้องพักผ่อนอย่างที่ตัวเองตั้งใจโดยการล็อกประตูจากข้างนอกเสียเองเสร็จสรรพ
เมื่อผู้มาเยือนย่างเท้าเดินออกไปเออร์ควิโอล่าก็รู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
ภาพที่ได้ใกล้ชิดกับคนที่พึ่งจะจากไปนั้นวนเวียนไปมาเหมือนภาพที่ฉายซ้ำๆกัน
ทำไมกันนะ ความรูสึกที่อยากให้มันกลับมาอีกครั้งถึงมากขึ้นๆผสมไปกับความรู้สึกที่ไม่ชอบใจอย่างบอกไม่ถูก
" อูย " ฝ่ามือสีขาวถูกยกขึ้นมากุมขมัมอีกครั้งเมื่ออาการมึนหัวนั้นยังไม่หายไป
...ใครพาข้ามากันเนี่ย...ชายหนุ่มคิดอย่างสงสัย
" ไงตื่นแล้วเรอะ " เสียงที่ทักขึ้นนั้นดูเย้ยหยันและเคาเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี
คนที่พึ่งจะลืมตาตื่นมองไปหาต้นเสียงทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร
" กริมจอว์ " เจ้าของชื่อนั้นกำลังจ้องมองคนที่นอนไม่สบายอยู่บนเตียง ในมือข้างหนึ่งถือแก้วน้ำอยู่
ดวงตาสีเขียวสวยฉายแววแห่งความสงสัย คิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน
เมื่อเห็นสายตาเช่นั้นกริมจอว์ก็ถึงกับถอนหายใจ
" มองหน้าคนที่ช่วยพาเจ้ามานี่ ด้วยสายตาแบบนั้นมันมีมารยาทนักรึไง "อารันก้าร์ลำดับ 6 พูดอย่างหงุดหงิด อุตส่าช่วยและยังจะมามองหน้ากันแบบนี้อีก
แต่เออร์ควิโอล่าก็ยังไม่หายสงสัยอีกทั้งในดวงตานั้นก็ส่อแววแห่งความสงสัยมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
เหมือนอยากจะถามว่า ...เจ้าเนี่ยนะช่วยข้า...
หนุ่มผมสีฟ้าเดินมานั่งบนเตียงข้างๆห่างจากตัวชายหนุ่มผิวซีดมากพอสมควร
ถึงจะนั่งอยู่ห่างแต่ว่าร่างเล็กนั้นก็พยายามถอยห่างออกไปจนชิดหัวเตียง
ชายหนุ่มผมฟ้าไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจ แก้วน้ำในมือถูกยื่นส่งให้
" กินซะ เดี๋ยวก็เป็นอะไรไปอีก " คนพูด พูดโดยไม่หันหน้าไม่มอง อีกทั้งยังมองไปทางอื่นอีกต่างหาก
เออร์ควิโอล่ายังไม่ยอมรับแก้วใบนั้นมา ในใจรู้สึกแปลกๆขึ้นมาตะหงิดๆ
จนในที่สุดผู้หวังดีก็หมดแล้วซึ่งความอดทน
" กินเข้าไปซะ ข้าไม่ได้ใส่ยาพิษอะไรไว้ซะหน่อย " กริมจอว์ยัดแก้วน้ำไนมือให้เออร์ควิโอล่าอย่างแรงจนน้ำกระเฉาะ
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เออร์ควิโอล่าถึงกับตะลึงงัน
ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่ากริมจอว์จะเป็นคนแบบนี้ ถึงจะอยู่อารันก้าร์ด้วยกันก็เถอะ
เมื่อยัดแก้วน้ำใส่มือเสร็จสรรพเนื่องจากความหงุดหงิดหรือว่าเหตุผลอื่นก็ไม่ทราบได้ ปากบ่นขมุบขมิบฟังไม่ออก
