คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โจรสวาทบุกยามวิกาล
ณ เรือนเยว่เย่
ถึงจะบอกว่านี่คือเรือนพัก ไม่สู้บอกว่านี่คือเรือนรับรองแขกดีกว่า จอมมารที่ไหนจะพักอยู่ในสถานที่กระจอกงอกง่อยแบบนี้ ไม่สมฐานะเอาเสียเลย ทั้งห้องมีแค่เตียงหนึ่งหลัง โต๊ะกับเก้าอี้สองตัว โต๊ะเครื่องแป้งกับเก้าอี้หนึ่งชุด แล้วก็ชุดกาน้ำชาหนึ่งชุด
กู่หลันขอตัวออกไปสั่งห้องครัวให้เตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณหนูตัวเอง
เนื่องจากปี่อั้นไม่สามารถดึงผ้าแดงออกจากหน้าด้วยตัวเองได้ นางจึงแอบเปิดผ้ามาสำรวจรอบๆ ห้อง
แสงก็น้อยแถมทุกอย่างยังเป็นสีแดง ปี่อั้นรู้สึกตาลายนิดๆ แล้วก็อึดอัดมากด้วยที่มีผ้าโปร่งสีแดงปิดหน้าตลอดเวลา นางไม่สนใจธรรมเนียมอะไรทั้งนั้น กระชากผ้าแดงปิดหน้าออกทิ้งไว้ข้างๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง
"เชิญ"
"เหตุใดเจ้าถึงได้ถอดผ้าคลุมออกก่อน" เสียงทุ้มอันทรงพลังนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นท่านพ่อของปี่อั้นแน่นอน
"ใครที่ไม่รู้ว่าเราเป็นพ่อลูกมาเห็นเข้า พรุ่งนี้ข่าวลือที่ว่าวัวแก่กินหญ้าอ่อนสะพัดแน่ แถมไม่ใช่หญ้าธรรมดา เป็นหญ้าที่เหลือจากปากท่านจอมมารผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย…อุ๊บ!"
"ลูกคนนี้นี่ ไม่เคยทำให้พ่อวางใจได้เลย อาศัยแค่ประโยคเมื่อกี้ของเจ้า หัวเราพ่อลูกหลุดออกจากบ่าโดยไม่รู้ตัวได้!"
ท่านพ่อนั่งลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าสีแดงสด ในมือถือกล่องไม้สลักลายดอกไม้ไว้หนึ่งกล่อง
ไม่รู้ข้างในใส่อะไรไว้ แต่ถ้าดูจากภายนอกที่วิจิตรบรรจงแล้ว คิดว่าของข้างในต้องตีค่าประเมินราคาไม่ได้แน่ๆ
"ของขวัญวันมงคลของบุตรสาวแสนสวยของพ่อ"
ปี่อั้นกำลังจะเอื้อมมือไปคว้า ท่านพ่อก็ชักมือกลับ "เอ๋"
"สรุปจะให้ข้าไหมเนี่ย!" มีอย่างที่ไหน ให้แล้วชักของกลับคืน
"พ่อแค่จะกำชับไว้อย่างนึง" สายตาปี่อั้นไม่ได้จ้องหน้าท่านพ่อแต่อย่างใด เอาแต่จดจ่อกับกล่องไม้สลักตรงหน้า
"จ้องอีกนิด พ่อจะคิดว่ามาให้อาหารสุนัขแล้วนะ"
"ท่านพ่อ!" ปี่อั้นจ้องตาขวาง กล้าดียังไงมาเปรียบเทียบลูกตัวเองเป็นหมาตัวนึง ข้าน่ารักกว่าหมาตั้งเยอะหรอก ฮึ!
