ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปี่อั้นเหนียงจื่อ

    ลำดับตอนที่ #5 : ท่านมารล้มป่วย

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 67


    กู่หลันเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องตั้งนานก็ไม่เห็นเงาคุณหนู ร้อนใจเป็นอย่างมาก กลัวคุณหนูของนางจะโดนฆ่าหั่นศพโยนให้ไอเข้กินเป็นอาหารเสียแล้ว

    โชคดีที่ดวงคุณหนูยังไม่ถึงคาด แต่ที่คาดไม่ถึงคือ นอกจากคุณหนูจะกลับมาครบ 32 แล้ว ยังมีคุณชายรูปงามท่านหนึ่งมาส่งคุณหนูด้วยตัวเอง

    "ขอบคุณคุณชายที่ช่วยนำทางให้ข้า ไว้วันหน้าข้าจะไปตอบแทนถึงที่"

    เขาปรายตามองเรือนพักของนาง

    "ข้าขอทราบนามเหนียงจื่อได้หรือไม่?"

    "ข้านามว่าปี่อั้น ไม่มีแซ่ ไม่ทราบว่าคุณชายชื่อ...?"

    "เฉิงเฉวียน"

    "ข้าลาล่ะ ชาติหน้าก็อย่าได้เจอกันอีก" ว่าแล้วปี่อั้นก็หอบชายกระโปรงวิ่งเข้าเรือนปิดประตูลงกลอน

    เฉิงเฉวียนยืนงงอยู่กลางดงดอกไม้ นี่เขาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เหตุใดนางต้องกลัวเขาเช่นนี้?

     

    ซวยชะมัด วันนี้ดันมาเจอสองพี่น้องเฉิงซะได้

    ตอนแรกก็ท่านมาร เฉิงม่อ มาตอนหลังก็ยังเจอน้องชายต่างมารดาของท่านมาร เฉิงเฉวียนอีก นี่ข้าทำเวรทำกรรมอะไรไว้เนี่ย

    ช่างๆ ไม่คิดแล้ว นอนเอาแรงดีกว่า

    แสงแดดยามเช้าสาดเข้ามาที่หน้าต่าง ปี่อั้นขยี้ตาบิดขี้เกียจ กู่หลันวิ่งหน้าตื่นมาเรียกนาง

    "คุณหนูเกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ! รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วตามบ่าวไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"

    "อื้อ อะไรของเจ้าเนี่ย ข้าขอบิดขี้เกียจอีกนิดนึงก็ไม่ได้รึไง"

    "ท่านจอมมารว่าที่สามีท่านล้มป่วย มีคนมาตามให้คุณหนูไปดูแลเจ้าค่ะ"

    ท่านมารป่วย? เมื่อวานก็ไม่ใช่ปกติดีรึไง

    แต่ก็อะนะ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของท่านมาร จะไม่ไปดูสักหน่อยก็คงหาว่านางใจดำ

    ว่าแล้วนางก็เปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงปักลายสีฟ้าอ่อนขับผิว พากู่หลันมุ่งหน้าไปตำหนักหว่านเยว่

     

    มาถึงห้องบรรทมอันสูงศักดิ์ของท่านมาร ในห้องเต็มไปด้วยบรรดาเหนียงจื่อ หรือจะบอกว่าเป็นบรรดาสนมเขาก็ได้ ยืนเบียดเสียดอยู่ในห้อง

    ท่านมารเก่งมากนะที่ยังหายใจออกอยู่ เป็นนางคงขาดหายใจตายไปนานแล้ว

    "เหนียงจื่อคงเป็นปี่อั้นสินะ" ผู้มาใหม่เป็นคุณชายวัยไล่เลี่ยกับกู่หลัน หล่อเหลาไม่เบานะเนี่ย อาหารตาข้าอีกแล้ว

    "เป็นข้าเอง คุณชายคือ...?"

    "ข้าคือคนสนิทของนายท่าน เหนียงจื่อเรียกข้าว่ากู่จิงก็ได้ ข้าจะพาท่านแหวกฝูงชนไปหานายท่าน"

    และแล้วเขาก็พานางแหวกฝูงชนไปจริงๆ จนไปหยุดอยู่ตรงหน้าเตียง

    คนบนเตียงหน้าแดง คิ้วขมวดกันนิดๆ หลับตาพริ้ม

    "ฮึ มีสนมตั้ง 899 คนแล้วยังจะให้ข้ามาดูแลอีก"

    "แต่ท่านคือคนเดียวที่นายท่านกำลังจะแต่งเข้ามาอย่างถูกต้อง"

    เฉิงม่อลืมตา แต่ด้วยพิษไข้ เขารู้เพียงแค่มีอีกคนเพิ่มมาอยู่ในห้อง

    "ตื่นมาก็ดีละ พี่ชาย เจ้ารู้จักคำว่าสนมหรือไม่?"