ทำให้กริมจอว์ลุกขึ้นจากเตียงและเดินปึงปังออกไปห่างๆเหมือนไม่อยากมองหน้าของคนบนเตียง
เพล้ง !~ เสียงของแตกดังก้องมาจากเบื้องหลังของหนุ่มอารันก้าร์ลำดับ 6 จนทำให้เค้าสะดุ้งเฮือก และต้องรีบหันกลับไปดู
แก้วสีใสนั้นตกจากมือที่ตอนนี้ดูแล้วสั่นๆ จนแตกไม่เหลือชิ้นดี
" ระวังหน่อยซิวะ "กริมจอว์ตวาดใส่อย่างคัดใจ ดูเพินๆแล้วคงจะไม่มาช่วย
แต่การกระทำนั้นดูขัดๆกัน ร่างสูงนั้นเดินกลับเข้ามาหาชายผมดำอีกครั้ง
กริมจอว์ก้มลงเก็บแก้วที่แตกโดยไม่ได้มองดูใบหน้าที่ดูจะมีแววสำนึกผิดเล็กน้อยของเออร์ควิโอล่าเลย
และนั้นเองก็ทำให้คนบนเตียงดีใจที่คนที่อยู่ด้วยกันมองไม่เห็นใบหน้าของเค้าในตอนนี้
ทางด้านคนเก็บแก้วเองก็ไม่ได้อยากให้เห็นใบหน้าของตนเองเช่นกันเพราะตอนนี้มันก็รเม่ขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมาแล้วเช่นกัน
...ทำไมต้องหน้าแดงด้วยฟะ...กริมจอว์คิดอย่างแค้นใจตัวเอง
" เดี๋ยวไปเอามาให้ใหม่ " เมื่อเก็บเสร็จก็เดินจากไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับแก้วใบใหม่(อย่าถามว่าไปเอามาจากไหน)
เออร์ควิโอล่าทำท่าจะรับมาโดยไม่แสดงสีหน้าแห่งความสงสัยอีก
แต่ครายี้หนุ่มผมฟ้ากลับเอาแก้วหลบไปไม่ยอมให้คนบนเตียงเอาไปถือ
ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้งแต่คราวนี้ใกล้กว่าเดิม
จนคนที่นอนอยู่สะดุ้งอย่างตกใจและเริ่มถอยเพื่อเว้นระยะห่าง
" ขยับออกปไหอะไรวะ " กริมจอว์ตวาดอย่างประชดประชัน
มือข้างที่ไม่ได้ถือแก้วเอื้อมไปโอบรอบไหล่ของร่างบางนั้นและดึงเข้ามาใกล้ตัว
ไหล่เล็กชนกับร่างของคนโอบอย่างไม่ได้ตั้งใจแต่ดูเหมือนคนที่โดนจะไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก
" ข้าป้อนเอง ถ้าเจ้ากินเองเสียดายแก้วแย่ " ชาหนุ่มพูดเป็นเชิงตำหนิ
เออร์ควิโอล่าทำท่าจะเปิดปากพูด " พิงแขนซิวะ แบบนี้แล้วจะป้อนยังไง "
แต่กริมจอว์ก็ดันพูดขัดขึ้นมาซะก่อนจนชายหนุ่มร่างบางต้องเงียบไปร่างกายพิงแขนนั้นอย่างไม่กล้าโต้แย้ง
หนุ่มผิวซีดแม้จะนอนพิงลงไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆไม่สบายอะไรบางอย่าง
นั้นคือกลัวว่าถ้าไว้ใจให้กริมจอว์ป้อนตัวเองจะสำลักรึเปล่า
แต่มันน่าแปลกใจจริงๆที่ดูเหมือนว่าคนป้อนคนนี้ดูจะต่างจากนิสัยเดิมทุกครั้งที่ผ่านมา
แก้วนั้นแตะริมฝีปากอย่างแผ่วเบาย้ำค่อยไหลาลงไปสู่ลำคออย่างช้าๆ
คนป้อนดูเหมือนจะกลัวเหลือเกินว่าตนที่ตัวเองกำลังป้อนนั้นจะสำลัก
...อะไรกันวะเนี่ย รู้สึกหน้ามันร้อนๆ เรื่องบ้าๆ เป็นเพราะไอ้ซีด แห้งนี่เรอะ.....