"อย่าเปิดดูจนกว่าเจ้าจะอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก" ปี่อั้นฟังจนงง ทำไมไม่พูดให้มันชัดเจนไปเลยเล่าว่าไอสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกมันคือตอนไหน
ไม่บอกกลับไม่ค่อยอยากรู้ พอบอกว่าห้ามเมื่อไหร่ เหมือนเป็นการกระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นให้ทำงานทันที
หลังส่งมอบของขวัญที่กระตุ้นต่อมความอยากเสร็จแล้ว ท่านพ่อก็จากไปโดยไม่รำลา
ช่วงนี้ท่านพ่อฝึกศาสตร์หายตัวได้? ไหนข้าไม่ยักรู้
กู่หลันค้อมตัวคารวะท่านพ่อ
"เมื่อครู่ข้าเห็นนายท่านด้วยเจ้าค่ะ"
"ข้าไม่ได้ตาบอด" ปี่อั้นกรอกตามองบน
"ของว่างที่หามาได้จากห้องครัวมีแค่ขนมดอกกุ้ย คุณหนูกินรองท้องไปก่อนนะเจ้าคะ"
มือก็หยิบของกินเข้าปาก ปากก็บ่นไป "เจ้าว่าว่าที่สามีข้าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ว่าเขาลืมว่าข้ายังรอเขาอยู่นะ"
กู่หลันยิ้มตาหยี "ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ คุณหนู บ่าวส่งสาวใช้นางหนึ่งไปเร่งทางโน้นแล้วเจ้าค่ะ คิดว่าตอนนี้ก็น่าจะถึงแล้ว"
มือที่ถือขนมดอกกุ้ยชะงักค้าง นี่เจ้าอยากให้ข้าตายก่อนวัยอันควรรึไง ฮะ กล้าดียังไงถึงกับไปเร่งท่านมาร
เอาเป็นว่าเพื่อความสะดวกและความง่ายในการเรียก ต่อจากนี้นางจะเรียกเขาสั้นๆ ว่าท่านมารแล้วกัน
อีกด้านหนึ่ง คนที่ถูกเรียกว่าท่านมารกำลังนั่งแทะเมล็ดแตงอย่างสบายใจ
"นายท่าน มีสาวใช้มาเร่งให้ไปนายท่านไปพบคู่หมั้นขอรับ" กู่จิง คนสนิทข้างกายจอมมารเข้ามาทำความเคารพแล้วรายงานสิ่งที่ได้ยินมา
"ฮึ" เขาวางเท้าลงบนพื้น ทิ้งเศษเมล็ดแตงบนโต๊ะ "นางรีบ? ก็ให้รอไป เปิ่นจั๋วไม่มีอารมณ์พบใครตอนนี้" จากนั้นหยิบเมล็ดแตงใหม่ขึ้นมาแทะต่อ
รอแล้วรอเล่า คิดว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว เฉิงม่อลุกขึ้นปัดเศษแตงออกจากชุด
"เราไปเรือนเยว่เย่กัน!"
เฉิงม่อมาถึงโบกมือให้กู่จิงหยุดอยู่ด้านหน้า ตนเองจะไปยลโฉมสาวงามคู่หมั้นเขาเสียหน่อย
ที่เรียกว่าไปยลโฉม อันที่จริงคือไปขู่นางให้นางถอดใจแล้วถอนหมั้นไปเอง เรื่องอะไรให้เขามาถอนหมั้นนางก่อน เสียศักดิ์ศรีจอมมารหมด
เฉิงม่อพลิกตัวอย่างปราดเปรียวเข้าห้องมาได้อย่างสบาย
ปี่อั้นรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีลมเย็นสายหนึ่งพัดผ่านตัวไป ในใจหวาดกลัวและเริ่มพนมมือภาวนาไล่ผี
"ไม่ยักรู้ว่าเจ้าเป็นหมอผีด้วย?"
"อ๊าก! ท่านพ่อช่วยลูกด้วย!"