    ถึงเฉิงม่อจะป่วยด้วยพิษไข้ แต่สมองกลับแจ่มใส เขาขมวดคิ้วน้อยๆ

    "คนรับใช้"

    ปี่อั้นเอามือก่ายหน้าผาก นี่เขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งโง่ต่อหน้าข้าเนี่ย ดูไปแล้วท่านมารก็ไม่ได้โง่ ออกจะฉลาดกว่าข้าด้วยซ้ำ ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงไม่รู้ฮะ

    เนื่องจากท่านมารคู่หมั้นของนางไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของการมีสนมข้างกาย เลยลำบากนางเป็นธุระคอยดูแลแบบชนิดที่มีกู่หลันกับกู่จิงยืนจ้องนางไม่กระพริบตา

    ขอบคุณ ตอนนี้ข้ากลายเป็นสาวใช้ส่วนตัวของเขาแล้ว

    หาได้ยากที่ปี่อั้นจะอดกลั้นอดทนกับคนๆ หนึ่งได้มากขนาดนี้ ไม่ว่าเขาจะดื้อไม่ยอมกินยาขนาดไหน นางก็จับยากรอกปากให้จนได้

    ไข้ก็น่าจะลดลงแล้ว นางเองก็ควรกลับไปพักผ่อนที่เรือนได้แล้วเช่นกัน แต่เขากลับคว้าข้อมือนางไว้ พูดเสียงแผ่วเบา "ขอบใจ"

    ดูๆๆๆๆ ขนาดไม่สบาย จะขอบคุณคนทั้งทียังทำเป็นเชิดหน้าใส่อีก

    เวลานี้ท่านมารผู้เย่อหยิ่งกำลังจิบชาร้อนอยู่ กู่จิงเข้ามาพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด

    "ข้าออกไปรอแล้วกัน พวกท่านคุยเสร็จเมื่อไหร่แล้วบอก" เกิดข้าไปได้ยินความลับทางราชการเข้า ข้าไม่หัวขาดเลยรึไง

    เฉิงม่อโบกมือห้ามไว้

    "ในเมื่อเจ้าไม่ถอนหมั้น เช่นนั้นสามีอย่างเปิ่นจั้วทำงานอยู่ คู่หมั้นอย่างเจ้าจะไม่ช่วยทำงานเลยหรือไร"

    ตระกะอะไรของเขา แต่นางก็หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม

    "คนของเราพบศพเหนียงจื่อที่ริมบึง นางเป็นชาวสวรรค์แฝงตัวเข้าเป็นสายลับที่แดนปรภพ"

    "เจ้าตรวจสอบดีแล้วใช่หรือไม่?"

    "ไม่ผิดแน่ บนตัวนางมีสัญลักษณ์เผ่าสวรรค์"

    "เดี๋ยวนะ ข้าสงสัยอะไรบางอย่าง" เฉิงม่อยกชาขึ้นจิบ "พูด"

    "เจ้าบอกว่าพบศพที่ริมบึง ใช่ริมบึงจระเข้หลังตำหนักหรือไม่? ถ้าใช่ เจ้าเข้าไปเอาศพนางได้อย่างไร แล้วศพนางไม่ได้เละตุ้มเปะไม่เหลือชิ้นดีไปแล้วหรือ"

    "พูดมากเสียจริง" ว่าแล้วปี่อั้นเลยรูดซิปปาก

    "ก็ไม่เห็นจะยากอะไร เพียงใช้ฝ่ามือตบจระเข้ให้สลบ แค่นี้ก็ได้แล้ว"

    กู่จิงสัมผัสได้ถึงนัยน์ตาสีดำที่มองมาอย่างแรงกล้า

    "กล้าดียังไงตบลูกรักเปิ่นจั้ว!"

    ว้าวซ่า ท่านมารมีจระเข้เป็นสัตว์เลี้ยงดูเล่นแหล่ะ

    "ขออภัย นายท่าน" ก่อนที่จะลืมจุดสำคัญไป กู่จิงรีบพูดต่อ "นอกจากสัญลักษณ์บนตัวนางแล้ว ในมือยังกำสิ่งนี้ไว้"

    นางกับเฉิงม่อพร้อมใจก้มหัวไปดูสิ่งที่อยู่ในมือของกู่จิง ทำให้หัวโขกกันดัง 'โป้ก'

    "โอ้ย...หัวหรือหินเนี่ย เจ็บชะมัด" ปี่อั้นยกมือลูบป้อยๆ

    เฉิงม่อกัดฟันพูด "เจ้าก็หัวแข็งไม่เบา"

    ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้สถานการณ์กำลังตึงเครียดอยู่ กู่จิงอยากจะกุมขมับใจจะขาด พวกท่านช่วยเลิกทะเลาะกันสักทีได้ไหมมม แล้วสนใจข้าหน่อย

    บนมือของกู่จิงมีกลีบดอกสีแดงอยู่หนึ่งกลีบ ปี่อั้นรู้ทันทีว่านั่นคือดอกอะไร

    "ปี่อั้น"

    "เรียกข้าทำไม"

    "เปิ่นจั้วหมายถึงกลีบดอกปี่อั้น" เขากรอกตามองบน "มีคนจ้องทำร้ายเจ้าอยู่"

    ...

    พี่เฉิงคงรำคาญน้องมากแน่ๆ แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×