นับวินาที นับบแต่ละนาทีที่ผ่านไปกริมจอว์รูสึกว่าหน้าของตัวเองนั้นดูจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาสีฟ้าที่เคยโหดเหี้ยมนั้นดูอ่อนโยนเมื่อมองใบหน้าขาวนั้นค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
มือที่จับไหล่บางๆนั้นดูจะจับแน่นขึ้น
ถ้ามีคนเดินผ่านมาเห็นก็คงจะรู้ถึงความรู้สึกของหนุ่มร่างสูงได้เป็นอย่างดี
ว่ามันคงหนีไม่พ้นคำว่า ...โอกาสแบบนี้หายาก ซักนิดซักหน่อยคงไม่เป็นไร....
" อ้าว เฮ้ย ! หมดแล้วก็บอกซิวะ เงียบอยู่ได้มีรูอยู่แถวคอแล้วพูดยากรึไง "
กริมจอว์รีบกระชากแก้วออกจากปากของคนในอ้อมแขนทันทีที่หันไปเห็นว่าน้ำหมดจากแก้ว
แล้วกระโดดลงจากเตียงยืนประจัญหน้ากับเจ้าของห้องและเตียงที่ยังไม่ได้ลุกไปไหน
ใบหน้านั้นกลายเป็นปกติตามเดิมมองคนผิวขาวด้วยดวงตาที่ดุดันตามปกติ
ถ้าเกิดคนที่กินน้ำอยู่ไม่ใช่เออร์ควิโอล่าคนพูดน้อยแล้วล่ะก็คงจะแหกปากด่าไปแล่วว่าพึ่งจะกินเสร็จ
หนุ่มร่างสูงหันหลังให้กับคนที่ตอนนี้ไม่สบาย
" ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ก็พักผ่อนก็แล้วกัน ข้าจะไปบอกท่านไอเซ็นให้ "
กริมจอว์คิดว่าตอนนี้เออร์ควิโฮล่าคงจะลุกไม่ไหวอุตส่าจะไปล่าหัวหน้าให้ แต่ว่า...
" มันไม่ใช่เรื่องของซักหน่อย " เมื่อคนป้อนกลับมาเป็นปกติ คนถูกป้อนก็กลับมาเป็นปกติเช่นกัน
เมื่อได้ฟังคำถามที่กวนประสาทขนาดนั้นผู้หวังดีก็รีบหันควับกลับมามองสบกับตาคู่สีเขียวนั้นอีกครั้ง
พลั่ก ! ร่างบางๆของเออร์ควิโฮล่าถูกดันให้ติดกับกำแพงอย่างแรงจนแทบจุก
มือแข็งแรงทั้ง 2 ข้างถูกยกขึ้นใช้ดันไหล่ของชายหนุ่มผิวซีดเอาไว้
กริมจอว์เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้กับดวงหน้าที่เรียบเฉยของคนตรงหน้า จนรู้สึกถึงลมหายใจที่อุ่นร้อน
" อย่าอวดเก่งให้มันมากนัก ไอ้หน้าอ่อน ! " เสียงพูดนั้นกระโชกตวาดใส่กอ่นที่ร่างสูงจะถอยห่าง
และเดินออกจากห้องไปจริงๆปล่อยให้เจ้าของห้องพักผ่อนอย่างที่ตัวเองตั้งใจโดยการล็อกประตูจากข้างนอกเสียเองเสร็จสรรพ
เมื่อผู้มาเยือนย่างเท้าเดินออกไปเออร์ควิโอล่าก็รู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
ภาพที่ได้ใกล้ชิดกับคนที่พึ่งจะจากไปนั้นวนเวียนไปมาเหมือนภาพที่ฉายซ้ำๆกัน
ทำไมกันนะ ความรูสึกที่อยากให้มันกลับมาอีกครั้งถึงมากขึ้นๆผสมไปกับความรู้สึกที่ไม่ชอบใจอย่างบอกไม่ถูก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น