ด้วยความกลัวผีและตกใจที่จู่ๆ ใครก็ไม่รู้มาโผล่อยู่ตรงหน้า ปี่อั้นรวบรวมพลังที่มือก่อเป็นแท่งน้ำแข็งปลายเรียวแหลมที่ใครเห็นก็อดหวาดเสียวไม่ได้ ใช้แท่งน้ำแข็งเป็นอาวุธ ศพคงเป็นรูพรุน
ตอนแรกเฉิงม่อยังยืนกอดอกมองท่าทางนางตกใจ ภายหลังเห็นนางควบคุมน้ำแข็งได้ เขาลดมือลง ตั้งใจมองนางให้มากขึ้น
นางเป็นใคร เผ่ามารของเปิ่นจั๋วไม่เคยมีผู้ใดควบคุมน้ำแข็งได้มาก่อน
"อย่าเข้ามา ข้าแทงจริงด้วย"
เฉิงม่อโบกมือทีนึง อาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นดังที่พึ่งจิตใจของปี่อั้นก็ละลายหายไปต่อ-หน้า-ต่อ-ตา!!
ได้อย่างไร! นั่นนางแอบท่านพ่อฝึกมาตั้งนานเชียวนะ คนตรงหน้ากลับโบกมือผ่านๆ น้ำแข็งข้าก็ละลาย หรือว่าที่มือเขามีอะไรติดไว้? ว่าแล้วก็สอดส่องดูสักหน่อย
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เฉิงม่อก็ผลักปี่อั้นนอนราบ ตัวเองขึ้นคร่อมร่างนางไว้
ปี่อั้นตาเบิกโต นี่ข้าเจอโจรปล้นสวาทเข้าแล้วสินะ!
"เจ้า...เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร เจ้าทำแบบนี้ไม่กลัวท่านมาร...มาตัดคอเจ้ารึไง! ข้าไปฟ้องได้นะ!"
เฉิงม่อมองสร้อยเชือกถักสีแดงจี้ดอกปี่อั้นที่โผล่ออกมานอกเสื้อแล้วยกยิ้มมุมปาก
"ปี่อั้น"
ปี่อั้นตกใจหนักกว่าเดิม อ้าปากยังสั่น "เจ้า...เจ้ารู้ชื่อข้าได้อย่างไร!?"
"สร้อย" เขาลุกขึ้นจัดเสื้อให้เป็นระเบียบ "อ้อ อยากฟ้องก็ฟ้องไป"
ปี่อั้นโมโห เรื่องอะไรมาแอบมองหน้าอกข้าแล้วจะจากไป ฝันไปเถอะ คิดได้ดังนั้นก็ยกเท้าเล็งไว้ที่ตรงอกของโจรสวาท
เฉิงม่อหันกลับมา เท้าที่ว่านั่นก็วางอยู่บนอกเขาแล้ว... นางกล้าดียังไงใช้เท้าถีบว่าที่สามีอย่างเปิ่นจั้ว!
"คิดจะไปง่ายๆ ฮึ ไม่รู้ซะแล้วว่าข้าเป็นใคร!"
เขาบีบแก้มนางไว้อย่างแรง "ฟ้องสิ ไปฟ้องท่านมารของเจ้า หากเจ้าไม่ฟ้อง ข้าจะกลับมาปาดคอเจ้า!"
เห็นรัศมีและสายตาที่แผ่ออกมาจากดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นแล้ว ปี่อั้นก็กลัวขึ้นมาจริงๆ วางเท้าลงกลับที่เดิม มือก็คอยลูบๆ บริเวณคอ
น่ากลัวชะมัด ขู่ให้ใครดูกัน!
โชคดีที่เขาไม่ได้ปาดคอนางจริงๆ ก็จากไปแล้ว แถมฝีเท้ายังเรียกได้ว่าเน้นทุกก้าวให้นางรู้ว่าเขาโกรธจริงนะเออ
ว่าแต่เดี๋ยวนี้ศาสตร์หายตัวมันยอดนิยมขนาดนี้เลย? ทำไมมีแต่คนฝึกกัน หรือว่าข้าก็ควรไปฝึกด้วย?
…
ปี่อั้นเราไม่อ่อนโยนเลย แถมคุณพี่เฉิงม่อก็ขู่น้องไปอี๊ก
ความคิดเห็น