คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 21 อย่างที่คุณ อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับ Mariah Carey (ตอนที่ 1)
บทความจาก Vh1 ครับ
1. มีหลายแหล่งข่าว ว่ากันว่า ชื่อ ของมารายห์ หรือคำว่า Mariah นั้นเป็นภาษาท้องถิ่นอเมริกันที่แปลว่า "ลม" หรือ "The Wind" นั่นเอง แต่จริงๆแล้ว ข่าวเหล่านี้ น่าจะได้อิทธิพลมาจากเพลงของ Kingston Trio ในยุค 50s ที่ชื่อเพลง "They Call the Wind Mariah" มากกว่า บ้างก็บอกว่า ชื่อของมารายห์นั้นได้แรงบันดาลใจจาก เพลง They Call The Wind Maria ในปี 1969 ด้วย
2. รูปร่างและหน้าตาของมารายห์แบบนี้ นั้นได้มาจากคุณพ่อชาว อัฟริกัน-เวเนซูเอล่า นั่นคือ Alfred Roy Carey ซึ่งเป็นนักวิศวะการบิน และ คุณแม่ Patricia ซึ่งเป็นนักร้องโอเปร่า แมสโซ โซปราโน่ นั่นเอง
มารายห์มักพูดถึง การอยู่ในครอบครัวที่แตกแยก และ การเติบโตแบบ mixed race นั้นคือ มีทั้งเชื้อคนขาวและคนดำ บ่อยๆ นอกจากนี้เธอยังมีพี่ชาย Morganซึ่งเป็น CEO ของค่ายเพลง Big Kid Records และ พี่สาว Alison ที่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดและ โสเภณีในวัยรุ่นด้วย
Alfred Roy Carey Patricia Carey
Morgan Carey Alison Carey
3. มารายห์เริ่มร้องเพลงเมื่ออายุเพียง 2 ขวบ และ เริ่มต้นเรียนร้องเพลง ตอน 4 ขวบ เธอบอกว่า ในช่วงวัยเด็ก เวลาว่างที่เธออยู่บ้าน เธอมันจะใช้เวลา ฟัง แล้วก็ร้องเพลงเสมอๆ ซึ่งรวมถึงการร้องโอเปร่าด้วย ตอนเรียนหนังสือ มารายห์ก็มักจะขาดเรียนบ่อยๆ ที่โรงเรียน Haborfield High School จากการที่ไปทำเทป demo ใน สตูดิโอแถวบ้าน จนกระทั่งเพื่อนๆ เรียกเธอว่า Mirage (ภาพลวงตา - เพราะไม่ค่อยจะเข้าเรียน ผุบๆโผล่ๆ อิอิ)
4. หลังจากเรียนจบ High School มารายห์ย้ายไปอยู่ New York เพื่อร้องเพลง และ ยังเข้าเรียน ในโรงเรียนเสริมสวย และทำงานเป็นพนักงาน เก็บเสื้อโค๊ต และ พนักงานเสริในร้านอาหารอีกด้วย เวลาแห่งการพลิกผันได้เกิดขึ้น เมื่อมารายห์ ได้ เข้าเป็นนักร้อง back up ให้กับ Brenda K. Starr ในปี 1987 ซึ่งต่อมา มารายห์ได้มอบเทป demo ให้กับ เบรนด้า ซึ่งมันก็ไปตกอยู่ในมือของ Tommy Mottola หัวเรือใหญ่แห่ง Columbia Record นั่นเอง จากนั้นหนะเหรอ... ก็ 12 ผ่านไป ในปี 1999 มารายห์ก็ได้ร้องเพลง tribute กับให้กับ เบรนด้า ด้วยเพลง I Still Believe นั่นเอง
5. อัลบั้มแรกในอาชีพนั้น โด่งดัง และ มีรางวัลแกรมมี่ การันตี ถึงสองรางวัล นั่นคือ Best New Artist และBest Pop Vocal Performance จากเพลง Vision of Love และแม้หลังจากนั้น มารายห์จะได้รับรางวัล อีกต่างๆมากมาย แต่เธอก็ต้องรอนานกว่าสิบปี จนถึงปี 2005 ที่มารายห์ ได้รับรางวัล แกรมมี่อีกครั้ง จากการกลับมาของ The Emancipation of Mimi งวดนี้ เธอคว้าไปสามรางวัลด้วยกัน โดยเฉพาะรางวัลเด่นๆอย่าง Best Contemporary R&B Album และ Best Female R&B Vocal Performance จากเพลง We Belong Together
6. ในปี 1993 มารายห์ แต่งงานกับ Tommy Mottola ซึ่งขณะนั้นมารายห์ อายุ 23 และ ทอมมี่ อายุ 43
ในการแต่งงานอันแสนหรูหรา นับมูลค่า กว่า 500,000 USD หรือประมาณ 15 ล้านบาท เทียบเท่ากับการแต่งงานของ เจ้าหญิงไดอาน่า กับ เจ้าฟ้าชายชารล์ เลยทีเดียว ส่วนแขกที่มาร่วมงาน ก็ระดับ Bruce Springsteen, Ozzy Osbourne และ Robert DeNiro
นอกเหนือจากการเป็นหัวเรือใหญ่แห่ง Sony แล้ว ทอมมี่ ยังเคยเป็น อดีตนักกีตาร์ในวง The Exotics และ เคยแสดงหนัง หรือแม้กระทั้งร้องเพลง ในนามศิลปิน Tommy Valentine อีกด้วย แต่หลังจากการแต่งงานเพียง 4 ปี มารายห์กับทอมมี่ ได้หย่าขาดกัน ซึ่ง มารายห์ ก็ได้ออกอัลบัม Butterfly ต่อมา ซึ่งเป็นอัลบัมแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยมีความเป็น hip hop มากขึ้น มีการร่วมงานกลับศิลปินชั้นนำอย่าง Puff Daddy, Missy Elliott, Dru Hill และBone Thugs-N-Harmony.
7. มารายห์ รักการ ร่วมงาน และ ทำเพลงกับคนอื่นๆ แน่นอน เธอเคย ร้องเพลงกับ Luther Vandross, Whitney Houston, Ol' Dirty Bastard, Bone Thugs-N-Harmony, Missy Elliott, Dru Hill,Brian Mcknight,Jay-Z, Joe, 98 Degrees, Westlife, Snoop Dogg, Cameo, Da Brat, Ludacris, Cam'ron, Busta Rhymes, Mase, the Lox, Mobb Deep, Rick James, Bow Wow และ John Legend
Ol' Dirty Bastard
Bone Thugs-N-Harmony
Missy Elliott
Dru Hill
Westlife
Snoop Dogg
Cameo
Da Brat
Ludacris
ที่มา คุณ coombe lane's guy สมาชิกเว็บบอร์ด Mariahpantip ครับ
ความคิดเห็น